27 December xxxx 22:04รถแท็กซี่เทียบจอดบริเวณป้ายรถเมล์ ผมจ่ายเงินพอดีกับค่าบริการก่อนจะเดินออกมาจากตัวรถ รู้สึกได้ว่าเปลือกตายังหนักเหนื่อยจากฤทธิ์เครื่องดื่มมึนเมาก่อนหน้านี้ ผมสอดมองหาใครบางคน พบเจอและมีความมั่นใจมากพอว่านี่คือบุคคลที่นัดไว้ ผมก้าวเข้าหาอย่างมั่นคงพร้อมด้วยรอยยิ้มเบาบางบนใบหน้า ผมเห็นรูปของเขาจากในทินเดอกับไลน์มาก่อนและนำชื่อของเขาไปค้นหาจากในโซเชี่ยลมีเดีย แม้ว่าจะเห็นหลายรูปก็จริงแต่ไม่มีรูปไหนที่เห็นใบหน้าของเขาชัดเจน แต่จากลักษณะท่าทางการแต่งตัวผมมั่นใจว่านี่คือพี่เอ เขาก้มหน้าเล่นโทรศัพท์มือถือพร้อมๆกับช่วงเวลานั้นที่โทรศัพท์มือถือของผมสั่นขึ้น ผมคิดว่าเขาคงจะส่งข้อความหาผม
ผมก้าวเข้าไปยืนตรงหน้าเขา ใบหน้านั้นเงยขึ้นมอง “พี่เอ หวัดดี”
เขายกมือรับไหว้แบบไม่ทันได้ตั้งสติก่อนจะเก็บโทรศัพท์มือถือลง “รู้ได้ไง”
“จะไปยากอะไร” ผมกล่าวแล้วเดินนำออกมาจากบริเวณป้ายรถเมล์
“หมายถึงยังไงวะ”
ผมยิ้มแต่ไม่ได้ตอบ
“อะ เบียร์”
ผมหันกลับไปและบอกปฏิเสธ บริเวณนี้ไฟส่องสว่างมากพอจนเห็นใบหน้าของเขาชัดเจน ผมพบว่าตัวจริงของเขาดูดีกว่าที่ผมคิดไว้มาก จากการแต่งกายและจากของที่ใช้ เขาสวมแว่นทรงกลมกรอบสีดำ ทรงผมหยิกดูยุ่งเหยิงนิดหน่อยซึ่งส่วนนี้ผมไม่รู้ว่าเขาดัดผมหรือเป็นผมตามธรรมชาติ เขาสวมเสื้อโอเว่อไซซ์สตรีทแบรนด์สีดำสกีนถ้อยคำหยาบคาย กางเกงยีนส์ สนีกเกอร์ที่ดูก็รู้ว่าน่าจะสั่งมาจากเมืองนอก เขาบอกว่าอายุ 37 แต่ตัวจริงดูเด็กกว่าอายุมากและผมให้คำจำกัดความว่าเขาเป็นเด็กแนวคนหนึ่ง ต่างจากผมที่เป็นเพียงพนักงงานบริษัทเอกชนธรรมดา
“มาไง”
“แท็กซี่” ผมตอบ ความรู้สึกตอนนั้นไม่ตื่นเต้น หัวใจยังราบเรียบกับการได้เจอคนแปลกหน้า
รอยยิ้มของเขาดูน่ารักดีในตอนที่ยิ้มให้ผม “เมายัง” เขาถาม
“ยัง”
“พร้อมยัง” เขาถามแล้ววางมือลงบนศีรษะของผม
การกระทำของเขาเป็นสิ่งที่ผมไม่เคยได้รับจากใครและเขาทำให้ผมเขินอาย ผมยิ้มเขินแต่ไม่ได้ตอบ
“เดี๋ยวๆ มานี่ก่อน” เขากวักมือเรียกผมให้เข้าไปหา เรายังคงยืนอยู่บริเวณป้ายรถเมล์แต่ขยับออกมานิดหน่อย “กินเบียร์ให้หมดก่อน”
“ไม่เอา เดี๋ยวเมา”
“ช่วยกินหน่อย” เขาพูดพลางยกถุงที่บรรจุกระป๋องเบียร์ขึ้นมาแสดงให้ดู เขายิ้มให้ผมอีก ดวงตาของเขาดูหยาดเยิ้มจากฤทธิ์เครื่องดื่ม “พร้อมเสียตัวยัง”
ผมหัวเราะและรู้สึกเขินอายทำตัวไม่ถูก “ไม่รู้”
“ตอบมา อยากหรือไม่อยาก” น้ำเสียงของเขาเข้มขึ้นพร้อมๆกับแรงมือที่จับศีรษะของผมเข้ามาเพื่อมองตา “อยากไหม”
ผมมองตาของเขาก่อนจะยิ้มมุมปาก “อยาก”
เขาปล่อยมือ ริมฝีปากยกยิ้ม
“ทำงานอยู่แถวนี้เหรอ”
เขาทำท่านึกก่อนจะพยักหน้ารับ “แถวนี้แหละ ซอยข้างๆมหาลัยตรงนั้นอะ”
“อ๋อ บริษัทโฆษณาเหรอ”
“อืม ผมทำกราฟฟิคดีไซน์” แม้ว่าจะมีคำอธิบายเพิ่มแต่น้ำเสียงของเขาฟังดูอึกอัก
ผมถามเพื่อสร้างบรรยากาศให้ดูสบายขึ้น หากแต่ผมรู้สึกว่าเขาไม่ต้องการพูดถึงชีวิตส่วนตัวสักเท่าไหร่จึงเลิกถาม
“ไปดื่มที่ไหนมา” คราวนี้เขาเป็นฝ่ายถามบ้าง
“แถวเซ็นทรัลเวิร์ล”
เขายิ้มและไม่ได้ถามอะไรเพิ่มเติม จากนั้นเราก็ยืนดื่มเบียร์กระป๋องพลางมองตากันไปมา เขาส่งยิ้มให้ผมอีกครั้ง คราวนี้ผมยิ่งทำตัวไม่ถูกเมื่อเขาทั้งยิ้มและจับมือ “ปะ นั่งแท็กซี่แล้วกัน”
เขาไม่ปล่อยให้ผมได้แสดงความคิดเห็นใดๆ แต่เอาเถอะ วันนี้ผมตั้งใจจะให้เขาเป็นผู้นำทั้งหมด
พี่เอโบกแท็กซี่ก่อนเราสองคนจะยัดตัวเข้ามาในรถ เขาหันมายิ้มให้ จับมือของผม ออกแรงบังคับให้จับเป้ากางเกงของเขาแล้วเอากระเป๋าบังไว้ ผมหัวเราะเพราะรู้ว่าเขากำลังเมา ผมปล่อยเลยตามเลยแต่เพียงพักหนึ่งเขาก็ยื่นหน้าเข้ามาและบอกในสิ่งที่ชวนหัวเราะ
“เมาหวะ แม่งไม่น่าแข็ง”
“แล้วทำไมเมา”
“ปาร์ตี้ที่บริษัท เพลินไปหน่อย”
ผมไม่ได้ตอบอะไรนอกจากยิ้ม
เขาหันมายิ้ม ไม่มีสาเหตุอะไรนอกจากเป็นอาการเมา เขาจับศีรษะของผมให้ความรู้สึกเหมือนพี่ชายกับน้องชายและบางทีนี่อาจจะเป็นจุดอ่อนของผมในแบบที่ไม่รู้ตัว เขาจูบผมที่กลุ่มผมท่ามกลางสายตาของคนขับแท็กซี่ ผมรู้ว่าเขาทำเพราะเมา แต่ผมรู้สึกดีต่อสัมผัสของเขามากกว่าที่คิด
ท้องถนนในเวลากลางดึกไม่ทำให้ผิดหวัง เรามาถึงห้องพักของพี่เอในเวลาอันรวดเร็ว เขาแวะซื้อเบียร์เพิ่มอีกก่อนจะเดินนำผมไปยังลิฟต์ของคอนโด เขาหันมาส่งยิ้มที่ดูเขินอายก่อนจะหันไปกระดกเบียร์อึกหนึ่ง ผมหัวเราะกับท่าทางของเขา แต่แล้วอยู่ๆเขาก็หันกลับมา เราใกล้ชิดกันจนได้กลิ่นอายของกันและกัน เขาจูบผมในลิฟต์ซอมซ่อตัวนั้น ผมเห็นรอยยิ้มของเขาพร้อมๆกับเห็นแสงสลัวจากไฟในลิฟต์กลับคืนมาอีกครั้ง
“ดีป้ะ”
ผมนิ่งเงียบไปพักหนึ่ง รู้สึกเหรอหรา “นี่จูบแรกของผมเลยนะ”
เขาหันมาเลิกคิ้วใส่ด้วยท่าทีประหลาดใจ “งั้นก็ดี มีพยานดูด้วย” ท้ายประโยคเขาใช้มือข้างที่ถือกระป๋องเบียร์ ยกนิ้วชี้ ชี้ไปรอบบริเวณลิฟต์ เขาหัวเราะก่อนจะเดินนำออกไปเมื่อประตูลิฟต์เปิดขึ้น
ใจของผมยังเป็นของผม มันราบเรียบ ไม่ได้ตื่นเต้นเหมือนอย่างที่คิด แม้กระทั่งตอนเขาเปิดประตูห้องผมก็ยังไม่ตื่นเต้น
พี่เอหันมามอง ทำอ้อยอิ่งในการไขกุญแจห้อง “พร้อมยัง”
“ไม่รู้”
เขาหัวเราะแบบคนใจดี “พร้อมเสียตัวแล้วหรือยัง”
ผมยิ้มแต่ไม่ได้ตอบอะไรเพราะรู้สึกกระดากอายเกินกว่าจะเอ่ยออกมาเป็นคำพูด ทั้งผมและเขาต่างรู้ว่าจุดประสงค์ในการพบกันครั้งนี้เพื่ออะไร เราต่างรู้ว่ามันไม่ใช่ความสัมพันธ์ยืนยาว เรารู้จักกันน้อยมาก น้อยมากชนิดที่เรียกว่าผมรู้จักแค่ชื่อกับอายุของเขาและการคาดเดาไปต่างๆนานาจากการได้เห็นตัวจริงของพี่เอ การมาเจอเขาครั้งนี้ไม่ใช่เพื่อสานสัมพันธ์ทางความรู้สึก ผมต้องการรู้จักการร่วมเพศ ต้องการได้ลองเรียนรู้ว่าเซ็กส์ระหว่างผู้ชายกับผู้ชายมันให้ความรู้สึกดีขนาดไหน แม้ว่าจะอายุยี่สิบเก้าปีแล้วแต่ผมไม่เคยมีคนรัก ไม่เคยมีแม้แต่จูบแรก แรงขับเคลื่อนตามธรรมชาติคงทำให้ผมก้าวเดินมายังจุดนี้ ผมตระหนักรู้ดีว่ามันเป็นแค่ความสัมพันธ์ทางกาย ไม่มีสิ่งใดผูกมัดเราไว้
ประตูห้องเปิดออกแล้ว ผมเดินตามเข้าไปโดยไม่ลังเล สิ่งแรกที่เห็นหลังไฟกลางห้องสว่างขึ้นคือรองเท้าจำนวนมากมายที่วางเรียงรายอยู่ข้างฝาผนังห้อง ผมอุทานออกมาส่วนพี่เอทำเพียงแค่หัวเราะ
“รองเท้าโคตรเยอะ”
“มีตรงนี้อีกนะ” เขาบอกแล้วเดินมาเปิดบานประตูเล็กๆที่อยู่ใต้เตียงนอนไม้สีเข้ม ที่ตรงนั้นยังมีรองเท้าอีกมากมายหลายคู่วางเรียงอยู่ด้านใน เท่าที่ปราดตาดูแบบไม่ละเอียดผมยังพอเดาได้เลยว่ารองเท้าพวกนี้มีราคาสูงและส่วนหนึ่งก็เป็นจำพวก Limited edition ด้วย
ผมส่งยิ้มให้เขาก่อนจะขอตัวไปเข้าห้องน้ำเพื่อล้างมือล้างเท้าด้วยความเคยชิน ออกมาอีกทีไฟกลางห้องดับลงและมีเพียงไฟจากบริเวณใกล้ประตูทางเข้าที่เปิดไว้ ห้องของเขาเล็กนิดเดียว ไม่ใช่ห้องชุดหรูหราแบบคอนโดกลางเมือง ของเยอะจนรก (จริงๆผมต้องบอกว่ารองเท้าของเขาเยอะจนรก) พอออกมาจากห้องน้ำถัดไปก็เป็นเตียงนอนอยู่ขวามือ อีกด้านเป็นตู้เสื้อผ้าแบบไม้สีเดียวกันกับเตียง มีเสื้อผ้าของเขาแขวนไว้ ประตูตู้เสื้อผ้าเผยออ้าเล็กน้อยผมจึงดันปิดให้
พี่เอนั่งอยู่ตรงโซฟาตัวเตี้ยสีครีมกำลังเปิดแมคบุ๊คและเข้า Spotify Playlist ของเขาแทบไม่ต่างไปจาก Playlist ของผม เราฟังเพลงใกล้เคียงกัน เราต่างชอบความเก่าคลาสสิค แต่ผมรู้ว่าความชอบของเราเหมือนในแบบที่แตกต่างกัน พี่เอชวนผมนั่งลงบนโซฟา ทีท่าของเขาตอบรับขับสู่จึงทำให้ผมรู้สึกสบายใจขึ้น ผมชอบแววตาของเขาหลังเลนส์แว่น เขามักมองมาที่ผมราวกับแสดงความสนใจ ซึ่งส่วนนี้ผมรู้ดีเราต่างกำลังใคร่สนใจกันและกัน
“ทำไมชอบหนังผี” ผมถามขึ้นเพราะเห็นข้อมูลบางส่วนที่เขาลงไว้ในทินเดอ
“ก็ชอบอะ” คำตอบของเขาทึมทื่อและไม่สามารถไปต่อได้ ผมพ่นลมหายใจออกมาด้วยความหน่าย ดูเหมือนว่าไอ้คนประเภทที่มีโลกส่วนตัวสูงนี่ไม่ได้น่าพังทะลายมันเข้าไปเลยสักนิด ผมอึดอัดอยู่เหมือนกันที่คำตอบแต่ละอย่างของพี่เอไม่ส่งเสริมให้เรามีบทสนทนาอันลึกซึ้ง “สนุกดี”
“แล้วนี่หิ้วหนุ่มมานอนบ่อยป้ะ” ผมเปลี่ยนหัวข้อสนทนาเพราะเบื่อจะฟังคำตอบที่ดูอิหลักอิเหลื่อของเขา
“ก็บ่อยนะ” เขาตอบแล้วกระดกเบียร์อึกใหญ่ “แต่ก็ไม่ได้บ่อย”
ผมหมดคำถามจึงนั่งจิบเบียร์ไปเรื่อยๆ ระหว่างนั้นพี่เอก็มองมาบ่อยๆ มองแล้วก็ยิ้ม ผมมองเขากลับบ้าง เห็นเค้ารางใบหน้าที่ดูเด็กกว่าอายุจริง แต่แววตาของเขามันสะกิดความรู้สึกของผมอย่างน่าแปลกประหลาด มันเป็นแววตาที่ดูมีอะไรอยู่ในนั้นและผมไม่มีคำอธิบายที่ดีพอสำหรับความรู้สึกนี้
“ในลิฟต์... จูบแรกจริงดิ”
“อืม จูบแรก ทำไมอะ”
“ไม่เคยมีเซ็กส์เลย?”
“ก็ผมไม่เคยมีแฟนจะไปมีเซ็กส์ได้ไง”
“อย่าโฟกัสที่แฟน ถามว่าไม่เคยมีเซ็กส์จริงดิ”
“ไม่เคย บอกไปหลายทีละ”
พี่เอยิ้มพลางยกเบียร์ดื่ม แววตาของเขาดูหวานเชื่อมจนทำให้ผมต้องยิ้มตาม เขาวางกระป๋องเบียร์ลงแล้วจับใบหน้าของผมเข้าไปเพื่อมอบจูบให้ ครั้งแรกผมนึกว่ามันเป็นจูบผิวเผินธรรมดาแต่ไม่ใช่เลยพี่เอกำลังมอบจูบแบบดูดดื่มให้ ผมตามเขาแทบไม่ทันจึงได้แต่ปล่อยให้เขานำทางก่อน พักหนึ่งผมจึงตอบโต้บ้างและเริ่มรู้สึกได้ถึงหนวดเคราของเขาที่ทิ่มแทงเข้ามาบนผิวหน้า ผมประคองใบหน้าของเขาเมื่อจูบของเราหนักหน่วงขึ้น ผมรู้ซึ้งว่าความรู้สึกดีจากการได้จูบเป็นอย่างไร มันวาบหวามและชุ่มฉ่ำจนผมคิดว่ามันเป็นจูบแรกที่ดีเหลือเกิน
“ดีป้ะ” พี่เอถามหลังจากผละริมฝีปากออกมา เขายังคงยิ้มเช่นเดิม
“อืม ดี” ผมตอบแล้วจากนั้นก็ถูกพี่เอจูบอีก ทว่าคราวนี้มันเป็นจูบที่ลามกขึ้น ลิ้นที่เคยส่งเข้ามาอย่างนุ่มนวลกำลังกวาดต้อนปลายลิ้นของผมอย่างไม่ลดละ มันดึงดันแต่ก็ให้ความรู้สึกดีไปอีกแบบ อยู่ๆ พี่เอก็จับกลุ่มผมของผมแล้วกระชากออก ผมประหลาดใจแต่จากความรู้สึกผมคิดว่ามันเป็นรสนิยมบางอย่างที่เราปรับจูนเข้าหากันได้
“ดีไหม อยากจูบอยากอีกไหม”
“อืม ดี อยากจูบอีก”
พี่เอผลักหน้าผมออกก่อนจะหยิบเบียร์ขึ้นมาจิบ “ไม่เคยจูบ แต่ทำไมจูบเก่งจังหละ”
“ไม่รู้ ก็ทำตามพี่อะ”
เขาตบหน้าผม ไม่ใช่เป็นการตบเพื่อให้เจ็บปวดแต่เป็นการตบเพื่อเร้าอารมณ์ เขาบีบคางของผมไว้แล้วจูบเข้ามาอีก ครั้งนี้ยิ่งน่าอึดอัดจากการถูกโถมทับน้ำหนักลงมา ผมครางเครือในลำคอด้วยความรู้สึกดีและตอบรับทุกรูปแบบจากการจูบของเขา พี่เอปลดกางเกงของผมล้วงมือเข้ามาแต่ผมกลับรู้สึกลังเล เขาเงยหน้าขึ้นมา ใบหน้านั้นยังดูใจดีและมีรอยยิ้มเสมอ
“บีจะเก็บไว้ให้คนที่รักใช่ป้ะ”
ผมเงียบลงไปพักหนึ่ง มองไปที่เขาก่อนจะส่ายหน้า “ผมบอกแล้วว่าเซ็กส์กับความรู้สึกรักมันคนละเรื่อง”
เขากลับลงไปนั่งที่เดิม จิบเบียร์ จากนั้นก็จับหน้าผมลงมาที่เป้ากางเกง “ลองเลียหน่อย” พี่เอรั้งกางเกงในออกไป เลิกชายเสื้อขึ้นแล้วจับท่อนเนื้อเหี่ยวๆของเขายัดเขามาในปากของผม ผมคิดไว้ว่าการใช้ปากให้ใครสักคนจะต้องเป็นเรื่องที่น่าสยองพอสมควร แต่แล้วมันไม่เป็นอย่างที่คิด ผมรู้สึกได้ว่าพี่เอเองก็เป็นคนสะอาดสังเกตได้จากกลิ่นกายด้านล่าง ผมลองเลียที่ส่วนปลายก่อนจะรับมันเข้าปากทั้งหมดและพบว่ามันไม่ได้แย่อย่างที่คิด สำหรับคนอื่นผมไม่รู้แต่สำหรับพี่เอผมกล้าใช้ปากกับเขาในครั้งถัดไปแน่นอน
“ผมไม่น่ากินเบียร์เยอะเลย แม่งเมาหวะ ไม่แข็งจริงๆ”
ผมเงยหน้าขึ้นมามองด้วยความสงสัย “เพราะผมหรือเปล่า”
“ไม่ใช่ๆ ผมเมามากจริงๆ ตอนนี้แง่นมากนะแต่ร่างกายแม่งไม่ตามสั่ง เอ้า อมเข้าไปอีก” ผมทำตามที่เขาบอก แม้ว่าแท่งเนื้อจะไม่มีปฏิกิริยาใดๆ แต่ผมได้ยินเสียงครางเครือในลำคอที่แสดงออกถึงความพอใจ “แม่งเอ้ย” เขาพึมพำออกมาแล้วกระชากศีรษะผมออกห่างจากท่อนเนื้อ “ไม่เคยอมให้คนอื่นจริงอะ ทำไมเก่ง”
“จะไปรู้เหรอ ผมแค่ทำอย่างที่อยากทำ”
ทันทีที่พูดจบเขาก็กดหัวผมลงเพื่อให้อมท่อนเนื้อที่ไม่แข็งตัว “ได้เลียแล้วเป็นไง”
ผมไม่ได้ตอบ เพียงแต่หันมองแล้วยิ้ม
“ชอบป้ะ”
ผมพยักหน้า
“เลียตรงไข่หน่อย”
“ยังไง ผมไม่เคย”
“เอาน่า ลองดู” เขากดหัวผมลงไปอีกครั้ง เบื้องหน้าเห็นอวัยวะเพศที่ยังทรงตัวเช่นเดิมก่อนผมจะแลบลิ้นเลียตามที่เขาบอก ได้ยินเสียงครางพึงใจพักหนึ่งพี่เอก็ดึงใบหน้าของผมขึ้นมา เรามองตากันก่อนจะปิดท้ายด้วยจูบวาบหวามอย่างที่ผมชอบ “ค้างที่นี่นะ”
ผมส่ายหน้าเมื่อเขาชวนค้างคืน
“ค้าง บอกให้ค้างก็ค้าง”
“ไม่ได้ จะกลับบ้าน”
“ที่บ้านว่าเหรอไปค้างคืนที่อื่น”
“ไม่ว่า แต่ผมกลับบ้านสบายใจกว่า”
พี่เอไม่ได้โต้เถียงอีกแต่กลับล้วงมือเข้ามในเป้ากางเกงของผม ครั้งนี้ละมุนละม่อนกว่าเดิม “พร้อมยัง”
“อืม” ผมครางตอบเพราะกำลังรู้สึกดีกับสัมผัสมือ
“ดีกว่าที่คิดป้ะ”
“ดีกว่า”
“แล้วที่อมเมื่อกี้รู้สึกแย่ป้ะ”
“ไม่แย่อย่างที่คิด” ผมนิ่วหน้าลง รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงที่เบื้องล่าง ของผมแข็งตัวขณะที่ของพี่เอยังไม่เปลี่ยนแปลง “ถามจริง ที่ไม่แข็งเพราะผมหรือเปล่า”
“ไม่ใช่เว่ย ผมเมามาก” พี่เอตอบแล้วจูบเข้ามา มือของเขาเคลื่อนไปตามลำตัวของผม คลำหาเม็ดกระดุมและแกะมันออกอย่างร้อนรน แว่นตาของเขาถูกดึงออกไปก่อนจะผลักร่างผมให้นอนลงไปบนโซฟาเน่าๆตัวนั้น บดเบียดร่างลงมาใช้มือกำรอบท่อนเนื้อของผมไว้ รูดรั้งให้มันชูชันพลางเอ่ยถามว่ารู้สึกอย่างไร
ทั้งๆที่เป็นมือเหมือนกันแต่ผมกลับรู้สึกว่าสัมผัสจากมือของพี่เอมันแตกต่างและให้ความรู้สึกดีกว่าที่คิดไว้มาก เขารู้จังหวะไปหมด มีช่วงผ่อนช่วงหนักหน่วงจนในท้องของผมปั่นป่วนไปหมด แต่ขณะที่ใกล้จะแตะฟากฝั่งพี่เอก็ละมือออกมาแล้วบอกให้ผมใช้ปากกับท่อนเนื้อของเขา ผมทำตามอย่างว่าง่ายคราวนี้พอจะรู้จังหวะขึ้นมาบ้างแต่ไม่ว่าอย่างไรของพี่เอก็ไม่แข็งตัวเพียงพอสำหรับการสอดใส่ มันพองตัวขึ้นเล็กน้อยแต่แล้วเขาก็รั้งใบหน้าผมออกห่างแล้วบอกให้ไปนอนบนเตียง
พี่เอใช้ปากให้กับแก่นกายของผม อาจเพราะว่าผมไม่เคยได้รับสัมผัสนี้จึงรู้สึกดีมากเป็นพิเศษ เขาดูเชี่ยวชาญจนแทบทำให้ผมเสร็จในเวลาอันรวดเร็ว พี่เงยหน้าขึ้น ส่งรอยยิ้มหยอกเย้ามาให้
“ใกล้เสร็จยัง”
“ใกล้แล้ว ทำต่ออีกหน่อย” ผมรบเร้า เบื้องล่างปวดแทบจะตายอยู่แล้วแต่เขากลับทำเพิกเฉย
“เออ ดี คราวนั้นบีก็ทำให้ผมค้าง”
ผมเอนหลังลงนอนราบไปบนเตียงพร้อมกับหัวเราะกับการเอาคืนของพี่เอ เขาตามเข้ามาจูบผม นุ่มนวล ลึกซึ้ง ราวกับว่าเรากำลังจูบอยู่กับคนรัก ผมเริ่มชอบหนวดเคราของเขา มันเสียดสีผิวหน้าของผมหากแต่เป็นในทางที่ดี พี่เอเริ่มซุกไซ้ซอกคอ จั๊กจี้และวาบหวามกว่าที่ผมเคยคิดไว้มาก เขาจับคางผมไว้โถมทับน้ำหนักตัวลงมาจนรู้สึกอึดอัดพอสมควรริมฝีปากของเราประกบจูบกันอีกครั้งก่อนเขาจะผุดลุกขึ้นนั่งทับบนส้นเท้า
“นี่ถ้าของผมแข็ง ผมจับยัดเข้าไปแล้วนะ” น้ำเสียงของเขาแสดงความกำหนัดในตัว จากนั้นพี่เอก็ลุกขึ้นไปที่ตู้เสื้อผ้า เปิดบานประตูตู้ด้านบนคว้าขวดเจลหล่อลื่นออกมา “ยังไม่เคยเอากับใครจริงเหรอ”
“ไม่เคยเว่ย” ผมตอบแล้วก็ต้องนิ่วหน้าลงเมื่อนิ้วมือของพี่เอสอดเข้ามาในช่องทางด้านหลัง ผมไม่ได้เจ็บไปมากกว่าที่เคยลองทำเอง เพียงแต่เมื่อเป็นนิ้วของคนอื่นทั้งสัมผัสจากความแข็งความอ่อนนุ่มมันแตกต่างจากมือของตัวเอง “เจ็บๆ” ผมบอกพี่เอ พยายามรั้งมือของเขาไว้เพราะนิ้วสองนิ้วที่สอดเข้ามาในคราวเดียวค่อนข้างรวดเร็วเกินไปสำหรับหนุ่มเวอร์จิ้นแบบผม
พี่เอมองมาที่ผมแล้วค่อยๆถอนนิ้วออกมาเล็กน้อย “เจ็บมากป้ะ”
“เจ็บอะ แต่ไม่ได้มาก”
เมื่อได้ยินเช่นนั้นพี่เอก็สอดนิ้วเข้ามาสองนิ้วอีก คราวนี้เริ่มเข้ามาลึกมากขึ้น
“เจ็บ ช้าๆหน่อย”
เขาดูไม่ได้สนใจต่อเสียงร้องของผม อีกทั้งสองนิ้วก็ยังแทรกเข้ามาเรื่อยๆ
“พี่เอ ผมเจ็บ”
เขาหยัดตัวขึ้นมาจูบปาก แต่นิ้วยังคงขยับเข้าออก จะว่านุ่มนวลก็ไม่ใช่จะว่ารุนแรงก็ไม่เชิง แต่ผมยังคงไม่ชินและเจ็บนิดหน่อย พี่เอผละจูบลงมาเล่นกับยอดอก ผมไม่แน่ใจนักว่าเขาทั้งดูดทั้งดึงยอดอกขณะที่นิ้วก็เร่งเร้าในช่องทางด้านหลังของผมไปพร้อมกันได้อย่างไร แต่การปลุกปั่นของเขาทำให้ผมทั้งปวดหนึบที่ด้านหน้าและเจ็บแน่นตึงที่ด้านหลัง
“หายเจ็บยัง”
“เจ็บอยู่นิดนึง”
พี่เอสอดนิ้วเข้ามาจนสุด ทำให้ผมเริ่มร้องบอกอีกครั้งว่ายังแน่นตึงในส่วนนั้นและต้องการให้เขากระทำช้าลง ทว่าพี่เอกลับส่งเสียงชู่วราวกับกำลังปลอบประโลมเด็กน้อย ไม่น่าเชื่อว่าผมจะเงียบเสียงลงและปล่อยให้เขาได้จัดการตามแต่ปรารถนา ช่องทางของผมไม่ได้ขัดขืนฝืนเกร็งมันตอบรับขับสู้แม้ว่าจะยังเจ็บนิดหน่อยก็ตามที กระนั้นเมื่อพี่เอมอบจุมพิตให้ความเสียวซ่านเริ่มแผ่ขยายในบริเวณนั้นอย่างไรสาเหตุ
“ดีขึ้นไหม”
ผมพยักหน้า จากนั้นพี่เอก็ถอนนิ้วออกมาทั้งหมด
“แม่งโคตรแน่น” เขาพึมพำแล้วก็เรอออกมาเพราะการดื่มแอลกอฮอล์มาก
ผมหัวเราะก่อนจะผุดลุกขึ้นนั่งเพื่อจูบที่ริมฝีปากของเขา พี่เอดันร่างผมลงมามองผมด้วยสายตาหวานเชื่อมแบบคนเมา ลมหายใจของเขามีกลิ่นเบียร์ในส่วนนี้อาจฟังดูน่ารังเกียจแต่ผมเห็นตรงกันข้าม
“เสือกมาไม่แข็งอะไรตอนนี้ ผมอยากเอาบีจะแย่อยู่แล้วเนี่ย”
“ควรนอนก่อนนะ ไว้เจอกันวันหน้า”
“นอนค้างนี่ เดี๋ยวตื่นมาของผมก็แข็งแล้ว”
“ไว้ก่อนก็ได้”
“ค้างเหอะ”
“ไม่ค้าง พี่เอนอนเหอะ”
ผมยิ้มให้เขา ไม่ได้นึกถือสากิริยาคนเมาอะไรมากนัก เขาล้มตัวลงนอนอีกฝั่ง ลูบหน้าตัวเองไปมาบ่นพึมพำอะไรบางอย่างที่จับได้ความได้เพียงแค่ว่ากระจอกชิ้บหายกล้วยไม่แข็ง ผมหัวเราะแล้วตามลงไปจูบที่แก้มของเขาก่อนจะลุกขึ้นเพื่อแต่งตัว
“อดเลยอะ” เขารั้งแขนผมไว้ แรงของพี่เอฉุดให้ร่างของผมเซลง อ้อมแขนของเขาตวัดกอดรัดทำราวกับผมเป็นหมอนข้าง “นอนนี่นะ เดี๋ยวตื่นแล้วค่อยทำ”
“เฮ้ย ไม่ค้าง ไม่เป็นไรไว้นัดกันใหม่”
“แม่งเอ้ย ไม่น่าเลยตู” พี่เอดูสะเงาะสะแงะแล้วกอดผมไว้แน่น “หลับแป๊บนึง เดี๋ยวตื่นมาทำเลย”
“ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้เว่ย”
“เออน่า ค้างนี่เถอะ” เขากอดผมแน่นมากจนแทบขยับตัวไม่ได้
“ก็ได้ แป๊บเดียวนะ ยังไงผมก็จะกลับ”
“เออๆ” พี่เอตอบแล้วจากนั้นเพียงครู่เดียวเขาก็หลับตาลงแล้วหลับไปอย่างรวดเร็ว ผมเองก็ยังมึนเมาจากฤทธิ์เบียร์ก่อนหน้านี้จึงหลับตาลง ความจริงผมนอนไม่หลับสนิทหรอกเพราะการนอนอยู่บนแขนของพี่เอไม่สบายตัวสักนิด ผมลองขยับตัวแต่น่าแปลกเหลือเกินที่คนเมากลับรู้สึกตัวไม่ยอมให้ผมขยับไปนอนอีกฝั่ง
“พี่เอ ผมนอนไม่สบาย” ผมบอกแต่พี่กลับทำสิ่งตรงกันข้าม เขารั้งผมเข้าไปก่ายกอดเหมือนหมอนข้าง ไม่สนใจว่าผมจะนอนสะดวกหรือเปล่า ถ้าจะให้นอนสบายผมคงจะต้องแนบใบหน้าอยู่บนหน้าอกของเขาซึ่งท่วงท่านี้ผมไม่สะดวกใจจะทำเลย
“บอกให้ค้าง”
“ไม่ค้างพี่”
“อืม” เขาครางตอบแล้วเป็นฝ่ายขยับตัวเข้ามาซุกใบหน้าที่ซอกคอ ทั้งแขนขาของเราพันกันอยู่ในท่าประหลาด แต่พี่เอไม่ยอมปล่อยตัวผมไป “เราซิงจริงเหรอวะ”
“ถามกี่รอบแล้วเนี่ย” ผมตอบด้วยความเหนื่อยหน่าย
พี่เอลืมตาและผมรู้สึกแปลกประหลาดกับการมองดวงตาของเขาจนต้องเมินมองไปทางอื่น “คือถ้าผม Fucked บี ผมก็เป็นคนแรกถูกป้ะ”
“เออ ทำไมอะ” น้ำเสียงของผมฟังดูก็รู้ว่ารำคาญ
“เปล่า แค่แบบ… ไม่น่าเชื่อว่าจะมีหลุดรอดมาได้”
ผมหัวเราะลงคอไม่ได้ใส่ใจอะไรนัก
“แม่ง ผมอยากเอาบี แต่ของผมไม่แข็งเพราะเมามาก โคตรอุบาทว์”
“เฮ้ย อย่าคิดมาก ผมเข้าใจ”
เขาปล่อยตัวผมในท้ายที่สุด นอนแผ่หรายกมือปิดหน้า “ผมโคตรกระจอกเลยหวะ เมาชิ้บหาย”
ผมหัวเราะร่วน จากใจเลยนะ ผมไม่คิดมากเลยกับสถานการณ์ที่เผชิญนี้ “ผมกลับก่อนนะ”
“No No No Please don’t” เขาพูดออกมาเป็นภาษาอังกฤษ คงเพราะเมาผมจึงรู้สึกตลกกับท่าทางของเขามากกว่าจะคิดเรื่องอื่น
พี่เอตามเข้ามากอดตัวผมที่เพิ่งใส่กางเกงในเสร็จ เขาทั้งกอดทั้งจูบล้วงมือเข้ามาพัวพันเพื่อฉุดรั้งผมไว้ เขาดึงกางเกงในผมลง โน้มใบหน้าลงมาเพื่อรับมันเข้าปาก สภาพคงเดิมเริ่มแปรเปลี่ยนในเวลาอันรวดเร็วผมรู้ตัวว่าไม่สามารถปฏิเสธสัมผัสอันเชี่ยวชาญนี้ได้
“พี่เอ ไว้วันอื่น” ผมประท้วงหากแต่สภาพไม่น่าหลุดรอดจากการใช้ปากของพี่เอได้
“วันนี้แหละ” เขาตอบแล้วรับสัดส่วนที่ตื่นตัวเข้าปากไปทั้งหมด ดูดรั้งอย่างชำนิชำนาญจนผมแทบจะสุขสม พี่เอลุกขึ้นยืนเผชิญหน้าก่อนจะจูบและใช้มือรูดรั้งท่อนเนื้อที่แข็งตัวของผม “ใกล้จะเสร็จยัง”
“ใกล้แล้ว” ผมตอบอยู่ในภาวะเคลิบเคลิ้มจากการใช้มือของอีกฝ่าย
“เสร็จเลย” เขากระซิบบอกแล้วแลบลิ้นเลียคำคอของผม “ใกล้ยัง”
“อืม อีกนิดนึง” ผมจับแขนของเขาไว้แน่นขณะที่อารมณ์กำลังพุ่งทะยานและทิ้งตัวเป็นน้ำขาวขุ่นอยู่ในอุ้งมือของเขา เป็นครั้งแรกของผมที่เสร็จกิจกามโดยอุ้งมือของคนอื่น
“รู้สึกดีป้ะ” ดวงตาของเขายิ้มเช่นเดียวกับริมฝีปาก ผมจับใบหน้าของเขาเข้ามาจูบเลียนแบบในสิ่งที่เขาเป็นฝ่ายสอน พี่เอกัดริมฝีปากของผมแล้วค่อยดูดดึงมอบความนุ่มนวลให้ “ว่าไง รู้สึกดีไหม”
“รู้สึกดี” ผมตอบพลางรับจูบจากเขาอยู่พักใหญ่ แม่งโคตรนัวเนีย ถ้าเขาเป็นคนรักของผมคงเป็นความรู้สึกที่ดีกว่านี้นะ แต่เสียดายที่ผมไม่ได้ชอบเขาในเชิงสานสัมพันธ์ทางความรู้สึก
พี่เอผละตัวออกมา ยืนยิ้มตาเยิ้มฉ่ำอยู่ตรงหน้าก่อนจะหายเข้าไปในห้องน้ำเพื่อล้างคราบน้ำขาวขุ่น ผมสวมใส่เสื้อผ้าจนเสร็จเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่พี่เอเดินออกมาจากห้องน้ำพอดี “ไม่ค้างจริงเหรอ”
“ไม่พี่ ผมไม่ชอบค้างที่อื่น” ผมตอบแล้วมองพี่เอเต็มตา เขาดูมีอะไรมากกว่าภาพลักษณ์ ‘เด็กแนว’ ซึ่งส่วนนี้ผมยังไม่แน่ชัดนัก แต่ช่างเถอะหากเขาไม่ต้องการเผยเรื่องส่วนตัวก็เป็นเรื่องของเขาเพราะตัวผมเองก็ไม่ได้เล่าเรื่องส่วนตัวของผมให้เขาฟังสักอย่าง “ไปละ” ผมบอกเขาแล้วเปิดประตูห้อง
พี่เอรั้งมือผมไว้แล้วจูบอีกครั้งเป็นการปิดท้ายก่อนที่วันนั้นเราจะจากกัน
**********************************************
เรื่องสั้นนี้เรากะไว้ว่ามีประมาณสามตอนค่ะ แต่อาจจะมีแค่สองตอน
ฝากติดตามด้วยนะคะ