{ ร้านบาร์สุราลัย } {จบบริบูรณ์}
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: { ร้านบาร์สุราลัย } {จบบริบูรณ์}  (อ่าน 678490 ครั้ง)

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
มันเหมือนจะหม่น แต่มันก็ชมพูฟุ้ง ๆ นะ

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
สักวันมันจะเป็นทางของเรา สู้ๆนะ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
สิบสองก็เหนื่อย
เกล้าก็คิดมาก เรื่องทำให้พ่อแม่ผิดหวัง
แต่ทั้งคู่มีกันและกัน
สิบสอง จะเริ่มสร้างตัวแล้ว
เพื่อให้พ่อแม่กล้าเห็นถึงความตั้งใจจริง
เชียร์ๆ สิบสอง :mew1: :mew1: :mew1:
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
ไม่นะๆ จะลาออกไปไหนนายกันต์ จะปล่อยเกล้าไว้คนเดียวไม่ได้นะครับ

ออฟไลน์ toou

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1051
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-3
สู้ๆนะทั้งคู่เลย :mew2: :mew1:
สิบสองลาออกไปดูแลพ่อแม่เกล้า รึยังไงล่ะเนี๊ยะ

ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-6
เยสๆ แบบถี่ๆ ยิบ เลยนะ

อิอิ

ออฟไลน์ MyLavenderLand

  • ฉันสุขใจ เมื่อได้ Log in เล้า
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
ทุ่มสุดตัวขนาดนี้ อิจฉาเกล้า เลอค่ามากกกก

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ colorofthewind21

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
ทำไมตอนนี้ดูหน่วงๆ ขนาดตอนสวีทยังดูเศร้าๆเลย

ออฟไลน์ badbadsumaru

  • ♡ caramel macchiato
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-2
ลาไปประกวดหรอสิบสอง
พี่เกล้าสู้ๆน้าาา

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ minneemint

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1632
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-0

ออฟไลน์ LadySaiKim

  • ▫▪□Dezine'Kim□▪▫
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1703
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0
เฮียเกล้าสู้ๆ  o13 o13 o13

ออฟไลน์ kamontipsaii

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 233
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
ทำไมมันแปลก ตอนจบจังเลย ปกติสิบสองจะคุยแบบสนุกๆกะเพื่อน อ่ะ หรือเราคิดไปเอง  :mew2:

ออฟไลน์ nemesis

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2287
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-3
ลาออกทำไมอ่า

ออฟไลน์ omuya

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2023
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +121/-9
อย่าบอกนะว่าจะไปสมัครประกวดร้องเพลง

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
กำลังไปได้สวยใช่ไหม

สิบสองไม่ได้ออกเพราะกดดันใช่ไหม แค่จะทำตัวให้น่าเชื่อถือใช่ไหม
สงสารเกล้า เป็นลูกรักมาตลอด มาเจอแบบนี้สมควรเครียด
แต่ดีใจที่เกล้ายอมรับใจตัวเองได้เต็มใจแล้ว

รอลุ้นค่ะ สิบสองจะไปเป็นนักร้องหรือไปช่วยงานพ่อ

ออฟไลน์ apisaraa

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 88
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
นุ้งสิบสองลาออกไปประกวดใช่มั้ยคะะะะะ ถ้าไปประกวดจริงจะมีดราม่าอีกมั้ยน้าาา

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
 :hao5:

ไปประกวด ?

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ QXanth139

  • ♡동해 #Always13
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
สู้ๆนะทั้งสองคนเลย

ออฟไลน์ Fish129

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 746
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +56/-3
สิบสอง จะไปประกวดแล้วหรอ

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
สู้ ๆ ค่ะ ทั้ง 2 คนเลย

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8

ออฟไลน์ ราตรีสีน้ำเงิน

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 121
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ลาออกทำไม
สู้ๆนะ

 :กอด1:

ออฟไลน์ Chiffon_cake

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 712
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1544/-12
ตอนที่ 29
คู่รัก 114 : วิธีเขินของสิบสี่







Sofa Nitiwat : มันเป็นยังไงบ้าง

Thaitep verycool : มันกำลังสู้อย่างเต็มที่

Sofa Nitiwat : แม่งเท่มาก

Thaitep verycool : จะให้กูสู้เพื่อมึงให้ดูมั้ยล่ะครับ

Sofa Nitiwat : สาด

Thaitep verycool : ไม่หวั่นไหวบ้างเหรอ โดนกูจีบทุกวันเนี่ย

Sofa Nitiwat : ไม่ว่ะ

Thaitep verycool : ให้มันจริง...เลิกคุยแชตเฟซบุ๊กแล้วมาคุยต่อหน้ากันเลยดีกว่า
Thaitep verycool : ช่วงนี้ทำไมหลบหน้ากูบ่อยจัง

Sofa Nitiwat : กูตั้งใจทำงาน กูต้องร้องเพลงแทนไอ้กันต์บ่อยนะ

Thaitep verycool : แต่มึงก็หลบหน้ากูอ่ะ
Thaitep verycool : กูไม่อยากสนิทกันแค่ในเฟซบุ๊กนะ

Sofa Nitiwat : นี่เราสนิทกันแล้วเหรอวะ

Thaitep verycool : ไอ้สาดดดดดด...


ตอนนี้เป็นเวลาเกือบตีสี่แล้ว ผมเพิ่งวางโทรศัพท์จากไอ้กันต์แล้วมาคุยแชตเฟซบุ๊กกับฟาร์ต่อ วันนี้หลังจากทำงานที่ร้านเสร็จฟาร์ก็ต้องมานั่งทำบัญชีต่อจนถึงตอนนี้ แม้เขาจะไล่ผมให้ไปนอนหลายต่อหลายครั้งผ่านแชต แต่ผมก็ยังหน้าด้านที่จะคุยกับเขาต่อ

บางทีก็อยากให้เขารู้ว่าเพราะผมอยากอยู่เป็นเพื่อนเขา ผมไม่อยากปล่อยให้เขาอยู่คนเดียวตอนที่เขาทำงาน แต่เขาก็คงไม่รู้หรอกครับ เพราะผมบอกไปแล้วว่าผมยังไม่ง่วง ทั้งๆ ที่ผมน่ะง่วงจะตายห่าอยู่แล้ว ที่ผมทำไปก็เพราะใจน่ะอยากคุยกับเขาต่อ อีกทั้งต้องการหัวใจของเขาอีก เพราะฉะนั้นคะแนนครั้งนี้ของผมอาจจะได้น้อยหน่อย แต่ผมจะถือว่าได้คะแนนก็แล้วกัน

เราคุยกันทุกวันตั้งแต่วันที่ผมสารภาพความรู้สึกที่แท้จริงออกไป

ฟาร์คุยกับผมอย่างคงเส้นคงวา ผมถามไปเขาก็ตอบกลับ ผมไม่รู้ว่านี่จะเรียกได้ว่าเขาให้ความหวังผมมั้ย แต่ว่าการที่ผมไม่ได้คุยกับเขานั่นแหละที่จะทำให้ผมเป็นทุกข์หนักมากกว่า เพราะฉะนั้นผมรู้สึกดีที่จะคุยกับเขาแบบนี้ต่อไป ถึงแม้ว่าผมจะไม่รู้ว่าปลายทางของผมกับเขาจะเป็นยังไงก็ตาม

อย่างน้อยๆ ตอนทำงานอยู่ที่ร้าน ฟาร์มันก็แอบเขินผมแล้วกัน ผมค่อนข้างมั่นใจ

คืออย่างนี้ครับ ตั้งแต่วันแรกที่เราคุยแชตกัน ฟาร์ไม่ค่อยอยากที่จะสบตากับผมเอาเสียเลย พอผมเดินเข้าไปใกล้ เขาก็คอยหลบหน้าหลบตาผม ต่างจากตอนที่ผมคุยแชตกับเขาลิบลับ แบบนี้ไม่เรียกว่าเขินแล้วจะให้เรียกว่าอะไร

ผมมั่นใจว่าผมหล่อพอที่จะทำให้มันเขิน

โอเคอย่าเพิ่งเบ้ปากใส่หน้าจอหรือกระดาษที่กำลังอ่านอยู่กันไปนะครับ...ผมหล่อน้อยกว่าไอ้กันต์ อันนี้ผมรู้ดีอยู่เต็มอก แต่เวลาผมชอบใครสายตาของผมมันบ่งบอกจริงๆ นะ การที่ฟาร์ไม่ยอมสบตาผม หรือไม่ก็สบตาสักหนึ่งวินาทีแล้วหันหน้าหนีแบบนี้...ผมเชื่อว่าอย่างน้อยก็ต้องเขินผมสักห้าสิบเปอร์เซ็นต์แล้วล่ะ

ทำยังไงถึงจะทำให้เขาเขินผมร้อยเปอร์เซ็นต์ล่ะ คุยผ่านแชตเฟซบุ๊กทุกวันแบบนี้มันจะไปเห็นหน้าตอนที่ฟาร์อ่านข้อความผมได้ยังไง เขาอาจจะกำลังยิ้ม อาจจะกำลังเขิน ผมไม่มีทางรู้ได้จริงๆ

ผมหาวนอนอย่างรุนแรงตอนที่กดเข้าไปดูแชตเฟซบุ๊กของผมกับฟาร์อีกครั้ง ถ้าผมไม่ถาม เขาก็ไม่ตอบเลยดูสิครับ...

Thaitep verycool : ใกล้จะเสร็จหรือยัง

Sofa Nitiwat : ง่วงก็ไปนอนสิ

Thaitep verycool : เปล่า อยากจะถามว่าวิดีโอคอลล์ได้ป่ะ


ฟาร์อ่านครับ แต่ตอบกลับช้ามาก ประมาณห้านาทีเห็นจะได้

Sofa Nitiwat : เพื่อ?

Thaitep verycool : ถามโง่ๆ ก็อยากเห็นหน้าไง

Sofa Nitiwat : ไม่

Thaitep verycool : นะๆ กูสัญญา แค่ห้านาทีพอ


เขาเงียบไปอีกแล้วครับ ท่าทางลังเลขนาดหนัก ผมจ้องมองจอยิ้มๆ พลางลุ้นว่าเขาจะตอบผมว่ายังไง



Sofa Nitiwat : คอลล์มาสิ



เหยดดดดดด เหยดดดดดดด เหยดดดดดดดดดดดดด

เป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกดีใจมากมายขนาดนี้ตั้งแต่คุยกับฟาร์ แทนที่จะกดวิดีโอคอลล์ไปทันทีที่ฟาร์ตอบตกลงมา แต่ผมก็มัวเขินบิดไปบิดมาอยู่ และในที่สุดผมก็กดโทรไปครับ

สัญญาณดังอยู่ประมาณสามสี่ครั้ง ฟาร์ถึงกดรับ...

สิ่งที่ผมเห็นเป็นอย่างแรกก็คือหน้าขาวๆ ของฟาร์

ตึกตัก ตึกตัก

หัวใจของผมเต้นแรงทันที ได้เห็นใกล้ขนาดนี้เหมือนเรากำลังยื่นหน้าเข้ามาใกล้กันเลยครับ ถึงแม้ว่าจะผ่านจอโทรศัพท์ก็เถอะ

ฟาร์ทำหน้าเฉยๆ ผ่านจอโทรศัพท์ เมื่อเขาส่องและก็มอง (ให้ตายเถอะ น่ารักกกกก) จนแน่ใจว่าผมกับเขามองเห็นกันชัดแล้ว เขาก็นำโทรศัพท์ไปวางที่มุมใดมุมหนึ่งบนโต๊ะ หลังจากนั้นเขาก็ทำงานบัญชีของเขาต่อ อยู่ตรงนี้ผมเห็นแค่เสื้อยืดสีดำลายวงดนตรีร็อกของเขา ซอกคอขาวๆ ของเขา และก็ใบหน้าส่วนล่างครึ่งใบหน้าที่ดูดีมากๆ

“ไม่มีอะไรจะพูดเลย?” ฟาร์ส่งเสียงผ่านวิดีโอคอลล์มาหาผม

“กูอึ้งอยู่”

“อึ้งอะไรของมึง”

“มึง...น่ารัก”

มือของฟาร์หยุดชะงักจากการเขียนครับ ผมพยายามส่องดูว่าหน้าของฟาร์จะมีปฏิกิริยาตอบรับยังไง ให้ตายเถอะ ผมเห็นแต่คอกับคาง ผมไม่สามารถบอกได้ว่าเขาเขินผมหรือเปล่า

“พูดแบบนี้มึงไม่ต้องพูดเลยดีกว่า”

“ทำไมล่ะ” ผมถามเสียงอ่อนโยน

“พูดแล้วแม่ง...ทำกูทำอะไรไม่ถูก”

“งั้นกูอยู่เงียบๆ ก็ได้”

“...”

“แต่มึงช่วยขยับโทรศัพท์ให้กูเห็นหน้ามึงชัดๆ กว่านี้ได้ป่ะ”

“ไอ้นี่ ขอเยอะจัง เรื่องมากฉิบ”

“แต่มึงก็ทำตามกูหลายอย่างแล้วนะ ทำอีกสักข้อได้หรือเปล่าล่ะ”

“ถ้ากูไม่ทำตามที่มึงขอล่ะ”

“กูคงผิดหวังมาก”

ฟาร์เป็นคนใจอ่อน ส่วนผมเป็นคนหน้าด้านและเป็นพวกชอบตื๊ออย่างแรง เพราะเหตุนี้ผมมักจะได้อะไรฟินๆ จากฟาร์เสมอ ถึงแม้ว่าสิ่งที่ผมอยากได้จากเขามากที่สุดก็คือใจของเขาก็ตาม...

เก็บเล็กผสมน้อยไปก่อนก็ได้ ผมไม่รีบ (นี่หมายถึงหัวใจหรือเงินวะ?)

ฟาร์ทำเสียงเหน็ดเหนื่อยกับผม เขาจัดการหมุนโทรศัพท์ให้อยู่ในมุมที่ผมจะสามารถมองเห็นใบหน้าของเขาชัดเจนขึ้นได้แม้จะอยู่ในมุมต่ำก็ตาม

ผมจ้องมองฟาร์ด้วยรอยยิ้ม ฟาร์หรี่ตามองผมและหันไปสนใจงานตรงหน้า (น่ารักอีกแล้ว!)

“จากที่ง่วงๆ กูหายง่วงแล้วอ่ะทำไงดี” ผมพูดอย่างร่าเริง

“ใกล้จะครบห้านาทีแล้ว”

“นี่มึงจับเวลาเหรอ”

“แหงสิ”

“ใจร้ายว่ะ”

“มึงต้องทำตามคำพูด”

“ก็ได้ครับ”

ผมยอมแพ้ ผมใช้เวลาที่เหลืออยู่ให้เป็นประโยชน์มากที่สุดนั่นก็คือการจ้องมองฟาร์ มองดูหน้าเขาเวลาที่เขาตั้งใจทำงาน ฟาร์เป็นคนที่หน้าตาดีครับ ผิวขาว ผมสีดำเข้ม มีเอกลักษณ์ตรงแก้มนี่แหละที่ค่อนข้างมีเยอะเป็นพิเศษ ไม่ได้หมายความว่าฟาร์เป็นคนอ้วนนะครับ เพียงแต่ว่าเขาเป็นคนที่มีพื้นที่แก้มเยอะเฉยๆ

...และผมอยากจะบีบแก้มนั้นบ้างสักครั้งในชีวิต

“จ้อง...ทำไมวะ” ฟาร์เหลือบมามองดูผมที่อยู่ในจอโทรศัพท์ของมัน

“อ้าว ก็ต้องจ้องคนที่กำลังวิดีโอคอลล์ด้วยสิ จะให้กูทำอะไรล่ะ”

“มึงไม่ทำอย่างอื่นล่ะ”

“กูไม่มีอะไรให้ทำยันเช้าเหมือนมึง”

“นอนไง”

“ขอกูวางสายจากมึงก่อน”

“...”

“ห้านาทีหรือยัง”

ผมลุ้นกับคำตอบมากเพราะผมไม่อยากให้ฟาร์วางสายจากผม ฟาร์มองดูหน้าจอโทรศัพท์ นั่นทำให้ผมใจเต้นแรงยังไงก็ไม่รู้เพราะเหมือนเขากำลังจ้องผมอยู่

“ยัง”

“เหลืออีกกี่นาที”

“หนึ่งมั้ง...”

“กูคงต้องนอนแล้วนะฟาร์” ผมบอกเขา

“...”

“ตอนสายมีส่งของน่ะ”

“คราวนี้ส่งปลาแซลมอนใช่ป่ะ”

“ช่าย” ผมลากเสียงยาวอย่างขี้เกียจหน่อยๆ ประมาณสายๆ ผมต้องไปเตรียมตัวขับรถส่งของครับ ซึ่งก็แล้วแต่พี่ที่รู้จักเขาจะเรียกผมไปใช้งาน วันนี้ตอนสายมีส่งของให้กับร้านปลาแซลมอน สมัยนี้มีคนสั่งปลาแซลมอนแบบเดลิเวอรี่แล้วนะจะบอกให้

“อยากกินว่ะ ไม่ได้กินนานแล้ว” ฟาร์พูดกับผม

“จะเอาป่ะล่ะ จะไปส่งให้”

“เฮ้ย บ้าเหรอ”

“ก็เห็นว่าอยากกิน”

“ราคาไม่ใช่ถูกๆ”

“เพื่อมึงก็ซื้อให้ได้หมดนั่นแหละ บ้าน รถ กูขอแค่เวลาเท่านั้น”

“หยอดเก่งฉิบ”

“แล้วชอบมั้ยล่ะ”

“ครบห้านาทีแล้ว” ฟาร์ตัดบท หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาทำให้ผมเห็นใบหน้าเขาเต็มๆ อีกครั้ง รอบข้างของฟาร์คือความมืด ส่วนรอบข้างของผมคือเตียงของผมเอง

“เฮ้ย” ฟาร์ร้องเสียงหลง “โปสเตอร์ Avenged Sevenfold!”

“อ่าฮะ” ผมไม่เข้าใจว่าฟาร์ตื่นเต้นทำไม

“ของอัลบั้มนี้กูยังไม่มีอ่ะ”

“ทำไมวะ”

“มันหายากมากเลยนะ ที่อีเบย์ประมูลกันแพงมากเลย”

“โปสเตอร์ใบเดียวเนี่ยนะ” ผมมองไปที่โปสเตอร์ที่ผมเอามาแปะไว้ตรงผนังห้องเมื่อนานนมมาแล้ว

“มึงแปะโปสเตอร์ของวงอะไรอีก”

ผมมองไปรอบๆ ห้อง ก่อนจะคิดได้ว่าให้เจ้าตัวเขาดูเองดีกว่าว่าผมแปะโปสเตอร์ของวงอะไรไว้บ้าง

“Slipknot! อุ๊ยนั่น Bullet for my valentine!”

ทำไมฟาร์ต้องตื่นเต้นขนาดนี้ด้วย ผมเอียงโทรศัพท์ให้เขาสำรวจโปสเตอร์ในห้องของผมอย่างเต็มที่ สมัยที่ผมเรียนอยู่วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ผมชอบวงดนตรีฮาร์ดคอร์แบบนี้มากครับ (ว้ากจัดหนักจัดเต็มแบบไม่แคร์ลูกคอกันเลยทีเดียว) ถึงแม้ว่าผมจะเรียนเอกเปียโนก็ตามทีเถอะ...

“ห้องมึงนี่พิพิธภัณฑ์โปสเตอร์แรร์ไอเทมชัดๆ”

“มาแวะชมได้นะ ไม่คิดตังค์”

ทำไมกูชวนอะไรแบบนั้นออกไปฟะ ใครจะโง่มาห้องผมกันเล่า...

“ไว้ว่างๆ จะแวะไปดู” ฟาร์พูดอย่างไม่ระแคะระคายอะไร นั่นทำให้ผมรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างยิ่ง “ไปนอนได้แล้ว กูเองก็ใกล้จะนอนแล้วล่ะ”

“อืม...”

“...”

“ฝันดีนะฟาร์”

“ฝันดี”








“พี่ ต้องไปส่งที่ไหนอีกป่ะ” หลังจากวนไปส่งปลาแซลมอนสดให้ลูกค้าประมาณสี่รอบ ผมก็เต้นเร่าๆ ถามพี่กล้า พี่คนที่ผมสนิทด้วยมากที่สุดในวงการส่งของ

“มึงจะรีบไปไหนนักหนา”

“ผมมีนัด”

“เออๆ ที่เหลือเดี๋ยวกูจัดการเอง ขอบใจมากนะที่มาช่วย”

“ด้วยความยินดีครับพี่”

ผมรับตังค์ค่าแรงที่เป็นส่วนแบ่งของตัวเองมาจากพี่กล้า หลังจากนั้นผมก็รีบนั่งหลังรถมอเตอร์ไซค์คู่ใจและบิดออกไปทันที สถานที่ที่เป็นเป้าหมายของผมในวันนี้ไม่ใช่ที่อื่นไกลเลย

ร้านบลูสกายมิวสิก

ยังไงฟาร์ก็ต้องอยู่ที่สาขาใหญ่ ผมค่อนข้างแน่ใจเลยทีเดียว ผมใช้เวลาไม่นานก็ถึงร้านสาขาใหญ่ของบลูสกายมิวสิก ผมถอดหมวกกันน็อคแล้วส่องดูเงาตัวเองผ่านกระจกรถมอเตอร์ไซค์พร้อมกับเสยผมไปด้านหลัง

ถึงแม้ว่าผมจะถูกเฮียเกล้าบรรยายสรรพคุณให้คุณคนอ่านฟังว่าผมน่ะกาก...แต่เอาเข้าจริงๆ แล้วผมทั้งกากทั้งหน้าตาดี! เห็นมั้ยอย่างน้อยก็มีข้อดีข้อหนึ่งแหละ

ผมควรหยุดโม้แล้วควรนำพากล่องปลาแซลมอนน่าอร่อยที่ลงทุนซื้อให้ฟาร์ไปส่งคนที่บ่นอยากกินได้แล้ว ผมเดินผ่านร้านนั้นร้านนี้จนกระทั่งไปถึงร้านบลูสกายมิวสิกที่อยู่ชั้น G ในห้างสรรพสินค้า

“มาหาคุณนิธิวัฒน์ครับ” ผมพูดกับพนักงานที่เดินมาต้อนรับ

“คุณนิธิวัฒน์ไม่ได้เข้าร้านนะคะวันนี้”

กรรม...

“แล้วคุณนิธิวัฒน์เข้าไปที่สาขาอื่นมั้ยครับ” พนักงานมองดูสภาพผม ผมในตอนนี้แต่งตัวอย่างกับไบเกอร์ เพื่อความน่าเชื่อถือผมจึงต้องพูดเสริมเติมแต่งเข้าไป “พอดีมีคนสั่งปลาแซลมอนให้คุณนิธิวัฒน์ครับ” กูเองนี่แหละ...

“คิดว่าวันนี้คุณนิธิวัฒน์ไม่น่าจะเข้าสาขาไหนเลยค่ะ”

“คุณมั่นใจ?”

“ค่ะ ฉันมั่นใจ”

พนักงานสาวดูงงๆ กับผม ส่วนผมนั้นงงยิ่งกว่า ผมนึกว่าฟาร์จะเข้าร้านซะอีก นี่ผมกะผิดไปเหรอเนี่ย

ผมมองดูปลาแซลมอนน่าอร่อยในมือ ผมไม่ยอมให้เจ้าปลานี่มันเป็นหมันหรอกนะ (มันต้องถูกกิน!) ผมส่งยิ้มให้พนักงานก่อนที่จะเดินออกไปนอกร้าน คิดเอาไว้ในใจแล้วว่าผมควรจะทำยังไงต่อไปเรื่องของฟาร์



บุกบ้านแม่ง...






ตอนมาถึงที่หน้าบ้านความป๊อดของผมทะลุถึงขีดสุด บ้านของฟาร์เป็นทาวน์เฮ้าส์สูงนั่นหมายความว่ามีคนอาศัยอยู่ในบ้านเยอะมาก (ทำไมตอนมึงบิดมอเตอร์ไซค์มามึงไม่คิด!) ตอนนี้จากที่จะเซอร์ไพรส์ผมคงไม่กล้าจะเซอร์ไพรส์แล้วล่ะ ผมกดโทรศัพท์หาฟาร์

“อ่ะแฮ่มๆ ฮัล...”

“ฟาร์ ไม่สบายเหรอ”

“ไอ้เต๊บ?”

“ใช่”

“มีอะไรวะ”

“มึงไม่สบายเหรอ” ผมถามคำเดิม

“นิดหน่อย”

“...” ผมมองดูบ้านสูงของฟาร์โดยไม่รู้ว่าฟาร์อยู่ชั้นไหน...จะทำยังไงดีวะ แฟนก็ไม่ใช่ ถ้าเป็นแฟนนะ ป่านนี้ผมคงบุกขึ้นห้องของฟาร์ไปแล้วล่ะ “เป็นอะไรมากหรือเปล่า”

“เพลียๆ ง่วงๆ อ่ะ หวัดนิดหน่อย”

“มึงนอนน้อยน่ะสิ”

“อืม...” อีกฝ่ายคงจะคุยไปและก็ง่วงไป

“อยากได้อะไรหรือเปล่า กูอยู่หน้าบ้านมึง”

ปลายสายดูตื่นตกใจ ผมได้ยินเสียงอีกฝ่ายขยับตัวเพื่อที่จะมาเปิดหน้าต่างส่องดูผมที่อยู่เบื้องล่าง ฟาร์โผล่หน้าซีดๆ มาให้ผมเห็นแล้ว เขาอยู่ที่ประมาณชั้นหก (บ้านสูงเหี้ยๆ T^T)

“เฮ้ย”

“เอาปลาแซลมอนมาให้” ผมพูดเสียงอ่อย คงจะไม่ได้เซอร์พ้งเซอร์ไพรส์อะไรแล้วล่ะครับ บอกตรงๆ ไปเลยนี่แหละ

ฟาร์กะพริบตามองผม “เดี๋ยวลงไปรับ”

“ไม่สบายอยู่ ไม่ต้อง” ผมรีบห้าม

“ถ้าอย่างนั้นก็ขึ้นมาเลย เดี๋ยวบอกคนไว้”

ผมกลืนน้ำลาย “อืมๆ”

ฟาร์แม่งเจ๋งงงงงงงงงงงง ผมรู้สึกดีใจน้ำตาจะไหลที่เขายอมให้ผมขึ้นไปหา แบบนี้รักตายห่าเลยเนี่ย...ผมสูดลมหายใจลึกๆ เรียกความกล้า หลังจากนั้นก็พาตัวเองเข้าไปในบ้านทาวน์เฮ้าส์ที่ดูหรูดูแพงมากเมื่อเทียบจากตอนที่มองอยู่ด้านนอก

เชี่ย...บ้านนี้มีคนอยู่กี่คนวะเนี่ย

“สวัสดีครับ” ผมไหว้เรียงมั่วไปหมด ไม่รู้ว่าคนงานหรือว่าคนในครอบครัวของฟาร์ ทุกคนดูมึนงงและตกตะลึงว่าผมเป็นใคร ในที่สุดก็มีแม่บ้านจากไหนไม่รู้มาพาผมไปขึ้นลิฟต์

หัวใจกูจะวาย...นี่มันบ้านหรือสมรภูมิสงคราม

“คุณฟาร์อยู่ชั้นหกนะคะ ห้องสุดทางเดินค่ะ”

แม่บ้านใจดีจังเลยแฮะ ผมยิ้มขอบคุณเธอก่อนที่จะเดินออกจากลิฟต์เมื่อถึงชั้นหก เธอไม่ยอมเดินออกมากับผมแฮะ แปลว่าอะไรกันหว่า...

ทันทีที่ถึงชั้นหกผมก็สัมผัสได้ถึงสิ่งที่เรียกว่าบ้านอย่างจริงจัง ทั้งชั้นคือส่วนที่เอาไว้อยู่อาศัยอย่างแท้จริงตั้งแต่ทางเดินที่ลาดยาวไปจนถึงห้องนั่งเล่น รวมไปถึงแจกันดอกไม้สูงใหญ่ที่มาให้การต้อนรับ

ผมกลืนน้ำลายเมื่อเห็นว่าบ้านของฟาร์นั้นดูรวยและก็ดูแพงกว่าบ้านผมหลายสิบเท่านัก (แหงสิ เพราะผมอยู่หอพักห้องเดียวนี่หว่า) ผมจะเดินไปที่ห้องสุดทางเดินอย่างที่แม่บ้านว่า แต่แล้วปัญหาก็บังเกิดขึ้น

ห้องสุดทางเดินแม่งมีประตูเหมือนกันสามบาน

เชี่ย...ห้องไหนห้องฟาร์

ผมยืนโง่อยู่หน้าประตู เพราะผมโง่จริงๆ ครับ มันไม่รู้นี่หว่าว่าห้องไหนห้องฟาร์ ถ้าเคาะห้องผิดแล้วไปเจอห้องพ่อกับแม่ฟาร์เข้าล่ะ ผมไม่แย่หรอกเหรอ

พี่แม่บ้านควรจะบอกผมให้ครบว่าห้องของฟาร์คือห้องไหน...อยากจะร้องไห้เสียจริงๆ

เอาวะ...สู้เว้ย ผมลองเคาะประตูห้องห้องหนึ่งหยั่งเชิงดูก่อน ไม่นานนักประตูห้องนั้นก็เปิดออก

สิ่งแรกที่ผมเห็นก็คือผู้หญิงหุ่นเซ็กซี่คนหนึ่งที่นุ่งน้อยห่มน้อยเวลาที่เธออยู่บ้าน...

“กรี๊ดดดดด!”

ผมทำหน้ามึนในขณะที่เธอคนนั้นมองผมด้วยสายตาตื่นตกใจ ผมได้ยินเสียงเปิดประตูจากด้านหลัง เป็นฟาร์นั่นเอง เขามองผมกับผู้หญิงคนนั้นอย่างรำคาญก่อนที่เขาจะลากผมเข้าไปในห้องของเขาและก็ปิดประตู

“นั่นพี่สาวกู” ฟาร์ไม่รอให้ผมถาม มันดึงตัวผมเข้ามาเสร็จก็ทิ้งตัวลงไปนอนบนเตียงต่อ ห้องของฟาร์คือห้องที่สะท้อนความเป็นคนรักดนตรีอย่างแท้จริง นอกจากจะเต็มไปด้วยเครื่องดนตรีแล้ว สไตล์การตกแต่งห้องยังเต็มไปด้วยสิ่งที่เกี่ยวกับดนตรีอีกต่างหาก

ผมเดินไปนั่งลงกับพื้นข้างๆ เตียงของฟาร์ ถอดแจ็กเก็ตของตัวเองออกให้เหลือแต่เสื้อยืดข้างใน (เมื่อเหงื่อของผมมันได้สัมผัสกับแอร์แล้ว บอกตามตรงเลยครับว่าเย็นฉิบหาย...ฟินสาด) หลังจากนั้นก็จ้องมองฟาร์ที่ใบหน้าซีดเผือดแสดงออกถึงความไม่สบายอย่างเต็มเปี่ยม

“ทานข้าวเที่ยงหรือยัง” ผมถามอย่างเก้อเขิน

ฟาร์ส่งเสียงในลำคอปฏิเสธว่ายังไม่ได้ทาน...ผมมองไปที่กล่องปลาแซลมอนและก็ข้าวญี่ปุ่น

“ให้กูป้อนป่ะ”

ฟาร์ปฏิเสธอีกครั้ง

“แต่มึงต้องทานข้าวเพื่อที่จะทานยาอ่ะ” นี่ผมดูแลคนป่วยเป็นมั้ยเนี่ย...ทำไมผมทำได้ไม่โอเคเลยล่ะครับ

ฟาร์ไม่ตอบอะไร เขาเอาแต่หลับตาและก็หายใจสม่ำเสมอให้ผมดู ผมก็เลยมองอย่างครุ่นคิด และหลังจากนั้นผมก็คิดออกว่าผมจะทำยังไง

ผมเปิดกล่องปลาแซลมอนออกมายั่วน้ำลายของฟาร์ ได้ผลแฮะ ฟาร์ลืมตาตื่นขึ้นมาทันที...

“มาแดกเลย กูเปิดให้มึงแดกเนี่ย”

“...”

“ไม่ได้เปิดห้องต้อนรับกูเพราะปลาแซลมอนหรอกเหรอ”

ฟาร์ไม่ตอบผม แต่ลุกขึ้นจากเตียงและก็มานั่งลงฝั่งตรงข้ามผมเพื่อเตรียมลงมือกินปลาแซลมอนที่ผมนำมาให้ ผมจัดการส่งตะเกียบ เปิดน้ำจิ้มพร้อมวาซาบิให้เขาอย่างดี เกิดมาไม่เคยบริการใครหนักขนาดนี้มาก่อนเลยครับ แปลกแต่จริงที่ผมอยากทำให้มันโดยที่ผมไม่ได้หวังผลตอบแทนอะไรเลย

ผมมองดูฟาร์กินอย่างเอ็นดูหลังจากนั้นฟาร์ก็เงยหน้าขึ้นมาสบตากับผม

“มึงไม่กิน?”

“ไม่เป็นไร รอมึงกินยาเสร็จก่อน”

ฟาร์ลงมือกินเงียบๆ ผมพยายามมองอย่างอื่นที่ไม่ใช่ฟาร์ แต่ท้ายที่สุดมันก็ลงเอยกับการที่ตัวเองต้องมาจ้องมองฟาร์อยู่ดี ในที่สุดฟาร์ก็อิ่ม ผมส่งยาที่อยู่ข้างเตียงให้เขาพร้อมกับส่งน้ำเปล่าให้เขาด้วย ที่บ้านฟาร์คงจะรู้แล้วว่าฟาร์ป่วย เห็นจัดยามาให้เยอะแยะซะขนาดนี้

ในที่สุดฟาร์ก็นอนลงบนเตียงอีกรอบ ผมจัดการเก็บข้าวเก็บของให้สะอาด โดยเอาไปทิ้งที่ถังขยะอยู่ในครัว (พี่สาวของฟาร์ไม่ยอมออกมาจากห้องอีกเลย) แล้วผมก็เข้ามาในห้องของฟาร์

เขากำลังหลับอยู่บนเตียง เอามือก่ายหน้าผาก...

“มึงกลับไปได้แล้ว” ฟาร์พูดทั้งๆ ที่หลับตาอยู่

“ไม่อ่ะ” เสียงของผมใกล้มันมาก จนทำให้มันต้องลืมตาขึ้นมามองว่าผมอยู่ไหน ตอนนั้นผมกำลังเท้าคางจ้องมันเขม็งอยู่ข้างเตียง มันตกใจถึงขนาดเอาผ้าห่มมาปิดหน้าเลยทีเดียว

“ใกล้ไปไอ้สัด” มือหนึ่งของมันดันหน้าผมออกไป

“กูอยากเฝ้าไข้มึงใกล้ๆ”

“มึงจะติดไข้”

“กูอยากติดไข้จังเลย”

ฟาร์ใช้แรงที่มีอยู่น้อยนิดพยายามดันหน้าผมออกไปมาก แต่มันทำไม่ได้หรอกครับ มันไม่สบายขนาดนี้ ผมก็เลยจับมือมันเอาไว้แทน

“นอนไปเลย” ผมออกคำสั่ง

“เชี่ย” อีกฝ่ายเขย่ามือที่ผมจับ มือของฟาร์อุ่นกว่าที่ผมคิดแฮะ

“กูให้มึงเลือกระหว่างให้กูจ้องหน้ากับให้กูจับมือ มึงให้กูทำอะไร”

“เกินไปแล้วสาด กลับบ้านไปเลยไป”

“กูเคยยอมคำพูดมึงด้วยเหรอฟาร์”

“เชี่ยเอ๊ย” ฟาร์พยายามสะบัดมือที่ถูกผมจับออก เขาโผล่หน้ามาส่องดูผมหลังจากนั้นก็มุดอยู่ใต้ผ้าห่ม “มึงจะทำให้ได้เลยใช่ป่ะ ไอ้สิ่งที่มึงว่า”

“อย่างใดอย่างหนึ่งไงล่ะ”

“มึงกำลังทำทั้งสองอย่าง”

“ก็รอมึงเลือกอยู่เนี่ย...”

“ให้ตายเถอะสัดเต๊บ”

“กูหน้าด้านมั้ยล่ะ”

“ที่สุด”

“เพราะกูชอบมึงไง”

ฟาร์ต้องกลั้นหายใจอยู่แน่ๆ เสียดายที่ผมไม่เห็นหน้าเขาตอนนี้

“จับมือ!” เขาเลือกในที่สุด

“หึ ได้เลย” ผมรับคำ แต่ก็จ้องมองส่วนที่เป็นใบหน้าของฟาร์ใต้ผ้าห่มอยู่ดี ฟาร์เองก็คงสงสัยมั้งว่าผมทำตามคำพูดอยู่หรือเปล่า เขาจึงค่อยๆ ขยับผ้าห่มลงและโผล่มาดูแค่ดวงตา

แล้วเจอะเข้ากับสายตาของผมพอดี

เขารีบขยับผ้าห่มมาปิดตาอย่างรวดเร็ว

“ขี้โกง ไอ้สัด”

“เปล๊า”

“ปล่อยมือ”

“มือกูโดนทากาวตาช้างให้ติดกับมือมึงแล้วทำไงดี”

“พ่องงงงงง...”

“หลับเถอะฟาร์ มึงไล่กูไปไหนกูก็ไม่ไปหรอก”

“...”

“กูจะอยู่อย่างนี้ จะจ้องมึงแบบนี้”

“...”

“แม้ว่ามึงจะเขินกูและก็หลบอยู่ใต้ผ้าห่มลายอุลตร้าแมนของมึงก็ตาม”





KANTORN NO.12 : เงียบไปเลยนะสัดเต๊บ
KANTORN NO.12 : อยู่กับเชี่ยฟาร์เหรอ
KANTORN NO.12 : กูจะลาออกจากร้านเกล้าแล้วนะ
KANTORN NO.12 : เพราะกูรู้สึกแย่ที่กูต้องขาดงานบ่อยๆ
KANTORN NO.12 : กูจะไปหาพ่อกูด้วย...
KANTORN NO.12 : โทรมาตอนที่มึงสะดวกนะ




TBC*




ไตเต๊บทิ้งให้ชู้คุยคนเดียวได้ยังไง ผิดคอนเซปต์เรื่องนะ 555555
อีกไม่นานความหน่วงก็จะหายแล้ว อดทนอีกนิดนะคะ
พระเอกเรื่องนี้จริงจังและมีการวางแผนมากกกก คนเขียนชอบมากเลยแหละ
รออ่านนะคะ : )


ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
เม้นตอน 28 ก่อนนะ
อ้ากกกก 12ลาออกทำไม จะไปเป็นดาวโดดเด่นบนฟากฟ้ายังงั้นเหรอ?
น่าสงสารเลย ต้องคอยดูแลพ่อตาแม่ยาย

...............................

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
จะเขินให้หนึ่งก็ทำได้ไม่สนิท กังวลเรื่องของสิบสองมากกว่า

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด