#ชอกะเชร์คู่กันต์
ตอนที่ 16
พี่ชายที่เลี้ยงดูน้องด้วยลำแข้ง
“พี่ธีร์”
“ว่า”
คนพี่ยกกาแฟดื่มพลางมองไอ้เด็กลูกครึ่งที่เพิ่งเปิดปากพูดเป็นครั้งแรกตั้งแต่มาถึงห้องเขา แม่งเล่นนั่งเหม่อเหมือนคนเมากาว ขนาดขยี้ถามแล้วยังไม่ตอบ เป็นห่าไรมาอีกล่ะ ทะเลาะกับเจ้านายหรือว่าทำเหรียญหล่นหายจากปาก
“ไอ้โซ่เคยเอาแหนมสีกับซอกขามึงไหม?”
พรวดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด “ถามเชี่ยไรของมึงเนี่ย?”
“ช่วยบอกกูทีว่าไอ้โซ่ก็ทำ!!! บอกกูสิพี่!!! พูดออกมา!!!!” ธีร์ตาเหลือกมองไอ้น้องเวรที่อยู่ ๆ ก็เขย่าแขนเขารัว ๆ พร้อมร้องไห้น้ำตาแห้ง
“เดี๋ยวนะ” ร่างของคนพี่ยังคงสั่นคลอนไปตามแรงเขย่า พี่ธีร์ขมวดคิ้วครุ่นคิดแค่เพียงครู่เดียวก่อนจะหรี่ตามองเขาพลางยิ้มอย่างมีเลศนัย “อย่าบอกว่า...”
“...”
“เจ้านายไอ้แจ็คมัน...”
“...”
“เชี่ย!” คนห่าไรสบถออกมาทั้งที่ยังยิ้มอยู่ แหลมหยุดเขย่า เขามองสีหน้าร้าย ๆ ที่เริ่มจะเบ่งบานราวกับว่าเสียงหัวเราะระดับเสียงลำโพงงานหมอลำกำลังจะกึกก้องไปทั่วหลักสี่
“มึงห้ามขำนะพี่ธีร์ มึง พี่ธีร์ มึงต้องมีสติ ไอ้เหี้ยฟังกูหน่อย!!!!” พูดไปเคยฟังที่ไหน ไอ้พี่ชั่วค่อย ๆ เพิ่มเลเวลหัวเราะเหมือนจะขาดใจตาย เด็กลูกครึ่งจึงกระหน่ำต่อยแขนไม่ยั้ง
“5555555555555555555555555555555555555555555555555555555”
โว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
“ไหนมึงบอกว่าเขาเป็นเมีย?! 5555555555555555555555555555”
“ทำไมอะ ไอ้โซ่ไม่เคยทำแบบนี้เหรอ มันต้องเคยดิวะ!!!”
“เคยก็แย่ละ สิ่งที่กูเห็นมาตลอดคือเอาหน้าซุกหมอนกับดึงผ้าห่มขึ้นปิดถึงจมูกแล้วก็ทำตาแป๋วแบบนี้” ไอ้คนเลวแกล้งนั่งห่อไหล่กำสองมือปิดริมฝีปากพร้อมทำตาปริบ ๆ เป็นท่าประกอบ ลับหลังแฟนนี่เก่งจั๊ง
“ไอ้โซ่ไม่ทำ แต่คนอื่นอาจจะทำก็ได้”
“แหลม มึงฟังกู” ธีร์วางมือลงบนบ่าน้องชายที่กลับเข้าโหมดเหม่อมองอย่างคนไร้วิญญาณอีกครั้ง “มึงน่ะรู้อยู่แก่ใจ อย่าหลอกตัวเองไปเลยน่า”
“หลอกเชี่ยไรล่ะ ก็มึงไม่ใช่เหรอที่บอกกูซะดิบดีว่าต้องทำอะไรบ้างอะ?”
“ก็ใช่ไง?” คนพี่เลิกคิ้วมอง “แต่คนที่เล่าสถานการณ์ให้เข้าใจแบบนั้นก็คือมึงน้า”
“ใช่ ก็บอสทำเหมือนว่าอยากได้กูเป็นผัวมาตลอดอะ แล้วอยู่ดี ๆ ก็ทำแบบนั้นกับกูเฉย ทั้งช็อกทั้งสับสน แต่ก็ยังพยายามคิดแง่ดีว่าถ้าเขาจะเป็นผัวจริงก็คงใส่เข้ามาแล้วปะ?”
“หมายถึงเมื่อคืนหรือตลอดเวลาที่ผ่านมาล่ะ?” คนเชี่ยวชาญกำลังลูบคางคิดวิเคราะห์ ก็งงอยู่ว่าทำไมเจ้านายไอ้แจ็คถึงอยากเป็นเมียไอ้เด็กกะโหลกนี่ แต่เขาก็เป็นคนดีเกินกว่าจะไม่เชื่อน้องนุ่ง
“ก็ตลอด”
“มึงก็เลยคิดว่าเขาน่าจะเป็นเมียสินะ”
“ใช่ ก็เล่นมานอนให้ลูบหัว ไหนจะนอนซบอกกูอีกอะ ถามหน่อยว่าผัวที่ไหนทำ”
“กูไงทำ เวลาอยากอ้อนตีนก็ทำแบบนั้นแหละแล้วน้องก็ชอบตอนกูเป็นน้องธีร์มากด้วย ได้แอ้มตอนจบด้วยนะบอกไว้เผื่อไม่รู้” ประโยคหลังป้องปากกระซิบเหมือนกลัวว่าเด็กเด๋อจะผ่านมาได้ยิน
“แต่พูดก็พูดเถอะ เจอแบบกูเป็นใครก็ต้องคิดปะ?” แหลมพยายามแก้ต่างให้ตัวเอง จนถึงตอนนี้ยังช็อกอยู่เลยถ้าบอสจะไม่ใช่อย่างที่คิด
“มึงไม่คิดว่านั่นเป็นแผนเขาเหรอวะ?”
“ไม่อะ ถึงเขาจะดูเป็นคนแผนสูง แต่เวลาอยู่กับกูก็อ้อนจ้น”
“มึงไปอยู่โลกไหนมาถึงคิดว่าคนจะเป็นผัวอ้อนไม่ได้” เด็กเอ๋ยเด็กน้อย เจ้ายังอ่อนด๋อยนัก “ก็ถ้าอยู่ ๆ เขาจับผีเปรตแบบมึงกดกับเตียงแล้วบอกว่า ‘วันนี้ผมจะยัดเยียดความเป็นผัวให้คุณ’ มึงคิดว่ามึงจะยอมไหมล่ะไอ้ฉิบหาย”
สตันท์เลยดอกนี้ แหลมนั่งนิ่งสบตากับรุ่นพี่ที่พยักหน้าย้ำบอกให้รู้ว่าทั้งหมดที่ว่ามามันมีความเป็นไปได้สูงกว่าเมียอยากหาทางปลดปล่อยจึงเอาแหนมมาสีซอกขาเขา
“บอสร้ายขนาดนั้นเลยเหรอวะ?”
“ย้อนเวลากลับไปถามตัวเองตอนเพิ่งฝึกงานดิ”
“พ่องพี่ธีร์ กูมาให้มึงช่วยนะไม่ได้ขอให้ซ้ำเติมอะ”
“อู้ยยยยยยยยยย อยากให้มึงเห็นหน้าตัวเองตอนนี้มาก ‘พ่องพี่ธีร์! แอ้ะ ๆๆๆๆๆๆ’ – โอ๊ยยยยยยยย 555555555555555555555555555555555”
สุดจะทนแล้วโว้ยยยยยยยย!!! แหลมลุกขึ้นยืนเข่า ต่อยไอ้พี่ชั่วรัว ๆ โดยไม่สนว่าหมัดตนเองจะหนักจนทำให้อีกคนเจ็บแค่ไหน พี่ธีร์เอนตัวลงไปนอนกับโซฟา หดตัวเป็นกุ้งพลางยกมือขึ้นปกป้องตัวเองแต่ก็ไม่ได้ผล เขายังคงกระหน่ำซัด และมันก็ยังขำเหมือนจะขาดใจตาย
*
แหลมยังคงคิดไม่ตกกับเรื่องนั้น เอาเข้าจริงก็ยังไม่อยากปักใจเชื่อร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าที่เห็นทั้งหมดบอสก็แค่หลอกล่อให้ตายใจ เวรเน้ยยยยยยยยย ที่เธอเห็นแค่ฝุ่นมันเข๋าต๋า
แต่ถ้าพูดให้ดีหน่อยก็คงเรียกว่าทำให้เด็กคนนี้ซึมซับการสัมผัสผู้ชายไปทีละนิดก็คงได้มั้ง อันนี้แบบมองบอสในแง่ดีสุด ๆ เลยนะเว้ย แบบว่าสร้างความเคยชินให้จนเขาไม่รู้สึกแปลกซึ่งมันก็ได้ผลดีเลยอะ
เพราะที่พี่ธีร์พูดก็ถูกทั้งหมดเลย เพราะถ้าอยู่ ๆ ถูกบอสจับกดกับเตียงแล้วทำเรื่องอย่างว่ามันคงมีคนตกใจหนีเตลิดเปิดเปิงกลับเมืองเอกแน่นอน แต่พอปล่อยให้เด็กกะโหลกคนนี้คิดว่าตัวเองต้องเป็นฝ่ายรุก ความกล้ามันก็นำหน้ามา จนทุกวันนี้ไม่รู้สึกแปลกกับการจูบ กอด หรือสัมผัสกันอย่างลึกซึ้งแล้ว
เวรเอ๊ย... คดีจะพลิกอีกไหมเนี่ย ถ้าสรุปว่าบอสมีรสนิยมชอบสีซอกขาจริง ๆ แล้วพอลงสนามก็กลายเป็นเมียอย่างที่คิดไว้แต่แรกก็จะเป็นหนังอีกม้วนเลยนะทีนี้
กันต์กวินทร์: จะแข่งแล้วใช่ไหม?
กันต์กวินทร์: กินข้าวให้เรียบร้อยก่อนนะครับ กองทัพต้องเดินด้วยท้อง ส่วนความคิดถึงของผมน่ะเดินทางด้วยใจ (พิมพ์ถึงตรงนี้ก็ขำตัวเองแล้วล่ะครับ ฮ่า ๆ)
ไม่รู้ว่าต้องร้องไห้กับอะไรก่อนระหว่างดีใจที่บอสทักมาตอนนี้หรือมุกเสี่ยวซึ่งคงมีแต่วัวตัวผู้เป็นไส้เลื่อนเท่านั้นที่จะเขินให้
บุตรแห่งวันเพ็ญ: T_T
กันต์กวินทร์: เป็นอะไรครับ กังวลเหรอ?
กันต์กวินทร์: คุณมีทีมที่ดี อีกอย่างคุณเองก็ฝีมือดีไม่แพ้ใครเลย รู้ไหมครับ?
กันต์กวินทร์: Don’t push yourself too hard okay?
บุตรแห่งวันเพ็ญ: มันไม่ใช่เรื่องนั้น
กันต์กวินทร์: อยากเล่าให้ผมฟังไหม? ตอนนี้ผมว่างอยู่นะ (:
เหมือนหัวใจบางเป็นกระดาษ เพราะความใส่ใจที่ทำให้นึกถึงเมื่อตอนนั้น ตอนที่บอสเอาแต่จะฟังเสียงเขาท่าเดียวโดยไม่สนใจว่าเด็กคนนี้จะเจอเรื่องน่าหงุดหงิดอะไรมาบ้าง แถมผู้ชายคนนั้นยังปลอบใครไม่เป็นอีก แล้วดูวันนี้ดิ ไปเที่ยวญี่ปุ่นกับแม่ไม่ใช่เหรอ เอาเวลาจากไหนมาใส่ใจกันเยอะแยะ
บุตรแห่งวันเพ็ญ: เปล่า บอกไม่ถูกเหมือนกันว่าเรื่องอะไร แต่แค่รู้สึกว่าถ้าบอสอยู่ตรงนี้ด้วยกันก็น่าจะดี
กันต์กวินทร์: บังเอิญนะครับที่เราคิดเหมือนกัน (:
กันต์กวินทร์: อดทนรออาทิตย์เดียวนะ พอจบทริปกับแม่แล้วผมจะอยู่กับคุณยาว ๆ เลย
บุตรแห่งวันเพ็ญ: คราวหน้าไปด้วยดิ แบบที่ไปกันสองคนอะ
บุตรแห่งวันเพ็ญ: โอย ลบข้อความทิ้งตอนนี้ทันปะ นี่ก็รีบเปิดอ่านเร็วจั๊ง
กันต์กวินทร์: ไม่ได้หรอกครับ ชวนผมแล้วจะแกล้งทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้ยังไง
กันต์กวินทร์: คุณน่ะ เตรียมลูกดอกไว้เลย
บุตรแห่งวันเพ็ญ: เพื่อออออออออออออออ
กันต์กวินทร์: เอาไว้ปาแผนที่โลกสุ่มว่าเราจะไปเที่ยวที่ไหนกันดียังไงล่ะครับ
บุตรแห่งวันเพ็ญ: โอ้โห้ มันต้องเบอร์นั้นเลยถูกปะ
บุตรแห่งวันเพ็ญ: ถ้าจิ้มกลางทะเลทำไงอะ -.-
กันต์กวินทร์: ว่ายน้ำเป็นไหมครับ ถ้าไม่ เดี๋ยวผมให้ขี่คอลอยไปจนกว่าจะถึงฝั่ง
บุตรแห่งวันเพ็ญ: ผมว่ายเก่งกว่าบอสอีก ตอนเป็นเด็กโดดคลองน้ำประจำเด้อ
กันต์กวินทร์: งั้นเปลี่ยนเป็นว่ายน้ำแข่งกันที่ฮาวาย ว่าไงครับ?
บุตรแห่งวันเพ็ญ: เคาะ!!! ไปฮาวาย!!!
กันต์กวินทร์: ถ่ายรูปตอนดีใจมาให้ดูหน่อยสิครับ ผมอยากเห็นคนแถวนี้ยิ้มกว้าง ๆ
บุตรแห่งวันเพ็ญ: T_T ผมดูกากใช่ไหมอะ
กันต์กวินทร์: ไม่นี่ครับ กากตรงไหน?
บุตรแห่งวันเพ็ญ: ก็ที่เป็นแบบนี้ ผมควรจะปัญญานิ่มใส่มากกว่าจะง้องแง้งเป็นเด็ก
กันต์กวินทร์: คิดมาก
กันต์กวินทร์: ธีร์แซวอะไรมาอีกหรือไงครับ?
บุตรแห่งวันเพ็ญ: ก็แซวปกติ แต่มันไม่ได้หมายถึงเรื่องนี้หรอก ผมคิดของผมเอง เพราะผมรู้สึกได้ว่าผมกาก เริ่มเยอะกับบอสแล้วเนี่ย
กันต์กวินทร์: คุณก็แค่ยังไม่ชินกับการแสดงออกแบบนี้
กันต์กวินทร์: แต่ถ้าถามผม ผมก็จะบอกว่าชอบนะครับ (:
กันต์กวินทร์: ไม่ว่าจะซนจนน่าดุหรือน่ารักจนทำให้อมยิ้ม ผมอยากให้คุณเป็นตัวของตัวเองมากกว่าจะกดดันว่าควรเป็นแบบไหน ควรจะแสดงออกยังไงถึงจะไม่เสียฟอร์มนะครับ
กันต์กวินทร์: เพราะผมเองก็ทิ้งเรื่องแบบนั้นไว้ข้างหลังไปนานแล้ว
จนถึงตอนนี้ยิ่งขยี้เข้าไปใหญ่ว่าใครกันแน่ที่เป็นฝ่ายอ้อนเก่ง เพราะเขาเอาแต่คิดว่าจะพูดอย่างไรให้อีกฝ่ายรีบบินกลับมา อยากซื้อน้ำผักผลไม้ไปให้ อยากกินข้าวด้วย แล้วก็อยากสอนเล่นเกมด้วย แต่ประโยคออดอ้อนที่เคยคิดว่าพูดไปเพราะคิดว่าตัวเองเป็นผัวมันกลายเป็นเมียอย่างชัดเจนเลย
บุตรแห่งวันเพ็ญ: อือ คิดถึงอะ
กันต์กวินทร์: ผมคิดถึงมากกว่าได้ไหมครับ เดินผ่านอนิเมะเรื่องไหนหน้าเด็กแถวนี้ก็ลอยเข้ามาเป็นคนแรกเลย (:
บุตรแห่งวันเพ็ญ: คิดถึงอะ คิดถึง ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ อยากกอด อยากฟัดแก้มนุ่มนิ่มของบอส
กันต์กวินทร์: พูดถึงแก้ม ผมซื้อสกินแคร์เซ็ทใหญ่ให้คุณด้วยนะ
บุตรแห่งวันเพ็ญ: อันนี้ก็นึกถึงจนต้องซื้อให้สินะ
กันต์กวินทร์: เปล่าครับ เพราะแก้มคุณสากมาก คิดว่าบำรุงหน่อยน่าจะดี
บุตรแห่งวันเพ็ญ: ...
กันต์กวินทร์: ล้อเล่นนะครับ ยิ้มได้แล้วใช่ไหม ฮ่า ๆ
บุตรแห่งวันเพ็ญ: อย่ามา มันคือความในใจก็บอกเหอะ ร้ายว่ะบอส แก้มผมสากแล้วผิดไร ก็ไม่ต้องหอมอะทีหลัง จบ
กันต์กวินทร์: โธ่ ผมล้อเล่นจริง ๆ นะครับ จะทำร้ายกันลงจริง ๆ เหรอ TT_TT
บุตรแห่งวันเพ็ญ: ไม่ต้องมาอ้อน ใช้อีโมก็ไม่ใจอ่อนเว้ย บาย ๆ แค่นี้แหละ ไปแข่งต่อละ อยู่ญี่ปุ่นไปตลอดชีวิตเลยนะ ไม่ต้องกลับมา เมืองเอกไม่ต้อนรับคนชื่อพี่กันต์
กันต์กวินทร์: ยอมแล้วครับ ให้อภัยคนชื่อพี่กันต์ด้วยนะ
บุตรแห่งวันเพ็ญ: เอ้อ จะไปแข่งจริง ๆ ละเนี่ย ต้องไปแล้ว
กันต์กวินทร์: โอเคครับ สู้ ๆ นะ แฟนคลับหมายเลขหนึ่งจะเปิดดูไลฟ์สดอยู่ทางนี้ (:
คนคิดมากยิ้มออกแล้ว แหลมเบ้ปากใส่เจ้าของไลน์ที่ถูกติดดาวให้อยู่ในรายการโปรดเหมือนพี่น้องในทีมก่อนจะเอนหลังพิงกับพนักเก้าอี้เกมมิ่ง หมุนเป็นวงกลมพลางมองเพดานว่าไอ้เรื่องใครเป็นผัวเป็นเมียนี่มันสำคัญมากจนทำให้คิดเยอะแยะขนาดนั้นเลยเหรอ
มันก็แค่เรื่องเซ็กส์เอง แถมบอสก็ไม่ได้วอแวจะทำเรื่องอย่างว่าด้วย เพราะส่วนใหญ่เขาเป็นคนสร้างเรื่องให้เกิดทั้งนั้น และการที่อีกฝ่ายไม่ทำให้เกินเลยก็คงเพราะให้เกียรติ หรืออาจจะรอเวลาเหมาะสม แต่ไม่ว่าอย่างไรมันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่แล้ว เพราะเขากับบอสเป็นแฟนกัน คนรักกันมันต้องรับที่อีกฝ่ายเป็นให้ได้สิวะ
ให้ตาย นี่ไอ้แหลมชอบบอสจนคิดได้ขนาดนี้เลยเหรอ?
*
“โจ๊กที่เหลืออยู่ในตู้เย็น ถ้าไม่อิ่มก็เอาไปอุ่นกินได้ ขิงสดกูใส่ทัปเปอร์แวร์แยกให้แล้ว นี่ยาก่อนอาหาร อ่านดี ๆ นะ ส่วนอันนี้หลังอาหาร” แจ็คจัดแจงทุกอย่างแล้วมองหน้าซีด ๆ ของลูกลิงที่นอนขดอยู่ใต้ผ้าห่มบนเตียง อีกทั้งยังสูดน้ำมูกน้ำตาคลอเหมือนคนใกล้ถามหาโลงอีก
“ไปทำงานเหอะ เดี๋ยวสาย”
“เออ เดี๋ยวไปแล้ว”
“ตอนเย็นมาหาด้วยนะ อยากกินไก่ทอด”
“ไข้ขึ้นขนาดนี้ยังจะแดกของทอดอีก นอนไปเลยมึง” ถึงจะบ่นแต่ซึมเศร้าแมนก็เอาผ้าขนหนูผืนเล็กไปจุ่มน้ำในกะละมังแล้วบิดหมาด ๆ ก่อนจะเอามาทาบกับซอกคอเขา กดเอาไว้อย่างนั้นให้ความเย็นดูดรับความร้อนก่อนจะละมือออก
“พ่อไอ้แหลมนี่ใจดีจังน้า”
“ห้ามลุกไปแดกน้ำเย็น พูดภาษาคนรู้เรื่องนะ?”
“เออ รู้แล้วน่า”
“ร่มน่ะหัดพกบ้าง คันเล็ก ๆ เบา ๆ ก็มี ของแม่กูที่เคยให้ไปเมื่อตอนนั้นน่ะเอาไว้ไหน”
“หายอะ หาไม่เจอ – โอ๊ยยยย!!!” แหลมเบ้ปากตัดพ้อพี่ชายที่ตบกะโหลกเขาจนไข้แตกกระจายไปหมดแล้ว
“จะรีบกลับหออะไรขนาดนั้น รอฝนซาก่อนไม่ได้ไง?”
“มันเบื่ออะ แบตโทรศัพท์ก็จะหมด ก็เลยวิ่งฝ่าฝนแม่งเลยเข้ม ๆ” ดูมัน... ยังมีหน้าพราวด์ความกากตัวเองอีก
“พอถึงห้องก็ไม่ยอมไปอาบน้ำสระผม”
“กูรีบดูแข่ง DotA ก็เลยกะว่าจะดูแป๊บ ๆ แล้ววิ่งไปอาบ ตัดภาพมาอีกทีตัวแห้งละ”
“ก็เลยซมเป็นหมาแบบนี้” แจ็คบ่นอุบอิบพลางมองคาดโทษเด็กกะโหลกที่ยังยิ้มอย่างคนไม่เจียมบอดี้ “เห็นพี่ตั้บบอกในห้องรวมว่าจะเข้ามาบ่าย ๆ นี่ ดีจังนะมีคนคอยหาข้าวหาน้ำให้แดก”
“บ้านอยู่บางใหญ่เลยอิจฉางี้เหรอ เสียใจด้วยน้า – โอ๊ยยยยย!!! พี่แจ็ค!!! เจ็บนะเว้ย!!!” แหลมร้องไห้น้ำตาแห้งใส่อย่างสำออย แต่ซึมเศร้าแมนมีหรือจะสงสาร เจ้าของใบหน้านิ่งยังคงมองมา ก่อนจะหยิบผ้าไปชุบน้ำอีกครั้ง
“กับบอสน่ะไปได้ดีหรือเปล่า?” เขาถามโดยไม่หันไปมองไอ้ลูกลิง แม้ว่าสถานการณ์จะดูคงที่เพราะบอสก็ดูอารมณ์ดีไม่เกรี้ยวกราด ไหนจะอารมณ์ดีพาแม่เที่ยวต่างประเทศ อีกทั้งไอ้แหลมก็ดูแฮปปี้หลังจากชนะทีมก่อนหน้านี้จนได้เข้ารอบลึกไปอีก
“อือ”
แต่อะไร ๆ ก็ไม่แน่นอน ที่ไม่ออกปากถามใช่ว่าจะไม่เป็นห่วง แต่เพราะรู้ว่าไอ้เด็กนี่ต้องอายถ้าหากต้องเล่า เขาจึงแอบถามเพื่อนสนิทอย่างไอ้ธีร์จนได้ความว่ามันล้ำเส้นกันไปไหนถึงไหนแล้ว
น่าเป็นห่วง... ถึงมันจะเป็นเด็กหอกหักไม่น่าปกป้อง แต่พอนึกถึงบอสแล้วก็อดสงสารชะตากรรมไอ้แหลมไม่ได้เลย ก็ไม่รู้หรอกว่ารสนิยมเรื่องอย่างว่าของบอสจะอยู่ในขั้นไหน แต่ที่แน่ ๆ คงเชี่ยวชาญกว่าน้องชายเขาซึ่งยังใหม่กว่านัก
“ชอบเขาจริง ๆ ใช่ไหม?”
“ชอบดิ” ทีงี้ล่ะเสือกเขินเป็น มีความพูดเสียงอู้อี้มุดหน้าหาผ้าห่ม “ห้ามแซวกูนะ”
“เออ” คนพี่ขานตอบรับปาก “ถ้าชอบก็อย่าเกรียนใส่เขาให้มันมาก หัดพูดเพราะ ๆ ด้วย ไอ้วะ ๆ เว้ย ๆ ให้เก็บไว้ใช้กับพวกกูก็พอแล้ว”
“เดี๋ยวนี้ก็ไม่ค่อยได้พูดแล้วนะเว้ย เรียกชื่อบอสแล้วด้วยอะ”
“มึงก็ควรเรียกตั้งนานแล้วไหม เด็กฝึกงานก็ไม่ใช่ยังจะเรียกอย่างนั้นอีก”
“ก็มันชิน จะเรียกชื่อบอสทีไรก็ติดอยู่ตรงปากทุกที มันแบบ... บอกไม่ถูก” เข้าใจความรู้สึกไอ้ธีร์ก็ตอนนี้ แจ็คมองรุ่นน้องที่เริ่มออกอาการเขินหนักจนหน้าแดงแถมยังทำหน้าชวนเอาตีนเขี่ยอีก
“ก็เรียก ๆ ไปมันจะยากอะไร?”
“เอ้อรู้”
“โตแล้วนะ อะไรที่ไม่เข้าใจก็ให้ถาม พี่น้องทุกคนอยู่ตรงไหนมึงรู้ดีอยู่แล้ว”
“ทำไมพูดเหมือนกูจะเป็นฝั่งเป็นฝา แค่มีแฟนเองนะเว้ย”
“ก็เพราะพวกกูไม่เคยเห็นมึงคุยกับใครนานขนาดนี้ไง” แจ็คเอาน้ำไปเทแล้วเปลี่ยนใหม่ ก่อนจะกลับมานั่งที่เดิม “กูดีใจที่มึงยอมเปิดใจรับใครสักคน มากกว่าจะจมปลักอยู่กับเทียนนะ”
“...” คนป่วยยังคงนอนนิ่ง โชคดีที่พี่แจ็คไม่ได้มองมา เขาจะได้ไม่ต้องแสร้งว่าทุกอย่างเป็นปกติดี
เทียนก็คือเทียน บอสก็คือบอส แหลมไม่อยากเอาความรู้สึกที่มีต่อคนสองคนมาชั่งน้ำหนักว่ากับใครมันมากกว่า
“บอสบอกว่าไม่ต้องลืมเทียนหรอก ให้เค้าอยู่ในความทรงจำกูนี่แหละ ส่วนเขาจะอยู่กับกูในชีวิตจริงเอง”
“แล้วทำได้ไหม?”
“ตอนแรกลังเลเพราะกลัวว่าสุดท้ายก็จะเทบอสเหมือนคนอื่น ๆ แต่คราวนี้เหมือนว่าจะไม่ใช่ กูทำได้ แล้วกูก็ดีใจที่เขาบอกให้กูคิดอย่างนั้น”
“ดีแล้ว” คงเป็นเพราะป่วย แหลมถึงอ่อนแอจนน้ำตาคลอเพียงเพราะเรื่องของเทียนที่มาพร้อมมือซึมเศร้าแมนซึ่งกำลังลูบศีรษะเขาเบา ๆ
พี่แจ็คไม่ค่อยแสดงมุมอ่อนโยนมากนัก แต่ทุกครั้งที่ได้รับการใส่ใจ แหลมก็รู้สึกได้ว่าตนเองสำคัญกับพี่ชายจริง ๆ
“ถ้ากูโดนบอสทิ้งแล้วพาไปกินเหล้าด้วยนะ”
“เออ เดี๋ยวเลี้ยงหมูกระทะชุดใหญ่ด้วย”
“เอาสามชั้นเยอะ ๆ ด้วย”
“สั่งแดกจริง ไว้ไปบอกลูกพี่ใหญ่มึงเหอะงั้น”
“โด่ ไรวะ พี่ตั้บก็คงรอแดกเงินมึงอยู่เหมือนกันอะ สู้หน่อยดิพี่แจ็ค”
“กูมียี่สิบ”
ความรักครั้งนี้อาจจะใหม่และน่ากลัวแถมยังชวนคิดมากเรื่องเซ็กส์ไร้สาระนั่นอีก แต่ไม่ว่าอย่างไร แหลมก็ยังคงมีพี่ชายและน้อง ๆ ที่คอยให้กำลังใจอยู่เสมอ เรื่องนี้สิสำคัญ แหลมไม่อยากพาตัวเองดิ่งขนาดนั้นเพราะทุกวันนี้ก็มีความสุขดี โดยเฉพาะตอนที่...
คุณได้รับข้อความจาก...‘พี่ค้าบ’
[ ถึงไทยแล้ว ผมกำลังจะไปหาคนป่วยเดี๋ยวนี้ รอก่อนนะครับ (: ]
(จบพาร์ทแรก)
#เขย่ากระปุกพาราเป็นจังหวะอังกะลุง