ระวัง! ปืนฉีดน้ำ
“แต่นี่ไม่ใช่ปืนธรรมดานะ มันเป็นปืนฉีดน้ำ”
“!!!”
“อยากลองเล่นไหม?”
เราเบิกตากว้างเมื่อสปันทำในสิ่งที่เราคาดไม่ถึงด้วยการจับมือเราไปวางไว้บนกระบอกปืนช้าๆ แล้วเอนตัวนอนลงเอาสองมือหนุนนอนอย่างสบายอารมณ์
เห้ย ปืนมันยังขยายได้อีกอะ
“ปัน อย่าแกล้ง”เราดึงมือออกมาวางที่หน้าท้องอีกคนก่อนจะสัมผัสได้ถึงกล้ามเนื้อแข็งแรงที่อยู่ถายใต้เสื้อยืดสีขาว
“หือ ชอบเหรอ”สปันถามเมื่อเห็นเรากดมือไปมาที่ท้องของเขา ก่อนที่คนตัวโตจะทำในสิ่งที่เราคาดไม่ถึงด้วยการลุกขึ้นถอดเสื้อออกแล้วเหวี่ยงไปให้พ้นทาง
ผิวสีแทนกับกล้ามแน่นๆของสปันจะทำเราหัวใจวายเอา
สปันเป็นคนหุ่นดีข้อนี้เรารู้ เพียงแต่ไม่คิดเหมือนกันว่าจะเป็นคนที่มีเซ็กส์แอพพีลสูงมากขนาดนี้
เราเริ่มลูบไล้ฝ่ามือไปตามลอนกล้ามสวย รู้สึกอิจฉาขึ้นมานิดๆเพราะเรามีแต่พุงกับพุงล้วนๆ แอบเห็นหางตาว่าสปันหน้าแดงก่ำแถมลมหายใจยังขาดห้วงไม่เป็นจังหวะ ปลุกสัญชาตญาณการเอาชนะของผู้ชายในตัวเราพุ่งพล่าน
“สปัน”เราเรียกชื่ออีกคนนึงเบาๆพร้อมไล้มือไปที่บริเวณไวต่อสัมผัส เจ้าปืนกระบอกใหญ่มีน้ำหนืดๆซึมออกมาจนเห็นได้ชัดผ่านบ็อกเซอร์ เราใช้นิ้วชี้จิ้มๆมันเล่นอย่างหยอกล้อจนเจ้าของถึงกับกัดฟันกรอด
“เดีย ถอดได้ไหม”สปันเอื้อมมือมาตบก้นเราเบาๆหนึ่งที่เพื่อบอกตำแน่งของสิ่งที่ต้องการจะให้เรา ถอดออกไป สารภาพตามตรงว่าแอบชะงักไปเหมือนกันแต่ไม่เห็นสปันจะรอคำอนุญาตจากเราสักนิด มือใหญ่ก็เกี่ยวเอากางเกงขาสั้นที่เราใส่นอนรวมทั้งชั้นในมากองอยู่ใต้สะโพกเป็นที่เรียบร้อย “เอ้า ยกก้นขึ้นหน่อย”
เราส่ายหน้าระรัวแต่สปันก็ยังคงไม่ฟัง ฝืนดันตัวเราขึ้นจนโยนกางเกงเราลงไปกองไว้ที่พื้นได้อยู่ดี
“เชี่ย ขาวจังวะ”คนตัวโตรำพึงรำพันออกมาพลางลูบไล้ขาที่เปลือยเปล่า ก่อนจะออกแรงดึงเราให้ขยับขึ้นไปใกล้กว่าเดิม เรนเดียน้อยที่ถูกเราดึงเสื้อมาปิดไว้รู้สึกถึงท้องอุ่นๆของสปัน รวมถึงก้นของเราที่นั่งทับปืนใหญ่ไว้อย่างพอดิบพอดี “วิวดีชะมัด”
“ปันนน มันทิ่มก้น”
“เอาเสื้อปิดไว้ทำไม”คนเด็กกว่าพยายามเอามือดึงเสื้อให้เปิดขึ้นแต่เราก็พยายามยื้อไว้เต็มที่
ทำไงได้ แค่คิดว่าต้องเอาเรนเดียน้อยมาเทียบกับปืนใหญ่ของสปันแล้วก็อายจนแทบแทรกแผ่นดินหนีให้รู้แล้วรู้รอด เรื่องขนาดคือเรื่องของความมั่นใจของผู้ชายจริงๆนะครับ ฮือออ
“เราอาย”
“อายทำไม ปันยังไม่อายเลย”สปันว่าพลางชี้มือไปที่บ็อกเซอร์ตัวเอง “ถ้างั้นเดียก็ถอดให้ปันด้วยสิ แค่นี้ก็แฟร์แล้ว”
เออ ค่อยสบายใจขึ้นมาหน่อย...
มันใช่เหรอ!
“ตะ แต่ว่า”
“ไม่ต้องแต่แล้ว ปันปวดไปหมดละเนี่ย”สปันทำหน้าเศร้าเสียจนเราใจอ่อนยวบ เรารู้ดีว่าเวลาแข็งตัวแล้วไม่ได้ปลดปล่อยมันทรมาณขนาดไหน
ใจอ่อนจนต้องค่อยๆเปลี่ยนท่านั่งเป็นการหันหลังกลับไปทั้งที่ยังคร่อมตัวน้องไว้อยู่ จ้องบ็อกเซอร์ของอีกคนด้วยความอาย แล้วค่อยๆเอานิ้วสองข้างเกี่ยวลงช้าๆ
“อ๊ะ ปัน อย่ากัด”เราร้องออกมาอย่างตกใจเมื่ออยู่ดีๆสปันก็ก้มลงกัดก้นเราซะงั้น
“โอ้ยหมั่นเขี้ยวไปหมดทั้งตัวเลยว่ะ”คนเด็กกว่าว่าพลางบีบก้นเราไปมาหนักๆจนกลัวจะช้ำ
เราแกล้งทำเป็นไม่สนใจก่อนจะลงมือดึงเจ้าบ็อกเซอร์เจ้าปัญหานั้นออกที่เดียวจนลงไปกองไว้ที่เข่า ขีปนาวุธขนาดมหึมาเด้งชี้หน้าเราอย่างน่ากลัว
“สปัน” เราเรียกอีกคนนึงเสียงอ่อยเมื่อเค้าละมือจากก้นเราเพื่อมากำด้ามปืนไว้หลวมๆ แล้วขยับขึ้นลงช้าๆ
มันใช่เรื่องที่ต้องทำต่อหน้าเราไหมเนี่ยปัน!
“ไม่ไหวแล้วเดีย”ฝ่ามือใหญ่กดแผ่นหลังเราให้โน้มตัวลงไปช้าๆจนใบหน้าอยู่ในระดับเดียวกับปืนใหญ่นั่น “ช่วยปันหน่อยนะครับ”
เราไม่ใช่เด็กที่ไม่รู้ว่าสิ่งที่อีกคนต้องการคืออะไร แล้วเราก็รู้ว่ามันเป็นเรื่องธรรมชาติของมนุษย์ที่ต้องมีการปลดปล่อยเป็นเรื่องธรรมดา เราจึงค่อยๆแลบลิ้นออกมาสัมผัสกับส่วนหัวที่แดงก่ำ ได้ยินเสียงซี้ดปากเบาๆจากคนด้านล่าง เราไม่เคยทำให้ใครมาก่อน แต่ใช่ว่าจะไม่เคยเห็นเรื่องพวกนี้จากหนังผู้ใหญ่สักหน่อย
เราเริ่มใช้ลิ้นเลียวนที่ส่วนหัวและตามความยาวของมันซักพัก ก่อนจะอ้าปากแล้วครอบลงไปแม้จะเข้าได้แค่ครึ่งแต่ก็ทำให้คนที่กำลังนอนเล่นก้นเราอยู่ร้องครางทุ้มในลำคอ และยิ่งได้ใจใหญ่เมื่อสปันลูบหัวเราเบาๆแทนคำชม
“เดียยกก้นขึ้นหน่อย เดี๋ยวปันช่วย”เราทำตามอย่างว่าง่ายก่อนจะรู้ถึงสัมผัสจากฝ่ามือใหญ่ที่เข้ามากอบกุมเรนเดียน้อยไว้แล้วขยับขึ้นลงเป็นจังหวะเดียวกันกับปากเรา
“อื้อ อื้มมมม”เราครางเสียงอู้อี้เมื่อรู้สึกถึงลิ้นที่ชื้นแฉะแตะเข้าที่ช่องทางด้านหลัง แม้คนตัวโตจะเอ่ยคำปลอบประโลมกระซิบเบาๆว่าเขาจะยังไม่สอดใส่อวัยวะอื่นเข้าไปเพราะรู้ว่าเรายังไม่พร้อม แต่แค่เพียงลิ้นร้อนกับนิ้วเพียงนิ้วเดียวก็ทำเอาเราส่ายสะโพกไปมากับความเสียวที่ไม่เคยได้รับมาก่อน
“ดะ เดีย หันมานี่มา”เมื่อกิจกรรมที่ทำดำเนินมาถึงช่วงท้าย สปันก็จับเราพลิกตัวให้หันหน้ามาทางเค้า ยกสะโพกเราขึ้นเล็กน้อยก่อนจะใช้กระบอกปืนถูไถช่องทางด้านหลังเรา แม้เพียงแค่ภายนอกแต่สัมผัสนั่นก็ทำให้สปันทำหน้าเหยเกบูดเบี้ยวอย่างสุดกลั้น ก่อนที่เราจะสัมผัสได้ถึงน้ำร้อนๆที่ถูกฉีดพ่นมาจนเปียกไปทั้งร่องก้น
“แฮก ฮะ เดีย”สปันเรียกชื่อเราปนเสียงหอบกระเส่าที่แสนจะเซ็กซี่ เขาเหลือบตามองเรนเดียน้อยที่ยังค้างเติ่งยิ้มๆก่อนจะเอื้อมมือมารูดรั้งให้รัวเร็วเสียจนเราหายใจแทบไม่ทัน
“อ๊ะ ปัน เรา เรา อื้ออออออ”สิ้นเสียงครางเรนเดียน้อยก็ได้พ้นน้ำสีขาวขุ่นออกมาทุกหยาดหยดเปรอะเปื้อนไปทั่วทั้งอกหนั่นแน่นและใบหน้าหล่อคมของสปัน
เราตกใจจนทำอะไรไม่ถูกเมื่อคนตรงหน้าแลบลิ้นสีสดมาชิมคราบที่เปื้อนอยู่ที่เหนือริมฝีปากโดยที่นัยน์ตาสวยยังคงมองตรงมาที่เรานิ่งๆแฝงไปด้วยความหยอกเย้า แล้วกระตุกยิ้มมุมปากอย่างพอใจ
ตาย...
ณ จุดนี้เรนเดียได้เขินจนระเบิดตัวตายไปแล้วอย่างสงบ อาเมน...
Sponge’s
“อะไรกัน ยังไม่หายงอนอีกเหรอ”ผมใช้ไหล่กระแทกเบาๆ เย้าแหย่คนตัวเล็กที่เดินหน้านิ่ง หลังจากเก็บกวาดเศษซากอารยธรรมที่เราทำร่วมกันเมื่อเช้าไปซักแล้วตากเรียบร้อยแล้ว
น่ารักเป็นบ้า อันที่จริงผมก็ไม่คิดเหมือนกันว่าเขาจะยอมใช้ปากให้ เพียงแค่ลองขอร้องไปตามอารมณ์ แต่ผลลัพธ์ออกมาดีเกินคาดเลยแฮะ
“สปัน!”เมื่อเห็นเดียทำท่าจะเดินหนี ผมเลยรั้งร่างเล็กๆนั่นมาไว้ในอ้อมกอดซะเลย ถือโอกาสสูดดมกลิ่นแชมพูหอมๆจนเต็มปอด
จะไม่หอมได้ไงครับ ผมแอบเช็คราคาว่าแชมพูสีสวยที่เขาใช้อยู่ราคาเกือบพัน
“งอนอะไรปันคะ หืม?”“ไม่ต้องมาปากหวานเลยนะ ปันแหละแกล้งเรา”เรนเดียหยิกแขนผมไม่เบาแรง ก่อนจะหมุนตัวมาซุกอก “แล้วเราจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนอะ ฮือออ”
“ฮ่าๆ ก็เอาไว้ที่เดิมแหละ อายทำไม มันเป็นเรื่องธรรมชาติค่ะ”
“ไม่ดิ มันเป็นเรื่องธรรมชาติของคนเป็นแฟนกันต่างหาก แต่เราไม่ใช่สักหน่อย”
ได้ยินอย่างนี้ผมเลยก้มลงไปมองหน้าคนในอ้อมกอดใกล้ๆ
“พูดแบบนี้คือรอปันขอคบอยู่หรือเปล่า”
“ก็เออ... เห้ย!ไม่ใช่ดิ”คนตรงหน้าส่ายหัวเป็นพัลวัน “หมายถึงเราเพิ่งรู้จักกันอะ การเป็นแฟนกันตอนนี้มันจะไม่เร็วไปเหรอ แล้วอีกอย่างปันเองก็ยังเด็ก...”
“แต่เรา
ได้กัน แล้วนะคะ”
เพี๊ยะ
“ฟังเราเงียบๆ ไม่ต้องขัดได้ไหมล่ะ”เขาบ่นงุ้งงิ้งอีกหลายประโยคหลังจากฟาดมือใส่ผมเต็มแผ่นหลัง
ริมฝีปากสีพีชขยับขึ้นลงตามจังหวะการพูดของคนในอ้อมแขน แพขนตาหนาที่ล้อมกรอบนัยน์ตากลมโตดูชุ่มฉ่ำ แก้มขาวสองฝั่งขึ้นสีแดงเรื่อไปจนถึงแบบหู
ไอ้ท่าทางแบบนี้น่ะ แม่งโคตรน่าขย้ำเลยไม่รู้ตัวเหรอ
“นี่สปัน ฟังเราอยู่หรือเปล่า อื้อออ”ผมจัดการปิดปากเล็กๆนั่นด้วยริมฝีปากของตัวเอง ไม่ได้ลุกล้ำมากไปกว่าการประกบเข้าหากันอย่างเชื่องช้า
ดูท่าแล้วคนที่ทนไม่ได้จะเป็นเดียมากกว่าที่เอื้อมมือมาบีบแก้มผมเพื่อให้ปากเผยอออก ก่อนจะสอดลิ้นเข้ามาสำรวจโพรงปากของผมซะเอง เมื่อตั้งตัวได้ผมจึงเริ่มจะโต้ตอบกลับไปบ้างด้วยการยึดลิ้นซนๆนั่นเข้ามาในปากของผมเอง ดูดดึงจนคนตัวเล็กกว่าส่งเสียงครางหวานในลำคอ
//ติ๊ด//
“พี่เดียยยย เซอร์...ไพร์ซ เหี้ย!”คนตัวเล็กดันผมออกอย่างแรง จนแทบจะถีบกันออกมา ก่อนจะหันไปทำตาโตอย่างตกใจใส่ผู้มาใหม่ทั้งสองคน ที่ถือวิสาสะเปิดประตูเข้ามาในห้องโดยไม่ให้สุ้มให้เสียง
“รอน! รัน!”*******************************
ฮืออออ ใกล้แล้ว ใกล้จบแล้ว ทั้งนิยายทั้งชีวิตปี2ของเรา
เป็นกำลังใจให้น้องปันแล้วอย่าลืมเป็นกำลังใจให้เราในการสอบไฟนอลด้วยนะคะ
See ya
แถมอิมเมจน้องสปันในมุมมองของพี่เดีย อิอิ