Never last, Never end, รักสุดหัวใจแต่บทที่ได้คือ“ตัวประกอบ” พิเศษ "ยอดดวงใจ 26 Jan 12 P44
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Never last, Never end, รักสุดหัวใจแต่บทที่ได้คือ“ตัวประกอบ” พิเศษ "ยอดดวงใจ 26 Jan 12 P44  (อ่าน 252349 ครั้ง)

ออฟไลน์ vascular

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 412
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-2
อ่านมาตั้งแต่ นาย กับ หลวง และ เรื่องนี้ ก็ตามอ่านมาจนจบเช่นกัน ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆทั้งสองเรื่องครับ อ่านตอนจบแล้ว แอบสงสารตัวละครทุกตัวจริงๆ ทั้งนาย ทั้ง หลวง  ต้อม ซัน ทุกคนล้วนมีปมในใจที่แอบเศร้ากันหมด แต่ก็ยังดี ที่จบแบบทุกคนสมหวังลงตัว  o13

ออฟไลน์ different

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 231
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-1
ยังหมั่นไส้ต้อมอยู่เลยอ่ะ
ตามซันบ้างเด้ รอซันบ้างเฮ้ย  :angry2:

Isun

  • บุคคลทั่วไป
ตกใจ นึกว่า อ่านข้ามตอน ตัดตอนจบเร็วมากกกกกกกกก

ซึ้งดี แต่หลัง ๆ นี้รู้สึกมันขาด ๆ หาย ๆๆ อะ ยิ่งช่วงที่ ต้อม กะ วันคบกัน หายไปหมดเลย

ดผล่มาก็รักกันวะละ เซ็ง ๆๆ

ออฟไลน์ penda

  • ~~^v^~~
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
My Commend. Never last, Never end, รักสุดหัวใจแต่บทที่ได้คือ“ตัวประกอบ”

        อ่า...จบแล้วสินะ  จบแล้ว  ความรู้สึกตอนที่อ่านจบบอกตามตรงว่าบรรยายไม่ถูกเลยจริงๆ  มันหลากหลายอารมณ์  หลากหลายความรู้สึก  แต่จะพยายามค่อยๆกลั่นกรองมันออกมาเป็นตัวหนังสือให้ได้  (แต่ถ้าเขียนออกแล้วคงจะเขียนยาวเลย  แฮ่ๆ)

        ตอนอ่านช่วงต้นของ S End… ความรู้สึกมันหนัก  ไม่ใช่หนักแบบกดดัน  จะบอกว่าซึ้งก็ไม่ใช่  มันอัดอั้นเหมือนมีอะไรจุกอยู่ที่คอ  มันบอกไม่ถูก  แต่น้ำตาปริ่มอยู่ขอบตาตลอด(อินมากอ่ะนะ)  แล้วก็ประทับใจตรงฉากที่ต้อมกลับเมืองไทย  ฉากที่ไปตามสถานที่ต่างๆในความทรงจำจนกลับมาที่บ้าน  แล้วพอมาถึงฉากเปิดใจกับพี่นาย  จากน้ำตาปริ่มขอบตาที่หายไปแล้วก็เขื่อนแตกน้ำตาไหลพรากสะอื้นเลย  เป็นฉากที่หนักมากๆอีกฉากหนักกว่าช่วงแรก  อ่านแล้วเหนื่อยมากตอนนี้  แต่สุดท้ายเรื่องค้างคาใจก็เคลียร์ลงได้  จนมาฉากที่ต้อมไปหาซัน  เป็นฉากที่ทำให้ได้อมยิ้มกับความน่ารักของทั้งสองคน  เหมือนเป็นฉากปลอบใจคนอ่านที่เจอดราม่ามาก่อนหน้านี้เลย  รู้สึกว่าเรื่องนี้เป็นนิยายที่ดูสมจริงมากๆ  พอๆกับเรื่อง“เมื่อผมรับบทเป็นนางร้าย”เลย  แต่พี่อิ๊กกี้(ขอตีซี้เรียกพี่เลยแล้วกัน  ตอนเม้นเรื่องนางร้ายเรียกคุณ  แฮ่ๆ)  พี่บอกว่าเรื่องนี้มันเป็นแนวคอมเมดี้ไม่ใช่หรอคะ  หนูอ่านแล้วไม่ค่อยรู้สึกถึงคอมเมดี้เลย  TT^TT  น้ำตาร่วงหลายตอนเลย  เพราะซันบ้าง  เพราะต้อมบ้าง  แต่ก็เป็นนิยายดีๆอีกเรื่องที่ควรค่าแก่การจดจำนะคะ 

        แล้วหนูก็ยังคงคอนเซพเดิม  คืออ่านแล้วมีความรู้สึกสองแง่ที่ขัดแย้งกัน  คือทั้งเข้าใจและไม่เข้าใจในความรู้สึกของตัวละคร  แต่ก็นะความรู้สึกของใครก็ของมัน  เราคงไม่มีทางเข้าใจความรู้สึกของคนอื่นได้อย่างถ่องแท้ทั้งหมดหรอก  แม้จะเป็นแค่ตัวละครก็ตาม  (บางที่แม้ความรู้สึกของตัวเองคนเรายังไม่เข้าใจมันเลย)  ขอยกตัวอย่างสักหน่อย
**********************************
“พี่รู้ได้ไง ใครบอก”
“เอาเป็นว่าพี่พอจะรู้ก็แล้วกันต้อม เห็นไหมพี่เคยบอกแล้วเวลานำพาทุกอย่างไป ทุกอย่างจริงๆ”
ประโยคสุดท้ายน้ำเสียงของเขาอ่อนแรงลงมากครับ อ่อนแรงจนผมเองสะท้อนใจ

ตรงนี้อ่านแล้วทำให้รู้ว่า  แม้จะผ่านมาห้าปีแล้ว  แต่ความรู้สึกของพี่นายยังคงรักต้อม  แม้จะดูว่าไม่น่าจะเป็นคนที่ฝังใจกับเรื่องนี้นานขนาดนี้  แต่แล้วก็คิดได้ว่าพี่นายก็เป็นคนที่จริงจังคนหนึ่งเหมือนกัน  ไม่ได้เอาแต่เล่นไปวันๆสักหน่อย  แล้วยิ่งกับคนที่มีความรู้สึกดีๆ  รู้สึกรักด้วยแล้ว  ยิ่งเป็นไปได้ยากที่จะลืมหรือตัดใจได้ขาด  แล้วก็ยังมีอีกหลายฉากที่มีความรู้สึกสองแง่แบบนี้  ทั้งเข้าใจและไม่เข้าใจ  ซึ่งก็เป็นฉากหรือประโยคที่แสดงอารมณ์ความรู้สึกของตัวละครออกมา
**********************************
“พี่ เลวมาก”
“ต้อม”
เขาอ้าปากค้างครับ ผมเองก็ไม่รู้ว่าพูดแบบนั้น คำนั้นออกไปได้ยังไง แต่พอพูดแล้วถึงรู้ว่าผมพูดเกินไป

ตอนนี้ที่ต้อมพลั้งปากไป  เป็นฉากที่สะเทือนใจมาก  คนอ่านอย่างเราอ่านแล้วยังอึ้งเลย  แล้วถ้าเป็นพี่นายที่เจอเข้าเองจริงๆจะเป็นยังไง  เข้าใจเลย  ทั้งอึ้งทั้งเสียใจ  พูดไม่ออกคิดอะไรไม่ออกเลย  สะเทือนใจมากฉากนี้  หนูเลยสะอื้นซะชุดใหญ่เลย  แฮ่ะๆ

แล้วก็ติดใจประโยคจบที่สุด
**********************************
มันยิ้มครับแล้วโผเข้ามากอดผม ผมเองก็กอดมัน อยู่ตรงนี้ล่ะนะซัน อยู่ตรงอ้อมกอดกูนี่ล่ะนะอย่าไปไหน ที่ผ่านมากูเห็นแก่ตัวมาเยอะแล้ว วันนี้ ตอนนี้ ต่อจากนี้ กูจะกอดแค่มึง มีแค่มึงอยู่ในใจคนเดียว มึงคือความรักที่มันเป็นชีวิตจริง เรื่องจริงที่กูจะก้าวเดินไปกับมึง ส่วนความในใจที่มันยังคงอยู่ไม่เลือนหายไป มันก็ยังจะคงอยู่อย่างนั้น เป็นความในใจที่ไม่อาจจะบอกใครแม้แต่ตัวของกูเอง

                                            *-E N D-*

สรุปช่วงสุดท้ายเป็นบทสรุปที่เคลียร์และซึ้ง  แต่ก็แอบเศร้าประโยคสุดท้าย(ส่วนความในใจที่มันยังคงอยู่ไม่เลือนหายไป มันก็ยังจะคงอยู่อย่างนั้น เป็นความในใจที่ไม่อาจจะบอกใครแม้แต่ตัวของกูเอง)  แต่เมื่อเวลาผ่านไปมันจะเป็นความทรงจำที่มีค่าและเราจะยิ้มออกมาได้เมื่อหวนคิดถึงมัน  ไม่ใช้ยิ้มที่ฝืนทำ  ไม่ใช่ยิ้มที่เศร้าด้วยจำยอม  แต่จะเป็นยิ้มที่ประทับใจในความทรงจำเหล่านั้น

        แล้วที่บอกว่าติดใจที่สุดที่ประโยคจบ(ส่วนความในใจที่มันยังคงอยู่ไม่เลือนหายไป มันก็ยังจะคงอยู่อย่างนั้น เป็นความในใจที่ไม่อาจจะบอกใครแม้แต่ตัวของกูเอง)  สุดท้าย...ทำไมถึงเอ่ยถึงพี่นายคนที่อยู่ในใจเป็นประโยคจบ  มันทำให้รู้สึกว่าต้อมมีใจให้พี่นายมากกว่า  สำคัญกว่ายังไงไม่รู้(ไม่รู้ว่ามีใครรู้สึกเหมือนกันไหม)  น่าจะเอ่ยถึงซันเป็นประโยคจบ  อยากจะให้เป็นอย่างนั้น  แต่ในส่วนนี้ไม่ได้ติอะไรนะคะ  เพราะมันเป็นความคิดของคนเขียนนิยายเรื่องนี้  ซึ่งอาจมีจุดประสงค์หรือต้องการจะสื่อถึงอะไรออกมา  เพียงแต่มันเป็นความรู้สึกส่วนตัวเวลาที่อ่านตอนนี้เท่านั้น

        สุดท้ายและท้ายสุดจริงๆ  ประโยคที่บอกว่า “เก็บอยู่ในส่วนลึกของใจ, ลึกสุดใจ, ก้นบึ้งของใจ” มันเป็นประโยคเรียกน้ำตาสำหรับหนูเลยค่ะพี่อิ๊กกี้  เจอแล้วน้ำตายิ่งร่วงหนักกว่าเดิมเลย  นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ดีอีกเรื่องนึง  แม้ว่าเนื้อเนื่องและการดำเนินเรื่องจะดูราบเรียบ  แต่เนื้อหาสาระดีมากและสมจริงมากจนอดคิดไม่ได้ว่า  มันเป็นเรื่องราวของใครรึเปล่านะ  ชอบเรื่องนี้มากๆ  ประทับใจหลายๆอย่าง  ขอบคุณพี่อิ๊กกี้ที่เขียนนิยายเรื่องนี้  ถ่ายทอดเรื่องราวดีๆของตัวละครออกมาให้พวกเราได้อ่านและประทับใจไปกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นและเป็นไปของตัวละคร  ขอบคุณมากๆค่ะ ^_^ 

 :L2: :pig4: :L2:

ออฟไลน์ barahi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 270
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
จบแล้วสินะนิยายที่รอคอยอีกเรื่อง แอบใจหาย พึ่งอ่านจบใหม่ๆตอนนี้พูดอะไรไม่ออก คิดถึงตัวละครมาก แอบสะท้อนใจและใจหาย
เห็นใจพี่หลวง เห็นใจพี่นาย เห็นใจซัน และก็เห็นใจต้อม มันจุกหน่วงๆบอกไม่ถูกจริงๆ แต่ก็ขอบคุณนะครับพี่อิ๊กกี้ ขอตอนพิเศษจัดมาเยอะๆนะครับ เป็นนิยายอีกเรื่องที่รักมาก ^^

ปล.ไหนตอนแรกบอกว่าเป็นแบบคอมเมดี้ เล่นชะนั่งลุ่นนั่งเคลียดเกือบทั้งเรื่อง เอาNC มาไถ่เลยนะครับ หึหึ
ปล.2  คิดถึง  พี่ปริ้นนนนนนนนนนนนนนนนนนนน  เทวดาตัวน้อยของผม

 :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4:

ออฟไลน์ bytoey

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 865
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +197/-3
นีแหละคือชีวิตจริงของมนุษย์
บางครั้งคนที่เรารักที่สุด กลับไม่ใช่คนที่เราสามารถใช้ชีวิตอยู่ด้วยได้..

เขียนได้แบบว่า ชอบมากเลยอะคะ
ปล.จัดNCน้องต้อมกะน้องซันให้หน่อยสิค่ะ อิอิ รออยู่ :z1:

ออฟไลน์ som

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2708
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +230/-2

ออฟไลน์ eiky

  • Played Me!!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1760/-3
My Commend. Never last, Never end, รักสุดหัวใจแต่บทที่ได้คือ“ตัวประกอบ”

        อ่า...จบแล้วสินะ  จบแล้ว  ความรู้สึกตอนที่อ่านจบบอกตามตรงว่าบรรยายไม่ถูกเลยจริงๆ  มันหลากหลายอารมณ์  หลากหลายความรู้สึก  แต่จะพยายามค่อยๆกลั่นกรองมันออกมาเป็นตัวหนังสือให้ได้  (แต่ถ้าเขียนออกแล้วคงจะเขียนยาวเลย  แฮ่ๆ)

        ตอนอ่านช่วงต้นของ S End… ความรู้สึกมันหนัก  ไม่ใช่หนักแบบกดดัน  จะบอกว่าซึ้งก็ไม่ใช่  มันอัดอั้นเหมือนมีอะไรจุกอยู่ที่คอ  มันบอกไม่ถูก  แต่น้ำตาปริ่มอยู่ขอบตาตลอด(อินมากอ่ะนะ)  แล้วก็ประทับใจตรงฉากที่ต้อมกลับเมืองไทย  ฉากที่ไปตามสถานที่ต่างๆในความทรงจำจนกลับมาที่บ้าน  แล้วพอมาถึงฉากเปิดใจกับพี่นาย  จากน้ำตาปริ่มขอบตาที่หายไปแล้วก็เขื่อนแตกน้ำตาไหลพรากสะอื้นเลย  เป็นฉากที่หนักมากๆอีกฉากหนักกว่าช่วงแรก  อ่านแล้วเหนื่อยมากตอนนี้  แต่สุดท้ายเรื่องค้างคาใจก็เคลียร์ลงได้  จนมาฉากที่ต้อมไปหาซัน  เป็นฉากที่ทำให้ได้อมยิ้มกับความน่ารักของทั้งสองคน  เหมือนเป็นฉากปลอบใจคนอ่านที่เจอดราม่ามาก่อนหน้านี้เลย  รู้สึกว่าเรื่องนี้เป็นนิยายที่ดูสมจริงมากๆ  พอๆกับเรื่อง“เมื่อผมรับบทเป็นนางร้าย”เลย  แต่พี่อิ๊กกี้(ขอตีซี้เรียกพี่เลยแล้วกัน  ตอนเม้นเรื่องนางร้ายเรียกคุณ  แฮ่ๆ)  พี่บอกว่าเรื่องนี้มันเป็นแนวคอมเมดี้ไม่ใช่หรอคะ  หนูอ่านแล้วไม่ค่อยรู้สึกถึงคอมเมดี้เลย  TT^TT  น้ำตาร่วงหลายตอนเลย  เพราะซันบ้าง  เพราะต้อมบ้าง  แต่ก็เป็นนิยายดีๆอีกเรื่องที่ควรค่าแก่การจดจำนะคะ 

        แล้วหนูก็ยังคงคอนเซพเดิม  คืออ่านแล้วมีความรู้สึกสองแง่ที่ขัดแย้งกัน  คือทั้งเข้าใจและไม่เข้าใจในความรู้สึกของตัวละคร  แต่ก็นะความรู้สึกของใครก็ของมัน  เราคงไม่มีทางเข้าใจความรู้สึกของคนอื่นได้อย่างถ่องแท้ทั้งหมดหรอก  แม้จะเป็นแค่ตัวละครก็ตาม  (บางที่แม้ความรู้สึกของตัวเองคนเรายังไม่เข้าใจมันเลย)  ขอยกตัวอย่างสักหน่อย
**********************************
“พี่รู้ได้ไง ใครบอก”
“เอาเป็นว่าพี่พอจะรู้ก็แล้วกันต้อม เห็นไหมพี่เคยบอกแล้วเวลานำพาทุกอย่างไป ทุกอย่างจริงๆ”
ประโยคสุดท้ายน้ำเสียงของเขาอ่อนแรงลงมากครับ อ่อนแรงจนผมเองสะท้อนใจ

ตรงนี้อ่านแล้วทำให้รู้ว่า  แม้จะผ่านมาห้าปีแล้ว  แต่ความรู้สึกของพี่นายยังคงรักต้อม  แม้จะดูว่าไม่น่าจะเป็นคนที่ฝังใจกับเรื่องนี้นานขนาดนี้  แต่แล้วก็คิดได้ว่าพี่นายก็เป็นคนที่จริงจังคนหนึ่งเหมือนกัน  ไม่ได้เอาแต่เล่นไปวันๆสักหน่อย  แล้วยิ่งกับคนที่มีความรู้สึกดีๆ  รู้สึกรักด้วยแล้ว  ยิ่งเป็นไปได้ยากที่จะลืมหรือตัดใจได้ขาด  แล้วก็ยังมีอีกหลายฉากที่มีความรู้สึกสองแง่แบบนี้  ทั้งเข้าใจและไม่เข้าใจ  ซึ่งก็เป็นฉากหรือประโยคที่แสดงอารมณ์ความรู้สึกของตัวละครออกมา
**********************************
“พี่ เลวมาก”
“ต้อม”
เขาอ้าปากค้างครับ ผมเองก็ไม่รู้ว่าพูดแบบนั้น คำนั้นออกไปได้ยังไง แต่พอพูดแล้วถึงรู้ว่าผมพูดเกินไป

ตอนนี้ที่ต้อมพลั้งปากไป  เป็นฉากที่สะเทือนใจมาก  คนอ่านอย่างเราอ่านแล้วยังอึ้งเลย  แล้วถ้าเป็นพี่นายที่เจอเข้าเองจริงๆจะเป็นยังไง  เข้าใจเลย  ทั้งอึ้งทั้งเสียใจ  พูดไม่ออกคิดอะไรไม่ออกเลย  สะเทือนใจมากฉากนี้  หนูเลยสะอื้นซะชุดใหญ่เลย  แฮ่ะๆ

แล้วก็ติดใจประโยคจบที่สุด
**********************************
มันยิ้มครับแล้วโผเข้ามากอดผม ผมเองก็กอดมัน อยู่ตรงนี้ล่ะนะซัน อยู่ตรงอ้อมกอดกูนี่ล่ะนะอย่าไปไหน ที่ผ่านมากูเห็นแก่ตัวมาเยอะแล้ว วันนี้ ตอนนี้ ต่อจากนี้ กูจะกอดแค่มึง มีแค่มึงอยู่ในใจคนเดียว มึงคือความรักที่มันเป็นชีวิตจริง เรื่องจริงที่กูจะก้าวเดินไปกับมึง ส่วนความในใจที่มันยังคงอยู่ไม่เลือนหายไป มันก็ยังจะคงอยู่อย่างนั้น เป็นความในใจที่ไม่อาจจะบอกใครแม้แต่ตัวของกูเอง

                                            *-E N D-*

สรุปช่วงสุดท้ายเป็นบทสรุปที่เคลียร์และซึ้ง  แต่ก็แอบเศร้าประโยคสุดท้าย(ส่วนความในใจที่มันยังคงอยู่ไม่เลือนหายไป มันก็ยังจะคงอยู่อย่างนั้น เป็นความในใจที่ไม่อาจจะบอกใครแม้แต่ตัวของกูเอง)  แต่เมื่อเวลาผ่านไปมันจะเป็นความทรงจำที่มีค่าและเราจะยิ้มออกมาได้เมื่อหวนคิดถึงมัน  ไม่ใช้ยิ้มที่ฝืนทำ  ไม่ใช่ยิ้มที่เศร้าด้วยจำยอม  แต่จะเป็นยิ้มที่ประทับใจในความทรงจำเหล่านั้น

        แล้วที่บอกว่าติดใจที่สุดที่ประโยคจบ(ส่วนความในใจที่มันยังคงอยู่ไม่เลือนหายไป มันก็ยังจะคงอยู่อย่างนั้น เป็นความในใจที่ไม่อาจจะบอกใครแม้แต่ตัวของกูเอง)  สุดท้าย...ทำไมถึงเอ่ยถึงพี่นายคนที่อยู่ในใจเป็นประโยคจบ  มันทำให้รู้สึกว่าต้อมมีใจให้พี่นายมากกว่า  สำคัญกว่ายังไงไม่รู้(ไม่รู้ว่ามีใครรู้สึกเหมือนกันไหม)  น่าจะเอ่ยถึงซันเป็นประโยคจบ  อยากจะให้เป็นอย่างนั้น  แต่ในส่วนนี้ไม่ได้ติอะไรนะคะ  เพราะมันเป็นความคิดของคนเขียนนิยายเรื่องนี้  ซึ่งอาจมีจุดประสงค์หรือต้องการจะสื่อถึงอะไรออกมา  เพียงแต่มันเป็นความรู้สึกส่วนตัวเวลาที่อ่านตอนนี้เท่านั้น

        สุดท้ายและท้ายสุดจริงๆ  ประโยคที่บอกว่า “เก็บอยู่ในส่วนลึกของใจ, ลึกสุดใจ, ก้นบึ้งของใจ” มันเป็นประโยคเรียกน้ำตาสำหรับหนูเลยค่ะพี่อิ๊กกี้  เจอแล้วน้ำตายิ่งร่วงหนักกว่าเดิมเลย  นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ดีอีกเรื่องนึง  แม้ว่าเนื้อเนื่องและการดำเนินเรื่องจะดูราบเรียบ  แต่เนื้อหาสาระดีมากและสมจริงมากจนอดคิดไม่ได้ว่า  มันเป็นเรื่องราวของใครรึเปล่านะ  ชอบเรื่องนี้มากๆ  ประทับใจหลายๆอย่าง  ขอบคุณพี่อิ๊กกี้ที่เขียนนิยายเรื่องนี้  ถ่ายทอดเรื่องราวดีๆของตัวละครออกมาให้พวกเราได้อ่านและประทับใจไปกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นและเป็นไปของตัวละคร  ขอบคุณมากๆค่ะ ^_^ 

 :L2: :pig4: :L2:

ขอบคุณมากๆครับที่อ่านอย่างละเอียด รู้สึกว่าจะเป็นคนที่มองอะไรที่ผมซ่อนเอาไว้ได้แตกคนหนึ่ง อิอิ
อย่างที่บอกว่าตอนแรกตั้งใจจะเขียนให้เป็นคอมเมดี้ แต่ว่าผมก็ปูทางเอาไว้เขียนเรื่องที่ผมค้างคาใจ
ก็เรื่องนางร้ายนั่นล่ะครับ ที่จริงมันไมได้ตามพล็อตเสียทุกอย่าง แหะๆ ผมปรับเปลี่ยนนิดนห่อย ไม่หน่อยล่ะมากเลยทีเดียว
ที่จริงมันไม่ได้จะออกมาในรูปแบบนี้หรอกครับ ขอโทษเพื่อนๆที่ติดตามด้วยที่เพิ่งจะมาบอก

แต่เพราะเครียดเรื่องนางร้ายจริงๆตอนเขียน เลยพยายามเอาปมทุกอย่างมาคลายๆในเรื่องนี้
และอีกอย่างเรื่องนี้ไม่ได้ตั้งใจจะให้เป็นภาคต่อของนางร้าย เพราะคนละแนว ซันเป็นคนที่ปั้นเขาขึ้นมาโดยที่ไม่มีบทให้ ใจร้ายเนอะ
แต่เอาเป็นว่าขอบคุณมากๆครับ ที่อ่านโดยตั้งใจและใส่ใจ

ขอบคุณมากๆครับ และหวังว่าจะติดตามเรื่องต่อๆไปนะคร้าบ

ผลงานของผมโพสต์ที่นี่ที่เดียว ไม่ได้มีจุดประสงค์อยากจะโด่งดังหรือขายผลงานอะไรนะครับ
ผมเขียนเพราะว่าง ปกติชอบเขียนกลอนเล่นๆ แต่เขียนไเขียนมาเป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมาได้
พอมีเป็นเรื่องก็อยากจะเก็บเป็นเล่มเอาไว้ให้ลุกหลานดู ว่ามันมีญาติที่เพ้อได้ขนาดนี้ แว้กกก

ขอบคุณมากๆครับ ทุกคำติชม ขอบคุณจากใจ

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
คิดถึงซันเน่กับต้อมจังเลย
อยากอ่านตอนพิเศษ :กอด1:

supreme

  • บุคคลทั่วไป
อ่าาา จบแล้ว ซึ้งมากกกก
เป็นกำลังใจให้พี่เสมอนะค่ะ ไม่มีฉากอย่างว่าแต่มันก็เป็นอะไรที่อ่านแล้วมมีความสุขมากๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ zombi

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-5
จบได้ดี
แต่แอบขัดใจแม่ยกต้อม-นาย

ออฟไลน์ S_za

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 334
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
คุณอิ๊กรู้ไหมคะว่าดีใจมากที่หาภาคต่อเรื่องนี้เจอ :กอด1: :L2:

เพราะค้นหานิยายที่คุณอิ๊กแต่งทุกเรื่องเลยค่ะ

และครีมก็งมโข่งไปอ่านเรื่องอื่นไปอีกตั้งมากมาย

(ที่อ่านเรื่องอื่นหมายถึงอ่านของคุณอิ๊กนะคะ)

จบเมื่องผมรับทบเป็นนางร้ายก็ไปต่อน้องญี่ปุ่นเลยไปที่นี้ไม่มีนายเอก

กว่าจะหาเรื่องนี้เจอครีมสุ่มมั่วหาค้นนิยายที่แต่งโดยคุณอิ๊ก

จนไปเจอรายชื่อประกาศ SengPed  Award  2010  ครั้งที่4

ถึงได้เจอเรื่องนี้โดยบังเอิน...ดีใจมากค่ะ :L2: :3123: :L1:

จะหาว่าบ้าหรือเปล่าเพราะยังไม่ได้อ่านแต่เข้ามาเม้นเลย

คืนนี้ขออ่านให้หนำใจเลยนะคะขอบคุณ...คุณอิ๊กที่แต่งนิยายดีๆๆออกมาให้อ่านนะคะ

 :L2: :L2: :L2:
 :กอด1:


ออฟไลน์ jimmyFG

  • Ich Liebe dich.
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2276
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +203/-4
    • @Facebook

FriendShip

  • บุคคลทั่วไป
จบแล้ววววววววววว
อ่านแต่ละตอนลุ้นมาก มันบีบๆยังไงไม่รู้
ต้อมซัน น่ารักมากกกก กว่าจะรักกันได้ 555
สนุกมากๆคะ ^^

IamFe

  • บุคคลทั่วไป
สงสารต้อม กับ น้างร้ายอ่ะ
ถึงจะไม่ได้รักกัน แต่ก้อยังเป็นความทรงจำของหัวใจ
.
.
.
ออกแนวรักแห่งสยามนะนี่ :sad4:

ออฟไลน์ Homepage

  • 520 - 我爱你
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-1
จบแล้วววว ในที่สุดก็อ่านจบแล้ว :) พี่คนเขียนยังคงสร้างความประทับใจไว้ได้เหมือนเดิม
เห็นด้วยกับบางความเห็นที่ว่าไม่มี NC ของต้อมกับซัน อิอิ , ประทับใจหลายตอนเลยครับเรื่องนี้
แต่ผมรู้สึกว่าแปลกๆ จริงๆ เพราะตัดฉากแปปเดียวจบเลย ปรับอารมณ์ตามไม่ทัน ห้าๆ
แต่ยังไงก็ชอบเรื่องนี้นะครับ ขอบคุณที่สร้างสรรค์ผลงานดีๆ ออกมาให้ได้อ่านกัน ^______^
  :pig4: :pig4:  :L1:

gummin

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ eiky

  • Played Me!!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1760/-3
พิเศษ ยอดดวงใจ
ทริปที่กรุเทพฯของผมก็เที่ยวตระเวนไปตามที่ต่างๆล่ะครับ มีไอ้ซันไปด้วยบางที่เพราะว่ามันต้องทำงาน มันเพิ่งจะได้งานในบริษัททำหนังอะไรสักอย่างที่ล่ะ ผมไปปาย เชียงใหม่ ลำปาง เชียงราย แต่ผมว่าจะข้ามไปหลวงพระบางไอ้ซันมันกลับมาก่อนครับตอนแรกผมก็ว่าจะกลับมาด้วยแต่ก็อยากจะเที่ยวเหลือเกิน
   “มึงไม่ไปแน่เหรอวะ” ผมถามมันตอนมาส่งมันที่สนามบินที่เชียงใหม่
   “ไปได้ไงก็เขาเรียกแล้วอ่ะ อยากไปจะตายยังอยู่ด้วยอยู่เลย”
   “นั่นแน่ อยู่กับกูกูก็เพลียแย่เลยดิ กวนเอาๆ” ผมล้อมันครับ
   “บ้าเหรอ พูดไรก็ไม่รู้ไปล่ะ ดูแลตัวเองดีๆล่ะแล้วนี่กะจะไปกี่วัน” มันเปลี่ยนเรื่องหน้าเริ่มแดงขึ้นมา เวลามันอายแล้วน่ารักดีนะ
   “สักอาทิตย์”
   “นานไปป่าว” มันครางออกมา
   “ทำไม มึงคิดถึงกูเหรอ” ผมได้ทีแซวเลยครับ
   “อืม คิดถึงดิ รีบกลับมาเร็วๆล่ะ ไปล่ะนะต้อม” มันยิ้มให้ผมแล้วจะเดินเข้าไปด้านใน
   “เดี๋ยวดิซัน” ผมร้องเรียกมันไว้ มันก็หยุดแล้วหันมา
   “หือ อ๊ะ” ผมดึงตัวมันเข้ามากอดไว้ครับ กอดแน่นๆ
   “อย่าลืมคิดถึงกูล่ะ” ผมเอามือขยี้หัวมันครับ มันยิ้มกว้างดีใจที่ผมกอดมัน คิดว่างั้นนะ
   “ไม่เคยลืมหรอกน่า ต้อม”
   “หือว่าไง” ผมยักคิ้วให้มันครับ
   “กูรักมึงนะ”
   “ต้องให้กูบอกกลับป่าวเนี่ย อิอิ” ผมแซวมันแล้วจับบ่ามันไว้
   “ไม่เอากูไม่อยากให้มึงพูด แค่สิ่งที่มันทำกูก็รู้แล้วล่ะ”
   “จ้า ไปได้แล้วเขาเรียกแล้วมึงเดี๋ยวตกเครื่องนะ” มันยอมเดินจากเข้าไปด้านในส่วนผมก็รู้สึกเคว้งๆเหมือนกันนะ ตลอดเวลาเกือบสองอาทิตย์ที่อยู่กับมัน มีความสุขมากนะผมเหมือนว่าเต็มไปซะทุกอย่าง ตื่นมามีคนมองมีคนคุย ก่อนนอนมีคนกอด มันเอาใจผมดีมากๆ ไม่ว่าจะอยากทำอะไร ไอ้ซันมันรักผมมากผมรู้ดี ผมเองก็รักมันเหมือนกัน
   “ครับแม่” แม่ผมโทรมาครับตอนที่ผมแวะกินข้าวซอยในตลาดหลังจากที่ส่งไอ้ซันมาแล้ว
   “ไม่กลับมาเยี่ยมบ้านบ้างเหรอลูกต้อม แม่คิดถึง” แม่ผมครางออกมา เออ ตายห่ากูเที่ยวจนลืมบ้านไปเลย
   “กลับดิแม่ จะกลับไปกอดแม่แน่นอน”
   “แล้วเมื่อไหร่ล่ะลูก พ่อเขาบ่นถึงกลับมาเมืองไทยทั้งทียังไม่เห็นหน้าเห็นตาเลยนะ” แม่ผมทวงครับผมเองเม้มปากแน่น เปลี่ยนแผนขึ้นมาทันที
   “เอาวันไหนดีล่ะแม่ ตอนนี้ต้อมอยู่เชียงใหม่ แม่อยากได้อะไรไหม” ทำไมผมมันเห็นแก่ตัวจังเลยนะมาเที่ยวก็แทนที่จะพาแม่มาด้วย พ่อผมอีก น้องผมด้วย ผมคุยกับแม่อยู่ไม่นานก็วางสายแล้วตรงไปที่โรงแรมเช็คเอาท์ออกทันที เก็บของแล้วตรงไปที่สนามบิน บินกลับกรุงเทพฯในวันนั้นเลย ผมจะรักใครมากแค่ไหนก็ไม่ว่าหรอกนะแต่ผมต้องไม่ลืมที่ที่ผมมา ผมจะต้องจดบันทึกมันไว้ในหัวว่าผมมีพ่อแม่น้องที่ผมรักมากเช่นกัน
   “พ่อต้อมอยู่ไหนลูก” ก่อนที่ผมจะขึ้นเครื่องก็มีสายต่างประเทศเข้ามาครับ คุณแม่ที่โน่น
   “อ้าวคุณแม่ ครับต้อมอยู่ที่เชียงหใม่ครับ มีอะไรหรือเลป่าครับ” ผมถามออกไปเพราะคิดว่าน่าจะมีอะไร
   “ทำไมต้องคิดว่ามีอะไรล่ะลูก แม่โทรหาลูกนี่ไม่ได้รึ” นั่นไงครับ กูนะกู
   “อ้อเลป่าๆครับคุณแม่ ต้อมตกใจนี่นา คุณแม่ทำอะไรอยู่ครับพี่ปริ๊นนอนหรือยังครับ” ผมแถไปครับเดี๋ยวโดนเทศน์ยาว
   “นอนอยู่เนี่ย แม่อยู่ที่กรุงเทพฯนะตอนนี้น่ะ มาหาแม่ได้ไหม”
   “หา” ผมแหกปากออกมาเสียงดังครับ ตกใจสิเออ คุณแม่มาเมืองไทย ตั้งแต่เมื่อไหร่ ยังไงกันวะเนี่ย
   “เบาๆหน่อยพ่อต้อมแม่แก่แล้วนะ เดี๋ยวหัวใจวายกันพอดี”
   “ขอโทษครับคุณแม่ แล้วมากับใคร มาเมื่อไหร่ทำไมไม่บอกต้อมเลย แล้วนี่คุณแม่อยู่ไหนครับ” ผมถามแบบลืมหายใจครับตกใจ ตื่นเต้น ดีใจ อะไรไม่รู้มันปนเปกันไปหมด คนที่สนามบินมองผมเป็นตาเดียว
   “เพิ่งถึงนี่ล่ะจ๊ะ มากับพ่อปริ๊นสองคน”
   “หา ทำไมมากันสองคน แล้วคุณพ่อ พี่เจค พี่แพทย์ล่ะครับ ทำไมคุณแม่มากับพี่ปริ๊นสองคน” ผมยังคงไม่ลดระดับเสียงลงเลย
   “เอาเป็นว่ามาเอาคำตอบจากไอ้คนที่มันนอนอยู่นี่ล่ะกัน แม่อยู่ที่สุวรรณภูมิ ในโรงแรมนั่นล่ะลูก แม่ง่วง แล้วจะลงมาจากเชียงใหม่วันไหน ถ้ายังไม่มาแม่จะได้โทรหาพี่นายให้เขามารับ”
   “ไปเลยครับๆ ตอนนี้ต้อมอยู่ที่สนามบินเหมือนกัน ต้อมว่าจะกลับไปชลบุรี”
   “อ้าวเหรอ เออจริงสินะ งั้นแม่ไปด้วยแม่ไม่ได้วางแผนอะไรเลย มาก็เพราะเจ้าตัวดีคนเดียวแท้ๆ” คุณแม่บอกผมอมยิ้มครับ เอ๊ะ ทำไมพี่ปริ๊นถึงอยากมานะ เกิดอะไรขึ้น ผมรีบขึ้นเครื่องในใจเต้นตึกตักอยากให้เครื่องถึงกรุงเทพฯเร็วๆ พอเครื่องถึงประมาณบ่ายกว่าๆผมก็รีบตรงไปที่โรงแรมที่คุณแม่บอกทันทีครับ
   “คุณแม่” ผมโผเข้ากอดครับดีใจมากเหลือเกิน คุณแม่เองยังตาปรือๆอยู่เลย
   “เร็วดีเหมือนกันนี่ แม่เพิ่งจะงีบไปเอง โน่นเจ้าตัวปัญหา” คุณแม่บุ้ยปากไปทางพี่ปริ๊นที่นอนหลับอยู่บนเตียง ผมมองตามแล้วยิ้มออกมา
   “มีอะไรเหรอครับคุณแม่”
   “ก็พ่อปริ๊นสิไม่ยอม จะมาหาพ่อต้อม ใครเอาก็ไม่ฟัง ร้องไห้งอแง โรงเรียนไม่ไป ข้าวไม่กิน โอ้ย ไม่รู้มันไปเอานิสัยพวกนี้มาจากไหนกันนะ แม่ล่ะกลุ้ม มันบอกคิดถึงพ่อต้อม แม่ล่ะไม่ไหวจะเคลียร์เลยพามา” พอได้ยินผมยิ้มกว้างทันทีหัวใจมันพองโตดีใจจริงๆเลยให้ตายเถอะ
   “แล้วทางโน้นล่ะครับ อีกไม่นานต้อมก็กลับแล้วนี่” ผมพูดออกมาเบาๆเพราะกลัวพี่ปริ๊นจะตื่น
   “พ่อเจคน่ะสอบ ส่วนร้านก็ให้พ่อกับพี่แพทย์นั่นล่ะดู เฮ้อ แม่ล่ะเหนื่อยกับพ่อปริ๊นจริงๆ แล้วนี่จะไปชลฯกี่โมงล่ะลูก กินข้าวมาหรือยังพาแม่ไปกินหน่อยแม่หิว” คุณแม่ถามครับผมยังคงจับมือคุณแม่ไว้อยู่ไม่ปล่อยเรานั่งคุยกันที่โซฟาในห้องอยู่สักพัก ตอนแรกผมว่าจะมาถึงสนามบินแล้วตรงไปที่บ้านเลย คุณแม่เองก็เห็นดีด้วยแต่ขอกินข้าวกินปลาก่อนผมก็ไม่ว่าอะไรครับ
   “อ่ะ พี่ต้อม มาทำไมนะ มาตอนไหน” พอตื่นขึ้นมาพี่ปริ๊นก็กระโดดลงจากเตียงวิ่งเข้ามากอดผมล่ะครับ ผมมีความสุขทุกทีเลยนะ มากๆ เทวดาตัวน้อยของผมอยู่ตรงหน้าแล้ว ผมเองก็กอดหอมจนหนำใจล่ะครับ
   “ก็พี่ต้อมหายตัวมาหาพี่ปริ๊นไงครับ”
   “อ่ะ โกหกนะ ปริ๊นไม่ใช่เด็กนะมาโกหก อิอิ” หัวเราะออกมากอดคอผมไว้แน่น
   “พี่ปริ๊นล่ะมาที่เมืองไทยได้ไง ไหนบอกพี่ต้อมหน่อยซิ” ผมถามครับ
   “ก็ไม่ได้อยากมานะ คุณย่าบังคับ”
   “แน้ อะไรนะพี่ปริ๊น ใครบังคับใครกัน เป็นเด็กเป็นเล็กไปเอาคำพูดพวกนี้มาจากไหน ใครกันร้องไห้งอแง บอกไม่พามาจะไม่ไปโรงเรียนน่ะ”
   “อ่า คุณย่านั่นล่ะ ปริ๊นไม่ได้พูดนะ ปริ๊นแค่ตามใจคุณย่า แหะๆ” แววตาของพี่ปริ๊นทำให้ผมกับคุณแม่หัวเราะผมกอดพี่ปริ๊นแน่นมีความสุขจริงๆเลย
   “ดูเอาเถอะพ่อต้อม ไม่มีใครเกินหรอกพ่อคนนี้” คุณแม่หัวเราะแล้วเดินมาขยี้หัว
   “พี่ต้อมคิดถึงปริ๊นเหรอ ทำไมนะ” เสียงใสๆเอ่ยขึ้นล่ะครับผมก็ก้มลงหอม
   “หือ พี่ปริ๊นต่างหากคิดถึงพี่ต้อม พี่ต้อมไม่ได้คิดถึงซะหน่อย”
   “อ่า ไม่ต้องมากอดปริ๊นนะ หึ” อ้าว งอนครับทำหน้าย่นๆใส่ผม
   “โอ๋ๆ คิดถึงสิครับพี่ปริ๊น คิดถึงมากๆ คิดถึงทุกวันไม่มีคนนอนกอด”
   “อ่ะ อย่ามาหลอกนะ แล้วทำไมกอดปริ๊นน๊านนานนะ ปริ๊นร้อนนะ” ฮ่าๆ ผมหัวเราะออกมาครับอุ้มตัวของเด็กน้อยขึ้นแล้วชวนคุณแม่ออกมากินข้าวที่ร้านอาหารในสนามบิน ผมมีความสุขจังเลยครับ ผมรักพี่ปริ๊นมาก มากจริงๆ อย่างที่ผมเคยบอกไปว่าอยู่ที่โน่นพี่ปริ๊นตัวติดผมตลอดเวลา ไม่ว่าจะกินจะนอน จะเข้าห้องน้ำแปรงฟันอาบน้ำ ผมมีพี่ปริ๊นอยู่ข้างกายตลอดเวลา เป็นเหมือนลูกผมไปแล้ว
   “คุณย่าๆ เราจะนั่งรถไปไหนนะ” พอเราเหมารถจากโรงแรมให้ไปส่งที่บ้านผมพี่ปริ๊นก็ถามขึ้นล่ะครับ
   “ไปบ้านพี่ต้อมไง ไปหาพี่ตั้ม จำพี่ตั้มได้ไหมน้องพี่ต้อมอ่ะ” คุณแม่บอกออกมาครับ
   “อ้อ จำไม่ได้นะ แล้วมีปลาหมึกย่างเหมือนที่บ้านเราไหมพี่ต้อม” พี่ปริ๊นหันมาหาผมถามขึ้นมาแววตาใสปิ๊ง
   “มีสิครับพี่ปริ๊น ตัวใหญ่ๆเดี๋ยวจะให้พี่ปริ๊นย่างกินจนอิ่มเลยนะ มีกุ้งด้วย”
   “อ่า ปริ๊นอยากไปจับมันนะ”
   “เดี๋ยวให้พี่ตั้มพาไปครับ”
   “พี่ตั้มใจดีไหมนะพี่ต้อม”
   “ใจดีสิครับ ใจดีกว่าพี่ต้อมอีกนะ”
   “อ้อ อยากเจอพี่ตั้มนะ แล้วพี่ตั้มจะกอดปริ๊นไหมนะ” ดูเอานะครับไม่ให้ผมกอดผมนัวเนียจะให้ผมอยู่ได้ยังไง ผมว่าไม่มีใครน่ารักเกินพี่ปริ๊นอีกแล้ว ผมเจอเด็กมาก็เยอะนะแต่พี่ปริ๊นนี่เป็นเทวดาของผมจริงๆ พี่ปริ๊นคือยอดดวงใจของผมจริงๆ
   “พี่ต้อมว่าคงไม่มีใครจะไม่อยากกอดพี่ปริ๊นหรอกน้า พี่ปริ๊นน่ารักจะตาย”
   “ไม่เอานะ ปริ๊นไม่ใช่เด็กผู้หญิงนะ ไม่น่ารัก ฮึ” ฮ่าๆ ผมกับคุณแม่หัวเราะชอบใจ พี่ปริ๊นอยู่บนตักผมครับในมือก็แกะขนมกินปากก็พูดแจ้วๆอยู่ คนขับรถเองยังอมยิ้มคงไม่เคยเจอเด็กน่ารักขนาดนี้มาก่อน เราถึงบ้านตอนเย็นครับ บ้านผมเงียบเหมือนเคย สภาพดูดีขึ้นก็จากเงินที่ผมส่งมาให้พ่อต่อเติมบ้านนั่นล่ะครับ ดูเป็นสัดเป็นส่วนมากขึ้น มีอุปกรณ์เครื่องใช้ครบแล้วเพราะผมไม่อยากให้พ่อกับแม่ลำบาก ผมเห็นแม่ผมนั่งเมหือนกำลังจะเก็บปลาที่ตากไว้เก็บเข้าร่มเพราะแดดหมดผมรีบลงจากรถทันที
   “แม่” ผมร้องออกไปวิ่งเข้าไปกอดแม่ แม่ผมเองก็ตกใจร้องไห้ออกมา
   “ต้อม ลูก” ผมก้มลงกราบแม่ที่หน้าอก
   “คิดถึงจังเลย พ่อไปไหนครับแม่”
   “ตายแล้ว มายังไง ไหนบอกอยู่เชียงใหม่” แม่ผมยังคงน้ำตาไหลอยู่
   “พ่อๆ ลูกมาแล้ว ลูกมาแล้ว” แม่ผมร้องออกมา น้ำเสียงเต็มไปด้วยความยินดีปรีดา สักพักพ่อผมก็วิ่งลงมาจากบนบ้าน รวมทั้งตั้ม ผมผละจากแม่วิ่งเข้าไปกอดแม่น้ำตาผมไหลออกมา
   “คุณพระคุณเจ้าคุ้มครองลูก” พ่อผมบอกกอดตัวผมแน่น เราสามคนก็นัวเนียกันอยู่สักพักล่ะครับ
   “สวัสดีนะครับ ชื่อปริ๊นนะ กอดปริ๊นบ้างนะ ปริ๊นอยากทำเหมือนพี่ต้อม” เสียงน้อยๆเอ่ยขึ้นครับ พี่ปริ๊นลงจากรถมามองดูเราตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้คุณแม่กำลังคุยกับคนขับรถเรื่องเบอร์โทรที่จะได้ติดต่อให้กลับมารับในวันที่จะกลับ
   “ตายจริง พ่อหนู มาๆยายจะกอด” แม่ผมเห็นพี่ปริ๊นก็นั่งลงกอดตัวพี่ปริ๊น พี่ปริ๊นหัวเราะเอิ๊กอ๊ากชอบใจ
   “โตขึ้นเยอะนี่พ่อหนู แก้มแดงเชียว” พ่อผมพูดขึ้นบ้างครับนั่งลงข้างๆแม่ พี่ปริ๊นเห็นพ่อผมนั่งลงก็ดันมือแม่ผมออกกอดคอพ่อผมบ้าง พี่ปริ๊นทำให้แม่กับพ่อผมหัวเราะ
   “สวัสดีค่ะคุณ สบายดีไหมคะ” คุณแม่เดินตามมาครับ
   “ว้ายคุณท่าน” “ว้าย อย่าค่ะอย่ามาเรียกคุณท่าน ไม่เอาๆ เรียกคุณพี่ดีกว่า บ้านน่าอยู่นะคะไมได้มาซะนาน” คราวนี้ก็เป็นเรื่องของผู้ใหญ่ล่ะครับพ่อแม่ผมต้อนรับคุณแม่อยู่หิ้วของพาเข้าบ้านไปแล้ว เหลือพี่ปริ๊นกับผมและตั้มอยู่ด้านนอก
   “สวัสดีนะ ชื่อไรเหรอพี่น่ะ” ดูเอาครับเรื่อกลัวคนแปลกหน้านี่คงไม่มี ตั้มมันงงๆแต่ก็หัวเราะออกมา
   “จำปริ๊นได้ไหมนะ ปริ๊นเคยมาตอนตัวเล็กๆนะ” ฮ่าๆ ผมยืนมองอยู่อมยิ้มเพราะพี่ปริ๊นไปเดินวนรอบๆตัวตั้ม น้องผมตัวสูงขึ้นมากแล้วผิวคล้ำแดดไปตามเรื่องมันเป็นหนุ่มแล้วนั่นเองครับ
   “เอ่อ จำได้ พี่ปริ๊นตัวโตขึ้นนะ”
   “อ้อ แต่ปริ๊นจำพี่ไมได้นะ พี่ไม่เห็นบอกชื่อเลยนะ พี่ชื่อไรนะ” มายืนต่อหน้าแล้วเงยหน้าขึ้นมอง ไอ้ตั้มเกาหัวแล้วหัวเราะออกมา
   “ชื่อตั้ม”
   “อ้อ เป็นน้องพี่ต้อม อุ้มหน่อย” นั่นไงครับ ฮ่าๆ เจอแล้วล่ะไอ้ตั้ม พอได้ยินแบบนั้นไอ้ตั้มก็หันมามองหน้าผม มันคงไม่ค่อยได้เจอเด็กเท่าไหร่ครับเลยทำตัวไม่ถูกผมพยักหน้าให้มันให้ทำตาม ไอ้ตั้มมันก็นั่งลงจะอุ้ม
   “ทำไมพี่ตั้มตัวสูงจังนะ ปริ๊นก็จะสูงๆแบบนี้ล่ะตอนโตขึ้นน่ะ” ไอ้ตั้มมันหัวเราะออกมาพี่ปริ๊นอยู่ในวงแขนของไอ้ตั้มแล้วครับ
   “ทำไมมีหนวด ปริ๊นไม่เห็นมีนะ อันนี้ตุ่มอะไรนะ” พอไอ้ตั้มมันยืนขึ้นพี่ปริ๊นก็เริ่มสำรวจคนแปลกหน้าโดยการจับหน้าพลิกไปมา ไอตั้มเองได้แต่ยิ้ม
   “สิวครับ” ไอ้ตั้มมันบอกออกมา
   “ปริ๊นอยากมีแบบนี้นะ”
   “ฮ่าๆ แก่แดดแล้วพี่ปริ๊น เดี๋ยวโตขึ้นก็มีเองล่ะ” ผมพูดขึ้นบ้างแล้วชวนน้องไปนั่งที่แคร่หน้าบ้าน
   “อ่าไม่จริงนะ ก็ปริ๊นไม่เคยเห็นพี่ต้อมมีนะ ทำไมพี่ตั้มมี แล้วทำไมพี่ตั้มตัวดำๆนะ ขูดออกไหมนะ” ดูครับทำท่าเอามือถูตามแขนของไอ้ตั้มผมหัวเราะออกมาเสียงดัง ไอ้ตั้มเองก็หัวเราะ
   “ไหนนะพี่ต้อมปลาหมึกตัวใหญ่ๆ ปริ๊นอยากจะจับ” พอเล่นสำรวจไอ้ตั้มจนเบื่อแล้วก็มองหาของเล่นใหม่ครับ
   “พี่ปริ๊นอยากกินหลึกย่างเหรอ” น้องผมถามขึ้นครับ
   “อยากกินนะ ไหนๆ” มองหาแล้วครับ
   “ได้มาบ้างไหมตั้มหรือต้องไปที่ตลาด” ผมถามน้องครับ
   “ต้องไปที่ตลาดล่ะพี่ต้อม เดี๋ยวตั้มไปเอง”
   “ปริ๊นจะไปนะ ปริ๊นไปตลาดเป็น”
   “นั่นแน่ ไปเป็นจริงเหรอพี่ปริ๊น เดี๋ยวไปบอกแม่ก่อน” ผมบอกแล้วขยี้หัวของพี่ปริ๊นเบาๆแล้วเดินเข้าในบ้านครับ
   “จะไปตลาดกันเหรอ แม่อยากไปด้วยจังต้อม ไปกันไหมคะคุณน้อง คุณพี่อยากไปดูไม่ได้มาเมืองไทยนาน” คุณแม่หันไปชวนแม่ผมครับ
   “ไปสิคะคุณพี่เดี๋ยวจะไปจ้างรถเขา” แม่ผมบอกแล้วทำท่าจะลุกไปจ้างรถเขาให้พาไป
   “เออนั่นสิ พ่อต้อมพรุ่งนี้ไปหาเช่ารถมาไว้ใช้ดีกว่านะแม่ว่า ไปไหนมาไหนจะได้สะดวก ใบขับขี่ที่โน่นพ่อต้อมเอามาด้วยไหม” คุณแม่หันมาถามผมครับ
   “เอามาครับคุณแม่” สรุปว่าแม่ผมไปจ้างรถกระบะข้างบ้านมาให้พาเราทั้งครอบครัวไปตลาดกันเว้นแต่พ่อผมที่อยู่บ้านเตรียมของและสถานที่รอครับ
   “ว้ายคุณน้องปลาอะไรคะเนี่ยตัวใหญ่มาก” คุณแม่ผมร้องขึ้นแล้วจับมือแม่ผมเดินแยกไปต่างหากครับ แม่ผมดูมีความสุขมากเพราะคุณแม่ไม่ถือตัวเหมือนเป็นเพื่อนเก่ากันมานมนานชี้นั่นชี้นี่ให้กันดู ผมมองแล้วก็ได้แต่ยิ้มมีความสุขจริงๆ คนในตลาดก็มองกันเป็นเรื่องปกติ ผมเองก็เอ่ยทักยกมือไหว้กันจนมือเป็นระวิง เพราะคนในตลาดก็มีแต่คนรู้จักทั้งนั้น แต่คราวนี้แปลกเพราะเขาหากล้องหรือเอาโทรศัพท์มาถ่ายรูปผมด้วยสิครับ
   “โหต้อม หล่อมากๆ หล่อกว่าดาราเสียอีก”
   “หล่อขึ้นมากเลยต้อม เป็นยังไงบ้างลูก”
   “กลายเป็นเด็กนอกไปแล้ว โว้ยมันหล่อจริงๆเลย อ่ะป้าให้ปลา” เสียงทักกันจอแจในตลาดครับ ผมก็ได้แต่ยิ้มเอ่ยตอบไป ได้ของมาเยอะมากโดยที่ไม่ต้องซื้อสักบาท ส่วนไอ้ตั้มมันอุ้มพี่ปริ๊นเดินตาม พี่ปริ๊นก็สนุกสนานกับการจะจับนั่นจับนี่
   “นี่ลูกใคร ลูกไอ้ต้อมเหรอ ว้ายตายน่ารักน่าชังจังเลย” เสียงแม่ค้าในตลาดแซวครับ
   “คุณยายๆ อันแดงคืออะไรนะ” พี่ปริ๊นเองก็ไม่มีเขินไม่อายใครถามก็ตอบสร้างความประทับใจให้กับคนในตลาดเหมือนเป็นดารา เอาไปเอามาคนล้อมกันเยอะกว่าผมเสียอีก
   “อ่ะยายให้พ่อหนุ่ม น่ารักเสียจริง ขนมเปียกปูนกินเป็นไหมลูก”
   “กินเป็นนะ ขอบคุณนะคุณยาย กินแบบไหน” ฮ่าๆ ไอ้ตั้มมันหัวเราะออกมา ตอนนี้พี่ปริ๊นยืนอยู่ตรงแผงขายขนมไทยของยายเลยนะ มือชี้ถามจนยายแกยิ้มหัวเราะชอบใจ ผมเองยืนมองอยู่ห่างๆเพราะคุยกับพี่ๆในตลาดอยู่
   “กินแบบนี้จ้า อ่ะลองอร่อยนะของยายน่ะ” ยายยื่นขนมเปียกปูนให้พี่ปริ๊นอันหนึ่งแล้วก็สอนวิธีกิน
   “อ้อ เหมือนกินโมจินี่นะ หวานๆ เอาอันนั้น สีเหลืองกลมๆนี่เขาเรียกอะไรนะคุณยาย หวานไหม” นั่งลงตรงแผงเลยครับ ไอ้ตั้มมันดูรักพี่ปริ๊นดีนะเพราะมันกอดตัวไว้อยู่ตลอดเวลา ใบหน้ามันพราวไปด้วยรอยยิ้ม ส่วนคนที่เห็นก็เข้ามาทักเข้ามาจับพี่ปริ๊นก็ไม่ได้สนใจ เพราะความสนใจอยู่ที่ขนมตรงหน้า
   “เม็ดขนุนลูกอร่อยนะ อ่ะยายสอนวิธีกิน”
   “ไม่เอาๆ ปริ๊นกินเป็นนะ กินแบบนี้ๆ” ร้องห้ามยายไว้แล้วหยิบเม็ดขนุนมาเข้าปาก
   “อ่า อาหร่อยนะหวานๆ”
   “โอ้ย ไอ้ตั้มจะน่ารักน่าชังไปไหนเนี่ย ลูกไอ้ต้อมมันทำยังไง ได้มายังไง น่ารักเหลือเกินพ่อคุณเอ้ย” ยายแกร้องออกมาครับจับแก้มพี่ปริ๊นท่าทางคงชอบใจมาก ไอ้ตั้มเองก็ได้แต่หัวเราะ
   “อ่ะลูกยายให้เอาไปกินนะ โตขึ้นอย่าลืมมาเยี่ยมยายล่ะ”
   “มาบ่อยๆไม่ได้นะ ปรี๊นอยู่ตั้งไกล อิอิ เอคุณยายๆ ทำไมปากแดงๆนะ คุณยายกินหนมอะไร” เสียงยายหัวเราะชอบใจ
   “ยายกินหมากพ่อคุณ”
   “ปริ๊นอยากกินบ้างนะจะได้ปากแดงๆ” เอาเป็นว่าพี่ปริ๊นกลายเป็นขวัญใจของคนในตลาดไปแล้วล่ะครับ เดินไปแผงไหนได้ของมาเต็ม ไอ้ตั้มเองก็อุ้มไปนั่นไปนี่มันดูชอบนะ ส่วนผมก็เดินตาม วนคุณแม่กับแม่ของผมก็ได้ของมาเยอะเช่นกัน คืนนี้เราจะทำหมึกย่างกับอาหารทะเลเผากินกันครับ พอกลับมาถึงบ้านพ่อก็เตรียมของไว้รอแล้วผมกับไอ้ตั้มก็ช่วยกันส่วนคุณแม่กับแม่ผมก็เตรียมของที่จะทำกัน เรานั่งอยู่ที่แคร่หน้าบ้านพี่ปริ๊นเองวิ่งไปวิ่งมาไปวงนั้นวงนี้อยู่
   “เห็นพี่นายบอกสอบเข้าลาดกระบังได้เหรอลูกตั้ม” คุณแม่ถามขึ้นตอนที่เรานั่งกินล้อมวงกันอยู่ครับ
   “ครับ” ไอ้ตั้มตอบออกมามันยืดอกขึ้นด้วยความภูมิใจ
   “สอบได้คณะอะไรนะลูก”
   “วิศวฯครับ”
   “ว้ายตายเก่งมาก เรียนให้สูงๆนะลูกเดี๋ยวแม่ให้พี่นายเขาดูแลเอง” คุณแม่ร้องออกมาผมเองก็ดีใจไปกับน้องด้วย เขาเป็นคนดูแลไอ้ตั้มทุกอย่างจริงๆดูแลเหมือนดูแลผมเลยนะ
   “เกรงใจจังเลยค่ะคุณพี่”
   “อย่าค่ะคุณน้อง ห้ามพูดขอร้อง คุณพี่เห็นเป็นลูกเป็นหลาน ส่งเสียเรียนแค่นี้ไม่ใช่ปัญหาอะไร อยากไปเรียนเมืองนอกไหมลูกตั้ม” คุณแม่สนใจอยู่ที่ไอ้ตั้มมากเป็นพิเศษ
   “ไม่ครับ ถ้าผมไปอีกคนพ่อกับแม่ก็ไม่มีคนอยู่ด้วย ผมไม่อยากไป” ไอ้ตั้มมันก้มหน้าลงพูดออกมา
   “อืม ดีใจแทนคุณน้องจังค่ะ เอาเถอะลูกเรียนที่ไหนก็เหมือนกัน อยู่นี่ก็มีพี่นายคอยดูแลขาดเหลืออะไรก็บอก แม่ดีใจจริงๆ ตายแล้วลูกๆมีแต่คนเรียนเก่งๆ พี่ปริ๊นจำไว้นะเอาตัวอย่างพี่ต้อมกับพี่ตั้ม เรียนให้เก่งๆเมหือนพี่เขานะ” หันมาทางเทวดัวน้อยของผมที่กำลัวสตุกสนานกับการเล่นน้ำจิ้ม ไม่กินเท่าไหร่แต่เล่นเสียมากกว่า
   “ไม่นะ ปริ๊นไม่เรียนเยอะหรอก ปริ๊นไม่อยากคิดเลขปวดหัวนะ ปริ๊นจะเรียนมาเป็นคนจับปลาหมึก ท่าทางสนุกกว่านะคุณย่า” เสียงพ่อผมหัวเราะขึ้นก่อนใคร
   “อยากจับปลาหมึกให้ตาสอนก็ได้นี่ลูก ไม่ต้องไปเสียเงินเรียน” พ่อผมพูดขึ้นนานมากๆแล้วที่ไม่เคยเห็นพ่อผมหัวเราะยิ้มเต็มดวงหน้าแบบนี้
   “อ่าจริงนะคุณตา ไปตอนนี้เลยนะ”
   “นั่นไงคะคุณ อย่าไปเล่นด้วยเชียวพ่อคนนี้” คุณแม่แซว
   “พี่ตั้มๆ ให้ปริ๊นนั่งขาหน่อยนะ ปริ๊นเมื่อย” พอเล่นเหนื่อยแล้วก็ปีนขึ้นตักไอ้ตั้มไปครับ ผมนี่ลืมกันไปแล้วมั้งเนี่ย
   “เอาสิพี่ปริ๊น มาๆนั่ง” ไอ้ตั้มเองมันก็ชอบนะไม่เคยเห็นน้องตัวเองชอบเด็กเล้กๆเลยนะ ตัวผมเองก็เถอะครับไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ยกเว้ยอยู่คนเดียวนี่ล่ะ
   “ลืมพี่ต้อมคนนี้ไปแล้วมั้งเนี่ยพี่ปริ๊น” ผมเปรยขึ้นบ้างครับลองแหย่ๆดู
   “ไม่ลืมนะ แต่พี่ตั้มหน้าเหมือนพี่ต้อมปริ๊นก็คิดว่าเหมือนกันนะ พี่ต้อมอิจฉาเหรอ” ฮ่าๆ เด็กเหรอเนี่ยทำหน้าย่นใส่ผมอีก
   “โหว่าพี่ต้อมด้วยคนเรา” ผมเอามือไปจับแก้มพี่ปริ๊น
   “พี่ตั้มๆ พาปริ๊นไปอาบน้ำนะ”
   “อ้าวไม่อาบกับพี่ต้อมแล้วเหรอ โหย น้อยใจอ่ะพี่ปริ๊น”
   “ไม่เอานะ อาบกับพี่ต้อมหลายครั้งแล้วนะ อยากอาบกับพี่ตั้มนะ” ไอ้ตั้มมันทำท่าทางตื่นๆคงไม่เคย ฮ่าๆ ผมหัวเราะออกมา
   “แล้วถามพี่เขายังเอ่ยว่าเจะยอมให้พี่ปริ๊นอาบด้วยไหมเนี่ย พูดเอาๆนะพ่อตัวแสบ” ผมแซวครับ ไอ้ตั้มมันมองหน้าผมหน้าซีด
   “พี่ตั้มไม่ยอมเหรอ ทำไมนะ ทำไมไม่อาบน้ำให้ปริ๊น ปริ๊นตัวนิดเดียวนะอาบไว” เงยหน้าขึ้นมองไอ้ตั้มครับ ไอ้ตั้มยิ้ม
   “เอ่อ พี่ตั้มไม่เคยครับพี่ปริ๊น”
   “อ่า ไม่เคยอาบน้ำเหรอ ทำไมไม่อาบน้ำนะ ฟุดฟิดๆ” ทำท่าทางสูดดมตามตัวของไอ้ตั้มครับ
   “ไม่ใช่ไม่เคยอาบน้ำ แต่พี่ตั้มไม่เคยอาบน้ำกับใครนี่ครับพี่ปริ๊น” ไอ้ตั้มมันตอบออกมาครับท่าทางอายๆ
   “เห็นไหมพี่ปริ๊นพี่ตั้มไม่เคย สงสัยคงต้องอาบกับพี่ต้อมเหมือนเคยแล้วล่ะมั้ง”
   “ไม่เห็นยากนะ เดี๋ยวปริ๊นสอนให้ อิอิ” หัวเราะออกมาเอิ๊กอ๊ากชอบใจ
   “นั่นแน่เจ้าเล่ห์เหลือเกินนะ” ผมแซว สรุปก็ต้องเป็นผมไปอาบน้ำกับพี่ปริ๊นล่ะครับ เพราะไอ้ตั้มมันต้องไปช่วยพ่อดึงเรือเข้าฝั่ง พี่ปริ๊นเองก็พูดไปอย่างนั้นล่ะครับเอาเข้าจริงก็ติดผมมากกว่าใคร ไม่ได้เข้าข้างตัวเองนะ อย่างตอนนี้นอนอยู่บนตักผมหลับปุ๋ยไปแล้ว เทวดาตัวน้อยจริงๆผมมองทีไรก็มีความสุขทุกที
   “ท่าทางพี่ปริ๊นติดพี่ต้อมมากนะ” ไอ้ตั้มมันพูดขึ้นตอนจะเข้านอนครับ
   “อืม พี่ก็ติดพี่ปริ๊นมาก พี่ปริ๊นเป็นเหมือนยาในยามที่พี่คิดถึงบ้าน ยามที่พี่หมดกำลังใจ”
   “ตั้มก็ชอบพี่ปริ๊น น่ารัก” ไอ้ตั้มมันจับแก้มพี่ปริ๊นเบาๆ พี่ปริ๊นคงคันเอามือป่ายออก ไอ้ตั้มก็ยิ้มชอบใจ
   “พี่จะกลับเมกาเมื่อไหร่” ไอ้ตั้มมันถามขึ้นครับ
   “คงจะพร้อมกับคุณแม่ล่ะ พ่อกับแม่ดีขึ้นไหม พ่อไปหาหมอตรงตามนัดหรือเปล่าตั้ม” ผมเสียงขรึมขึ้น
   “ครับพี่ ครอบครัวเราสบายขึ้นมากที่มีพี่นายเข้ามา เพราะพี่นายคนเดียว อย่างตั้มเองพี่นายก็พาไปสอบ พาไปนั่นไปนี่อยู่ตลอด เสื้อผ้าของใช้พี่นายก็ดูแลให้” ไอ้ตั้มมันพูดออกมาผมแอบถอนหายใจ คิดถึงเขาขึ้นมาอีกครั้ง
   “พี่นายเป็นคนดีมากๆ เราโชคดีนะพี่ตั้มว่า พี่เขาไม่ต้องการอะไรตอบแทนเลย พี่หลวงก็ดี ไม่คิดเลยว่าคนนอกอย่างพี่นายและครอบครัวจะดีกับเรามากขนาดนี้” คำพูดคำจาของไอ้ตั้มมันแสดงให้รู้ว่ามันโตขึ้นมากแล้วครับผมได้แต่พยักหน้า
   “นั่นล่ะตั้ม เราเองก็ต้องตั้งใจเรียน อย่านอกลู่นอกทางให้สมกับที่พี่นายและครอบครัวเขาดีกับเราให้โอกาสเรา”
   “ผมไม่มีทางเกเรหรอกพี่ต้อม พี่นายเขาสอนผมอยู่เสมอว่าให้ตั้งใจเรียนแล้วจบออกมาทำงานดีๆพ่อกับแม่จะได้สบาย”
   “อืมดีแล้วตั้ม”
   “ครอบครัวเรามีความสุขวันนี้ได้เพราะพี่นายนะตั้มว่า ถ้าพี่ต้อมไม่รู้จักกับพี่นาย เราก็คงไม่มีวันนี้” ไอ้ตั้มมันเอ่ยขึ้นครับ
   “ขอบคุณนะพี่ต้อม”
   “หือ เรื่องอะไรตั้ม” ผมงงครับเพราะอยู่ๆตอนนอนมันก็พูดขึ้นมากลางดึก
   “ที่ทำให้ตั้มและพ่อกับแม่มีวันนี้ มีความสุข ขอบคุณนะพี่” ผมพยักหน้ากลางดึกครับ วันนี้เป็นอีกวันที่ผมรู้สึกเป็นสุขมากที่สุด เป็นสุขที่ได้เห็นครอบครัวของผมมีความสุข มีความสุขที่ได้รู้จักเขาไม่ว่าจะวันนี้จนมาถึงวันนี้ และมีความสุขมากที่ได้นอนกอดพี่ปริ๊นเทวดาตัวน้อยอยู่ตอนนี้ ยอดดวงใจของผม

เขียนโดย อิ๊กกี้


ปล. เอาตอนพิเศษมาลงให้อ่านกันแก้คิดถึงครับ ดึงพี่ปริ๊นขึ้นมาเขียนเพราะคิดว่าเขียนง่ายกว่าใคร ฮ่าๆๆๆ ที่เขียนตอนพิเศษขึ้นมาก็กลัวคนอ่านจะลืมด้วยประการหนึ่ง อีกประการก็โปรโมตหนังสือคร้าบ ฮ่าๆๆๆ บอกกันตรงๆ
ก็ตอนนี้ผมเปิดจองหนังสือของ น้องภูมิบุญอยู่นี่นา อิอิ ใครสนใจอยากจะเก็บสะสมและอยากอ่านเรื่องที่เขียนเพิ่ม แบบว่าไม่เคยอ่านที่ไหนมาก่อน ลืมบอกว่าหักมุมแบบว่าไม่มีใครคาดคิดนะครับผม อิอิ สนใจก็ตามลิ้งค์ได้เลยคร้าบ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=16234.0 (ftp://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=16234.0)

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-01-2012 11:43:17 โดย eiky »

ออฟไลน์ DraCo_SLa13

  • I swear that, will love Super Junior forever..........
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +314/-3
มีความสุขนะตอนอ่านเรื่องของพี่ปริ้น 

ต้อมคิดถึงพ่อแม่  ไม่ลืมตัวได้ก็ดี  ตั้มนายเป้นเด็กดีจัง


 :เฮ้อ: แต่ต้อม  เคยคิดจะโทรไปบอกซันมั่งมั๊ยว่าไม่ได้ไปลาวแล้วอ่ะ

ออฟไลน์ bluesky

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
รักพี่ปริ๊นจัง...อยากรู้ว่าโตขึ้นจะเป็นยังไง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






area71

  • บุคคลทั่วไป
ขำพี่ปริ้นมากคับ เด็กอะไรน่ารักน่ากอดจริงๆ อ่านเรื่องนี้ทีไรก็รู้สึกอิ่มใจทุกที ขออีกนะคับ :D

ออฟไลน์ LimousinX9

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 229
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
ว่าแต่ ตั้มจะกินเด็กเปล่าอะ ฮิฮิสงสัย  เผื่อมีคู่ใหม่ พี่ปริ้นกะตั้มไรเงี้ย(*0*)

chantana

  • บุคคลทั่วไป
ยังคิดถึงคุณอิ๊กกี้ น่า   :กอด1:

อ่านแล้วชอบพี่ปริ้นจัง  น่ารักมาก ๆ เลย   :impress2:

จะมีตอนพี่ปริ้นโตมั้ย รออ่านนะ   :call:

ออฟไลน์ โดดเดี่ยวแต่ไม่

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +178/-6
เอาใจช่วยเสมอนะน้องอิ๊กกี้ คิดถึงซันมากมาย

ออฟไลน์ penda

  • ~~^v^~~
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
ตอนนี้อ่านได้ชิวๆเลยนะ
อ่านไปยิ้มไป  สบายใจดี
พี่ปริ๊นยังน่ารักเหมือนเดิม
ตอนแรกคิดว่าจะไม่มีตอนพิเศษซะแล้ว
เห็นหายไปนานเลย

แล้วจะตามไปอ่านเรื่องต่อไปนะคะ
 :L2: :pig4: :L2:

ออฟไลน์ pochu52

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1328
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-0
พี่ปริ๊นซ์อย่าน่ารักมากสิค่ะ แค่นี้ปร้าก็หลงจะแย่แล้ว 555  พี่ปริ๊นซ์ขวัญใจมหาชน
แค่ต้อมกับตั้มคิดดี ทำดีแบบนี้พ่อแม่มีความสุข ครอบครัวพี่นายก็มีความสุขที่ได้เกื้อกูลกัน

ออฟไลน์ litlittledragon

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1938
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +304/-1
อ่านแล้วก็หลงรักพี่ปริ๊นซ์ไปด้วยอีกคน

lovely1714

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ loverken

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 504
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
พี่ปรินซ์น่ารักเหมือนเดิม

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด