ขอเล่ามั่งนะฮะ
คือเมื่อนานมาแล้ว
โคอาล่าแทบจะไม่เคยต้องใช้บริการรถเมล์ซักเท่าไหร่
เพราะที่บ้านค่อนข้างมีฐานะ(ยากจน)
ไม่นั่งรถเมียก็ใช้วิธีอื่น
วันนั้น ไปเดินเซ็นทรัลลาดพร้าวซึ่งกว่าจะหาที่จอดรถได้
ใช้เวลาวนอยู่เกือบสองชั่วโมงน้ำมันหมดไปครึ่งถัง
นังเมียและผองเพื่อนก้เสือกเงี่ยนจะไปดูหนังที่รัชโยธินต่อ
ซึ่งกูก็ยิ่งงงว่าทำไมต้องแหกหีบไปดูถึงนั่น
ซึ่งมันก็ให้เหตุผลว่าอยากไปดูจอใหญ่ๆ
แล้วไง.....
ถ้าจะเอารถไปกูก็คงต้องไปวนหาที่จอดรถอีกสองชาติ
นั่งแท็กซี่ไปมั้ย....
มันไม่นั่งกันบอกว่าคนเยอะและช้า......สำคัญ แพง
อีวิปริตพวกนั้นก็ระริกระรี้ที่จะนั่งรถเมล์
บอกว่าเป็นประสบการณ์ชีวิต.....ซึ่งพวกมันก็ไม่ได้ถามว่ากูน่ะอยากจะมีประสบการณ์ร่วมกันกับพวกมันมั้ย
แต่กูก็ลงเอยด้วยการเบียดกับผู้คนมากมายขึ้นรถเมล์ไป
ทว่า......เรื่องมันไม่ได้สวยงามแบบนั้น
คนแม่งเบียดอย่างที่บอกจริงๆ
กูก็กำลังขึ้นรถ......บอกตรงๆว่าก็แอบประหม่านิดๆ
เพราะเท่าที่กูจำความได้กูเคยขึ้นรถเมล์ตอนไหนก็ไม่รู้
ขึ้นไปแล้วกลิ่นเต่ากูจะไปเตะจมูกคนอื่นเค้ามั้ย
จะมีคนแอบเอากะปู๋มาไถซอกตูดกูมั้ย
กูจะแอบเอามือไปลูบตูดคนอื่นเค้ามั้ย..........ยิ่งคิดมันก็ยิ่งทำให้กูประหม่า
แต่ระหว่างใจคิดจัญไรวกวนอยู่นั้น
"รถมาแล้ว"
เสียงอุทานส่งสัญญาณให้รีบเร่ง
กูก็ทำตามด้วยการรีบวิ่งไปขึ้นรถเพื่อจะได้อยู่ใกล้ๆเพื่อนและเมีย
แต่อีข้างหลังมันทั้งดันทั้งเบียด......กูแทบไม่ต้องก้าวเดิน
แม่งไหลขึ้นรถไปเหมือนบันไดเลื่อน
แต่....
อีสัดตัวไหนไม่รู้แม่งดันกูอย่างเดียว
แถมอีเหี้ยอีกตัวเสือกเหยียบรองเท้ากูอีก
กูขึ้นมายืนอึ้งแดกอยู่บนรถกับรองเท้าที่คาตีนอยู่ข้างนึง
ส่วนอีกข้างนึงอยู่ที่ไหนไม่รู้
นั่งนึกดูทำไมกูไม่ลงรถไปเอา
ทำไมกูไม่บอกให้แม่งหยุดรถ
แต่เสือกยืนตีนเปล่าข้างนึงแล้วเงียบเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
หดนิ้วตีนเอาไว้เพราะกลัวคนแม่งเดินมาขยี้โป้ตีน
และอดทนรอจนถึงปลายทาง
เดินกอดคอเมียแล้วเดินกระเดกๆเข้าไปซื้อรองเท้าใหม่
อายมั้ยกูไม่รู้หรอก
แต่กู...........คิดถึงรองเท้าข้างที่กูทอดทิ้งเอาไว้มากมายอ่ะมึง