ผมกำลังจะกลับบ้าน
บทที่ 14
วันหยุดติดกันสามวันนี้ผมกับพี่วันเดินทางมาที่ระยองบ้านของพี่วันกันครับ
เป็นจังหวัดที่ผมจากไปด้วยความสิ้นหวังและไม่คิดจะกลับมาเหยียบอีก แต่ก็ได้กลับมาเยือนอีกครั้งพร้อมกับความหวังใหม่
คนรักคนใหม่โดยที่ผมไม่เคยคาดคิดว่าจะได้เจอในวันเดินทางจากที่นี่ไปนั่นเอง การมาครั้งนี้ผมจึงลืมเลือนความเจ็บปวดทั้งหมดไปจาก
หัวใจและใช้ความรักของพี่วันช่วยเยียวยาผมจนสดใส
พี่วันลาพักผ่อนต่อจากวันหยุดยาวนี้เพิ่มอีกสองวันดังนั้นเขาก็จะหยุดตั้งแต่วันเสาร์ถึงวันพุธ เราทั้งสองเดินทางด้วยรถโฟวีล
ของเขาจากเชียงรายจนถึงระยองตั้งแต่เช้ามืดวันเสาร์และตั้งใจจะขับรถกลับวันพุธ ผมเป็นคนขับในช่วงแรกของการเดินทางและพี่วันก็
มารับไม้ต่อในช่วงหลัง เราเดินทางกันอย่างไม่รีบร้อนนักถือว่าเป็นการพักผ่อนไปในตัวจนกระทั่งมาถึงบ้านพี่วันในตอนค่ำ บ้านพี่วันเป็น
บ้านหลังใหญ่อยู่ในเมืองที่ผมก็เคยผ่านไปมาสมัยยังทำงานอยู่ที่นี่ แต่ก็ไม่ได้ล่วงรู้อนาคตว่าวันหนึ่งจะต้องมาผูกพันกับสมาชิกของบ้าน
หลังนี้ พี่วันบอกว่ายังมีบ้านในสวนผลไม้ของคุณแม่พี่วันอีกหลังหนึ่งที่ต่างอำเภอ ซึ่งเขาจะพาไปเที่ยวถ้าเรามากันอีก
“แล้วกับคุณพ่อพี่วันล่ะครับ”
ผมยังกังวลอยู่บ้าง เรื่องของจิ๊บทำให้ผมรู้ว่าแม้คุณพ่อจะไม่ได้ถึงกับรังเกียจผมจนออกนอกหน้า แต่ท่านก็อยากจะให้พี่วันได้
คบกับคนที่เหมาะสมกว่า พี่วันยิ้มด้วยความใส่ใจและยกมือลูบหัวของผมเมื่อใกล้ถึงบ้านของเขา
“สบายใจเถอะครับชิน พ่อกับพี่เป็นทหารเหมือนกันไม่ต้องพูดกันมากก็เข้าใจ การที่พี่ปฏิเสธจิ๊บไปพ่อก็ต้องรู้แล้วว่าใครคือ
คนที่พี่เลือก อีกอย่างชินน่ะมีแม่เข้าข้างอยู่”
“แต่คุณพ่อของพี่วันเป็นนายพลเชียวนะครับ แล้วการที่ผมมีคุณหญิงแม่เข้าข้างนี่มันจะมีประโยชน์หรือ”
ผมหันไปมองพี่วันอย่างสงสัย พี่วันหัวเราะชอบใจ
“มีประโยชน์มากๆครับชิน เพราะว่าที่บ้านพี่คนที่กุมอำนาจใหญ่สุดคือแม่ เรียกว่าแม่เป็นผู้บัญชาการเลยก็ว่าได้ ดังนั้นใครที่
ทำให้แม่รักได้คือได้เปรียบมาก”
เขาหันมามองผมพร้อมกับสายตาพราว
“พ่อพี่น่ะยกย่องเมีย ถ้าจะวงเล็บให้เป็นการส่วนตัวก็เรียกว่ากลัวเมียก็ได้ เขาว่าคนกลัวเมียมักจะเจริญ นี่พี่ก็ใช้คตินี้นะ”
“กลัวให้มันจริงเถอะครับ” ผมเหล่ตามองเขา “อย่าแค่ปากหวานหลอกผมนะ”
“พี่ยังไม่อยากโดนชินทิ้งนะครับ ไม่มีทางที่พี่จะทำให้ชินเสียใจเป็นอันขาด”
พี่วันเอ่ยปากสัญญาเมื่อมาถึงบ้าน เขาพาผมเข้าไปกราบคุณพ่อคุณแม่ของเขา คุณพ่อของพี่วันไม่ได้เอ่ยอะไรเรื่องของจิ๊บ
การแสดงออกของคุณพ่อก็ยังเป็นปกติเช่นเคยส่วนคุณหญิงแม่นั้นพูดจาดีและเมตตาผมมากอยู่แล้ว พี่วันแนะนำให้ผมรู้จักกับน้องชาย
และน้องสาวของเขา น้องชายของพี่วันทำงานธนาคารและเพิ่งจะมีหลานคนแรกให้คุณพ่อคุณแม่ของพี่วันได้ชื่นชม ส่วนน้องสาวของพี่
วันทำงานด้านโฆษณาอยู่กรุงเทพและกลับมาบ้านในวันนี้เช่นกัน
เมื่อผมผ่านการพิจารณาจากคุณหญิงแม่แล้วก็ดูเหมือนทุกคนจะไม่มีปัญหากับผมถึงแม้ว่าจะเป็นผู้ชายเช่นเดียวกับพี่วัน
ก็ตาม ทุกคนยิ้มแย้มแจ่มใสเป็นกันเองจนผมสบายใจขึ้นมาก ผมเล่นกับหลานของพี่วันที่กำลังพูดอ้อแอ้ด้วยความเอ็นดู อันที่จริงก็รักเด็ก
อยู่นะครับ เสียใจอยู่บ้างก็คือเมื่อคบกับพี่วันแล้วเรื่องลูกคงต้องตัดทิ้ง ถ้าจะคิดเรื่องหาแม่อุ้มบุญก็ดูจะเป็นเรื่องใหญ่เกินไปในตอนนี้
คุณหญิงแม่พาผมตระเวนเยี่ยมญาติเปิดตัวพร้อมกับพี่วันจนแทบไม่ได้ว่าง แต่ผมก็ดีใจจนไม่รู้สึกเหนื่อยที่ได้เป็นส่วนหนึ่ง
ของครอบครัวนี้ จนกระทั่งถึงเย็นวันจันทร์ที่พี่วันนัดกับกลุ่มเพื่อนๆของเขาไว้ พี่วันจึงพาผมไปที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งที่พวกเขาจองโต๊ะ
กันไว้แล้ว เสียงทักทายดังขึ้นทันทีเมื่อพี่วันโผล่เข้าไปผมจึงกลายเป็นจุดเด่นไปด้วย
“พวกเราอยากเห็นหน้าน้องกันจะตาย”
พี่คนหนึ่งพูดกับผม พี่วันแนะนำว่าเขาเป็นเจ้าของโรงงานพลาสติกแห่งหนึ่งที่ระยองชื่อวิโรจน์ เขาเป็นเพื่อนสนิทของพี่วัน
“ตอนแรกก็ตกใจที่รู้ข่าวว่าเพื่อนคบกับผู้ชายด้วยกัน แต่ไม่ได้รังเกียจนะเพราะยังไงเพื่อนก็เป็นเพื่อนอยู่เสมอนั่นแหละ แค่
เป็นห่วงว่ามันจะไปรอดหรือเปล่า แต่เห็นหน้าน้องแล้วพี่ก็หายห่วง”
พี่วันยิ้มแป้นเมื่อเห็นว่าผมผ่านการพิจารณาจากเพื่อนของเขาไปอีกด่านหนึ่ง เมื่อได้อยู่กับเพื่อนก็เหมือนพี่วันกลับไปเป็น
เด็กอีกครั้ง ผมได้เห็นมุมร่าเริงเฮฮาอย่างที่ไม่ค่อยได้เห็นบ่อยนัก ผมปล่อยให้เขาดื่มกับเพื่อนฝูงโดยไม่ห้ามส่วนตัวเองก็ได้แค่จิบๆ
เพราะจะต้องเป็นคนขับรถกลับบ้านพี่วัน
“อีกสักสองเดือนรีสอร์ทน้องชินจะว่างหรือยัง พี่กำลังหาที่จัดสัมมนาพอดีเลย ก็พาพนักงานในโรงงานไปเที่ยวนั่นแหละ จะ
ได้ไปใช้บริการรีสอร์ทของน้องชินเสียหน่อย ราวๆสามสิบคนได้”
พี่วิโรจน์พูดกับผมก่อนที่วงเหล้าจะเลิก ผมรีบถามรายละเอียดเอาไว้และแลกเบอร์โทรกับเขา จากนั้นจึงได้ลากพี่วันที่เมา
ได้ที่กลับไปที่รถแล้วพากลับบ้าน
“อยากกอดชิน”
“ถ้าไม่อาบน้ำก็นอนพื้นนะครับ” ผมถือโอกาสสั่งนายทหารชั้นนายพัน “เหม็นเหล้าอะพี่วัน”
พี่วันยอมไปอาบน้ำตามคำสั่งของผมแต่โดยดี การเป็นผบทบ.นี่มันดีอย่างนี้นี่เอง
“วันนี้ปล่อยชินไปก่อน” เขากระซิบบอกผมเมื่ออาบน้ำจนกลิ่นเหล้าจางไปบ้างแล้ว
“พี่ดื่มหนักไปหน่อยและก็เกรงใจน้องๆมันด้วยถ้าจะปล้ำเมียคืนนี้ แต่พรุ่งนี้ชินจะต้องตกเป็นของพี่”
พี่วันพูดลิ้นพันกันก่อนจะหลับไปเพราะความเมา ผมถึงกับส่ายหน้าเมื่อพี่ชินพูดเหมือนเขาไม่เคยมีอะไรกับผมมาก่อน และ
ก่อนจะนอนผมก็คว้าโทรศัพท์มาเปิดโน่นเปิดนี่ตามประสา เมื่อเห็นข้อความที่เพื่อนๆโพสในเฟสบุ๊คแล้วก็เพิ่งจะนึกขึ้นได้ว่าวันรุ่งขึ้นเป็น
วันวาเลนไทน์
ผมหันไปมองคนที่หลับไปแล้ว นี่เป็นวันวาเลนไทน์แรกของผมกับพี่วัน แต่ดูเหมือนว่ามันคงจะกลายเป็นวันธรรมดาเช่นวัน
อื่นๆเพราะนี่ก็ใกล้เข้าวันใหม่เข้าไปทุกที อันที่จริงผมก็ไม่ได้ซีเรียสนะ พี่วันทำให้ทุกวันของเราคือวันพิเศษสำหรับผมเสมอ
“สุขสันต์วันวาเลนไทน์นะครับพี่วัน”
ผมยื่นหน้าเข้าไปหอมแก้มเขาที่หลับสนิทเมื่อนาฬิกาก้าวผ่านวันใหม่ก่อนจะหลับตาลงอยู่ใต้ผ้าห่มผืนเดียวกับคนที่ผมรัก
ที่สุดในตอนนี้
พี่วันตื่นสายในวันวาเลนไทน์ ผมเองก็ไม่ได้ปลุกเพราะรู้ว่าเขาดื่มหนักเมื่อคืนที่ผ่านมา เมื่อตื่นก่อนจึงได้ลงไปช่วยคุณหญิง
แม่กับแม่บ้านดูแลเรื่องอาหาร น้องสาวของพี่วันกลับกรุงเทพไปแล้ว ส่วนน้องชายอยู่กับครอบครัวที่บ้านอีกหลังในที่ดินเดียวกันนี้ พอพี่
วันตื่นมาก็ลงมากินอาหารเช้าด้วยความหิว
“ฝีมือใครน้าอร่อยจัง”
“ฝีมือคุณหญิงแม่ครับ”
ผมส่ายหน้าเบาๆเมื่อพี่วันพูดเอาใจผม เจ้าตัวยิ้มแห้งๆเมื่อเห็นว่าผมรู้ทัน เมื่อกินอิ่มแล้วเขาก็ลุกจากเก้าอี้เดินไปหาคุณหญิง
แม่แล้วกระซิบอะไรบางอย่างที่ผมไม่ได้ยิน แต่เห็นคุณหญิงแม่ยิ้มกริ่มเชียว
“ตามสบายเหอะพ่อตัวดี ดูแลน้องดีๆล่ะ”
ผมเลิกคิ้วเมื่อพี่วันดึงแขนผมให้ลุกตาม
“วันนี้พี่จะพาไปเที่ยว”
เขาจูงมือผมไปที่รถและขับพาผมออกไปจากบ้าน ผมมองเขาด้วยความแปลกใจ
“จะพาผมไปไหนครับพี่วัน ระยองผมก็เคยอยู่มาก่อน ที่เที่ยวผมไปมาหมดแล้ว”
“ไอ้ที่เคยไปน่ะมันมีพี่ไปด้วยไหมล่ะครับชิน ไปวันนี้มันไม่เหมือนครั้งที่ชินไปมาแล้วหรอก เพราะวันนี้เราไปด้วยกัน”
เกลียดคารมของพี่วัน เพราะมันทำให้ผมละลายได้ตลอด
ผมก็เลยตามใจพี่วัน อยากไปไหนก็ไป บรรยากาศสถานที่ท่องเที่ยวในตัวจังหวัดประดับประดาด้วยบรรยากาศวันวาเลนไทน์
แต่พี่วันก็ไม่ได้พูดอะไรเรื่องนี้ เขาพาผมไปโน่นมานี่จนถึงช่วงบ่ายของวันนั้น
“เหนื่อยแล้ว กลับกันดีกว่า”
พี่วันจูงมือผมกลับไปที่รถ แต่เขาไม่ได้ขับพาผมกลับบ้านของเขา พี่วันขับรถมุ่งหน้าย้อนไปทางชลบุรีผมก็ได้แต่มองเขา
ด้วยความสงสัยจนกระทั่งพี่วันขับรถเข้าไปในหาดแสงจันทร์ สถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งของระยองซึ่งเป็นหาดที่ไม่ค่อยมีคนพลุกพล่าน
นักโดยเฉพาะวันที่ไม่ใช่วันหยุดเช่นวันนี้
“ไหนว่าจะกลับบ้านไงครับ พี่วันเล่นอะไรเนี่ย”
พี่วันไม่ตอบแต่จูงมือผมเข้าไปในบ้านหลังหนึ่งที่ตั้งอยู่ริมหาดทราย มันเป็นบ้านสองชั้นใต้ถุนสูงเปิดโล่งเช่นเดียวกับบ้าน
หลังอื่นๆที่สร้างห่างกันออกไป และเมื่อมาถึงผมจึงมองเห็นดอกกุหลาบช่อใหญ่วางอยู่บนโต๊ะหินอ่อนที่ใต้ถุนบ้านนั่นเอง
“สุขสันต์วันวาเลนไทน์ครับชิน”
เขาหันมามองผมด้วยนัยน์ตาหวานฉ่ำในขณะที่ผมยืนอึ้งกับเซอร์ไพร้ส์ของพี่วัน เขาเอื้อมมือมาประคองใบหน้าของผมไว้
และเอ่ยเสียงนุ่ม
“อย่าคิดว่าพี่ไม่รู้นะว่าชินคิดอะไรอยู่ นี่เป็นวาเลนไทน์แรกของเราสองคนพี่ไม่ลืมหรอกครับ”
“พี่วัน!”
ผมโผเข้ากอดเขาพร้อมกับเสียงหัวเราะ ดีใจที่ได้รักผู้ชายคนนี้เหลือเกิน พี่วันจูงมือผมให้เดินต่อมาที่ชายหาด ตอนนี้บ่าย
จัดจนดวงอาทิตย์คล้อยต่ำเต็มที ผมเห็นเตาบาบิคิวและกล่องโฟมเก็บความเย็นวางอยู่ที่หาดทรายไม่ไกลจากบ้านนัก
“บ้านหลังนี้ของเพื่อน” เพื่อนที่เป็นหนึ่งในก๊วนเมื่อคืนนั่นแหละครับ “พี่ขอยืมมันใช้วันนี้ แล้ววานให้มันช่วยหาเสบียงกับ
ดอกกุหลาบให้ชินไงล่ะ คืนนี้เราจะค้างกันที่นี่แล้วค่อยกลับบ้านไปเก็บของตอนเช้านะครับ”
พี่วันเพิ่งจะบอกแผนของเขาให้ผมรู้ บริเวณนี้เป็นชายหาดส่วนตัวจึงไม่มีนักท่องเที่ยวอย่างเช่นแถบที่มีบังกะโลให้เช่า พี่วัน
ก่อไฟในเตาบาบิคิวแล้วจัดการปิ้งย่างอาหารที่อยู่ในกล่องโฟมใหญ่มากินเป็นอาหารเย็น
หาดแสงจันทร์แปลกตากว่าหาดอื่นๆตรงที่มีกองหินสร้างเป็นเขื่อนยื่นลงไปในทะเลนี่แหละครับ มันทำให้เกิดเป็นแอ่งน้ำเว้า
เข้ามาในชายฝั่งเหมือนอ่าวเล็กๆเรียงกันอยู่บนชายหาดยาวสุดลูกหูลูกตา เมื่อจัดการกับอาหารทะเลจนอิ่มหนำดวงอาทิตย์ก็ตกน้ำหมด
ดวงพอดี เหลือแต่ความมืดกับไฟสลัวที่บ้านแต่ละหลังเปิดไว้ หาดแสงจันทร์เงียบสงบกว่าหาดอื่นที่นักท่องเที่ยวนิยมไปพัก ยิ่งเป็น
บริเวณที่มีเจ้าของครอบครองเช่นนี้ก็แทบไม่มีใครผ่านไปผ่านมาเลยด้วยซ้ำ
“ไปเดินเล่นกันนะครับชิน”
พี่วันดับไฟในเตาบาบิคิวเรียบร้อยจึงได้จูงมือผมไปที่ชายหาด น้ำทะเลยามค่ำคืนสาดซัดเข้าฝั่งไม่หยุดหย่อนมองไกลๆเห็น
เรือชาวประมงแล่นออกไปหาปลาหาหมึก บนท้องฟ้ามีพระจันทร์ที่ยังเป็นดวงโตส่องสว่างสะท้อนน้ำทะเลจนงามจับตา
“ชินมีความสุขกับวาเลนไทน์ของเราไหมครับ”
พี่วันที่พาผมเดินมาถึงเขื่อนหินแถวหนึ่งหยุดเดินและหันมาถาม ประกายในดวงตาสร้างความอบอุ่นให้ผมเหลือเกิน
“มีความสุขมากครับ ขอบคุณนะครับพี่วัน แต่อันที่จริงผมมีความสุขทุกวันตั้งแต่รู้จักกับพี่”
“ปากหวานจริงๆคนเก่ง”
พี่วันเชยคางผมขึ้นและโน้มใบหน้าเข้ามาจนชิด
“แค่นี้พี่ก็หลงชินจนโงหัวไม่ขึ้นแล้ว”
ปากของเขาประกบอยู่บนปากของผม เราจูบกันอย่างอ้อยอิ่งบนสันเขื่อนหินนั่นเอง ลมทะเลยามค่ำพัดโชยมาชวนให้ผม
สอดแขนกอดเอวของพี่วันไว้และเบียดกายเข้าหา พี่วันใช้มือหนึ่งกดท้ายทอยของผมให้แหงนรับจุมพิตที่เร่าร้อนขึ้นเรื่อยๆส่วนอีกมือ
หนึ่งโอบเอวของผมพร้อมกับกอดไว้แน่นหนา
“อืมม”
จูบของพี่วันเรียกร้องให้ผมตอบรับรุนแรงจนหายใจไม่ทัน เสียงคลื่นกระทบฝั่งเบื้องล่างสร้างความโรแมนติกให้กับค่ำคืน
วาเลนไทน์เช่นนี้เป็นอย่างยิ่ง พี่วันหายใจหนักก่อนจะยกเอวผมจนเท้าลอยจากพื้นโดยที่ยังไม่เลิกขยี้จูบกับปากของผม พี่วันกระโดดลง
มาจากเขื่อนหินสู่ผืนทราย เขาวางผมลงไปและล้มตัวนอนทับทันที
มีต่ออีกนิด...