อนูบิส จ้าวแห่งแดนมรณะ
บทที่ 18
Anubis Lord of the Death
ใจภักดิ์บังคับพวงมาลัยรถยนต์ให้เลี้ยวเข้ามาจอดในลานจอดรถของโรงพยาบาลในยามบ่าย ทันทีที่รถจอดสนิทเธอก็หันไป
หาผู้โดยสารที่นั่งอยู่ด้านข้าง และเมื่อเห็นอีกฝ่ายยังทำหน้าบึ้งใจภักดิ์ก็หัวเราะเบาๆ
“น้ำชาไม่เมื่อยหน้าบ้างเหรอ ทำหน้าบึ้งตั้งแต่บ้านจนถึงโรงพยาบาล”
ชาลินีในชุดพยาบาลสีขาวเผลอค้อนขวับ นึกหมั่นไส้คนยิ้มขำจนอยากจะยกมือตีเสียหลายหน
“หน้าของฉัน จะเมื่อยก็เมื่อยเองได้ หมออย่ามายุ่งนักเลย”
“ก็อยากยุ่งนี่นา ทำหน้าบึ้งแก่เร็วนะ พอมีรอยตีนกาหน้าย่นแล้วจะหาแฟนที่ไหนล่ะ แม่น้ำชายิ่งเป็นห่วงอยู่”
“นี่หมอ” ชาลินีเหวี่ยงใส่ ประโยคที่ใจภักดิ์พูดออกมาเหมือนยิ่งตอกย้ำปมในใจของหญิงสาวที่ยังไม่มีคนรักทั้งที่อายุใกล้จะ
เบญจเพสแล้ว
“ไม่พูดก็ไม่มีใครหาว่าเป็นใบ้หรอก ฉันไม่มีแฟนแล้วไง ทุกวันนี้ก็สุขสบายดี ไม่เห็นเดือดร้อน”
“ฉันแค่แปลกใจ” ใจภักดิ์มองชาลินี ดวงตาของเธอทำให้ชาลินีร้อนวูบไปทั้งหน้า “น้ำชาน่ะหน้าตาน่ารักขนาดนี้ทำไมถึงไม่มี
แฟน”
คราวนี้เลือดสาวสูบฉีดลามไปถึงใบหู ชาลินีเม้มปากแก้มแดงก่ำจนต้องกลบเกลื่อนความเขินอายด้วยการหลบสายตาของใจ
ภักดิ์จ้องมองแต่สมาร์ทโฟนในมือตนเอง
“ช่างฉันเถอะน่า หมอพูดอีกคำเดียวฉันจะโกรธจริงๆด้วย แล้วต่อไปไม่ต้องรับฉันมาโรงพยาบาลนะ ฉันมาของฉันเองได้”
ใจภักดิ์อมยิ้มอย่างนึกเอ็นดู ผิวของชาลินีขาวอย่างคนเชื้อสายจีน เวลาขัดเขินแก้มของหล่อนจะเปลี่ยนเป็นสีสุกปลั่งจนใจ
ภักดิ์นึกอยากจะดึงแก้มเล่นอย่างหมั่นเขี้ยว
“ทำไมล่ะ ฉันไปกินข้าวที่ร้านของน้ำชาอยู่แล้ว พาน้ำชามาส่งที่โรงพยาบาลก็เป็นทางผ่าน น้ำชาจะได้ไม่ต้องขึ้นรถเมล์เบียด
คนเยอะๆไง ไม่ดีหรือ”
“ก็หมอขับรถเร็ว” ชาลินีเถียง “ดูสิ จับโปเกม่อนไม่ทันสักตัว จะหมุนโปเกสต็อปเก็บของก็ไม่ทัน”
ใจภักดิ์หลุดหัวเราะออกมาจนได้ หญิงสาวส่ายหน้าเมื่อได้ฟังเหตุผลของชาลินี
“โอเคๆ งั้นฉันจะขับรถให้ช้าลง น้ำชาจะได้เล่นเกมได้ ตกลงไหม แล้วนี่ลงเวรบ่ายเที่ยงคืนใช่ไหม ฉันมารับน้ำชาไปส่งบ้าน
นะ กลับดึกมันอันตราย”
ชาลินีเหลือบมองเสี้ยวหน้าของใจภักดิ์ด้วยความสงสัย หญิงสาวเริ่มแคลงใจว่าทำไมใจภักดิ์ถึงต้องมาทำดีกับตนเองแบบนี้
ด้วย
“ฉันกลับดึกของฉันมานานตั้งแต่เริ่มทำงานไม่เห็นว่าจะมีอันตรายตรงไหน”
จะอันตรายก็ตั้งแต่หมอเข้ามาวอแวในชีวิตนี่แหละ ชาลินีเอ่ยประโยคนั้นในใจ
“มาทำดีกับฉันแบบนี้ หวังผลอะไรหรือเปล่า”
“ก็นิดหน่อย” ใจภักดิ์ยอมรับ “อยากให้น้ำชาไปช่วยสืบให้หน่อยว่าช่วงเวลาที่เกิดเหตุขโมยหัวใจคนตายน่ะ หมอศัลยกรรม
คนไหนขึ้นเวรวันนั้น ฉันอยากจะให้ผู้ต้องสงสัยมันแคบเข้ามา”
ชาลินีขุ่นใจขึ้นมาตะหงิดๆที่ใจภักดิ์ยอมรับตรงๆว่าต้องการความช่วยเหลือ หญิงสาวไม่เข้าใจตนเองเหมือนกันว่าจริงๆแล้ว
ต้องการฟังคำตอบจากปากของใจภักดิ์ว่าอะไรกันแน่ แต่ที่ชาลินีทำได้ในตอนนี้คือหันไปหาใจภักดิ์พร้อมกับเลิกคิ้วด้วยใบหน้ายียวน
“แล้วทำไมฉันต้องช่วยหมอล่ะ เราเป็นอะไรกันรึก็เปล่า”
“น้ำชาอยากให้เราเป็นอะไรกันล่ะ” ใจภักดิ์เอียงคอมองชาลินีด้วยนัยน์ตาพราว ไม่นึกว่าชาลินีจะเปิดทางโดยไม่รู้ตัว “ฉัน
ตามใจน้ำชานะ อยากให้ฉันเป็นอะไร ฉันก็จะเป็นอย่างที่น้ำชาอยากให้เป็น”
ถ้ามุดไปตามดินได้ ชาลินีนึกอยากจะทำเช่นนั้น
ตอนนี้ชาลินีแทบจะอ้าปากค้างเมื่อเจอคำตอบของใจภักดิ์ ประกอบกับสายตาของหญิงสาวที่หยุดชาลินีไว้จนไม่กล้าแม้แต่จะ
หายใจ จะหลบตาก็ทำไม่ได้และยิ่งประสานสายตากับดวงตาล้ำลึกของใจภักดิ์ หัวใจของชาลินีก็ยิ่งเต้นรัวจนกลัวว่าจะหลุดออกมานอก
ทรวงอก ความขัดเขินวิ่งวนอยู่ในร่างกายจนคล้ายจะเป็นลม
“เอ่อ...” ติดอ่างขึ้นมาทันทีเมื่อพอจะหาสติกลับคืนมาได้ ชาลินีเบนสายตาหลบพร้อมกับกลืนน้ำลายลงคอ
“ช่างเถอะ ถือเสียว่าฉันช่วยงานราชการเพราะอยากให้หาคนร้ายได้เร็วๆก็แล้วกัน อ๊ะ ใกล้ถึงเวลาขึ้นเวรบ่ายแล้ว ฉันไป
ทำงานล่ะ”
ลนลานเพราะอยากจะไปให้พ้นสภาพที่ตกเป็นเป้าสายตาของใจภักดิ์ จนกระทั่งโทรศัพท์มือถือในมือหลุดร่วงลงไปในช่อง
ว่างระหว่างเบาะนั่งโดยไม่ได้ตั้งใจ ชาลินีอุทานออกมาก่อนจะเอี้ยวกายลงไปเก็บ เป็นจังหวะเดียวกับที่ใจภักดิ์เองก็ก้มลงไปหวังจะช่วย
เหลือ จมูกโด่งของใจภักดิ์จึงชนเข้ากับแก้มนุ่มของชาลินีอย่างพอดิบพอดี
กลิ่นหอมอ่อนๆของแป้งเด็กรวยรินเข้าจมูกจนใจภักดิ์ต้องชิงโอกาสสูดกลิ่นนั้นเข้าไปเต็มปอด ในขณะที่เจ้าของกลิ่นหอมถึง
กับเม้มปากแน่นตัวแข็งทื่อ
“ทำอะไรเนี่ย ยัยหมอบ้า”
ชาลินีผลักไหล่ของใจภักดิ์ออกห่าง หญิงสาวอายจนอยากจะร้องไห้ มือบางยกขึ้นเช็ดแก้มตัวเองแรงๆจนใจภักดิ์หน้าเสีย
“น้ำชา ขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจ...”
คว้ามือบางและนุ่มที่ยกเช็ดใบหน้าตนเองมากุมไว้ ใจภักดิ์เองก็นึกไม่ถึงว่าจะกล้าทำเช่นนี้ ความน่ารักของชาลินีกำลังทำให้ผู้
หญิงแกร่งเช่นเธอปั่นป่วนไปหมด
“จะไปไหนก็ไป แล้วอย่ามายุ่งกับฉันอีกนะ”
ชาลินีสะบัดมือเรียวที่กุมมือของเธอออกอย่างแรงก่อนจะเปิดประตูรถและรีบก้าวออกไปโดยไม่สนใจจะหยิบโทรศัพท์มือถือ
อีกแล้ว หญิงสาวโกยอ้าวไม่ยอมหันกลับมามองดวงตาที่บอกถึงความสับสนของใจภักดิ์ที่มองตามหลังชาลินีจนลับสายตา
กลิ่นหอมของชาลินียังอวลอยู่ในความรู้สึก ใจภักด์ได้แต่ถามหัวใจตนเองว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เธอกำลังคิดอะไรกับหญิง
สาวที่ชื่อชาลินี คำถามนี้เป็นเรื่องเร่งด่วนที่ใจภักดิ์ต้องหาคำตอบโดยเร็วที่สุด
มีต่ออีก...