ตอนสองมาแล้วค่ะ
บอกกันก่อนว่า ถ้าใครไม่นิยมฉากรักมุ้งมิ้งแบบเลสเบี้ยน แนะนำให้ข้ามครึ่งแรกไปจะดีกว่า
ตัวเมีย ★☆ Mating Season
บทที่สอง
เช้านี้คายาตื่นเร็วกว่าปรกติ พร้อมกับบรรจงขัดสีฉวีวรรณตัวเองตอนอาบน้ำนานเป็นพิเศษ
ถูกต้องแล้ว! เพราะวันนี้คายามีนัดกับ”เซเรีย” ดังนั้นเขาจะต้องดูดีตั้งแต่หัวจรดเท้า
ว่าแล้วคายาก็เซตผมสี้น้ำตาลอ่อนของตัวเองให้เข้าที่ แล้วหยิบน้ำหอมกลิ่นที่เซเรียเคยบอกว่าหอม มาฉีดใส่ซอกคอนิดๆ แตะที่ข้อมือทั้งสองข้างอีกหน่อย เซเรียจะได้ยิ่งรักยิ่งหลงเขา คิดแค่นี้คายาก็เนื้อเต้นแล้ว
เพราะหลังๆมานี้เซเรียที่มีอายุมากกว่าเขา ค่อนข้างยุ่งกับกิจการที่บ้าน เลยไม่ค่อยได้เจอกันบ่อยเหมือนเมื่อก่อน
“จะไปแล้วหรือคายา? ฝากความคิดถึงถึงเซเรียด้วยนะ” คุณแม่คนสวยของคายาเอ่ยก่อนที่จะลูบหัวลูกของตนอย่างรักใคร่
“ครับแม่ ไม่ต้องห่วงนะ กลับมาทันอาหารเย็นของแม่แน่นอน.....ฟอดดดดด” คายาเขย่งตัวนิดหน่อยเพื่อนหอมแก้มมารดาก่อนจะเดินไปตามทางอย่างเริงร่า เพราะวันนี้โลกของคายาช่างสดใสเหลือเกิน!
********
“เซเรียยยยยยยย” หนุ่มน้อยของเรากระโดดกอดเซเรียทันทีเมื่อเข้ามาด้านในบ้านพักของอีกฝ่ายที่อยู่เชิงเขาไม่ไกลจากตัวเมืองมากนัก
“คายาคิดถึงเซเรียมากเลยน้า” คายาพูดอู้อี้อยู่ตรงอกของคนที่สูงกว่าไม่มากนัก พร้อมกับไถหน้าไปมา คล้ายกับอาการแมวเหมียวออดอ้อนเจ้าของ ดูน่ารักน่าชังในสายตาอีกฝ่ายยิ่งนัก
“เราก็คิดถึงคายาเหมือนกัน” เซเรียคลี่ยิ้มน้อยๆก่อนจะก้มลงจุมพิตที่ปากกระจับของอีกฝ่ายเบาๆ แล้วค่อยถอนออกมาอย่างอ้อยอิ่ง แม้จะเป็นสัมผัสที่เบาเหมือนปุยนุ่น แต่ก็ทำให้คายาอดไม่ได้ที่จะเกิดอาการหายใจติดขัดและมองคนที่ตัวสูงกว่าด้วยดวงตาที่ช่ำเยิ้ม บ่งบอกอารมณ์ความต้องการแบบไม่ปิดปัง
“เซเรีย....เรา...อยากทำ” เสียงที่เอ่ยออกมานั้นเบาหวิวพร้อมกับสายตาอ้อนวอนแลดูน่าสงสาร
เซเรียไม่ได้ตอบอะไร เพียงแต่ใช้มือข้างหนึ่งจับปอยผมที่ปรกลงมาของคายาถัดหู ก่อนค่อยๆไล้ปลายนิ้วยาวลงมาข้างแก้มเนียนเบาๆ
“ เรารู้คายา... แต่เจ้าอย่าเพิ่งรีบร้อนเลย วันนี้เรามีเวลาอยู่ด้วยกันทั้งวันมิใช่รึ? มาทานอาหารเช้ากับเราก่อนซิ” เซเรียใช้แขนโอบเอวอีกฝ่ายเบาๆ พร้อมกับพาเดินมาที่โต๊ะอาหารที่ตั้งสำรับรอแขกคนพิเศษไว้แล้ว
“ดูซิ เราทำแต่ของชอบคายาทั้ง ซุปข้าวโพดนี่เราก็ตื่นมาเคี่ยวตั้งแต่เช้า เจ้าจะต้องชอบแน่ๆ”
พอพูดถึงเรื่องอาหาร คายาก็ตาเป็นประกายทันที เห็นไหมเซเรียของเขานอกจะสวยแล้ว ยังรู้ใจเขาทุกอย่าง ฝีมือทำอาหารก็ไม่เป็นสองรองใคร แล้วอย่างนี้ใครจะไม่อยากได้มาเป็นแม่ศรีเรือน ถึงแม้จะเป็นตัวเมียเหมือนกันก็เถอะ!
เพราะคายาหลงรักเซเรียเพื่อนวัยเด็กคนนี้มานาน และหวังที่จะได้เป็นคู่ครองของอีกฝ่าย เพราะดูยังไงเซเรียก็ต้องมีใจให้เหมือนกัน จึงไม่ยอมบอกใครเรื่องที่ตัวเองกลายเป็นตัวเมียแล้ว ถึงแม้ว่าการครองคู่กันระหว่างตัวเมียด้วยกันเองเป็นที่ยอมรับโดยทั่วไป แต่ก็ไม่เป็นที่นิยม เพราะการให้กำเนิดทายาทเป็นเรื่องยาก มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่ประสบความสำเร็จ ยิ่งเขาเป็นลูกคนเดียว พ่อแม่ต้องค้านหัวชนฝาแน่ๆ ทุกวันนี้เขาร่ำๆอยากชวนเซเรียให้มีอะไรกันถึงขั้นสุดท้ายเสียที เผื่อเซเรียจะได้ท้องลูกของเขา ถึงแม้คายาจะตัวเตี้ยและแลดูมุ้งมิ้งกว่าเซเรียแต่เขาก็ค่อนข้างมั่นใจว่าเขาแมนพอที่จะรุกอีกฝ่ายได้ =,.=
“หน้าแดงอีกแล้ว คิดเรื่องลามกอยู่ล่ะซิ หึๆ” เซเรียอดที่จะแซวไม่ได้ เมื่อเห็นว่าคนตรงหน้า หน้าแดงลามถึงใบหู
“เปล่าซะหน่อย ! ..... เราหิวข้าวแล้ว ป้อนข้าวเราหน่อยน้า” เมื่อโดนอีกคนจับได้คายาก็รีบกลบเกลื่อนความผิดของตนด้วยการนั่งลงเก้าอี้ตัวข้างๆ แล้วออดอ้อนให้อีกฝ่ายตักข้าวป้อน แล้วไม่นานห้องอาหารห้องนั้นก็เต็มไปด้วยบรรยากาศสีชมพูลอยฟุ้งไปหมด
หลังจากจัดการอาหารมื้อเช้าเรียบร้อยแล้ว ทั้งสองก็ย้ายมานั่งคลอเคลียกันที่หน้าเตาผิงในห้องนั่งเล่น
คายามีความสุขเหลือเกินเวลานี้ ทำให้ลืมเรื่องราวที่ทำให้หงุดหงิดช่วงหลายวันที่ผ่านมา อย่างเรื่องสไลย์ หรือพ่อแม่ที่คอยเอาแต่บ่นว่าอยากอุ้มหลานไวๆ
เอ.. จะว่าไปวันนี้รุกเซเรียซะเลยจะดีไหมหน๋อ? ยิ่งช้าเขาก็ยิ่งจะลำบาก เขากลัวที่จะมีตัวผู้ตัวอื่นมาตัดหน้าแย่งเซเรียของเขาไป....
“นี่.... เซเรีย....คือว่า.....”
ปังๆๆๆ !
อนิจจา โชคไม่เข้าข้างกันเลย ยังไม่ทันที่จะบอกสิ่งที่เก็บไว้ในใจมานาน ช่วงเวลาชื่นมื่นของทั้งสองก็ถูกขัดจังหวะจะด้วยเสียงเคาะประตูอันดัง
“คุณชายครับ! คุณท่านมีเรื่องด่วนอยากคุยกับคุณชาย เลยให้กระผมมาตามกลับ”
สิ้นเสียงพ่อบ้านใหญ่ของเซเรีย คายารู้สึกเหมือนถูกพลักตกลงเหวทั้งๆที่กำลังจะมีความสุข
อะไรกันเนี่ย เค้าเพิ่งจะเจอเซเรียได้ไม่ถึงสองชั่วโมง ต้องจากกันแล้วเหรอ!?
“รอแป๊บหนึ่งนะ เจอร์ราจ!” เซเรียตะโกนตอบกลับไปด้วยเสียงที่ไม่ดังนัก ถอนหายใจเบาๆพลางยกมือลูบหัวถุยของคนข้างๆ
“ขอโทษนะคายา ไว้วันหลังเราจะชดเชยให้ อย่าโกรธเลยนะ”
ทั้งที่เสียใจและอยากจะรั้งให้อยู่ต่อนานกว่านี้แต่คายาไม่สามารถทำอย่างนั้นได้ เพราะเข้าใจถึงหน้าที่ความรับผิดชอบของอีกฝ่ายที่เป็นถึงบุตรคนโตของตระกูล
“อือ ไม่เป็นไรหรอก แต่คราวหน้าเซเรียต้องตามใจเราทุกอย่างนะ” คายาช้อนตาขึ้นมองคนข้างๆอย่างเหงาหงอย
ทำให้คนมีธุระด่วนรู้สึกผิดเป็นอย่างมาก
“ได้ เราสัญญา เราจะยอมตามใจคายาทุกอย่างเลย” รวมถึงยอมให้เรารุกด้วยนะเซเรีย ประโยคหลังนี้คายาคิดเองเออเองอยู่ในใจ
“ไปกันเถอะ เดียวเราจะให้เจอร์ราจไปส่งที่บ้าน” หลังจากนั้นเซเรียก็พาคายาขึ้นรถม้าที่พ่อบ้านนำมา พร้อมออกคำสั่งให้ไปส่งอีกฝ่าย
**************
“คุณคายาสบายดีไหมครับ? ไม่ได้เจอกันพักใหญ่ๆเลยนะครับ” พ่อบ้านเจอร์ราจ เปิดบทสนทนาหลังจากที่ขึ้นมานั่งในรถม้าฝั่งตรงกันข้ามกับคายา
“สบายดี แล้วเจอร์ราจล่ะ? ไม่ได้เจอกันนาน ผมคิดถึงชากับคุกกี้ฝีมือเจอร์ราจมากๆเลยนะ” เพราะคายาเป็นเพื่อนสนิทคุณชายของเขา เจอร์ราจจึงมีโอกาสได้ต้อนรับคายาบ่อยๆ อีกทั้งพ่อบ้านวัยกลางคนคนนี้ก็ทั้งรักและเอ็นดูเด็กหนุ่มคนนี้อยู่มาโข
“คุณคายาพูดแบบนี้ กระผมก็เขินแย่ซิครับ ฮ่ะๆๆ ยังไงเดียวคุณคายาก็จะได้ชิมฝีมือของผมอีกเร็วๆนี้ ใน ”งานแต่งงาน”ของคุณชายใหญ่ รับรองกระผมจะทำให้สุดฝีมือเลย”
“ห๊ะ?! นายว่าอะไรนะ?!.......เอ่อ.......ฉันหมายถึง ฉันไม่ได้ยินที่นายพูด เสียงลมข้างนอกมันดัง ไม่ได้ตั้งใจจะตะคอกนะเจอร์ราจ ขอโทษด้วย...” คายารีบแก้ตัวเป็นพลันวันหลังจากที่รู้ตัวว่าเผลอตะคอกใส่คนที่อวุโสกว่าทันทีที่ได้ยินสิ่งที่ไม่น่าจะเป็นไปได้
“ไม่เป็นไรครับ กระผมเข้าใจ เอ...สงสัยคุณชายใหญ่ต้องลืมบอกคุณคายาแน่ๆ “ ประโยคหลังนี้เจอร์ราจเพียงแค่บ่นพึมพำพร้อมลูบคางตัวเองไปมา
“งั้น..... งั้นเจอร์ราจบอกชั้นหน่อยซิ ว่าเซเรียจะแต่งกับใคร..” คายาต้องใช้พยายามอย่างมากในการบังคับน้ำเสียงตัวเองไม่ให้สั่นและร้องไห้ เขาอยากจะให้เรื่องที่ได้ยินเป็นเขาที่หูฟาดไป เขาไม่เคยคิดเลยว่าเซเรียนางฟ้าของเขาจะใจร้ายหลอกเขาได้ลงคอ
“ก็เป็นตัวผู้จากตระกูลคู่ค้าคนสำคัญของเรานะครับ นี่ก็หมั้นกันมาเกือบจะครบปีแล้ว นายท่านก็เห็นว่ามันได้เวลาสมควรที่จะจัดงานแต่งงานอย่างเป็นทางการเสียที ก็คงอีกราวๆอีกสองเดือนนะครับ....” เจอร์ราจเล่าให้คายาฟังโดยไม่ทันสังเกตเลยว่า ใบหน้าของอีกฝ่ายนั้นซีดเผือดเป็นอย่างมาก
หนึ่งปี! นั้นเท่ากับช่วงเวลาเดียวกันที่เซเรียเริ่มงานยุ่ง อย่างนี้ก็หมายความว่าเซเรียหลอกเขามาตลอด ทำกันอย่างนี้ได้ยังไง ทั้งๆที่เขาซื่อสัตย์มาตลอด
“เจอร์ราจ..เรารู้สึกเวียนหัว ขอนั่งหลับพักตาก่อนนะ ถึงบ้านแล้วปลุกเราด้วยละ” แล้วคายาก็หลับตาเอาหัวหนุนหมอนข้างบนรถม้าไปตลอดทาง
เขาไม่รู้ตัวเลยว่าเขามาถึงบ้านเมื่อไร มารู้ตัวอีกทีก็คือตอนที่ล้มตัวลงนอนบนเตียงของตัวเอง สายตาเหม่อลอยเอาแต่จ้องเพดานสีขาว แล้วน้ำตาใสๆก็ค่อยๆไหลลงมาอาบแก้มเนียนทั้งสองข้าง
‘เซเรีย.....ทำไม....?’
*****************
สองอาทิตย์ผ่านไป
คายาก็ยังไม่มีโอกาสได้เจอกับเซเรียเลยตั้งแต่วันนั้น ฝ่ายนั้นส่งข้อความทางโทรเลขมาถามสรทุกข์สุกดิบกับคายาอยู่เนื่องๆ แต่ก็ไม่มีครั้งใดที่จะพูดถึงการแต่งงานของตัวเองเลย
‘ นายคิดจะปิดปังชั้นไปถึงเมื่อไรกันเซเรีย......ตอนนี้นายคงกำลังยุ่งเตรียมงานแต่งของนายกับใครอีกคนใช่ไหม...‘
คายาที่นั่งเหม่อมองไปทางภูเขาลูกใหญ่ที่เห็นยอดอยู่ไม่ไกล ซึ่งเป็นที่ตั้งของบ้านพักของคนที่เขารัก และเป็นที่ๆพวกเขานัดพบกันเวลาพลอดรักมาหลายปี
“คายาลูกพ่อ.....” เจ้าของชื่อสะดุ้งเฮือกเมื่อได้ยินผู้เป็นพ่อเรียกจากด้านหลัง
“ช่วงนี้ลูกดูไม่ค่อยสดใสเลย มีอะไรในใจหรือเปล่า?” รุสตาก้าเอ่ยพลางลูบหัวลูกชายคนเดียวเบาๆ
“..........”
“ถ้าลูกยังไม่พร้อมที่จะบอกก็ไม่เป็นไร คืนพรุ่งนี้มีงานวันเกิดเจ้านายของพ่อ เขาจัดกันที่ปราสาทนอกเมือง มีที่พักให้กับแขกทุกคน ไปกับพ่อและแม่นะ ลูกจะได้เปิดหูเปิดตาไปในตัว”
คายาได้แต่เพียงพยักหน้าตอบตกลงรุสตาก้า ไหนๆก็ไม่มีอะไรทำ สู้ไปเปิดหูเปิดตาอย่างที่พ่อว่ามันอาจจะช่วยให้เขาสบายใจขึ้นก็เป็นได้.......
*******
คืนต่อมา ณ ปราสาทชานเมืองของตระกูล “รานอฟ”
คายาไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะเบลอได้ขนาดนี้ ขนาดที่ลืมไปว่า เจ้านายของพ่อนั้นก็คือ “สเกลเชอร์ รานอฟ” พ่อของสไลย์!
คายาถอดหายใจเบาๆพร้อมกับยกแก้วค็อกเทลสีสวยขึ้นจิบ พ่อของเขานั้นกำลังอยู่ในวงสนทนาที่มีพ่อของสไลย์รวมอยู่ด้วยและตัวสไลย์เองที่ยืนข้างๆ คอยส่งสายตายียวนกวนประสาทมาทางเขา
เห็นแล้วก็แอบจะหงุดหงิดไม่ได้ แต่เอาเถอะ อย่างน้อยสไลย์มันคงไม่บ้าระห่ำพอที่จะทำอะไรแย่ๆในงานวันเกิดพ่อตัวเองหรอกนะ
“คายาลูกพ่อ มาแนะนำตัวกับท่านสเกลเชอร์หน่อยลูก” นั่นปะไร ความซวยมาเยือนแล้ว คายาคิดแต่ก็ไม่มีทางเลือกจึงแสร้งยิ้มแย้มเดินไปแนะนำตัว
“สวัสดีครับท่านสเกลเชอร์ กระผมคายา นับว่าเป็นเกรียติอย่างมากที่ได้มีโอกาสมาร่วมงานวันเกิดท่าน” เมื่อได้เข้ามาใกล้ๆ ถึงได้รู้ว่าคู่อริของตนนั้นได้รูปร่างหน้าตาจากฝ่ายพ่อเต็มๆ ทั้งโครงหน้าและตาที่คมเข้ม แล้วไหนจะร่างกายที่สูงใหญ่นั้นอีก
“ไม่ต้องเป็นทางการขนาดนั้นก็ได้หนูคายา พ่อนายก็ลูกน้องคนโปรดฉัน คนกันเองทั้งนั้น ใช่ไหมรุสตาก้า” พูดจบเจ้าของงานวันเกิดก็หันไปตบไหล่ลูกน้องเพื่อแสดงความสนิทสนมให้ผู้เป็นลูกได้เห็น
“คายาหน้าตาสวยเหมือนแม่เลยนะ สนใจอยากจะเป็นลูกสะใภ้ตระกูลรานอฟของฉันไหม? เจ้าสไลย์ก็ยังโสดอยู่นะ” ประโยคเชิญชวนนี้ทำคายาแทบจะสำลักค็อกเทลในมือ
“สไลย์ พาคายาไปชมตัวปราสาททีซิ เขาเพิ่งมาครั้งแรกเป็นไกด์ให้ลูกชายเพื่อนพ่อหน่อยนะ” สเกลเชอร์จัดการจูงมือเล็กของคายาแล้วพาอีกฝ่ายมาส่งตรงหน้าสไลย์โดยไม่คายาไม่มีโอกาสได้พูดหรือปฏิเสธอะไร ใครจะกล้ากันล่ะ เจ้านายพ่อเชียวนะ!
“ไม่ต้องห่วงครับคุณพ่อ ผมจะ”ดูแล”คายาเป็นอย่างนี้เลย” ทันทีที่พูดจบสไลย์ก็ปล่อยยิ้มการค้าต่อหน้าบรรดาลูกน้องและคู่ค้าของบิดา ได้คะแนนความนิยมไปอย่างท่วมท้น
**********
ห้านาทีต่อมา
“นี่ถามจริงเถอะสไลย์ นายกะจะทำมิดีมิร้ายฉันใช่ไหมถึงได้พาฉันมาที่ห้องนาย แทนที่จะพาไปชมปราสาทอย่างที่พ่อนายบอก” คายาที่กำลังนอนกลิ้งเกลือกอยู่บนเตียงขนาดคิงไซด์ หันมาถามโดยไม่ได้มีท่าทีวิตกกังวลหรือเกรงกลัวอันตรายใดๆที่จะเกิดกับตนเลย
“ทำไม? หรือว่านายอยากจะเดิมชมปราสาทกับฉันสองต่อสองจริงๆ” สไลย์เดินมานั่งลงที่ปลายเตียงและเอานิ้วยาวของตนไล้ส้นเท้าขาวนุ่มของอีกฝ่ายอย่างสนุกมือ
“ไม่ล่ะ นอนเล่นอยู่ที่นี่ก็ดีไปอย่าง ไม่ค่อยชอบที่คนเยอะๆ”
สไลย์ไม่ได้ตอบอะไรแต่ค่อยๆชันเขาขึ้นเตียงช้าๆพร้อมกับปลดสูททักซิโด้ของตัวเองออกแล้วหย่อนลงข้างเตียง
จนสุดท้ายเขาก็ได้ขึ้นคร่อมคายาที่อยู่ในท่ากึ่งนั่งกึ่งนอน
“นี่นายคิดจะงาบฉันระหว่างงานวันเกิดพ่อตัวเองจริงๆใช่ไหม?” คายาไม่แสดงท่าทีกังวลแม้แต่น้อยทั้งยังมองหน้าท้าทายอีกฝ่าย
“ถ้าบอกว่าใช่ล่ะ นายจะทำยังไง....” สไลย์ที่ตอนนี้ถอดทั้งเสื้อเชิ้ตและเข็มขัดออกแล้วเผยให้เห็นซิกแพคลอนสวย แถมยังค่อยๆรูปซิปกางเกงเนื้อผ้าชั้นดีลงช้าๆ ทำให้คายาอดไม่ได้ที่จะมองตาม นับตั้งแต่ไรขนจากสะดือไล่ลงมาจนมาถึงบางอย่างที่ซ่อนตัวอยู่ใต้ชั้นใน กะด้วยสายตาแล้วน่าจะใหญ่โตใช้ได้ สมแล้วที่ได้ฉายาว่าตัวผู้อันดับหนึ่ง
สไลย์ยังไม่ได้จัดการถอดกางของตัวเองออกจากตัว แต่ทิ้งมันไว้อย่างนั้นก่อนจะเริ่มปลดกระดุมเสื้ออีกฝ่ายอย่างช้าๆ
อันที่จริงสไลย์ก็อดแปลกใจไม่ได้ว่าทำไมคายาถึงได้ไม่ต่อต้านอะไรเลย หรือจะเป็นเพราะฤทธิ์เหล้าที่อีกฝ่ายกินเข้าไประหว่างงานนี้เลี้ยง แต่จะด้วยอะไรก็ช่างเถอะ ตอนนี้เขาสนในแต่การจัดการคนตรงหน้ามากกว่า
“สไลย์ นายลองบอกเหตุผลดีๆมาสักข้อซิ เพราะอะไรฉันถึงต้องยอมเสียตัวให้นาย” ไม่พูดเปล่าคายาได้ทำสิ่งที่สไลย์ไม่คาดฝันก็คือ ค่อยๆงอเข่าและใช้นิ้วเท้าข้างหนึ่งขึ้นมาคลึงหนักๆตรงความเป็นชายของสไลย์สร้างความแปลกใจและเสียวส่านเป็นอย่างมาก
“ว่าไงสไลย์.....” เสียงอันยั่วยวนดังข้างหูและนิ้วเท้ายังคงนวดเค้นความเป็นชายของเขาไม่หยุดทำให้สไลย์เริ่มหายใจติดขัด นี่เจ้าเตี้ยคายากำลังยั่วเขาอยู่ใช่ไหม?!
สไลย์ที่ตอนนี้สมองไม่สามารถคิดหาคำพูดมาตอบอีกฝ่ายได้ เพราะในหัวมีแต่ความคิดที่อยากจะสอดแทรกความเป็นชายเข้าไปในร่างของอีกฝ่ายไวๆแล้วกระแทกให้หนำใจ จึงได้จับมือของคายามาวางไว้บนเป้ากางเกงของตนหลังจากที่เท้าขาวของอีกฝ่ายได้หยุดการเค้นคลึงสไลย์น้อยแล้ว
เขาก้มลงกระซิบและขบเม้มใบหูเล็กของอีกฝ่าย “มันจะทำให้นายสำลักความสุขตายคาอกฉันเลยคายา....”
คายากระตุกยิ้มที่มุมปากก่อนจะค่อยๆเพิ่มแรงที่มือในการลูบไล้ท่อนเอ็นใหญ่นั้นผ่านเนื้อผ้าบาง
จากปลายไล่ไปถึงโคนสลับไปมา และแวะไปทักทายลูกกลมๆสองลูกที่อยู่ใกล้กันเป็นพักๆ จนสไลย์เริ่มสะท้านในความเสียวซ่านจึงได้ดึงคายาขึ้นมานั่งบนหน้าตักเขาพร้อมกับซุกไซร้ซอกคอหอมอีกฝ่ายเป็นการระบายอารมณ์
“แค่สไลย์น้อยอย่างเดียวเหรอ อย่างอื่นล่ะ?” คายาไล่นิ้วชี้ไปตามแนวสันกรามของสไลย์
แล้วแตะเบาๆที่ริมฝีปากนั้น
“ได้ยินมาว่าลิ้นนายก็สุดยอดไม่ใช่เหรอ?” ว่าแล้วคนตัวเล็กว่าก็เปลื้องเสื้อบนตัวเองออกช้าๆ มันเป็นไปด้วยง่ายเพราะกระดุมทั้งหมดโดนคู่อริตัวดีปลดไปเมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้แล้ว เม็ดไตสีชมพูเล็กๆสองเม็ดบนอกขาวกำลังชูช่อ ล่อตาล่อใจตัวผู้อย่างสไลย์เหลือเกิน
“ลองชิมดูซิ” คายาใช้มือทั้งสองข้างโอบต้นคออีกคนไว้ ทำให้จุดสีชมพูทั้งสองอยู่ตรงหน้าสไลย์พอดี
‘ไม่ไหวแล้วโว๊ยยยยยยย ‘ ตัวผู้ที่อารมณ์ทางเพศพุ่งขึ้นตะโกนก้องในใจ พร้อมกับดันคนบนตักให้นอนราบกับเตียงก่อนจะจู่โจมสิ่งที่ล่อตามล่อใจเหลือทน
จ๊วบ จ๊วบ จ๊วบ....
“อ่าห์ อะ อ่าห์....” ฝ่ายสไลย์ก็ทั้งดูดทั้งขบกัด และละเลงลิ้นร้อนลงบนเม็ดไตทั้งสองข้างพร้อมทั้งนวดเฟ้นร่างขาวอย่างไม่ออมมือ จนคายาอดไม่ได้ที่ครางเสียงหวานออกและขยุ้มผมอีกฝ่ายเป็นการระบายอารมณ์
จนผ่านไปได้สักพักคายาค่อยๆดันหัวของคนข้างบนขึ้นเบาๆ เป็นเชิงบอกให้หยุด ก่อนจะเลื่อนมือลงไปที่หว่างขาตัวเอง
“ตรงนี้ด้วยซิ.....” แม้เป็นเสียงกระซิบที่เบาจนแทบไม่ได้ยิน แต่สไลย์ก็รับรู้ได้และรีบลงมือจัดการถอดปราการที่ยังหลงเหลืออยู่บนตัวคนทั้งคู่อย่างรวดเร็ว และยกสะโพกขาวขึ้นก่อนที่จะสอดหมอนใบเล็กไว้ข้างใต้เพื่อที่เขาจะได้ทำงานสะดวกขึ้น
ปรกติสไลย์นับว่าเป็นตัวผู้ที่ถือว่าเห็นแก่ตัวคนหนึ่ง เพราะเขาไม่เคยใช้ปากหรือทำอะไรแบบนี้ให้กับตัวเมียตัวไหน
แต่ร่างขาวตรงหน้านี้เป็นกรณีพิเศษ ไหนๆคู่อริตัวฉกาจยอมมานอนอ้างขาให้เขาขนาดนี้ เขาก็พร้อมที่สนองให้ถึงใจอีกฝ่าย
สไลย์จับต้นขาด้านในทั้งสองข้างของคายาขึ้น ทำให้ท่อนสีชมพูดอ่อนของคนใต้ล่างชูชันขึ้นมาตรงหน้า
“ของนายสีสวยมาก” เหมือนบ่นให้ตัวเองฟังว่าแล้วสไลย์ก็ก้มลงจัดการกับแท่งสีสวยตรงหน้าอย่างดุดัน
จนคายาต้องเด้งสะโพกรับอย่างช่วยไม่ได้ พร้อมกับจิกเล็บลงบนไหล่ทั้งสองข้างของไลย์
จ๊วบ จ๊วบ จ๊วบ
ร่างใหญ่ทั้งดูดทั้งอมท่อนเนื้อเล็กอย่างเมามัน จนกระทั้งอีกฝ่ายใกล้จะปลดปล่อยสไลย์จึงหยุดแล้วยืดตัวไปหยิบขวดเจลที่ได้มากจากลูกพี่ลูกน้องตรงหัวเตียง แล้วค่อยบรรจงบีบลงบนท่อนเอ็นของเขาที่ตอนนี้ขยายขนาดขึ้นจนน่ากลัว ส่วนคายาเองที่เต็มไปด้วยอารมณ์ก็เพียงแต่นอนปรือตาอันช่ำเยิ้มมองอีกฝ่าย
“ช่วยหน่อยซิ” สไลย์กระซิบบอกด้วยเสียงที่แหบพล่า ระหว่างที่ยกคายาขึ้นมานั่งบนตักตนอีกครั้ง
จากประสบการ์ณกับเซเรีย ถึงแม้ไม่เคยได้สอดใส่กันจริงๆแต่มันก็ทำให้คายาเป็นคนหัวไวเรื่องอย่างว่าไม่น้อย
ไม่รอให้อีกฝ่ายพูดซ้ำ คายาใช้มือเล็กๆทั้งสองช่วยกันรูดความเป็นชายของสไลย์ขึ้นลงไม่หยุด เพื่อให้เจลชุ่มตั้งแต่โคนจรดปลาย และไม่นานคายาก็รู้สึกได้ถึงสัมผัสเย็นๆที่ปั้นทายของตัวเอง นิ้วยาวๆของสไลย์กำลังละเลงเจลหล่อลื่นสีฟ้าอ่อนแล้วค่อยๆกดคลึงบริเวณปากทางเข้าเบาๆเพื่อให้กล้ามเนื้อตรงนั้นผ่อนคลาย แล้วค่อยๆสอดนิ้วชี้เข้าไปเป็นนิ้วแรกอย่างช้าๆ
“อ๊ะ!” ถึงแม้รู้ดีอยู่แล้วว่าจะต้องโดนอีกฝ่ายเบิกทางก่อนเพื่อจะได้ไม่เจ็บมากตอนเจอของจริง แต่ก็อดไม่ได้ที่จะขมิบเกร็ง
“อย่าเกร็งซิ เดียวจะเจ็บนะ” สไลย์ถอดนิ้วที่กำลังจะรุกรานด้านหลังคายาออกมาก่อน ก่อนที่จะจับมือทั้งสองข้างของคายามาคล้องที่คอตนเอง พร้อมกับเริ่มเบิกทางด้านหลังอีกครั้ง
จากหนึ่งเป็นสอง จากสองเป็นสาม ตอนนี้นิ้วทั้งสามที่ชุ่มไปด้วยเจลสีฟ้าถูกชักเข้าชักออกในช่องร่วมรักของคายาไม่หยุดหย่อน ส่วนคายาเองก็รุ้สึกเสียวซ่านอย่างบอกไม่ถูก จนต้องซบลงและดูดซอกคออีกฝ่ายเพื่อระบายอารมณ์
“สะ..สไลย์ ฉันจะไม่ไหวแล้ว...”
ได้ยินดังนั้นสไลย์ก็รีบดันตัวอีกคนให้นอนราบไปกับเตียง แล้วยกขาเรียวทั้งสองข้างขึ้นพาดบ่า
สไลย์กลืนน้ำลายอึกใหญ่ ขณะที่จ้องมองช่องทางรักสีสดที่ชุ่มช่ำไปด้วยของเหลวและหุบเข้าหุบออกเล็กน้อยตามจังหวะการหายใจของเจ้าของ
‘เซ็กซี่ชะมัดยาด!’ สไลย์คิดก่อนจะจับที่โคนอวัยวะเพศอันใหญ่โตของตน ค่อยๆดันเข้าในโพรงร้อนช้าๆ
“อะ...อย่าเกร็งนะ คายา......อ๊ะ...แน่นมาก” พออีฝ่ายเริ่มการสอดใส่ คายาก็เริ่มกระตุกเกร็ง ถึงแม้จะโดนเบิกทางมาอย่างดี แต่ยังไงนี่ก็คือครั้งแรกของคายาแถมขนาดของอีกคนก็ไม่ใช่น้อยๆ ทั้งเสียวทั้งจุกปนเจ็บ ไม่รู้จะสรรหาคำพูดไหนมาบรรยายความรู้สึกตอนนี้ได้
“อะ...อึก....”จนกระทั้งสิ่งนั้นถูกดันเข้ามาจนสุดโคนและแช่ตัวไว้สักพัก มือน้อยทั้งสองข้างที่บิดเกร็งจึงยอมปล่อยผ้าปูที่นอนที่ถูกดึงจนยับย่น สไลย์เริ่มเล้าโลมอีกฝ่ายด้วยการจับท่อนเนื้อของอีกฝ่ายมารูดขึ้นลงช้าๆ
“ขะ ขยับได้แล้ว ..” เป็นฝ่ายคายาเองที่ทนไม่ได้ จนต้องเอ่ยปากออกมา
เมื่อได้รับอนุญาต สไลย์ก็เริ่มขยับเอวหนาเข้าออกช้าๆก่อนเพื่อให้อีกคนเริ่มคุ้นชินและค่อยๆเพิ่มความเร็วขึ้น
ตับ ตับ ตับ
เสียงเนื้อกระทับเนื้อเริ่มดังสะท้อนภายในห้องนอนอันใหญ่โตฟังดูลามกสิ้นดี แต่มันยิ่งกลับโหมไฟราคะของคนทั้งสองให้เพิ่มขึ้น
สไลย์ชอบที่จะถอดท่อนเอ็นออกมาจนเกือบสุดความยาวแล้วกระแทกกลับแรงๆเน้นๆ เรียกเสียงครางดังไม่หยุดจากคนใต้ร่าง พร้อมกับเม็ดเหงื่อที่พุดขึ้นรอบไรผมอีกฝ่ายยิ่งทำให้ดูเซ็กซี่มากขึ้นไป จนคนร่างใหญ่อดไม่ได้ที่จะจับทั้งสองข้างมาเกี่ยวไว้กับเอวตัวเองและก้มลงไปดูดปากอย่างเมามัน
ตับ ตับ ตับ
สไลย์เร่งขยับสะโพกให้เร็วและแรงขึ้น ในขณะที่คายาเองก็พยายามยกสะโพกให้สอดรับกับจังหวะที่อีกฝ่ายกระแทกตัวเข้ามา เซ็กที่เพิ่มเริ่มได้ไม่กี่นาทีสร้างความรัญจวนใจให้เขาเป็นอย่างมาก
‘นี่ใช่ไหนเซ็กกับตัวผู้ รู้สึกดีชมัด’ คายารำพึงอยู่ในใจ จนกระทั่ง
โพละ.........
คายารู้สึกถึงของเหลวอุ่นจำนวนมากทะลักเข้ามาอยู่ในช่องทางของเขาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย....
เดียวนะ...เมื่อกี้อะไร.... คายาที่ยังติดอยู่ในห้วงตัญหายังไม่สามารถเข้าใจในที่สิ่งที่เกิดขึ้นได้ จึงเงยหน้ามองสไลย์ที่ตอนนี้หน้าซีดเผือก แล้วค่อยๆถอดความเป็นชายออกจากตัวของคายา ทันทีที่ส่วนหัวหลุดออก ของเหลวสีขาวจำนวนมากก็พากันไหลออกมาเลอะเต็มบริเวณช่องด้านหลังของเขาและซอกขาทั้งสองข้าง ยังไม่พออีกส่วนหนึ่งไหลย้อยลงมาเปื้อนผ้าปูเตียงเป็นวงกว้างอีก
คายานั่งอึ้งมองน้องชายตัวเองที่ยังบวมเบ่งไม่ได้รับการปลดปล่อยแล้วหันไปมองสไลย์ที่นั่งหน้าซีดไม่มีสีอยู่ปลายเท้าเขาและหอบหายใจแฮกๆ จนเวลาผ่านไปหลายวินาทีสมองถึงประมวลผลได้ว่า....
“สไลย์....อย่าบอกนะว่า...แกล่มปากอ่าว!!!!!”
TBC
แฮ่! เป็นอย่างไรกันบ้างคุณผู้อ่านที่รักทุกท่าน ค้างกับตอนจบกันไหมเอ่ย? ไม่เป็นไรเนอะ ขนาดคายาก็ยังค้างเลย 5555
ใจจริงฉากNCที่คิดไว้ดุเดือดเลือดสาดกว่านี้ แต่เสียที่ว่าเราเขียนออกมาไม่ได้ เศร้าแป๊บ
อาจจะมีคนที่คิดว่าคายาใจง่ายไปหรือเปล่าที่ยอมมีอะไรกับสไลย์ง่ายๆ เดียวรออ่านตอนต่อๆไปจะเข้าใจคายามาขึ้น อย่าเพิ่งว่าคายาเลยนะคะ
ขอบคุณทุกคอมเม้นท์ที่เป็นกำลังใจให้เรานะคะ คำติชมทุกอันเราจะนำไปปรับปรุงในตอนต่อๆไป
แล้วเจอกันในตอนต่อไปนะคะ