เฮ้ย ! มันไม่ใช่ลูกกู
ตอนที่ 1
“ ตื่นๆ กลับๆ ไปๆ พวกมึง! ตื่นเว้ยๆ ตื่นนน " ไอ้ภาพไล่ปลุกไอ้โมกับไอ้ชัดเพื่อนสองคนที่ยังคงงัวเงียไม่สร่างเมาเท่าไหร่ มันสองคนขมวดคิ้วงงๆตอนที่ลุกขึ้นนั่ง ไอ้ชัดหนุ่มใต้ผิวสองสี หน้าตาคมกลิ้งไปนอนอีกด้านไม่ได้สนใจ ตีนที่เขี่ยตูดมันอยู่เลย
“ เหี้ยไรว่ะ ยังเช้าอยู่เลยมึง ไอ้ภาพ กูจะนอนน " มันบอกก่อนจะหลับต่อ
“ มึงนอนต่อไม่ได้แล้ว มึงต้องลุกเดี๋ยวนี้!! ไอ้สัด เร็ว! ”
“ อะไรกันวะ เสียงดังจัง " ไอ้โมลุกขึ้นนั่ง มองไปรอบๆก่อนจะขยี้หัวตัวเอง งงๆ ไอ้โมเป็นเพื่อนอีกคนของเรา มันเรียนคณะเดียวกันกับผม โมมันเป็นหนุ่มตี๋หน้าจีนเอามากๆ ขนาดที่ว่าถ้าออกไปเที่ยวก็ถูกถามทางภาษาจีนบ่อยๆแต่ถามว่าพูดได้มั้ย คำตอบ คือ ไม่.. จีนแต่หน้าเท่านั้นแหละ และอีกอย่างคือ มันเป็นลูกคุณหนูที่รวยเอามากๆเลยด้วย
“ โม มึงกลับไปก่อน กลับไป กลับๆ " ผมบอกมันก่อนจะดึงแขนมันให้ลุกขึ้นยืน
ก่อนอื่นกูต้องปลุกไอ้พวกปากหมานี่กลับบ้านให้หมดก่อน เพราะจะให้มันเห็นเด็กคนนั้นไม่ได้ ยิ่งมารู้ว่า ไม่รู้ว่าใครเป็นพ่อเด็กในตอนนี้ แม่เด็กก็ไม่รู้ เรื่องแม่งคงยาว คงถูกล้อ ถูกพูดต่อๆกันไปทั้งมหาลัยแน่ เพราะงั้นให้รู้ไม่ได้เด็ดขาด ตอนนี้ก็เลยฝากเด็กคนนั้นไว้ที่มีนาที่อยู่ข้างๆก่อน ข้ออ้างง่ายๆที่ผมบอกคือ ' ไม่อยากจะให้เด็กเห็นภาพที่ไม่ดี ' ผมผ่อนลมหายใจออกมาตอนที่เก็บขวดเหล่าเปล่าๆใส่ถุงขยะ อดคิดไม่ได้เลยว่า เหี้ยไรว่ะอยู่ๆ ก็มีเด็กมาชี้หน้าว่าเป็นพ่อ แต่ทั้งกูทั้งไอ้ภาพเลยเหรอวะ คิดแล้วก็ งง กูไปเอาแม่มันเมื่อไหร่ไม่เห็นจะจำได้ แล้วแม่มันเป็นใครนี่สิที่อยากจะรู้
“ มึงตื่นดิว่ะ ไอ้ชัด กลับไปก่อน เหี้ย เร็วๆ " เอาตีนแตะขามันแรงขึ้นคนที่ยังนอนขี้เซาก็จำใจลุกขึ้น มันจ้องหน้าผมด้วยอารมณ์โกรธๆ " เร็ว! กลับ! แม่กูจะมา "
“ ห๊า! แม่มึงจะมา " มันสองตัวลุกขึ้นพร้อมกันพอได้ยินคำนี้ หลังจากนั่งอ้อยอิ่งอยู่นาน คว้าหาเสื้อผ้าตัวเองกันแบบรีบร้อน บ่งบอกเลยว่า อยากจะพบแม่ของผมเป็นอย่างมาก
“ แม่มึงจะมา " ไอ้ภาพพูดเสียงเบามันหันมายักคิ้วใส่ผม เหมือนจะถามว่า ' จริงเหรอวะที่พูด ' ผมถอนหายใจก่อนจะส่ายหน้า กูก็เบื่อความโง่ของไอ้สัดนี่จริง ๆ
“ อำกูป่ะสัด " ไอ้ชัดถาม
“ อำเหี้ยไร เร็วๆ มึงอยากเจอแม่กูรึไง เร็วๆ กูจะให้แม่บ้านขึ้นมาจัดห้อง " จริงๆแม่ของผมก็ไม่ใช่คนน่ากลัวอะไรขนาดนั้น แต่ที่พวกมันไม่อยากเจอเพราะแม่ผม คงเพราะว่าท่านเป็นคนที่ค่อนข้าง ' เยอะ ' ไปสักหน่อย ระเบียบจัดแถมยังชอบเจ้ากี้เจ้าการไปทุกเรื่องแม้แต่เรื่องของเพื่อนผม ไอ้พวกนี้คงรำคาญแล้วก็เกร็งๆเวลาเจอหน้าแม่ผม ก็นะ ท่านทำงานเป็นนักโภชนาการในโรงพยาบาลด้วยละมั้ง นิสัยก็เลยเป็นแบบนี้
“ ไปเดี๋ยวนี้เหละเว้ย มือถือกูอยู่ไหนวะ อ๊ะ.. เจอละ " พูดเองตอบเองก่อนจะหันไปหาไอ้โม " โม มึงจะกลับพร้อมกูรึเปล่า " มันถามไอ้โมที่ทำท่าอ้ำอึ้งนิดๆ มันคิดอยู่เป็นนาที
“ มึงจะเงียบอีกนานเปล่าว่ะ ไอ้โม วิญญาณยังไม่เข้าร่างเหรอมึง " ภาพบอกก่อนจะเกาหัวตัวเองเซ็งๆ
“ เออๆ ไป ไปก็ได้ " มันว่าก่อนจะก้มลงหาของ " มือถือกูอยู่ไหนวะ "
“ ก็ถืออยู่ไม่ใช่รึไงว่ะ " ไอ้ชัดบอก
“ จริงด้วยว่ะ "
“ แฮ้งค์สัดอะ กลับบ้านไปอาบน้ำนอนต่อเถอะมึง ไปๆ " ผมโยนกระเป๋าให้มัน ดันหลังให้แม่งทั้งคู่ออกจากห้อง ได้ยินเสียงถอนหายใจออกมาเซงๆในตอนนั้น แต่ผมก็ไม่ได้สนใจอะไร
ทุกอย่างในห้องเหลือแต่ความเงียบกับห้องที่สะอาดขึ้นมานิดหน่อย อย่างน้อยก็ไม่มีขวดเหล้า ขวดเบียร์ โซฟา หรือว่าศพชายฉกรรจ์นอนเมาอืดก็แล้วกัน ผมถอนหายใจออกมาพร้อมไอ้ภาพเราเหลือบมองกัน มันก็กดโทรศัพท์สั่งให้แม่บ้านขึ้นมาทำความสะอาด
“ กูอาบน้ำก่อนนะ " ผมบอกก่อนจะเดินเข้าห้องตัวเองไป บางทีอาบน้ำแล้วกูอาจจะพบว่า เรื่องนี้เป็นแค่ฝันก็เป็นได้
“ ตกลงเอาไง " ไอ้ภาพหันมาถามผม หลังจากอาบน้ำเสร็จเรียบร้อยทั้งสองคน ผมเงียบตอนนั้นคิดแค่ว่า ' ไม่ใช่ฝัน ' รู้สึกอยากจะอ้วกขึ้นมายังไงพิกล ท้องไส้ปั่นป่วนไปหมด ผมมองป้าที่กำลังทำความสะอาดท่าทางที่สอดรู้สอดเห็นของเธอ ยิ้มให้ผมจางๆตอนที่สบสายตากับผมพอดี
“ ป้าครับ วันนี้ทำแค่นี้ก็พอ " เธอหันมายิ้มให้แต่ในใจคงนึกเสียดายแหละผมรู้ คนทำความสะอาดที่นี่เป็นประเภทมนุษย์ป้าขาเม้าส์ อยากรู้เรื่องใครในคอนโดขอให้ถาม ดาราคนไหนไฮโซคนดังรู้หมดทุกเรื่อง
“ ค่ะ " ตอบแบบสั้นๆ รับเงินที่ตั้งอยู่บนเค้าเตอร์แล้วเดินออกไป ผมกับไอ้ภาพหันมองเธอที่เดินออกจากห้องไป ตอนที่เสียงประตูปิดลงภาพก็ถาม
“ ตกลงจะเอาไงดีวะ "
“ ไปเอามันออกมาจากห้องมีนาก่อน ดีกว่าว่ะกูว่า เราจะถามมัน ว่ามันเป็นใคร ชื่ออะไร เผื่อได้เรื่องอะไรบ้าง "
“ ลูกมึง มึงไปเอาดิ " ไอ้ภาพบอก ผมที่กำลังยืนชะงักฝีเท้า
“ ลูกมึงนั่นเหละ ไอ้สัดภาพ! มันคงไม่ใช่ลูกกูหรอก กูเอากับสาวนับครั้งได้ " อันนี้คือความสัตย์จริง แต่ไม่โกหกใดๆ ผมเคยมีอะไรกับผู้หญิงแต่นั่นก็ไม่ใช่แนว วันไนท์สแตนแบบที่ไอ้ภาพมันชอบ ของผมคือ คบกัน เป็นแฟน ถึงมีอะไรกัน " ของมึงแน่ๆ มึงแม่งชอบเอากับสาวแบบไม่ผูกมัด มึงมีความเป็นไปได้มากกว่ากูอะ "
“ ถึงกูจะชอบเอากับผู้หญิงแบบนั้น แต่กุใส่ถุงทุกครั้งมันไม่หลุดออกไปหรอกน่า " มันยักไหล่ด้วยท่าทางมันใจ ผมยกยิ้ม
“ เหรอ ? Kไม่เคยว่างการสอดใส่อย่างมึงนะเหรอ มันอาจจะหลุดถุงยางออกไปก็ได้ใครจะรู้ " ประโยคที่ชวนให้คนมั่นใจสลดไปได้ทันที มันถอนหายใจออกมาก่อนจะขยี้หัวตัวเองแรงๆ
“ โอยยยยยยยยย กูไม่รู้เว้ย แต่มันก็อาจจะเป็นมึงก็ได้ อย่าลืมนะว่า มึงเอากับสาวแบบเลือกๆก็จริง แต่เอากันถี่.. ผู้หญิงก่อนหน้านี้ที่มึงเลิกไป มึงเอากับเค้ายกเว้นช่วงเมนส์มากูจำได้ "
“ ไอ้สัดไม่ขนาดนั้น เชี้ย!! “
ก๊อก ก๊อก ก๊อก ...
เสียงที่กำลังเถียงกันของเราหยุดลงไอ้ภาพมองไปที่ประตู ก่อนจะเชิดหน้ามาทางผมบอกใบ้ให้ไปเปิดประตู ' ทำไมมันต้องเกิดเรื่องเหี้ยๆแบบนี้กับกูด้วยว่ะ เชี้ยเอ้ยยย '
ใครจะไปรู้ ว่าไปไข่ทิ้งไว้ที่ไหน อยู่ๆโผล่มาอีกที ลูกก็สามสี่ขวบแล้ว ปีนี้ผมเองก็เพิ่งอยู่ปีสาม ถ้าย้อนกลับไป 5 ปีก่อนหน้านั้นผมกับไอ้ภาพก็คงต้องอยู่ในช่วง ม. 4 ม.5 เลยนะ เพราะงั้นแม่เด็กก็ต้องรุ่นๆเดียวกันจำได้ว่าตอนนั้นเหมือนยังอยู่ในช่วงเห่อKอยู่ด้วย มีเซ็กส์กับสาวถี่จนจำไม่ได้หรอกว่า เอากับใครมาบ้าง ว่าแต่มึงที่เอาไอ้เด็กนั่นส่งมาให้กูเนี้ย ' มึงแม่งเป็นใครวะ '
“ มีนา " ผมเปิดประตูทักคนที่เคาะประตูเรียก
“ พี่ขม มีนาเอาน้องมาส่ง มีนาจะไปเรียนแล้วค่ะ " เธอบอกก่อนจะดันหลัง เด็กชายผู้สร้างปัญหา เข้ามาในห้องของพวกผม
" ขอบคุณมากครับที่ช่วยดูแลให้ ยังไงไว้พี่เลี้ยงข้าวตอบแทนนะ " หยอดสาวสวยเล็กน้อย เธอที่ยิ้มแห้งๆก่อนจะเดินจากไป ผมก้มลงมองไอ้ตัวเล็กที่ก็เงยหน้ามองผม " ไปนั่งข้างพ่อมึงไป "
“ ห๊ะ ? มึงว่าไรนะ " ไอ้ภาพถามเสียงดังแต่ถึงอย่างงั้นคนที่ผมบอก ก็ว่าง่ายเดินไปนั่งข้างๆแบบไม่รู้เรื่องเลยว่า ผู้ชายร่างสูงข้างๆจะแดกหัวมันอยู่แล้ว สายตากลมหันไปมองไอ้ภาพด้วยสายตากลัวๆ ก่อนจะขยับร่างตัวเองให้ออกห่างไปเรื่อยๆ จนไปนั่งที่ริมสุดติดขอบโซฟา
“ พูดจาแล้วก็ทำหน้าให้มันดีๆหน่อยสิวะ แม่งกลัวมึงแล้วอะ "
“ ดี! " ไอ้ห่าภาพคงคิดจะทำให้เด็กกลัว ภาระจะได้มาตกลงที่ผมคนเดียวแน่ๆ .. มึงแม่ง..เลวมากในจุดนี้ พี่ขมจะไม่ทน
“ มึงดูท่าทางไม่ชอบมันนะ หรือว่ามึงกลัวว่ามันจะเป็นลูกมึง " ผมถาม
“ พูดจาให้มัน ดีๆ ไอ้สัด! ใครพ่อมัน "
“ เรายังพิสูจน์ไม่ได้ ว่าใครพ่อมัน แต่ถ้าดูจากท่าทางของมึงที่ทำให้มันกลัว รังเกียจ กูก็ไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่แล้วว่า มึงจะไม่ใช่ "
" คิดเหี้ยอะไรแบบนั้นวะ "
" อ้าว ก็ก็มีสิทธิจะคิดเปล่าวะ คนที่มันดูระแวงมันก็ดูเหมือนจะมีอะไร แอบไว้อยู่ไม่ใช่เหรอ "
" ตลก " มันเบือนหน้าหนี ก่อนจะถอนหายใจออกมา " กูว่าหน้าแม่งเหมือนใครก็ลูกคนนั้นอะ แต่ดูท่าทางไม่น่าจะใช่ลูกกู หน้าหวานๆ น่าจะลูกมึง " มหกรรมโยนขี้ โยนกลับมาให้กูอีกแล้ว
หันมองหน้าเด็กตัวเล็กที่มองผมทีมองไอ้ภาพด้วยความสงสัยที่เห็นเราเถียงกัน คือมันจะบอกว่าเหมือนผมก็คงไม่เชิงหรอกครับ หน้าผมดูหวานก็จริงแต่ไม่ได้หวานสวยอะไรขนาดนั้น แค่ขาว ตากลมๆ คือถ้าเทียบกับมาตรฐานผู้ชายที่ต้องสูง คมเข้ม ก็คงไม่ใช่อะไรแบบนั้น ส่วนสูงก็ค่อนไปทางเตี้ยอีกถ้าเทียบกับผู้ชาย แบบไอ้ภาพแล้ว ผมก็เหมือนกับ คู่ขนานกับมัน รายนั้นทั้งสูง ทั้งหล่อ ผิวขาวเหลืองของมัน ดูไม่อ่อนแอเหมือนผม ชวนให้สาวหลงออกเสียด้วยซ้ำ อาจเพราะมันมีลูกเสี้ยวแขกก็ได้มั้ง แต่ผมดันลูกเสี้ยวจีนไง ได้อาม่ามาเยอะ ขนาดแฟนคนเก่ายังบอก ' ขมดูดีออก ดูเป็นผู้ชายน่ารัก ของขวัญชอบ ' แต่ก็ทิ้งกูไป จ๊ะ
“ กูว่ามันดูมีเชื้อฝรั่งอยู่หน่อยๆนะ " ภาพพูดขึ้นมา
“ กูก็คิดงั้น " พยักหน้ารับก่อนจะเอ่ยถาม " ภาพ มึงเคยเอากับฝรั่งบ้างมั้ยวะ "
“ ก็ตอนไปเรียนซัมเมอร์ที่เยอรมันสักสี่ห้าครั้งมั้ง "
“ ตอนนั้นมึงอยู่ ม.สี่นี่หว่า ก็น่าจะเป็นไปได้อยู่นะ " ผมพูดกับตัวเองก่อนจะคิดคำนวนอายุเด็กกับช่วงเวลาตอนนั้น
“ มึงจำไม่ได้เหรอว่ะ กูยังจำตอนมึงไปส่งกูได้เลยนะ ฮ่าๆ "
“ เงียบปากไปเลยมึง ไอ้เหี้ย " คว้าหมอนปาอัดใส่หน้าอีกคนที่ก็ยังหัวเราะ
ผมกับไอ้ภาพรู้จักกันมานานมากแล้ว ความสัมพันธ์ของเรามันเป็นมากกว่าเพื่อนสนิทซะอีก อาจเพราะผมเป็นลูกคนเดียว มันเองก็ลูกคนเดียว บ้านเราอยู่ใกล้กัน ตอนที่ย้ายเข้าไปอยู่บ้านใหม่ตอนประมาน สามสี่ขวบ ก็เจอกับมัน เป็นเด็กข้างบ้านที่ผมเข้าไปทำความรู้จักแล้วก็ชวนเล่นด้วย จากนั้นเราก็สนิทกันมากขึ้น มากจนทำให้ครอบครัวเราเองก็สนิทกัน
เพราะไม่เคยห่างกับมันมาก่อน ไม่รู้ตอนนั้นรู้สึกอะไร แต่ตอนที่ภาพสอบได้ไปเรียนซัมเมอร์ที่เยอรมันวันที่ไปส่งผมร้องไห้เหมือนคนบ้า น้ำตานองหน้าที่สนามบิน ไอ้ภาพมันยิ้มตอนที่เห็นผมที่เป็นแบบนั้น มันดึงผมเข้าไปกอด ลูบหลัง ' ไม่ต้องร้อง กูจะติดต่อมึงมาบ่อยๆ จะคิดถึงมึงทุกวัน ให้มากกว่าเอ็ดดี้เลย ' ครับ.. ตอนนั้นมันบอกว่าจะคิดถึงผมมากกว่าหมาตัวโปรดพันธุ์ไซบีเรียนของมัน แล้วผมก็พยักหน้างึกงัก จำได้ว่าตอนนั้น กลัวมาก ว่ามันจะไม่กลับมากลัวมันจะอยู่เรียนต่อที่นู้น รู้สึกเหงาที่ปิดเทอมนี้เราจะไม่ได้เที่ยวเล่นด้วยกันเหมือนอย่างที่เป็นมา ' รีบกลับมานะภาพ ' ผมบอกมันก่อนที่มันจะผละตัวออกห่างผมไปกอดพ่อแม่ตัวเอง ไหว้แม่ผมที่ก็มาส่งมันด้วย ก่อนจะเดินเข้าเกตไป จำได้ว่าช่วงเวลาตรงนั้น เป็นอะไรที่เหงามาก เหมือนจะเหงาที่สุดในชีวิตแล้ว
' โอ๊ยยยยยย คิดแล้วจะอ้วก แหวะ ! ' ผมทำท่าอ้วกออกมากับความรู้สึกที่คิดถึงช่วงเวลาเด็กน้อยพวกนั้น ถ้าย้อนกลับไปได้กูจะไม่ร้องไห้สักหยอด ไม่ร้องให้มันมานั่งล้อยันมาลูกโผล่มาหน่อนึงหรอก สัด!
“ แล้วรีบกลับมานะภาพ อึก ฮือๆ " ดัดเสียงดูแรดๆ มันหัวเราะชอบใจ " จ้าๆ แล้วผัวจะรีบกลับมานะจ๊ะที่รัก "
“ ไอ้สัด ใครเมียมึงวะ!! ” ฟาดหมอนไปที่มันอีกทีแต่ ไอ้ภาพก็ยังไม่หยุดหัวเราะ
“ เมียอ่าา นี่ผัวไงจำไม่ได้เหรอ " มือหนาเอื้อมาเกาคางชอบใจ
“ ผัวพ่อมึงสิ!! ” ผมตวาดเสียงดัง
“ พอๆ ไอ้สัด เด็กงง มึงถามมันสิ มันชื่ออะไร มาจากไหนอะไร ยังไง เผื่อได้คำตอบตัวแม่ "
“ กูนี่ก็เบ้จัดการอะไรๆให้มึงตลอดเลยนะ " ถอนหายใจออกมาก่อนจะ หันไปถามเด็กผู้ชายตัวเล็กที่นั่งอยู่ติดขอบโซฟา ดวงตากลมมีท่าทางหวาดกลัวเล็กน้อย " นี่.. ชื่ออะไร แล้วอายุกี่ขวบแล้ว "
“ กาลิค สี่ขวบ " นิ้วเล็กๆชูจำนวนของอายุตัวเองขึ้นให้ผมดูแบบกล้าๆกลัวๆ
“ มันดูกลัวๆมึงอะ ขม " มันเป็นเด็กที่เงียบกว่าที่ผมคิดนะ หรือเรพาะอาจจะไม่สนิทกันก็ไม่รู้ อันนี้ไม่แน่ใจ แต่เด็กไม่ซนก็คงไม่มีในโลกหรอกมั้ง ขนาดไอ้ซูกัสลูกเฮียตู้ ลูกพี่ลูกน้องผมยังซนยังกับลิง
“ ชื่อกาลิคเหรอ ? หัวหอมอะนะ "
“ ไอ้เหี้ย กระเทียม " ภาพหันมาด่า โทษทีละกันพอดีภาษาองักฤษพี่มันแย่
“ เออน่าา แล้วนี่มาจากไหน "
“ อเมริกา "
“ อเมริกา!!! “ พวกเราประสานเสียงกันดังตอนที่เด็กตรงหน้าตอบ
“ มึงบินมาคนเดียวเหรอวะ " มันส่ายหน้าไปมา
“ มีคนมาส่ง หม่ามี๊ให้คนพี่คนนึงมาเป็นเพื่อน มาส่งที่นี่แล้ว พอเค้ามาส่งเค้าก็บอกว่า ให้กาลิคเอาภาพนี่ไปให้พี่สาวที่นั่งตรงนั้น แล้วบอกว่ามาหาป่าป๊า พี่สาวที่ต้องตรงนั้น ก็พยักหน้ารับแล้วให้กาลิคนั่งตรงนั้นรอก่อน แล้วพี่มีนาก็เดินมา พี่สาวตรงนั้นเลยบอกให้พี่มีนาจูงมือกาลิคมาหาป่าป๊าครับ "
“ ไม่เข้าใจ " ไอ้ภาพบอก ก่อนจะเกาหัวตัวเองงงๆ
“ ก็หม่ามี๊ให้พี่คนนึงมาส่งกาลิค พี่คนนั้นพากาลิคมาจากอเมริกามาส่งที่นี่ "
“ เออๆ กูเข้าใจแล้ว " ผมบอกปัดมัน " ไม่ต้องพูดแล้วละ "
“ มึงเข้าใจ ? “
“ กูคิดว่า คงมีคนจากอเมริกามาส่งมันที่นี่ เค้าบอกให้มันเอาภาพมึงกับกูไปให้พี่ที่ออฟฟิคคอนโดดู แล้วบอกว่ามาหาเราสองคน เค้าเลยให้มันนั่งรอที่โซฟาข้างล่างรอจนกว่ากูกับมึงจะลงไป แต่เพราะกูกับมึงไม่มา มีนาที่เดินลงไปก่อน เห็นว่ารู้จักกัน เลยฝากมีนาขึ้นมาหาเรา "
“ ฉลาดสัด " ยกไหล่ไหวๆให้คำชม เอาน่า กูต้องมีมุมที่ฉลาดๆบ้าง ถึงมันจะน้อยมากๆก็เถอะ แต่มันต้องมีสิน่า
“ แล้วหม่ามี๊หน้าตาเป็นยังไง "
“ สวย " สั้นๆ คำเดียว ได้ใจความ กูคงรู้แหละว่าใคร เด็กในโลกนี้แม่งก้ชมแม่ตัวเองสวยกันไปหมดไม่ใช่เหรอวะ
“ แล้วมึงมีภาพหม่ามี๊มึงมั้ยไอ้หัวหอม "
“ เชี้ยขม กูบอก กาลิค กระเทียม มึงจะเรียกมันว่า หัวหอม หัวหอม อีกนานมั้ย สัด "
“ ก็กูจะเรียกหัวหอมอะ มันน่ารักกว่า กระเทียมกับกาลิค มึงเหี้ยไรเนี้ย เสือกจัง ลูกมึงอ๋อ หวงสินะ "
“ ไม่ใช่เว้ย " ไอ้ภาพตะโกนขัด
“ ว่าไง หัวหอมมึงมีภาพแม่มึงมั้ย หม่ามี๊น่ะ "
“ ไม่มี หม่ามี๊ไม่ให้เอามา " ถอนหายใจออกมาพร้อมกันอีกครั้ง ก็นะ ในความเป็นจริงใครมันจะให้เอามาวะ เอาลูกมาทิ้ง ถ้าให้เอามาก็ต้องถูกส่งคืนอยู่แล้ว
“ มึงคิดออกบ้างมั้ยภาพ ว่าใครเป็นแม่เด็กบ้าง "
“ มาจากอเมริกาเหรอวะ ไม่มีเลยวะ " มันส่ายหน้าไปมา ผมเองก็คิดว่าตัวเองไม่มีนะ แต่เอาจริงๆจะให้เขียนรายชื่อที่เข้าข่ายว่าเป็นแม่ของเด็กทั้งหมดตอนนี้ผมยังเขียนไม่ได้เลย ไอ้ภาพคงหนักกว่า " มันต้องมีหลักฐานบ้างสิ "
“ หลักฐานเหรอ หลักฐานไรอะ "
“ ก็หลักฐานตั๋วเครื่องบิน มันต้องมีชื่อเด็ก ถ้ามันไม่มีพ่อ มันต้องใช้นาสกุลแม่ ถูกมั้ยละ "
“ ไหนลุกขึ้นสิ " ผมบอกก่อนจะดึงไอ้หัวหอมให้มายืนตรงหน้า ล้วงกระเป๋ากางเกงก็ไม่มีอะไร " ตั๋วอยู่ไหนวะ หัวหอม ตั๋วอะ ตั๋วเครื่องบิน "
“ ไม่มีครับ อยู่ที่พี่คนนั้น "
“ อ้าว อะไรวะ นู้นก็ไม่มี นี่ก็ไม่มี กูชักของขึ้นแล้วนะเว้ย " ผมลุกขึ้นถามด้วยความหงุดหงิด สายตากลมก็เบิกตาน้อยๆก่อนจะถอยหลังหนีไปก้าวนึง
“ ใจเย็นๆดิวะ เด็กมันไม่รู้เรื่องมึงจะไปเอาอะไรกับมัน ถ้าจะมีใครผิดก็ต้องเป็นแม่มันรึเปล่า มันคงไม่ทำอะไรให้เราจับได้เร็วๆหรอก ว่าใครเป็นแม่เด็ก นั่งลง " ไอ้ภาพคว้ามือผมที่กำลังหงุดหงิดให้นั่งลง ผ่อนลมหายใจออกมา ไอ้ภาพก็คว้าเด็กตรงหน้าเข้าไปใกล้ " ไหน กูขอดูรูปที่มึงเอามาอีกทีนึงได้มั้ย "
“ นะ นี่ ครับ " ภาพแผ่นนั้นถูกยื่นมาให้ไอ้ภาพ มันเป็นภาพเราสองคนที่ถ่ายตอนช่วงคริสมาสเพราะมันมีต้นคริสมาสเป็นพื้นหลัง เสื้อหนาวถักที่ใส่อยู่นั้นดูคุ้นตาอยู่แต่ก็จำไม่ได้หรอก ว่าตอนนั้นอยู่ที่ไหน ใครอยู่ที่นั่นบ้าง
“ มึงพอจำได้บ้างมั้ย " ภาพถามผมก็ส่ายหน้า
“ คิดไม่ออกมา เอาผู้หญิงมาตั้งเท่าไหร่ ใครจะไปรู้ว่า คนไหนถุงยางจะแตก " บอกแบบหงุดหงิดผมมองหน้าเด็กด้วยความรู้สึกไม่ชอบใจเท่าไหร่ แววตาใสๆที่มองมานั้น จะว่าไปมันก็ไม่ผิดหรอก จะไปโกรธมันก็ไม่ได้
“ กูขอภาพนี้นะกาลิค "
“ ครับ "
“ มึงจะเอาไปทำไมวะ "
“ น่า เสือกจริง " ไอ้ภาพบอกปัด ผมก็ถอนหายใจออกมา
“ แล้วของมึงมีแค่เป้ใบนี้เหรอ "
“ ครับ " พยักหน้ารับอีกทีผมก็คว้าเป้มันมาเปิดดู เผื่อมีอะไรที่สามารถสาวถึงตัวคนเป็นแม่ของเด็กได้บ้าง ผมเปิดกระเป๋านั่นออกมาในนั้นมีแค่เสื้อผ้าอยู่ชุดเดียวกับของเล่นที่เหมือนจะได้รับจากเครื่องบิน แล้วก็กล่องเหล็กที่พอเปิดดูก็ชวนให้เบิกตากว้างขึ้นมาด้วยความตกใจ
" เชี้ย.." สบถออกมาพร้อมกันสองคนกับสิ่งที่เห็น มันคือเงินครับ เงินดอลล่าห์ปึกใหญ่ที่หนาเกือบสองข้อนิ้วมือของผมเลยทีเดียว
“ ทำไมมึงพกเงินเยอะขนาดนี้วะ "
“ หม่ามี๊บอกว่าให้เอาไว้ใช้ในตอนฉุกเฉิน "
“ อายุมึงเท่าไหร่ มึงถึงต้องมีเงินฉุกเฉินขนาดนี้ กูโตจนป่านนี้เงินขนาดนี้กูยังไม่มีเลย " ไอ้ภาพบอกก่อนคว้าเอาเงินทั้งหมดเก็บใส่กล่องไว้
“ เดี๋ยวๆ นั่นมึงจะอมตังค์เด็กเหรอ "
“ เปล่าเว้ย จะเอาใส่กระเป๋ามันไว้ " ภาพบอกผมก็เหล่มองมันแบบไม่เชื่อเท่าไหร่ มันหันไปหาไอ้หัวหอม " แล้วอย่าบอกใครว่ามีเงินนี่อยู่เข้าใจมั้ย "
“ เข้าใจครับ "
ความเงียบเข้ามาปกคลุมในคอนโดของเราอีกครั้ง ทั้งเด็กที่ยืนกำเสื้อตัวเองก้มหน้าก้มตาไม่พูดอะไรแล้วมองพวกผมด้วยสายตาหวาดๆ เราเองทั้งคู่ก็เหมือนจมอยู่กับความคิดของตัวเอง เหมือนต่างคนก็ต่างคิดว่า ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร ใช่คนที่เป็นแม่เด็กรึเปล่า
“ เราโดนหลอกรึเปล่าวะ " อยู่ๆไอ้ภาพก็พูดขึ้นมา " เอาจริงๆ กูไม่มีทางจะทำให้ถุงยางหรอก ไอ้เรื่องหลุดถุงยางคงไม่เกิดขึ้นกับกู เพราะกูไม่ใส่สดอยู่แล้ว ไม่ใช่ซ้ำด้วย "
“ กูเองก็ไม่ " ผมบอก " แต่มันมีรูปเราได้ไงวะ "
“ แค่รูปในเฟสบุ๊คก็มีรึเปล่า "
“ แต่พวกเราไม่มีรูปนี้ในเฟส " บอกมันแบบนั้นอีกคนก็ถอนหายใจออกมา
“ ภาพตัดต่อรึเปล่าวะ แค่ภาพใบเดียว เราต้องยอมรับเป็นพ่อมันเหรอ " เงยหน้ามองเด็กผู้ชายที่กำลังมองเรา ด้วยสายตาที่ไม่เข้าใจ เค้าที่เหลือบมองนู้นนี่ไปมา
“ เลิกพูดเรื่องนี้ก่อนเถอะวะ สงสารเด็กมัน " ผ่อนลมหายใจออกมาผมดึงตัวเองเข้าไปใกล้ ย่อตัวลงตรงหน้า ไม่รู้แววตากลมๆนี้จะกำลังคิดอะไรอยู่ จะกำลังโศกเศร้าที่เห็นตัวเองโยนไปให้คนนั้นที คนนี้ทีรึเปล่า " หิวมั้ย กินอะไรรึยัง "
“ ยังครับ " ส่ายหน้าไปมา ผมก็มองเวลาที่ตอนนี้ก็ปาเข้าไปจะเที่ยงวันแล้ว
“ ออกไปกินข้าวเถอะ กูพามันไปกินข้าวนะภาพ "
“ แล้วกูละ " มันชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง ผมก็เลิกคิ้ว
“ มึงไม่ชอบออกไปข้างนอกนี่ " ดูแบบนี้ไอ้ภาพไม่ชอบไปที่คนเยอะๆนะคะ ในห้องนี้คนที่ทำหน้าที่เป็นแม่บ้านคือผมคนเดียวเท่านั้น ซื้อของเข้าบ้าน ทิ้งขยะ ซื้อกับข้าว ผมคนเดียว เพราะมันไม่ชอบทำอะไรแบบนี้
“ แต่วันนี้กูจะไปด้วย "
“ หรือว่ากลัวกูจะล้วงความลับเด็กจนรู้ว่า สุดท้่ายพ่อเด็กคือมึง "
“ สัด กับแค่ข้อมูลแค่นั้น กูไม่คิดว่ามันจะสาวมาจนถึงกูหรอก " มันว่าก่อนจะคว้าเอากระเป๋าเป้ของหัวหอมแล้วก็ กุญแจรถกระเป๋าตังค์ของมันเองแล้วเดินนำเราไป ผมยื่นมือไปคว้ามือของเด็กคนนั้นไว้ ก้มลงไปยิ้มให้มัน
“ กูก็ไม่รู้ว่ามึงเป็นรู้ใคร ไม่รู้ว่า ลูกกู หรือ ไอ้ภาพ แต่ตอนนี้อย่าเพิ่งคิดอะไรเลยนะ ไปกินข้าวก่อนดีกว่า " พยักหน้ารับช้าๆ เราเดินออกไปจากห้อง พร้อมกันทั้งสามคน
...................................................................
นิยายเรื่องใหม่มาแล้ว #เปิดม่าน
นิยายเรื่องนี้เราจะสดใสกันจนถึงขีดสุดทิ้งความดราม่าที่มี ฉีกทุกอย่างทิ้งไป
แล้วลั๊นล๊าไปกับนิยายเรื่องใหม่นี้กันเถอะ เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่ ห้า ของ หนมมี่ผู้ใสซื่อ คนนี้แล้ว
ยังไงก็ฝากอ่าน ฝากคอมเม้นท์ และติดตามกันเยอะๆนะคะ
ฝากแท็ก #มมชลก ในทวิตด้วยจ้าา
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์ เหมือนเดิม
ป.ล. ตอนสองยาวมาก เจอกัน วันอาทิตย์ จุ๊บๆ