เรื่องนี้ไม่มีชื่อ โดย จิรัฎฐิติกานต์
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เรื่องนี้ไม่มีชื่อ โดย จิรัฎฐิติกานต์  (อ่าน 69513 ครั้ง)

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
ขอบคุณ จิรัฎฐิติกานต์ ที่อนุญาตเอามาลงให้เพื่อนๆอ่านกันนะครับ  :yeb:




****************************************************************





สวัสดีครับเพื่อนๆวันนี้ผมมีเรื่องที่เกิดขึ้นมาในชีวิตของผมซึ่งเป็นสิ่งที่ผมไม่อยากลืมแต่ก็ไม่อยากจำมันไว้ในใจเลย




**************************************************************


ตอนที่ 1 แรกพบเจอกัน
เ รื่องเริ่มขึ้นในเช้าวันหนึ่งกลางเดือนพฤษภาคม เมื่อผมเรียนจบม.3 จึงสอบเข้าเรียนต่อที่ ร.ร.อาชีวะเอกชนชายล้วนแห่งหนึ่ง โดยผมเลือกที่จะเรียนในด้านสาขาช่างไฟฟ้า วันแรกผมก็มีอันให้ต้องรีบจนแทบแย่ เพราะว่าตื่นสายครับ มัวแต่ฟังวิทยุอยู่จนดึก ผมฟังวิทยุคลื่น103.5 สมัยนั้นเป็นคลื่นเลิฟเอฟเอ็ม ถ้าเพื่อนหรือพี่คนไหนชอบฟังก็จะรู้นะครับว่าในช่วงดึก จะไม่มีดีเจพูดเลยมีแต่เพลงอย่างเดียวผมโคตรชอบเลย ผมบิดมอเตอร์ไซค์ไปเรียนอย่างไว พอไปถึงก้อเคว้งสิครับ ไม่รู้จักใครเลย ไอ้ผมเองตอนเรียนม.ต้น ไปเรียนที่ต่างจังหวัด เลยไม่มีเพื่อน พยายามมองหาแถว ขณะที่กำลังมองอยู่นั้นเองก็ไปสะดุดตากับคนคนหนึ่ง คนบ้ารัยวะโคตรน่ารักเลย พอดีมันหันมาผมก้อหลบตากลัวมันรู้ว่าเราแอบมองมันอยู่ “นาย นายคนนั้นน่ะ นายอยู่ช่างไฟห้อง 1 ป่าว”
 มันถามใครวะ ถามกูหรอ ผมนึกในใจก้อเลยหันไป
“นายนั่นแหละ อยู่ช่างไฟใช่ป่าว”
“ครับ ทำไมหรอ”
“เราจำนายได้ ตอนวันมอบตัว มานี่ มาเข้าแถวต่อเรานี่”
ม ันน่ารักขนาดนั้นทำไมกูเคยเห็นแล้วจำไม่ได้วะ ก้อเลยรีบวิ่งไปเข้าแถวเพราะตอนนั้น ออดเข้าแถวมันดังแล้วกำลังเตรียมเคารพธงชาติ เสร็จแล้วก็สวดภาวนา ร.ร.ที่ผมเรียนไม่ได้สวดมนต์นะครับ เพราะเป็นโรงเรียนคริสต์ก็เลยจะสวดภาวนาแทน คำสวดภาวนาก็จะประมาณว่า “ข้าแต่ท่านนักบุญยวงบอสโก ในขณะที่ท่านมีชีวิตอยู่ในโลกนี้” อะไรประมาณนี้ละมันก็หลายปีแล้วผมก็จำไม่ค่อยได้ ต่อจากนั้นคุณพ่ออธิการก็จะขึ้นมาอบรม ระหว่างนี้เองที่ผมหันไปทำความรู้จักกับไอ้คนข้างๆ ที่ปิ๊งอยู่เมื่อกี้
“เฮ้ย นายชื่อรัยวะ เราชื่อกานต์นะ”
“เราชื่อตั้มว่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะเว้ย”
“เออ เช่นกันว่ะ”
ไ ด้รู้ชื่อมันแล้ว ดีใจโคตรๆเลย หลังจากนั้นเราก้อคุยกันสารพัดเรื่อง จนอธิการอบรมเสร็จก้อขึ้นห้องเรียนทีแรกกะว่าจะนั่งกับมันด้วยตอนเรียน โต๊ะมันตั้งคู่ได้นั่งข้างมันก็ดีสิ แต่แห้วรับประทานครับ มันดันมีเพื่อนมาจากร.ร.เดิมด้วย มันเลยนั่งด้วยกัน เลยต้องไปจับคู่กับคนอื่น เสียดายจริงเลย


ตอนที่ 2 เพื่อนสนิท
ห้องที่ผมเรียนนั้นมีนักเรียนอยู่ 30 คน โดยมาสเซอร์จะให้จับคู่นั่งกันพอดีผมไปคุ้นหน้าตนหนึ่ง ก้อเลยไปขอนั่งกะมัน คุยไปคุยมาก้อเลยรู้ว่าบ้านมันก้อไม่ไกลจากบ้านผมเท่าไหร่ มันชื่อดา ไอ้นี่แหละที่คอยช่วยเหลือเวลาที่ผมมีความทุกข์ใจมากที่สุด การเรียนในเทอมแรกก้อไม่มีอะไรมากสบายๆ ผมก็เริ่มตีสนิทกับไอ้ตั้ม ด้วยการเอาเรื่องเรียนมาบังหน้า ใจจริงแล้วผมไม่อยากเรียนสายช่างหรอกอยากเรียนสายสามัญมากกว่า แต่เตี่ยกับอาม้าอยากให้เรียนช่างมากกว่า ก้อเลยต้องตามใจแกหน่อย มันเลยส่งผลให้ผมโง่มากในวิชาช่าง ไอ้พวกเขียนแบบอะไรพวกเนี้ย เลยฟอร์มอาศัยไอ้ตั้มติวให้ โดยมีข้อแลกเปลี่ยนคือการที่ผมติววิชาสามัญให้มัน เพราะผมเองจะคะแนนดีในวิชาภาษาอังกฤษ คณิตฯช่าง วิทย์ฯช่างพวกเนี้ย ขนเริ่มสนิทกันเวลาไปไหนก้อจะมีไอ้ดา ไอ้ตั้ม ไอ้นนท์(เพื่อนเก่าไอ้ตั้ม) และผม จริงๆแล้วผมเองก้อเหมือนประกาศตัวนะครับว่าเป็นเกย์ เพราะผมจีบน้องชายเพื่อนในห้องนี่แหละ ไปนั่งกินเหล้าบ้านมันประจำน้องมันเรียนม.1 กำลังใสๆน่ารักเลยจีบเล่นๆ แต่ในห้องก้อไม่มีใครว่าอะไรผมนะครับ เพราะผมมันขาลุยอยู่แล้ว เพื่อนตีกันผมก้อไปตีกับมัน กินเหล้า จีบหญิง(แต่ไม่เอาครับ ล่อมาให้เพื่อน) เพื่อนๆมันก้อเลยเฉยไม่ว่ารัยกัน จนเข้าสู่เทอม 2 ก้อตามประสาโรงเรียนคริสต์ทั่วไปอ่ะนะ มันก้อจะมีกิจกรรมตรึมเลย ทั้งกีฬาสี คริสต์มาสเอย อะไรต่อมิอะไรเยอะแยะไปหมด ตอนนั้นใกล้คริสต์มาส โรงเรียนผมจัดประกวดดนตรีกัน กลุ่มผมก็จะเข้าประกวดกันโดยผมก็หัดเล่นกีตาร์มาตั้งนานแล้ว เตรียมจะโชว์ฝีมือมั่ง ทีนี้เกิดมีปัญหาครับ 4 คน มีคนอยากเล่นกีตาร์ 3คนครับ โดยไอ้ตั้มบาย เพราะมันเล่นเป็นแต่กลองชุด จริงๆแล้วฝีมือกีตาร์ผมก้อไม่ได้ดีอะไรหรอก แต่อยากโชว์กะเขามั่ง เลยแย่งกะไอ้ดา ไอ้นนท์ แต่สาเหตุที่ทำให้ผมสละสิทธิ์จากการเล่นกีต้าร์ก้อคือ วันหนึ่งช่วงพักเที่ยงขณะที่ผมกำลังขะมักเขม้นซ้อมกีต้าร์นั้นเอง ไอ้ตั้มมันก้อเดินมานั่งคุยด้วย มันถามผมว่า “กานต์มึงอยากเล่นกีตาร์ขนาดนั้นเลยหรอวะ”
“ป่าวหรอก กูอยากโชว์มั่งดิ มันเท่ห์ดีเว้ย ใครเขาจะเท่ห์ตีกลองชุดได้เหมือนมึงล่ะ”
“หรอ กูขออะไรมึงอย่างได้ป่าว”
“อะไรอ่ะ” มันจับมือผมเฉยเลยครับ
“กูอยากให้มึงเลิกเล่นกีต้าร์ว่ะ เดี๋ยวมือมึงด้านหมดกูชอบให้มือมึงนิ่มๆอย่างเนี้ย
เวลามึงนวดต้นคอกูแล้วกูรู้สึกสบายดี กูขอนะ”
เ ขินดิครับถึงไม่รู้มันคิดอะไรรึเปล่า แหมคนที่ชอบมันเล่นมาจับมืออย่างนี้นะ แถมขออย่างนี้ด้วย เพราะเวลาเรียนเครียดๆมันชอบให้ผมนวดต้นคอให้ทุกที บางทีนวดแล้วมันหลับไปก้อมี
“ถ้ามึงขอกูก้อให้มึงได้ แล้วมึงจะให้กูทำอะไรล่ะ”
“มึงก้อร้องเพลงดิ เสียงมึงดีนะเว้ย”
“เอาวะ เอาก้อเอา แต่ต้องให้กูเลือกเพลงเองนะเว้ย ตามใจคนร้องนะ”
“ตามสบาย กูยังงัยก้อได้เล่นได้ทั้งนั้นแหละ”
ส รุปแล้วผมเลยต้องมาเป็นนักร้องจำเป็น ส่วนไอ้ดาเป็นมือกีต้าร์ ไอ้นนท์มือเบส ส่วนไอ้ตั้มก้อมือกลอง ลงตัวแล้วเย็นนั้นเราเลยนัดซ้อมกันที่ห้องซ้อมดนตรีของโรงเรียน ไอ้ดาก้อถามผมขึ้นมา
“กานต์ มึงเลือกได้ยังวะ ว่าจะเอาเพลงอะไร”
“กูเ ลือกได้แล้ว กูว่าจะร้องเพลง ก่อน ของโมเดิร์นด็อกว่ะ ส่วนเพลงคริสต์มาสให้ไอ้ตั้มกับไอ้นนท์มันคิดเอาละกัน มันเด็กคริสต์นี่หว่า”
ในการประกวดครั้งนี้เพลงต้องร้อง 2 เพลงนะครับ เป็นเพลงทั่วไป 1 เพลง อีกเพลงต้องเป็นเพลงเกี่ยวกับเทศกาลคริสต์มาส พอดีไอ้ตั้ม กะไอ้นนท์มันเป็นคริสต์อยู่แล้วเลยให้มันเลือกกัน
“เฮ้ย เพลงก่อน นี่มึงมอบให้มือกลองรึเปล่าวะไอ้กานต์”ไอ้นนท์ถามผมครับ
“ ไอ้สันดานนี่ มึงพูดรัยคิดมั่งนะมึง เดี๋ยวคนอื่นได้ยินมันไม่ดีนะเว้ย” แต่ตอนนั้นผมแอบมองไอ้ตั้ม ผมว่า ผมเห็นมันยิ้มนะ คงตาฝาดไปมั้งกู ผมคิดในใจ
“เออ ว่าแต่มึงเลือกเพลงอะไรกันอ่ะ” ผมถามไอ้ตั้ม
“กูเลือกเพลง......”ผมจำชื่อเพลงไม่ได้ จำได้แต่เนื้อเพลง เพราะเป็นเพลงที่ไอ้ตั้มมันสอนผมร้อง เนื้อเพลงจะเป็นประมาณว่า
“สุขสันต์วันคริสต์มาส โอ้วันที่แสนชื่นบาน
เชิญมาขับเพลงประสาน สรรเสริญองค์พระกุมาร...”
เ ราซ้อมกันอย่างดีในที่สุดก้อถึงวันคริสต์มาสอีฟ ทีมเราประกวดได้ที่ 2 มา แล้ววันนั้นไอ้ตั้มก้อเลยชวนพวกผมไปเที่ยวบ้านมัน ซึ่งอยู่คนละจังหวัดกัน ผมก้อไปครับ เพราะอยากลองไปเข้าวัด(โบสถ์คริสต์นั่นแหละครับ คนคริสต์เชาไม่เรียกโบสถ์นะเขาเรียกวัด) กับไอ้ตั้ม ไอ้นนท์ดู เห็นมันบอกว่าสวย ก้อเลยไปกันเอามอเตอร์ไซค์ไป 2 คันปกติเวลามันมาเรียนกันมันจะนั่งรถเมล์ครับ ผมเองทีแรกจะซ้อนไปกับไอ้ดา แต่มันไม่ยอม มันบอกว่ามันไม่รู้ทาง มันจะให้ไอ้นนท์มาขี่มอเตอร์ไซค์พามันไป เลยกลายเป็นว่าผมต้องไปซ้อนท้ายไอ้ตั้ม จริงๆก้อแอบดีใจนะครับ แหมมันเป็นธรรมดาได้ซ้อนท้ายคนที่เราแอบชอบอยู่ ใครไม่ดีใจก้อบ้าแล้ว ตอนซ้อนท้ายไป มันขี่เร็วอ่ะนะ ไอ้ผมก้อกลัวตก เลยเอามือไปเกาะที่จับด้านหลังเบาะ  ทีนี้มอเตอร์ไซค์ที่มันขี่เป็นมอเตอร์ไซค์ผู้ชาย เบาะมันสูง ผมเลยนั่งเกร็ง
“กอดเอวกูไว้ก้อได้ ถ้ากลัวตกอ่ะ ไม่ต้องเกร็งขนาดนั้นหรอก”
“จะดีหรอวะ”
“เอาเหอะน่า กูบอกให้กอดเอว ก้อกอดเอวไปเหอะน่า”
ผ มก้อเลยจำใจต้องกอดเอวมัน เอหรือจะว่าเต็มใจก้อไม่รู้ เพราะรถมันเบาะท้ายสูงอ่ะนะครับ ก้อเลยเหมือนกอดแนบไปทั้งตัวเลย รู้สึกดีโคตรๆเลย พอถึงบ้านไอ้ตั้ม ไอ้นนท์ก้อเริ่มปากมอมอีกละ
“เฮ้ย ถึงบ้านมันแล้วนะมึง มึงจะกอดจนถึงห้องนอนเลยรึงัย”
“ไอ้เชี้ยนี่รถมันยังจอดไม่สนิทเว้ย ไม่ต้องมาแซวกูเลยนะมึง”
บ ้านตั้มทำไร่ครับปลูกพวกหัวหอม มะเขือเทศ อะไรพวกเนี้ย พ่อแม่มันก้อท่าทางใจดีครับ ยิ้มเก่ง หน้าไอ้ตั้มนี่ถอดแบบพ่อมันมาเปี๊ยบเลย ยิ้มยังเหมือนกันเลย พอกินข่าวเย็นเสร็จก้อประมาณ 2ทุ่มกว่า
“ไปสอยดาวกันดีกว่า” ไอ้นนท์ชวนพวกผม ก้อเลยขี่มอเตอร์ไซค์ไปกันคริสต์มาสปีนั้นอากาศหนาวมากกว่าทุกปีครับ แต่มันก้อได้บรรยากาศดี ไปสอยดาว เล่นบิงโก หนูลงรูแล้วก้อเกมส์อื่นๆ อีกเพียบ จนประมาณ 4 ทุ่มกว่าไอ้ตั้มเลยพาไปดูการแสดง เกี่ยวกับการประสูติของพระกุมารอะไรประมาณเนี้ย พอเที่ยงคืนก้อเข้าวัดครับ โคตรสวยเลย ดอกไม้แล้วก้อไฟเต็มไปหมด ผมไม่เคยเห็นนี่ ถึงบ้านผมจะใกล้โบสถ์แต่ผมไม่เคยเข้าไปนี่เป็นครั้งแรกเลย หลังเสร็จพิธี ทุกคนก้อจะเดินเข้าไปที่ถ้ำที่มีตุ๊กตารูปพระกุมารอยู่ ผมก้อเดินตามไปด้วย
“กานต์ เดี๋ยวมึงอยากขอพรอะไรจากพระกุมารก้อขอนะเว้ย รู้เปล่า” ตั้มบอก
“แล้วเขาขอกันยังงัยวะ”
“มึงก้อจูบเท้ารูปพระกุมารแล้วอธิษฐานดิ”
“ขอรัยก้อได้หรอวะ”
“เออ อยากได้รัยก้อขอเอา”
ขณะที่ผมจูบเท้ารูปปั้นพระกุมารนั้น สิ่งที่ผมขอก้อคือ ขอให้ความรู้สึกดีที่ผมได้รับในวันนี้อยู่กับผมให้นานที่สุด
“มึงขออะไรวะ กานต์” ไอ้ตั้มถามผม
“กูขอ... เรื่องไรกูต้องบอกมึงด้วยล่ะ”
“ไอ้สันดานนี่ หัดมีความลับกับกูหรอ”
“มึงบอกกูก่อนดิ แล้วกูจะบอกมึง”
“กูไม่บอก”
“มึงไม่บอกกู กูก้อไม่บอกมึง”
“ จำไว้นะมึง” แล้วคืนนั้นพวกผม 4 คนก้อนอนกันที่ห้องไอ้ตั้ม กว่าจะกลับถึงบ้านมันก้อเกือบตี 3 เข้าไปแล้ว เลยหลับกันเป็นตาย ซกมกด้วยวันนั้นน้ำก้อไม่ได้อาบ
**************************************************************
ยังไงก้อช่วยติชมหน่อยนะครับ
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-09-2010 12:10:12 โดย THIP »

gobgab

  • บุคคลทั่วไป
ขอบคุณนะคับพี่เรย์..............หาเรื่องใหม่มาหั้ยอ่านอีกแล้ว

แนวเด็กช่างด้วย...................มะเคยอ่าน :laugh: :laugh:

aaamat1122

  • บุคคลทั่วไป
ขอบคุณครับ  :like2:

ชอบครับ :monkeylaugh2:

มาต่อนะครับ รออยู่  :really2:

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
เย้ๆ มีคนมาให้กำลังจาย

ตอนที่ 3 การผูกพันของใจ2ใจ
หลังจากคริสต์มาสผ่านไปแล้วก้อต้องกลับมาเรียนอีก โรงเรียนผมนี่เสียอยู่อย่างโรงเรียนอื่นเขาหยุดยาวจนปีใหม่ แต่พวกผมไม่ได้หยุดครับ ต้องมาเรียนอีกหยุดวันที่ 25 วันเดียว โคตรเซ็งเลย เรียนไม่กี่วัน ก้อฉลองปีใหม่อีก แล้วจะให้กูมาทำไมวะแค่ไม่กี่วันเอง พอพ้นปีใหม่แล้วก้องานยุ่งอีกแล้ว เพราะปลายเดือนมกราคมจะมีงานฉลองคุณพ่อบอสโก ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งคณะนักบวชที่ดูแลโรงเรียนผม และถือเป็นงานใหญ่ประจำปีของโรงเรียนผมเลยก้อว่าได้ พวกผมซึ่งเรียนช่างไฟ จึงต้องรับผิดชอบการประดับไฟในงาน และคอยเก็บเมื่อเลิกงานด้วย ดังนั้นไอ้พวกที่บ้านอยู่ไกลจึงต้องหาที่นอนในคืนนั้นครับ ไอ้ตั้ม และไอ้นนท์จึงตกลงกันที่จะมานอนค้างที่บ้านผม เย็นก่อนวันงานก่อนที่ไอ้ตั้มมันจะกลับบ้าน มันก้อพูดขึ้นมาว่า “กานต์ พรุ่งนี้มึงเลี้ยงสปายกูหน่อยดิ”
“มึงมีตังค์ก้อซื้อแดกเองดิ มาขอรัยกู”
“ไอ้เคี่ยว เลี้ยงเพื่อนมึงหน่อยไม่ได้ใช่มั้ย”
“เออกูเคี่ยว ไม่ให้มึงแดกหรอก”
มันทำท่าเหมือนงอนผมครับ ผมกะอำไปงั้นแหละ จริงๆแล้วผมกะซื้อมากินอยู่แล้ว อุ่นเครื่องก่อนไปกินเหล้าต่อตอนกลางคืนที่บ้านไอ้เดียร์ เพื่อนในห้องอีกคน วันรุ่งขึ้นตอนเย็น ผมก้อซื้อสปายมาด้วยโหลนึงเพราะกินกันหลายคนปรากฏว่าไอ้ตั้มงอนครับ มันเลยซื้อของมันมาเองอีกโหล ผมเลยว่ามันไปว่า
“มึงให้กูซื้อ แล้วมึงซื้อมาทำไมเนี่ย”
“ก้อมึงบอกว่ามึงไม่ซื้อไม่ใช่หรอ กูก้อซื้อมาแดกเองดิ กูเบื่อไอ้พวกเคี่ยว”
“เคี่ยวส้นตี...ไรกูก้อซื้อมานี่แล้วไง”
ไอ้นนท์คงรำคาญผมทั้งคู่เลยบอกให้กินด้วยกันทั้งหมดนั่นแหละ ก้อเลยนั่งกินกันเพื่อรอเก็บไฟในงาน กว่างานจะเลิกแล้วเก็บไฟเสร็จก้อประมาณเที่ยงคืน ก้อเลยไปกินเหล้าต่อที่บ้านไอ้เดียร์กัน พอประมาณสักตี 2 กว่าๆผมก้อบอกเพื่อนๆว่าง่วงนอนแล้วจะกลับบ้านไปนอนแล้ว ไอ้เดียร์ก้อสอดขึ้นมาว่า
“ง่วงเป็นเชี่ยนๆ รึเปล่าวะ คืนนี้ที่รักไปนอนด้วยเนี่ย มึงอ่ะ”
“ควายดิ กูไม่เคยคิดทำอย่างงั้นกับเพื่อนกูหรอก แล้วอีกอย่างไอ้นนท์มันก้อนอนด้วย” แต่ในใจก้อแอบคิดไปว่าถ้ามันเป็นแฟนกูแล้วอีกเรื่องนึงโว้ย ไอ้นนท์มันได้ทีมันเลยบอกว่า “เดียร์กูนอนด้วยคนดิ กูไม่อยากไปเป็นก้าง”
“มึงไม่ต้องเรื่องมากเลยไอ้นนท์ จะไปนอนมั้ยบ้านกูน่ะ”
“ไปก้อไป แซวนิดแซวหน่อยทำโมโหกลบเกลื่อน”
“ไอ้เวรนี่ ไม่เลิกนะมึงเนี่ย” แล้วเพื่อนๆมันก้อหัวเราะกัน จริงๆแล้วระหว่างผมกับไอ้ตั้มในตอนนั้น ไม่มีอะไรนะครับ ก้อแค่ผมรักมันข้างเดียว ผมก้อเลยเหมือนจะเทคแคร์มันมากกว่าคนอื่น ส่วนมันเองก้อเหมือนจะใส่ใจผมมากกว่าเพื่อนคนอื่นเพราะผมดีกับมันงัย โดยที่ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น เลยเป็นเหตุให้เพื่อนมันชอบเอามาแซวกัน แล้วผมก้อขี่มอเตอร์ไซค์ซ้อนสามพามันกลับมาบ้านผมพอมาถึงบ้านผม ก้อเอารถมอเตอร์ไซค์เข้าบ้าน บ้านผมก้อเป็นตึกแถวธรรมดานี่แหละครับ แต่กั้นเป็นห้องกระจก ผมก้อบอกมันสองคนว่าอย่าเสียงดังเดี๋ยวเตี่ยกะม้ากูตื่น เขาต้องไปขายของแต่เช้า พอขึ้นไปข้างบนไล่ใครก้อไม่มีใครยอมลงมาอาบน้ำ ก้อเลยนอนกันมันทั้งยังงั้นแหละ เตียงในห้องผมมันก้อใหญ่อ่ะนะ นอนได้ 4 คนสบาย ผมนอนริมนอก ไอ้ตั้มนอนกลาง ไอ้นนท์นอนริมในเพราะมันนอนดิ้น ผมหลับไปได้สักพักรู้สึกปวดแขน เลยลืมตามาดูปรากฏว่าไอ้ตั้มมันนอนหนุนแขนผมอยู่ โคตรปวดเลย แต่มองหน้ามันใกล้ๆแล้วน่ารักมากผมเลยเอามือไปลูบหน้าผากมันเล่น ใจก้อนึกอยากจูบมันนะครับ แต่ไม่กล้ากลัวเสียเพื่อน เลยได้แค่ลูบหน้าลูบผมมันเล่น ระหว่างนั้นเอง อยู่ดีๆ มันลืมตาขึ้นมามองหน้าผมเฉยเลย เล่นเอาสะดุ้ง มันถามผมว่า
“มึงทำรัยวะ” “ป่าว กูไม่ได้ทำรัย” “ไม่ทำได้งัย ก้อมึงลูบหน้ากูอยู่”
“กูห่วงมึง อากาศก้อเย็น เสือกถอดเสื้อนอน กูกลัวมึงไม่สบาย”
“ห่วงกูจริงอ่ะ” “ก้อห่วงดิ มึงเพื่อนกูนะ”
ระหว่างที่ผมพูดนั้น มันก้อจูบหน้าผากผมทีนึง เล่นเอาอึ้งเลยครับ
“มึงทำรัยอ่ะ” “มึงห่วงกู กูก้อห่วงมึงมั่งดิ” “บ้าดิ มึงอ่ะเมาแล้ว”
“กานต์ มึงรักกูจริงรึเปล่า” “สิ่งที่กูทำลงไปทั้งหมดมึงยังไม่เข้าใจอีกหรอ”
แทนคำตอบไอ้ตั้มก้อประกบปากจูบผมทันที
**************************************************************



ตอนที่ 4 การผูกพันของใจ 2 ใจ (Part 2)
แทนคำตอบไอ้ตั้มก้อประกบปากจูบผมทันที ตอนนั้นยอมรับว่างงมาก แต่ก้อรู้สึกดี มีความรู้สึกว่าปากมันมีรสหวานมาก ตอนนั้นมันรู้สึกดีมาก คงเพราะเป็นคนที่เรารออยู่มั้ง ก้อเลยแลกลิ้นกันนาน จนมือผมและมันเริ่มอยู่ไม่สุข แต่ก่อนที่จะมีอะไรไปมากกว่านั้น ไอ้นนท์ดันไอขึ้นมา ทำเอาผละออกจากกันแทบไม่ทัน ผมเลยบอกไอ้ตั้มไปว่า
“ตั้ม อย่าพึ่งเลยนะเดี๋ยวไอ้นนท์ตื่น”
“งั้นมึงต้องกอดกูไว้นะ” “กูก้อกอดมึงอยู่นี่งัย”
สรุปแล้วเลยอดครับคืนนั้นได้แต่กอดกันจนเช้า พอตื่นขึ้นมา ไอ้ตั้มลุกไปอาบน้ำแล้ว ผมเลยปลุกไอ้นนท์ให้ไปอาบน้ำ แต่ไม่รู้ไอ้ตั้มมันเป็นอะไร มันไม่ยอมพูดกับผมเลยจนกระทั่งมันกลับบ้าน
พอมันกลับบ้านไปแล้วผมก้อมานั่งเครียดดิ มันเป็นรัยมันวะ เมื่อคืนยังกอดกูอยู่เลย แล้วทำไมเช้ามามันไม่พูดอะไรเลย กูทำอะไรผิดวะ ตอนนั้นอัดอั้นตันใจมาก นั่งร้องไห้อยู่ในห้อง เตี่ยม้าเรียกกินข้าวก้อไม่ลงไป บอกไปว่าไม่หิว ใครจะไปกินลงล่ะครับ
ผมมันประเภทคิดมากอยู่แล้ว เวลาคิดมากก้อไม่ค่อยบอกใครเพราะที่บ้านผมเป็นคนจีนอ่ะนะ ถ้าคนที่เป็นลูกคนจีนจะรู้ดีนะ ว่าคนจีนจะเลี้ยงลูกเหมือนมันจะมีช่องว่างนะครับ คือไม่ใช่เขาไม่รักนะ แต่บางทีมันไม่รู้สิครับ มันเป็นความรู้สึกว่าเขาไม่รับฟังเรามั้งครับ มีแต่ป้อนคำสั่งให้เรา ทั้งวันไม่ได้กินอะไรเลยนั่งร้องไห้จนประมาณสี่ทุ่มได้ โทรศัพท์ในห้องผมก้อดังขึ้น
“สวัสดีครับ ขอสายใครครับ” “ขอสายคนพูดนั่นแหละ”
ไอ้ตั้มครับ ไอ้ตั้มจริงๆด้วยมันโทรมาหาผมแล้ว
“มีธุระอะไรรึเปล่าครับ” “ทำไมพูดห่างเหินจังวะ”
“ก้อ...คุณคงไม่อยากคุยกับผมมั้ง เมื่อเช้าคุณจะกลับคุณยังไม่พูดกับผมเลยสักคำ”
“กูคิดอะไรนิดหน่อยว่ะ”
“คิดอะไรล่ะครับ หรือคิดเสียใจที่เมื่อคืนไม่น่าเมาแล้วพูดพล่อยๆ ออกมา”
“กานต์ กูไม่เคยพูดพล่อยๆนะ สิ่งที่กูพูดออกมาจากใจนะ กูไม่เคยคิดหรอกนะ เพราะถ้ามันเกิดจากความคิดกู กูคงห้ามความคิดกูได้ แต่ที่มันเกิดขึ้นมันเกิดจากใจกู กูไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่เวลามีมึงอยู่ด้วยกูมีความสุข”
“ตั้ม มึงรู้มั้ย กูรักมึง กูก้อเหมือนมึง กูไม่รู้ว่าเพราะอะไร ที่ผ่านมา มึงนึกว่ากูไม่เจ็บเหรอ ที่ต้องคิดว่ามึงเป็นแค่เพื่อน กูไม่มีสิทธิ์ในตัวมึง ทั้งที่มึงอยู่แค่นี้ แต่กูก้อกอดมึงไม่ได้”
ผมพูดแล้วก้ออดร้องไห้ไม่ได้
“กานต์ มึงอย่าร้องไห้ดิ มีเพลงนึงที่กูว่ามันคงจะบรรยายความรู้สึกกูได้ดีที่สุด”
แล้วมันก้อร้องเพลงให้ผมฟังครับ เพลง I SWEAR คิดว่าคงรู้จักกันนะครับ เพลงนี้ผมรักมากที่สุดเนื้อเพลงก้อคือ
I swear by the moon and the stars in the skys
and I swear like the shadow that's by your side
I see the questions in your eyes I know what's weighing on your mind
You can be sure,I know my part 'cause I stand beside you through the years
you only cried those happy tears and though I make mistakes
I'd never break your heart
And I swear by the moon and the stars in the skys I'll be there
I swear like the shadow that's by your side I'll be there
for better or worse till death do us part
I'll love you with e-ve-ry beat of my heart and I swear
I'll give yoy e-ve-rything I can I'll build your dreams with these two hands
We hate some memories although ours And when just the two of us are there
You won't have to ask if
I still care 'cause there's a time stops the pain
My love won't ache at all
And I swear by the moon and the stars in the skys I'll be there
I swear like the shadow that's by your side I'll be there
for better or worse till death do us part
I'll love you with e-ve-ry beat of my heart and I swear
I swear by the moon and the stars in the skys I'll be there
I swear like the shadow that's by your side I'll be there
for better or worse till death do us part
I'll love you with e-ve-ry beat of my heart and I swear
พอมันร้องจบผมก้อเขินดิ เล่นมาร้องให้กูฟังอย่างนี้ เลยยิ้มทั้งน้ำตาเลย
“เอ่อ เพลงก้อ...เพราะดีนะ”
“แล้วมึงเข้าใจความหมายมันมั้ยล่ะ”
“ไม่เข้าใจหรอก...กูโง่”
“ไม่ต้องแกล้งโง่เลยนะ กูรู้ว่ามึงรู้ ตั้งแต่วันนี้ไปมึงเป็นคนของกูแล้วนะ”
นี่มันขอเป็นแฟนกะกูหรอ มันพูดหวานๆ อย่างคนอื่นเขาไม่เป็นรึงัยวะเนี่ย
“เงียบทำไม เข้าใจมั้ย”
“ถ้ากูไม่เข้าใจ...กูก้อบอกมึงไปแล้วละ”
“ดีแล้ว พรุ่งนี้เจอกันที่โรงเรียนนะครับ ที่รัก”
“หา ... ว่าอะไรนะ พูดใหม่ดิ ฟังไม่ถนัด”
“ไม่เอาเว้ย จั๊กกะจี้ปาก แค่นี้นะ” มันวางสายไปแล้ว ผมนั่งหยิกแก้มตัวเอง กูฝันไปป่าววะเนี่ย ปรากฏว่าคืนนั้นหลับไม่ลงยิ่งกว่าเดิมอีกครับ ตื่นเต้นจนทำอะไรไม่ถูก
**************************************************************

gobgab

  • บุคคลทั่วไป
มาอ่านต่อแล้วคับ.......... :like2:

บอกรักกันผ่านเพลงด้วย.......................อิจฉา :impress3:

pim

  • บุคคลทั่วไป
เรื่องน่ารักดีจัง

ชอบเพลงนี้ด้วยอะ พอมาอ่านยังงี้ยิ่งซึ้ง

ขอบคุณที่เอามาลงให้อ่านนะคะ

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
อยากให้เรื่องนี้มีชื่อเหมือนกัน เพื่อนๆจะได้จำได้ว่าเรื่องนี้ยิ่งอ่านจะยิ่งน่าติดตาม
**********************************************************************************
ตอนที่ 5 คำสัญญา
ตื่นเช้ามา วันนี้อากาศโคตรรดี เลยทำไมอะไรมันก้อดูดีไปหมดเลยวะ ไปโรงเรียนดีกว่า ไปถึงโรงเรียนก้อรีบเอากระเป๋าไปวาง แล้วก้อลงไปกินข้าว กะลังอารมณ์ดีๆเลย ไอ้เดียร์มาแซวกูซะอีก
“มึงเมากัญชาป่ะวะ กูเห็นนั่งยิ้มทำตาเยิ้มมาตั้งนานแล้วนะ คนบ้ารัยวะ แดกข้าวไปยิ้มไป”
“กูอารมณ์ดีเว้ย อย่างมึงอ่ะไม่รู้หรอก”
“อารมณืดีเรื่องรัยวะ รึว่าโดนเปิดบริสุทธิ์ไปเมื่อคืนวันเสาร์”
“อ้าวไอ้สันดานนี่ ลามปาม กูยังซิงอยู่นะมึง”
“เชื่อตายล่ะ”
ก่อนจะคุยรัยกันมากไปกว่านี้พอดีออดเข้าแถวดังเลยสงบศึกกันชั่วคราว ในใจก้อนึกว่าเดี๋ยวจะต้องล่าให้ไอ้ดาฟังซะหน่อย พอขึ้นห้องไป อ้าวแล้วไอ้บ้านั่นมานั่งทำรัยอยู่ตรงนั้นวะ
“ตั้ม มึงมานั่งรัยนี่วะ”
“กูก้อมานั่งกะแฟนกูดิ”
“ไหนใครหรอ แฟนมึง น่ารักป่ะชี้ให้กูดูหน่อยดิ”
“มึงไม่ต้องมาฟอร์มเลยนะ” ว่าแล้วมันก้อดึงแขนผมให้นั่งลงคู่กะมัน
“โอ้ย ที่รักจ๋าอย่าทำเค้าแรงสิ เค้าเจ็บนะ 555 จับมือถือแขนกันด้วยนะมึง”
ไอ้ระไอ้เวรเอ้ย มึงเงียบก้อไม่มีใครเขาว่ามึงเป็นใบ้หรอกนะ ไอ้เชี้ยข้างกูนี่อีกตัวแม่งนั่งยิ้มอยู่ได้ กูอายนะไอ้สาดดด
“เฮ้ยเซอร์เข้าสอนแล้วพวกมึง”
โอ้พระเจ้า ระฆังช่วยกูพอดีเลย ไม่งั้นแม่งแซวกระจายแน่เลยกู รอดตัวไป
“กานต์ ต่อไปนี้นะ มึงต้องกินข้าวกะกูทุกวันนะ”
“ก้อกูก้อกินกะมึงอยู่ทุกวันแล้วงัย”
“กินเสร็จก้อต้องไปกะกูด้วย”
“ไม่เอา กูขี้เกียจเล่นบอลกะมึง กูจะไปเล่นบาสอ่ะ”
“งั้นกูไปเล่นด้วย ปล่อยมึงไปเล่นเดี๋ยวมึงไปคุยกะไอ้หน้าหนูนั่นอีก”
ไอ้หน้าหนูในที่นี้คือรุ่นพี่ครับ อยู่ปี2 ช่างกลชื่อพี่พลน่ารักโคตรๆ สูงประมาณ 180 ขาวตี๋ เล่นบาสด้วย กะลังจีบอยู่ก่อนที่จะตกลงคบกะไอ้ตั้มนี่แหละ
“อ้อ ไอ้ไอซ์ก้อไม่ต้องคุยกะมันแล้วนะ คนอื่นด้วย มึงมีกูแล้วนะ”
ไอ้ไอซ์นี่น้องไอ้ดรีมค้าบ น่ารักดีก้อเลยจีบ จริงๆแล้วก้อจีบไว้เยอะนะครับ แต่แบบว่าไม่เน้นเรื่องอย่างว่า เน้นหาคนคุยด้วยอ่ะ ตอนนั้นอ่ะนะ
“คุยเฉยๆ ก้อไม่ได้หรอ”
“ไม่ได้อยากคุยก้อคุยกะกูเนี่ย”
ซวยแล้วมั้ยล่ะกู คิดผิดป่ะวะเนี่ยเอาเพื่อนเป็นแฟนเนี่ย รู้เรื่องกูหมดเลยดิ โอ๊ยกลุ้มใจ
“ก้อได้ งั้นมึงต้องสัญญานะว่ามึงจะไม่มีใคร ถ้าวันไหนมึงผิดสัญญานะ น่าดู”
“เออน่า กูสัญญา”
เพราะคำสัญญาวันนั้นแหละ ที่ทำให้ชีวิตผมเปลี่ยนไป นึกถึงน้ำตาจะไหลแว้ว
**************************************************************
ตอนที่ 6 วาเลนไทน์ครั้งแรก
หลังจากตกลงเป็นแฟนมันมาได้ประมาณ 10 กว่าวันก้อพอดีเป็นวันวาเลนไทน์พอดีเลย ไอ้ผมเองก้อติดนิสัยเล่นเหมือนเด็กๆอ่ะ ก้อไม่รู้เดี๋ยวนี้เด็กมันยังเล่นอยู่รึเปล่า ก้อคือซื้อสติ๊กเกอร์รูปหัวใจมา แล้วก้อไล่แปะตามปกเสื้อช็อปของเพื่อนในห้องเล่น แปะไปทั่วคนนั้นมั่ง คนนี้มั่ง แต่พอจะแปะไอ้ตั้มปรากฏว่าสติ๊กเกอร์หมดพอดีครับ
“ไมมึงไม่แปะกูคนเดียววะ”
“โทษที หมดพอดีเลยว่ะ”
“แล้วมึงมีรัยจะให้กูป่ะ”
“ไม่มีหรอก กูลืมเตรียม”
มันก้อทำหน้าเหมือนงอนนะ โคตรสะใจเลย จริงๆแล้วเตรียมให้มันแล้ว ผมซื้อช็อกโกแลตให้มันครับ ไม่วิเศษอะไรหรอก ก้อแค่ทูโทนของอัลฟี่ธรรมดา เสร็จแล้วแอบเอาไปเก็บในเป้มัน จนตอนกลางวันมันออกจากช็อปไปล้างมือเตรียมกินข้าวกลางวันนั่นแหละ มันถึงเจอทูโทนที่เอาไปซ่อนไว้ให้
“กานต์ กูกินได้ป่ะ”
“ก้อกินไปดิ กูซื้อมาให้มึงกิน มึงกินหมดเดี๋ยวกูซื้อให้ใหม่ก้อได้”
“อืมม์”
“ว่าแต่วันนี้มึงค้างที่นี่ได้ป่ะ”
“โทษทีว่ะ ไม่ได้ขอแม่ไว้”
โหมึงนะ วันนี้วันวาเลนไทน์นะมึงยังไม่มีรัยให้กูเลย กูขอให้อยู่ฉลองกะกู มึงก้อไม่ยอมอยู่ จริงแล้วก้อไม่ได้ฉลองอะไรหรอกครับ วันศุกร์มันเป็นวันเที่ยวเธค เที่ยวคาราโอเกะ กินเหล้าของพวกผมอยู่แล้ว อย่างที่บอกนะผมมันคนขี้น้อยใจอยู่ด้วยก้อเลยเจ็บลึกๆ
“เป็นไรป่าววะ”
“ป่าวไม่มีรัยหรอกน่า มึงก้อคิดมากไปได้” แต่ในใจกูน่ะร้องไห้ไปแล้วนะมึง
“ไปกินข้าวกันเหอะ กูหิวแล้ว”
“เออ ไปดิ”
พอเลิกเรียนมันบอกว่าต้องรีบกลับบ้าน วันนี้ไม่รอเพราะเดี๋ยวรถเมล์คนเยอะ ส่วนผมต้องทำความสะอาดช็อปเพราะเป็นเวรพอดี ทำเสร็จก้อไปบ้านไอ้เดียร์ มีนัดกินเหล้ากัน พอเดินเข้าไปถึงเพื่อนมันกินเหล้ากันที่บ้านแม่ไอ้เดียร์ เลยเอาเป้ไปเก็บบ้านไอ้เดียร์ คือว่าบ้านไอ้เดียร์กะบ้านแม่มันจะอยู่ในรั้วเดียวกัน แต่ว่า คนละหลัง เสร็จแล้วก้อเดินมาที่วงเหล้า
“ว่างัยจ๊ะวันนี้ที่รักไม่อยู่ด้วยหรอจ๊ะ แล้วจะฉลองวาเลนไทน์กะใครล่ะเนี่ย”
ไอ้เดียร์มึงเงียบกูก้อไม่ว่ามึงเป็นใบ้หรอกนะ ผมนึกในใจ
“กูก้อฉลองกะพวกมึงนี่แหละ”
“น่าสงสารจริงๆ อุตส่าห์มีแฟนกะเขาทั้งที แฟนก้อไม่อยู่”
แม่งเอ๊ยจะย้ำกันไปถึงไหนวะ
“กูขอตัวแป็ปนึงนะ”
ผมเดินหนีมานั่งร้องไห้ที่บ้านไอ้เดียร์คนเดียว นึกในใจมันบอกว่ารักกูแล้ววันนี้มันปล่อยให้กูอยู่คนเดียว แม่งรักเหี้...รัยอย่างงี้วะ ขณะที่ผมร้องไห้อยู่นั่นเองก้อมีมือมากอดผมจากข้างหลัง
“ทำไมขี้แงจังวะ แฟนใครเนี่ย”
นี่กูคิดถึงมันขนาดหูฝาดเลยหรอวะเนี่ย แต่พอหันกลับไปเป็นไอ้ตั้มจริงด้วย
“ไหนมึงบอกว่า มึงต้องรีบกลับบ้านงัยล่ะ”
“รีบกลับกูก้อไม่ได้เห็นคนขี้แงดิวะ”
“แม่มึงไม่ว่าหรอ”
“กูขอเขาตั้งกะเช้าแล้ว”
“นี่มึงหลอกกูหรอ”
“ก้อวันนี้ มึงแกล้งกูก่อนนี่หว่า”
“กานต์ครับ ตั้มให้กานต์นะทีแรกตั้มจะให้แต่กุหลาบขาวเพราะมันหมายถึงรักนิรันดร์ แต่ตั้มกลัวกานต์ถือ”
มันส่งกุหลาบให้ผมสองดอกสีขาวดอกนึง สีแดงดอกนึง เขินโคตรๆ เกิดมายังไม่เคยมีใครมาให้กุหลาบอย่างนี้เลย ทีแรกก้องงนะครับ ว่าทำไมถ้าให้แต่กุหลาบขาวแล้วกลัวผมจะถือ ตอนหลังมารู้จากไอ้นนท์ ว่าปกติแล้ว คนคริสต์เขาใช้กุหลาบขาวกะคนตายอ่ะ
“เฮ้ย สวีทอิ่มยังวะ เหล้าอ่ะ จะแดกมั้ย น้ำแข็งละลายหมดแล้วนะมึง”
ไอ้เดียร์มาแหกปากเรียกไอ้เวรนี่มันเป็นมารจริงๆ
“รู้แล้วเดี๋ยวกูไปแดกเองแหละ”
“ไปเหอะ กานต์เพื่อนมันมาเรียกแล้ว”
แล้วไอ้ตั้มก้อดึงมือผมไปกินเหล้ากัน พอเดินออกมาไอ้เพื่อนเวรก้อตั้งหน้าตั้งตาแซวกันจริงๆ
“มึงกลัวหลงกันรึงัยวะ แค่นี้ต้องจูงมือกันด้วย”ไอ้ดาแซวผม
“ตั้ม มึงเบื่อเมื่อไหร่บอกกูนะเดี๋ยวกูจองต่อ”ไอ้เดียร์พูดขึ้นมาบ้าง
“เสือ...เลย แฟนกูนะมึงห้ามยุ่ง”
“ค้าบพี่ ผมไม่ยุ่งหรอกค้าบ”
กินเหล้ากันได้สักพักก้อเลยตกลงกันว่าจะไปต่อกันที่คาราโอเกะ วันนั้นไปถึงคนแน่นมาก เลยต้องเข้าห้องวี โดยมากก้อไม่ค่อยได้ร้องหรอก มัวแต่นั่งจับมือกะไอ้ตั้มอยู่อ่ะ เหล้าก้อกินน้อย กับแกล้มก้อไม่ทัน มากะแฟนโคตรเสียเปรียบเลยโว้ย พอเสร็จจากคาราโอเกะประมาณตีหนึ่งกว่า เลยเตรียมตัวกลับกัน
“กานต์ วันนี้มึงพาที่รักไปนอนบ้านหรอวะ”
ไอ้เดียร์ถามขึ้นมา
“กูก้อว่างั้นแหละ” วันนี้ไม่มีก้างด้วยไอ้นนท์ไม่ได้มา เสร็จกูล่ะมึง เอรึกูจะเสร็จมันวะ
“งั้นมึงพากูไปเอาเป้ที่บ้านไอ้เดียร์ก่อนดิ”
“เฮ้ย ถ้าไปเอาเป้บ้านกู มึงก้อนอนบ้านกูเลยดิขี่รถไป ขี่รถมา อันตรายนะมึง รถอ้อยยิ่งเยอะอยู่ช่วงนี้”
“กานต์มึงว่างัยอ่ะ เดี๋ยวเตี่ยกะม้าจะว่าป่าว”
“เขาไม่ค่อยสนใจกูหรอกกูจะไปนอนที่ไหนอ่ะ”
“งั้นสรุปคืนนี้นอนบ้านกูนะ เดี๋ยวกูจะได้แอบดู”
“อ้าวไอ้สาดนี่ กูไม่ใช่ดาราหนังเอ็กซ์นะมึง จะได้มาโชว์ให้มึงดู”
“กูพูดเล่น เดี๋ยวกูยกให้มึงเป็นเรือนหอเลยห้องนึง”
ไอ้เวรนี่มันรู้ใจจริงเลย หุหุหุ
**************************************************************

ออฟไลน์ Lucifer

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1288
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
 :laugh: ชอบๆๆ

มาต่อเร็วๆ น๊าค้าบบบบ  :impress:

pim

  • บุคคลทั่วไป
มาตามอ่านแล้วค่า


Vasabi

  • บุคคลทั่วไป
มาตามอ่านด้วยคนค้าบบ :like2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
แต้งๆที่เข้ามาทักทายนะครับ
**************************************************************
ตอนที่ 7 วาเลนไทน์ครั้งแรก (Part II)
หลังจากกลับมาถึงบ้านไอ้เดียร์ ผมก้อไปอาบน้ำก่อน(เตรียมพร้อมรับศึก หุหุหุ) ขากนั้นไอ้ตั้มก้อไปอาบน้ำ ระหว่างนั้นผมก้อแกล้งทำเป็นนอน พอไอ้ตั้มอาบน้ำกลับเข้ามาในห้อง
“กานต์ มึงหลับไปยัง”
“.....”
“ไอ้นี่มันหลับไวจังวะ”
ไอ้ตั้มก้อปิดไฟแล้วก้อเดินมานั่งข้างๆผม
“ไอ้ขี้เซาเอ้ย นึกจะหลับก้อหลับนะมึงเนี่ย”
“ใครบอกมึงว่ากูหลับล่ะ”
พูดเสร็จผมก้อดึงไอ้ตั้มมาจูบ มันก้อไม่ขัดขืน ระหว่างที่จูบปากกันผมก้อถอดเสื้อมันออก แล้วก้อไซร้ไปที่ติ่งหูมัน มันพึ่งสระผมมาใหม่ๆ กลิ่นแชมพูยังอยู่เลย ปกติมันเป็นคนผมบาง แถมตัดสั้น มันเลยชอบใส่เยล ทำเป็นไอ้หัวหนาม พอผมมันไม่ได้ใส่เยลมันก้อมองแปลกไปอีกแบบนึง ผมขบติ่งหูมันเล่น
“อาว์ กานต์กูเสียวจัง”
ผมไม่ว่างตอบมันหรอกเพราะผมกำลังลากลิ้นลงมาที่ซอกคอมันจากนั้นก้อดูดนมมันเล่นสลับซ้ายขวาตอนนี้มันจิกเล็บลงบนหลังผมแล้ว
“กานต์ ตั้มไม่ไหวแล้ว ช่วยตั้มทีนะ”
มันกดหัวผมลงไปหาตั้มน้อยผมเอาจมูกซุกไซร้เล่น รู้สึกถึงความแข็งที่อยู่ใต้กางเกงบอลของมัน นี่มันเตรียมพร้อมถึงขนาดไม่ยอมใส่กางเกงในเลยหรอวะเนี่ย ผมนึกในใจ มันเอามือจับหัวผมไว้แน่น ผมเอาปากงับขอบกางเกงบอลที่มันใส่แล้วค่อยๆดึงรูดลงมา แล้วสิ่งนั้นมันก้อหลุดออกมาเป็นอิสระ ลำตั้งตรงสวย ขาวเหมือนผิวของมัน หัวยังไม่เปิดเลยครับ ขนาดพอสมควรแต่ไม่รู้ว่าเท่าไหร่เพราะไม่เคยวัดอ่ะ มันยกสะโพกขึ้นเล็กน้อยแล้วก้อรูดกางเกงออกไปทางปลายเท้า ผมอยากแกล้งมันก้อเลยไซร้ไปที่ไข่ของตั้มดูดเล่น เสร็จแล้วแหย่ลิ้นไปที่ขาหนีบ จากนั้นก้อเลียไปที่ต้นขา โดยพยายามที่จะไม่ให้ร่างกายส่วนใดไปสัมผัสกับตั้มน้อย ตั้มมันดิ้นเหมือนปลาโดนทุบหัว
“กานต์ กูไม่ไหวแล้ว อย่าทรมานกูเลยนะ”
“ตั้มพูดกับกานต์เพราะๆ ก่อนดิครับ”
ผมเล่นแง่หน่อยนึง นึกในใจ มึงอยากให้กูทำ มึงก้อต้องพูดเพราะๆกับกูดิวะ
“ครับ กานต์ครับ ตั้มใจจะขาดแล้ว อย่าทรมานตั้มเลยนะครับ ที่รัก”
ผมเอามือจับตั้มน้อยครับ แล้วก้อรูดเล่นเบาๆ จากนั้นก้มหัวลงไปหาแล้วเอาลิ้นเลียหัวที่เยิ้มไปด้วยน้ำอยากของตั้ม ยิ่งทำให้ตั้มบิดเอวใหญ่ ตั้มพยายามเด้งเอวส่งท่อนเนื้อนั้นเข้ามาในปากผม ผมห่อปากรับด้วยความเต็มใจ ขณะที่ผมกำลังคาบท่อนลำของตั้มอยู่นั้นเอง ตั้มก้อครางเสียงดัง พร้อมกับกดหัวผมจนจมูกผมซุกลงไปในดงขนของตั้มพร้อมกับฉีดน้ำอุ่นๆ เข้าคอผม
“ทำไมเสร็จไวจังวะ”
“ก้อกูไม่เคยนี่หว่า กูไม่เคยมีอะไรกับใครนะเว้ย มึงน่ะคนแรกของกูเลยรู้ป่าว”
มันพูดไปก้อหน้าแดง
แทนคำพูดผมเริ่มปลุกอารมณ์มันต่อ จนมันเรื่มแข็งสู้อีกรอบ
“ตั้ม กานต์รักตั้มนะ กานต์จะเป็นของตั้มคนเดียว”
พูดเสร็ผมก้อลุกขึ้นถอดเสื้อและกางเกงอกก
“กานต์จะทำอะไรอ่ะ”
“กานต์ก้อจะทำให้ตั้มมีความสุขงัยครับ”
ผมหยิบโลชั่นมาแล้วทาไปที่ท่อนลำของตั้ม พร้อมกับเอามือปั่นเล่น ตั้มเองก้อเด้งเอวสู้มือผมด้วยความเสียว จากนั้นผมก้อขึ้นไปนั่งคร่อมบนตัวตั้ม แล้วค่อยๆหย่อนสะโพกลงไป
“ตั้ม แน่นจังเลยครับ”
“อูย กานต์ครับ เจ็บจังเลยครับ มันตอดจังเลย”
“ตั้มครับ เข้าไปจะสุดแล้วครับ อีกนิดเดียว อีกนิดเดียว”
พอผมกดสะโพกลงไปสุด ผมก้ออยู่เฉยสักพักหนึ่งพร้อมกับก้มลงไปจูบตั้ม
“ตั้มครับ รักกานต์นะครับตั้ม”
“ครับ รักกานต์ที่สุดเลยครับ”
เมื่อผมหายจุกแล้วจึงเริ่มยกสะโพกขึ้นลงช้าๆ ตั้มทำหน้าเหยเก
“กานต์ครับ ตั้มเจ็บตรงหัวอ่ะครับ”
“กานต์ก้อเจ็บครับ ตั้มทนหน่อยนะครับเดี๋ยวเราจะได้มีความสุขด้วยกัน”
ผมเริ่มขย่มตัวขึ้นลงด้วยจังหวะที่เร็วขึ้น ขณะเดียวกันก้อดึงตั้มขึ้นมาดูดปาก แล้วแลกลิ้นกัน ตอนนี้ผมเริ่มเสียวแล้วเลยขย่มเร็วขึ้น ตั้มเองเริ่มเด้งสวนขึ้นมา มือตั้มก้อจับสะโพกผม เพื่อให้ผมคุมจังหวะเอาไว้ ผมขย่มได้สักพักตั้มก้อผลักผมให้นอนหงายโดยที่ตั้มอยู่ข้างบนแล้วตั้มเริ่มซอยเอว โดยมือตั้มก้อชักให้ผมไปด้วย ผมเอาขาเกี่ยวเอวตั้มไว้ด้วยความเสียวเต็มที่
“ตั้มครับ ซอยแรงๆ เลยครับ กานต์จะไม่ไหวแล้ว”
“ตั้มก้อเร่งเต็มที่อยู่นี่งัยครับ ตอดดีเหลือกานต์ครับ”
“ตั้มครับ กานต์แตกแล้ว กานต์ไม่ไหวแล้ว”
แล้วผมก้อกระฉูดน้ำรักออกมาจนเต็มหน้าท้องไปหมด ตอนนั้นผมก้อขมิบก้นรับการซอยจากตั้ม ยิ่งทำให้ตั้มเร่งจังหวะในการซอย ผมดึงตั้มลงมาจูบปากอีกครั้ง ผมเองก้อไม่รู้เป็นรัยชอบดูดปากกับคนที่มีอะไรด้วยอ่ะครับ ผมว่ามันรู้สึกดีนะ
“กานต์ครับ ตั้มจะเสร็จแล้ว ที่รักครับไม่ไหวแล้ว”
“ตั้มออกในตัวกานต์เลยนะครับ กานต์รักตั้มนะครับ”
ตั้มกระแทกมาอีกสองสามทีแล้วผมก้อรู้สึกถึงสายน้ำที่พ่นเข้ามาในตัวผม ตั้มกอดผมไว้แน่นเราจูบปากกันอีกที หลังจากนั้นตั้มก้อพลิกตัวลงนอนด้านข้าง แล้วเราก้อหลับกันไปในอ้อมกอดของกันและกันด้วยความเพลีย
**************************************************************

ตอนที่ 8 (ไม่ค่อยสบายเลยนึกชื่อไม่ออกครับ)
หลังจากวันนั้นแล้ว ระหว่างผมกับไอ้ตั้มก้อรู้สึกผูกพันกันมากขึ้น พอดีเป็นช่วงใกล้ปิดเทอม ก้อจะมีการอบรมฟื้นฟูจิตใจประจำปีอ่ะครับ โดยเขาจะแยกระหว่างเด็กคริสต์กับเด็กที่นับถือศาสนาอื่น แต่ไอ้ตั้มมันอยากให้ผมไปกะมันอ่ะดิ
“มึงไปกะกูดิว้า”
“บ้าหรอ มึงจะให้กูไปด้วยเนี่ยนะ กูเด็กพุทธนะมึง”
“ไม่เป็นรัยหรอก มึงก้อไปขอพ่ออธิการดิ บอกว่ามึงจะมาเรียนคำสอน จะเข้าคริสต์”
“โห มันตั้งใจเกินไปเปล่ามาเปลี่ยนเอาตอนนี้ เดี๋ยวในห้องมันแซวตายเลย”
“เอาเหอะน่า”
“ไม่เอา ปีหน้าแล้วกัน ปีนี้มันกระชั้นไป จะไปไม่กี่วันแล้วนะ”
“งั้นมึงไปขอพ่ออธิการกะกูก่อน ว่าจะเรียนคำสอน”
“เออ ไปก้อไป”
สรุปเลยต้องไปหาคุณพ่อกะมันครับ ไม่งั้นเดี๋ยวมันงี่เง่า พอเข้าไปคุณพ่อก้อถามว่าทำไมถึงอยากมาเรียนคำสอน ดีว่าผมสนิทกะมันจนรู้อะไรบ้างนะเนี่ย ผมเลยบอกไปว่าผมศรัทธาในแม่พระครับ คุณพ่อเลยให้มาเรียนคำสอนกับคุณพ่ออ่ะ แล้วพอดีแกก้อเลยถามว่าฟื้นฟูจิตใจจะไปกะเด็กคริสต์รึเปล่า ผมเลยบอกไปว่ายังไม่ไปเพราะยังไม่ค่อยได้ศึกษามา คุณพ่อก้อไม่ว่าอะไร แต่ไอ้คนข้างๆผมนี่ดิ เสือกชกขาผมเฉยเลย
พอออกมาจากห้องพ่ออธิการมันก้อเปิดฉากทันที
“พ่อเขาให้มึงไป แล้วทำไมมึงไม่ไปวะ”
“ก้อกูบอกแล้วงัย ปีหน้าค่อยไป กูไม่หนีมึงไปไหนหรอกน่า”
“มึงไม่อยากไปกะกูหรอ”
“บ้าดิ กูก้ออยากไป แต่คนอื่นมันแซวเอา แค่นี้กูก้อยอมมากแล้วนะ”
“เออ ก้อได้”
จริงๆแล้วเหตุผลที่ผมไปกะเด็กพุทธอ่ะ เพราะมันมีอะรัยที่ต้องเคลียร์นิดหน่อยครับ ก่อนหน้าที่ผมจะคบกะไอ้ตั้ม ผมเคยจีบเด็กช่างกลปี 1 ด้วยกันไว้คนนึงชี่อไอ้ระครับ หน้าตาก้อไทยๆแต่ขาว แล้วก้อเล่นบาสด้วย (คุณสมบัติสำคัญเลยนะเนี่ย ไม่รู้เป็นไร โคตรชอบเลยคนเล่นบาสเนี่ย)
แล้วพอถึงวันเดินทางก้อเตรียมของมาเพียบเลย ปีนั้นโรงเรียนพาไปที่บ้านเยเนซาเรธ แหลมผักเบี้ยเพชรบุรี อะรัยก้อดีนะ เสียแต่ว่ามันเหม็นคาวของทะเลอ่ะ มันใกล้กับหมู่บ้านประมงแถวหาดเจ้าอ่ะครับ พอไปถึงเซอร์ก้อให้พักตามห้อง ห้องใครห้องมัน เป็นเรือนนอนยาวๆอ่ะ แต่ก้อสะอาดนะ ระหว่างที่จัดที่นอนอยู่ไอ้ดามันก้อพูดขึ้นมาว่า
“กานต์ ทำไมมึงไม่ไปกะไอ้ตั้มอ่ะ”
“กูเป็นเด็กพุทธ จะให้กูไปกะมันได้งัยอ่ะ”
“มึงไม่ต้องมาฟอร์ม ไอ้ตั้มมันเล่าให้กูฟังแล้ว เรื่องที่เข้าไปหาอธิการกันอ่ะ”
“กูกลัวพวกมึงแซวกันอ่ะดิ”
“แล้วมึงนึกว่ามึงไม่ไปแล้วจะรอดหรอวะ 555”
เออไอ้เวรแซวกันเข้าไปเหอะ จัดของเสร็จก้อออกไปร่วมกิจกรรมอ่ะ มีรัยบ้างก้อจำไม่ค่อยได้ มันนานแล้ว (เพราะตอนนี้แก่แล้ว หุหุหุ) พอเสร็จกิจกรรมเขาปล่อยให้เตรียมเข้านอนพอดีเห็นไอ้ระมันเดินคนเดียวทางริมหาดเลยแอบไปหามันหน่อยอ่ะครับ
“ระ รอกูด้วยดิ”
“มาทำไมวะ มีธุระอะรัย”
“โกรธกูหรอ อย่าโกรธกูเลยนะ กูรักไอ้ตั้มอ่ะ แล้วกูก้อไม่คิดว่ามันจะเป็นไปได้อ่ะ”
“พอมันเป็นไปได้ มึงก้อเลยลืมกูเลยใช่ป่ะ”
“ป่าวนะ มึงยังเป็นเพื่อนกูนะ นะนะนะ”
ต้องใช้ลูกอ้อนครับ มันจะได้ใจอ่อน ผมไม่ชอบอ่ะคับ คนเคยคุยแล้วมาทำเหมือนไม่รู้จักเนี่ย
“เออ ก้อได้ แต่กูขอรัยอย่างนึงนะ”
“รัยอ่ะ”
มันดึงผมเข้าไปกอดเฉยเลย มารมณ์ไหนวะ
“ถ้าเลิกกะมันแล้ว มาคบกะกูนะ”
ยังไม่ทันที่ผมจะตอบอะไรก้อพอดีมีเสียงดังขึ้นมา
“มึงทำรัยกันวะ”
*********************************************************************

Vasabi

  • บุคคลทั่วไป
กะลังหนุกเลย มาต่อให้ไวนะคุณบลู :haun5:

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
เรื่องนี้ใครได้อ่านแล้วจะหยุดไม่ได้ครับ เหอๆ

ตอนที่ 9
“มึงทำไรกันน่ะ”
พอผมหันไปปรากฏว่าไอ้เดียร์มันมายืนอยู่ข้างหลังผม หน้าตามันเหมือนมีอะไรในใจอ่ะ
“ป่าว กูมาคุยกะไอ้ระเฉยๆ”
“เฉยห่ารัยวะ กอดกันด้วย กูจะฟ้องไอ้ตั้ม”
เอาล่ะสิกู จะทำงัยดีวะเนี่ย หันไปมองหน้าไอ้ระ ไอ้ระก้อพยักหน้าทำนองว่าไปเคลียร์กะเพื่อนมึงเอาละกัน โห ไอ้เวร ถ้าไม่เพราะมึงมากอดกูมันจะเป็นเรื่องมั้ยเนี่ย ผมเลยเดินไปหาไอ้เดียร์ แล้วก้อพูดกะมัน
“กูไม่ได้มีรัยกะไอ้ระนะเว้ย กูรักไอ้ตั้มคนเดียวจริงๆ”
“มึงไม่ต้องบอกหรอก เอาเป็นว่ากูเชื่อมึงละกัน”
ผมเลยกอดคอไอ้เดียร์แล้วเดินกลับห้อง โดยที่ไม่ลืมจะหันไปยิ้มให้ไอ้ระก่อน ตอนที่เดินไปผมก้อบอกกะไอ้เดียร์ว่า
“เดียร์ มึงจะไม่บอกไอ้ตั้มใช่ป่ะ เรื่องเมื่อกี้อ่ะ กูขอบใจมึงนะ”
“มึงนึกว่ากูจะทำร้ายมึงได้หรอวะ”
“แหงอยู่แล้ว กูเป็นเพื่อนกะมึงนี่หว่า มึงจะทำกูได้หรอ”
เสร็จแล้วเลยเดินเข้าที่พักกัน พอไปถึงไอ้พวกเวรนั่นกะลังจั่วกันอยู่พอดีเลย ผมเลยเข้าไปแจมกะมัน เล่นได้สักพักเซอร์ก้อมาไล่ให้ปิดไฟนอนได้แล้ว พอเข้านอนไอ้ดามันก้อมากระซิบถามผม
“กานต์มึงสังเกตป่ะ พักนี้ไอ้เหี้...เดียร์มันเป็นรัยวะ ดูมันหงอยไปนะ”
“หรอ กูไม่เห็นสังเกต มันก้อปกตินี่หว่า มึงคิดมากไปป่าว”
“ไม่รู้เหมือนกันว่ะ กูมันขี้สงสัยมากไปมั้ง เออ นอนเหอะ เดี๋ยวเช้าลุกไม่ไหว”
อีกสองวันที่อยู่ที่แหลมผักเบี้ย ไม่กล้าไปคุยกะไอ้ระมาก แอบคุยนิดหน่อยอ่ะ กลัวไอ้เดียร์มันไปฟ้องไอ้ตั้ม เดี๋ยวเป็นเรื่อง ขี้เกียจมานั่งตอบคำถามมัน พอกลับมาอาทิตย์ต่อมาเด็กคริสต์ก้อไปอบรม หลังจากนั้นก้อมีสอบไฟนอล ตอนที่สอบไฟนอลกัน ก้อเลยนัดไปเที่ยวหลังสอบ เพราะสอบเสร็จแล้วยังต้องทำงานผลัดอีกอ่ะ มันก้อเหมือนมาเรียนนี่แหละ แต่ไม่ได้นั่งเรียน ต้องลงช็อปไปทำงาน เลยนัดกันไปเที่ยวบ้านไอ้เอ็ดเพื่อนในห้อง ประมาณ 10กว่าคนอ่ะ ก้อไปรถไฟกันครับ เอากีต้าร์ไปด้วย เฮฮากันเต็มที่ ก้อเหมือนเดิมอ่ะ ไอ้ตั้ม ไปด้วย แล้วจะไปจีบใครเอาข้างหน้าได้มั้ยเนี่ย หุหุหุ จริงๆแล้วผมก้อรักไอ้ตั้มมากนะครับ แต่มันเป็นนิสัยอ่ะ เห็นคนน่ารักแล้วอดใจไม่ค่อยได้ อยากรู้จักอ่ะ แล้วเดี๋ยวจะมาเล่าต่อตอนที่ไปพักที่หัวหินละกัน ไปอยู่เกาะมาด้วยลืมชื่อไปแล้วว่าเกาะอะไร เพราะมันตั้งเป็น 10 ปีแล้ว
**************************************************************

ตอนที่ 10
พอถึงเช้าวันที่นัดกัน ผมก้อไปเจอกะพวกเพื่อนที่สถานีรถไฟ วันนั้นพวกผมไปกัน 12 คน ก้อมีผม ไอ้ตั้ม ไอ้ดา ไอ้นนท์ ไอ้เดียร์ ไอ้เอ็ด ไอ้คม ไอ้สันต์ ไอ้ชัย ไอ้ยา ไอ้นพ และก้อไอ้คุง พอมาพร้อมกันก้อซื้อตั๋วรถไฟได้เที่ยว 11 โมงกว่า พอขึ้นรถไฟได้พวกผมก้อรีบไปตู้หลังสุดเลย มันนั่งสบายดีอ่ะ ไม่ค่อยมีคนเท่าไหร่ นั่งกว่าจะถึงหัวหินนะโคตรเมื่อยเลย ดีว่านั่งร้องเพลงเพลินๆเลยพอทำเนา พูดถึงกีต้าร์นะขอเผาเพื่อนหน่อยเหอะ เพื่อนๆเคยเจอแบบผมมั้ย คนบ้าอะไรก้อไม่รู้มันเล่นกีต้าร์โคตรเก่งเลยนะ ไม่ต้องมีคอร์ด ไม่ต้องดูอะไรเลย มึงร้องมาละกัน กูเล่นได้ แต่อย่าให้มันร้องนะ สุดยอด ขนาดให้มันไล่คีย์ธรรมดายังเพี้ยนเลยอ่ะ ไอ้ดาเพื่อนผมเองครับ นั่งร้องไปกินเหล้าไปนิดหน่อยอ่ะ แก้เบื่อบนรถไฟ
พอไปถึงหัวหินก้อไปบ้านไอ้เอ็ด เพราะวันนี้ออกไปเกาะไม่ทันแล้ว เหนื่อยด้วยขี้เกียจไปต่อ นอนพักกันก่อนคืนนึง พอออกไปหาอะรัยกินกันที่ตลาดหัวหินนะ ของโคตรแพงเลย เห็นราคาแล้ว โห นี่มันขายกะตั้งตัวกันเลยป่าววะเนี่ย พอกินเสร็จไปเดินเล่นกันริมหาด กะจะไปสวีทกะไอ้ตั้มซะหน่อย เสือกตามกันมาเป็นขโยงเลยอ่า เลยเดินเล่นกันมันทั้งกลุ่มน่ะแหละ แล้วก้อเอาเหล้ามานั่งกิน ร้องเพลงกันริมหาด จนประมาณตี 2 มั้งถึงกลับบ้านไอ้เอ็ดกัน ไปถึงก้อหลับเป็นตายครับ ทำรัยไม่ได้เพราะนอนรวมกันทั้งหมด ในห้องโถงบ้านมันอ่ะ ขืนยัดเข้าไปในห้องมันนะห้องระเบิดพอดี
เช้ามาก้อรีบขนสัมภาระ วันนี้จะไปเป็นชาวเกาะ มันเรียกว่าเกาะอะไรผมก้อจำไม่ได้แล้วอ่ะ จำได้แต่ว่าเป็นเกาะที่คนเรือเขาจะมาหลบมรสุมกันที่นี่ มันมีแหล่งน้ำจืด มีที่พักนะ แต่พวกผมเอาเต็นท์ไปกันเอง เตรียมอาหารเตรียมของไปเพียบ กะจะไปค้างกันสัก 2 คืน นั่งเรือไปพักใหญ่ๆก้อไปถึงเกาะ มันก้อสวยดี ไม่มีคนด้วย พอไปถึงก้อรีบกางเต็นท์เลย ผมกะไอ้ตั้มก้อเลือกมุมที่มันไกลคนอื่นหน่อย (เดี๋ยวเสียงไปรบกวนชาวบ้านเขา หุหุหุ) กางเต็นท์เสร็จไอ้พวกบ้าพลังมันชวนไปเตะบอลกันอ่า โห นี่มึงจะไม่พักเลยรึงัยว้า นั่งเรือมา แป็ปเดียวจะเล่นแล้ว ไอ้ตั้มดิ เสือกบ้าจี้ไปเล่นกะพวกมันด้วย เลยตามเลยวะ เล่นบอลเสร็จก้อล้างตัวกินข้าวกัน แล้วก้อเลยงีบไปอ่ะ เมื่อคืนไม่ค่อยได้นอนง่วงโคตรๆเลย
พอแดดร่มหน่อยมันจะเล่นน้ำทะเลกันอีกแล้ว  มันบ้าพลังอะรัยกันหนักหนาวะ ผมเลยบายอ่ะ ขี้เกียจเล่น บอกเดี๋ยวกูทำกับแกล้มรอพวกมึงละกัน มึงไปเล่นกันเหอะ ไอ้ตั้มเลยขออยู่เป็นเพื่อน ไอ้พวกนั้นเลยโห่กันใหญ่เลย พอมันเลิกเล่นก้อเย็นแล้วอ่ะ มันล้างตัวกันเสร็จก้อมานั่งกินเหล้าร้องเพลงกัน สักพักผมก้อสะกิดชวนไอ้ตั้มไปนั่งเล่นที่ริมทะเลกัน มีผ้าห่มไปผืนนึง
“ตั้ม มึงรู้ป่ะ กูรอวันนี้มานานแล้วนะ วันที่กูจะได้นั่งดูดาวข้างมึงเนี่ย”
“หรอ นั่งดูอย่าเดียวหรอ”
“มึงจะให้กูทำรัยอ่า ไอ้ทะลึ่ง”
“มึงดิทะลึ่ง กูแค่จะทำงี้โว้ย”
มันดึงผมให้ซบไปที่ไหล่มัน แล้วมันก้อหอมที่ผมของผม
“หัวเหม็นว่ะ”
“อ้าวไอ้นี่อย่ามามั่ว กูพึ่งอาบน้ำสระผมตอนทำกับข้าวเสร็จนะมึง เหม็นก้อไม่ต้องดม”
ผมแกล้งทำเป็นยกหัวออก เลยโดนมันล็อกคออ่ะ
“โอ๋ๆ กูแหย่เล่น แค่นี้ทำงอน”
“ไม่รู้ มึงเหม็นเดี๋ยวกูกลับไปแดกเหล้ากะไอ้เหี้...พวกนั้นก้อได้”
“มึงนี่ ทำไมขี้งอนจังวะ” มันดึงมือผมให้นั่งลง
“กูขี้งอน กูไม่ดีอย่างงี้แหละมึงรับได้มั้ยล่ะ รับไม่ได้ก้อไม่ต้องรับ”
“กูรับไม่เป็นว่ะ เป็นแต่รุก”
“ไอ้บ้า มึงเนี่ยพูดอะรัยวะ”
“ก้อมันจริงนี่หว่า”
ผมก้อเลยกอดเอวมันไว้อ่ะ จริงๆแล้วไม่ได้งอนหรอกแกล้งแหย่มันไปงั้นแหละ เสร็จแล้วเลยแอบหอมแก้มมันไปทีนึง
“ตั้ม มึงรู้อะไรป่าว กูรักมึงมากนะ กูไม่ใช่คนดีอะไรหรอกนะ กูไม่มีอะไรดีพอที่จะสู้กับใครเขาได้หรอกนะ กูมีก้อแค่ใจกูเท่านั้นแหละ ที่กูมั่นใจว่ามันจะไม่แพ้ใคร”
“อืมม์ กูรู้ เพราะกูรู้งัย กูถึงคบกับมึง”
“กูบอกมึงไว้ก่อนนะ กูไม่ชอบคนโกหก มีอะไรก้อบอกกูตรงๆทุกเรื่องนะ ในเมื่อกูกะมึงจะคบกัน ต่อไปนี้ก้อไม่มีอะรัยต้องมาปิดบังกัน โอเคป่าว”
“รู้แล้วน่า”
มันเอามือมาขยี้หัวเล่นอีกแล้ว ไอ้เวรนี่ชอบเล่นหัวจริงๆเลย นั่งคุยกันจนเสียงไอ้พวกนั้นมันเงียบไป ก้อเลยคิดว่าถึงเวลานอนกันสักที ก้อเลยชวนไอ้ตั้มกลับไปนอนกัน พอเดินไปถึงเต็นท์ เปิดเข้าไปทั้งผมกะไอ้ตั้มก้อตกใจทั้งคู่
**************************************************************

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
หง่ะ

ไม่อาววววว :serius2:

ไม่ยอม :o

อย่าค้างไว้จิ :laugh:


อยากรู้อะ

พูห์ :serius2:

abcd

  • บุคคลทั่วไป
 :o  เจอครายเย๋อออออออออออออออ








No_ProMises

  • บุคคลทั่วไป
มาต่อไวๆ นะค๊าบ

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
เดาว่าเป็นใครกันบ้าง ใครถูกยกมือขึ้น เอิ้กๆ
************************

ตอนที่ 11
พอเดินไปถึงเต็นท์ เปิดเข้าไปทั้งผมกะไอ้ตั้มก้อตกใจทั้งคู่ ไอ้เดียร์มันมานอนอยู่ในเต็นท์ได้ไงวะ ผมเข้าไปเขย่าตัวมัน
“ไอ้เดียร์ ไอ้เวรนี่ มึงมานอนรัยนี่ มึงไปนอนเต็นท์มึงดิวะ”
“กูจะนอนกะพวกมึงอ่า กูนอนด้วยแค่นี้ไม่ได้หรอวะ”
“แล้วกูกะไอ้ตั้มจะนอนงัยวะ”
“ก้อเบียดๆเอาเด่ะ”
ผมหันไปมองหน้าไอ้ตั้ม ไอ้ตั้มมันเลยดึงมือผมออกมา ออกไปนั่งที่เสื่อหน้าเต๊นท์
“เดี๋ยวก้อสว่างแล้ว นั่งเล่นเรื่อยๆ ก้อได้ ไม่เป็นรัยหรอก ปล่อยมันเหอะ มันกำลังเมา”
“มึงยังไม่ได้นอนไม่ใช่หรอ กูยังได้งีบไปแล้วนะ”
“ก้อเดี๋ยวกูก้อนอนงัย”
“อ้าว มึงจะให้กูนั่งคนเดียวหรอวะ”
“ป่าวกูก้อจะนอนข้างนอกนี่แหละ กานต์ กูขอนอนหนุนตักมึงได้ป่ะวะ”
“ก้อ... ได้ดิ”
“เกาคางให้กูด้วยนะ”
“โห มึงนี่ได้ทีเอาใหญ่เลยนะ”
“ยังไม่ได้เอา กลางแจ้งเดี๋ยวฟ้าผ่า แค่เกาคางพอ โอ๊ย !”
ผมดึงจมูกมันดิ ไอ้นี่ชอบพูดเล่นจริงๆ วันนี้กูอดเลย เพราะไอ้เวรในเต็นท์ทีเดียวเลย
“นอนได้แล้ว เดี๋ยวกูเกาคางให้ หลับซะเดี๋ยวโทรมนะมึง”
“ค้าบ”
ผมนั่งเกาคางไปก้อมองหน้ามันไป เวลามันหลับนี่ก้อน่ารักดีนะ เหมือนเด็กดีอ่ะ เห็นมันหลับตาพริ้ม ปากบางสีชมพู โอ๊ย ! อดใจไม่ไหวแล้วโว้ย ผมเลยก้มลงไปจูบมัน แล้วก้อแลกลิ้นกันอยู่พักนึง มันก้อยังไม่ลืมตานะ
“กูน่ารัก ขนาดอดใจไม่ไหวเลยหรอวะ”
“แหวะ มึงหลงตัวเองไปป่าว กูเมาหรอก กูถึงทำลงไปอ่ะ”
“งั้นดูดิ สร่างยัง”
มันโน้มคอผมลงไปจูบอีกรอบ ผมรักมันมากเลยนะเนี่ย มันจะรู้มั้ย
“ตั้ม กูรักมึงมากนะ แต่มึงจำไว้นะ ถ้าวันไหนมึงทำให้กูต้องเจ็บปวดใจ กูจะทำให้มึงเจ็บปวดใจยิ่งกว่าที่มึงทำกะกูอีก”
“โห มึงโหดจังอ่ะ มึงจะฆ่ากูรึงัย มึงทำกูได้ลงคอหรอวะ”
“กูไม่ทำรัยมึงหรอก และกูก้อไม่มีวันที่จะทำร้ายมึงได้หรอกน่า”
“แหงอยู่แล้ว กูน่ารักและก้อดีขนาดนี้ มึงทำกูไม่ลงหรอกใช่มะ”
“เออ! รู้ดีนักนะมึง”
ผมผลักหัวมันเล่น มันเลยหันเอาหัวมาซุกที่หน้าท้องผม มันเป่าที่ท้องผมด้วยอ่ะ แล้วก้อจั๊กกะจี้เอวผม ไอ้บ้านี่มันชอบแกล้งจริงๆเลย ผมก้อเลยจั๊กกะจี้เอวมันคืนมั่ง เลยหัวเราะดังลั่นกันทั้งคู่เลย
“เฮ้ย! มึงจะหวานกันอีกนานมั้ย กูจะนอน กูเลี่ยนแย่แล้ว” ไอ้เดียร์ตะโกนออกมาจากในเต๊นท์
“ไอ้สาด กูต้องมานั่งข้างนอกนี่ก้อเพราะมึงไม่ใช่หรอ ยังไม่สำนึกอีกนะ”
“มึงออกไปเอง กูบอกแล้วให้นอนเบียดด้วยกัน ช่วยไม่ได้”
“ช่างมันเหอะน่า เกาคางกูต่อดิ”
ไอ้ตั้มมันดึงมือผมไปเกาคาง ผมเลยสงบปากกะไอ้เดียร์ก่อนแต่นึกในใจว่ามึงอย่าให้ถึงทีกูนะ นั่งไปสักพักผมเองก้อง่วงนะ มันใกล้สว่างแล้วอ่ะ เลยสัปหงก
“มึงนอนมั่งดิ”
“อ้าวมึงไม่ได้หลับหรอ”
“กูหลับไปแล้ว พอตื่นมาก้อเห็นมึงสัปหงกอยู่อ่ะ”
“ไม่เป็นรัยหรอก เดี๋ยวก้อสว่างแล้ว”
“น่า นอนด้วยกันดิ หนุนแขนกูก้อได้”
“อืมม์ ก้อได้”
ผมเลยล้มตัวลงนอนข้างๆ หนุนแขนนอนมองหน้ามัน มันหลับตานะ แต่เสือกยิ้มด้วยอ่ะ
“มองคนหล่อหรอมึงอ่ะ”
“บ้าดิ กูมองตีนกามึง เวลายิ้มน่ะแหละ คนบ้ารัยวะ ตีนกาขึ้นแล้ว”
“พูดงี้กะกูหรอ”
มันเลยกอดผมแน่นเลยอ่ะ อบอุ่นดีจังเลย การได้นอนอยู่ในอ้อมกอดมันเนี่ย ผมเผลอหลับไปเมื่อไหร่ก้อไม่รู้ รู้สึกตัวอีกทีตอนเหมือนมีใครเอาอะไรมาเขี่ยที่หลัง อ้าวไอ้ดาเองนี่หว่า เอาไม้มาเขี่ยกูทำไมวะ
“ทำเหี้...รัยมึงวะ กูไม่ใช่หนอนแก้วนะมึง มาเขี่ยอยู่ได้ กูจะนอน”
“ชิบหา... กูนึกว่าตายทั้งคู่ กอดกันกลมเลยนะมึง ไม่อายฟ้าดินเลยนะ”
“อายเหี้...รัยล่ะ กูไม่ได้เอากันนี่ กูนอนกอดกันเฉยๆ”
“แล้วทำไมมึงไม่เข้าไปนอนในเต็นท์วะ มาโชว์พวกกูอยู่เนี่ย”
“นอนบ้ารัยอ่ะ ไอ้สันดานเดียร์มันมาแย่งที่นอนพวกกูอ่ะดิ กูถึงต้องมานอนข้างนอกเนี่ย”
“ไอ้เอ็ด เมื่อคืนไอ้เดียร์ไม่ได้ไปนอนกะมึงหรอวะ” ไอ้ดาตะโกนถาม
“ไม่รู้กูเมา หลับไปก่อน”
“เออ ดี กูสองคน เลยต้องนอนตากน้ำค้างข้างนอกนี่อ่ะนะ”
ผมบ่นไปตามเรื่องตามราว
“ช่างมันเหอะ จะบ่นไปทำไมล่ะ”
ไอ้ตั้มเอามือมาขยี้หัวอีกแล้วอ่า ตามันก้อยังไม่ยอมลืมนะ ไอ้นี่ขี้เซาเอาเรื่อง
“ไอ้บ้า กูไม่ใช่เด็กนะ ทำยังกะกูเป็นเด็ก”
“มึงน่ะ เด็ก”
“ไม่จริง กูโตแล้ว กู 15 แล้วนะ อ่อนกว่ามึงแค่ปีเดียวเอง”
“ขี้งอนเงี้ยะ ขี้บ่นเงี้ยะ ชอบเถียงเอาชนะเงี้ยะ มึงว่าไม่ใช่นิสัยเด็กหรอ โอ๊ย!”
ผมกัดจมูกมันเลยครับ หมั่นไส้ ว่ากูดีนักใช่มั้ย แล้วก้อเลยรีบลุกไปล้างหน้าล้างตาเตรียมหาอะรัยกินกันอ่ะ ขืนไม่รีบลุกชิ่งมาเดี๋ยวมันแกล้งเอาอีก     
**************************************************************
ตอนที่ 12
หลังจากล้างหน้าล้างตาแล้ว ผมก้อมาต้มน้ำไว้เผื่อใครมันจะชงกาแฟหรือโอวัลติน ส่วนผมก้อกินโอวัลติน แล้วก้อชงกาแฟให้ไอ้ตั้มมัน
“ไอ้ตั้ม ระวังเป็นเบาหวานนะเว้ย มึงกินกาแฟที่ไอ้กานต์ชงอ่ะ” ไอ้เดียร์แซว
“เบาหวานก้อเบาหวาน กูชงให้แฟนกูกิน คนไม่มีแฟนอย่างมีงอิจฉาล่ะสิ”
ไอ้เดียร์หงอยเลยอ่ะ เดินหนีออกไปเลย นี่กูพูดรัยผิดป่ะวะเนี่ย
“ว่ามันแรงไปป่าว ไปง้อมันหน่อยดิ” ไอ้ตั้มกระซิบบอกผม
“กูไม่ได้ผิดนะ มันแซวกูก่อนอ่ะ”
“ไปหน่อยเหอะวะ พักนี้มันยิ่งเครียดๆ อยู่” ไอ้ดาเสริมอีกคน
เอาก้อเอาวะ กูไม่ได้ผิดซะหน่อยต้องมาง้อมันอีก ลุกเดินตามมันไปไอ้บ้านี่มันเดินไปไหนมันวะ ผมเดินตามไปจนไปเจอมันนั่งอยู่ที่ริมโขดหินคนเดียวอ่ะ มันหันหน้าออกไปทะเล ผมเลยไปนั่งข้างมัน
“โกรธกูหรอวะ ขอโทษนะ กูปากไม่ดีเอง มึงเป็นงี้กูใจไม่ดีเลยอ่ะ”
“กูไม่โกรธมึงหรอก กูบอกมึงแล้วงัย กูไม่มีทางทำร้ายมึงหรอกน่า กูไม่ทำให้มึงไม่สบายใจหรอกน่า”
“แล้วมึงเป็นเหี้...รัยวะ พักนี้มึงหงอยไป”
“มึงเคยสังเกตกูด้วยหรอวะ”
“สังเกตดิ มึงก้อเป็นเพื่อนกูนะเว้ย”
หุหุหุจะบอกว่าจริงแล้วไอ้ดามันสังเกตเห็นตะหากก้อเกรงใจ เลยรับสมอ้างไป เอาหน้าหน่อยนึงว่ากูสนใจเพื่อนรักเพื่อนนะเว้ย
“รึมีงไปแอบรักใครวะ ไอ้ห่านี่ ไม่ยอมบอกกันเลยนะ อุบเงียบนะมึง”
“ก้อกูไม่กล้าบอกใคร เพราะเขาคงไม่เคยมองกูหรอก กูก้อแค่รักเขาข้างเดียว”
“ใครวะ เดี๋ยวกูไปฉุดมาให้เอาป่ะ 555”
“บ้าดิมึง ถ้าเขาจะมาก้อต้องมาเพราะรักกูเว้ย ไม่ใช่มาเพราะโดนบังคับ”
“โห พระเอกน่าดูเลยมึงเนี่ย ใครคือผู้โชคดีคนนั้นวะ บอกกูหน่อยได้เปล่า”
“โชคดีรึโชคร้ายไม่รู้ เอาเป็นว่าวันไหน ถ้ากูจะบอกเขา กูจะให้มึงรู้คนแรกเลย”
“มึงสัญญานะ กูต้องรู้เป็นคนแรกนะ”
“เออ มึงได้รู้คนแรกแน่นอน”
มันพูดพร้อมกับยิ้มขึ้นมา ค่อยยังชั่วหน่อย ไอ้นี่ก้ออารมณ์แปรปรวนจริงเลยวะ เอาใจมันหน่อย เดี๋ยวมันงอนอีก เพื่อนมันจะหาว่าเราไม่สนใจเพื่อน สนใจแต่แฟน หุหุหุ แต่จริงๆแล้ว พออยู่กะไอ้ตั้มไม่รู้เป็นรัยลืมเพื่อนหมดเลยอ่า โดนมันด่ากันเป็นปรระจำ แหมมันก้อน่าจะเข้าใจกันบ้างนะ คนมันมีแฟนอ่ะ ก้อไม่ได้ลืมเพื่อนเมื่อไหร่เนอะ ผมลุกขึ้นยืนดึงมือไอ้เดียร์ลุกขึ้น
“ไป ไปได้แล้วเดี๋ยวไอ้พวกนั้นมันห่วงกัน”
“เออ ไปดิ”
มันกอดคอผมแล้วก้อเดินกลับไป ระหว่างทางผมก้อแซวมันมั่ง แหย่มันมั่ง มันก้อหัวเราะ ไม่เหลือท่าทางเศร้าเลย พอเดินไปถึงไอ้ตั้มมันก้อมองหน้าผม กูทำรัยผิดป่ะวะเนี่ย นึกขึ้นได้ ไอ้เดียร์มันกอดคอกูอยู่นี่หว่า เลยเอามือไอ้เดียร์ออก แล้วก้อเดินเข้าไปหาไอ้ตั้ม
“โหรัยวะ อุตส่าห์เดินไปปลอบกู พอกลับมาเจอที่รักปุ๊ป ทิ้งกูเลยหรอ”
“อ้าว มึงนี่ ก้อมึงก้อมีคนที่มึงแอบชอบแล้วนี่หว่า กูก้อต้องมาหาที่รักกูดิวะ”
แม่งมึงดูหน้ามันดิ ทำหน้ายังกะตูด กูกอดคอกะไอ้ดาก้ออกบ่อยยังไม่เห็นแม่งมีอาการงี้เลย นี่มันเป็นห่ารัยอีกเนี่ย
“เป็นรัยวะ”
“ป่าว”
“มึงอย่าทำงี้ดิ กูใจไม่ดีนะ”
“......”
“เป็นเหี้...รัย มึงอ่ะ กูเครียดแล้วนะ”
มันหันหน้ามาแล้วยิ้มเฉยเลย
“กูล้อมึงเล่น กูอยากรู้มึงจะทำยังงัย”
“ไอ้บ้านี่ มึงมาให้กูต่อยมึงเลยนะ ไอ้สันดานนี่ สนุกนักรึงัย”
ผมไล่ต่อยมันไปรอบๆ ไอ้เวรพวกนั้นเลยหัวเราะกันใหญ่เลย วิ่งไล่กันพักนึงมันก้อผลักผมลงไปในทะเลอ่ะ ก้อเลยเล่นน้ำกันไปเลย ไอ้พวกนั้นเลยวิ่งตามกันลงมาเล่นน้ำด้วยกันทั้งกลุ่ม
**************************************************************

pim

  • บุคคลทั่วไป
หุหุ เดียร์ชอบกานต์ใช่มะ



รออ่านอยู่นะคะ

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
รักใครชอบใครก็สังเกตท่าที ถ้าคาดว่าเขารับได้ก็บอกไปเยย
*********************************************
ตอนที่ 13 (ลัคกี้นัมเบอร์ด้วยอ่ะ)
พอเล่นน้ำกันเสร็จก้อขึ้นมาหารัยกินกัน ไปที่เกาะนั้นมันก้อดีนะเงียบดีอ่ะ แต่มันไม่ค่อยมีรัยให้ทำมั้ง ก้อเหมือนเดิมอ่า มันไม่มีอะรัยเลยนี่ไปไหนก้อไม่ได้ เหมือนโดนเอามาปล่อยเกาะ ตกเย็นก้อเตรียมตั้งวงอีกละ แต่วันนี้ไม่กล้าชิ่งไปไหน เดี๋ยว มันมีมารเข้าไปแย่งที่ในเต็นท์อีก วันนี้อารมณ์ดีเลยขอโชว์ลูกคอหน่อย หุหุหุ เลยร้องเพลงตามคำขอของเพื่อนๆอ่ะ เมาแล้วซ่าส์ก้องี้และ มันก้อขอกันเรื่อยนะ แต่ผมก้อสังเกตว่าไอ้เดียร์ทำไมมันเงียบจังวะ แต่ก้อไม่นึกว่าจะมีรัยงัย เพราะปกติมันเป็นคนเงียบๆอยู่แล้ว ก้อแหกปากกันไปสักพักนึง
“เฮ้ย กานต์ กูขอเพลงมั่งดิวะ” ไอ้เดียร์พูดขึ้นมาอ่ะ
“ขอมาเลยคับพี่ เดี๋ยวจัดให้ ขอเลยซิจ๊ะโดน”
“กูขอดึกแล้ว ของไฮดร้าว่ะ”
“นักดนตรีว่างัยครับ เล่นจบมั้ย”
“มึงร้องจบ กูก้อเล่นจบอ่ะครับ”
“ตามคำขอครับ ดึกแล้ว นะครับ”
แล้วผมก้อร้องเพลงดึกแล้วอ่ะ ขออนุญาตลงเนื้อเพลงนะครับ เผื่อว่าเด็กๆจะไม่รู้จักเพลงนี้ (หูดเหมือนคนแก่เลยเว้ย ไม่อยากคิดว่าแก่อ่า รับไม่ได้)
 ดึกแล้ว
 ข่มตานอนแต่หัวใจ รุมเร้า
 ออกมายืนหาดาว ช่วย ปลอบใจ
 ดึกแล้ว วุ่นใหญ่ ใจร้อนรน
 อยู่ไหน
 อยากจะรู้ตอนนี้เธอ อยู่ไหน
 หลับสบายหรือไร ช่วย บอกกัน
 เอ่ยถาม พระจันทร์ บอกฉันที
 เขาคงนอนหลับอยู่
 ไม่รู้ ไม่สน ใจ
 ฉันเดียวดาย
 ก็ใครคิดถึงเธอ
 แค่เพียงเอ่ยความในใจ
 บอกเธอ ให้รู้ ไป
 เริ่มอย่างไร ไม่กล้าพอ
 อยากขอ
 ฝากดวงดาวทำให้ใจ เธอรู้
 ว่ามีใครเฝ้าดู ได้ แต่คอย
 ได้ไหม วานหน่อย ช่วยฉันที
 ช่วย บอกเธอ
เขาคงนอนหลับอยู่
 ไม่รู้ ไม่สน ใจ
 ฉันเดียวดาย
 ก็ใครคิดถึงเธอ
 แค่เพียงเอ่ยความในใจ
 บอกเธอ ให้รู้ ไป
 เริ่มอย่างไร ไม่กล้าพอ
 อยากขอ
 ฝากดวงดาวทำให้ใจ เธอรู้
 ว่ามีใครเฝ้าดู ได้ แต่คอย
 ได้ไหม วานหน่อย ช่วยฉันที
 ช่วย บอกเธอ
พอร้องเสร็จหน้าม๋าก้อกรี๊ดกันตรึม เลยโค้งหัวเหมือนนักแสดงมืออาชีพสะหน่อย แต่ไอ้ตั้มดิเสือกแซวขึ้นมาอีก
“โห หน้าก้อแก่ ยังร้องเพลงเก่าได้อีก”
“เออ ไอ้หน้าใหม่ ไอ้คนหน้าไม่มีตีนกา มึงดีทุกอย่างคนเดียวแหละ”
ระหว่างที่กำลังทะเลาะกันอยู่ไอ้เดียร์เสือกร้องไห้ขึ้นมาเฉยเลยอ่ะ งงดิ มันเป็นรัยมันวะ รึอินในพลังเสียงกู
“เดียร์มึงเป็นรัยวะ มีรัยบอกกูนะ รึมึงคิดถึงคนที่มึงแอบชอบอยู่วะ”
“กู... กูนอนกะมึงสองคนด้วยได้ป่ะคืนนี้ กูกลุ้มใจว่ะ อยากคุยกะพวกมึง”
ชิบหา...แล้ว นี่มึงจะเป็นมารกูทุกคืนเลยรึงัยเนี่ย กูมาพักผ่อนนะเว้ย กูกะมันไม่ได้มีรัยกันตั้งกะวาเลนไทน์แล้วนะ นึกได้แต่ในใจอ่ะ ไม่กล้าพูด หันไปหาไอ้ตั้ม ก้อเสือกพยักหน้า มึงไม่รู้รึงัย ว่าเวลาอยู่ด้วยกันมันไม่ค่อยมีนะไอ้สาด
“ได้ดิวะ เพื่อนไม่สบายใจกูจะขัดได้งัยวะ”
“นี่มึงจะให้กูนอนคนเดียวอีกแล้วหรอวะ” ไอ้เอ็ดถาม
“มึงก้อมานอนด้วยกันดิ กูอยากคุยกะพวกมัน”
“ไม่ต้องเลย แค่นี้พวกกูก้อแทบจะต้องขี่กันอยู่แล้ว” ผมบอก
“ไม่มีใครนอนมึงก้อขี่กันอยู่ดีล่ะวะ”
ไอ้สันดานดา มึงนี่กูเผลอเปิดแผลไม่ได้เลยนะเนี่ย กะซวกกูจริง สักพักไอ้เดียร์มันก้อเดินเข้าเต็นท์ไปก่อน อดอีกแล้วหรอวะกู ก้อนั่งกันไปสักพักก้อเลยแยกย้ายกันเต็นท์ใครเต็นท์มัน ก่อนเข้าเต็นท์ผมตุ๊ยท้องไอ้ตั้มเบาๆไปทีนึง
“ทำกูทำไมอ่ะ”
“ตั้งแต่มานี่ ยังไม่มีโอกาสเลยนะมึงอ่ะ ใจร้าย”
“แล้วมึงกล้าไล่มันป่ะล่ะ”
“หึ ใครจะไปกล้าวะ”
“งั้นก้อไม่ต้องบ่นไปนอนไป เด็กน้อย”
ผมหันขวับดิ ว่ากุเด็กอีกแล้วนะ มึงเนี่ยมันคงรู้อ่ะ ว่าเคืองเลยกอดแล้วก้อดันให้เข้าเต็นท์ไป พอเข้าไปถึงในเต๊นท์ปรากฏว่าไอ้เดียร์หลับไปแล้ว แล้วมันจะมานอนกะกูทำไมวะเนี่ยเซ็งสาดเลย เลยให้ไอ้ตั้มนอนกลางผมนอนริมอีกข้างนึง เอ จริงๆแล้วไอ้เดียร์ก้อเมาหลับไปแล้วมันคงไม่รู้เรื่องแล้วล่ะ แผนชั่วร้ายเลยเกิดขึ้นในหัวอ่ะ ผมเลยจูบปากมันดิ
“อืมม์ ไอ้เดียร์มันนอนอยู่ด้วยนะ”
“จูบเฉยๆ”
“จูบเฉยๆ แล้วมือล้วงลงไปทำไมอ่ะ อย่าดิเสียวน้า”
**************************************************************

ตอนที่ 14
“จูบเฉยๆ แล้วมือล้วงลงไปทำไมอ่ะ อย่าดิเสียวน้า”
“แล้วตั้มไม่ชอบหรอครับ ถ้าไม่ชอบกานต์จะได้เลิก”
“...”
“ว่างัยครับ ให้เลิกป่ะ”
แทนคำตอบ ไอ้ตั้มก้อกดหัวผมลงไป แต่เพราะสถานการณ์ไม่ค่อยอำนวยเท่าไหร่ ก้อเลยแค่ดึงกางเกงบอลพร้อมกะกางเกงในมันลงมาที่เข่าอ่ะ พอรูดลงก้อเห็น ท่อนเนื้อของไอ้ตั้มชูคอขึ้นมา ผมเอามือรูดหนังหุ้มลงไป แล้วค่อยๆเอาลิ้นเลียไปที่หัวไอ้ตั้มถึงกับจิกหัวผมแน่นเลย พร้อมกับพยายามเด้งเอวส่งท่อนเนื้อนั้นให้เข้ามาในปากของผม ผมห่อปากและก้อพยายามเก็บฟันเพื่อที่ตั้มจะได้ไม่รู้สึกเจ็บอ่ะ ตอนนั้นผมทั้งดูดทั้งเอาลิ้นดุนที่หัว ตั้มถึงกับครางออกมาเบาๆ คงเพราะกลัวไอ้เดียร์ตื่นมั้ง มันเลยไม่กล้าครางเสียงดัง
สักพักผมก้อถลกเสื้อยืดตั้มขึ้นแล้วเลื่อนตัวไปเลียที่หัวนมของตั้ม มือก้อชักให้ตั้มไปด้วย มือตั้มเองก้ออยู่ไม่สุขแล้ว เริ่มล้วงมาที่ท่อนเนื้อของผมเหมือนกัน  ตั้มรูดกางเกงผมลง จากนั้นก้อรูดท่อนเนื้อของผมเล่น ยิ่งทำให้ผมเร่งความเร็วลิ้นที่ตวัดไปตามตัวและหัวนมของตั้มเร็วขึ้น ตั้มเลยดึงผมขึ้นไปจูบปากอ่ะ ขริงๆแล้วโคตรเสียวเลยนะ แต่ไม่กล้าส่งเสียงกลัวไอ้เดียร์ตื่น ระหว่างที่ดูดปากกันอยู่ไอ้ตั้มก้อถอนปากออกแล้วบอกผมว่า
“กานต์ ตั้มจะแตกแล้ว กินน้ำตั้มนะ”
ผมก้อก้มลงไปพร้อมกับดูดท่อนเนื้อพร้อมเร่งฝีปาก สักพักนึงผมรู้สึกถึงการกระตุกของท่อนเนื้อที่อยู่ในปากผม พร้อมกับตั้มก้อกดหัวผมแนบลงไป ผมกลืนกินน้ำรักของตั้มจนหมด มันเป็นน้ำของคนที่ผมรักจริงๆ ตั้มนอนหอบหายใจแรงอยู่ พอผมจูบปากกับตั้มตั้มก้อเอามือสาวท่อนเนื้อของผมพร้อมกับดูดผมที่ซอกคอ จากนั้นก้อเลื่อนมาดูดหัวนมผมทั้งสองข้าง ตั้มจะวนเวียนอยู่แถวซอกคอผมบ่อยมาก จนในที่สุดผมก้อแตกคามือตั้มนั่นเอง จากนั้นเราสองคนก้อเอากางเกงในนั่นแหละครับเช็ดทำความสะอาด เพราะเดี๋ยวก้อเช้าแล้ว จากนั้นเราก้อนอนกอดกัน
พอตื่นเช้ามาผมก้อลุกไปล้างหน้าอาบน้ำตามปกติ จากนั้นก้อมานั่งต้มน้ำ ขณะที่นั่งต้มน้ำไอ้คุงมันลุกออกมาจากเต็นท์เดินผ่านไปจะไปล้างหน้า ผมเห็นมันหันมามองหน้าผม เหมือนจะถามอะไรสักอย่างแต่มันก้อไม่ถาม มันเดินไปมุดเข้าไปในเต็นท์ไอ้ดากะไอ้นนท์ สักพัก ไอ้สองตัวนั้นมันก้อชะโงกหน้าออกมามองผม ผมก้อนึกในใจว่ามันมองรัยมันวะ
“มึงมองรัยกูวะ”
“เมื่อคืนไอ้เดียร์นอนเต็นท์พวกมึงป่าววะ”
“ก้อนอนดิ ไม่งั้นมันจะไปนอนไหนอ่ะ”
“นี่มึงหมู่กันเลยหรอวะ”
“หมู่เหี้...รัย มึงพูดให้เคลียร์ดิ”
“ก้อ...เมื่อคืนมึงทำรัยกันอ่ะ”
“ทำห่ารัย กูก้อนอนปกติ”
“ปกติบ้านมึงดิ คอแม่งเป็นจ้ำขนาดนั้น หัดโกหกพวกนะมึง หลักฐานคาตา”
ชิบหา...นี่คอกูแดงจริงหรอวะเนี่ยรีบวิ่งเอากระจกมาดูดิครับ มันแดงจริงด้วยอ่ะ ไอ้ตั้มมันดูดเมื่อคืนแน่ ไอ้บ้าเอ๊ย ชัดขนาดนี้ ใครไม่เห็นก้อตาบอดแล้ว
“บ้า แมลงกัดกูเว้ย”
“แมลงไหนล่ะจ๊ะ แมลงตั้ม รึแมลงเดียร์”
“อ้าวมึง พูดงี้ไอ้เดียร์มันเสียนะ กูกะมันเป็นแค่เพื่อนนะเว้ย ก๔ไม่เคยคิดอย่างนั้นกะมันสักนิดเดียว”
“เออ มึงเลิกพูดกันได้แล้ว เดี๋ยวกานต์มันจะเสีย เกิดไอ้ตั้มมันเข้าใจผิดขึ้นมา กูน่ะเป็นแค่เพื่อนของมันเท่านั้นแหละ”
นี่กูพูดรัยผิดอีกป่ะวะ มันงอนกูอีกแล้วหรอ
“เดียร์ มึงเป็นรัยวะ”
“กูไม่เป็นรัย กูเบื่อโว้ย ได้ยินป่าวกูเบื่อ”
งงดิ มันเกี่ยวรัยกะกูด้วยวะเนี่ย ไอ้ตัวต้นเรื่องเพิ่งงัวเงียขี้ตาตื่นออกมาจากเต็นท์ ออกมาได้ก้อร้องหากาแฟ มึงรู้มั้ยเนี่ยกูทะเลาะกันเพราะมึงเนี่ย ว่าแต่ไอ้เดียร์มันโวยวายเรื่องอะรัยมันวะ สรุปงานกร่อยเลยรีบเก็บของอ่ะ เพราะเดี๋ยวเรือจะมารับแล้ว จะได้กลับบ้านแล้ว ตลอดทางที่นั่งเรือมา ไอ้เดียร์ไม่ยอมพูดกะใครเลย  ใครถามอะรัยก้อไม่ตอบ มันนิ่งจนกลับถึงบ้านอ่ะ มันเป็นบ้ารัยมันอีกวะ ปวดกบาลอีกแล้ว
**************************************************************

Tantalum

  • บุคคลทั่วไป
 :oเวลาได้อยู่กับคนที่รักก็เหมือนกับว่า ทั้งโลกมีเราอยู่แค่สองคน คนอื่นก็เหมือนไม่ได้อยู่ในสายตาหรอก อิอิ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






rarmz

  • บุคคลทั่วไป
สงสารเดียร์อ่ะ
(ผมว่าผมเดาถูกนะ ว่าเดียร์อ่ะชอบกานต์)



รอพี่เรย์มาต่อนะคับบบบบ



 :-[

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
จริงครับ ถ้าเราพบคนที่เรารัก แทบไม่มีเวลาคิดถึงคนอื่นเลยว่าเขารู้สึกอย่างไร

***************************************************************************

ตอนที่ 15
กลับมาจากหัวหินเที่ยวนั้น พอเริ่มเข้าทำงานผลัดในวันแรกๆ ไอ้เดียร์ก้อยังไม่ยอมพูดกะใคร จนผ่านไปประมาณ 2-3 วันมันถึงยอมพูดกะพวกผม แต่ไม่ว่าใครจะถามสาเหตุมันก้อไม่พูดอะไร มันบอกแค่ว่ามันเครียดเท่านั้น  ผมเองก้อไม่ได้ใส่ใจที่จะเซ้าซี้ถามมันเท่าไหร่ เพราะในเมื่อมันบอกว่าถึงเวลามันจะบอกเองก้อเลยไม่กวนใจมันอ่ะ
ช่วงนั้นชีวิตผมก้อมีเรื่องให้วุ่นวาย ต้องไปเรียนคำสอนกะคุณพ่ออธิการทุกวัน หลังจากทำงานเสร็จ ยังดีที่ตั้มมันมีจิตสำนึกว่าที่เราต้องมาลำบากเนี่ยตามที่มันขอร้อง มันเลยรอกลับบ้านพร้อมกันทุกวัน พอหมดงานผลัดแล้วก้อปิดเทอมจริงๆสักที ระหว่างนั้นมีเจอกะมันบ้าง ตั้มมักจะขี่มอเตอร์ไซค์มาหาแล้วชวนไปขี่รถร่อนกัน สนุกไปวันๆ
พอเปิดเรียนผมต้องไปอยู่กะเด็กคริสต์เต็มตัวแล้วทั้งเรียนคำสอนในวันพฤหัส เข้ามิสซาในวันศุกร์ ยังดีมีไอ้ตั้มกะเพื่อนในห้องที่เป็นคริสต์นี่แหละที่คอยสอนผมสวดบทภาวนาต่างๆ สอนร้องเพลง แต่โดยมากจะให้ไอ้ตั้มสอน ก้อสนุกดีนะ บ้านไอ้ตั้มจะเป็นคนที่เคร่งศาสนาพอสมควร ผมไม่เคยสังเกตก่อนหน้านั้นเลยนะ ว่ามันจะสวดภาวนาก่อนกินข้าวและหลังกินข้าวด้วย จนมันมาบังคับให้ผมสวดด้วย แต่บทภาวนาที่ผมคิดว่าเป็นความทรงจำที่ดีที่สุดระหว่างผมกับมันคงเป็นบทอารักขเทวดา ผมยังจำวันที่มันสอนผมสวดครั้งแรกได้เลย คืนนั้นเราคุยโทรศัพท์กันอยู่พอใกล้จะเลิก
“กานต์ คืนนี้มึงอย่าลืมสวดก่อนนอนด้วยนะ”
“สวดรัยมั่งอ่ะ”
“สวดข้าแต่พระบิดา วันทามารีอา ข้าแต่อารักขเทวดาแล้วก้อสิริพึงมีก้อได้”
“ข้าแต่อารักขเทวดา สวดไม่เป็นอ่ะ สอนหน่อยดิ”
“อ้าว กูยังไม่เคยสอนหรอ”
“เออดิ ไม่มีใครสอนกูนี่บทนี้อ่ะ”
“เออๆ สวดงี้นะ ข้าแต่อารักขเทวดา พระเป็นเจ้าทรงพระกรุณามอบข้าพเจ้าไว้ในอารักขาของท่าน โปรดส่องสว่างพิทักษ์รักษาและคุ้มครองข้าพเจ้าตามทางแห่งความรอด ณ คืนนี้ด้วยเถิด อาแมน”
จากนั้นมันก้อให้ผมหัดสวดทวนจนจำได้
“ตั้ม อารักขเทวดานี่คืออะไรหรอวะ”
“อารักขเทวดาคือ เทวดาที่พระเจ้าส่งมาให้ดูแลมนุษย์ มนุษย์ทุกคนจะมีอารักขเทวดาประจำตัว ของตัวเองงัย”
“หรอ งั้นกูไม่ต้องสวดหรอกมั้ง”
“ทำไมล่ะ”
“ก้อกูอยากให้มึงเป็นอารักขเทวดาของกูดิ กูไม่ต้องสวด คุยกันอยู่ทุกคืนแล้วนี่” หยอดมันดื้อๆนี่แหละ นานทีจะมีโอกาสหวาน หุหุหุ
“กูเขินเป็นเหมือนกันนะมึง อีกอย่างกูเป็นคน ไม่ใช่เทวดานะเว้ย”
“ก้อกูอยากให้มึงเป็นอ่ะ มึงจะได้คอยอยู่ข้างกูงัย”
คืนนั้นหลับไปก้อเลยฝันถึงอารักขเทวดาส่วนตัวด้วยดีใจจริงๆ つづく。
**************************************************************   


ตอนที่ 16
ชีวิตผมในตอนนั้น โคตรมีความสุขเลย มีอะไรมากมายให้ทำ ซึ่งก้อเพลินดี มันเป็นความจริงนะ ที่ว่าเวลาที่เรามีความสุขมักจะผ่านไปอย่างรวดเร็วเสมอ ช่วงนั้นมัวแต่เพลินกับกิจกรรมต่างๆที่เข้าไปร่วมกับกลุ่มเยาวชน จนผมไม่ทันสังเกตว่ามันเริ่มมีอะไรบางอย่างที่เปลี่ยนไป เพราะการเป็นนักขับทำให้ผมต้องใช้เวลาไปกับการซ้อมเป็นส่วนใหญ่ นอกจากนี้ยังต้องเรียนคำสอนด้วย ยิ่งใกล้ช่วงคริสต์มาสเข้ามา ผมยิ่งต้องซ้อมเพลงนพวาร และเพลงที่ใช้ในพิธีตื่นเฝ้า ซึ่งเป็นสาเหตุที่ผมไม่สามารถไปเข้าวัดที่บ้านไอ้ตั้มเหมือนปีที่แล้วได้ ผมพึ่งบอกมันเมื่อเหลือเวลาอีกไม่ถึงครึ่งเดือนตอนที่มันถาม
“กานต์ ปีนี้มึงไปเข้าวัดกะกูป่าว”
“ไปไม่ได้อ่ะ กูต้องเป็นนักขับอ่ะดิ”
“อืมม์ ไม่เป็นรัย”
“มึงมาเข้าวัดกะกูดิ นะ นะ นะ”
“ไม่ได้หรอก กูต้องเข้าวัดกะที่บ้านกูดิ”
“เออ ไม่เป็นรัยหรอก กูก้อชวนดูเผื่อมึงจะมาได้ มาไม่ได้ก้อไม่เป็นรัย”
จริงๆแล้วระหว่างผมกับมัน การมีอะไรกันนั้นมันไม่ค่อยสะดวก เพราะทั้งเวลาและสถานที่ไม่ค่อยอำนวย จึงแทบนับครั้งได้เลย บางทีเดือนละครั้ง บางทีก้อไม่มีเลย แต่ผมไม่ได้สนใจในเรื่องนี้ ความคิดของเราก้อคือเซ็กส์มันไม่ใช่คำตอบของทุกสิ่ง แค่ได้อยู่ใกล้กันก้อมีความสุขแล้ว
ในช่วงหลังคริสต์มาสมา ผมกับไอ้ตั้มเริ่มคุยโทรศัพท์กันน้อยลง มันบอกว่าผมน่าจะพักผ่อนให้มากๆ จนบางที มันก้อไม่โทรมา ตอนนั้นคิดแต่ว่ามันคงไม่ว่างเพราะเวลาที่อยู่โรงเรียนมันจะเหมือนปกติทุกอย่าง ยังคงเอาใจ และหยอกล้อกับผมเหมือนเดิม
“ตั้ม งานพ่อบอสโกปีนี้มึงมาค้างบ้านกูป่ะ”
“กูคงไม่มางานว่ะ เพราะไม่ต้องทำไฟนี่ปีนี้อ่ะ”
“หรอ เออ กูก้อถามไปงั้นแหละ เผื่อมึงจะมา”
ทำไมมันถึงไม่มาวะ ผมเองได้แต่คิดในใจไม่พูดออกไป มันเป็นนิสัยผมอยู่แล้วที่จะไม่เอ่ยปากออกมา แต่มักจะคิดเอาเอง (นิสัยนี้ไม่ดีนะครับ แต่ทุกวันนี้ก้อยังเลิกไม่ได้) ปีนั้นผมเลยต้องไปเมานอนกลิ้งอยู่บ้านไอ้เดียร์กะเพื่อนๆ เซ็งโคตร พ้นงานพ่อบอสโกมา ในที่สุดก้อถึงวันที่รอคอย วาเลนไทน์ซะที แต่วาเลนไทน์ปีนั้นตรงกับวันเสาร์พอดี แต่ผมเองยังไม่ได้ถามไอ้ตั้มว่าวาเลนไทน์นี้มันจะมาหารึเปล่า เพราะคิดว่ายังงัยมันคงมาแหละน่า
วันนั้นเป็นวันศุกร์13พอดี(โคตรซวยเลยอ่า ผมเชื่อเลยนะไอ้เรื่องเนี้ย) ผมเตรียมการ์ดให้มันใบนึง การ์ดทำเองโดยเอากุหลาบที่มันให้เมื่อปีที่แล้วที่ทับแห้งเก็บใส่โหลไว้มาทำ มันเหลือแต่กลีบแล้ว เลยนำมาติดการ์ด เป็นการ์ดใบเล็ก เตรียมเอาไว้ซ่อนในกระเป๋าตังค์มัน ปกติผมไม่ชอบรื้อกระเป๋าตังค์คนอื่นเพราะมันดูเสียมารยาทเรื่องนี้เพื่อนผมจะรู้กันดี นี่คือสาเหตุที่จะเอาไปซ่อนที่กระเป๋าตังค์ไอ้ตั้มมัน มันต้องเซอร์ไพรส์แน่นอน เวลาดำเนินการตามแผนคือตอนพักเที่ยง
“กานต์ เดี๋ยวกูไปเช้าห้องน้ำก่อนนะ”
“เออ ไปเหอะกูฝากเยี่ยวด้วยละกัน” 
พอมันไปผมก้อหยิบกระเป๋าตังค์มันมา กะจะเอาการ์ดใส่ก่อนที่มันจะกลับมา แต่พอผมเปิดกระเป๋าตังค์ของมัน ก้อเห็นรูปผู้หญิงคนนึง หน้าตาน่ารัก เลยหยิบออกมาเมื่อพลิกกลับไปดูหลังรูป ข้อความที่อ่านมันทำให้รู้สึกเหมือนมีคนเอาค้อนมาทุบหัว ทำไมมันมึนไปหมดอย่างนี้ ข้อความนั้นเขียนว่า “ให้ตั้มนะ with love แนน” ผมเอารูปนั้นเก็บเข้าที่เดิมตอนนั้นมือมันสั่นทำอะไรไม่ถูกในหัวมีแต่คำถาม แนนคือใคร แล้วทำไมผมไม่รู้อะไรเลย พอตั้มกลับมาก้อเลยชวนมันไปเดินเล่น ตอนที่เดินไปข้างบ้านพักพ่ออธิการผมเริ่มชวนมันคุย
“ตั้ม มีอะไรจะบอกกูป่ะ”
“ไม่มีอะไรนี่ ทำไมหรอ”
“งั้นกูถามอะไรมึงหน่อยได้ป่ะ”
“ถามมาดิ กูตอบมึงได้ทุกเรื่องแหละกูไม่ปิดมึงอยู่แล้ว”
“แนน คือใคร”
“........”
“กูถามว่า แนน คือใคร”
“เป็นเพื่อนของเพื่อนกู”
“แล้วทำไม มึงต้องมีรูปมันในกระเป๋าตังค์ด้วย ที่เขียนหลังรูปมันหมายความว่าอะไร บอกกูมาสิ”
“........”
“โอเคครับ ผมเข้าใจแล้ว ที่ผ่านมาระหว่างผมกับคุณ มันก้อเป็นแค่เพราะความโง่ของผมกับความเหงาของคุณ ผมคิดไปเองข้างเดียว มันถึงได้เกิดขึ้นขอโทษนะครับ ที่รบกวน ต่อไปนี้ระหว่างผมกับคุณ ถือซะว่าเราไม่เคยรู้จักกันมาก่อนแล้วกันนะครับ”
จากนั้นผมก้อเดินออกไป ตอนนั้นมันเจ็บมากน้ำตาไหลไม่หยุดเลย ตั้มพยายามเรียกผม แต่ผมไม่กล้าหันไปมอง กลัวใจตัวเอง กลัวจะใจอ่อนกับคำแก้ตัว เพราะใจยังรักมันอยู่มาก ผมไปนั่งร้องไห้อยู่ที่ข้างสนามบาสคนเดียว ตอนที่กำลังร้องไห้อยู่นั้น
“กานต์ กูขอโทษมึงนะ” ไอ้นนท์มันเดินเข้ามาหาผม
“มึงมาขอโทษกูเรื่องอะไร”
“เรื่องแนน กูรู้ตั้งนานแล้ว แต่กูไม่กล้าบอกมึง”
“หรอ แล้วมึงรู้สึกดีมั้ย ที่เห็นกูเป็นควายอ่ะ กูไม่เคยได้รู้อะไรเลยใช่มั้ย”
ผมลุกเดินหนีไอ้นนท์ขึ้นไปห้องเรียน ไปถึงห้องเรียนเลยขนของทั้งหมดที่โต๊ะซึ่งตอนนั้นไอ้ตั้มนั่งอยู่ที่โต๊ะ เดินไปหาไอ้ดา ตอนนั้นหน้าผมมันคงแย่มากจนไอ้ดาตกใจ
“กานต์ มึงเป็นรัยวะ ใครทำอะไรมึง”
“ไม่มีอะไร กูจะย้ายกลับมานั่งกับมึง”
“อ้าว แล้วมึงไม่นั่งกับไอ้ตั้มล่ะ”
“ใครวะ กูไม่รู้จัก กูไม่เคยแม้แต่จะรู้จักมันเลยสักวินาทีเดียว มึงเป็นเพื่อนกูนะ กูไม่มีใครแล้วนอกจากเพื่อนเท่านั้น”
ผมฟุบลงไปร้องไห้ที่โต๊ะ ถ้าใครเคยจะรู้ว่าการร้องไห้เหมือนจะขาดใจ มันทรมานแค่ไหน ตอนนั้นถึงร้องไห้แต่ก้อไม่มีเสียง ได้แต่กลั้นสะอื้นเอาไว้ ในหัวมีแต่คำว่า ทำไม ทำไม และทำไม ไอ้นนท์เดินเข้ามา ไอ้ดาเลยหยิบของมันส่งให้แล้วไล่ให้มันไปนั่งกับไอ้ตั้ม ตลอดบ่ายวันนั้นเลยไม่ได้เรียนเลยโดยไอ้ตั้มบอกกับเซอร์ว่า ผมไม่สบายแต่ไม่อยากลงไปห้องพยาบาล ขอนอนฟังในห้องดีกว่า
พอเลิกเรียนผมก้อเดินไปบ้านไอ้เดียร์กับพวกเพื่อนๆ ไอ้ตั้มกับไอ้นนท์เดินตามมาด้วย แต่ผมไม่มองหน้ามันเลย ตอนนั้นพวกเพื่อนคงรู้สึกแล้วว่ามีอะไรแปลกไป ทุกทีผมกับไอ้ตั้มจะต้องคุยหัวเราะกันไปตลอด แต่วันนั้น ถ้ามันเดินเข้ามาทางไหน ผมจะเดินหนีไปอีกทางไม่ยอมเข้าใกล้มันเลย แถมยังเงียบไปตลอดทางจนถึงบ้านไอ้เดียร์
**************************************************************

box_breathe

  • บุคคลทั่วไป
รีบๆมาต่อเลยน้าคร้าบ

กำลังสนุกเลย

**************
ผมชอบทุกเรื่องที่คุณ b|ueB[o]YhUb กับคุณ ปลายยอดไผ่ เอามาโพสจังเลย

เพราะทุกเรื่องที่อ่าน มันสนุกมากๆเลยอ่ะ

อยากให้เอามาโพสให้อ่านอีกหลายเรื่องๆจังเลยค้าบ

รออยู่น้า... :like6:

rarmz

  • บุคคลทั่วไป
พุดได้คำเดวคับ พี่เรย์




เส้ามากกกกกกกกกกกกกกกกกก :sad4:



รอตอนต่อไปอยุ่นะคับ พี่เรย์  :myeye:

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
ดีใจนะครับที่เป๊ดเป็ดชอบ  จะได้ให้ดี ชอบผมด้วยนะ คิกคิก

อย่าเศร้าไปเลยนะ ปลอบไงดีหวาราม คิกคิก

**************************************
ตอนที่ 17
มาถึงบ้านแม่ไอ้เดียร์ก้อเลยตั้งวงกินเหล้ากัน ไอ้เดียร์มันก้อถามขึ้นมา
“ตั้ม วันนี้มึงไม่กลับบ้านหรอวะ”
“เดี๋ยวกูก้อกลับ อีกแป็ปนึง”
“มีอะไรไม่เข้าใจกัน ก้อเคลียร์กันให้ดีนะ เดี๋ยวกูจะพลอยอดดูหนังสดอีก”
ตอนนั้นผมไม่พูดไม่ด่าไอ้เดียร์สักคำ ผมมองมันด้วยสายตาที่เฉยมาก มันคงรู้แล้วล่ะว่า ไม่ใช่เรื่องเล็กแน่นอน เพราะปกติผมไม่ใช่คนที่โกรธง่าย ถ้าโกรธถึงที่สุดแล้วผมจะไม่พูดอะรัยเลย มีแต่เงียบและเฉย
“กานต์ มึงแดกกับมั่งก้อได้ แดกแต่เหล้ากูไม่ทันมึงนะเว้ย”
ไอ้คุงพยายามพูดให้ตลก แต่ตอนนั้นผมไม่รู้สึกดีเลย
“ดา มึงเล่นกีต้าร์ดิกูอยากร้องเพลง”
“จะร้องเพลงรัยอ่ะมึง”
ตอนนั้นหนังเรื่องจักรยานสีแดงกำลังดังเลยนะ ผมดูประมาณ 5 รอบได้มั้ง
“กูจะร้องเพลงเคยบอกว่ารักกันของพี่เสก”
“เออ เออ เดี๋ยวกูเล่นให้”
ไอ้ดามันเกากีต้าร์ ส่วนผมก้อร้องเพลงพร้อมกับน้ำตาที่ไหลลงมา
เธอไม่เข้าใจ กับความห่วงใย ที่ให้เธอ
ทุกทีที่เจอ เธอช่างทำหมางเมิน
เจ็บในหัวใจ ช่างปวดร้าว เหลือเกิน
ทุกครั้ง ที่เห็นเธอเดิน อยู่กับใคร
บอกฉันซักคำ ว่าไม่รักฉันจะไป
หากเธอมีใครคนนั้น ที่ดีกว่า
บอกฉันซักคำ ว่าไม่รักฉันจะลา
ไม่อยากเสียน้ำตา ให้กับเธอ อีกต่อไป
เคยบอกว่ารักกัน เคยบอกว่าฉันดี
ทำอย่างนี้ ไม่ให้รักยังไงไหว
ก็หลอกให้รักเธอ จนแทบจะบ้าตาย
แต่สุดท้ายก็ทิ้งฉันไป อยู่กับเขา
ปล่อยให้ฉัน ร้องไห้คนเดียว
เจ็บทนทรมาน อีกนานสักเท่าไร
กับหัวใจ ที่เธอ แกล้งทำเป็นว่าแคร์
ไม่รักไม่ว่าอะไร ไม่ต้องมาดูแล
ปล่อยลอยแพ หัวใจฉันเลย
บอกฉันซักคำ ว่าไม่รักฉันจะไป
หากเธอมีใครคนนั้น ที่ดีกว่า
บอกฉันซักคำ ว่าไม่รักฉันจะลา
ไม่อยากเสียน้ำตาให้กับเธอ อีกต่อไป
เคยบอกว่ารักกัน เคยบอกว่าฉันดี
ทำอย่างนี้ ไม่ให้รักยังไงไหว
ก็หลอกให้รักเธอ จนแทบจะบ้าตาย
แต่สุดท้าย ก็ทิ้งฉันไป อยู่กับเขา
เคยบอกว่ารักกัน เคยบอกว่าฉันดี
ทำอย่างนี้ ไม่ให้รักยังไงไหว
ก็หลอกให้รักเธอ จนแทบจะบ้าตาย
แต่สุดท้ายก็ทิ้งฉันไป อยู่กับเขา
ปล่อยให้ฉัน ร้องไห้คนเดียว
ตอนนั้นไม่ไหวแล้วมันเหมือนจะอ้วกด้วย ไม่ใช่เมานะ แต่มันเครียดมาก เลยบอกพวกนั้นว่าขอตัวแล้ววิ่งไปที่บ้านไอ้เดียร์ นั่งร้องไห้ไปก้อนึกไปปีที่แล้วกูมาอยู่ตรงนี้แล้วร้องไห้ปีนี้กูกลับมาร้องไห้ตรงนี้อีกแล้ว ชีวิตกูมันจะไม่มีทางมีความสุขเลยใช่มั้ย ขณะที่ร้องไห้ก้อมีมือมากอดจากข้างหลัง
“กานต์ ตั้มขอโทษนะ”
ผมหันกลับไปยิ้มให้มัน เป็นยิ้มที่ต้องใช้ความพยายามมากที่สุดในชีวิต
“ไม่โกรธตั้มแล้วใช่ป่ะ”
“โกรธเรื่องอะไรครับ ผมกับคุณไม่เคยรู้จักกัน ผมจะโกรธคุณได้ยังงัย ผมมีสิทธิ์อะไรครับที่จะไปโกรธคนที่ไม่รู้จักกัน”
“กานต์ ตั้มรักกานต์นะฟังตั้มมั่งสิ”
“เรา อ้อไม่ใช่ ผมกับคุณไม่เคยรู้จักกันมาก่อน คุณจะมาบอกว่ารักผมได้ยังงัย”
“กานต์ ตั้มรักกานต์จริงๆนะ” มันกอดผมแน่น
“ปล่อยครับ ผมกับคุณไม่รู้จักกันมาก่อน ทำแบบนี้ไม่ดีนะครับ”
“..........”
“ปล่อยครับ ปล่อย กูบอกให้มึงปล่อยกูงัย ในเมื่อมึงไม่รักกูแล้ว มึงจะขังกูไว้ทำไม ปล่อยกูเถอะ ในเมื่อคนที่มึงเลือกไม่ใช่กู มึงจะทรมานกูทำไม รึต้องให้กูขาดใจตายลงไปต่อหน้ามึง มึงถึงจะพอใจ”
ตอนนั้นผมโวยวายเสียงดังจนพวกเพื่อนต้องวิ่งมาดูกัน มันเลยดึงไอ้ตั้มออกไปแล้วบอกให้กลับไปก่อน ให้ผมสงบลงกว่านี้แล้วค่อยมาคุยกัน ไอ้ตั้มกับไอ้นนท์ก้อเลยกลับบ้าน ที่เหลือกินเหล้าเสร็จเลยแยกย้ายกันกลับบ้านไม่ได้ไปเที่ยวที่ไหนต่อ ผมไม่อยากกลับบ้านเลยนอนบ้านไอ้เดียร์ ตั้งแต่ไอ้ตั้มกลับไป ผมเอาแต่ร้องไห้ไม่หยุด จนกระทั่งเข้านอน
“กานต์ มึงไม่เหนื่อยหรอวะ ร้องไห้อย่างเนี้ย”
“.........”
“พอเหอะ ร้องตั้งนานแล้วนะมึง เดี๋ยวก้อขาดใจจริงๆหรอกมึง”
“มึงไม่เป็นกู มึงไม่รู้หรอกว่า การรักใครสักคน มันทรมานแค่ไหน”
“มึงรู้ได้งัยว่ากูไม่รู้ กูรู้ดี กูรู้มาตั้งนานแล้วด้วย”
“ไม่จริง มึงไม่รู้หรอก”
“มึงนั่นแหละที่ไม่รู้ มึงไม่เคยรู้เลย ทำไมมึงต้องรักคนที่เขาไม่แคร์มึงด้วย ทำไมคนที่รัก คนที่รอมึงอยู่ตรงนี้ มึงไม่เคยมองกลับมาเลย”
“หมายความว่างัย”
“หมายความว่ากูรักมึงน่ะสิ”
ไอ้เดียร์ก้อโถมขึ้นมาทับบนตัวผม พยายามไซร้ซอกคอผม
“ไอ้สาดปล่อยกู มึงจะทำร้ายใจกูอีกรึงัย”
แต่มันก้อไม่ยอมเลิกตอนนั้นผมเหนื่อยไม่ใช่กายนะครับ แต่เป็นใจที่มันล้ามากเกินไปผมเลยนอนเฉย ปล่อยให้น้ำตาไหลลงมาเป็นทาง ไอ้เดียร์เห็นผมไม่ดิ้นมันเลยหยุดพอเห็นผมร้องไห้มันกอดผมแน่น
“ทำไม คนที่มันไม่เห็นค่ามึง มันมีความสำคัญขนาดนั้นเลยหรอวะ”
ใช่สิ คำพูดไอ้เดียร์ทำให้ผมคิด เมื่อมันไม่เห็นค่าของเรา เมื่อมันทำให้ผมเจ็บ มันก้อต้องเจ็บมากกว่าผม ในเมื่อมันบอกว่ารัก ก็จะทำให้มันเจ็บและจำไปตลอด สิ่งที่ตัดสินใจทำลงไปนั้น เหมือนกับการวัดดวง เพราะผมก้อไม่รู้ว่ามันจะเจ็บจริงรึป่าว ตอนนั้นรู้แต่ว่าวิธีไหนที่ทำให้มันเจ็บปวดได้ก้อจะทำ
“เดียร์ มึงรักกูจริงรึเปล่า”
“กู...กูมองมึงมาตั้งนานแล้ว แต่มึงมองแต่มันไม่เคยมองกูเลย”
ผมเอามือโอบคอไอ้เดียร์ ดึงมันลงมาจูบ แล้วผมก้อพลิกตัวมันให้ลงไปอยู่ข้างล่าง
************************************************************** 
มาต่อให้แล้วนะครับ
**************************************************************
ตอนที่ 18
ผมเอามือโอบคอไอ้เดียร์ ดึงมันลงมาจูบ แล้วผมก้อพลิกตัวมันให้ลงไปอยู่ข้างล่าง ผมเริ่มขบที่ติ่งหูของไอ้เดียร์ จากนั้นก้อซุกไซร้ไปตามร่างกายของเดียร์
“กานต์ กูเสียว กูรักมึงที่สุดเลยนะมึงรู้มั้ย”
ตอนนั้นผมไม่กล้ามองหน้าไอ้เดียร์มัน เพราะผมยังคงน้ำตาไหลอยู่ใจผมก้อรู้สึกผิดที่ทำแบบนี้ แต่ตอนนั้นความแค้นใจมันมากกว่า ทำให้ผมไม่คิดถึงใจคนที่มันรักผม ผมใช้ปากให้ไอ้เดียร์โดยที่ไอ้เดียร์ก้อใช้ปากให้ผมด้วย จากนั้นเราก้อหลับไปทั้งคู่ จนถึงตอนเช้า
“กานต์ กูรักมึงนะ คบกะกูเถอะนะ”
“อย่าเลยกูไม่มีค่าพอสำหรับมึงหรอก” ผมยิ้มแล้วตอบไอ้เดียร์
“มึงยังลืมมันไม่ได้หรอวะ”
“กูไม่รู้จักมันมาตั้งแต่ต้นแล้ว ต่อไปนี้กูอยากมีอะไรกับใครกูก้อจะมี กูจะทำในสิ่งที่กูพอใจ ตัวของกู ร่างกายของกู”
ไอ้เดียร์กอดผมแล้วร้องไห้
“ทำไม มึงหยุดที่กูไม่ได้หรอวะ กูรักมึงนะ”
“กูขอบใจ ที่มึงรักกู แต่เก็บความรักของมึงให้คนที่เขาดีกว่ากูเถอะ กูไม่มีค่าพอหรอกนะเดียร์ ขอบใจนะ”
ผมหอมแก้มมัน แล้วก้อลุกขึ้นเตรียมกลับบ้าน ตอนนั้นก้อรู้สึกผิดเหมือนกัน แต่ว่าอย่างที่บอกครับ เมื่ออยู่กับคนที่เรารักแล้วมีแต่เสียน้ำตา กับอยู่กับคนที่รักเราแต่หัวใจด้านชา ผมขออยู่คนเดียว ขอมีอิสระดีกว่า ที่ผ่านมาเคยคิดว่ารักแท้จะมีจริง แต่ที่สุดแล้วมันก้อเป็นเพียงเรื่องเพ้อฝัน ความพยายามที่จะปีนข้ามกำแพงสูง เพราะหวังที่จะพบกับสิ่งที่สวยงาม โดยที่เราไม่รู้เลยว่าหลังกำแพงนั้นมันคือเหวลึกที่ไม่มีก้น เมื่อผมรอดมาได้ผมจะไม่โง่ตกลงไปในเหวนั้นอีก
ระหว่างที่ขี่มอเตอร์ไซค์กลับบ้าน ผมนึกในใจวันนี้จะไปที่ไหนดี เพราะไม่อยากอยู่บ้านไม่อยากรับโทรศัพท์จากมัน ผมยังไม่พร้อม พอกลับเข้าบ้านม้าก้อบอกว่าไอ้ตั้มโทรมาหาตั้งหลายรอบแล้ว ผมเลยบอกม้าว่าวันนี้จะไปค้างบ้านไอ้ดาจะไปทำรายงาน ม้าก้อไม่ว่าอะไร พออาบน้ำเสร็จเลยรีบออกไปเดี๋ยวมันโทรมาก่อน
พอไปถึงบ้านไอ้ดาผมชวนไอ้ดาออกไปหาข้าวกินกันเพราะตอนนั้นก้อบ่ายมากแล้ว ไอ้ดาเลยชวนไปรับแฟนมันด้วย แฟนมันชื่อพิมพ์ ก้อเลยโอเคไปรับก้อไปรับ พอไปถึงพิมพ์กำลังนั่งอยู่กับเพื่อนอีกคนซึ่งผมรู้ชื่อทีหลังว่าชื่อปุ๊ก เธอทั้งสองคนนี่แหละที่ทำให้ชีวิตผมเปลี่ยนไป
“พิมพ์ พิมพ์ เพื่อนดาชื่ออะไรวะ หน้าตาน่ารักดี นายชื่ออะไร เราชื่อปุ๊กนะ”
ปุ๊กมันยิ้มหวานให้ผมเต็มที่ คงนึกว่าผมจะหลงเสน่ห์มันมั้ง เพราะมันเป็นผู้หญิงที่หน้าตาดีใช้ได้เลยนะครับ ถ้าผมเป็นผู้ชายก็คงชอบ มันขาวสวยหมวยอึ๋มครบสูตรนี่นา แต่เสียใจครับไม่นิยมบริโภคอาหารทะเล
“ชื่อกานต์ครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับ ปุ๊ก”
“กานต์มีแฟนยังคะ เป็นแฟนกับปุ๊กมั้ย”
ทั้งผม พิมพ์และก้อไอ้ดามองหน้ากัน แล้วก้อหัวเรา
“หัวเราอะไรกัน บอกมั่งสิ ปุ๊กพูดอะไรผิดหรอ”
“คือว่า ปุ๊กฟังพิมพ์นะ 555 กานต์น่ะมันไม่ชอบปุ๊กหรอก เพราะมันเป็นเกย์”
“จริงดิ งั้นดีเลย ควงกะเราละกันนะ เราอยากมีคนควงไปขี่รถร่อนอ่ะ”
“อ้าว แล้วปุ๊กไม่มีแฟนหรอ”
“มีดิ แต่ไปร่อนกะแฟนไม่สนุกสิ จีบหนุ่มไม่ได้ รู้จักกานต์ก้อดี จะได้ไปจีบหนุ่มด้วยกัน”
“อืมม์ เอางั้นก้อได้”
ข้อตกลงในวันนั้นทำให้ผมเปลี่ยนชีวิตและความคิดไปเลย ถ้าผมไม่รู้จักไอ้พิมพ์กับไอ้ปุ๊กผมอาจจะไม่ไปไกลกว่านั้นก้อได้
**************************************************************
อ่านแล้วจะมีคนกล้าคุยกะเรามั้ยเนี่ยกุ้มใจ

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
น่ากลัวนะครับ ทำตัวแบบนี้

แต่ที่น่ากลัวที่สุด คือ..............





ตาเรย์นี้แหละ หยอดเข้าไปทั่วเลยนะ :pigangry2:

พูห์ :untrust:

pim

  • บุคคลทั่วไป
น่ากัวจะเป็นอย่างที่คิดรึป่าวเนี่ย   ม่ายยยยยยน๊า :serius2:
ประชดชีวิตแบบนี้ไม่ดีนะ

มาต่อเร็วๆ นะคะ คุณเรย์ อยากรู้ตอนต่อไปจะแย่แล้ว

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
คิกคิก หยอดไปเรื่อย มะเคยหลาบจำ กร๊ากๆๆ
เพื่อนๆคิดว่าไงกันหรอ กลัวว่าไรหรือบอกมั่งเด้
********************************************

ตอนที่ 19
หลังจากที่กินข้าวกันเสร็จพวกเราตกลงกันที่จะไปบ้านไอ้ดา เพราะบ้านไอ้ดาพ่อแม่มันไม่อยู่ มอเตอร์ไซค์มีสองคัน ไอ้ดาขี่คันนึงแฟนมันซ้อนไป ส่วนปุ๊กก้อต้องมานั่งซ้อนกับผม ผมรอให้มันขึ้น มันก้อยืนอยู่
“ไม่ขึ้นล่ะ จะได้ไป”
“นายขยับไปหน่อยดิ เราจะนั่งข้างหน้า”
“อ้าว จะขี่เองหรอ”
“เปล่า นายขี่นั่นแหละ แต่เราจะนั่งหน้า”
“เฮ้ย จะดีหรอ”
“เออน่า เดี๋ยวดีเองเชื่อเหอะน่า”
ตอนนั้นต้องเลยตามเลย แต่ก้อนึกในใจ ขี่รถท่านี้ มันเหมือนเป็นผัวเมียกันมากกว่า ผู้หญิงที่ไหนมันจะให้ผู้ชายซ้อนหลังถ้าไม่ใช่ผัวมันเอง แล้วมันจะจีบหนุ่มได้หรอวะเนี่ย ระหว่างทางที่ขี่รถไปบ้านไอ้ดานั้นเอง พอดีมีเด็กนักเรียนหอนอกของโรงเรียนชายล้วน ซึ่งก้อเป็นโรงเรียนในคณะเดียวกับโรงเรียนผมนั่นแหละแต่ว่าโรงเรียนนี้เป็นโรงเรียนสายสามัญเดินมากลุ่มนึง
“กานต์ นายขี่เข้าไปหาเด็กกลุ่มนั้นดิ เดี๋ยวเราจัดการเอง”
ผมก้อเลยขี่เข้าไป ตามที่ปุ๊กมันบอก
“เอ่อ เธอ  เธอคนที่ตัวสูงๆน่ะ เธอชื่ออะไรหรอ”
“ผมหรอ เบสครับ”
“เราชื่อปุ๊กนะ ส่วนนี่เพื่อนเราชื่อกานต์”
“เธออยู่หอไหนหรอ”
“ผมอยู่หอครู........ครับ”
“เพื่อนเราเขาขอเบอร์หอเธอได้มั้ย พอดีเพื่อนเราเขาชอบเธอน่ะ”
“ครับ 032221XXX นะ ขอแล้วโทรมาด้วยแล้วกันนะครับ”
เหอ เหอ เกิดมายังไม่เคยหน้าด้านเข้าไปขอเบอร์กะใครมาก่อนนะ แต่โรงเรียนนี้มันก้อมีชื่ออยู่แล้วถ้าไม่เป็นเกย์หรือกะเทย มันก้อต้องเสร็จเกย์เสร็จกะเทยอ่ะ แต่ยอมรับเรื่องหน้าด้านของไอ้ปุ๊กจริงๆ พอขี่รถออกมาจากกลุ่มเด็กพวกนั้นแล้ว
“ปุ๊ก แกกล้าได้งัย บ้าป่าวเอาชื่อเราไปอ้างขอเบอร์มันเฉยเลย”
“แล้วจะคุยกับมันมั้ย ถ้าไม่คุยเดี๋ยวเราโทรไปเอง”
“คุยดิ เอาชื่อเราไปอ้างแล้ว ไม่คุยก้อเสียเปรียบตาย”
“นึกว่านายจะไม่คุย”
ไม่คุยได้งัย ในเมื่อเบสมันน่ารักดี ก้อตรงเสปคผมอ่ะนะ ขาว ตี๋ สูง เพื่อนมันจัดมาให้ทั้งที เลยสนองหน่อย ผมมันแพ้พวกตี๋ๆครับ ไอ้เราลูกจีนแต่หน้าไม่มีเค้าจีนเลย พี่สาวยังหมวยมั่ง เรานี่ไปทางไหนหมดไม่รู้ พอขี่รถไปถึงบ้านไอ้ดา มีพวกไอ้เดียร์ ไอ้คุง ไอ้ชัย แล้วก้อไอ้นพมาอยู่ด้วยเพราะบ้านไอ้ดาพ่อแม่มันใจดี ชอบให้ลูกพาเพื่อนมาบ้าน พ่อมันนี่ยิ่งดีใหญ่ ชอบหาหนังโป๊มาให้ลูกกะเพื่อนลูกดูกัน แถมเป็นนักดนตรีด้วยไอ้ดาเล่นกีต้าร์เก่งก้อน่ากลัวจะได้มาจากพ่อมัน
“ปุ๊ก แกไปไหนมากะกานต์อ่ะ”
“อ้าวชั้นสองคนมันคนโสด ไม่มีแฟนอยู่ด้วยอย่างแก พวกชั้นก้อไปหาเบอร์หนุ่มๆมาสิ”   
“อะไร ไปไม่ยอมชวน โอ๊ย”
พิมพ์มันพูดยังไม่ทันจบดี โดนไอ้ดาตบหัวไปทีนึง คือว่าทั้งสองสาวนี้เธอเป็นผู้หญิงที่เจ้าชู้มาก ประมาณว่าชอบจีบหนุ่มๆไปทั่ว แต่ไม่ใช่มันจะเอากับเขาทุกคนนะ แต่เหมือนมันจีบเพื่อความพอใจมั้ง เหมือนว่ามันเก่งอะไรประมาณเนี้ย เพราะถ้ามันมั่วเพื่อนผมคงไม่คบด้วยหรอก แต่มันเหมือนแรดนะ แต่จริงๆแล้วมันหวงตัวกันพอสมควร ผมเลยงง ว่ามันอะไรกันวะเนี่ยแต่ไม่แปลกนะ ผมเจอมาเยอะไอ้ประเภทที่มองข้างนอกเรียบร้อย แต่ข้างในนี่เน่าสนิท
“”ไป ไปกานต์ เราว่าไปโทรหาเบสกันดีกว่า ดายืมโทรศัพท์หน่อยนะ”
ปุ๊กมันดึงผมเข้าไปโทรศัพท์ มันกดเบอร์เสร็จส่งโทรศัพท์มาให้ผม ผมถือสายสักครู่ก้อมีคนมารับสาย
“สวัสดีครับ หอครู.......ครับ”
“ครับขอสายเบสหน่อยครับ”
“สักครู่ครับเดี๋ยวไปตามให้”
“กลับมายัง อยู่ป่าว”
ปุ๊กรีบถาม ผมพยักหน้าแทนคำตอบ
“ฮัลโหล เบสพูดครับ”
“ครับ ผมกานต์พูดนะครับ”
“อ๋อครับ นึกว่าจะไม่โทรมาซะอีก”
“โทรสิครับ ขอเบอร์เบสมาแล้วจะไม่โทรได้งัยล่ะ”
จากนั้นผมกับเบสก้อคุยกัน ทำให้รู้ว่าเบสเป็นคนกรุงเทพ แต่พ่อให้มาเรียนที่นี่โดยให้มาอยู่หอ ตอนนี้เรียนอยู่ม.5 เราคุยกันประมาณครึ่งชั่วโมง แล้วก่อนที่ผมจะวางสายนั้น
“พรุ่งนี้กานต์มาเที่ยวที่หอเบสสิครับ”
“จะดีหรอ ครูไม่ว่าหรอครับ”
“ครูเขาไม่ค่อยอยู่หรอก ถึงอยู่ก้อไม่ว่าอะไรหรอกครับ มานะ”
“งั้น เดี๋ยวเย็นๆ กานต์เข้าไปหาเบสละกัน”
“จะรอนะครับ อย่าให้รอเก้อนะ”
“ครับผม ไม่รอเก้อหรอกน่า”
พอผมวางสายปุ๊บ ปุ๊กมันก้อซักผมใหญ่ว่าคุยอะไรกันมั่ง ผมเลยเล่าให้มันฟังพร้อมกับชวนมันไปเป็นเพื่อนวันพรุ่งนี้ด้วย มันโอเค จากนั้นเราเดินออกไปหาเพื่อนที่นั่งเล่นกันอยู่หน้าบ้าน
“นี่ กานต์ มันจีบหนุ่มได้แล้วนะ พรุ่งนี้มีนัดด้วย” ไอ้ปุ๊กรีบรายงาน
“จริงหรอ น่ารักป่ะไปด้วยดิอยากเห็นหน้า” พิมพ์รีบขอตามไปด้วย
ตอนนั้นทั้งไอ้ดาและเพื่อนคนอื่นๆ มันมองหน้าผมกัน ผมรู้มันคงสงสัยว่าทำไม เพราะเมื่อวานนี้ผมยังร้องไห้จะเป็นจะตายอยู่เลย โดยเฉพาะไอ้เดียร์ผมต้องทำเป็นไม่เห็นสายตาที่มันมองมา มันมีคำถามมากมายในสายตาของมัน แต่ผมยังไม่พร้อมที่จะตอบ
“เออ ดา มึงกะพิมพ์ไปด้วยกันดิ กูเขินๆยังงัยไม่รู้ถ้าไปกะปุ๊กสองคนอ่ะ”
“ได้ ได้ เดี๋ยวกูกะพิมพ์ไปเป็นเพื่อน”
“เออ ขอบใจ เดี๋ยวกูเข้าห้องน้ำแป๊บนะ”
ผมรีบเดินหนีไปเข้าห้องน้ำ ตอนนั้นผมไม่กล้าสบตากับไอ้เดียร์ เพราะผมรู้ว่าผมเลวเกินกว่าที่จะสู้หน้ามัน พอผมจะเปิดประตูห้องน้ำออกมา ผมก้อถูกผลักเข้าไปในห้องน้ำอีกครั้ง
**************************************************************
ตอนที่ 20
พอผมจะเปิดประตูห้องน้ำออกมา ผมก้อถูกผลักเข้าไปในห้องน้ำอีกครั้ง เป็นไอ้เดียร์ที่ผลักเข้ามา
“ทำไม มึงต้องไปคุยกับคนอื่น มึงคบกับกูไม่ได้หรอวะ”
“เดียร์ กูรักมึงเหมือนเพื่อน กูไม่อยากทำร้ายมึง ขอให้มึงรู้ไว้แล้วกันว่าสิ่งที่กูทำลงไปกับคนอื่น มันไม่ได้เกิดจากความรัก แต่กูต้องทำ เพราะกูมีความจำเป็น”
“ความจำเป็นอะไร มึงบอกกูสิ กูขอร้อง ให้กูได้รู้ได้มั้ย”
“อย่าเลยว่ะ เอาเป็นว่าขอให้มึงรู้ไว้แล้วกัน ไม่ว่าใครจะเกลียดกูยังงัย กูขอให้มึงอย่าเกลียดกูก้อแล้วกัน เพราะกูไม่เหลือใครแล้ว กูมีแต่เพื่อนเท่านั้น”
ตอนนั้น น้ำตาที่มันหยุดไหลไปมันกลับมาอีกครั้ง เดียร์มันกอดผมเอาไว้ ทำไม ทั้งที่เราไม่อยากจะเป็นคนอ่อนแอแล้ว แต่มันหยุดไม่ได้ น้ำตามันไหลลงมา
“กานต์ แล้วเรื่องระหว่างกูกับมึงเมื่อคืนล่ะ”
“กูทำลงไปเพราะกูรักมึงนะ แต่กูรักมึงแบบเพื่อน อะไรที่ทำแล้วมึงมีความสุข กูจะยอมทำ คนอย่างกูไม่มีค่าอะไรพอหรอก มึงอย่ามาจมอยู่กะกูเลยนะ คนที่เขาได้จากกูไปมากกว่ามึงเขายังไม่เคยใส่ใจเลย”
“คืนนี้ มึงไปค้างบ้านกูได้มั้ย”
“ได้สิ กูไปค้างกับมึงก้อได้ กูว่าเราออกไปเหอะเดี๋ยวพวกนั้นมันสงสัย”
ขณะที่เดินออกมาผมคิดเรื่อยเปื่อย ตอนนั้นผมไม่เชื่อแล้วว่ามันจะมีใครที่รักจริง คบกันไป ไม่มันเบื่อเราก้อต้องเราเบื่อมัน ในเมื่อมันไม่มีความรักจริงๆอยู่ ทำไมเราจะต้องไปทุ่มเทอะไรอีก มีแต่ความรักของเพื่อนเท่านั้นที่ผมว่ามันมั่นคง ไม่เปลี่ยนแปลงง่ายๆ ในเมื่อมันไม่มีความรักจริงแล้ว ก่อนที่มันจะเบื่อเรา เราก้อต้องเบื่อมันก่อน ทิ้งมัน ก่อนที่มันจะทิ้งเรา เมื่อไม่อยากเจ็บก้อจงอย่าเอาใจไปผูกอยู่กับใคร ขนาดคนที่เรามอบให้มันทุกสิ่งทุกอย่าง ถือว่ามันคือทุกอย่างในชีวิต แต่แล้ววันนึงเหมือนมันเป็นคนที่เราไม่เคยรู้จักเลย ความผูกพันที่ผ่านมาไม่เคยมีค่าพอ ให้มันรับรู้ ให้มันเข้าใจ
“กานต์ เป็นรัยหน้าตาไม่ค่อยดีเลย” ปุ๊กถาม
“ไม่เป็นไรหรอก เครียดรัยนิดหน่อย พอดีเมื่อวานพึ่งอกหักมาน่ะ”
“จริงดิ ใครมันทำเพื่อนเรา บอกมา เดี๋ยวไปจัดการเอง”
“ช่างมันเถอะ อย่าไปสนใจมันเลย”
“เออ เดี๋ยวเราหาหนุ่มให้จีบเอง อย่าไปสนใจเลย ผู้ชายมีเยอะแยะ น่ารักอย่างนายกลัวจะไม่มีแฟนรึงัย”
“555 อย่างเราเนี่ยนะ น่ารัก เมารึป่าวปุ๊ก”
“เอาเหอะน่า เชื่อเราดิ”
“แล้ววันนี้จะเอางัยเนี่ย ไปไหนดี”
“ไปขี่รถร่อนดีกว่า ขี้เกียจเที่ยว”
ผมเสนอ ทุกคนเลยตกลงกันตามนั้น ประมาณตี 1 ผมไปส่งปุ๊กที่บ้าน จากนั้นก้อไปค้างที่บ้านไอ้เดียร์
“กานต์ มึงรู้มั้ย กูเคยคิดนะ ทำไม กูถึงอยากอยู่ใกล้อยากดูแลมึงก้อไม่รู้สินะ มึงจำคำพูดกูได้มั้ย กูบอกมึงแล้วนะกูไม่มีทางทำร้ายมึงได้”
“กูรู้ กูขอบใจที่มึงรักกูนะ ทำไมกูถึงไม่รู้ก่อนที่กูจะรู้สึกกับคนคนนั้นนะ กูไม่กล้าคบกะมึงเพราะกูรู้ใจกูดี ไม่ใช่กูรังเกียจมึงนะ”
“แค่มึงรับรู้ความรู้สึกกู กูก้อดีใจแล้วล่ะ”
ผมกอดไอ้เดียร์ไว้ ผมดีใจที่มีคนที่รักผมมากขนาดนี้ แต่ทำไมผมถึงรักมันไม่ได้ ทำไมนะการที่เราจะลืมใครสักคนมันยากเย็นขนาดนี้ ใจอยากจะรักมันนะ แต่มันทำไม่ได้ ไม่อยากให้มันต้องมาเจ็บทีหลัง  เพราะเราไม่สามารถให้มันทั้งใจได้ ใจที่มีให้คนคนนึงไปแล้ว ถึงมันจะไม่เห็นค่า แต่เราก้อไม่รู้จะเรียกคืนมายังงัย บางคนเคยบอกว่าใจมันอยู่ที่เรานี่แหละไม่ได้ไปไหน แต่เราไม่เรียกหามันเอง มันเลยซ่อนตัวอยู่
คืนนั้นเดียร์กอดผมแล้วเราก้อหลับไปด้วยกันทั้งคู่ รักที่ผมมีให้มัน ถ้ามันเปลี่ยนให้มากกว่านั้นได้ผมคงไม่เสียใจมาถึงทุกวันนี้ บางทีถ้าเรารู้ว่าชีวิตคนเรามันสั้นนัก แป็ปเดียวก้อจบลงแล้ว คืนนี้เมื่อเราหลับตาลง เราไม่มีทางเลยที่จะรู้ว่าพรุ่งนี้ เราจะได้ลืมตาขึ้นมาอีกรึเปล่า เพราะฉะนั้นขอให้ทุกคนทำดีต่อกันไว้นะครับ สำหรับผมสิ่งที่ผ่านมา มันเป็นเรื่องที่กลับไปแก้ไขไม่ได้แล้ว มีแต่ปัจจุบันที่บางทีอดีตมันยังตามมาอยู่ เฮ้อวันนี้เหมือนแก่จังเลย มันล้ามันตื้องัยไม่รู้ วันนี้พอแค่นี้ก่อนนะครับ ไว้จะมาต่อให้
**************************************************************

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
อ้างถึง
บางทีถ้าเรารู้ว่าชีวิตคนเรามันสั้นนัก แป็ปเดียวก้อจบลงแล้ว คืนนี้เมื่อเราหลับตาลง เราไม่มีทางเลยที่จะรู้ว่าพรุ่งนี้ เราจะได้ลืมตาขึ้นมาอีกรึเปล่า เพราะฉะนั้นขอให้ทุกคนทำดีต่อกันไว้นะครับ

โดนโคดๆๆๆๆ

กินใจมากๆครับ

ทำดีต่อกันไว้นะครับ เพราะพรุ่งนี้ไม่รู้ว่าเราจะได้ทำมันหรือเปล่า

พูห์ :confuse:

pim

  • บุคคลทั่วไป
อือ  นั่นสิ พรุ่งนี้เราจะได้ลืมตาขึ้นมาอีกรึป่าว ก็ไม่รุ
แต่ก็ไม่รุเหมือนกันว่าทำไมบางทีตื่นมาก็คิดว่า  เฮ้อ เรายังหายใจอยู่เหรอเนี่ย
เคยเป็นกันป่าว? 


-------------------------------------------------------------------------------------------
แบบว่า กลัวไปเองน่ะ 
แต่ดูแล้ว คงไม่มีไรมั้ง  รอตอนต่อไปค่ะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด