[END]►Episode 1 season 2◄ - ธงทัพxภูผาxนาวี [EPILOGUE] 28/10/18
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [END]►Episode 1 season 2◄ - ธงทัพxภูผาxนาวี [EPILOGUE] 28/10/18  (อ่าน 66306 ครั้ง)

ออฟไลน์ tasteurr

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
อัพเร็วมากค่ะ นึกว่าตาฝาด
ดีใจ ดีใจ  :oni2:

พี่ทัพน่ารัก น้องภูน่ารัก
อยู่ด้วยกันแล้วดีต่อใจ
อ่านไปอมยิ้มไป

แต่อาการพี่ทัพนี่มันอะไรกัน เรื่องปืนอีก
ฮรือออ ขอนะคะ ให้พี่ทัพอยู่จนจบเรื่องนะคะ พลีส  :impress:

สงสารนาวี กอดๆ

 :pig4:

ออฟไลน์ MyLavenderLand

  • ฉันสุขใจ เมื่อได้ Log in เล้า
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
เอาซี้~~ พี่ทัพของฉันก็มีไม้ตายท่าเด็ด เป็นสกิลหมาโกลเด้น ที่ทำให้ภูผาอ่อนระทวยได้เชียวนะ สู้ไหวเหรอนาวี?  :hao3:

พี่ทัพกำเดาไหล , นาวีเป็นโรคซึมเศร้า  คุณหมอภูผาจะเลือกรักษาใครนะ?

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
กลัวพี่ทัพเป็นโรคอะไรตายแงงง อย่าทิ้งน้องนะ

ออฟไลน์ fxxg0430

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 44
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
 :hao5: แม่คะ นิยายอะไรมีแต่คนป่วย ฮือๆ

ทีแรกรู้สึกจะจบดี แต่พอเห็นว่ามีปืน... ก็กลัวแล้วค่า

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
ไม่ใช่ว่าสุดท้ายเหลือภูผาโด่เด่อยู่คนเดียวนะ

ออฟไลน์ Patsz

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
ดราม่าหนักแน่ๆ ทัพป่วย แล้วปืนอันนั้น น่าจะได้ใช้งานแน่ๆในตอนต่อๆไป

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
 :ling3:

ออฟไลน์ กาแฟมั้ยฮะจ้าว

  • Let me hug you tight, and I’ll make you feel how important you are.
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 920
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +570/-0
ขอบคุณครับ +1 ให้นะครับ :a2: :katai2-1: o13

ออฟไลน์ เต้าหู้ไข่

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 192
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +279/-5
    • twitter

Episode 19.1

 

เมื่อผมสูญเสียศรัทธา
ผมจะเตือนตัวเองว่า
ผมยังเหลือคุณอยู่


 

 

 

"แล้วจะไปสอบเข้าที่ไหนอะ"

"ถ้าไปไกลๆ จะอนุญาตปะล่ะ"

"ห้ามได้ไหมล่ะ"

"จะห้ามเหรอ มันคืออนาคตกูนะเว้ย"

"อนาคตของมึงกับความคิดถึงของกู มึงว่าอะไรสำคัญ"

"ภูผา มึงอ่า!"

"เดี๋ยวมึงก็รู้ว่าความคิดถึงมันเป็นยังไง"


 

 

"คิดถึงมึงว่ะ ภูผา"

 

คิดถึงเหมือนกัน...


หากเป็นก่อนหน้านี้ ผมคงพูดมันออกไปด้วยคำนั้นในทันที ผมเองก็ผ่านมันมาแล้ว ช่วงเวลาที่ทุรนทุรายเจียนตายเพียงเพราะความคิดถึง แต่อาจเพราะความรู้สึกของผมถูกเยียวยา ผ่านช่วงเวลาที่ล่วงเลยไป และเมื่อถึงจุดหนึ่ง ความคิดถึงจึงไม่ใช่เรื่องทรมานสำหรับผมอีกต่อไป

"มึงหายไปแปดปี"

"..."

"มาคิดถึงเอาตอนนี้มันก็ไม่ทันแล้วป่ะวะ"

 

"ครืด...ครืด..."


ก่อนที่ใครสักคนจะได้พูดอะไรต่อ มือถือของผมที่สั่นอยู่บนโต๊ะก็เรียกความสนใจของผมไปก่อน นาวีอาจต้องการพูดอะไรต่อในบทสนทนาที่ยังค้างคาอยู่ของเรา แต่ผมถือวิสาสะละความสนใจจากเขาเมื่อเห็นว่าธงทัพเป็นคนโทรเข้ามา จึงรีบกดรับโทรศัพท์ก่อน   

(พี่ภูผา)

ริมฝีปากที่กำลังจะขยับกลับค้างนิ่ง ขณะหัวคิ้วเคลื่อนชนกันเมื่อเสียงปลายสายไม่ใช่ธงทัพ 

(พี่ภู นี่ปอนะครับ)

"ปอ...ทำไมถึง..."

ผมเว้นคำพูดเอาไว้ และอีกฝ่ายก็คงเข้าใจดีว่ามันคือคำถาม จึงรีบอธิบายสิ่งที่ผมรอฟังออกมา 

(พี่ทัพไม่สบายมากเลย ตอนนี้อยู่ที่โรงพยาบาล พี่ทัพไม่ให้ผมบอกพี่ แต่ผมว่าพี่น่าจะมานะครับ พี่ภูมาได้ไหมครับ)

"..."

(มาตอนนี้เลยได้ไหมครับ)

"..."

(พี่ภูผา)

คล้ายว่าสมองเพิ่งประมวลคำพูดของปอเสร็จ รีบร้อนตอบรับปอแล้วคว้ากระเป๋าออกมาจากร้าน ไม่ได้สนสายฝนที่ลงเม็ดมาอีกรอบแล้ววิ่งฝ่าออกไป ไม่ได้สนนาวีที่ทิ้งบทสนทนาซึ่งค้างคาอยู่อย่างนั้น ไม่ได้สนใจอะไรเลยนอกจากรีบไปให้ถึงโรงพยาบาลอย่างเร็วที่สุด

อย่างที่บอกมาตลอดจนจำไม่ได้แล้วว่าพูดไปกี่ครั้งว่าผมเกลียดวิชาพละและการออกกำลังกาย จำไม่ได้เลยว่าวิ่งเร็วที่สุดครั้งสุดท้ายเมื่อไร อาจจะเป็นวันนี้ที่ผมใช้แรงที่มีวิ่งมาถึงห้องผู้ป่วยตามที่ปอบอก

กระทั่งสองขาหยุดกึกเมื่อเห็นหน้าธงทัพที่นอนอยู่บนเตียง ตัวมันเองก็หันมาทำตาโตใส่อย่างตกใจ ผมไม่มีอะไรจะพูดนอกจากยืนหอบหายใจพลางกลืนน้ำลายลงคอที่แห้งผาก ยกมือชี้หน้ามัน อยากจะด่าอะไรสักคำแต่พูดไม่ออก จึงก้มลงใช้สองมือยันเข่าตัวเองที่แทบจะหมดแรงจนขาอ่อน ตอนที่วิ่งมา ใจผมคิดว่าธงทัพป่วยหนักกำลังตาย แต่พอเห็นหน้าของคนที่ไม่สบายก็รู้สึกเสียดายแรงที่วิ่งมานิดหน่อย ผมเป็นคนพลังงานต่ำ เลยหมดแรงเอาง่ายๆ แบบนี้แหละ

"ภูผา มาได้ไง..."

ผมพูดไม่ออกเพราะเหนื่อยเกินจะเอ่ยบ้าบออะไรทั้งนั้น สูดลมหายใจเรียกสติอีกทีแล้วก้าวเท้าเข้าไปหามัน

"มึงเป็นอะไร"

"แล้วมึงมาได้ยังไง"

"กูบอกแล้วใช่ไหมว่าไม่ไหวให้พัก"

"แล้วทำไมมึงตัวเปียกแบบนี้"

"ป่วยหนักขนาดนี้ทำไมไม่โทรบอกกู"

"นี่มึงตากฝนมาเหรอ"

"ไม่ต้องสนกู! แล้วตอบคำถามกูสิโว้ย!"

"ป้าบ!"

ทั้งห้องเงียบกริบหลังเสียงฝ่ามือผมตบเข้าที่หน้าผากธงทัพจนหน้าหงาย คนถูกตบช็อกตาค้าง ปอที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็นิ่งไปเลย

ผมปลดกระเป๋าออกจากบ่าแล้วโยนลงบนเตียง ก้าวเท้าเข้าไปหามันให้ใกล้อีก กลั้นอารมณ์โมโหแล้วถามมันซ้ำอีกครั้ง

"มึงเป็นอะไร"

"เป็นไข้ครับ ปวดหัว เจ็บคอ เป็นหวัดด้วยครับผม"

"..."

"เหมือนไข้จะสูงกว่าเดิมตอนโดนตบเมื่อกี้"

"ก็มึงแม่ง..." เพราะธงทัพสนใจผมมากเกินกว่าที่จะสนใจตัวเอง ไม่สบายจะตายห่ายังมาห่วงว่าผมเปียกฝนหรืออะไร ผมไม่รู้จะด่ามันว่าอะไรได้แต่ถอนหายใจเสียงดัง มันขยับตัวหนีตอนที่ผมเดินเข้าใกล้มัน ไม่วายหันไปกระซิบกระซาบกับปอ แต่เป็นเสียงกระซิบที่ได้ยินเต็มสองหูนั่นแหละ

"มึง...ภูผาตบกู"

"เต็มหน้าผากเลยครับ"

"หน้าหงายเลยกูอะ"

"ดังป้าบ"

"สนั่นห้อง"

"แล้วเป็นอะไรมากไหม" เมื่อผมพูด สองคนนั้นก็แยกตัวออกจากกันด้วยท่าทีสงบ ก่อนปอหันมาตอบแทน

"หมอบอกว่าไข้สูงมากเลยครับ แต่ฉีดยาไปแล้ว เดี๋ยวก็คงดีขึ้นครับ"

ผมพยักหน้ารับพลางไล่มองใบหน้าซีดเซียวของคนป่วยที่กำลังยิ้มจนตาเป็นขีดเดียว เข็มน้ำเกลือถูกเจาะเข้าที่หลังมือข้างซ้าย ในรอบหลายปีที่ธงทัพป่วยจนต้องเข้าโรงพยาบาลแบบนี้ บอกตรงๆ ผมทำตัวไม่ถูก ผมต้องทำเป็นโมโห กลบเกลื่อนความกลัว...

 

กลัวว่าธงทัพจะเป็นอะไรไป...

 

"พี่ภูมาแล้ว ถ้างั้นผมกลับก่อนนะครับ" 

"มึงจะกลับไปทำงานต่อป่ะเนี่ย"

"ครับ กลับไปแก้งานเดิมแหละ สิบรอบแล้วยังไม่ผ่านเลยเนี่ย"

"เออ เสร็จแล้วก็รีบกลับบ้านล่ะ ไม่ต้องอยู่ยันเช้าอีก"

"ผมไม่อ่อนแบบพี่หรอก"

"อ่อนอะไร"

"แหม! คุณธงทัพคนแกร่ง หันไปอีกทีนอนแอ้งแม้งอยู่ใต้โต๊ะ ตอนเห็นสภาพนี่ไม่รู้เลยว่าจะเรียกรถพยาบาลหรือรถเก็บศพดี"

"ไปให้ไวเลยไอ้เด็กเวร ขากูยังมีแรงเตะมึงได้นะเนี่ย"

"ไปแล้วครับๆ"

ปอยกมือโบกเป็นเชิงลาธงทัพ ก่อนเดินออกไปนอกห้อง ผมเองก็เดินตามออกมาด้วย

"ปอ ขอบคุณมากนะที่โทรบอก"

"ครับ ที่จริงพี่ทัพเขาบอกว่าอยู่คนเดียวได้ แต่ผมคิดว่าพี่มาน่าจะดีกว่า "

"ทัพมันชอบคิดว่าตัวเองเก่ง"

"จริงครับ ทำงานหนักไม่ค่อยพัก กลางวันก็ไม่ค่อยกินข้าวด้วย บางวันก็กาแฟแก้วเดียวอยู่ได้ทั้งวัน ผมเตือนอะไรก็โดนดุใส่ตลอดเลย พี่ทัพเขาเหมือน..."

"หมาบ้า"

"ถูก!"

ทั้งผมและปอหัวเราะออกมาพร้อมกัน ความเข้าใจตรงกันเพราะเราต่างคนต่างรู้นิสัยของไอ้หมาบ้านั่นดี

"ผมไปแล้วครับ บอกพี่ทัพให้พักเยอะๆ นะ ไม่เคยเห็นเขาป่วยขนาดนี้มาก่อนเลย ก่อนหน้านี้คงจะปวดหัวมาก ร้องไห้ใหญ่เลย"

"ร้องไห้เลยเหรอ"

"ครับ ผมไม่เคยเห็นพี่ทัพร้องไห้มาก่อนเลย คราวนี้คงจะหนักจนทนไม่ไหวจริงๆ "

ผมพยักหน้ารับยิ้มๆ ก่อนปอจะขอตัวกลับไป ผมหันหลังกำลังจะเดินกลับเข้าห้อง แต่สองเท้ากลับหยุดตรงนั้นก่อน ผมจินตนาการไม่ออกกับสิ่งที่ปอบอกเล่าให้ฟัง

 

ธงทัพร้องไห้...ผมก็ไม่เคยเห็นเหมือนกัน 

 

ผมเดินกลับเข้าไปในห้อง แล้วนั่งลงที่เก้าอี้ข้างเตียง ไม่ได้พูดอะไรนอกจากมองหน้ามันอยู่อย่างนั้น จะพูดอะไรก็ คิดไม่ออก กระทั่งมันแทรกเสียงขึ้นท่ามกลางความเงียบ

"เสื้อมึงเปียกอะ ถอดออกสิ เดี๋ยวไม่สบาย"

ผมทำตามที่มันบอก ถอดเสื้อคลุมตัวนอกที่เปียกออก ดีที่เสื้อยีนส์มันหนาพอที่จะเปียกแค่ชั้นนอก ส่วนเสื้อยืดข้างในแค่ชื้นๆ ไม่นานคงแห้งไปเอง ผมหันมองไปมุมห้อง มีตู้เสื้อผ้าตรงนั้นด้วยเลยเดินไปหยิบไม้แขวนตากเสื้อ ในตอนนั้นก็เพิ่งได้สังเกตห้องพักของโรงพยาบาล หรูเทียบเท่าโรงแรมสามดาวได้มั้ง

"โรงบาลโคตรสวยเลย"

"สวัสดิการบริษัทกูดีน่ะ"

ผมยิ้มหน่อยๆ ก่อนเดินกลับไปนั่งที่เดิม

"กินอะไรมาหรือยัง"

ผมส่ายหน้า

"ลงไปหาอะไรกินก่อนก็ได้นะ"

"ไม่ต้องห่วงกู"

ผมพูดเสียงเข้ม ธงทัพรวบริมฝีปากปิดแล้วเหลือบตาขึ้นมองบนทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ ผมก็ยังไม่รู้จะพูดอะไรอยู่ดี ได้แต่มองหน้ากันไปๆ มาๆ

"ตกใจเลยสิ"

"อืม"

"กูบอกไอ้ปอแล้วว่าไม่ต้องบอกมึง"

"ลองไม่บอกสิ กูจะตบมึงให้แรงกว่าเมื่อกี้อีก"

"ไปโหดมาจากไหนวะเนี่ย"

ผมไม่ได้ขำไปกับท่าทางล้อเล่นของธงทัพ ตัวมันเองก็เลยหุบปากแล้วขยับตัวนอนลงเงียบๆ กลอกตาไปทางซ้ายที ขวาที

"ง่วงไหม"

มันพยักหน้ารับ

"งั้นก็นอนเถอะ"

"มึงก็กลับไปเถอะ ไม่ต้องเฝ้ากูหรอก"

"มึงอยู่คนเดียวได้เหรอ"

"ได้ดิ"

"ไม่อยากให้กูอยู่เหรอ"

"อือ เกะกะ กลับไปเหอะ"

"ไอ้พี่ทัพ!"

"เออ พรุ่งนี้ค่อยมาใหม่ เสื้อผ้าก็เปียก กลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าไป"

"ไหวแน่นะ"

"ไหวดิ สบายมาก ไปเหอะ"

"ไม่ต้องการกูขนาดนั้นเลยเหรอ"

"ไม่ต้องการสักนิด ไปเลยไป"

ผมคิดว่ามันจะรั้งแต่กลับไล่ จึงได้แต่ส่ายหน้ายิ้มๆ แล้วคว้ากระเป๋าเดินออก ผมยืนนิ่งอยู่ที่หน้าห้องอยู่ครู่เดียว แล้วเดินกลับเข้าไปในห้องอีกที ธงทัพไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผมกลับเข้ามา

ดวงตาปิดสนิทแต่หัวคิ้วชนกันคล้ายกำลังเจ็บปวดกับอะไรสักอย่าง ยกมือข้างที่ไม่ได้ติดสายน้ำเกลือขึ้นกดข้างขมับตัวเอง แล้วลืมตาขึ้นมาในตอนนั้น

"เหี้ย!"

ผมยักคิ้วให้นิดหนึ่งตอนที่มันตกใจจนลั่นคำหยาบออกมา อดไม่ได้ที่จะด่าไปสักบทด้วยความหงุดหงิด

"กูรู้อยู่แล้วว่ามึงไม่ไหว ที่ไม่อยากให้กูอยู่เพราะไม่อยากให้กูเห็นตอนมึงป่วยใช่ไหมล่ะ มึงไม่เห็นต้องทำเป็นเข้มแข็งตลอดเวลาเลยธงทัพ"

"ก็กูขี้เก๊กอะ!"

"ไอ้หมาบ้า!"

"ป่วยอยู่มันไม่เท่เว้ย แล้วกูก็...ไม่อยากให้มึงต้องมาเป็นห่วงด้วย"

"พี่ธงทัพ"

"อะไร เรียกแบบนี้กูกลัวนะ"

ผมถอนหายใจเบาๆ แล้วนั่งลงที่เก้าอี้อีกครั้ง

"เราต้องดูแลกันดิวะ"

"..."

"ที่ผ่านมามึงเอาแต่ดูแลกูอยู่คนเดียว ในสายตามึงกูคือใครอะ เด็กม.ปลายที่แม่ตายแล้วไร้ที่พึ่งจนมึงต้องเป็นฝ่ายดูแลกูเหรอ"

"ไม่ใช่แบบนั้นนะเว้ย!"

"ถ้าไม่ใช่ก็ให้โอกาสกูได้ดูแลมึงบ้าง มึงป่วยหรือเป็นอะไรก็บอกกู ควรบอกกู! ให้กูได้ทำอะไรเพื่อมึงบ้าง!"

ธงทัพก้มหน้าลงไปนิดหนึ่ง ก่อนเงยหน้าขึ้นมา ผมเห็นแววตาของอีกฝ่ายมีน้ำตาคลอ

"มึงพูดแบบนี้..."

"..."

"น้ำตากูจะไหลเลยนะเนี่ย"

"ก็ร้องออกมาสิ ขี้เก๊กจนน่ารำคาญ"

"ไม่เอาโว้ย!"

โคตรของความดื้อคือธงทัพ มันตะโกนเสียงดังดึงผ้าห่มขึ้นคลุมหน้า ปาดน้ำตาเสร็จเรียบร้อยจึงเปิดผ้าห่มออกมา ในครั้งนี้....ผมก็ยังไม่ได้เห็นน้ำตาของธงทัพเหมือนเคย

"มึงนอนเถอะ กูจะอยู่ตรงนี้ อย่าไล่กูไปไหนเลย กูไม่ไปหรอก ดุกูแค่ไหนก็ไม่ไป ขอดื้อสักวันเถอะ"

คนบนเตียงพยักหน้ารับ ฝ่ามืออุ่นๆ เลื่อนขึ้นมาสัมผัสแก้มผมเบาๆ

"น่ารักจนทำคนเขาใจสั่นอีกแล้ว"

ผมได้แต่ส่ายหน้าเบา ไม่รู้ตัวว่าทำหน้าบูดเพราะแก้มพองออกมากว่าเดิม

"แก้มพองอีกแล้วนะ" มือที่สัมผัสแก้มเปลี่ยนเป็นบีบเบาๆ อย่างที่เคยทำ

"ไม่ให้บีบแล้ว"

ผมจับมือธงทัพออกจากแก้ม ก่อนเป็นฝ่ายจับมือของมันเอาไว้เอง

"ถ้าเราจับมือกันแบบนี้ มึงจะติดไข้กูหรือเปล่า"

"ถ้ากลัวก็ปล่อย"

ผมบอก แต่ธงทัพกลับจับเอาไว้แน่นกว่าเดิม เหมือนบอกผ่านฝ่ามือนั้นว่า ต่อให้ติดไข้ตายไปพร้อมกันก็จะไม่ปล่อยออกหรอก

"ไม่รู้ว่าหมาบ้าอย่างมึงจะป่วยเป็นกับเขาด้วย"

"เดี๋ยวเตะเลย"

"ธงทัพ"

"อือ"

"นี่มึงเป็นไข้เฉยๆ จริงๆ ใช่ไหม"

"จะแช่งอะไรกูอีกล่ะ"

"กูกลัวมึงป่วยหนักไง กูไม่ชอบเวลามึงเลือดกำเดาไหล มึงเคยดูละครไหม คนที่เลือดกำเดาไหลบ่อยๆ ไม่มะเร็งก็ลูคีเมียแหละ"

"ภูผา ไอ้บ้า!"

"พอเกิดอะไรขึ้นกับมึง กูก็กังวลไปหมด ถ้ามึงเป็นโรคร้ายแรงอะไรมึงต้องบอกกูเลยนะ ไม่ต้องมาเซอร์ไพรส์กูสองวันสุดท้ายก่อนตายอะไรแบบนั้น กูทำใจไม่ได้นะ"

"กูไม่ได้เป็นอะไร กูแค่ป่วย กูทำแต่งานเลยไม่ได้ดูแลตัวเอง ก็ต้องมีวันที่ร่างกายกูเจ็บป่วยเพื่อประท้วงบ้าง แต่กูไม่ได้เป็นอะไรจริงๆ ไม่ต้องกังวล"

"กูกลัวมึงตาย"

 

กลัวว่าธงทัพจะเป็นอะไรไป

 

นั่นเป็นความหวาดกลัวเดียวของชีวิตที่เพียงแค่คิดขึ้นมาผมก็ทำใจไม่ได้แล้ว...เพราะธงทัพสำคัญเท่าชีวิต และถ้ามันเป็นอะไรไปจริงๆ ตัวผมเองคงแตกสลายไปด้วย ผมมองหน้าธงทัพพร้อมกับความคิดหนึ่งที่มีอยู่ในตอนนี้ ความเจ็บป่วยเหล่านั้น หากรับแทนกันได้ก็คงจะดี...

 

"ถ้ามึงตายไปโลกนี้กูก็ไม่เหลือใครแล้วนะ"

"..."

"อย่าตายไปก่อนกูนะธงทัพ"

"..."

"กูขอร้อง"

ธงทัพดึงมือข้างที่จับกันอยู่เข้าไปให้ผมกับมันได้ใกล้กัน ก่อนใช้มืออีกข้างโอบกอดผมเบาๆ ไม่มีคำพูดอะไรออกจากปากธงทัพและผม มีเพียงคำปลอบโยนผ่านอ้อมกอดนั่น เงียบงันอยู่ครู่หนึ่งก่อนธงทัพปล่อยผมออก

"ภูผา ฟังกูนะ"

"..."

"กูไม่มีวันตาย"

"..."

"กูเป็นอมตะ"

"..."

"ตอนเด็กๆ กูโดนแวมไพร์กัดคอ โตขึ้นมากูเลยรู้ว่าจริงๆ กูไม่ใช่ธงทัพ แต่เป็นเอ็ดเวิร์ด..."

"..."

"เอ็ดเวิร์ด คัลเลน"

"..."

"แวมไพร์ ทไวไลท์"

ผมยกนิ้วชี้ขึ้นแตะริมฝีปากมันเบาๆ ชื่นชมการปลอบโยนที่แปลกใหม่ แต่มันอดไม่ได้ที่จะด่าสักคำ เลยขยับมุมปากเป็นรอยยิ้มแล้วพูดหนึ่งคำด้วยความนุ่มนวลและอ่อนหวานที่สุดเท่าที่จะทำได้

"ไอ้...เหี้ย..."

ธงทัพทิ้งตัวเองลงนอนคล้ายกลั้นใจตายไปตอนนั้นเลย ผมส่ายหน้าเบาๆ ดึงผ้าห่มขึ้นคลุมให้แล้วปล่อยให้มันนอน ด้วยอาการป่วยหรือฤทธิ์ยาก็ไม่รู้ แต่ใช้เวลาไม่ถึงสิบนาที ธงทัพก็หลับไปแล้ว ผมยังคงนั่งอยู่ข้างๆ ทำอะไรไม่ได้เลย นอกจากนั่งมองอยู่เฉยๆ ในหัวใจผมกำลังอ้อนวอนต่อทุกสิ่งใดในโลกที่เคยสูญสิ้นศรัทธาไป แต่ในเวลานี้ผมอยากพึ่งพาสิ่งเหล่านั้นมากที่สุด อย่างน้อยก็เพื่อความสบายใจ ผมกำลังภาวนาให้ธงทัพหายไวๆและพรข้อเดียวที่ขอในตอนนี้ก็เพื่อคนที่นอนหลับอยู่บนเตียงนั่น

 

อย่าป่วยอีกเลยนะ...พี่ธงทัพ

 

 

 

To be continued.

 

 

เห็นหลายคนเป็นห่วงไอ้พี่หมาใหญ่ เพรราะกลัวมันตาย เลยเอาตอนสั้นๆ มาฝากเพื่อย้ำให้แน่ใจว่าพี่ธงทัพปลอดภัยดีไม่มีโรคภัยร้ายแรง สบายใจกันแล้วนะคะ หู้ไม่ใช่คนใจล้ายยยยย 555555

ออฟไลน์ anythinginitt

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 184
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
กอดน้องภูหนึ่งที กอดพี่ทัพอีกหนึ่งที

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ►Episode 1 season 2◄ - ธงทัพxภูผาxนาวี [EP.19.1] 27/9/18
« ตอบ #219 เมื่อ: 27-09-2018 17:25:59 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ tasteurr

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
น้องภูต้องพาพี่ทัพไปตรวจร่างกายเต็มรูปแบบ พาเข้าฟิตเนสแล้ว เพื่อหุ่น เอ๊ย เพื่อร่างกายที่แข็งแรง  :m23:

ออฟไลน์ MyLavenderLand

  • ฉันสุขใจ เมื่อได้ Log in เล้า
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
รชาบอกไม่ใช่คนใจล้ายยยย เราไม่เชื่ออออออ พี่ทัพโกลเด้นของเลา แย่แน่ๆ  :hao5:

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
ฮือออ โล่งใจมากค่ะนี่ลุ้นมากกลัวพี่ทัพจะเป็นอะไรหนักหนา ขอบคุณรชาที่ไม่ใจร้ายกับพี่ทัพของน้องภูนะคะ

ออฟไลน์ เนเน่

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ขอกอดราชาทีหนึงจุ๊บขมับด้วยรักมากเด้อ

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
ทำไมเราไม่เชื่ออออ พี่ทัพร้องไห้ทำไมมมม  :katai1:

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
ไม่เป็นไรมากก็ดีแล้ว

ออฟไลน์ Patsz

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
พี่ทัะไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว แต่พูดเรื่องความตายกันเนี่ย ชักจะหวั่นๆว่าเป็นคำใบ้ ว่าเรื่องนี้จะมีคนตายหรือเปล่า

ออฟไลน์ suck_love

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
ฮืออออ ธงทัพไม่ตายเราก็สบายยใจจจ

รักเต้าหู้ไข่ที่สุด

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
ธงทัพไม่ตาย

ภูผาไม่ตาย

นาวีไม่ตาย

เราจะอยู่สามคนปั๊วเมีย อิๆ

เรารู้หลายๆคนคิดเหมือนเรา

ออฟไลน์ เต้าหู้ไข่

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 192
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +279/-5
    • twitter
Episode 19.2


ปล่อยให้ความกลัว
กลายเป็นเพียงเรื่องสมมติ


 
 

วันนี้ผมไม่ได้ไปอยู่เฝ้าธงทัพที่โรงพยาบาล เพราะบริษัทผมค่อนข้างเข้มงวดเรื่องวันลา จะหยุดงานกะทันหันเพื่อไปอยู่เป็นเพื่อนมัน แบบที่มันเคยโดดงานมาอยู่กับผมไม่ได้เลยต้องปล่อยให้มันอยู่โรงบาลคนเดียวไปก่อน ได้แต่ส่งข้อความไปหาตอนเที่ยงเพื่อถามอาการ ทางนั้นยังมีแรงตอบไลน์กลับมา แถมถ่ายหน้าบวมน้ำเกลือของตัวเองแบบเต็มๆ จอส่งมาให้ดูอีกจึงวางใจได้ว่าอาการดีขึ้น

วันนี้ทั้งวันก็ยังมีงานในส่วนที่ผมต้องรับผิดชอบมายมายไม่ต่างกับวันอื่น ผมเงยหน้าขึ้นมองสิ่งรอบตัวน้อยมาก เพราะอยากให้งานเสร็จไวๆ แต่มันช่วยไม่ได้ที่จะต้องละสายตาออกจากหน้าจอคอมพ์บ้างเพราะอาการปวดตาที่เป็นๆ หายๆ อยู่ทั้งวัน   

หันมองนาฬิกาเป็นครั้งที่สองของวัน เข็มสั้นก็ชี้ไปที่เลขห้าบ่งบอกเวลาเลิกงานพอดิบพอดี ผมเผลอยิ้มกว้างจนแก้มแทบแตก

"อะไรกันน้องภู อยากเลิกงานขนาดนั้นเชียว"

"พี่ผมไม่สบายอยู่โรงบาล ต้องรีบไปหามันน่ะครับ"

"พี่เหรอ?"

"พี่...ครับ"

"พี่ชาย?"

ผมเลิกหัวคิ้วขึ้นนิดๆ แล้วพยักหน้าตอบคำถามนั่น ไม่ใช่ว่าไม่เข้าใจสายตาคั้นคะยอและรอยยิ้มที่ต้องการแซวกัน จะให้พูดว่าธงทัพเป็นอะไรถ้าไม่ใช่พี่ ถ้าไม่ใช่พี่ก็...

 

แฟนหรือเปล่านะ

 

ก็ยังคงไม่กล้าพูดคำนั้นออกไปอย่างเต็มปาก แม้เราจะข้ามขั้นของคำว่าพี่น้องจนความสัมพันธ์ชัดเจน ย่นระยะห่างทั้งกายและทางใจ เรื่องราวหยุดซับซ้อนและเข้าใจง่ายขึ้นผ่านค่ำคืนนั้นที่ลืมไม่ลง มันก็คงไม่ผิดถ้าจะใช้คำๆ นั้น แต่ธงทัพเองก็ยังไม่เคยพูดมันออกมาเลยด้วยซ้ำ เราจะประคับประคองความสัมพันธ์อันเรียบง่ายและซื่อตรงให้เป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ได้หรือไม่ได้นะ...

 

...

 

กว่าผมจะมาถึงโรงพยาบาลก็ใช้เวลานานจนฟ้าเปลี่ยนสี ความมืดที่เข้ามาแทนที่ทำให้ผมรู้ตัวว่าควรรีบกว่านี้อีกสักหน่อย แต่การรอคอยบางอย่างก็เร่งเร้าอะไรไม่ได้ อย่างเช่นตอนนี้ที่กำลังรอข้าวต้มปลาร้านโปรดของธงทัพที่ถ่อมาไกลเพื่อซื้อให้มันกิน หลังจากที่โทรมาบ่นเมื่อครู่ว่ากินข้าวของโรงพยาบาลไม่ได้เลย ความออดอ้อนแปรผันตามอาการป่วยจนไม่อยากจะขัดใจ ผมเลยต้องดันทุรังฝ่ารถติดมาซื้อข้าวต้มปลาไกลคนละฟากจากโรงพยาบาล แล้วย้อนกลับไปหามันตอนเข็มนาฬิกาขยับไปเป็นเวลาเกือบทุ่ม 

เมื่อผมเปิดประตูเข้าไปในห้องพักผู้ป่วย คนที่หันมาทักผมก่อนก็คือปอ ที่ธงทัพมันบอกตั้งแต่ตอนโทรหาแล้วว่าอยู่ด้วยกัน

"พี่ภูมาแล้ว!"

"รถติดอะ เลยมาช้าหน่อย โทษที"

"ผมกลับเลยนะ"

"เฮ้ย กินข้าวด้วยกันก่อนดิ"

"ไม่เป็นไรครับ จริงๆ ผมไปรับบรีฟงานลูกค้าแทนพี่ทัพมา เลยเอางานมาให้ดูเฉยๆ ตั้งใจจะกลับตั้งนานแล้วแหละ แต่เห็นว่าพี่เขาอยู่คนเดียวเลยอยู่คุยเป็นเพื่อนก่อน"

"อยู่คุยเป็นเพื่อนเหรอ แหม! กูป่วยจะตายห่ายังหาเรื่องเอางานมายัดใส่สมองอีก บอกหัวหน้ามึงเลย กูลาพักร้อนสักครึ่งเดือนได้ไหม"

"โธ่พี่ จริงๆ ผมก็อยากทำแทนพี่แหละ แต่ฝีมือข้าน้อยยังอ่อนนัก แล้วลูกค้าเขาก็รีเควสพี่ด้วยไง เพราะทั้งบริษัทไม่มีใครเก่งเกินพี่อีกแล้ว นี่พูดจริง!"

"มึงไม่ต้องสรรเสริญกูเพื่อใช้งานกูเลย"

"แหะๆ งั้นผมกลับเลยนะ วันนี้ไม่มีงานค้าง อยากนอนเร็วๆ บ้าง"

"งั้นเอาไปกินที่บ้านด้วยดิ พี่ซื้อมาเผื่อแล้วอะ ไม่งั้นคงไม่มีใครกิน"

"ก็ได้ฮะ ขอบคุณมากนะครับ กำลังคิดอยู่เลยว่าเย็นนี้จะกินอะไรดี" ปอยกมือไหว้ผมก่อนจะรับข้าวต้มปลาที่ยื่นให้ไปอย่างนอบน้อม  ก่อนหอบเอาทั้งงานและกระเป๋าเดินออกไปจากห้อง แต่เสียงของธงทัพเรียกเด็กนั่นเอาไว้ก่อน

"ปอๆ"

"ครับ?"

"เอาไปกินดิ" ธงทัพว่าพลางหยิบนมแลคตาซอยแพ็กหนึ่งที่เดาว่ามีคนเอามาเยี่ยมส่งมันให้ปอ

"พี่เก็บไว้กินเหอะ คนเขาเอามาเยี่ยมพี่นะ"

"มึงเอาไปเหอะ มึงชอบไม่ใช่เหรอ"

"เกรงใจจัง แต่ก็ขอบคุณครับ ผมคงจะอิ่มไปสามวัน" หยิบเอานมแพ็คนั่นไปกอดไว้ในมือรวมกับข้าวของชิ้นอื่นอย่างพะรุงพะรัง เพราะมือไม่ว่างเลยก้มหัวสองสามทีเป็นเชิงบอกลาแล้วออกไปจากห้อง

"น่ารักดีนะ เด็กคนนี้"

"อะไรนะ"

"ปอไง นิสัยดี"

"เด็กเอ๋อล่ะสิไม่ว่า"

"แล้วเกิดอะไรขึ้นกับหัวมึง" ผมถามเพราะเห็นคลิปหนีบผ้าหนีบอยู่ที่ผมหน้าเพื่อเปิดหน้าผากไม่ให้ผมปรกลงมา

"ไอ้ปออะดิ มันบอกรำคาญผมหน้ากูเลยเอาที่หนีบผ้ามาติด นี่ก็เพิ่งตัดผมนะ แต่มันยาวอีกแล้วอะ" ประโยคหลังคล้ายบ่นพึมพำกับตัวเองพลางถอดคลิปนั่นออกด้วยใบหน้ายุ่งๆ ส่วนผมเดินไปหาชามมาเทข้าวต้ม มีความคิดหนึ่งที่ไม่ได้ไม่พอใจหรือหงุดหงิดอะไร แต่อยากถามเฉยๆ จึงเอ่ยออกไป

"ปกติไม่ชอบให้ใครเล่นหัวไม่ใช่เหรอ"

ธงทัพวางคลิปนั่นลงบนโต๊ะหัวเตียงแล้วหันมองผมพลางเลิกคิ้วขึ้นด้วยสีหน้างงๆ

"หึงเหรอ"

"นั่นสิ"

ผมต้องถามตัวเองเหมือนกันแหละว่ามันคืออะไรกัน...ไอ้ความรู้สึกแบบนี้ ไม่ทันไร ก็งี่เง่าเอาเรื่องแล้วเหรอภูผา

"จะหึงทำไม กับไอ้ปอเนี่ยนะ"

"ไม่อยากให้มึงใจดีกับใคร เห็นแก่ตัวเนอะ"

"กูใจดีกับทุกคนแหละ แต่รักมึงคนเดียวนะ"

ผมชะงักมือที่กำลังเทข้าวต้มนั่นแล้วหันขวับไปมองคนบนเตียง

"อะ...อะไรของมึง..."

"หิวอะ โคตรหิวเลย"

กลายเป็นผมที่มือสั่นทำอะไรผิดๆ ถูกๆ รวบสติ เทข้าวต้มใส่ชามแล้วยกไปให้มัน แต่ด้วยอาการป่วยที่ยังไม่หายดี ผมรู้ว่ามันทรมานที่จะฝืนกินข้าวสักคำ ไม่ใช่ว่าอาหารของโรงพยาบาลไม่อร่อยหรอก แต่จังหวะนี้ต่อให้ไปเอาบุฟเฟต์ทะเลเผาของโปรดของมันมาปิ้งให้กินตรงนี้มันก็คงกินไม่ลง

"เจ็บคอเหรอ"

"อือ"

"ต้องกินหน่อย จะได้กินยา"

ผมบังคับให้ธงทัพฝืนกินอีกสองสามคำ ก่อนจะตามด้วยยาเม็ดที่มันเกลียดยิ่งกว่าอะไรดี ตอนนี้กลายเป็นมันนั่นแหละ ที่เหมือนเด็กน้อยน่าสงสาร มีน้ำตาคลอบ่งบอกว่าอยากจะร้องไห้เต็มทน แต่ความขี้เก๊กก็ทำให้ต้องกล้ำกลืนฝืนกินยานั่นลงคอไป ไม่ถึงสองนาทีอาการพะอืดพะอมก็ออกฤทธิ์ให้เห็น

"ภูผา...กูจะอ้วก"

"จะอ้วก?"

มันพยักหน้ารับ ก่อนที่ผมจะก้าวเท้าเข้าไปหา ตัวมันก็วิ่งตัวปลิวจนเข็มน้ำเกลือหลุดแล้วพุ่งเข้าห้องน้ำ สำรอกของเหลวออกจากมาหมดทั้งข้าวทั้งยา ผมละทุกอย่างในมือทิ้งแล้วตามมันเข้าไปในห้องน้ำ ยกมือลูบหลังเบาๆ เพียงเพราะมองเห็นความทรมานของอีกคนด้วยความสงสาร...หัวใจผมก็อยู่ไม่เป็นสุขเลย

"โอเคขึ้นไหม"

มันพยักหน้ารับแล้วยันตัวเองขึ้นมาอย่างคนหมดเรี่ยวหมดแรง

"ล้างหน้าก่อน"

"กูทำเองได้"

"กูทำให้! มึงอะคนป่วย ทำหน้าที่คนป่วยของมึงให้ดี ที่เหลือกูจัดการเอง เข้าใจไหม!" ต้องโดนผมดุจนได้ มันถึงยอมให้ผมเป็นคนจัดการทำความสะอาดให้ ก่อนพามันกลับไปนั่งที่เตียง ใช้ทิชชูซับเลือดที่หลังมือจากรอยเข็มที่หลุดไปเพื่อรอให้พยาบาลมาจัดการให้ใหม่ เมื่อเห็นว่าเสื้อเปียกไปฝั่งหนึ่งผมก็ยื่นมือไปถอดออกให้ ไม่มีการขัดขืนอะไรแล้วเพราะมันน่าจะทำอะไรด้วยตัวเองไม่ไหวแล้วจริงๆ

ยอมให้ผมถอดเสื้อออก แต่ก่อนที่จะสวมตัวใหม่เข้าไป ผมเผลอวางสายตาอยู่ที่รอยสักบนอกข้างซ้ายของมันอยู่ครู่หนึ่ง ตัวมันเองก็ก้มลงมองตามไปด้วย

"ภูเขา ต้องให้บอกอีกกี่ครั้งว่าเป็นรูปภูเขา"

"ทำไมต้องภูเขา"

"จะให้บอกว่าภูผาไหมล่ะ"

ผมเงียบ กำเสื้อตัวใหม่ที่กำลังจะใส่ให้จนเป็นรอยยับ

"หูแดงเลย"

"ใคร!"

"มึง"

ผมไม่เถียงพลางยกมือปิดหูตัวเอง ส่ายหน้าเรียกสติ แล้วสวมเสื้อให้มันอย่างรวดเร็ว พูดให้ถูกคือ แค่สวมให้ลวกๆ ที่เหลือให้มันจัดการต่อเอง ธงทัพไม่ยอมผูกเชือกที่เสื้อเส้นสุดท้าย แล้วยกมือลูบรอยสักตัวเองอีกครั้ง

"กูรู้อยู่แล้วว่าวันหนึ่งต้องได้มึงมาเป็นแฟน"

"..."

"เลยสักรูปภูผาเอาไว้ตรงนี้"

"..."

"ตรงหัวใจเลย"

เม้มริมฝีปากกลั้นรอยยิ้มสุดชีวิตแล้ว แต่ฝืนไม่ไหวกลายเป็นยิ้มกว้าง ผมได้ยินคำว่าแฟนหลุดออกจากปากธงทัพเป็นครั้งแรก...ธงทัพแกล้งผม แกล้งให้หน้าผมร้อนผ่าวเดาว่าแดงกล่ำไปถึงหูด้วยคำพูดพวกนั้น

เขิน...ที่กำลังเป็นอยู่นี่คงเรียกว่าอย่างนั้น จากคนที่ยิ้มไม่เก่งอย่างผม กลับหุบยิ้มไม่ลงเพราะอาการเขินระยะรุนแรง ธงทัพมีผลต่อหัวใจมากมายขนาดที่ผมอธิบายไม่ได้เลย...ไอ้หมาบ้า

"ยิ้มใหญ่เลยนะ" ได้ทีแซวใหญ่ ซ้ำยังยกมือขึ้นบิดแก้มพองๆ ของผมอย่างดูชอบใจ

 

"ครืด..."

 

เสียงประตูห้องเลื่อนเปิดออก ทั้งผมและธงทัพหันมองคนที่เดินเข้ามา สองมือของธงทัพรีบชักออกจากแก้มของผม ตัวผมเองก็ถอยหลังไปอีกทางด้วยความตกใจเล็กน้อย ผมยกมือขึ้นไหว้ทักทายในจังหวะเดียวกับที่ธงทัพเอ่ยเรียกคนที่ก้าวเท้าเข้ามา

"พ่อ"

"อืม" ตอบรับธงทัพแล้วหันมาพยักหน้ารับไหว้ผม

"พ่อมาทำไม"

"ก็มาดูหน่อยว่าจะตายหรือยัง"

"กลับไปเลยพ่อ"

ลุงวุธหัวเราะในลำคอเบาๆ ก่อนผมจะเลื่อนเก้าอี้ข้างเตียงให้เขานั่ง

"แล้วพ่อรู้ได้ยังไง"

"แม่แกโทรบอกน่ะสิ แต่แม่ไม่ว่างเลยให้พ่อมาดูแทน"

"ก็ไม่ได้เป็นอะไรมากซะหน่อย แม่ก็ชอบทำให้เป็นเรื่องใหญ่"

ความรู้สึกของคนไม่จำเป็นก็เกิดขึ้นในตอนนี้ ผมก็อยากจะกลายร่างตัวเองให้กลายเป็นอากาศชั่วคราวแต่ทำไม่ได้ วิธีเดียวที่จะหายไปจากตรงนี้คือการใช้สองขาก้าวออกมาจากประตู ไม่ลืมที่จะเอ่ยปากบอกเบาๆ ให้ลอยไปเข้าหูใครก็ได้

"ภูไปรอข้างนอกนะ"

จะพูดตรงๆ อย่างไม่อ้อมค้อม ถ้าให้ผมยืนอยู่ด้วยตรงนั้น ผมอึดอัดจนไม่มีตัวตน สมการของความสัมพันธ์ระหว่างผมกับลุงวุธมันควรสิ้นสุดลงตั้งแต่วันที่แม่ตายไป เพียงแต่ว่าหลังจากที่แม่ตาย ลุงวุธเสนอตัวรับผิดชอบเลี้ยงดูผม และตัวผมในตอนนั้นผมหมดหนทาง เคว้งคว้าง ไม่มีที่ไป ลุงวุธก็เอื้อมมือที่แข็งแกร่งดูพึ่งพาได้เข้ามาช่วยเหลือ ผมจึงไว้ใจลุงวุธยิ่งกว่าใคร อีกทั้งลุงวุธไม่ได้รักกับใครใหม่อีกเลยตั้งแต่แม่ตายไป หรือบางทีอาจเพราะมีเรื่องงานที่ยุ่งวุ่นวายให้ทำ จึงจำเป็นต้องตัดเรื่องที่ไม่ได้สำคัญกับชีวิตออกไปบ้าง ผมจึงไม่รู้จริงๆ ว่าลุงวุธจะลืมหรือว่ายังรักแม่ของผมอยู่

เรื่องราวคล้ายว่าจะเรียบง่ายอย่างที่ผมอยากให้มันเป็นแบบนั้นอยู่เสมอ แต่ไม่นานหลังจากนั้น ผมกลับกลายเป็นสิ่งหนึ่งซึ่งไม่จำเป็นที่ลุงวุธเรียกผมว่า...คนอื่น มันคงมีสักเหตุผลที่ทำให้ลุงวุธไม่เอ็นดูผมเหมือนเก่า...สักเหตุผลหนึ่งแหละ

และในทุกครั้งที่ต้องเจอหน้ากัน มันจะมีความรู้สึกบางอย่างที่ทำให้ผมต้องผลักตัวเองออกมาไกลๆ แต่ชีวิตก็ไม่ได้โหดร้ายขนาดนั้นหรอก ผมยังมีป้าอรที่เอ็นดูผมไม่เปลี่ยน ป้าอรเอาใจผมมากกว่าธงทัพซะอีก ผมรักป้าอรเหมือนแม่ แต่ถึงอย่างไร...ป้าอรก็ไม่ใช่แม่ของผม

จากชั้นเจ็ดของตึกโรงพยาบาลผ่านหน้าต่างกระจกใส ผมมองเห็นความวุ่นวายของรถบนถนนที่ยังแออัดและค่อยๆ เคลื่อนไปข้างหน้าได้ทีละนิด ทีละหน่อย แต่เมื่อเลื่อนสายตาขึ้นมองบนฟ้ามืด บนนั้นสงบเงียบแม้เพิ่งผ่านพ้นชั่วโมงฝนตกไปเมื่อครู่ ผมปล่อยตัวเองเหม่อลอยมองดูความมืดมิดอยู่ครู่หนึ่งอย่างเงียบงัน เสียงในใจผมพลันเอ่ยแทรกความเงียบอย่างควบคุมไม่ได้

 

ภูคิดถึงแม่นะ...

 

 

ไม่ทันได้สนใจดูนาฬิกาแต่ด้วยความรู้สึกก็รู้ว่านานเป็นพักใหญ่ ก่อนที่ลุงวุธจะเดินออกมาจากห้อง ผมทำได้แค่ยิ้มรับ ลุงวุธเปิดบทสนทนาก่อน ผมรู้...ตามมารยาท

"สบายดีนะภู"

"สบายดีครับ"

"ฝากดูแลทัพด้วยล่ะ"

"ครับ"



แสนสั้น...มากที่สุดเท่าที่เราจะทำได้



ผมยิ้มให้ลุงวุธอีกครั้งก่อนที่เขาจะเดินออกไป ผมจึงกลับเข้าไปหาธงทัพ อย่างที่บอกว่าผมไม่มีอะไรปิดบังธงทัพ ผมบอกให้มันฟังทุกเรื่อง กระทั่งความรู้สึกที่มีต่อลุงวุธ แม้รู้ดีว่ามันเป็นเรื่องที่จะทำให้ธงทัพลำบากใจเพราะนั่นคือพ่อของมัน แต่ทั้งชีวิตผมก็มีมันอยู่คนเดียว ผมก็พูดให้มันฟังได้แค่คนเดียว และไม่ว่าผมจะบ่นอะไรออกไป ก็มักจะตั้งใจฟังอยู่เสมอ แต่สำหรับเรื่องนี้ ธงทัพไม่มีคำปลอบโยน ไม่มีการเข้าข้าง ไม่บอกแนวทางแก้ปัญหา แต่ก็ไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกแย่ ด้วยการตอบกลับซ้ำๆ ที่ได้ยินจนจำได้ขึ้นใจ

 

มึงมีกู...กูอยู่นี่...กลัวอะไร

 

ธงทัพก็เป็นแบบนี้แหละ

ผมฝืนยิ้มเล็กน้อยแล้วนั่งลงที่เก้าอี้ข้างเตียง พลันสายตามองไปเห็นกุญแจรถวางอยู่บนโต๊ะ

"ของลุงวุธนี่"

"สงสัยพ่อลืมว่ะ"

ผมพยักหน้ารับพลางคว้ากุญแจรถนั่นแล้วก้าวเท้าวิ่งให้เร็วที่สุดเพื่อตามลุงวุธให้ทัน โชคดีที่เขายังยืนรอลิฟต์อยู่ไม่ไกลจากตรงนั้น การวิ่งระยะสั้นไม่ได้ทำให้ผมเหนื่อยหอบ เลยยังสามารถสื่อสารกับลุงวุธได้ไม่ติดขัด

"ลุงวุธ ลุงลืมกุญแจรถครับ"

"ใครว่าลืม"

"ครับ?"

"เอาไว้ให้ธงทัพใช้"

"ครับ?"

ผมพูดซ้ำ ดังกว่าเดิมอีกนิด

"ก็อย่างที่พูดนั่นไง เอาไว้ให้ธงทัพใช้ จอดอยู่ที่ลานชั้นสาม ธงทัพมันรู้ว่าคันไหน"

ผมกระพริบตาปริบ ก่อนลิฟต์เปิดแล้วลุงวุธก็เดินเข้าลิฟต์ไป ด้วยสัญชาตญาณผมยกมือไหว้เป็นเชิงบอกลาก่อนประตูลิฟต์ปิด หันหลังกลับไปหาธงทัพทั้งที่ยังงงๆ อยู่ ไม่ใช่ว่าอะไร...ผมแค่ห่วงว่า ลุงวุธจะกลับชลบุรียังไง นี่ก็มืดแล้วนะ

"ทันพ่อป่ะ"

ผมพยักหน้าตอบธงทัพ แต่ยื่นกุญแจรถให้มัน หัวคิ้วของอีกคนขมวดเข้าหากัน ก่อนธงทัพจะถามอะไร ผมก็บอกออกไปก่อน

"ลุงวุธบอกว่า เอาไว้ให้มึงใช้"

"ฮะ!" แม้เจ็บคอจนเสียงแห้งหายแต่ธงทัพก็ร้องออกมาดังลั่นอย่างตกใจ

"ลุงวุธบอกอย่างนั้น"

"..."

"จอดอยู่ที่ชั้นสาม เขาบอกว่ามึงรู้ว่าคันไหน"

ทั้งธงทัพและผมก้มมองกุญแจรถสีดำด้านมีโลโก้ยี่ห้อสีเงินอยู่ตรงกลาง คนที่กำลังถือกุญแจนั่นอยู่เอียงคอมอง สีหน้าดูไม่คลายความสงสัย

"ของจริงป่ะวะ"

ผมหลุดหัวเราะ ตอนที่ธงทัพก็ขำออกมาพร้อมกัน เอ่ยเสียงแหบร้องอย่างดีใจ

"เย้! ถ้ารู้ว่าป่วยแล้วได้เบนซ์ใช้ รู้งี้กูจะก่อเซลล์มะเร็งตั้งแต่ม.หกละ"

"ไอ้บ้า!" ผมเผลอด่าไม่พอแถมตบปากไปอีกทีหนึ่งด้วย

"ล้อเล่นๆ"

"ทำไมลุงวุธใจดีจัง"

"นั่นดิ แปลกๆ แอบมีเมียน้อยอีกป่ะเนี่ย"

ผมเงียบ ธงทัพเงียบ เมื่อรู้ตัวว่าพูดไม่คิดอีกแล้วก็ยกมือตบปากตัวเอง

"ขอโทษ"

"ไม่ได้ว่าอะไรซะหน่อย" ผมพูดปัดๆ ลุงวุธจะมีเมียใหม่ก็ไม่แปลก ลุงวุธกับป้าอรแยกกันอยู่มาตั้งหลายปี แม่ผมก็ตายไปตั้งนาน มันก็คงมีสักวันที่ลุงวุธอาจจะเหงาบ้าง แต่ถือว่ามันไม่ใช่เรื่องของผมก็แล้วกัน 

"พี่ธงทัพ ถามอะไรหน่อยดิ"

"เรียกกูแบบนี้ทีไร เหมือนไข้กูจะขึ้นสูงเลยนะเนี่ย เสียงเครียดมาเชียว"

"เออ! ขอถามอะไรหน่อย"

"อะไร"

ธงทัพหันหน้ารับฟังอย่างตั้งใจ แต่กลายเป็นผมที่พูดติดๆ ขัดๆ ทั้งกล้าทั้งกลัวแต่ก็อยากจะพูดมันออกไป

"ถ้าสมมติ...."

"..."

"แค่สมมติ..."

"..."

"สมมติว่าลุงวุธไม่ชอบกู..."

"..."

"หมายถึงว่าถ้าลุงวุธไม่ชอบเรา ไม่ชอบเรื่องของเรา ไม่ชอบที่เราเป็นแบบนี้..."

"..."

"เราจะทำยังไงกันดี"

"..."

"แต่ว่า...แค่สมมตินะ"

เหมือนผมจะพูดวกไปวนมา ไม่รู้ว่าคำถามของผมมันชัดเจนพอที่ธงทัพจะเข้าใจหรือเปล่า แต่เพราะธงทัพเป็นคนฉลาดจึงเข้าใจอะไรได้ไม่ยากเย็น มือข้างหนึ่งขยับมาจับมือผมเบาๆ นิ้วโป้งลูบฝ่ามือช้าๆ เนิ่นนานไม่มีคำพูด ผมก้มหน้าเงียบ และเงยขึ้นในตอนที่ธงทัพเอ่ยบางคำ

"ไม่เป็นไร แค่เรื่องสมมติ"

"..."

"แล้วกูก็อยู่นี่ทั้งคน"

 

 

"ให้มันเป็นแค่เรื่องสมมติเถอะ"

 

คล้ายภาพความทรงจำทับซ้อน ผมได้ยินประโยคนั้นจากแปดปีก่อนลอยเข้ามาในหัว ความทรงจำเลวร้ายกระแทกเข้าที่อกข้างซ้ายจนเจ็บแปลบ เรื่องของผมกับนาวีพุ่งเข้ามาย้ำเตือนว่าเรื่องสมมตินั้นมันควบคุมไม่ได้ เรื่องสมมติมักเป็นสิ่งที่เรากลัว และหากว่าเราโชคร้าย...

 

เรื่องสมมติก็มักจะกลายเป็นเรื่องจริงอยู่เสมอ


 

To be continued.

 



**แจ้งยื่นใบลา เจอกันอีกทีประมาณกลางเดือนหน้านะคะ แต่ไม่หายไปสองสามเดือนเหมือนแต่ก่อนแล้ว สัญญา 555555 อีกไม่กี่ตอนก็จบแล้ว เอาใจช่วยด้วยนะคะ ด่ากันได้ แรงๆ ก็ได้ ทำใจแล้ววววว***

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ►Episode 1 season 2◄ - ธงทัพxภูผาxนาวี [EP.19.2] 29/9/18
« ตอบ #229 เมื่อ: 29-09-2018 18:15:54 »





ออฟไลน์ เนเน่

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
อยากกอดพวกเค้าทั้งสองให้แน่นที่สุดและขอให้ผ่านเรื่องทุกข์ใจอย่าให้ทั้งสองต้องเจ็บปวดอีกเลย

ออฟไลน์ anythinginitt

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 184
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
แง้งงงงงง หย่อนระเบิดไว้แล้วเธอก็ปายยย อ่านไประแวงไป ไว้ใจไม่ด้ายเลยยยย

ออฟไลน์ bradpitt

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 257
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
ฮืออออ. ละมุนใจ

ถ้าจะ หวานขนาดนี้. อยากให้พี่ธงทัพ นอน รพ สัก ครึ่งเดือน เลย

มีรอยสัก แทน ภูผา ไว้ตรงหัวใจ  :กอด1:


ว่า แต่. ที่ ภูคิด. เป็นเรืองสมมติ ใช่ไหม.  คุณพ่อ คงไม่มากีดกัน. ดราม่า หรอกนะ  :mew2:
__

ออฟไลน์ suck_love

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
ไม่อาววววววววววววสสสว ประวัติศาสตรืจะต้องไม่ซ้ำรอยยย
 :katai1:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
พี่ธงทัพ  น้องภูผา   :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ว่าแต่นาวี คงงงมากๆที่อยู่ภูผาก็วิ่งพรวดพราดออกไปเลย  o22 :really2: :really2:
นาวี จะเข้ามาในชีวิตภูผายังไงนะ  :hao3:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
 :pig4:

ออฟไลน์ MyLavenderLand

  • ฉันสุขใจ เมื่อได้ Log in เล้า
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
เดี๋ยวววววววว รชาาาาา กลับมาก๊อนนนนนนน พอสไว้ตอนหัวเลี้ยวหัวต่อแบบนี้ไม่ด๊ายยยย  :ling3:   :sad4:

พี่ทัพพูดมะเร็งทำไม!  ตบปากตัวเองเท่าอายุเดี๋ยวนี้เลย! บ้าบอ คนยิ่งคิดๆอยู่ด้วย

ออฟไลน์ Patsz

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
อะไรเนี่ย ทำไมชอบพูดเป็นลาง มะเร็งอย่างงี้ เรื่องสมสติงี้ กลัวนะเนี่ย

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
เมื่อก่อนภูผาก็ไม่ชอบลุงวุธที่เข้ามายุ่งกับแม่ตัวเอง ทีนี้ภูผาไปยุ่งกะลูกชายลุงมั่ง หายกัน

ออฟไลน์ tasteurr

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
ต่อไปความใจดีของพี่ทัพจะทำร้ายใครไหม  :z3:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด