จิ้มตาม หึหึ โดนปาดหน้าอีกตะหาก....ช้าไปซะแระ==================================
บทที่ 12.
"ทานข้าวเช้าด้วยนะครับที่รัก...แล้วก็คิดถึงคนทำซักนิดก็ยังดี"
อภินันทนาการจาก..ไอ้หมีใหญ่ของเฮีย..
กระดาษโน้ตที่วางอยู่บนโต๊ะ พร้อมกับอาหารเช้าทำเอาคนอ่านคลี่ยิ้มออกมาได้ไม่ยาก เดาเอาว่าไอ้หมีไวไวมันคงตื่นมาทำให้ตอนเช้าก่อนออกไปเรียน แล้วยังอุตส่าห์เขียนข้อความชวนเลี่ยนแปะเอาไว้ด้วย แบบนี้ใครมันจะไปกินลง ตอนแรกก็กะว่าจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรไปด่าเจ้าของข้อความ แต่ก็นึกขึ้นมาได้ว่าอาจจะกำลังอยู่ในชั่วโมงเรียน ก็เลยทำได้แค่กดส่งข้อความบางอย่างไป จากนั้นถึงค่อยนั่งลงจัดการกับอาหารเช้าตรงหน้าจนไม่เหลือติดจาน ก่อนที่จะเก็บล้างทุกอย่างเข้าที่แล้วค่อยออกไปที่ข้างนอกเพราะนัดกับลูกค้าเอาไว้
.
.
.
.
ครืด ครืด
โทรศัพท์ที่ปิดเสียงเอาไว้ตั้งแต่ตอนเรียนยังคงสั่นอยู่ในกระเป๋าเป็นระยะ เหมือนเป็นสัญญาณเตือนว่ายังไม่ไม่เปิดดู วายุเพิ่งจะนึกขึ้นมาได้ตอนที่ออกมาจากห้องเรียนแล้ว ถึงได้ฤกษ์หยิบมันขึ้นมากดดู 'มี 1 ข้อความเข้า'
'อ้วกจะแตก'
ชื่อผู้ส่ง: Here
วายุกลอกตาอ่านข้อความซ้ำๆอีกประมาณสามสี่รอบเห็นจะได้ ก่อนจะอมยิ้มจนแก้มแทบปริ และอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเบาๆกับตัวเอง นึกหน้าไอ้คุณเฮียตอนที่กำลังกินอาหารเช้าที่ทำทิ้งไว้ให้ออกแล้วมันมีความสุขในอกมากมายจนอธิบายออกมาไม่ถูก นี่ถ้าได้เห็นด้วยตาตัวเองก็คงจะดีไม่น้อย
แต่จนแล้วจนรอดบ่ายกว่าๆแล้วคนที่รอก็ยังไม่เห็นโผล่มาที่บริษัท กะว่าจะหาเรื่องเข้าไปในห้องบ้างอะไรบ้าง หรือว่า...จะอ้วกแตกไปแล้วจริงๆหว่า หรือป่านนี้จะยังไม่ตื่น เพราะเฮียแกชอบทำงานดึกๆ
"เป็นอะไรไปวายุ ทำหน้าเหมือนรอใครอยู่" พี่สาวที่ทำงานอยู่แผนกต้อนรับลูกค้าเดินเข้ามาทัก เพราะเห็นว่านักศึกษาฝึกงานจะชะเง้อคอมองไปข้างหน้าร้าน และแถวลานจอดรถทุกสิบนาที จากนั้นก็มานั่งถอนหายใจเฮือกๆตั้งแต่เข้างาน
"เออ..ก็..ก็รอลูกค้าไงครับ วันนี้เงียบๆนะพี่" เนียนเข้าไว้ไอ้ไวไว เอ็งต้องทำเนียนๆ ไม่ให้ใครจับได้ว่ารอใครอยู่ ถึงยังไงเย็นนี้กลับไปก็ได้เจอหน้ากันอยู่ดี
"อืม..ก็ว่างั้นแหละ เบื่อไหมล่ะ พี่ฝากเอานี่ไปให้ที่ห้องคุณพิชญะหน่อยได้ไหม" เอกสารที่มีคนมาฝากไว้ที่เคาท์เตอร์เมื่อเช้าถูกยื่นมาให้ ไอ้คนที่หาเรื่องจะขึ้นไปชั้นสองอยู่แล้วถึงกับหูตั้งหางกระดิก รีบพยักหน้ารับอย่างเร็วไว ประหนึ่งว่างานสำคัญแบบนี้จะไม่ยอมให้พลาดโดยเด็ดขาด แม้ว่าจะไปคนละห้องกันก็เถอะ
"เอ่อ..พี่ครับ ทำไมวันนี้คุณตุลไม่เข้าบริษัทล่ะครับ เห็นที่ห้องปิดไฟเอาไว้" ก่อนที่จะรับหน้าที่สำคัญในมือ วายุก็แกล้งทำเนียนชำเลืองมองไปทางห้องของคุณบอสอีกคนแล้วเอ่ยปากถามเหมือนแค่อยากรู้
"อ้อ..คุณตุลน่ะแกไม่ค่อยได้เข้าบริษัทหรอก เพิ่งจะมีช่วงหลังนี่แหละที่เข้าบ่อยเกือบทุกวัน..." พี่สาวคนสวยยังเล่าให้ฟังอีกว่า ที่จริงแล้วเฮียแกรับหน้าที่ออกแบบสินค้า และรับออกแบบตกแต่งภายในให้กับลูกค้าบางรายด้วยตัวเอง เดือนๆหนึ่งจะเห็นเข้าบริษัทซักครั้ง แค่ตอนมีประชุม หรือไม่ก็แวะมาสั่งงาน
แล้ว...ไอ้ที่ผมเห็นเฮียแกที่บริษัทแทบทุกวันตั้งแต่ตอนมาทำงานพิเศษที่นี่ล่ะ แถมได้กลับบ้านด้วยกันอีกต่างหาก อย่าบอกนะว่าให้คิดเอาเอง เพราะถ้าเป็นอย่างงั้น ไอ้ไวไวคงไม่สามารถหุบยิ้มได้ทั้งวันแน่ ก็เพราะเฮียชอบทำแบบนี้ ชอบทำให้ดีใจแบบนี้อยู่เรื่อย แล้วจะไม่ให้กระผมชอบได้ยังไง
ครืด ครืด เจ้าโทรศัพท์เครื่องเดิมในกระเป๋า สั่นอีกรอบ
'กลับเองนะ ติดธุระ'
ชื่อผู้ส่ง: Here วายุถอนหายใจออกมายาว เหลือบมองไปทางนาฬิกาเรือนใหญ่ที่แขวนอยู่บนกำแพงแล้วก็ต้องอ่อนใจ เพราะอีกไม่กี่ชั่วโมงก็จะหมดเวลางานแล้ว เฮียตุนคงจะไม่ขับรถมารับให้เสียเวลา... ตอนเดินผ่านห้องทำงานแล้วก็อดเหงาไม่ได้แฮะ
.
.
.
.
"เฮียยยยย ผมซื้อบะหมี่ปากซอยเจ้าอร่อยมาฝากกกกก" พอกลับมาถึงบ้าน ยังไม่ทันจะเห็นตัวเจ้าของ วายุก็ตะโกนส่งเสียงออกไปแล้ว เพราะเห็นว่ารถยังจอดอยู่ที่เดิมและไฟทั้งห้องก็เปิดสว่าง
แต่สิ่งที่ทำให้คนที่เพิ่งเดินเข้ามาต้องชะงักยืนอ้าปากค้างอยู่กลางบ้าน ก็คือใบหน้าของใครคนบางคนที่นั่งอยู่ที่โซฟาห้องรับแขก สาวสวยที่หันมามองด้วยสายตางุนงงไม่ต่างกัน 'หรือจะเข้าผิดบ้าน!!!' วายุวิ่งกลับไปดูที่หน้าบ้าน กับทะเบียนรถที่จอดอยู่อีกรอบ ก็พบว่าที่ยืนอยู่คือบ้านของเฮียตุนไม่ผิดแน่...แล้ว...
"น้องคงจะเป็นวายุ ที่พี่ตุลเล่าให้ฟัง" พี่สาวคนสวยหันมายิ้มให้ พร้อมลุกขึ้นยืน ทั้งที่วายุยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม ในใจกำลังคิดอะไรมากมายสับสนไปหมด ..แล้ว..ไอ้คุณเฮียไปไหน!!!?
"พี่ชื่อนัชชา เรียกพี่ใบชาก็ได้จ้ะ พี่ตุลออกไปข้างนอกอีกเดี๋ยวคงกลับ"
"ครับ..งะ..งั้นผมขอเอาของไปเก็บในห้องก่อนนะฮะ" วายุวางถุงใส่ห่อเกี๊ยวน้ำที่ตัวเองซื้อมาเป็นอาหารเย็นไว้บนโต๊ะ ก่อนจะขอตัวหลบเข้าไปตั้งสติในห้องตัวเอง
นี่ล่ะมั้ง'ธุระ'ที่ว่าของเฮีย พี่สาวสุดสวยคนนั้นซินะ นั่งทำใจอยู่ในห้องได้ซักพัก วายุก็ได้ยินเสียงคุยพึมพำอยู่ข้างนอก เดาเอาว่าเฮียแกคงจะกลับมาแล้ว อยากจะกระโดดออกไปจากห้องออกไปหา แต่ก็ไม่กล้าเพราะมีคนอื่นอยู่ด้วย ทำได้แค่แนบหูไปกับประตูห้องเผื่อว่าจะได้ยินเสียงบ้างซักนิดก็ยังดี
ปึก!!
ประตูดิครับท่าน กระแทกเข้ามาเต็มๆที่แสกหน้าตอนที่ไอ้ไวไวกำลังพยายามจะแง้มประตู เพื่อส่องดูสถานการณ์ที่ด้านนอก แล้วก็ได้เรื่องพร้อมกับเลือด!!! (อันหลังไม่แน่ใจเพราะมองไม่เห็น)
"โอ๊ย!!! อุ๊บ!!!" แล้วบุคคลที่เป็นต้นเหตุก็พุ่งเข้ามา พร้อมกับเอามือปิดปากเอาไว้ แว้กกกกกก!!! ไอ้ไวไวจะโดนทำมิดีมิร้ายยย
"ชู่ว์!!เงียบๆ" ไอ้คุณเฮียนั่นเองหาใช่ใครอื่น มือข้างหนึ่งปิดปากกระผมเอาไว้พร้อมด้วยสายตาข่มขู่ ถ้าเป็นเฮีย...ไม่ต้องขู่ไอ้ไวไวก็ยอมพลีกาย เอ๊ย!! ยอมตายแต่โดยดี
"อะไรอ่ะเฮีย ทำไมต้องกระซิบด้วยล่ะ" ทั้งที่ยังสงสัยแต่ไอ้คนถามก็บ้าจี้กระซิบตาม ทั้งที่ในห้องมีกันอยู่แค่สองคน
"ไม่ได้ให้กระซิบ แต่ไม่ให้โวยวาย แล้วนี่กลับมาตอนไหน!!?" นายตุลเอ่ยถาม เพราะตัวเองก็เพิ่งจะเดินเข้าซอยมา ไม่ยักเห็นว่ามีใครเดินนำหน้ามาเลยซักคน แต่พอถึงบ้านก็เห็นรองเท้าผ้าใบซีดๆของไอ้หมีโย่งจอดสนิทอยู่หน้าบ้าน
"ผมก็เพิ่งกลับมา อยากเจอเฮียเร็วๆ ก็เลยนั่งพี่วินเข้ามาเลย" พี่วินที่ว่าคงจะเป็นวินมอเตอร์ไซค์ปากซอย ส่วนไอ้ประโยคต่อท้ายคนฟังพยายามทำเป็นไม่ได้ยิน เพราะไม่งั้นคงไม่กล้ามองหน้าไอ้หมีหน้าด้านมันแน่
"รู้จักกันแล้วใช่ไหม พี่ใบชาจะมาอยู่ที่นี่ซักสองสามวัน" เจ้าของบ้านบอกพร้อมกับเสียงพ่นลมหายใจออกเหมือนคนที่กำลังมีเรื่องให้เหนื่อยใจ
“แล้ว..พี่ใบชาเค้าเป็นใครเหรอ” ไอ้หมีช่างสงสัยยังคงกระซิบถามเหมือนกลัวใครได้ยิน แถมมันยังเนียนขยับเข้ามาใกล้จนแทบจะต้องไปนั่งซ้อนกันบนตักอยู่แล้ว
“เป็นเพื่อนน่ะ!!” ความจริงจะบอกไปตรงๆก็ได้ แต่..เกิดไอ้หมีโย่งมันรู้ขึ้นมาก็ไม่รู้ว่าจะคิดมากอะไรอีก นายตุลก็เลยจำใจบอกไปแบบนั้น
“แล้ว..พี่เค้าจะนอนไหน..?” วายุยังคงขยับยื่นหน้าเข้าไปเรื่อยๆตอนที่ไอ้คุณเฮียยังคงนั่งขมวดคิ้วเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่...กลิ่นหอมอ่อนๆของน้ำหอมทำเอาไอ้หมีร้ายมันห้ามใจตัวเองเอาไว้ไม่อยู่ แต่ยังไม่ทันจะได้ทำในสิ่งที่ต้องการ แม้ว่าจะเสี่ยงถูกฆ่า..ไอ้คุณเฮียก็ดันคิดออกเสียก่อน
“ก็..อ๊ะ!!!” ปลายจมูกสองคนที่เฉียดผ่านกันไปได้อย่างเฉียดฉิว ในระยะน่าหวาดเสียว สายตาสองคู่สบกันนิ่งเหมือนไม่มีใครยอมใคร สิ่งที่กำลังจะพูดกลับถูกลืมเลือนไปจนหมดสิ้น
แค่อยาก...จะลองดู...อยากจะรู้ว่าริมฝีปากที่ช่างด่าช่างว่ามาตลอด มันจะนุ่มนิ่มกว่าแก้มที่เคยได้สัมผัสมาแล้วมากมายแค่ไหน ระยะห่างแค่เพียงหนึ่งลมหายใจยิ่งยั่วยวนให้อยากรู้อยากลองมากยิ่งขึ้นไปอีก แค่เพียงวายุเลื่อนหน้าเข้าไปอีกนิด ก็สามารถได้...ในสิ่งที่ต้องการ
ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเหมือนกัน จู่ๆในหัวมันก็เหมือนว่างเปล่า มีเพียงสายตาแน่วแน่ของไอ้หมีโย่งตรงหน้าที่จับจ้องมองตรงมาไม่ขยับไปไหน แค่เพียงปลายจมูกที่เลื่อนมาแตะกัน ในใจก็เหมือนอุ่นวาบ ทั้งที่ในหัวมันคิดออกแล้วว่าต้องขยับหนีแต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว...เมื่อริมฝีปากอุ่นแตะลงมา...แค่เพียง...แผ่วเบา..ไม่เร่งเร้ารีบร้อนเหมือนจะขออนุญาตอยู่ในที
ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูเหมือนเรียกให้สติของสองคนกลับมา ณ จุดเดิม คนหนึ่งครางในคออย่างเสียดายตอนที่โดนผลักอกให้ออกห่าง ส่วนอีกคนกำลังยกมือปาดที่ปากตัวเองโดยไม่หันกลับมามองหน้า...ด้วยความที่ยังรู้สึกสับสนและอับอายเกินจะบรรยายออกมาได้
“มีอะไรเหรอใบชา” พอเปิดประตูออกก็พบว่าแขกของบ้านมายืนรออยู่อีกฟากประตู
“คือ..ถ้าพี่ตุลลำบากใจ เดี๋ยวใบชานอนตรงโซฟาข้างนอกนี่ก็ได้คะ” เมื่อเห็นว่าเจ้าของบ้านสองคนหายเข้าไปในห้องได้ซักพักก็ยังไม่ออกมา นัชชาก็เลยไม่รู้ว่าจะทำยังไงกลัวว่าตัวเองจะมาสร้างความรำคาญให้
“เปล่าๆ ไม่ใช่แบบนั้น คือ..พี่กำลังช่วยกันเก็บของที่ห้องนี้น่ะ คืนนี้ใบชานอนที่ห้องโน้นได้เลย เดี๋ยวพี่กับวายุจะนอนห้องนี้เอง” ไอ้เจ้าของห้องตัวจริงยังคงนั่งทำหน้างงอยู่บนเตียง แต่พอได้ยินคำว่า’นอนที่นี่’ ก็แทบจะลุกขึ้นโดดด้วยความยินดี แต่ก็ต้องเก็บอาการเอาไว้
“ครับๆ พี่ใบชาไม่ต้องห่วงนะครับ อุ๊ก!!!” ไอ้หมีโย่งเดินเข้ามายืนซ้อนที่ด้านหลัง ก่อนที่มันจะยื่นหน้าข้ามไหล่คนที่ยืนอยู่หน้าประตูออกไปยิ้มให้พี่สาวที่ยืนอยู่ข้างนอก แล้วก็โดนศอกของไอ้คุณเฮียซัดมาแบบเนียนๆไปที เล่นเอาจุกพูดต่อไม่เป็น
“น้องวายุเป็นอะไรรึเปล่า..?”
“มะ...ไม่เป็นไรครับพี่ใบชา เดี๋ยวผมไปเก็บของใช้กับห้องให้เฮียเองนะ” ทั้งที่ยังเจ็บ แต่ด้วยความที่กลัวเฮียเปลี่ยนใจไอ้ไวไวมันก็ไวสมชื่อ วิ่งออกจากห้องตัวเอง แล้วก็วิ่งพรวดหายเข้าไปในห้องข้างๆ
“ขอบคุณนะคะพี่ตุล ขอบคุณที่ยังเห็นว่าใบชาเป็นน้องสาว” พอหลับหลังที่ประตูห้องปิดลงแล้ว นัชชาถึงได้กล้าพูดออกไป
“อย่าคิดมากเลยนะ พักผ่อนให้สบาย เดี๋ยวอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วมาทานข้าวกัน” นายตุลเอื้อมมือไปโยกหัวหญิงสาวตรงหน้าเบาๆ ใบชาพยักหน้ารับพร้อมกับรอยยิ้มเศร้าที่ผุดขึ้นบนใบหน้า
“เฮียคร้าบบบบบบ!!!!” เสียงตะโกนเรียกดังมาจากในห้องให้ต้องถอนหายใจออกมาอีกรอบ แม้ว่าดูภายนอกเหมือนคนโดนเรียกจะหงุดหงิด แต่ก็ยังมีรอยยิ้มปนขำแต่งแต้มที่มุมปาก
“พี่ไปดูก่อนนะ ก่อนที่ห้องจะพัง!!” นายตุลหันมาบอกพร้อมกับเอามือกุบขมับและส่ายหน้ากับตัวเอง ก่อนจะเดินตามหลังไอ้เด็กโย่งเข้าไปในห้อง ปล่อยให้หญิงสาวคนเดียวในบ้านยืนมองตามอยู่ที่เดิมอย่างแปลกใจ...
=============================
มาลงต่อแล้วขอรับ ขอบคุณทุกท่านที่ติดตาม
หวานบ้างเลี่ยนบ้าง ก็อย่าเพิ่งแหวะกันซะล่ะ (เสียดายของ )