ตอนที่ 35
ชีวิตสีเทา…คือเต็งหนึ่งในตอนนี้
ทุกอย่างดูไม่มีความหมาย ขนาดอากาศจะหายใจยังแทบหายใจไม่ออก
ทุกวันได้แต่มานั่งข้างเตียงคนที่ไม่รู้สึกตัว…ดวงตาเคว้งคว้างไปที่ไกลๆ
“เอก วันนี้เจ๋งมันไปบ้านสก๊อตนะ หมอไม่ค่อยอยากให้มันมาอยู่ที่นี่ มันคิดถึงมึงมากเลย มึงก็คิดถึงมันใช่มั้ย”
“ธาร…หนึ่ง…พาหนึ่งไปที่อื่นเถอะ”
เอกอัครายืนมองแฟนลูกชายตัวเองที่หม่นหมองลงทุกวัน ไม่เหลือคาบเด็กผู้ชายที่มีรอยยิ้มสดใสในวันก่อน
“อัคกี้..”
“ดินยังไม่ฟื้น เอกก็ไม่รู้จะตื่นมาเป็นเหมือนเดิมมั้ย อย่าให้หนึ่งเอาตัวเองมาผูกกับลูกกูเลย….มัน..มันแย่”
คนฟังกลอกตาก่อนจะจับร่างอีกฝ่ายให้หันมาเผชิญหน้า
“กูกับมึงยังตั้งนานถึงจะมาอยู่ด้วยกันได้ เด็กๆก็มีชีวิตของตัวเองอัคกี้…ให้พวกเขาตัดสินใจเอง”
“แต่…”
“ขนาดมึงแต่งงานไปก่อน…จนวันนี้กูยังตัดใจไม่ได้เลย สงสัยหนึ่งแม่งคงจะได้รับดวงอับโชคเรื่องความรักแบบกูไปเต็มๆ”
พูดเพื่อจะให้ขำแต่คนฟังก็รู้สึกดี…ดีที่มีคนนี้เคียงข้างๆ
“ขอบใจ”
“ยินดี…ชีวิตมึงติดหนี้กูจนหนีไปไหนไม่ได้แล้วล่ะอัคกี้”
“พี่อัครคะ คุณดิน…ฟื้นแล้วค่ะ”
วลัลลนาวิ่งออกมาจากห้องติดกัน คนฟังทั้งสองเบิกตากว้างก่อนจะรีบเข้าไปในห้องที่ตอนนี้เอกบดินทร์กำลังสะลึมสะลือเหมือนคนเพิ่งตื่น
“ลัลเรียกหมอยัง”
“เรียกแล้วค่ะพี่อัคร หมอกำลังจะมา”
ชั่วครู่ทีมแพทย์พยาบาลก็รีบเข้ามาก่อนจะรายงานว่าเอกบดินทร์กำลังจะดีขึ้นแล้ว ถึงยังไงก็พ้นขีดอันตรายมาหลายวันแล้วในที่สุดก็ฟื้นสักที
“ให้คนไข้นอนอีกสักตื่นนะครับ น่าจะดีขึ้นและให้ปากคำได้”
หมอสรุปก่อนจะเดินออกไป
“ดิน…หายไวๆนะ”
เอกอัคราเดินไปจับมือน้องชายคนเล็กแล้วบีบเบาๆ ถึงไม่ใช่สายเลือดแท้ๆแต่ก็เห็นกันตั้งแต่เล็กแต่น้อย
คนที่เพิ่งฟื้นกระพริบตาสองสามทีทว่าก็หันหน้าหนีพี่ชายตัวเองพร้อมออกแรงเบาๆให้อีกฝ่ายปล่อยมือ…คนเป็นพี่ยิ้มค้างแต่ก็ปรับสีหน้าให้ปกติบอกให้น้องพักผ่อนเบาๆก่อนจะถอยฉากออกมาให้วลัลลนาเข้าไปดูแลแทน
“อย่างน้อยดินก็ฟื้นแล้วนะ”
ธารบีบไหล่คนรักตัวเองเบาๆ
บ่ายแก่ๆเอกบดินทร์ตื่นขึ้นมาอีกครั้งคราวนี้สติสัมปชัญญะกลับมาสมบูรณ์พร้อมให้ปากคำเหตุการณ์ร้ายในคืนนั้นกับเจ้าหน้าที่โดยมีทั้งเอกอัครา วลัลลนา และธารธาราอยู่ด้วย
“ขออนุญาตครับ”
ทนายฉัตรชัยเดินเข้ามาพร้อมกระเป๋าเอกสาร
“ผมขออนุญาตอยู่ฟังด้วย เพราะเรื่องนี้อาจมีผลกระทบต่อพินัยกรรมครับ”
“แต่พินัยกรรมถูกเขียนไว้หมดแล้ว และคุณพ่อ…คุณพ่อก็เสียแล้ว ไม่ใช่หรอฉัตร”
เสียงหายไปในลำคอเมื่อคิดถึงเรื่องร้ายที่ทำให้นฤนาฏอยู่ในความเศร้าเมื่อปีก่อน
“ในกรณีที่เป็นเอกไม่ดีขึ้น…ขอโทษนะครับ…แต่ถ้าไม่หายก็เท่ากับว่าอยู่ในสถานะผู้ไร้ความสามารถตามกฎหมาย ไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจในเอกสารใดๆทั้งสิ้น … เอกต้องมีคนดูแลให้ทั้งหมด ซึ่งนั่นเราจะต้องมาคิดกันต่อ”
“ผมเข้าใจแล้ว”
“จะให้พูดได้ยัง”
คนรอให้ปากกาทำหน้ารำคาญคนมากมายที่มาห้อมล้อมตัวเอง
“คุณดินใจเย็นๆนะคะ”
วลัลลนาจับมือคนป่วยมากุมไว้แต่ก็ถูกสะบัดออก
“เริ่มเถอะ ผมเหนื่อย อยากพักไวๆ”
เรื่องทั้งหมดที่เอกบดินทร์เล่าคือตัวเองไม่ได้สนใจในกิจการครอบครัวแต่แรก แต่ไม่ชอบเอกอัคราและเอกรินทร์ที่ดูจะได้ทุกอย่างมากกว่าเอกอรุณซึ่งเขาเห็นว่ามีความสามารถแถมยังเป็นลูกแท้ๆ ยิ่งเอกอัครมาแต่งงานกับวลัลลนาก็เหมือนตบหน้าเขากับเอกอรุณที่ชอบพอวลัลลนากันทั้งคู่และยิ่งกว่านั้นคือวลัลลนาท้องลูกของเขาอยู่ ส่วนเรื่องเครื่องบินตกเขาไม่รู้เรื่องมารู้แค่ตอนแย่งสมบัติกันหลังจากเอกอัคราตาย เอกรินทร์กับเอกอรุณไม่พอใจที่หลานซึ่งไม่รู้อะไรเลยจะได้รับช่วงต่อแถมเป็นลูกเอกอัคราที่ไม่มีเชื้อสายนฤนาฏแม้แต่หยดเดียว ไม่มีใครรู้ว่าเป็นเอกเป็นลูกเขานอกจากพ่อที่เสียไปแล้วเพราะเขาเคยไปโวยวายว่าทำไมยกวลัลลนาให้พี่อัคร…เมื่อพี่ชายตัวเองจะฆ่าลูกเขายอมไม่ได้…ยอมให้ป่วยดีกว่ายอมให้ตายจึงพาเอกไปพบจิตแพทย์ที่รักษาด้วยการสะกดจิต…ผู้ป่วยส่วนมากล็อคความทรงจำเพื่อรักษาแผลใจ เขาจึงคิดว่าทำได้เหมือนกัน…แล้วไปบอกพี่อีกสองคนว่าเอกมีปัญหาทางจิต
“แต่เขาดีขึ้น ทำให้ไอ้รินมันดึงเอกมาไว้ใกล้ตัว…ที่ผมทำได้คือพยายามยักยอกเอกสารให้มาเป็นของตัวเอง เพราะถ้าผมชนะ แล้วค่อยรักษาเอก…สมบัติของผมก็ต้องเป็นของลูก ลูก…ที่มีสิทธิ์ทุกอย่าง ไอ้รินต่างหากที่ไม่มีสิทธิ์อะไรเลย พี่อัคร ผมไม่ชอบพี่เพราะพี่แย่งลัลไปแต่ผมไม่ได้อยากให้ใครตาย พี่อรุณน่ะโง่ ไอ้หมอตินนั่นก็โง่ไปหลงเชื่อไอ้ริน ไอ้คนเหี้ยที่ทำลายบ้านที่คุ้มกะลาหัวมัน”
เล่าไปก็กัดฟันกรอดด้วยความแค้น
“แล้ว…ดินจะช่วยเอกได้มั้ย ตอนนี้ลูก…ลูกของดินด้วย…ไม่ปกติ”
“เอกเป็นอะไร?”
“เอกสร้างโลกของตัวเองขึ้นมา โลกที่ตัวเองตายแล้ว”
ธารธาราชูแฟ้มการรักษาของเป็นเอกขึ้นแล้วเดินไปส่งให้เอกบดินทร์
“การล็อคความทรงจำแบบไม่ถูกวิธีทำให้ผู้ป่วยได้รับผลกระทบซึ่งเรื่องของจิตใจมันซับซ้อนและในกรณีของคุณเป็นเอกเขาสร้างโลกของตัวเองขึ้นมาและมีผลกระทบด้านการสื่อสาร ถ้าคุณพูดพาสเวิร์ดความทรงจำก็จะกลับคืน แต่อย่างที่หมอบอกนะครับ มันเป็นการล็อคความทรงจำแบบไม่ถูกวิธีเราจึงไม่สามารถวางแผนได้ล่วงหน้าว่าผู้ป่วยจะหาย หรือว่า …อาจจะแย่ลง”
คุณหมอจิตแพทย์คนใหม่สรุปในส่วนของตัวเอง
“ช่วยเอกด้วยนะคะคุณดิน.. ลูกของเรา ฮึก.. ฮือ”
ผู้หญิงคนเดียวของห้องที่หน้าซีดเผือดราวกับจะเป็นลมกุมมือผู้ชายที่สะบัดมือเธอทิ้งอีกรอบแล้วร้องไห้ปานจะขาดใจ
ตาคมสวย…หลุบมองผู้หญิงที่เขารักมานาน รักและเกลียด…แต่เขาก็ยังจำภาพเธอในตอนที่ยังสาวกว่านี้ สดใสกว่านี้ รอยยิ้ม…ที่เขาเคยสัญญาจะรักษาไว้ แม้มันจะค่อยๆหายไปตามกาลเวลากลายเป็นผู้หญิงที่มีใบหน้าหม่นหมองและร้องไห้ต่อหน้าเขา
“พาผมไป”
หกเดือนต่อมา…
“อยากไปเที่ยวไหนมั้ย? เมืองนอกหรือในประเทศ?”
ผู้ชายคิ้วเข้มกุมมือขาวซีดของคนที่นอนอยู่บนเตียง มือที่เริ่มอุ่นเพราะการกุมมือ…
“มึงนี่น้ามือเย็นตลอด ต้องให้กูจับไว้จะได้ตัวอุ่นๆ”
คนป่วยยังคงอยู่ในนิทรา ไม่ได้ตื่นมาฟังหรือทำหน้าเอือมระอาแบบที่ชอบทำเวลาโดนบ่น
“วันนี้ไปฝึกงานมาเหมือนเดิม ก็ดี ยากดี คิดว่าจะไม่ทำงานสายนี้แล้ว กูว่ากูไม่ได้ชอบมันขนาดนั้น…อืมมกูว่าจะมาทำร้านเค้กต่อ
จากพี่ทัยดีกว่า พี่ทัยจะย้ายตามแฟนไปอยู่นอก ไปเปิดสาขาทางยุโรป…กูทำร้านเค้กมึงน่าจะชอบ จะได้กินเค้กทุกวันไง เอาให้แม่งอ้วนไปเลย”
มือหนายกขึ้นไล้ไปตามแก้วขาวซีดช้าๆแล้วบีบเบาๆ
“แฟนเพจบ้าบอไรของมึงกับกูน่ะ … วันก่อนกูเข้าไปดู แม่งก็ยังอัพรูปเราทั้งๆที่หนุ่มหล่อมหาลัยมันทำโพลใหม่ไปแล้ว แม่งไอ้หน้าจืดที่มาแทนกูไม่เห็นหล่อ แล้วไหงมึงได้ที่สองเหมือนเดิมวะ?”
พูดไปก็กัดฟันไปด้วยความเซ็ง
“เพราะมึงไม่หล่อ”
เสียงแหบพร่าของคนพึ่งตื่นทำเอาคนหล่อตกอันดับเบิกตากว้างรีบรินน้ำใส่แก้วปักหลอดให้อีกฝ่าย
“ตื่นสายจัง กูมารอตั้งนาน”
“ใครบอกให้มา”
ไอ้นี่…ตื่นมาก็กวนตีนไม่น่ามาเฝ้าแม่ง
“ใครมึงบ้าไปขับบิ๊กไบท์ตากฝนจนไข้ขึ้น?”
“ก็ใครบอกให้ไปหาไวๆ”
เพราะคนฝึกงานไม่ค่อยมีเวลาจึงนัดกินข้าวในวันที่อุตส่าห์ว่างตรงกัน แล้วฝนดันตกระหว่างทางถ้ารอให้หยุดก็คงกินเวลานานเพราะมันหน้าฝนแล้ว…เลยฝ่าฝนไปซะเลย สุดท้ายก็…เข้าโรงบาล
“เออกูมันผิดตลอด”
“พาเจ๋งไปสปามายัง”
คิ้วเข้มกระตุกก่อนจะกัดฟันกรอดอีกรอบ ไอ้หมาอ้วนนั่น! ไม่สิ ไอ้แฟนเขานี่แหละ!!! แม่งพอหายจากคราวนั้นมันก็สารภาพว่าไปสมัครคอร์สสปาหมา ฝึกหมา อะไรต่อมิอะไรไว้เพียบแล้วบังคับให้เขาพาไอ้เจ๋งไปทำให้ครบคอร์ส
‘แล้วทำไมต้องเป็นกู มึงก็ไปดิ’
‘หมามึง’
‘แต่มึงสมัคร’
‘หมามึง’
‘กูว่ามันเยอะไป’
‘หมามึง’
‘เออไอ้เหี้ย!!’
“คิ้วขมวด”
คนป่วยยกมือดีดหน้าผากคนหน้าเครียดเบาๆ
“ก่อนมาพามันไปทิ้งไว้สปาแล้ว ห่วงแต่หมา จะถามว่ากูแดกข้าวยังสักคำก็ไม่ได้”
“อยากกินอาหารญี่ปุ่น”
“กูไม่ได้ถาม”
“ไปกินกัน”
“อะไร ชวนไรกู”
“อยากกินด้วย”
คำพูดตรงๆ พร้อมรอยยิ้มจางทำเอาคนฟังหน้าเห่อร้อนด้วยความเขินยกมือเกาหัวแกรกๆ..เต็งหนึ่งก็ยังเหมือนเดิม เขินง่าย…
“ใครจะไปอยากกินกับมึง”
แถไปเรื่อย…
“ไม่อยากกินก็ไปยืนรอหน้าร้าน”
เล่นตัวมากนักก็ไปยืนเกาะกระจก! เป็นเอกยักคิ้วกวน
“สัส กินก็ได้!! หายไวๆเหอะแล้วเดี๋ยวพาไปกิน”
“หายแล้ว”
เต็งหนึ่งกอดอกทำหน้าเอือมระอา คนที่บอกว่าหายแล้วดันหาววอดๆเหมือนจะหลับอีกรอบ
“นอนพักไป จะได้หายไวๆ”
“คุยแปปเดียวเอง”
ยังอยากคุยอีก…เมื่อเช้าตื่นมาไม่เจอเต็งหนึ่ง…เหงา
“ตื่นมาก็เจอกู พรุ่งนี้วันเสาร์ไม่มีฝึกงาน ว่างมาเล่นกับมึงทั้งวัน”
ยื่นมือไปกุมมือซีดไว้แล้วบีบเบาๆ
“อื้อ”
ยอมให้อีกฝ่ายดึงผ้าห่มคลุมให้ดีๆ
“จุ้บ”
เตือน
“คร้าบๆ”
คนตัวหนาก้มหน้าลงประทับจูบเบาๆที่หน้าผากซีดก่อนจะเลื่อนลงมาแตะแผ่วเบาที่กลีบปากบาง…ก่อนจะงับเบาๆและสอดลิ้นเข้าไปหยอกล้อกับลิ้นคนป่วยเชื่องช้า..แล้วผละออก
จูบนุ่มนวล…ไม่ดื้อดึง
“ฝันดีเป็นเอก”
ปลายจมูกหอมฟอดไปที่แก้มเนียนทั้งสองข้าง
“อื้อ…”
แล้วเป็นเอกก็หลับอีกครั้ง…ผ่านไปสักพักผู้ชายที่เคยนั่งข้างเตียงก็เปลี่ยนไปนอนทิ้งตัวบนโซฟาเดเบด…หลับไปพร้อมๆกัน
TR…RRRRRRRRR…
เสียงโทรศัพท์แผดเสียงลั่นจนคนพึ่งกลับรีบสะดุ้งตื่นมารับเพราะกลัวเสียงโทรศัพท์ตัวเองจะปลุกคนป่วย
“ครับ!!”
“ผู้ปกครองน้องอ้วนมารับน้องอ้วนด้วยค่า สปาจะปิดแล้วค่า ตอนนี้น้องอ้วนร้องไห้งอแงไม่ยอมกินข้าวด้วยค่า ว้ายน้องอ้วนน้ำลายหกกก!! คุณผู้ปกครองค้าตอนนี้น้องอ้วนร้องไห้จนลิ้นห้อยน้ำหลายหยดแหมะๆลงพื้นแล้วค่า”
“ผมจะไปเดี๋ยวนี้ครับ!!”
ไอ้เจ๋งหรือน้องอ้วนตามใบลงทะเบียนที่ไอ้เอกมันไปเขียนชื่อหมา!!
โธ่เจ๋งลูกพ่อร้องไห้จนน้ำลายไหลเลยหรอลูก!!!!
“เอก กูไปรับลูกก่อนนะ”
ลุกไปจุ้บหน้าผากหม่ามี้ไอ้อ้วนก่อนจะรีบวิ่งออกไป…
ชีวิตเต็งหนึ่งไม่ง่ายจริงๆ…
TR…RRRRRRRRR…
“คุณผู้ปกครองน้องอ้วนค้า น้องอ้วนไปปล้ำน้องจีจี้หมาชิสุของ ผอ.โรงพยาบาลค้า !! ผอ. ไม่ยอมให้รีบตามมารับผิดชอบค่า!! รีบมานะค้า”
ไอ้เชี่ยเจ๋ง!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
มึงไปปล้ำเค้าทำมายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย !!!
แล้วหมา ผอ. โรงบาลแม่งจะคิดค่าสินสอดเท่าไหร่เนี่ย!! ชิสุกับบลูด๊อกลูกออกมาจะเป็นยังไงวะห้ะ!!!
-END-
===================================================
มันจบแล้วจริงๆนะ ... - .- หลังจากนั้นจะเป็นตอนพิเศษนะ -...- ไปหวานละมุนพริ้มละไมกันต่อตอนพิเศษนะเคอะ
ขอบคุณทุกท่านที่อยู่กับเป็นเอกมาหลายเดือน อาจจะดูตัดจบห้วนไปหน่อยแต่...แบมเป็นพวกจบห้วนมาแต่ไหนแต่ไรเพราะลงไม่ค่อยเป็น ฮือออออออออออ เรื่องไหนก็จบห้วนไปหน่อย แหะๆ
ถ้าเป็นไปได้ก่อนรวมเล่มจะพยายามแก้ไขตอนจบเป็นเอกให้มันสมูทกว่านี้นะคะ อาจจะต้องเพิ่มตอน แต่ถ้าแบมยังแก้ความห้วนตัวเองไม่ได้...เอาเป็นว่าเราจะไปแก้ตัวตอนพิเศษพร้อมฟินแทนนะค้า >_<
แต่ตอนพิเศษจะลงแค่บางตอนนะค้า อีกมากมายมหาศาลจะไปลงในเล่ม...
สัญญาว่าตอนรวมเล่มจะมีตอนพิเศษเยอะกว่าเรื่องอื่นที่เคยแต่งมา -....- เชื่อเรานะ เชื่อเรา คิคิ
ปล. เนื้อหาในเว็บกับในเล่มอาจจะแตกต่างกันนิดนึง เพราะตอนรวมเล่มจะพยายามทำให้เนื้อเรื่องมันอ่านสมูทมากกว่าเดิมน้ะก้ะ
ปล2 มีหลายตอนที่บอกเนื้อหาดูสั้น >_< จริงๆมาตรฐานแต่ละตอนของเรื่องนี้คือตอนนึงจะมีเจ็ดหน้าครึ่ง-แปดหน้าเอสี่ ถ้าตอนไหนยาวแสดงว่าแบมพิมพ์มันส์ไปหน่อยมันเลยยาวไปถึงเก้าถึงสิบ บางตอนก็สิบเอ็ด แหะๆ -...- ตอนไหนสั้นแสดงว่าเจ็ดหน้าครึ่งนะคะ 555555555