#omegaverse #Alpha Omega สุดที่รักของปีศาจ ตอนพิเศษ บทที่4 {หน้า9} {4/4/61}
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: #omegaverse #Alpha Omega สุดที่รักของปีศาจ ตอนพิเศษ บทที่4 {หน้า9} {4/4/61}  (อ่าน 38589 ครั้ง)

ออฟไลน์ Chompoo reangkarn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
ชักจะไม่ชอบรอยซีฟัสแล้วน่ะ
กีดกันดีทริชกับโนแอล

ออฟไลน์ lucifer miumiu

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 152
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +147/-1
บทที่33

“ท่านพ่อจะไปไหน”

คาร์ม่าส่งยิ้มให้ลูกชายคนโต “พ่อจะไปเยี่ยมโนเอล นานทีปีหนจะป่วยหนักขนาดนี้ ยังไงก็ต้องไปดูแลเขาบ้าง”

แม็กซิมเบ้ปาก เขาคิดว่าคนอย่างโนเอลมันอาจจะแกล้งเรียกร้องความสนใจอะไรซักอย่าง แต่ถ้ามันป่วยจริงก็อยากไปดูน้ำหน้ามันซักหน่อยเพื่อความสะใจ

“ถ้าอย่างนั้นผมขอไปด้วยนะท่านพ่อ รู้สึกว่าไม่ได้เจอมันมาซักพักแล้ว”

“จะเอาอย่างนั้นรึ” คาร์ม่าอมยิ้ม คนเป็นพ่อทำไมจะไม่รู้ว่าสองพี่น้องเกลียดชังกันมากแค่ไหน

“เอ้า...อยากไปก็ไป”

จากนั้นสองพ่อลูกก็พากันขึ้นรถ ระหว่างการเดินทางแม็กซิมว่าร้ายโนเอลเป็นปกติทุกครั้ง คาร์ม่าฟังแล้วก็เห็นด้วยเป็นเรื่องๆ ไป เวลาที่ไม่เห็นด้วยก็จะยิ้มเพียงอย่างเดียว

พูดถึงโนเอลแล้วก็ให้นึกสงสาร ทำไมคนอย่างเขาจะไม่รู้ว่าลูกชายแต่ละคนวางแผนอะไรไว้บ้าง ยิ่งคราวนี้เจ้าตัวแสบแกล้งป่วยเพื่อเรียกเขาไปพบ คาร์ม่ารู้อยู่แล้วว่าใครกันที่รออยู่

นึกถึงหน้ารอยซีฟัสเพื่อนสนิทคนเก่าคนแก่ก็รู้สึกเหนื่อยใจ ปีศาจตนนี้หากไม่เห็นแก่ความสัมพันธ์เก่าก่อนคงไม่ปล่อยให้เดินเล่นไปทั่วจูปิเตอร์

อุตส่าห์ให้ความช่วยเหลือมอบที่หลบซ่อนให้เป็นอย่างดี แต่เหมือนไม่ยอมอยู่เฉยง่ายๆ ต้องออกมาแสดงปาฏิหาริย์ก่อเรื่องให้มันลุกลามไปใหญ่

ดูเหมือนว่า ดีทริช ไอแวน จะเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้เจ้านั่นกลับมามีไฟอีกครั้ง แต่มันจะมีประโยชน์อะไรในเมื่อเดี๋ยวนี้ราชินีก็ไม่ต่างจากลูกไก่ในมือของฟีโอเร่

ราชินีผู้เอาแต่เก็บตัวแล้วโยนงานบริหารและอำนาจในมือมาให้ไม่ว่าจะเป็นตัวปลอมหรือตัวจริง ตระกูลฟีโอเร่ก็ได้ประโยชน์ทั้งนั้น คาร์ม่าคิดว่าสมดุลทางการเมืองตอนนี้ก็ดีเยี่ยมมากอยู่แล้ว

อยากจะรู้จริงๆ ว่ารอยซีฟัสจะใช้อะไรโน้มน้าวให้เขาเคลื่อนไหวสนับสนุนการกระทำของตนเองกันแน่ ถ้าต้องการลากให้เขาลงเรือด้วยคงต้องมีผลประโยชน์ที่คิดว่าสมควรหน่อยล่ะ

ไม่นานนักคาร์ม่ากับแม็กซิมก็เดินทางมาถึงคฤหาสน์ตระกูลอลองโซ ที่หน้าประตูเซซิลยืนคอยต้อนรับอยู่ สาวน้อยโผเข้ากอดบิดาทันทีที่พบหน้า

“คิดถึงท่านพ่อเหลือเกินค่ะ” เซซิลออดอ้อนฉอเหลาะ พอเห็นแม็กซิมก็มองด้วยหางตาก่อนจะลากจูงคาร์ม่าเข้าไปด้านใน

ไอ้ตุ๊ดเอ๊ย

แม็กซิมด่าในใจ ท่าทางร่าเริงดีแบบนี้ไม่เหมือนคนที่ต้องดูแลพี่ชายซึ่งนอนป่วยซักนิด หรือว่าพวกมันวางแผนอะไรกันแน่

“ท่านพ่อคะ ท่านพี่ป่วยหนักมากคงให้ใครเข้าพบเยอะๆ ไม่ได้ ท่านพ่อเข้าไปคนเดียวเถอะค่ะ”

เซซิลบอกหลังจากลากท่านพ่อมายังหน้าห้องๆ หนึ่ง แม็กซิมฮึดฮัดไม่พอใจ

“พวกผิดเพศไม่มีสิทธิห้ามให้ฉันเข้าไปนะเว้ย” แม็กซิมพูดและทำท่าจะเดินตามคาร์ม่าเข้าไปแต่ถูกห้ามไว้เสียก่อน   

“เจ้ารอข้างนอกเถอะ แม็กซิม”

               แม็กซิมแยกเขี้ยวรับ ถูกห้ามมันก็ช่วยไม่ได้ หรือว่าไอ้โนเอลมันจะป่วยอาการหนักจริงๆ ถึงพยายามปิดบังไม่ให้เขารู้ คำตอบนั้นเค้นเอาจากเจ้าผิดเพศนี่ก็ได้

               “เฮ้ย ไอ้ตุ๊ด ไหนมาบอกมาซิว่าโนเอลมันป่วยอะไรกันแน่”

               “อยากรู้ไปทำไมล่ะคะ” เซซิลยิ้มหวาน จงใจกวนโมโหแม็กซิม

               “อย่ามาเล้นลิ้นนะไอ้ตุ๊ด จะบอกดีๆ หรือจะให้ตบ”

               “กล้าก็ลองสิคะ ท่านพ่อก็อยู่ที่นี่ ฉันไม่กลัวคุณหรอกค่ะ”

               “หน็อยนังนี่” แม็กซิมสาวเท้าเข้าหา ยกมือขึ้นหมายจะตบแต่ถูกคว้าจับมือเอาไว้ บอกตรงๆ ว่าเจ็บข้อมือจนเกือบร้องออกมาเชียวล่ะ

               “ปล่อยไอ้โนเอล” แม็กซิมคำรามกลบเกลื่อนความเจ็บ โนเอลยอมปล่อยมือก่อนจะเดินไปยืนบังเซซิลเอาไว้

               “หน็อย...นึกอยู่แล้วต้องมีลูกไม้อะไร แกหลอกท่านพ่อมาทำอะไรกันแน่วะ” ไม่พูดเปล่าแม็กซิมเดินไปที่ประตูตั้งใจจะพังเข้าไปด้านใน ทว่าวินาทีที่แตะถูกบริเวณนั้นม่านพลังบางอย่างก็ดีดเขาออกมา

               “ท่านพ่ออยู่ข้างในหรือเปล่าครับ ออกมาเองได้ไหมหรือจะให้ผมไปเรียกพวกมาช่วย” แม็กซิมตะโกนถามระหว่างนั้นก็หันมาข่มขู่โนเอลกับเซซิล “แกเสร็จแน่โนเอล โทษฐานวางแผนฆ่าผู้นำตระกูล แกต้องตายสถานเดียว”

               พูดจบก็หยิบมือถือเตรียมเรียกกำลังรบพิเศษของฟีโอเร่มา

               “แม็กซิม พ่อกำลังคุยกับเพื่อนเก่าอยู่เจ้าช่วยอยู่อย่างสงบได้ไหม”

               แม็กซิมเดาะลิ้น กำลังจะตามกองกำลังพิเศษมาจัดการโนเอลมันอยู่แล้ว โอกาสอย่างนี้ไม่มีมาง่ายๆ

               “แกเป็นใครกันแน่ ข้าจะเชื่อได้ไงว่าแกคือท่านพ่อ”

               “จะลองเรียกมาดูก็ได้ แต่พ่อจะถือว่าเจ้าเป็นกบฏคิดล้มล้างอำนาจพ่อ คงรู้ตัวสินะระหว่างพ่อคนนี้กับเจ้าคนในตระกูลจะเชื่อฟังใคร”

               แม็กซิมกัดฟันกรอด ใจหนึ่งก็อยากลอง แต่คิดอีกทีหากท่านพ่อตัวจริงพูดแล้วเขาขัดคำสั่งนอกจากถูกลงโทษหนัก ไอ้โนเอลอาจจะได้โอกาสดีๆ ไปมากทีเดียว เสียดายจริงๆ อุตส่าห์มีข้ออ้างกำจัดมันแล้วแท้ๆ

               “ไปนั่งรอที่ห้องอื่นดีกว่าไหม ท่านพี่” โนเอลเชิญชวน แม็กซิมยอมตามอย่างเสียไม่ได้

               “แกวางแผนอะไรกันแน่วะโนเอล” แม็กซิมเปิดประเด็นหลังจากถูกพามาห้องรับรอง

               “ผมไม่ได้วางแผนอะไรทั้งนั้น แค่นัดให้ท่านพ่อมาพบเพื่อนเก่า”

               “เพื่อนเก่านี่นะ แล้วทำไมมันไม่ไปหาท่านพ่อด้วยตัวเอง ต้องให้แกโกหกนัดท่านพ่อมาพบ บอกความจริงมาดีกว่าน่าโนเอล”

แม็กซิมเขวี้ยงแก้วเหล้าในมือไปปะทะยังใบหน้าของโนเอล แก้วแตกกระจายคนถูกทำร้ายมีแผลแต่ในเวลาไม่กี่วินาทีเลือดก็หยุดไหลอาการบาดเจ็บถูกความสามารถพิเศษรักษาจนหายดี

               ความสามารถอันน่าชิงชัง เพราะแบบนี้ถึงได้จัดการฆ่ามันให้ตายไม่ได้ซักที แม็กซิมขบเคี้ยวฟันอย่างหงุดหงิด

               “ทำเกินไปแล้วนะคะ ท่านพี่ไปทำอะไรให้คุณ”

               “แค่พวกแกมีชีวิตอยู่ก็เหมือนเป็นหนามยอกสร้างความรำคาญให้มากพอแล้ว เป็นตุ๊ดก็อยู่ส่วนตุ๊ดอย่ามาสะเออะพูดด้วย”

               เซซิลทำท่าผุดลุกขึ้นเอาเรื่อง แต่ถูกโนเอลรั้งให้นั่งลงเสียก่อน สองพี่น้องมองตากัน เธอเกือบจะลืมไปเลยเรื่องแผนการณ์ของท่านพี่

               จริงๆ เธอไม่ได้รู้เรื่องอะไรซักอย่าง แต่เมื่อเช้าได้มีโอกาสพบหน้าดีทริชเธอดีใจที่สุด อดนึกถึงเรื่องที่ได้พบหน้ากันหลังจากเพื่อนสนิทหายหน้าไปเกือบเดือนไม่ได้

               วินาทีที่เธอเห็นดีทริชเธอก็เดินเข้าไปหาแล้วตบหน้าเพื่อนสนิททันที เธอบรรยายความรู้สึกไม่ถูกเพราะลงมือกับเพื่อนสนิทด้วยความโกรธก็จริง แต่ต่อมาก็ร้องไห้ไม่หยุดจนคนเจ็บต้องมาปลอบ

               “ฉันเป็นคนเจ็บแท้ๆ เลยนะ” ดีทริชกอดปลอบเซซิลลูบหลังอีกฝ่ายไปมาเบาๆ อยู่ในสภาพนั้นจนสาวน้อยหยุดร้องไห้

               “เรามีเรื่องต้องพูดกัน”

               ดีทริชดูลำบากใจ เซซิลเห็นเพื่อนสนิทส่งสายตาไปหาคนที่พามา ผู้ชายคนนี้ เธอเคยเห็นในนิตยาสารเป็นครั้งคราว น่าจะชื่อรอยนามสกุลอะไรซักอย่าง

               “ไปเถอะดีทริชพ่อจะคุยกับโนเอลซักหน่อย”

               “ขอบพระคุณมากค่ะ” เซซิลถอนสายบัวก่อนจะลากดีทริชไปยังห้องของเธอ

               “นี่มันอะไรกันแน่หะ ทริช นายบอกเลิกคบท่านพี่ แถมหายตัวไปเป็นอาทิตย์ โรงเรียนก็ไม่มา ที่บ้านก็ไม่อยู่ แล้วนี่อะไรไหงกลายเป็นลูกของผู้ชายคนนั้นไปได้ บอกมาให้หมดเดี๋ยวนี่นะ บอกมาเลย”

               ดีทริชยิ้มขมขื่น เซซิลตระหนักทันทีว่าเรื่องคงไม่ใช่เล็กๆ

               “บอกมาเถอะน่าทริช ฉันสัญญาว่าจะไม่เล่าให้ใครฟัง แม้แต่เอฟเว่น”

               “นายไม่รู้เรื่องจะดีกว่า การไม่รู้มันจะดีกับนาย แล้วก็ฉันสัญญากับโนเอลเอาไว้ว่าจะไม่ลากนายเข้ามาเกี่ยว”

               “อะไรกันเล่า” เซซิลกอดอกฮึดฮัด เธอไม่ใช่คนโง่ที่พูดไม่รู้ความ หากว่าท่านพี่เห็นดีงามในเรื่องนี้ก็ช่วยไม่ได้

               “นายจะกลับมาคืนดีกับท่านพี่ไหม”

               ดีทริชไม่กล้ามองตาเซซิล เพราะการกลับมาของเขาในครั้งนี้มาเพื่อใช้ประโยชน์จากความรู้สึกของโนเอล จริงๆ ลึกๆ ลงไปแล้วเขาสงสารโนเอล ไม่อยากทำแบบนี้แต่มันไม่มีทางเลือก หนทางเดียวที่จะช่วยแม่ของเขาคือทำตามคำสั่งท่านพ่อบุญธรรม

               “นายว่าโนเอลจะเกลียดฉันไหม”

               “ถ้าท่านพี่จะเกลียดนาย คงไม่ยอมให้นายเข้าบ้านมายืนลอยหน้าลอยตาอย่างนี้หรอก”

               ท่านพี่รักดีทริชแค่ไหน มีแต่เซซิลเท่านั้นที่รู้ ภายนอกท่านพี่ยังบริหารงานของตระกูลได้ไม่ขาดตกบกพร่อง แต่ไม่เคยเลยที่ท่านพี่จะนั่งเหม่อลอยมองอะไรซักอย่างนานๆ โดยเฉพาะเข้าไปอยู่ในห้องซึ่งดีทริชเคยหลับนอน

               ท่านพี่ย้ายไปอยู่ที่ห้องของดีทริช จมอยู่กับกลิ่นกายหอมหวานที่ยังฟุ้งไปทั่วตามสิ่งของ ชัดเจนว่าทั้งรักทั้งคิดถึงจนไม่เป็นตัวของตัวเอง

               “ท่านพี่เป็นถึงขนาดนี้ นายยังใจดำกับท่านพี่ได้เชียวหรือ”

               เมื่อได้ยินคำบอกเล่าถึงสภาพของโนเอล ดีทริชก็ไม่รู้ว่าจะจัดการกับความรู้สึกของตัวเองอย่างไรดี

               เขากำลังหลอกใช้โนเอลเพื่อให้แม่มีชีวิตต่อไป มันเป็นการกระทำที่โหดร้าย คนที่เขารักกันจะไม่ทำกันแบบนี้ ดีทริชรู้อยู่แก่ใจว่าสิ่งที่ทำลงไปมันช่างแสนร้ายกาจ

               “ถ้าบอกว่าฉันกำลังหลอกใช้พี่ชายของนายล่ะเซซิล”

               “ถ้าเป็นนายท่านพี่คงไม่โกรธ แต่แววตากับสีหน้าอมทุกข์แบบนี้ ถ้าบอกว่าเล่นละครหลอกฉันละก็ ต้องถือว่าเป็นนักแสดงระดับแนวหน้าเลยล่ะ”

               ดีทริชนิ่งอึ้ง นี่เขาแสดงสีหน้าแบบไหนออกไปนะ อดที่จะใช้มือลูบเสี้ยวหน้าตัวเองไม่ได้

               “ถ้าจะเสียใจล่ะก็สู้อย่าทำเสียแต่แรกสิ”

               “ที่ต้องหลอกใช้โนเอลก็เพราะ...” เซซิลใช้มือปิดปากดีทริชเบาๆ ทำให้อีกฝ่ายรู้ตัวว่าทำอะไรลงไป

               “ไหนว่าจะไม่เล่าไง ไม่อยากให้ฉันปลอดภัยแล้วหรือสัญญากับท่านพี่แล้วนี่”

               “ขอโทษนะเซซิล” ดีทริชยิ้มด้วยสีหน้าเศร้าของเห็นได้ชัด             

  “ฉันทำได้แค่ดูเท่านั้น ได้แค่นั้นจริงๆ “ เซซิลพึมพำ ดีทริชสวมกอดเพื่อนสนิทกอดกันอยู่อย่างนั้นจนหัวหน้าพ่อบ้านมาตามตัวดีทริชออกไป



คุยท้ายเรื่อง

ช่วงนี้โทนเรื่องดูหม่นๆ ทนกันหน่อยน้า

วุ้ยอีกไม่นานคิดว่ามาเรี่ยนกับเอฟเว่นน่าจะโผล่ ตอนหน้าขอเวลาหน่อยน้า

ยังทำไฟลนิยายไม่เสร็จงานหลางงานราชก็มารอเป็นกองสูง

แต่หาจะหาเวลาว่างรีบกลับมานะ ไม่น่าจะเกินอาทิตยหรอก

แสดงความคิดเห็นเป็นกำลังใจกันบ้างนะคะ

ออฟไลน์ Kei

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
อึดอัดวุ้ย :serius2:

ออฟไลน์ แมวดำ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2

ออฟไลน์ ดาวโจร500

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 643
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-3
เมื่อไหร่โนเอลจะได้กินเด็กละเนี่ย

ออฟไลน์ shiroinu

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 308
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
ตอนนี้เรื่อยๆสินะ พี่ชายของโนเอลนี่น่าหาคนมาปราบให้สิ้นฤทธิ์ :hao6:

ออฟไลน์ NORMOR

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 12
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
อ่านรวดเดียวจนหมดเลยค่ะ
สนุกมากเลย ลุ้นมากเลยค่ะ
ตอนนี้ไม่รู้จะสงสารใครดี ถ่อวว ทำไมความรักมันมีอุปสรรคอย่างนี้
ไม่รู้ว่าแผนการของรอยจะเป็นยังไงอีก คงไม่ได้คิดจะทำร้ายทริชใช่มั้ยคะเนี่ย
หวังดีกับทริชจริงๆ หรือเปล่า โอยยยย
โนเอลเอ้ย สู้ๆ แล้วกันนะ5555
คิดถึงมาเรี่ยนกับเอฟเว่นแล้วค่ะ แอบชอบคู่นี้ น่ารักดี เขินมาเรี่ยน5555

รอนะคะ :mew1:

ออฟไลน์ lucifer miumiu

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 152
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +147/-1
บทที่34

               นี่เป็นครั้งแรกที่ได้พบหน้าพ่อของโนเอลตัวเป็นๆ  ดังนั้นดีทริชจึงเผลอจ้องมองนานเกินไป

               “พ่อหนูจ้องฉันนานขนาดนั้น มีอะไรหรือเปล่า”

               “เปล่าครับ เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นหน้าท่านคาร์ม่าตัวจริง ปกติจะเห็นจากทางTVมากกว่า”

               คาร์ม่าอมยิ้มแล้วหันไปเปิดบทสนทนากับรอย “ว่าไง มีอะไรถึงกับต้องเล่นลูกไม้เพื่อให้ได้คุยกันแบบนี้”

               “ก็ถ้าใครบางคนไม่เอาแต่หลบหน้า ทางนี้คงไม่ต้องลำบากแบบนี้”

               “คงไม่ใช่ว่าจะพูดเรื่องเดิมๆ ใช่ไหม” คาร์ม่ายิ้มละมุนละใม ดีทริชรู้สึกถึงบรรยากาศแปลกๆ ระหว่างทั้งสองคน

               “บอกนายกี่ครั้งแล้วว่าให้เลิก เอาเดียร์น่าเป็นจุดศูนย์กลางเสียที แล้วเป็นยังไงชีวิตของนายวุ่นวายไม่รู้จักจบจักสิ้น เสียดายหรือยังที่ไม่ได้ตกลงปลงใจกับฉัน”

               ดีทริชตัวแข็งทื่อ ไม่กล้ามองหน้าผู้ใหญ่ทั้งสองคน ท่านพ่อบุญธรรมกับท่านพ่อของโนเอลเหมือนมีความสัมพันธ์ซับซ้อนบางอย่าง

               “เรื่องระหว่างเรา มันก็แค่ความหลงผิด เท่านั้น อย่ารื้อฟื้น”

               “แต่เป็นหลงผิดที่ยาวนานเหลือเกินนะ รู้ไหมว่าฉันก็เจ็บเหมือนกันที่ถูกนายใช้เป็นเครื่องมือทำให้ลืมเดียร์น่า”

               คาร์ม่าหัวเราะเสียงดัง ดูเหมือนยิ้มก็จริงแต่แววตานั้นเต็มไปด้วยการตัดพ้อ รอยซีฟัสต้องมองเมินไปทางอื่นชั่วครู่ก่อนจะหันกลัลมาประสานสายตาอีกครั้ง

               “เพราะว่าจนถึงตอนนี้ฉันยังรู้สึกรักนายอยู่ จะบอกตามตรงก็แล้วกัน ราชินีจะเป็นตัวจริงหรือไม่ อำนาจบริหารก็อยู่ในมือของฉันโดยไม่ต้องแก่งแย่งกับใคร”

               “ก็พอจะรู้อยู่แล้ว ไม่อย่างนั้น ทั้งลิลี่ทั้งฉันจะอยู่รอดโดยไม่ถูกตามล่าได้ยังไง” คาร์ม่ายิ้มหวาน

               “เคยบอกแล้วใช่ไหมว่าหากอยากให้ช่วยเหลือคราวหน้านายต้องเอาร่างกายนายมาแลก”

               “แค่นั้นนะหรือ” รอยซีฟัสยิ้ม ของมันเคยๆ มาก่อนเรื่องแค่นี้ถือว่าจิ๊บจ๊อยมากทีเดียว

               “ไม่แค่นั้นสิ” คาร์ม่ายังคงยิ้มและอมพะนำ

               “หรือนายกลัวว่าฉันจะหลอกเอาตัวปลอมมาหลอกนาย จะว่าไปนายบอกว่าราชินีเป็นเหมือนลูกไก่ในกำมือสินะ นี่คงรู้อยู่แล้วว่าเป็นตัวปลอมหรือไม่ใช่”

               “ฉันสนุกที่จะได้เห็นนายเข้ามากราบกรานทอดกายให้ฉันด้วยความเต็มใจหรือจะเพราะยอมแพ้อะไรซักอย่างก็ได้นายก็รู้นี่ว่าฉันยอมเจ็บยอมเสียเปรียบเพื่อนายมากแค่ไหน หากไม่หลงใหลนายคงไม่ทำถึงขนาดนี้”

               รอยซีฟัสแค่นยิ้ม ขนาดบอกว่ารักชอบเขามาก แต่ก็ยังมีผู้หญิงอีกตั้งสองคน “ช่างเป็นความหลงใหลที่น่าเชื่อถือเสียจริงนะ”

               “เราเป็นผู้ใหญ่กันแล้วยังต้องมานั่งอธิบายเรื่องเล็กๆ น้อยๆ อีกหรือ” คาร์ม่าหัวเราะอีกครั้ง

               “เข้าเรื่องดีกว่า นายยังมีข้อแลกเปลี่ยนอะไรอีก จะว่าไปคนหูตาไวอย่างนายคงสืบดูแล้วใช่ไหมว่าดีทริชคือรัชทายาทตัวจริง”

               เป็นอย่างที่รอยซีฟัสพูดทุกประการ เขารู้ทั้งเรื่องปานทั้งเรื่องขีดจำกัดทางสายเลือด เขามีเส้นสายอยู่ทั่วจูปิเตอร์ดังนั้นเหตุการณ์อะไรแม้เล็กน้อยหากอยากรู้ก็ทำได้ไม่ยาก ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนอยู่ในมือขาดแค่คนที่อยู่ในใจเขามานานมากกว่าสิบปีแล้วเท่านั้น

               “จริงอยู่ว่าการได้นายมาครอบครองอีกครั้งมันก็แสนจะคุ้ม แต่ฉันต้องการมากกว่านั้น คงรู้สินะว่าฉันจะโง่ยกดีทริชขึ้นเป็นผู้ครองบัลลังค์เพื่ออะไร หากควบคุมไม่ได้”

               “อยากได้อะไรก็พูดมา”

               “ฉันต้องการให้ดีทริชหมั้นและแต่งงานกับลูกชายคนโตของฉัน โอเมก้าไม่สามารถเป็นกษัตริย์ได้ ดังนั้นให้ลูกชายของฉันเป็นกษัตริย์แล้วดีทริชจะเป็นราชินีเคียงคู่กัน”

               ดีทริชนิ่งอึ้งกับคำขอของคาร์ม่า นึกไม่ถึงว่าสุดท้ายก็ต้องถูกบังคับให้ทำในสิ่งที่ไม่อยากทางใดก็ทางหนึ่ง แถมยังกับคนที่ไม่รู้จัก ในใจลึกๆ เขาอยากให้คนคนนั้นเป็นโนเอล

               นี่เท่ากับว่าเขากับโนเอลจะยิ่งห่างไกลกันออกไปอีก เจ็บที่อกจนต้องยกมือขึ้นมาสัมผัสบริเวณนั้น เขายังรักโนเอลอยู่จริงๆ นั่นแหละ ยังไงก็แล้วแต่ถ้ามันสามารถทำให้ท่านแม่หายจากอาการป่วยได้เขายอมทั้งนั้น

               “ก่อนหน้าที่เราจะตกลงกัน ฉันยังมีสิ่งที่ต้องการอีกหนึ่ง นายต้องยกราชินีตัวปลอมให้ฉันกับดีทริช”

               “ก็เอาสิ นางจะหมดประโยชน์แล้วนี่ แต่ต้องเป็นหลังจากที่ดีทริชหมั้นแล้วนะ”

               ดีทริชค่อยโล่งใจหน่อย ในที่สุดก็จะได้จัดการกับราชินีตัวปลอมตามใจชอบ พ่อบุญธรรมหันมายิ้มให้เขาจึงส่งยิ้มตอบกลับไป

               “ถ้าอย่างนั้นให้ว่าที่คู่หมั้นเขาพบหน้ากันหน่อยดีไหม”

               “มาด้วยหรือ” ตอนนี้เองที่พ่อบุญธรรมกุมมือของเขาเอาไว้ ดีทริชคิดว่าคงกำลังพยายามปลอบใจเขาอยู่เรื่องของโนเอล

               “ใช่ เดี๋ยวจะให้ตามมาทั้ง แม็กซิมทั้งโนเอลนั่นแหละ”

               “นายท่านขอรับ ท่านคาร์ม่าให้มาตามท่านแม็กซิมกับนายท่านขอรับ” หัวหน้าพ่อบ้านมารายงาน เป็นจังหวะที่บรรยากาศขุ่นมัวเต็มที่พอดี

               “ท่านพ่อคุยเสร็จแล้วหรือ” โนเอลถาม

               “ขอรับนายท่าน”

               แม็กซิมออกเดินนำไปก่อนหน้าแล้ว ดังนั้นโนเอลจึงเดินตามไปบ้าง เพราะไม่ได้ถูกเรียกเซซิลจึงนั่งรอในห้องรับรองต่อไป

               “มาจนได้” คาร์ม่ากวักมือเรียกลูกชายสองคนให้มายืนใกล้ๆ

               “นี่คือรอยซีฟัสเพื่อนเก่าเพื่อนแก่ของพ่อ ส่วนนี่ลูกชายของเขา”

               แม็กซิมเลิกคิ้ว นี่มันไม่ใช่ไอ้นางบำเรอในสลัมที่โนเอลฟันแล้วเขี่ยทิ้งหรอกหรือ ไหงกลายมาเป็นลูกชายของเพื่อนเก่าท่านพ่อไปได้

               “แม็กซิมฉันจะให้เจ้าหมั้นกับเด็กคนนี้”

               “อะไรนะ” แม็กซิมตวาดอย่างแข็งกร้าว เรื่องอะไรคนอย่างเขาต้องรับเศษเหลือเดนของโนเอลด้วย

               “ไม่มีทางท่านพ่อ ไอ้นี่มันเป็นนางบำเรอของโนเอล เป็นของเหลือเดินมาก่อน อย่ามาบังคับผมเลย จริงสิ เดนของใครก็ให้คนนั้นรับไป”

               กล่าวจบก็เดินปึงปังออกไป ใครมันจะไปทนรับเดนไอ้โนเอลได้ คืนให้มันนั่นแหละดีที่สุด การที่หนีออกมาเพื่อยืนยันความต้องการของตัวเอง ส่วนไอ้โนเอลก็จงรับผิดชอบเดนของมันไปเสีย

               เพราะว่ารีบเดินออกไปและใช้อารมณ์แบบคนโง่จึงไม่ได้สังเกตเห็นสีหน้าของคนในห้อง โนเอลยิ้มกว้างอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนเขากับดีทริชประสานสายตากันราวกับไม่มีใครอื่นอยู่ในห้อง ส่วนรอยกับคาร์ม่านะหรือทำเพียงหัวเราะในความเขลาของแม็กซิม

“จะเอายังไงคาร์ม่า ลูกชายคนโตของนายปฏิเสธเงื่อนไขเองนะ” รอยซีฟัสมองดูเด็กสองคนที่ส่งสายตาให้กัน ทำให้นึกถึงความสัมพันธ์หวานและขมของตัวเองกับคาร์ม่า

“นั่นสิ โนเอล เจ้าอยากจะหมั้นกับดีทริชแทนพี่ชายเจ้าหรือเปล่า”

“แน่นอนครับท่านพ่อ” ไม่มีอะไรที่จะน่าดีใจไปได้มากกว่านี้อีกแล้ว

“ดีถ้าอย่างนั้นก็ให้พวกเด็กๆ เขาคุยกันไป โนเอลพ่อขอยืมห้องของเจ้าซักห้องนะ” คาร์ม่าลุกขึ้นยืนจากโซฟา สะบัดคางเป็นสัญญาณบอกให้รอยตามไป

“ดีทริชอยู่คุยกับโนเอลไปก่อนนะ” ดีทริชพยักหน้า เขามองตามพ่อบุญธรรมกับคาร์ม่าไป ไม่ได้รู้สึกแปลกใจเพราะความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ชัดเจนมากจากบทสนทนา

“ดีทริช” โนเอลสวมกอดเขาทันทีที่พวกพ่อออกจากห้องไป

“ฉันพอจะเป็นประโยชน์ให้นายหรือยัง”

“นายเป็นยิ่งกว่านั้นอีก โนเอล...ฉัน...” ดีทริชไม่รู้จะพูดอย่างไรดี เรื่องที่ผ่านมาระหว่างเขากับโนเอลมันมากเหลือเกิน ทั้งทะเลาะ ทั้งหลอกใช้ เขาไม่ใช่คนหน้าด้านพร้อมรุกเข้าหาหรือเอาเปรียบโนเอลได้ในทันที

“ไม่ต้องพูดอะไร เราสองคนจะหมั้นกันแล้ว ยังต้องเก็บเรื่องน่ารำคาญพวกนั้นมาคิดอีกหรือ จริง สิฉันจะเล่าเรื่องของนานะกับแม็กซิมให้นายฟัง”

โนเอลคลายอ้อมกอด ขยับตัวนั่งลงข้างๆ ดีทริช

“นายไม่โกรธที่ฉันหลอกใช้นายเพื่อแม่หรอกหรือ” ดีทริชถามเขาจ้องมองไปในแววตาที่ยิ้มได้ของโนเอล ตั้งใจหาความเกลียดชังในนั้น

“เลิกพูดเรื่องนั้นเถอะ จะสนใจทำไม” โนเอลกุมมือดีทริชเอาไว้ สุดท้ายคนที่น้ำตาคลอเต็มสองตาคือดีทริชนั่นเอง การได้รับความรักมากขนาดนี้มันตื้นตันใจเหลือเกิน

“อย่าร้อง มันทำให้ฉันปวดใจนะ” โนเอลซับน้ำตาด้วบริมฝีปากของตนก่อนจะเริ่มเล่าเรื่องของตนเองให้ดีทริชฟัง



คุยท้ายเรื่อง

แบบมีความอยากเขียนถึงรอยกะคาร์ม่า555 แต่เกรงจะออกทะเล5555

แสดงความคิดเห็นเป็นกำลังใจกันบ้างนะคะ

ตอนหน้ารอกันหน่อยน้า งานคอดจะยุ่งมั่กๆ แต่ไม่เกินอาทิตย์นึแน่ๆจ้า

รักนะจุ๊บๆ

ออฟไลน์ Kei

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
เอาอีกตอนได้มั๊ย

ออฟไลน์ neverland

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 653
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
คุณพ่อนอกจากนังจะมีสัมพันธ์แบบแอบมองห่างๆกับราชินีแล้วยังมีกับพ่อของโนเอล อันนี้พีคไปอี๊กกกกกกก  :katai1: แถมเค้ายังอะไรๆ กันมาก่อนด้วย อุแม่เจ้า เดาทางไม่ถูกเลย 55555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
จะได้หมั้นกันแล้ว  :katai2-1:

ออฟไลน์ แมวดำ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
อยากอ่านรุ่นพ่อแฮะ :katai5:

ออฟไลน์ lucifer miumiu

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 152
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +147/-1


บทที่35

ถึงแม้ว่าอีกไม่นานงานหมั้นของเขากับมาเรี่ยนจะถูกจัดขึ้นแต่เอฟเว่นกลับไม่มีความสุขเต็มทีเท่าใดนัก เพราะเพื่อนซึ่งควรร่วมมียินดีไปกับเขาด้วยหายตัวไป

เอฟเว่นไม่สามารถใช้เส้นสายของตนเองสืบหาได้ ทำแค่รอให้เซซิลลงมือช่วยเหลือเท่านั้นเอง เดือนกว่าที่ผ่านมา ทุกสิ่งทุกอย่างนิ่งสนิทไม่มีข่าวคราวใดใด เขารู้เพียงว่าดีทริชลาพักการเรียนชั่วคราว ข้อมูลเท่านี้ยิ่งทำให้ความเป็นห่วงเป็นใยเพิ่มมากขึ้นทุกทีๆ

“นายน้อย ท่านมาเรี่ยนครอสมารอแล้วขอรับ” เสียงบอกจากด้านนอกทำให้เอฟเว่นตื่นตัว เขาหยิบกระเป๋าตรงไปหาคนที่รออยู่

“ขอบคุณที่มารับทุกวันเลยนะ” คำทักทายแรกของเอฟเว่นเรียกรอยยิ้มจากมาเรี่ยน

“ขอบคุณทำไมมันเป็นหน้าที่ของว่าที่คู่หมั้นอย่างผมอยู่แล้ว” มาเรี่ยนคว้ามือของเอฟเว่นมาจับแล้วจูงเดินไปยังรถที่รออยู่ จากนั้นเปิดประตูเชิญให้คนรักขึ้นรถก่อนจะตามเข้าไปติดๆ

“เธอดูสีหน้าไม่ดีเลย คงเป็นเรื่องของดีทริช” เอฟเว่นก้มหน้าลงต่ำตอบรับด้วยเสียงที่เบาเหลือเกิน

“เป็นอะไรไป” มาเรี่ยนกุมมือของเอฟเว่นเอาไว้

“ฉันกังวลเรื่องของดีทริชมากจริงๆ นี่เขาหายไปเดือนกว่าๆ แล้ว”

“อย่างนี้มันทำให้ผมหึงนะ”

เอฟเว่นตื่นตัวลนลานทันที ก็คิดอยู่หรอกว่ามาเรี่ยนอาจจะหึงได้ ดังนั้นจึงพยายามไม่แสดงออก แต่ว่าวันนี้มันสุดๆ ของเขาแล้วจริงๆ

“ขอโทษนะ” เอฟเว่นคอตก มาเรี่ยนยิ้มอ่อนใจในท่าทางของคนรัก นิสัยขี้เกรงใจแม้แต่กับเขาอย่างนี้ ถึงจะบอกให้เอาแต่ใจได้เอฟเว่นกลับไม่เคยแสดงอาการนั้นซักครั้งเดียว

“เธอจะขอโทษทำไม ผมดูเป็นคนไร้เหตุผลขนาดนั้นเชียวหรือ” เอฟเว่นช้อนตามองหวาดๆ เมื่อเห็นรอยยิ้มอ่อนโยนจึงกล้าเงยหน้าขึ้นมามองเต็มสายตา

“ฉันเป็นห่วง ดีทริชจริงๆ นะ เขาหายไปนานมาก ฉันไม่รู้ว่าเขามีอันตรายหรือไปลำบากที่ไหน”

เอฟเว่นน้ำตาคลอ มาเรี่ยนใช้ผ้าเช็ดหน้าซับน้ำตาให้คนรัก

“อย่าร้องสิ ผมเชื่อว่าอีกไม่นาน ดีทริชจะกลับมาเรียนนะ”

“จริงนะหรือ”

“จริง” เอฟเว่นนึกด่าตัวเองภายในใจ ทำไมเขาถึงได้เป็นคนงี่เง่าอย่างนี้นะ มาเรี่ยนถึงขนาดต้องกลายเป็นคนโกหกเพื่อปลอบโยน เขาจะยิ้มแล้วเลิกกวนใจคนรักด้วยเรื่องของดีทริช ดังนั้นเอฟเว่นจึงส่งยิ้มให้มาเรี่ยน

“เธอยิ้มได้ผมก็ดีใจ” มาเรี่ยนใช้มือลูบเส้นผมเอฟเว่นไปมา ระหว่างการเดินทางไปยังโรงเรียน เอฟเว่นชวนคุยนั่นนี่ แต่ภายในใจเขากลับนึกถึงเรื่องเมื่ออาทิตย์ก่อน

การที่เขาบอกว่าอีกไม่นานดีทริชจะกลับมานั่นไม่ได้แค่โกหก เพราะเขาได้เจอเพื่อนคนนั้นมาแล้วกับตัวพร้อมกับพ่อบุญธรรมของฝ่ายนั้น รอย สมิธ

ในวันนั้นใครจะไปคาดคิดล่ะว่า รอย สมิธ จะใช้ให้ตระกูลฟีโอเร่หลอกเขากับท่านย่าให้ออกมาพบยังโรงแรม

“ได้พบกันอีกแล้วนะครับท่านป้า แล้วก็ยินดีที่ได้พบมาเรี่ยน”

มาเรี่ยนยังเก็บอารมณ์ได้ดี แต่ท่านย่าตกใจจนร้องเสียงประหลาดออกมา ความสนใจของเขาตอนนี้มุ่งไปที่

ดีทริชซึ่งมาพร้อมกับรอยสมิธ

               “แกนี่นะ ถ้าอยากพบฉันไม่เห็นต้องอ้อมค้อมขนาดนี้ จริงสินัดพบครั้งนี้ไอ้เจ้าคาร์ม่ามันเรียกฉันออกมา ไม่คิดเลยว่าแกจะมีสัมพันธ์อันดีกับหมอนั่นด้วย”

               “ดีจนท่านป้าต้องคิดไม่ถึงแน่ๆ ครับ”

               “แกต้องการอะไรก็รีบพูด แต่ก่อนอื่นให้เด็กๆ สองคนนี่ออกไปก่อน” แอนนี่ชี้นิ้วไปที่ดีทริชและมาเรี่ยนตามลำดับ รอยยักไหล่

               “เห็นจะไม่ได้ครับท่านป้า เด็กสองคนนี้เกี่ยวข้องกับสิ่งที่หลานจะพูดด้วย” แอนนี่สีหน้านิ่งเย็น ใบหน้าจริงจังของท่านย่าที่ไม่ได้เห็นนานแล้วทำให้มาเรี่ยนตื่นตัวเป็นพิเศษ

               “พูดมาสิฉันรอฟังอยู่”

               “ถ้างั้น” รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ “เรามาพูดถึงความสามารถพิเศษที่ติดตัวมาเรี่ยนก่อนจะดีไหมท่านป้า”

               แอนนี่เอามือทาบอก เธอกับหลานรักมองตากัน ทั้งๆ ที่ปิดบังไม่ให้ใครรู้แล้วแท้ๆ แต่รอยยังอุตส่าห์สืบค้นจนได้

               “ความสามารถในการควบคุมวิญญาณของสิ่งมีชีวิต ถ้าให้ใครรู้เข้าคงไม่ดีแน่ๆ สินะครับท่านย่า”

               แอนนี่เม้มปาก เธอมองดูรอยหัวเราะเสียงเจ้าเล่ห์ “ต้องการอะไรจากหลานคนโปรดของฉันรอยซีฟัส”   

               เมื่อได้ยินชื่อมาเรี่ยนก็นึกออกทันที รอยซีฟัสคือท่านอาน้องชายของท่านแม่ เขายังเห็นรูปเหมือนของท่านอาอยู่ในห้องรวมรูปของตระกูล แต่หน้าตาตอนนี้ไม่เหมือนกันซักนิด ปลอมตัวสินะ ก็ไม่แปลกเพราะสถานะของรอยซีฟัสคนทั่วไปรับรู้ว่าเป็นกบฏที่พยายามจะฆ่าราชินี

               “จริงๆ ต้องการให้ช่วยหลายอย่าง แต่ตอนนี้ เอาแค่ให้ท่านป้า เชื่อในสิ่งที่ผมบอกเล่ามาตลอดก็พอแล้ว”

               “ยังไง”

               “ผมขอพูดกับ หลานชายที่น่ารักจะดีกว่า”

               มาเรี่ยนส่งสายตาเป็นคำถามไปที่แอนนี่ พอท่านย่าอนุญาตเขาก็พร้อมที่จะคุย

               “มาเรี่ยนความสามารถในการควบคุมวิญญาณของหลาน มันทำให้หลานสามารถถอดวิณญาณและเห็นวิญญาณของคนที่มองด้วยใช่หรือไม่”

               “ใช่ครับ”

               “ถ้าอย่างนั้น ถ้าอาอย่างจะให้เรามองดูวิญญาณที่อยู่ในร่างของคนคนหนึ่งหลานจะช่วยอาได้ไหม”

               แอนนี่เดาได้ทันทีว่าหมายถึงใคร “แกจะใช้เหตุผลอะไรให้มาเรี่ยนเข้าพบราชินีได้ ท่านเอาแต่เก็บตัวอยู่ในปราสาทมาหลายปีแล้วและไม่มีทางพบคนแปลกหน้านอกจากฉันกับคาร์ม่า”

               “ท่านป้าถ้าคาร์ม่าและท่านป้าช่วยกันขอร้องยังไงท่านราชินีย่อมไม่ขัดแน่ๆ อีกอย่างงานหมั้นแสนยิ่งใหญ่ของมาเรี่ยน สมเหตุสมผลที่สุดในการใช้เป็นข้ออ้าง”

               แอนนี่นิ่งคิด ถ้าเป็นเธอชวนคนเดียวล่ะก็ราชินีไม่มาแน่ๆ แต่ถ้าเป็นคาร์ม่าที่ราชินีเอนเอียงเข้าหาตลอดในช่วงหลายปี โอกาสสำเร็จมีมากทีเดียว

               “แกต้องการแค่จะพิสูจน์ให้ฉันเห็นว่าราชินีเป็นตัวปลอมแค่นั้นนะหรือ มันต้องมีมากกว่านั้นสิ” รอยหัวเราะชอบใจ

               “แน่นอนครับท่านป้า ท่านป้าดูเด็กคนนี้สิครับ นี่คือดีทริชลูกบุญธรรมของผม”

               แอนนี่เอียงคอมองดูดีทริช รูปร่างหน้าตา ดูคล้ายกับใครบางคนแต่เธอยังนึกไม่ออก “เด็กนี่สำคัญตรงไหนรอยซีฟัส”

               “ลูกรักแสดงปานบนร่างกายของลูกให้ท่านย่าดูทีสิ”

               ดีทริชค่อยๆ จัดการปลดกระดุมเสื้อเปิดเผยให้เห็นปานรูปกุหลาบที่หน้าอก เป็นอีกครั้งที่แอนนี่ยกมือขึ้นทาบอก มาเรี่ยนมองดูสิ่งนั้นเช่นกันแต่ไม่เข้าใจว่ามันสำคัญตรงไหน

               “เรื่องนี้จะล้อเล่นกันไม่ได้นะรอยซีฟัส”

               “ผมไม่ล้อเล่นแน่ และหลังจากที่พิสูจน์แล้วว่าราชินีเป็นตัวปลอม ผมจะให้ท่านป้าเรียกร้องให้ราชินีพิสูจน์ความเป็นเลือดเนื้อของดีทริช”

               “แล้วถ้าเกิดเด็กนี่ไม่ใช่เชื้อสายของราชินีล่ะ”

               “ผมจะไม่มารบกวนท่านป้าอีก”

               “แกคิดว่าแค่นั้นมันจะจบหรือ ราชินีจะปล่อยแกไปง่ายๆ หรือไง”

               “ผมยอมเดิมพันทุกสิ่ง ขอแค่ช่วยเดียร์น่ากับลูกได้ก็พอ”

               “แก...บอกว่าต้องพึ่งความสามารถในการควบคุมวิญญาณของมาเรี่ยน ถ้าให้ฉันเดา แกจะบอกว่าเอลล่าใช้วิธีบางอย่างสิงสู่ร่างของราชินีสินะ” รอยยิ้มแทนคำตอบ

               “ถ้าแกจะให้ถอดวิญญาณเอลล่าออก มาเรี่ยนทำไม่ได้แน่ เพราะความสามารถของเชื้อพระวงศ์ต่อต้านความสามารถพิเศษรวมถึงเวทย์มนต์ทุกชนิด แล้วการสะท้อนกลับการโจมตีทางกายภาพด้วยอีกล่ะ มาเรี่ยนช่วยแกได้แค่พิสูจน์ความจริงเท่านั้นนะ”

               “เรื่องขับไล่วิญญาณของเอลล่าออกไปหลานมีวิธีอยู่แล้ว”

รอยมองไปที่ดีทริช แอนนี่เดาวิธีการไม่ถูกแต่คิดว่าดีทริชมีส่วนเกี่ยวข้องแน่ๆ

               “แล้วแกไม่คิดหรือว่า พอถอดวิญญาณของเอลล่าออก ราชินีอาจจะตายไปเลยก็ได้”

               “มันต้องลองสิครับท่านป้า สำหรับผมไม่ว่าจะทางไหนก็ได้ล้างแค้นให้เดียร์น่าอยู่ดี อาจจะต้องพึ่งความสามารถของมาเรี่ยนอีกครั้งในตอนที่ได้ราชินีตัวปลอมมาไว้ในมือ”

               “แกหมายถึงการทำลายวิญญาณให้สิ้นซากใช่ไหม”

               “ใช่ครับท่านป้า ถ้าเกิดข้อสันนิษฐานของหลานถูก หากเอลล่าถอดวิญญาณสิ่งร่างใครๆ ได้ ถึงไล่นางออกไปด้วยวิธีของหลาน นางก็ไปสิงร่างคนอื่นต่ออีก มีแต่ต้องให้มาเรี่ยนทำลายทิ้งเท่านั้น”

               “แกมั่นใจได้ยังไงว่าฉันจะให้ความร่วมมือกับแก ฉันอาจจะเข้าหาเอลล่าเพื่อใช้หล่อนเดินทางไปสู่อำนาจก็ได้ใครจะรู้”

               “ท่านป้าไม่ทำหรอกครับ” รอยอมยิ้ม

รอยยิ้มรู้ทันแบบนี้แอนนี่เคยชอบที่จะเห็นมันมาก่อน แต่เวลานี้เธอเกลียดมันนัก

               “หากท่านป้าแสวงหาอำนาจ ท่านป้าต้องผลักดันมาเรี่ยนให้เป็นรัชทายาททุกวิถีทาง และไม่มีทางหลีกให้คาร์ม่าควบคุมราชินียึดเอาอำนาจบริหารประเทศส่วนใหญ่ไปถือครองจนถึงตอนนี้

ท่านป้าไม่อยากแก้ไขให้ทุกอย่างมันถูกต้องหรือครับ เอลล่าเป็นคนของตระกูลเรา ทำผิดให้เสื่อมเสีย ท่านป้าสามารถร่วมมือกับหลานแก้ไขมันได้นะครับ”

               มาเรี่ยนมองดูท่านย่านิ่งคิดอยู่นานทีเดียว เขาไม่รู้ว่าท่านย่าจะตัดสินใจอย่างไร แต่อดส่งสายตาไปหาดีทริชไม่ได้ ฝ่ายนั้นทำแค่ยิ้มลำบากใจเท่านั้น

               ใครจะไปคาดคิดว่าเพื่อนของเขามีชาติกำเนิดที่ซับซ้อนอย่างนี้ มาเรี่ยนยังไม่ปักใจเชื่อเสียทีเดียว แต่ถ้าท่านย่าอนุญาตเขาก็อยากพิสูจน์ความจริงทั้งหมดเหมือนกัน

               “ถึงตอนนี้แกยังรักราชินีอีกหรือรอย” แอนนี่จ้องมองไปในดวงตาของรอยซีฟัส “แกอยากให้ราชินีรักแกตอบอย่างนั้นหรือถึงต้องทำขนาดนี้”

               “หลานไม่ต้องการให้เดียร์น่ามารักตอบ ความรักของหลานไม่ได้ต้องการการตอบแทน ขอให้ให้เดียร์น่ามีความสุขหลานก็พอใจแล้ว”

               “เข้าใจล่ะ ฉันจะให้ความร่วมมือก็ได้ ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายที่ฉันจะตามใจแกอย่างไร้ข้อกังขาอย่างนี้”

               “ขอบคุณมากครับท่านป้า”

               “จริงสิ แกใช่วิธีไหน ให้คาร์ม่าช่วยเหลือแกกันแน่ จิ้งจอกที่คอยแต่จะแว้งกัดนั่นได้ผลประโยชน์อะไรจากเรื่องนี้กัน” รอยซีฟัสอมยิ้ม

               “ท่านป้าไม่อยากรู้หรอกครับ”

               “หึ ถ้าแกไม่อยากบอกฉันก็ไม่ถาม แค่คิดว่าความบาดหมางของตระกูลครอสกับฟีโอเร่ที่มีมานาน คนอย่างแกทำแบบไหน คาร์ม่าถึงได้โน้มตัวลงมาทำตามความเอาแต่ใจของแกได้แบบนี้”

               “ถ้าอย่างนั้นผมกับลูกชายขอตัวกลับก่อนนะครับท่านป้า” แอนนี่แม้จะหงุดหงิดแต่ก็โบกมือไล่รอยกับลูกชายออกไป มาเรี่ยนฉวยโอกาสนั้นร้องถามดีทริช

               “นานจะกลับไปเรียนเมื่อไหร่ดีทริช”

               ดีทริชส่งสายตาไปยังพ่อบุญธรรม เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะได้กลับไปเรียนที่เดิมหรือเปล่า

               “ดีทริชจะกลับไปเรียนที่โรงเรียนเดิมในอีกไม่นานหลานชาย ไม่ต้องเป็นห่วงไปนะ”

               “ขอบคุณสำหรับคำตอบครับท่านอา”

               จากนั้นห้วงความคิดก็สะดุดลง เพราะเอฟเว่นเขย่าแขนเขาเบาๆ

               “ไม่สบายหรือเปล่ามาเรี่ยน”

               “เปล่าผมกำลังครุ่นคิดถึงเรื่องงานหมั้นของเรา นี่เธอได้เอาบัตรเชิญไปให้เซซิลด้วยหรือเปล่า”

               “อื้อ...”

               มันแน่นอนอยู่แล้วว่าต้องเอามา แถมเขายังมีบัตรเชิญในส่วนของดีทริชติดมาด้วย แต่ไม่รู้ว่าจะให้เจ้าตัวได้เมื่อไหร่

               “ถ้าผมเดาเธอคงเตรียมมาให้ดีทริชด้วยสินะ” เอฟเว่นพยักหน้า

               “นำมันติดตัวไว้ตลอดล่ะ ผมมั่นใจว่าเธอต้องได้พบดีทริชเร็วๆ นี้แน่”

               “นั่นสิเนอะ ดีทริชแค่พักการเรียนนี่นะ ยังไงก็ต้องกลับมาเรียนต่อแน่ๆ”

               เอฟเว่นดูสบายใจขึ้นนิดหน่อย ถึงแม้จะยิ้มได้ไม่เต็มที่ก็ตาม มาเรี่ยนอยากให้ดีทริชกลับมาเรียนให้เร็วขึ้นเพราะไม่อยากเห็นสีหน้าเศร้าใจของคนรักอีกแล้ว



คุยท้ายเรื่อง

คิดว่าถ้ามีโอกาสอยากจะเขียนตอนพิเศษของรอยกับคาร์ม่านะ แต่คงรอให้เรื่องหลักจบก่อน

โอ๊ยยยช่วงหลังๆ นี่เขียนยากมากกกก พลอตมันมี แต่วิธีคลายปมนี่ทำเอามึนไปหมดและ55555

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามกันตลอดนะค้าาาาาาาาา

แสดงความคิดเห็นเป็นกำลังใจกันบ้าง

ตอนหน้าเด๋วขอหาเวลาว่างแต่งก่อน งานคนเขียนเยอะมากกกกกกก

จะกองทับตัวอยู่แล้วนิ

รักนะจุ๊บๆ

ออฟไลน์ Kei

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
อยากอ่านคาม่ากับรอย ใครรุกใครรับเดาว่าคาม่ารุกนะ

ออฟไลน์ แมวดำ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
อยากให้ไรท์ลงถี่ๆเลยกำลังลุ้น

ออฟไลน์ nekodollzz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
อ่านรวดเดียวเลยค่ะ
บอกได้แค่ว่าตอนนี้คนอ่านง่วงมาก 5555555

ออฟไลน์ lucifer miumiu

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 152
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +147/-1
บทที่36

“ท่านไม่พูดกับฉันเลยตลอดสิบปีเต็มนะ”

เอลล่ามองดูเดียร์น่านั่งกอดเข่าอยู่ในมุมเล็กๆ เธอคนนั้นถูกขังอยู่ในที่คับแคบของภายในจิตใจไม่สามารถออกมานอกอาณาเขตได้

“เราอยู่ร่วมกันมาในร่างนี้เกินสิบปีแล้ว ท่านยังทำใจไม่ได้อีกหรือ”

เอลล่ายิ้มเยาะ ทุกครั้งที่เธอหลับฝันเธอจะสามารถเข้ามาพูดคุยกับเดียร์น่าในจิตใต้สำนึกได้ แต่มันก็น่าเบื่อที่คนคนนี้ไม่ยอมมีปฏิสัมพันธ์กับเธอเลย

“เป็นความผิดของท่านเองนะที่เมินเฉยฉัน ฉันอุตส่าห์มอบความรักและฝากความหวังให้ท่านตั้งเท่าไหร่”

เดียร์น่ายังคงนิ่งเงียบ เอลล่ายังจดจำความรู้สึกของเธอเมื่อสิบกว่าปีก่อนได้ดี ความเสียใจที่ไม่สามารถมีบุตรได้บวกกับความริษยาที่สวามีให้ความรักไม่มากพอ ดังนั้นเมื่อมันถึงขีดจำกัด เธอจึงไปหาลีฟาตั้งใจจะสิงร่างแล้วใช้ชีวิตอย่างมีความสุขแทนที่นังผู้หญิงที่ช่วงชิงทุกอย่างไป

ใครจะไปคาดว่าผู้หญิงที่พึ่งคลอดใหม่ๆ จะมีแรงสู้เธอได้ เห็นได้ชัดว่าถูกฝึกมาให้เป็นนักรบผิดกับเธอ เพราะงั้นทุกอย่างถึงพลาดไปหมด สุดท้ายเพราะเกรงกลัวโทษทัณฑ์จึงลงมือสิงร่างเดียร์น่าอย่างฉุกละหุก

“ใครจะไปอยากพูดกับคนที่ใช้ร่างของเราทำเรื่องโสมม”

ในที่สุดก็เปิดปากพูดจนได้ เอลล่าแสยะยิ้ม ทว่ายังไม่ทันจะได้พูดอะไรเธอก็ตื่นนอนเสียก่อน เมื่อลืมตาตื่นขึ้นเธอพบว่าคาร์ม่า ฟีโอเร่ ยืนแต่งตัวอยู่ข้างเตียง

“ท่านจะไปแล้วหรือคะ”

“ใช่”

“นานแล้วที่ท่านไม่ได้มาพบหน้าฉัน ท่านจะไม่อยู่สนทนากับฉันหน่อยหรือคะ”

“กลายเป็นคนขี้เหงาตั้งแต่เมื่อไหร่”

คาร์ม่าส่งยิ้มทรงเสน่ห์มา ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะที่เธอตกอยู่ในความลุ่มหลงคนคนนี้

ทั้งที่ก่อนหน้านั้นหลายปียังกลัวบุรุษผู้นี้อย่างหนูกลัวงู ยังจดจำครั้งแรกที่คาร์ม่าเข้ามาข่มขู่ใช้กำลังกับเธอได้เป็นอย่างดี จากตอนนั้นด้วยความกลัวก็เลือกจะทำตามคำสั่งทุกอย่าง เดี๋ยวนี้แม้จะฝากฝังชีวิตไว้ในมือ แต่ใช่ว่าไม่หาหนทางเผื่อไว้ให้ตัวเอง

เธอเข็ดกับการทุ่มเทความรักให้มากเกินไปตั้งแต่ครั้งเดียร์น่าแล้ว ดังนั้นจึงแอบซ่องสุ่มคนไว้ส่วนหนึ่งเพื่อใช้สอยทำงานส่วนตัวโดยไม่ให้คาร์ม่ารู้

“จริงสิ ยังจำเรื่องที่แอนนี่เชิญเธอให้ไปงานหมั้นของหลานชายได้สินะ”

คาร์ม่าแต่งตัวเสร็จแล้ว เอลล่าในร่างราชินีมองดูอีกฝ่ายด้วยความชื่นชม อดนึกถึงการร่วมรักที่กินเวลายาวนานเมื่อครู่ไม่ได้ เธอคิดว่าเข้ากับเขาได้ดีในด้านนี้แต่ส่วนความรู้สึกเธอรู้มานานแล้วว่าเป็นแค่หมากตัวหนึ่งของเขา

จะใส่ใจทำไมในเมื่อยังไงเธอเป็นหมากสำคัญที่จะทำให้อำนาจคงอยู่ในมือ ยังไงเสียเขาจะไม่มีวันเขี่ยเธอทิ้ง

“จำได้ค่ะ”

“เธอตอบตกลงไปซะ”

“จำเป็นขนาดนั้นเลยหรือคะ” เอลล่าลุกขึ้นแต่งตัวบ้าง

“เพราะว่าฉันต้องการให้เธอไปไงล่ะ” คาร์ม่ายิ้มกว้างก้าวออกจากห้องไปโดยไม่พูดอะไรอีก

สัญชาติญาณของเธอเชื่อว่ามันต้องมีอะไรซักอย่าง เอลล่าเรียกเงาลับของเธอออกมาทันทีที่คาร์ม่าจากไป

“มีอะไรให้รับใช้ฝ่าบาท”

ช่วยตามสืบเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ให้ฉันที” ประโยคต่อมาเธอกระซิบเสียงแผ่ว เงาจากไปทันทีที่ได้รับคำสั่ง

ใครจะไปคิดล่ะว่าในที่สุดก็ได้เจอกับดีทริชจนได้ เอฟเว่นดีใจจนพูดไม่ออกสิ่งที่ทำอย่างแรกคือวิ่งเข้าไปกอดรัดแน่นๆ

“นายหายไปไหนมาทริช”

“เอ่อ เรื่องมันยาวน่ะ” ดีทริชคิดไว้แล้วว่าจะแก้ตัวอย่างไรดี เรื่องนี้มาเรี่ยนมาขอร้องไว้ แต่ถึงฝ่ายนั้นไม่พูดเขาก็ไม่คิดลากเอฟเว่นมาเกี่ยวข้องด้วยแน่นอน

“พอดีว่าแม่ของฉันแต่งงานใหม่น่ะ แล้วจากนั้นท่านก็ป่วยหนักกะทันหัน ฉันก็เลยต้องดูแลท่านจนกว่าจะทุเลาขึ้น”

ถึงกับต้องขาดเรียนเป็นเดือนเลยนะหรือ เอฟเว่นคิดว่าอาจจะมีอะไรซ่อนอยู่มากกว่านั้น แต่ถ้าดีทริชเลือกจะไม่บอก เขาก็ทำได้แค่ทำเป็นไม่รู้

“แล้วนี่มาพร้อมกันกับเซซิล แสดงว่าสองคนเจอหน้ากันก่อนแล้วใช่ไหม น่าจัดการให้หายแค้นมากเลยนะ”

เอฟเว่นสะบัดหน้ากอดอกรอให้เพื่อนทั้งสองง้องอน เขาไม่เคยแสดงกิริยาอย่างนี้มาก่อน แต่เพราะมันสุดๆ จริงๆ น้อยใจที่ทั้งสองคนแอบปิดบังอะไรไว้แน่ๆ

“น่าๆ อย่าโกรธเลยนะ ที่จริงฉํนกับทริชพึ่งจะเจอกันเมื่อสามวันก่อนเอง แล้วมันก็ยุ่งๆ เลยลืมบอกนายน่ะ”

เซซิลแก้ตัวเข้าไปกอดเอฟเว่นจากด้านหลัง คนถูกกอดไม่ใช่คนคิดเล็กคิดน้อยจึงหายโกรธในทันที

“จริงสิ รอเดี๋ยวนะ ทริช” เซซิลคลายอ้อมกอด เอฟเว่นไปยังกระเป๋าหยิบเอาบัตรเชิญสองใบมาหาเพื่อนๆ

“นี่ บัตรเชิญงานหมั้นของฉัน” เอฟเว่นยื่นให้ดีทริชและเซซิลตามลำดับ

“หมั้นกับมาเรี่ยนงั้นหรือ” ดีทริชยิ้มเจ้าเล่ห์

“เร็วจังเลยนะ ความรักสายฟ้าฟาดหรือไง ไหนช่วยเล่ามาให้ฟังทีสิ” ไม่พูดเปล่ายังเหนี่ยวคอเอฟเว่นมากอดรัด กระซิบเย้าแหย่ข้างหู

“ถ้าไม่เล่าล่ะก็จะทำอะไรดีน้า...” ดีทริชยื่นหน้าเข้าไปใกล้ทีละนิด

จะจูบลงมาอย่างนั้นหรือเอฟเว่นหลับตาปี๋ ดีทริชจัดการหอมแก้มลงมาฟอดใหญ่ ที่ทำอย่างนี้เพราะเห็นมาเรี่ยนเดินมานั่นแหละ

“ฉันเป็นคนแรกที่จูบเอฟเว่นใช้หรือเปล่ามาเรี่ยน” เอฟเว่นสะดุ้งเมื่อพบว่ามาเรี่ยนมาหาถึงห้อง

“ใช่ที่ไหน นายน่าจะรู้ดีนี่ดีทริช”

“งั้นรึ” ดีทริชโคลงศีรษะไปมา สายตาซุกซนที่มองมาทำเอาเอฟเว่นหน้าแดงไปหมด

“มาเรี่ยนมาทำอะไรที่ห้องเรียนของโอเมก้าหรืออีกเดี๋ยวจะเข้าเรียนแล้วนะ” ดีทริชถามยังคงกอดรัดเอฟเว่นอยู่

“ผมเดาว่านายน่าจะมาโรงเรียนวันนี้แน่ๆ ก็เลยคิดจะมาแจ้งเรื่องงานสภานักเรียนน่ะ”

“อ้อเข้าใจแล้ว ฝากบอกประธานด้วยนะว่าฉันจะเข้าไปช่วยงานตั้งแต่วันนี้เลย”

มาเรี่ยนพยักหน้ารับ เอฟเวนมองสลับไปมาระหว่างดีทริชกับคนรัก เริ่มจะรู้สึกว่านอกจากเซซิล มาเรี่ยนก็เป็นอีกคนที่น่าจะรู้ความลับของเพื่อนสนิท

หลังเลิกเรียนเอฟเว่นเดินทางกลับบ้านด้วยรถของมาเรี่ยน ระหว่างอยู่บนรถเขาแสดงออกถึงความไม่พอใจชัดเจน

“เธอโกรธอะไรผมอยู่สินะ”

“ใช่”

“มีเรื่องอะไรทำไมไม่พูดออกมาเลยล่ะ”

“ถึงพูดไปนายก็อาจจะไม่บอกฉันน่ะสิ” สีหน้าของเอฟเว่นดูหม่นหมอง มาเรี่ยนยิ้มอ่อนใจ

“ถ้าให้ผมเดาคงเป็นเรื่องดีทริช” เอฟเว่นตอบรับเสียงอ้อมแอ้ม ยังคงก้มหน้าก้มตาอยู่

“ผมจะไม่โกหกเธอนะ ผมเองก็ได้เจอดีทริชเมื่อไม่กี่วันก่อน”

“ถ้าอย่างนั้นทำไมถึงไม่บอกกันล่ะ” เอฟเว่นหันมามองหน้าจนได้ และกำลังงอนอย่างเห็นได้ชัด

“ก็แค่ลืม ผมยอมรับผิดทั้งหมดนี่เลย”

ใครจะไปคาดคิดว่าจู่ๆ มาเรี่ยนก็แนบจูบลงมา เอฟเว่นแข็งค้าง หลังจากผละออกไปใบหน้าก็แดงซ่านทั้งเขินทั้งงอน

“ผมขอโทษด้วยการจูบแล้วนะ”

“แบบนี้มันขอโทษที่ตรงไหน” เอฟเว่นถามเสียงตะกุกตะกัก

“ก็เธอชอบให้ผมจูบไม่ใช่หรือ ทุกครั้งที่เราจูบกันสีหน้าเธอจะดูดีเคลิบเคลิ้มเป็นพิเศษ”

มาเรี่ยนยิ้มเจ้าเล่ห์ เอฟเว่นไม่สามารถปฏิเสธคำพูดของคนรักได้ในเมื่อมันเป็นเรื่องจริงทั้งหมด

“ให้ผมจูบเธออีกทีไหม คราวนี้มาลองจูบล้ำลึกแบบผู้ใหญ่ ว่าไง...”

มาเรี่ยนขยับเข้าไปใกล้มากขึ้น เอฟเว่นรู้สึกเหมือนถูกคุกคาม แต่ก็ยอมให้คนรักประทับจูบตามใจชอบ

จูบแบบผู้ใหญ่ให้ความรู้สึกเปียกชื้น ลิ้นร้อนๆ เข้ามาพัวพันภายในปากรุกเร้าอย่างเอาแต่ใจจนไล่ตามไม่ทัน หลังจากถอนจูบเอฟเว่นเอนซบมาเรี่ยนด้วยดวงตาปรือปรอย คิดอะไรไม่ออกลืมเลือนเรื่องของดีทริชไปจนหมด

“ชอบไหม”

เอฟเว่นไม่ตอบคำถามได้แต่ซุกใบหน้าแดงก่ำจมหายเข้าไปในอกของมาเรี่ยน

“ผมชอบมันนะ ถ้าเธอจะอนุญาต เราจะจูบกันแบบนี้บ่อยๆ”

“อะเอ่อ ถึงบ้านของฉันแล้วขอตัวก่อนนะ”

จังหวะดีทีเดียว เอฟเว่นรีบลงจากรถไปทั้งที่เนื้อตัวร้อนผ่าว จริงๆ ไม่อยากปล่อยคนรักไปง่ายๆ แต่ก็ประสบความสำเร็จในการทำให้ลืมเลือนเรื่องดีทริชไป คราวหน้าต้องคิดดูให้ดีว่าควรจะใช้วิธีไหน สิ่งที่อยู่ในหัวทำให้มาเรี่ยนอมยิ้มไปตลอดทาง

เมื่อมาถึงคฤหาสน์ตระกูลครอส ทันที่ที่ย่างเท้าเข้าสู่ภายใน หัวหน้าพ่อบ้านก็มาเชิญเขาไปพบท่านย่าทันที

“ราชินีตอบรับคำเชิญแล้วนะ”

“อย่างนั้นหรือครับ” มาเรี่ยนนั่งลงบนโซฟาฝั่งตรงข้ามแอนนี่

“ท่านย่า ถ้าหากว่าผมมองดูแล้วพบว่าในร่างราชินีไม่ได้มีวิญญาณสิงสู่เราจะทำอย่างไรต่อไปครับ”

แอนนี่มีสีหน้าขรึม ไม่บ่อยที่ท่านย่าซึ่งร่าเริงจะเป็นแบบนี้

“ย่าอาจจะยังไม่ทำอะไรรอยซีฟัส ยังไงก็ตามอยากจะตรวจเลือดเนื้อของเด็กดีทริชนั่นก่อน”

แอนนี่เคยคิดว่าใบหน้าเด็กนั่นคลับคล้ายคลับคลาใครบ้างคน ตอนนี้พอดูรูปเก่าๆ ถึงได้จำได้ เด็กนั่นอาจเป็นญาติทางฝั่งไหนซักทางของราชินี หรือไม่ก็คือรัชทายาทตัวจริง ทุกสิ่งต้องได้รับการพิสูจน์





คุยท้ายเรื่อง



ช่วงนี้ไม่มีฉากหวานๆ ของโนเอลกับดีทริชเลยน่อ มีแต่เรื่องเคลียปมล้วน ถ้าน่าเบื่อขออภัยนะคะ

จะว่าไปมีคนส่ง แฟนอาร์ตมาให้เรา เป็นรูป คาร์ม่ากับ รอยซีฟัส น่ารักมาก ฟิินเลยค่า

เราลงรูปที่นี่ไม่เป็นเลยไปลงในช่องทางการลงที่เว็บอื่นนะคะ สามารถไปหาดูได้

555555 เริ่มจะมีพลอตคู่นี้ในหัวละค่ะ คิดไว้แล้ว แต่ต้องทำเรื่องหลักให้สุดความสามารถก่อน

อยากจะกลับมาแต่งรัวๆ ทุกวัน แต่ยังมีงานอีกเยอะเลยค่ะ


ออฟไลน์ shiroinu

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 308
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
 จิ้ม :z13: :z13: บวกเป็ดจ้าาา :L1: ใกล้ถึงงานหมั้นรึยังนะอยากรู้แล้วจะเป็นยังไงต่อออ

ปอลิง. แอบไปดูแฟนอาร์ตมา โฮกกกก วาดดีเฟร่อ งานดีขนาดไม่ได้ลงเส้นหลัก เห็นแล้วคันไม้คันมืออยากวาดบ้าง แต่ไม่น่าจะได้อย่างเค้า :undecided: :hao5: :katai1: :mew5:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-03-2018 22:19:47 โดย shiroinu »

ออฟไลน์ Kei

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
เอลล่าแม่งมั่วมาก เดี๋ยวจะโดนเขี่ยแหล่วนะแก

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
จะรออ่านตอนต่อไปนะคะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ oilzaza001

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 619
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
งงคาร์ม่า ไหนบอกว่าหลงรอย แต่ไปนอนกับเอลล่าเนี่ยนะ?? ผู้ชายมักมากกก เบื่ออ สมแล้วที่รอยไม่เอา เอลล่าก็ปากบอกรักเดียร์น่า สามีแบ่งความรักไม่เท่ากันเลยทำแบบนั้น โทษคนอื่นไปอีกกก ขี้อิจฉาเองแท้ๆ แถมยังไปมั่วกับคาร์ม่าอีก นิสัยอยู่ด้วยกันๆด้นะสองคนนี้ เหมาะสมกัน เหอออะ//อิน 55555

ออฟไลน์ แมวดำ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
คาม่าร้าย

ออฟไลน์ lucifer miumiu

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 152
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +147/-1


บทที่37

          หลังจากแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยมาเรี่ยนก็เดินไปยังห้องนั่งเล่นตั้งใจจะรอพูดคุยกับท่านย่าก่อนออกไปรับเอฟเว่นไปยังงานหมั้นของดีทริช

               เขากับเอฟเว่นรู้เรื่องนี้เมื่อสามวันก่อน ตอนที่คนรักได้ข่าวจากดีทริชก็ตกตะลึงจนพูดไม่ออก เขายังจำเหตุการณ์ได้ชัดเจน

               “เอ๊ะ...ทริชไหนพูดใหม่อีกทีสิ” เอฟเว่นงุนงงจับต้นชนปลายไม่ถูกถึงจะได้รับบัตรเชิญมาจากดีทริชแต่ยังสับสนหนัก

               “ก็นี่ไงบัตรเชิญไปงานหมั้นของฉัน” ดีทริชหัวเราะท่าทางเอ๋อๆ ของเอฟเว่นก็คิดอยู่หรอกว่าต้องมีปฏิกิริยาประมาณนี้

               “เซซิล นายไม่ตื่นเต้นเลย อย่าบอกนะว่ารู้อยู่แล้ว” เอฟเว่นหันไปถาม เซซิลหัวเราะชอบใจพลางชี้ให้ตัวหนังสือบนบัตรเชิญ

               “ในบัตรเชิญก็บอกอยู่ว่าเป็นงานหมั้นระหว่าง ดีทริชกับโนเอล อลองโซ นั่นน่ะมันพี่ชายของฉันนะ”

               “เอ๊ะ...เอ่อ...ล..เหลือเชื่อจังเนอะ...มาเรี่ยน...” เอฟเว่นหันไปหาคนรัก มาเรี่ยนยิ้ม

               “ผมรู้อยู่แล้ว” เพราะนึกอยากเห็นสีหน้าเอ๋อๆ น่ารักๆ ของคนรักให้มากขึ้นจึงบอกความจริงออกไป เอฟเว่นอ้าปากพะงาบๆ ต่อมาก็ไหล่ตกหดหู่จนน่าสงสาร

               “มีฉันคนเดียวหรือที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย”

               “เราไม่ได้คิดจะปิดบังนะ แต่...ขอโทษนะเอฟเว่นที่บอกนายช้าไป”

เอฟเว่นรู้สึกดีขึ้นทันทีที่ดีทริชขอโทษ เขาไม่ใช่คนคิดเล็กคิดน้อย ดีทริชกลับมาอยากปลอดภัยก็ดีแล้ว แถมยังมีเรื่องน่ายินดีอีกด้วย เขาไม่ควรหาเรื่องให้เพื่อนสนิทเสียใจ

               “ช่างเถอะฉันไม่โกรธซักนิด”

               นึกๆ ดูแล้วมิตรภาพของโอเมก้าทั้งสามช่างแน่นแฟ้น มาเรี่ยนดีใจที่คนรักมีเพื่อนสนิทที่ดี มันทำให้เขาไม่ต้องเป็นห่วงมากนัก

               “นายน้อยนายหญิงกลับมาแล้วขอรับ” หัวหน้าพ่อบ้านเข้ามารายงาน มาเรี่ยนคิดว่าอีกเดี๋ยวท่านย่าต้องมายังห้องนี้จึงนั่งจิบชารอเงียบๆ

               “อ้า..เตรียมตัวเสร็จแล้วรึ มาเรี่ยน”

               “ครับท่านย่า”

               มาเรี่ยนมองดูท่านย่าลดตัวนั่งบนโซฟา สีหน้าท่าทางดูนิ่งขรึมเป็นการเป็นงาน

               “การตรวจเลือดเนื้อของดีทริชเป็นอย่างไรบ้างครับท่านย่า”

               “ไม่ว่าจะใช้วิธีไหนก็ลงตัวทั้งหมด ดีทริชคือเลือดเนื้อเชื้อไขของราชินีโดยไม่มีข้อกังขา”

               “ถ้าอย่างนั้น...”

               “เหลือแค่ให้เจ้าดูว่าในร่างราชินีมีวิญญาณของเอลล่าสิงสู่จริงหรือเปล่าเท่านั้น ย่าเหนื่อยเหลือเกิน คิดๆ ดูแล้วถ้าเรื่องทั้งหมดเป็นอย่างที่รอยซีฟัสพูด ก็เป็นย่าเองที่ปล่อยให้คาร์ม่าเล่นลูกไม้ทำตามใจชอบมานานแสนนาน”

               “ก็ท่านย่าไม่ได้แสวงหาอำนาจเหมือนท่านรุ่นก่อนๆ นี่ครับ”

               “ถึงไม่แสวงหาอำนาจ แต่ตระกูลครอสก็เป็นหนึ่งในสองตระกูลที่ปกป้องราชวงศ์มานานแสนนาน ใครจะไปคิดว่าไอ้เจ้าคาร์ม่าที่สืบทอดเจตนารมณ์มาเช่นกันจะกล้าทำกับราชินีแบบนี้”

               “หลังจากช่วยราชินีและดีทริชแล้วเราจะไม่ทำอะไรกับคาร์ม่า ฟีโฮเร่เลยหรือครับ”

               “จะทำอะไรได้เล่า” แอนนี่ถอนหายใจ “ท่านดีทริชกำลังจะหมั้นหมายกับโนเอล อลองโซลูกคนหนึ่งของคาร์ม่า”

               นี่เป็นเงื่อนไขที่คาร์ม่ายื่นมาสำหรับการร่วมมือทางการเมือง ตามจริงหากเรื่องมันเป็นอย่างที่รอยซีฟัสพูดหลังกำจัดราชินีตัวปลอม เธออาจสามารถเล่นลูกไม้ตลบหลังคาร์ม่าได้ แต่เธอไม่รู้ว่ารอยซีฟัสคิดอย่างไร นอกจากนั้นความรักใคร่กลมเกลียวของท่านดีทริชกับโนเอล อลองโซ ชัดแจ้งจนเธอรู้สึกเกรงกลัวต่อบาป

               การแยกคนรักออกจากกันไม่ใช่สิ่งที่เธอชอบ ตามจริงเธอเองก็แก่แล้ว มีความคิดว่าอีกไม่นานจะลงจากตำแหน่งปล่อยให้มาเรี่ยนกุมบังเหียนตระกูลและเผ่าแวมไพร์ต่อจากตน เห็นทีคงได้เวลาแล้วล่ะมั้ง

               “เจ้าว่า ย่าควรทำอย่างไรกับสถานะการณ์ตอนนี้ดี”

               “ตระกูลเรามีหน้าที่ปกป้องเชื้อพระวงศ์ ตอนนี้ดีทริชอาจเป็นเชื้อพระวงศ์ที่เหลือเพียงคนเดียว หากดีทริชต้องการพวกเราเมื่อไหร่เราค่อยเคลื่อนไหวกันในตอนนั้นเถอะครับ”

               “อ้า...จริงสิ ย่าเองก็ต้องเตรียมตัวไปงานหมั้นของท่านดีทริชกับเด็กอลองโซนั่นเหมือนกัน ไม่ได้ออกงานมงคลหรือสังสรรค์นานแล้ว ตื่นเต้นเหมือนกันนะ”

               “อย่างนั้นก็รีบเตรียมตัวเถอะครับ เราจะได้ออกไปรับเอฟเว่นด้วยกัน”

               แอนนี่พยักหน้าก่อนจะไปยังห้องส่วนตัวอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสียใหม่

               จริงๆ แล้วคนที่มางานเลี้ยงทุกคนควรจะสนุกและร่วมยินดีไปกับเจ้าของงาน แต่แม็กซิมกลับไม่คิดอย่างนั้น เขาตามติดมาในงานเพื่อดูหน้าไอ้โนเอลที่ต้องถูกบังคับให้หมั้นหมายกับของเหลือเดินที่มันเองทิ้งไปแล้วครั้งหนึ่ง

               ทีแรกมั่นใจว่ามันจะต้องอารมณ์เสียมากแน่ๆ แต่ไอ้สีหน้าเปี่ยมสุขนี่มันคืออะไรไม่มีอาการของคนถูกบังคับเลยแม้แต่นิดเดียว

               “มันยังไงกันแน่วะ” แม็กซิมขบเคี้ยวฟันอย่างหงุดหงิด ไม่ว่าไอ้หน้าไหนในงานก็ต่างพูดชื่นชมความเหมาะสมของเศษเหลือเดนกับโนเอลกันไปทั่ว มันน่าหมั่นไส้ อยากอ้วกออกมาให้หมดพุงเลยทีเดียว

               กลับดีกว่า แม็กซิมเหม็นเบื่อที่จะมองดูความสุขของไอ้โนเอล จังหวะที่หมุนตัวกลับก็ชนเข้ากับหญิงสาวคนหนึ่ง

               “เดินยังไงวะ” แม็กซิมโวยวายแต่พอเห็นหน้าตาสวยๆ ของผู้หญิงคนนั้นก็เปลี่ยนท่าที

               “สาวน้อย อยากไปสนุกกับฉันไหมล่ะ” หญิงสาวยิ้มยั่วยวน พลางลากจูงแม็กซิมไปยังที่ลับตา

               เมื่ออยู่ในที่เงียบสงัด สองร่างก่ายกอดฟัดเหวี่ยงกันอย่างหนักหน่วง ขณะที่กำลังแลกจูบดูดดื่มแม็กซิมเจ็บเหมือนถูกเข็มทิ่มที่หลังคอ กว่าจะรู้ตัวว่าโดนเล่นงานสติสตางค์ก็ค่อยๆ มืดดับ

               “แก...นังผู้หญิง...โส...”

               แม็กซิมลืมตาตื่นขึ้นก็พบว่าตนอยู่ในที่ไม่คุ้นเคย ดีดตัวลุกขึ้นสิ่งแรกที่เห็นคือคนชุดดำกับสตรีในชุดหรูหราแถมยังสวมหน้ากากปิดบังหน้าตาเอาไว้

               แม็กซิมไม่รอช้ากลายร่างเป็นแวร์วูฟ เข้าจู่โจมผู้หญิงที่น่าจะอ่อนแอที่สุดตรงๆ ทว่าวินาทีที่แตะถูกตัวเข้าก็ถูกดีดออกอย่างแรงไปกระแทกกำแพง

               “แกเป็นใครวะ” แม็กซิมตะคอกถาม ไม่กล้าโจมตีซ้ำได้แต่ยืนทำท่าขู่ดูเชิงศัตรูไปก่อน

               “ยังไม่รู้อีกหรือว่าเราเป็นใคร คนที่สามารถสะท้อนการโจมตีทั้งเวทย์มนต์และกายภาพได้ น่าจะมีแต่เราเพียงคนเดียวในจูปิเตอร์”

               ราชินีอย่างนั้นรึ?

               “จะรู้ได้ยังไงว่าเป็นราชินีตัวจริง ไหนขอดูหน้าหน่อยสิ”

               วาจาสามหาวทำให้ลูกน้องชุดดำคิดจะสั่งสอน แต่สตรีในชุดหรูหราห้ามเอาไว้เธอปลดหน้ากากเผยให้เห็นรูปโฉม แม็กซิมเมื่อกระจ่างตาก็รีบทำความเคารพอย่างนอบน้อม

               “องค์ราชินีมีอะไรให้รับใช้พะยะค่ะ”

               “ก็ไม่มีอะไรมาก เราก็แค่ถูกใจความฉลาดเฉลียวของเจ้า ว่าไงมาตกลงธุรกิจกับเราดีไหม นั่งลงสิ”

               แม็กซิมนั่งลงตามสั่ง ในหัวครุ่นคิดว่ามีอะไรกันแน่ ราชินีถึงเรียกหาเขา ตามจริงมันควรจะเป็นท่านพ่อ หรือว่าเขาจะมีประโยชน์และความสามารถเหนือกว่าท่านพ่อกันราชินีถึงเรียกใช้เขาโดยตรง นึกลำพองใจอย่างที่สุด

               “เจ้านี่มันน่าสงสารนะ”

               “ยังไงฝ่าบาท” แม็กซิมงุนงง

               “ก็ถูกคาร์ม่าเขี่ยทิ้งอย่างไม่ใยดีแล้วนี่”

               “ฝ่าบาทพูดอะไรพะยะค่ะ”

               “เจ้าเองก็เป็นคนที่ถูกเขี่ยทิ้งเหมือนเรา โนเอลจะได้เป็นผู้สืบทอดแทนเจ้า และดีทริชก็จะมาแทนที่เรา พูดแค่นี้คงเข้าใจได้มั้ง”

               แม็กซิมก็ไม่ใช่คนโง่เง่า เขาปะติดปะต่อเรื่องราวได้ในทันที

               “ฝ่าบาทจะบอกว่าไอ้เศษเดน เอ๊ย...ดีทริชนั่นเป็นเชื้อสายราชวงศ์”

               “ใช่เป็นลูกของเราเอง” เอลล่าในร่างเดียร์น่ายิ้ม

               “จะเป็นไปได้อย่างไร ในเมื่อรัชทายาทก็สิ้นพระชนแล้วมีพระศพให้เห็นอยู่”

               “เราก็อยากจะรู้เหมือนกัน แต่เพราะคาร์ม่ากับแอนนี่ ไม่ได้ตรวจสอบให้เราเห็นกับตา สองคนแอบวางแผนล้มล้างบัลลังค์เรา เราจึงหวังให้เจ้าช่วยจับตัวดีทริชมาอย่างลับๆ เพื่อให้เราพิสูจน์ด้วยตัวเอง”

               “กระหม่อมจะได้อะไรตอบแทนฝ่าบาท”

               “หากดีทริชเป็นบุตรเราจริง เราจะให้ดีทริชแต่งงานกับเจ้า แต่ยังมีงานใหญ่ที่เจ้าต้องทำอีกอย่าง”

               “อะไรฝ่าบาท”

               “เจ้าไม่คิดบ้างหรือว่าคาร์ม่านอกจากจะลำเอียง การคงอยู่ของเขายังเป็นอุปสรรคขวางทางเจ้า”

               คำพูดของราชินีเป็นสิ่งที่อยู่ในใจแม็กซิมมานานเต็มที พอถูกสะกิดเตือนไฟแห่งความแค้นคืองก็ลุกโชน ทำไมจะไม่คิด หลายๆ ครั้งที่ท่านพ่อไม่เห็นหัวเขา ทำเหมือนเขาเป็นไอ้โง่ ตามจริงมันน่าจะถึงเวลาที่ท่านพ่อจะลงจากอำนาจได้แล้ว

               แต่กลับต้องมาระแวงอยู่ตลอดเวลาว่าไอ้โนเอลจะคว้าเอาทุกอย่างไปจากเขา แถมครั้งนี้ยังแสดงออกชัดแจ้งท่านพ่อผลักดันให้ไอ้โนเอลหมั้นหมายกับดีทริชที่อาจเป็นรัชทายาท นี่ไม่เท่ากับว่าอนาคตไอ้โนเอลจะกลายเป็นกษัตริย์

               ให้อภัยไม่ได้ ขีดจำกัดของแม็กซิมถึงที่สุดแล้ว

               “ฝ่าบาทจะให้หม่อมฉันทำยังไง” ราชินีแย้มยิ้มชวนมอง พร้อมกับยื่นส่งขวดแก้วเล็กมาให้

               “ในนั้นมียาพิษที่เราสร้างขึ้น จัดการกับคาร์ม่าเสียให้พ้นทาง แล้วทุกอย่างจะอยู่ในมือเรา เราสัญญาว่าจะให้เจ้าแต่งงานกับดีทริชหลังจากที่เราตรวจสอบแล้วว่าเขาเป็นเลือดเนื้อของเราจริง”

               “แล้วถ้ามันไม่ใช่ล่ะฝ่าบาท”

               “เจ้าจะได้เป็นผู้นำตระกูลฟีโอเร่ เป็นมือขวาของเรา ช่วยเหลือเรากวาดล้างพวกหนูสกปรก”

               “เข้าใจแล้วฝ่าบาท” แม็กซิมทำความเคารพ

               “ดี มีรถรอเจ้าอยู่ข้างนอกเจ้ากลับไปเถอะ”

               หลังจากแม็กซิมไป เอลล่าก็เดินทางกลับเช่นกัน ภายในใจหมายมาดต่อแผนการณ์ของตัวเอง เธอคิดว่าคงได้เวลาผลัดอำนาจใหม่เสียที ทั้งคาร์ม่าทั้งร่างนี้ เธอตัดสินใจจะกำจัดคาร์ม่าให้สิ้นซากและยึดเอาร่างที่อ่อนเยาว์กว่ามาไว้ครอบครอง

               เธอเบื่อที่จะอยู่ร่วมกับเดียร์น่าเต็มที เธอจะฆ่าตัวเองเพื่อให้ราชินีตายแล้วย้ายไปอยู่ในร่างของดีทริช เธอวางแผนไว้อย่างแยบยลรอแค่แม็กซิมทำตามเท่านั้น



คุยท้ายเรื่อง

ใกล้จบเนื้อเรื่องหลักไปทุกทีแล้วน้า ยิ่งใกล้จบยิ่งเขียนยาก แถมไม่มีโมเม้นหวานๆ ของโนเอลกับดีทริช

มีแต่การเมืองและคลายปมล้วนๆ อย่าเบื่อกันไปเสียก่อนนะคะ

อยากจะกลับมาปั่นรัวๆ รวดเดียวเลยจริงๆ แต่งานเยอะมากๆ

รอกันหน่อยนะ

ออฟไลน์ shiroinu

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 308
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
อ้าวเอลล่า ตกลงรักหรือไม่รักกันเนี่ย ทำตัวน่ารังเกียจยังงี้ป่าวเดียร์น่าถึงไม่เอา แถมยังไม่สำนึกอีก เอ่อ ร้ายไร้เหตุผลป่ะเนี่ย แค่มีลูกไม่ได้ แถมเอาร่างคนอื่นไปมั่วอีก เอิ่ม เอิ่ม เอิ่ม :mew5:

ออฟไลน์ Kei

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
น่าจะเล่าเรื่องของนางให่มากกว่านี้นะเอลล่า

ออฟไลน์ nekodollzz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
รออออออออ ตอนนี้ค้างมาก
อยากจะบ้าทั้งราชินี ทั้งแม็กซิม ไม่ได้มีสำนึกว่าตัวเองผิดกันเลยยยย
 :beat: :beat: :beat:

ออฟไลน์ lucifer miumiu

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 152
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +147/-1


บทที่38

               สาเหตุที่แม็กซิมเกลียดโนเอลและทรยศคาร์ม่าในวันนี้มันมาจากการที่เขาไม่ได้มีอะไรเหมือนท่านพ่อเลยแม้แต่นิดเดียว

               ไม่ว่าจะหน้าตาหรือแม้กระทั่งร่างสัตว์อสูร ทั้งที่เขามีสายเลือดชนชั้นสูงจากท่านพ่อและท่านแม่แต่ร่างอสูรของเขากลับเป็นแวร์วูฟธรรมดาหาใช่ไคมีร่าอย่างที่ท่านพ่อหรือไอ้โนเอลมันเป็น

               ใครๆ ต่างก็พูดกันว่าเพราะบุตรชายคนแรกอ่อนแอแต่กำเนิดแถมท่านแม่ยังป่วยออดแอดและตายไป ท่านพ่อจึงต้องเพิ่มทายาทคนใหม่ แล้วก็ได้ดั่งใจหวังไอ้โนเอลเป็นพันธ์พิเศษเหมือนท่านพ่อต้องการ

               ดังนั้นแม็กซิมจึงอยู่อย่างระแวงและริษยา การถูกเปรียบเทียบมีอยู่บ่อยครั้งมากกว่าสิบปี มันทำให้เขาส่งคนไปลอบสังหารนับครั้งไม่ถ้วน แต่โนเอลมันก็รอดมาได้ตลอด แม็กซิมคิดว่าท่านพ่อยังเข้าข้างเขาอยู่บ้างเพราะถึงแม้รู้เลาๆ ก็ไม่สืบสาวราวเรื่องให้เขาเดือดร้อน

               คิดมาตลอดว่าตนเองแน่ๆ ที่จะได้ขึ้นเป็นผู้นำ แต่ถ้าไม่รู้จากปากราชินีคงถูกถีบหัวส่งไม่รู้ตัว

               “เป็นความผิดของท่านพ่อนะครับ” แม็กซิมกระซิบให้คนที่นอนป่วยบนเตียงได้ยิน เมื่ออาทิตย์ก่อนท่านพ่อป่วยอย่างกะทันหันด้วยยาพิษที่ราชินีให้นำมาใช้ และพวกผู้บริหารในตระกูลตัดสินให้เขาเป็นผู้นำชั่วคราวจนกว่าท่านพ่อจะหายดี

               เท่านี้ก็สามารถใช้คนของตระกูลจัดการตามแผนของราชินีได้

               เอฟเว่นกับมาเรี่ยนยืนต้อนรับแขกเหรื่อที่มาร่วมงานเลี้ยงจำนวนมาก เมื่อเห็นดีทริชกับคณะมาถึงเจ้าของงานก็ยิ้มจนแก้มปริ

               “มาได้ซักที ฉันรอพวกนายจนร้อนใจไปหมดแล้ว”

               “จะร้อนใจทำไม กลัวอะไรหรือไง” ดีทริชยิ้ม ใช้มือยีหัวเอฟเว่นเบาๆ

               “คงกลัวทริชหายหัวไปโดยไม่บอกนั่นแหละ ทำเอาคนอื่นเขาห่วงกันไปทั่ว” เซซิลตอบแทนเอฟเว่น ดีทริชยักไหล่

               “ฉันว่าฉันคงอยู่กวนใจพวกนายอีกนานเลยล่ะ”

               “ดีๆ แล้ว จริงๆ มีเรื่องต้องคุยกันอีกเยอะเลย แต่ฉันคงต้องอยู่ต้อนรับแขกตรงนี้อีกซักพัก”

               “เอฟเว่นเธอเข้าไปในงานกับดีทริชเถอะ ผมจะอยู่รับหน้าตรงนี้เอง” มาเรี่ยนบอก เอฟเว่นลังเล

               “จะดีหรือ”

“ อื้อ...เธอไปเถอะ”

               พอได้รับคำยืนยันเอฟเว่นก็ยิ้มกว้าง เจ้าของงานจูงมือเพื่อนสนิททั้งสองคนไปยังโต๊ะจัดเลี้ยงที่เตรียมไว้เป็นพิเศษ โนเอลก็ตามไปด้วย ในขณะที่รอยไม่ไปไหนเขาใช้กระแสจิตพูดคุยกับหลานชายโดยตรง

               “เห็นราชินีแล้วหรือยังหลานรัก”

               ตอนนี้เองที่มาเรี่ยนมีสีหน้าเข้มขึ้น วินาทีแรกที่เขาเห็นราชินีเขาพบว่ามีวิญญาณสองดวงอยู่ในร่าง

               “มีดวงวิญญาณอยู่ในร่างราชินีถึงสองดวงครับท่านท่านอา”

               เมื่อได้ยินอย่างนี้รอยซีฟัสใจชื้นขึ้นเป็นกอง นี่เท่ากับว่าเดียร์น่ายังมีชีวิตอยู่นั่นเอง

               “หลานเลือกทำลายเฉพาะดวงวิญญาณของเอลล่าได้หรือไม่” มาเรี่ยนพยักหน้า

               “ผมได้ข่าวมาว่า ท่านคาร์ม่าป่วยและตอนนี้ลูกคนโตขึ้นเป็นผู้นำชั่วคราวนี่ครับ”

               รอยซีฟัสยิ้มหยัน “เรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วง ถึงไม่มีคาร์ม่าเราก็บรรลุเป้าหมายได้”

               มาเรี่ยนมองดูเสี้ยวหน้าของรอย เข้าใจว่าคงมีแผนสำรอง ถึงแม้การขึ้นเป็นผู้นำของแม็กซิม ฟีโอเร่ จะเป็นอุปสรรคใหญ่ก็ตาม

             

               ถึงราชินีจะออกจากงานเลี้ยงไป แต่แขกยังอยู่ในงานเป็นจำนวนมาก เวลานี้เกือบจะห้าทุ่มท่านย่าแอนนี่เสนอให้เอฟเว่นกลับไปพักผ่อนที่คฤหาสน์ตระกูลรูคเสียก่อน

               “แต่ฉันยังไม่อยากกลับเลย” เอฟเว่นดื้อดึงเล็กน้อย แต่ก็พบว่า ดีทริชกับเซซิลเองก็ต้องกลับเหมือนกัน ดังนั้นจึงทำตามอย่างเสียไม่ได้

               ทว่าขณะที่จะเดินทางกลับคนขับรถก็แจ้งว่ารถเสีย ทำให้ไม่สามารถกลับได้ทันที โชคดีที่รถของดีทริชขับตามไล่หลังมาเพราะยังวิ่งในทางเดียวกัน

               “เกิดอะไรขึ้น” ดีทริชลงจากรถไปหาเอฟเว่น

               “รถของฉันเสียน่ะสิ”

               “ให้ตายสิ นี่ก็อยู่ห่างจากคฤหาสน์ตระกูลครอสมามากแล้ว เอาอย่างนี้เดี๋ยวให้คนขับรถของฉันไปส่งนายที่บ้านด้วย”

               “อื้อ...ขอบใจนะทริช”

               ทั้งสองคนพากันขึ้นรถ ทว่าใครจะไปคาดคิดละว่าเจ้าคนขับรถจะขับนำมายังที่ไม่ชอบมาพากล

               “ทริชทำไมคนขับรถถึงจอดรถในโกดังของท่าเรือล่ะ” เอฟเว่นตื่นตระหนก ดีทริชเม้มปากเข้าหากัน

               “ลงมาจะดีกว่ามั้ง อย่าให้ฉันต้องเสียเวลา” เสียงนี่ดีทริชคลับคล้ายคลับคลา น่าจะเป็นแม็กซิมพี่ชายของโนเอล

               เอฟเว่นและดีทริชจับมือกันแน่นแล้วค่อยๆ ลงจากรถ เขากวาดมองไปยังลูกน้องชุดดำ แม็กซิมและไปหยุดอยู่ที่ราชินีซึ่งน่าจะกลับพระราชวังไปนานแล้ว

               “ทำไมถึงมีเด็กตระกูลรูค ติดมาด้วย” ราชินีถามเสียงเยือกเย็น แม็กซิมหันไปตะคอกคนขับรถ

               “ทำงานยังไงวะ ถึงให้มีปลาซิวปลาสร้อยเข้ามากวนใจ”

               “ขออภัยครับนาย บังเอิญว่าเราเจอรถของมันเสียกลางทาง”

               “ช่างเถอะๆ เราขอทำธุระแค่แวบเดียวเท่านั้น” ราชินีพูด

โดยไม่มีใครขาดคิดจู่ๆ นางก็ใช่มีดแทงตัวเองจนล้มลง แม็กซิมตะลีตะลานเข้าไปรับร่างราชีนีเอาไว้ ถึงแม้จะตกใจกับกลุ่มเงาสีดำที่ออกจากร่างราชินีและกำลังลอยวนอยู่ในอากาศ

               ใครจะไปคาดคิดล่ะว่าเอลล่าไม่สามารถเข้าไปสิงร่างของดีทริชได้ ไม่รู้เพราะอะไรแต่พอถูกมองด้วยดวงตาสีแดงดั่งเลือดคู่นั้น เธอก็อ่อนแรงลงจนไม่สามารถควบคุมการเคลื่อนไหวได้

               ไม่ดีแน่ขืนอยู่อย่างนี้ต่อไปคงแย่ ต้องหาร่างใครบางคนสิง เอลล่าเห็นว่าคนที่เหมาะที่สุดน่าจะเป็นเด็กตระกูลรูค ดังนั้นจึงพุ่งเข้าหาด้วยความเร็ว

               วินาทีที่วิญญาณร้ายพุ่งเข้าหาเอฟเว่น เป็นจังหวะที่มาเรี่ยนกับโนเอลมาถึงพอดี ตอนนี้เขานั่งอยู่บนร่างของโนเอลที่แปลงกายเป็นไคมีร่า การปรากฏตัวของสัตว์อสูรขนาดยักษ์ข่มขวัญพวกลูกกระจ๊อกจนแตกกระจายไปหมด

               นอกจากนั้นพวกที่พอมีฝีมือหน่อยเมื่อเห็นโนเอลจะหลีกทางให้เป็นอย่างดี บ่งชัดได้ว่าทั้งหมดที่เกิดขึ้นน่าจะอยู่ในการควบคุมของพวกเขาทั้งหมด มันยน่าโมโหที่ไม่มีใครบอกเขาซักเรื่อง แถมยังนำเอฟเว่นเข้ามาเกี่ยว

               แม้จะอยู๋ไกลกันซักหน่อยแต่มาเรี่ยนก็ใช้พลังพิเศษของตัวเองทำลายวิญญาณของเอลล่าในพริบตา เสียงหวีดร้องโหยหวนทำให้แม็กซิมสะดุ้ง

               “ฝ่าบาทๆ ครับ” สิ่งที่ยังทำได้คือการปลุกราชินี คนในอ้อมกอดแม็กซิมลืมตาขึ้น

               “ปล่อยเรา” แม้จะอ่อนแรงแต่เสียงที่เปล่งออกมาช่างเย็นชานัก ราชินีใช้ดวงตาอ่อนโยนมองมาที่ดีทริช

               “เจ้าช่างน่ารักคล้ายลีฟามากทีเดียว”

               เอฟเว่นที่งุนงงต่อเหตุการณ์ทั้งหมดมองดูคนรอบข้าง มาเรี่ยนรีบเข้ามาบังตัวเขาเอาไว้จากสายตาของแม็กซิม

               “มาให้เราได้เห็นหน้าให้ชัดๆ หน่อยได้ไหม ถึงเราจะมีความสามารถสะท้อนการโจมตี แต่มันไม่ได้สะท้อนการโจมตีของตัวเองด้วยนี่นะ เราอาจเสียเลือดจนตายในอีกไม่นาน ขอร้องละบุตรเราให้เราได้เห็นหน้าชัดๆ”

               ถึงแม้ไม่มีความผูกพันธ์กันแต่ดีทริชเกิดความสงสารและเป็นห่วงราชินีขึ้นมา ดังนั้นจึงรีบสั่งให้โนเอลช่วยรักษา

               “ท่านจะไม่ตายครับ ท่านจะหายดี” ดีทริชบีบมือที่เย็นลงอย่างช้าๆ ของราชินีเอาไว้

               จังหวะนี้เอง โนเอลจึงใช้พลังวิเศษของตนรักษาราชินี ไคมีร่ายื่นอุ้งเท้าไปวางเหนือแผลวินาทีถัดมาแสงสีม่วงก็แผ่ออกมาจากอุ้งมือฉาบเคลือบร่างของราชินี บาดแผลสมานตัวอย่างรวดเร็ว

               ดีทริชขมวดคิ้ว ถ้ารักษาได้รวดเร็วขนาดนี้ไหงตอนที่เขาเจ็บกลับเอาแต่เลียทีละนิด เจ้าบ้าเอ๊ยฉวยโอกาสลวนลามเขานี่เอง

               หลังจากรักษาแผลจนหายก็เป็นเวลาเดียวกับที่แอนนี่กับรอยซีฟัสนำคนเข้ามา ราชินีออกคำสั่งกับทั้งสองคนทันที

               “จับแม็กซิม ฟีโอเร่เอาไว้”

               “อะ...อะไรกันครับ ฝ่าบาท ข้าทำอะไรผิด”

               แม็กซิมโวยวาย แต่ก็ถูกนักรบของตระกูลครอสใช้เชือกเวทย์มนต์พันธนาการเอาไว้อย่างแน่นหนาจับลากออกไปตามคำสั่ง

               “เรานึกว่าเจ้าจะตายไปแล้วเสียอีก” ราชินีกล่าวเมื่อเห็นคาร์ม่าเดินเข้ามา ดวงตาเย็นชาที่มองดูผู้นำตระกูลฟีโอเร่นั้น รอยเข้าใจความรู้สึกของแววตานั้นเป็นอย่างดี เขาตรงเข้าไปบีบมือของราชินีเบาๆ เพื่อปลอบโยน

“ไปพักผ่อนก่อนแถอะ” รอยซีฟัสบอก

               “เราพักมานานเกินพอแล้ว แต่ถ้าเจ้าเห็นว่ามันดีจะเอาอย่างนั้นก็ได้”

               ดังนั้นรอยซีฟัสจึงพาราชินีไปส่งยังปราสาท ทิ้งดีทริชกับคนอื่นๆ ให้จัดการเรื่องที่เหลือต่อไป



คุยท้ายเรื่อง



ยังมีปมอีกเยอะที่มันยังค้างคา แต่คิดว่าจะไปเขียนให้เคลียมากขึ้นในตอนพิเศษ ที่จะเอาลงนะคะ

ทั้งในส่วนความสัมพันธ์ของรอยคาร์ม่า เดียร์น่ารอย เอลล่า ลีฟา เอาไปขยายตอนนั้น

จริงๆ มันควรจะใส่ลงไปในเนื้อเรื่องหลัก แต่มีเสียงบ่นมาว่ามันจะออกทะเลเราเลยเบรคไว้

แต่มันควรเขียนละนะ จะพยายามทำให้ดีที่สุดค่า

เพราะคิดว่าจะทำเล่มขายนั่นแหละฮา ถ้ามีข้อผิดพลาดตรงไหนชี้แนะได้น้า

นี่กำลังคิดว่าจะเขียนให้เสร็จก่อนแล้วค่อยจัดการเรื่องปก

ตอนพิเศษส่วนของคาร์ม่ารอยน่าเจอเยอะอยู่ ยังไม่รวมตอนพิเศษของคู่หลักคู่รองที่คิดว่าจะเขียน

แต่ในส่วนของตอนพิเศษอาจจะลงบางส่วนเอาที่พอไม่ค้างนะคะ

เพราะว่าอาจจะเก็บไว้สำหรับคนที่ซื้อหนังสือเราบ้าง

ฮ่าฮ่า ราชินีดูท่าทางไม่ชอบคารม่ากับโนเอล มีอุปสรรคไหมนะ5555

แสดงความคิดเห็นเป็นกำลังใจกันบ้างนะคะ

ออฟไลน์ Kei

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
เอาตอนพิเศษเยอะๆ

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
จะรออ่านนะคะ

ออฟไลน์ shiroinu

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 308
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
ร้อ รอ รอ รอ  :3123:  :pig4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด