ตอนที่ 31
เชน
Chain Engineer
นุ่มนิ่มจนอยากจิ้ม (แก้ม) (356 Likes)
แก๊งซีเคียวริตี้คนที่หนึ่ง : ทำไมต้องกาม? (4 Likes)
แก๊งซีเคียวริตี้คนที่สอง : ไงล่ะ หัวหน้าแก๊งกู (3 Likes)
สาวต่างคณะคนที่หนึ่ง : จิ้มเราเปล่า (25 Likes)
แก๊งซีเคียวริตี้คนที่สาม : ข้างบนเด็ดจัง (2 Likes)
สาวต่างคณะคนที่สอง : เชนคนหื่น (6 Likes)
สาวต่างคณะคนที่สาม : วันนี้ยืนคุยกับใครที่งานโลกสวยฯ อ่ะ (10 Likes)
Chain Engineer : @สาวต่างคณะคนที่สาม เจ้าของดาร์ธเวเดอร์... (9 Likes)
แก๊งซีเคียวริตี้คนที่หนึ่ง : แค่อยู่ใกล้ๆ วันเดียว แม่งติดเชื้อนุ่มนิ่มมาแล้วว่ะ 555 (7 Likes) ผมไม่เคยตื่นเต้นกับการปฏิบัติหน้าที่ซีเคียวริตี้ขนาดนี้
เมื่อวานผมนัด (เชิงบีบบังคับ) ให้หมูหันมาเป็นหนึ่งในทีมวันนี้...ยอมรับว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันรวดเร็วมาก แต่ผมก็ควบคุมความรู้สึกของตัวเองไม่ได้ ตั้งแต่หมัดที่ไอ้หมูหันปล่อยมาโดนปากผม...ผมก็เหมือนจะหลงเสน่ห์มันเข้าซะงั้น แม่ง หมัดของมันใส่ยาเสน่ห์หรือเปล่าผมก็ไม่รู้
ผมรู้จักมันในฐานะเพื่อนของกล้ามาโดยตลอด แต่เราเจอกันบ่อยกว่าที่ผมเจอกล้าซะอีกถึงแม้ว่ากล้าจะอยู่ห้องฝั่งตรงข้ามผมที่ตึก X ก็ตาม หมูหันเป็นคนที่ผมคุยด้วยมากที่สุดในแก๊งชายโฉดแห่งเสดสาด...ทุกครั้งที่ผมคุยกับมัน ผมจะสบายใจเสมอ จนบางครั้งผมก็รู้สึกว่าผมไม่ได้มองหมูหันแบบเพื่อน...ผมมองว่ามันน่ารัก
ที่ผมกล้าบอกแบบนั้นเพราะผมไม่เคยมองเพื่อนผมคนไหนว่าน่ารักเลย...ไม่เลยจริงๆ
ผมไม่เคยต้องง้อมันมาก่อนเพราะหมูหันไม่เคยโกรธผม แต่พอหลังจากที่มันต่อยหน้าผมแล้วก็แสดงออกซะเต็มประดาว่าแอนตี้สิ่งที่ผมกับเพื่อนๆ ทำเป็นอย่างมาก ผมก็เลยได้มีโอกาสง้อมัน...
มันน่ารักมาก แม้กระทั่งตอนที่มันงอน...มันยังน่ารักเลย!
การต่อปากต่อคำกับมันไม่ใช่เรื่องที่น่าเบื่อสำหรับผม เวลาที่เห็นปากเล็กๆ นั่นขยับส่งเสียงเถียงผมเจื้อยแจ้วมันรับกับแก้มนิ่มๆ ที่สั่นสะเทือนเวลามันพูด...แม่งดูนุ่มนิ่มน่ารักไปหมดซะจนผมอดไม่ได้ที่จะลอบมองมัน
ครับ...เหมือนทุกอย่างมันเริ่มต้นเพราะผมได้ใช้เวลาง้อมัน แต่จริงๆ ความรู้สึกของผมที่มีต่อมัน...มันพิเศษตั้งแต่ไหนแต่ไรอยู่ภายในใจของผม
'มึงต้องไปจีบกล้าหาญ...กล้าหาญเสดสาดอ่ะ'
ตอนที่ผมดวลแพ้เพื่อน (โดยการเตะลูกโทษไม่เข้าโกลทีมฝั่งตรงข้าม) เพื่อนแม่งบอกให้ผมไปจีบกล้าหาญซึ่งหลายคนรู้จักดี กล้ามันเป็นคนนิสัยดีแถมยังเฟรนด์ลี่ ใครๆ ก็ต้องรู้จัก
จำได้ว่าหลังจากที่เพื่อนมันพูดจบ...ร่างกายของผมนั้นชาไปทุกส่วน
'ไอ้บ้า...นั่นเพื่อนกู' ผมไม่เคยมองว่ามันน่ารักเหมือนเพื่อนมันอีกคนเลย (โทษทีนะนายท่าน...สเปกใครสเปกมันว่ะ)
'เพื่อนแกล้งมันบ่อย มันคงไม่คิดมากถ้ามึงจะไปแกล้งจีบสักนิดสักหน่อย'
ฟวยเอ๊ย...
'หมูหันไม่ได้เหรอ'
'ฮะ'
'กูจีบหมูหันแทนไม่ได้เหรอ'
'ไม่ได้ จีบหมูหันจะไปสนุกอะไร'
ตอนนั้นผมอยากเถียงขาดใจว่าผมอยากแกล้งจีบหมูหันมากกว่ากล้าหลายล้านเท่า แต่เพื่อนมันเป็นฝ่ายชนะผมจะเถียงอะไรมันได้ อีกอย่างผมก็ยังไม่อยากให้พวกมันรู้ตอนนี้ว่าผมแอบมองหมูหันอยู่ ไอ้พวกนี้มันแสบ เมื่อมันรู้ว่าผมมองคนนี้ มันก็จะหาเรื่องให้เพื่อนคนอื่นมาล้อหรือไม่ก็ทำอะไรหมูหันสักอย่างเพื่อให้ผมสะเทือนใจเล่นๆ
พวกนี้เป็นเพื่อนกลุ่มที่ออกจะแกล้งแรงไปสักนิด...แต่นอกนั้นพวกมันก็ไม่ได้เลวร้าย
และนั่นก็คือจุดเริ่มต้นที่ทำให้หมูหันขุ่นเคืองกับการกระทำของผม ซึ่งผมก็ไม่ได้หยุดแค่นั้น แม้ว่าผมจะไม่ได้ตั้งใจให้หมูหันมันเคืองผมเพิ่ม แต่มันก็เกิดขึ้นไปแล้ว
ผมไม่สามารถควบคุมการแกล้งเพื่อนของเพื่อนอีกทีได้...ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพวกมันให้ไอ้เชษฐ์ไปจีบอมร เพื่อนของกล้ากับหมูหันตอนไหน รู้อีกทีก็ได้ยินตอนที่เพื่อนมันล้อไอ้เชษฐ์แล้ว
เชษฐ์ทนเสียงล้อไม่ไหว มันก็เลยตัดสินใจเทอมรถึงแม้ว่าจะยังไม่ถึงครบกำหนดเวลาที่เพื่อนมันบอกให้จีบอมรซึ่งก็คือหนึ่งเดือน...ตอนที่ผมรู้ ผมแม่งโมโหเชษฐ์มาก มันพูดจาหมาไม่แดกเรื่องที่ว่าเพราะอมรเป็นตุ๊ดมันก็เลยไม่คบ
ทำไมวะ...ตุ๊ดไม่ดีตรงไหน ตุ๊ดไม่ใช่คนเหรอ ตุ๊ดไม่มีหัวใจเหรอ
ครั้งนี้พวกแม่งเล่นแรงเกินไป มันไม่ได้ส่งผลกระทบแค่กับเชษฐ์แต่ส่งผลกระทบกับอมรและก็เพื่อนๆ ของมันด้วย ผมตัดสินใจโทรหากล้าเพื่อเล่าสิ่งที่ผมรู้ให้มันฟัง โชคดีที่กล้ามันเป็นคนดีและก็รักเพื่อนมากไม่ว่าจะเป็นเพศไหน มันจึงพุ่งตัวไปหาอมรทันทีพร้อมกับหอบเอาเพื่อนๆ หอบแฟนและเพื่อนของแฟนมันไปด้วย...และหลังจากนั้นก็...นั่นแหละครับ
ผมโดนหมูหันต่อย...ไม่ใช่แค่ครั้งเดียวด้วย แต่เป็นสองครั้งติดๆ!
ปกติแล้วผมไม่ปล่อยให้ใครหน้าไหนมาปล่อยผมฟรีๆ หรอก โดยเฉพาะคนที่นุ่มนิ่มไปหมดอย่างหมูหัน แต่ทำไงได้...หมูหันมันคงโกรธจริงๆ มันถึงได้แสดงออกแบบนั้น เพราะปกติแล้วเวลามันโกรธผมก็มักจะเห็นมันไปเก็บตัวอยู่ในห้องคนเดียว นั่งเล่นของเล่นคนเดียว หรือไม่ก็ดูการ์ตูน ที่ผมรู้เพราะเมื่อก่อนหมูหันมันเคยเล่าเรื่องของตัวเองให้ผมฟังอยากหมดเปลือกน่ะครับ
จะว่าไปแล้วผมก็คิดถึงช่วงเวลานั้นมันเป็นบ้า...การโดนหมูหันเคืองในเวลาไม่กี่วันมันให้ความรู้สึกเหมือนผ่านมานานมาก
เอาเป็นว่าผมอยากให้มันยิ้มให้ผม...มากกว่าทำหน้าบึ้งใส่ผม
ยิ้มของมันทำให้ผมมีความสุขทุกครั้งที่ได้เห็นจริงๆ นะ
"มึงรู้จักพี่เดียวคณะเสดสาดป่ะ" ผมถามเพื่อนซีเคียวริตี้ในเช้าตรู่ของวันงานโลกสวยฯ เพื่อนมันหาวหวอดๆ ก่อนที่จะตอบผม
"แฟนพี่แยมเสดสาดไง" มันตอบ...ผู้ชายบางคนในมอเป็นที่รู้จักเพราะมีแฟนสวยครับ พี่เดียวเองก็เป็นหนึ่งในนั้น
"มึงคิดว่าพี่เขาเป็นคนยังไง"
"หา" เพื่อนเลิกคิ้ว "มึงอยากรู้ไปทำไมเนี่ย"
"ก็แค่ถามดู"
"เพราะพี่มันมากับนุ่มนิ่มของมึงเมื่อวานใช่มั้ย มึงถึงเป็นเดือดเป็นร้อนแบบนี้"
"ฟายเอ๊ย" ผมด่ามัน "คงงั้นมั้ง...อย่าเพิ่งเอาไปบอกคนอื่นล่ะ"
"สาด บอกๆ ไปเลยสิวะจะได้ช่วยๆ กัน"
ผมดึงไหล่มันให้เข้ามาใกล้ตัวผม เพราะรอบๆ ข้างผมมีเพื่อนๆ อยู่เต็มไปหมด "มึงก็รู้ว่าเพื่อนเรามันเป็นยังไง ขืนบอกให้รู้ไปมีหวังแกล้งกูตายห่า ดีไม่ดีถ้ากูแพ้อีกแม่งก็คงท้าให้กูไปจีบสาวอื่นที่ไม่ใช่หมูหัน"
เพื่อนคนนั้นมองผมด้วยสายตาเป็นเชิงด่าว่าผมโง่ "จะไปยากอะไร มึงก็อย่าไปดวลกับพวกแม่งสิ จบสวยเห็นๆ"
ผมพ่นลมใส่หน้ามัน "เออ...แต่ก็ขอให้พวกมันอย่ามาสะกิดต่อมกูก็แล้วกัน"
ต่อมของผู้ชายมีอยู่ไม่กี่อย่างครับที่ห้ามไปสะกิด ต่อมเรื่องลูกผู้ชายก็เป็นหนึ่งในนั้น...เกิดเป็นลูกผู้ชายห้ามป๊อด ห้ามร้องไห้ มันเป็นต่อมที่เป็นความเชื่อของผมและผมก็ฝังใจกับมันซะด้วยสิ
"ตกลงมึงชอบจริงๆ ใช่มั้ย" เพื่อนถามผมเป็นเชิงแหย่
"เออ"
"จะเอา?"
"ใช่"
"แต่เขาต่อยหน้ามึงนะ"
"นั่นเรียกว่าหมัดมหาเสน่ห์"
"เป็นเอามากไอ้สัด" มันส่ายหน้าใส่ผมก่อนจะทำตาเบิกโพลง "พูดถึงก็มาเลย...เฮ้ย น่ารักว่ะ ตรงเวลาดีนี่หว่า"
ผมเล่าให้เพื่อนฟังแล้วว่าวันนี้ผมเชิญแขกรับเชิญกิตติมศักดิ์มารับหน้าที่เป็นซีเคียวริตี้ชั่วคราว หมูหันใส่ชุดเสื้อยืดสีดำและกางเกงยีนสีเดียวกันดูน่ามองเป็นที่สุดเพราะสองสิ่งนั้นส่งผลให้ผิวของมันดูขาวจั๊วะ...น่าเจี๊ยะ
ครับ สองพยางค์หลังผมเติมเข้าไปเอง อีกทั้งผมยังกลืนน้ำลายที่ช่วงเวลาที่ผมคิดถึงสองพยางค์นั้นด้วยนะ
มันเดินมาหาผมพร้อมกับแบมือขอทันที
"เอาดาร์ธเวเดอร์กูคืนมา"
"เฮ้ ใจเย็นสิ ทำหน้าที่ก่อน"
หมูหันมองไปรอบๆ มันคงเห็นเพื่อนๆ กลุ่มผมแล้วว่าพวกมันทำหน้ายังไง ส่วนใหญ่พวกมันนั้นก็ทำสีหน้ากันเป็นปกติ อาจจะมีบางคนที่ทำหน้าตื่นเต้นใส่มันบ้างเพราะก็มีคนแอบปลื้มมันอยู่
หนึ่งในนั้นก็คือผมนี่แหละ
"ต้องทำอะไรบ้างอ่ะ"
"ตามมานี่" ผมเดินนำมันไปรวมกับเพื่อนๆ คนอื่นๆ ซึ่งกำลังรอให้ผมมาแบ่งงานอยู่ ทุกคนมองไอ้หมูหันเพราะมันเป็นเด็กเสดสาดคนเดียวท่ามกลางพวกวิศวฯ อย่างเรา "มายืนข้างๆ กูนี่" เห็นมันเกร็งๆ ผมจึงเรียกให้มันเข้ามาใกล้ๆ
"ไม่"
ขอบคุณที่มึงยังรักษาจุดยืนเรื่องเคืองกูอยู่ได้เป็นอย่างดี...
"ทางเข้างานจะมีสี่จุดนะ แบ่งเป็นจุดละแปดคน อย่าลืมไปประสานงานกับสตาฟฟ์ผู้หญิงให้มันตรวจเวลาผู้หญิงเข้างานด้วย อย่าฉวยโอกาสนี้หากำไรให้ตัวเอง" ผมเหล่มองไปที่เพื่อน ผู้ที่วาดฝันเอาไว้ว่าจะได้แต๊ะอั๋งผู้หญิงตอนตรวจอาวุธ...ฝันไปเถอะ "รายชื่อตามจุดจะมีอยู่ตามนี้ อย่าลืมกฎของเราด้วย แอบพักมากินข้าวได้ทีละสองคน ห้ามทิ้งจุดที่ตัวเองต้องอยู่เฝ้าเด็ดขาด"
ทุกคนพยักหน้าเข้าใจ ก่อนที่จะเริ่มแยกย้ายกันไป
คนที่ไม่รู้ว่าตัวเองไปไหนก็คือหมูหัน "กูต้องไปไหนอ่ะ"
"อยู่ตรงนี้...กับกูนี่" จุดของผมคือทางเข้างานที่ใหญ่ที่สุดครับ เราต้องการคนมากกว่าแปดคนอยู่แล้ว เพราะงั้นไม่มีใครมองว่าหมูหันคือส่วนเกินแน่นอนในทีมผม
"กูอยากอยู่จุดอื่น"
"รอให้ถึงชาติหน้าก่อน"
"..."
"กูไม่ปล่อยให้มึงไปเล่นชู้กับพี่เดียวหรอก สงสารแฟนเขา"
มันเหล่มองผมอย่างไม่พอใจ "มึงเชื่อในสิ่งที่ตัวเองคิดจริงๆ ใช่มั้ย"
"แล้วมันใช่หรือไม่ใช่ล่ะ"
ใบหน้าที่เต็มไปด้วยแก้มนิ่มๆ นั่นยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ "ใช่"
แม่งเอ๊ย... "หมูหัน มึงยังเลิกได้นะ เรื่องแบบนี้มันไม่ควรเกิดขึ้น"
"สัดเอ๊ย นี่มึงรู้จักกูจริงๆ มั้ยเนี่ย"
"..."
"วันๆ ชีวิตกูมีแต่เพื่อนหรือไม่ก็ของเล่นกับการ์ตูน กูจะเอาเวลาที่ไหนไปหาพี่เขา" หมูหันเอ่ยอย่างไม่พอใจ "เสียใจฉิบหายที่มึงคิดว่ากูเป็นแบบนั้นอ่ะ..."
ก็ไม่รู้สิ...เวลามันมองพี่เดียวเหมือนมันมองพ่อของลูก (?) มันอ่ะ...จะให้ผมคิดยังไง
"มึงไม่ใช่เหรอ"
"เออ"
"..."
"กูแค่...ชอบคนแบบพี่เขา ลักษณะทางกายภาพภายนอกอ่ะ โอ๊ย ช่างเถอะ" หมูหันเดินหนีผมไปสมทบกับเพื่อนของผมที่มันรู้จักบ้างนิดๆ หน่อยๆ ผมมองตามมันไปก่อนจะนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้...
ฉิบหาย
มันเพิ่งบอกผมว่ามันเป็นเกย์
เหยดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
ถ้าอย่างนั้นผมก็มีความหวังแล้วสิใช่มั้ย...
สายตาของผมมองหมูหันอย่างปลื้มปริ่มจนออกนอกหน้า ดีใจจนตัวเองเผลอยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัวทั้งๆ ที่มันยังไม่รับหัวใจผมไปดูแล...เพื่อนที่รู้ความรู้สึกลึกๆ ของผม (มันชื่อไอ้แต้ม) เดินเข้ามาใกล้ๆ พร้อมกระทุ้งสีข้าง
"พุ่งเลยไอ้สัด...อย่าไปช้า"
"..."
"มึงคิดว่าของแบบนั้นจะมีแค่มึงเหรอที่หมายปอง"
ผมหันไปมองหน้าไอ้แต้ม "แล้วมึงคิดว่ากูชวนมันมาทำงานนี้เพราะอะไรกันล่ะ"
เวลา 09.15 น.
ปัญหากำลังเกิดขึ้น...
ตอนแรกผมให้หมูหันไปตรวจกระเป๋าของคนที่เข้าไปในงานครับ ทำให้ส่วนที่ต้องตรวจอาวุธที่ร่างกายนั้นทำกันอยู่แค่สองคนรวมผมด้วย จากประสบการณ์ที่เป็นซีเคียวริตี้มาหลายงาน...ผมจำเป็นต้องให้หมูหันมาทำในส่วนตรวจอาวุธ เพราะไม่อย่างนั้นล่ะก็คนที่จะเข้างานหลายร้อยคนได้มากระจุกรออยู่ที่ทางเข้าตรงนี้อยู่หลายนาทีแทนที่จะได้เข้างานแน่ๆ
เพิ่งรู้เดี๋ยวนี้นี่เองว่ามันเป็นคนละเอียดมาก มันจึงไม่เหมาะกับหน้าที่ตรวจกระเป๋าคนเข้างานเป็นอย่างยิ่ง
"ผมไม่แน่ใจว่ากรรไกรตัดเล็บจะเอาเข้าไปได้หรือเปล่า"
"ไม้บรรทัดอันนี้คมไปหรือเปล่าครับ"
"อันนี้สเปรย์พริกไทยหรือน้ำหอมครับ"
สาบานได้ว่าเพื่อนผมที่ทำหน้าที่ตรวจกระเป๋ามาหลายต่อหลายครั้งยังไม่ละเอียดเท่านี้เลย!
"ทำไมอ่ะ" มันโวยวายเล็กน้อยที่ผมไปลากตัวมันมาจากจุดตรวจกระเป๋า
"คนตรงนี้ไม่พอ"
หมูหันยุ่งเกินกว่าที่จะทำหน้าไม่พอใจ เพราะตอนนี้มีคนเริ่มมาออที่หน้าทางเข้าตรงนี้เยอะมากและอยากเข้างานกัน มันมองดูผมกับเพื่อนอีกคนว่าตรวจอาวุธยังไง จากนั้นมันก็ทำ...
เราก็แค่ลูบๆ คลำๆ ตัวผู้ชายที่จะเข้างานเผื่อมีอาวุธซุกซ่อนไว้ก็เท่านั้น
ผมไม่รู้ว่าผมกำลังคิดผิด...
หมูหันทำงานดีมากครับ ไม่มีปัญหาเลยสักนิด แต่ปัญหามันติดอยู่ที่คนที่โดนมันจับโน่นจับนี่บนร่างนี่แหละ ทำไมถึงได้ทำหน้าฟิน ทำไมถึงมองหมูหันเหมือนอยากจะจับมันแดกเข้าปากแบบนั้น
เวรเอ๊ยยยย
"จับนานกว่านี้ก็ได้นะพี่ไม่ว่า"
"คนต่อไปเลยครับ" หมูหันไม่สนใจเสียงพวกหน้าม่อที่พยายามเรียกร้องความสนใจจากมัน
"ไม่ล้วงลงไปให้ลึกกว่านี้อีกนิดเหรอ"
"คนต่อไป"
"น้องชื่ออะไร"
"รีบเข้าไปเลยครับ มีคนรอคิวอยู่"
"อยู่เสดสาดใช่มั้ยเรา"
"อยู่ตรงหน้าพี่เนี่ย หลบด้วยครับ"
"ปีไหนแล้ว"
"Next!"
ไม่ใช่แค่หมูหันที่เริ่มหงุดหงิด ผมเองก็เหมือนกัน...ไอ้พวกกามพวกนี้ไม่รู้ว่าไปเก็บกดมาจากไหน ทำไมถึงได้มาลงกับหมูหันได้...
และยิ่งเห็นใบหูของหมูหันเริ่มแดงขึ้นแดงขึ้นทุกที ผมก็ยิ่งหมดความอดทน
พอกันที!
ผมอาศัยจังหวะที่ไม่ค่อยมีคนอยากเข้าไปในงานไปลากหมูหันออกมา
"มึงไปนั่งพักตรงโน้น" ผมบอกมัน
"พักอะไรวะ คนอื่นยังทำงานกันหัวหมุน"
"มึงไม่ต้องจริงจังนักก็ได้ มึงไม่ใช่ตัวหลัก" แม้ว่าผมจะปลื้มอกปลื้มใจเรื่องที่ว่ามันเป็นคนที่รับผิดชอบต่อหน้าที่มาก แต่ตอนนี้มันมีประเด็นอื่นที่จะต้องเอาใจใส่มากกว่า...นั่นก็คือถ้าหมูหันยังทำหน้าที่ตรงนี้ต่ออีกนิด ผมกลัวคนเข้างานที่เป็นผู้ชายจะลากมันไปทำอะไรถึงไหนต่อไหน
เพราะแม่งกำลังทำหน้าเขิน...เขินเป็นอย่างมาก และผมก็อดทนไม่ได้ที่จะเห็นภาพนั้น
"แล้วมึงล่ะ"
"ถึงช่วงกูพักพอดี" ผมส่งสายตาไปหาไอ้แต้ม มันสบตาผมราวกับรู้กันว่าผมต้องการทำอะไร
หมูหันเดินตามผมเข้าไปในงาน มันยังคงงุนงงกับสิ่งที่ผมทำ แต่ก็ดูโอนอ่อนคล้ายตามดี อาจเป็นเพราะมันยังไม่รู้ระบบซีเคียวริตี้ล่ะมั้ง
จะบอกให้เอาบุญนะเว้ย...ระบบห่าไรนั่นมันไม่มีหรอก กูอยากทำอะไรกูก็ทำ ด้นสดล้วนๆ ไม่มีการเตรียมตัวผสม
"เฮ้ย อันนี้ดีว่ะ" หมูหันเดินลิ่วตรงเข้าไปยังร้านขายสมุดทำมือ ร้านนั้นดึงความสนใจของมันไปจนหมดสิ้น เพราะมันสวยจริงๆ "เท่าไหร่ครับ"
เดี๋ยว...จะซื้อเลยเหรอ
"แปดสิบเก้าบาทค่ะ"
"ผมขอ...สองเล่มครับ ขอสีฟ้านะ"
แม่งซื้อจริงว่ะ...เฮ้ย อะไรจะซื้อง่ายจ่ายคล่องขนาดนั้น นี่มันเป็นร้านที่อยู่ตรงปากทางเข้านะ มึงไม่คิดจะดูร้านอื่นก่อนเหรอ
"มึงชอบอะไรแบบนี้ด้วยเหรอ" ผมถามมัน มองดูหมูหันควักตังค์มาจ่ายค่าสมุด
"สวยจะตาย มึงไม่อยากอุดหนุนเขาเหรอ"
"เงินกูไม่สะพัดเหมือนเงินมึงขนาดนั้น"
"ไม่เป็นไร"
"..."
"กูถึงซื้อเผื่อมึงนี่ไง"
หมูหันส่งยิ้มให้คนขายประจำบูธ ขณะที่ผมจ้องหน้ามันด้วยความตกตะลึง...
แบบนี้เรียกอะไรวะ...อ่อยเหรอ หรือว่าให้ความหวัง นี่มันรู้มั้ยเนี่ยว่าผมแอบคิดอะไรพิเศษกับมันอยู่น่ะ
"มันพักได้กี่นาทีวะ" หมูหันเอียงคอมาถาม ท่าทางเหมือนกำลังจะสนุกกับการเป็นคนเที่ยวงานนี้มากกว่าเป็นสตาฟฟ์อีกมั้งนะผมว่า
"เรื่อยๆ" ผมตอบ ผมกับหมูหันไม่อยู่สักสองคนงานมันก็รันกันได้...(วันนี้กูขอนะเพื่อนนะ)
"แจ๋ว" แทนที่หมูหันจะจับพิรุธผม...มันกลับคิดว่าเป็นเรื่องน่ายินดีซะอีกที่ได้พัก ผมมองดูมันเข้าร้านนั้นออกร้านนี้ แม่งอุดหนุนเขาไปทุกร้านซะจนผมอดเอ่ยปากที่จะขอมันช่วยถือของไม่ได้
ที่จริงก็อยากจะช่วยมันถือตั้งนานแล้วแหละ แต่ก็กลัวว่ามันจะปฏิเสธ แล้วผมจะเสียหน้าน่ะ
เพิ่งรู้เดี๋ยวนี้นี่เองว่ามันเป็นคนช้อปเก่งมาก...อีกทั้งอัธยาศัยยังดีมากอีกต่างหาก มันพูดกับพ่อค้าแม่ค้าที่มาตั้งบูธเกือบแทบจะทุกบูธ ถามเขาว่าสินค้าทำยังไง ทำไมสวยจัง ทำไมเท่จัง...ซื้อสองอันได้ราคาลดมั้ย
มันเป็นอีกมุมหนึ่งของหมูหันที่ผมเพิ่งเคยได้สัมผัส แปลกแต่จริงที่ผมชอบลอบมองมันตอนที่มันซื้อของนะ ดูเหมือนว่ามันจะมีความสุขกับการซื้อของมาก จนลืมไปเลยว่าของที่มันซื้อมานั้นเต็มสองมือของผมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
"มึงไม่เอาอะไรเลยเหรอ" มันถามเมื่อเราเดินกันมาได้เกือบสามสิบร้านแล้วมั้ง
"ไม่อ่ะ"
"งั้นก็เหมือนกูพามึงมาเสียเวลาเลยสิ" ไม่ใช่อย่างนั้นสักหน่อย... "แต่ก็ไม่รู้ล่ะ ความผิดมึงเท่าภูเขา สิ่งที่มึงทำอยู่มันชดเชยความผิดมึงได้เท่าขี้ตาเท่านั้นแหละ"
บางครั้งผมก็สงสัยว่าเพื่อนรักของมันอีกสามคนเคยต้องเหนื่อยกับการแปลคำพูดของมันมั้ย...แต่ถ้าถามผม ผมคงตอบได้เลยว่าผมไม่เบื่อ...มันเป็นพวกสร้างความรื่นเริงบันเทิงใจให้กับคนอื่นได้ตั้งแต่มันนั่งอยู่เฉยๆ แล้ว คงไม่ต้องคิดไปถึงตอนที่มันพูดจาเจื้อยแจ้วหรอก
"อืม..." ผมรำพึง "งั้นกูยินดีที่จะอยู่กับมึงไปจนกว่ามันจะชดเชยความผิดกูได้ทั้งหมด"
หมูหันหรี่ตามองผม...ท่ามกลางคนมากมายที่เดินผ่านเราไป ผมมองเห็นมันเพียงคนเดียว
"หว่านเสน่ห์" มันส่ายหน้าแล้วพูดเบาๆ กับตัวเอง
"มึงว่าไงนะ"
"มีเพื่อนมาท้ามึงอีกแล้วใช่มั้ยว่าลองจีบกูดู"
ผมอยากลาออกจากการเป็นเพื่อนแก๊งซีเคียวริตี้ตั้งแต่วินาทีเป็นต้นไป...แม่งทำเครดิตผมเสียหมดเลย
"เปล่าสักหน่อย" เสียงของผมดังขึ้นเพราะต้องการแก้ตัว "ไม่มีใครมาท้ากูทั้งนั้น"
"นั่นบูธพี่เดียวนี่ สวัสดีครับ!" หมูหันวิ่งจู๊ดเข้าไปในบูธที่ผมพยายามจะเลี่ยงมากที่สุดแต่ก็ไม่ทันแล้ว ถ้าแม่งมีหางมันก็คงจะดุ๊กดิ๊กๆ น่าดู เพราะหมูหันแม่งกระตือรือร้นที่จะเข้าไปหาพี่เดียวมาก
เกือบลืมไปเลยว่าแม่งเป็นกิ๊กคนอื่นอยู่... (ประชด)
ผมปล่อยให้มันอยู่ในบูธพี่เดียวเพราะบูธนี้กำลังมีลูกค้าเนืองแน่น เหงื่อของผมเริ่มหยดติ๋งๆ เพราะอากาศร้อนจัดอีกทั้งผมยังต้องมายืนรอหมูหันตรงกลางแดดจ้านี่อีก...
จนในที่สุดหมูหันก็ได้ฤกษ์เดินออกมาจากบูธพี่เดียว ผมมองมันด้วยสายตากึ่งไม่พอใจนิดๆ แต่มันไม่ได้สนใจสายตาของผมเลย
เออ...กูให้มึงชนะไปเลย
"ไปหาเครื่องดื่มกัน" มันชวน "มึงแน่ใจนะว่ามึงจะพักได้กี่นาทีก็ได้"
"อืม"
"งานมึงโคตรชิล"
"อืม"
"เป็นเหี้ยอะไร"
"..."
"ร้อนเหรอ"
ผมคิดว่าใครๆ ในนี้ก็คงร้อนแหละมั้ง เพราะงั้นผมจึงไม่ตอบ ระหว่างทางที่เราจะไปหาเครื่องดื่มดื่มกัน หมูหันมันก็หันซ้ายหันขวา แล้วมันก็ไปเจอกับเพื่อนผู้หญิงคณะเสดสาดของมันพอดี
"ยืมทิชชูหน่อยดิ"
มันได้ทิชชูมาตามที่มันต้องการ...จากนั้นมันก็ช่วยซับเหงื่อที่ใบหน้าของผมเพราะผมถือของเต็มสองมือแล้ว
ผมนี่ถึงกับอึ้งไปเลย...ดวงตาของผมมองใบหน้าหมูหันที่เตี้ยกว่าผมอย่างอึ้งๆ มันรู้ตัวว่าถูกจ้องมั้งจึงได้รีบเช็ดให้มันเสร็จๆ
"เฮ้อ กูทำอะไรลงไป" หมูหันบ่นพึมพำ จากนั้นก็รีบเดินหนีผมไปเลย
[ มีต่อนะคะ ]