/
ผมอาจจะเป็นคนใจร้ายกับความหวังดีของคนอื่นก็จริง
แต่ผมก็เชื่อน่ะ...ว่าทุกสิ่งที่ได้ทำลงไปผมคิดดีแล้ว...
และไม่ว่าผลจะออกมาเป็นยังไง ผมก็ยังเชื่อในการตัดสินใจของตัวเองอยู่ดี
/
จะว่าไป...เท่าที่จำความได้ ผมค่อนข้างจะเป็นเด็กเก็บกดนะ เมื่อก่อนที่บ้านจะอาศัยกันเป็นครอบครัวใหญ่ ส่วนมากผมก็เล่นกับญาติพี่น้องไปตามเรื่อง ผมค่อนข้างจะสนิทกับพี่ชาย-น้องชายที่เป็นญาติกัน คนน้องไม่เท่าไหร่ แต่คนพี่เนี่ยดิ....จะว่าไปพี่ผมก็เป็นคนประหลาดๆ นะ แต่ถ้าคิดในแง่ดีก็แค่เด็กผู้ชายห่ามๆ ที่มีความคิดสร้างสรรค์คนนึงเท่านั้นเอง
ถ้าจะเล่าว่าเป็นไงคงยาว...เอาเป็นว่ามีของเล่นแปลกๆ มานำเสนอให้พวกเราอึ้งกันเป็นประจำ มีวันนึงพี่ผมมันเอาประทัดมาจุด เสียงดังไปทั่วบ้าน...ดังอ่ะไม่เท่าไหร่ แต่ควันนี่สิคับพี่น้อง...ยังกับไฟไหม้
ไอ้ผมก็เป็นเหมือนลูกกระจ๊อก พี่เล่นอะไรก็ชอบไปร่วมแจม พอเกิดเรื่องขึ้น....ตายาย พ่อแม่วิ่งออกมาดูกันเต็ม
พ่อผมตะโกนหาตัวคนก่อเรื่อง....พี่ผมมันก็เงียบ เพราะมันกลัวพ่อผม
แต่ก็ต้องยอมรับล่ะคับ เพราะไม่มีใครคนไหนเล่นอะไรแบบนี้นอกจากมันอีกแล้ว
แต่พอพ่อรู้ว่าเป็นพี่ผม...พ่อกลับไม่ว่าอะไรเลย
กลับมาลงที่ผมซะงั้น ตะคอกเรียกผมไปจะตีอ่ะ ทั้งที่ผมยังไม่ทันจะเล่นอะไรเลย แค่ยืนดู
ผมยืนหลบอยู่หลังยาย ไม่กล้าออกไป เพราะพ่อผม....น่ากลัวกว่าเสือครับ แถมยังขี้เมาอีกต่างหาก
ที่เกริ่นเรื่องมาซะยาว ผมก็แค่อยากเล่าอ่ะคับ...ว่าใครบ้างที่มีอิทธิพลในการใช้ชีวิตของผม
พ่อผม....จะว่าไปเป็นคนชอบสร้างปัญหา แล้วก็ขี้หงุดหงิดแบบไร้เหตุผลอ่ะคับ เวลาโมโหอ่ะ ร้ายจนไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ ผมก็เลยต้องอดทนกับเรื่องพวกนี้พอสมควร.... ทนไปมากๆ เข้า มันก็กลายเป็นความเสียใจ ความน้อยใจ...ความโกรธ กดดัน หลายอย่างอ่ะคับ... จนผมต้องพยายามซ่อนปมปัญหานี้ไว้ในใจ ไม่ให้ใครคนไหนเห็นว่าผมอ่อนแอ
ส่วนพี่ผม...คนนี้ผมยกให้เป็นฮีโร่ในเรื่องความเป็นตัวของตัวเองคับ มีคนเดียวในโลกแน่ บ้าๆ แบบนั้น....มีความเป็นศิลปินสูงคับ ในการทำเรื่องอะไรก็แล้วแต่...พี่ผมเป็นคนไม่ค่อยพูดนะ มันชอบทำให้เห็นเลยมากกว่า
จะว่าไปแล้ว......สิ่งนี้ล่ะมั้ง ทำให้กลายมาเป็นตัวผมในปัจจุบัน
/
เรื่องครอบครัวถ้าจะให้เล่ามันก็ยาวอ่ะคับ...แต่บอกไว้เลยว่าครอบครัวเนี่ยแหล่ะ เป็นตัวสำคัญที่มีอิทธิพลต่อความคิดของเด็กคนนึง
ตัดๆ มาตอนก่อนผมขึ้นมัธยมละกัน
ช่วงนั้นบ้านแตกแล้วคับ...ไม่ใช่พ่อแม่ผมหย่ากันนะ (ถึงลึกๆ ผมอยากจะให้หย่าก็เถอะ)
สั้นๆ ว่ายายผมสร้างเรื่อง ทำให้พี่ผมต้องย้ายออกละกัน
ผมเศร้ามากนะ แต่ดูเหมือนยังไม่ค่อยรู้ตัว
แถมหมาที่บ้านยังมาตายไล่เลี่ยกันอีก...โคตรโกรธเลย ไม่รู้โดนใครวางยาหรือขับรถชน
ตอนนั้นผมไปเรียนพิเศษเตรียมเข้ามัธยมคับ...ไม่รู้ไปเรียนได้ไงเหมือนกัน
คนที่สอนเป็นพี่ที่เรียนมหาลัยแล้ว ก็สอนประมาณสามคนมั้ง ใครสอนอะไรผมจำไม่ได้
คนที่สอนผมส่วนมากก็พี่แตม แอบโหดเล็กน้อยถึงปานกลาง
แล้วก็พี่จ้าว (ส่วนอีกคนลืมชื่อ เพราะเป็นตัวประกอบ) ผมจำไม่ได้แล้วอ่ะว่าไปไงมาไง ผมกับพี่จ้าวถึงสนิทกัน
งงมะคับ...ไม่ค่อยได้มาสอน แต่เสรือกสนิทกัน
พี่จ้าวเค้าชอบเข้ามาแจมตอนพี่แตมสอนอ่ะคับ...ตอนนั้นผมเป็นคน............จะว่าไงดีล่ะ
เหอะๆ อายปาก แต่ตอนเด็กผมค่อนข้างป๊อปง่ะ มีเด็กผู้หญิงมาชอบเยอะ
ผมเป็นคนประเภท มีดวงในเรื่องความรัก แต่อาภัพในเรื่องเพื่อนคับ
จน ณ ปัจจุบันนี้ผมยังหาเพื่อนแบบว่า best friend ไม่มีเลยสักคนจริงๆ
มีแต่ close friend อ่ะ แอบงงกันมั้ย
/
พี่จ้าวเค้าจะเข้ามาคุยกับผมบ่อยๆ เอาขนมมาให้ด้วย...แรกๆ เค้าจะให้กับน้องๆ ทุกคนล่ะคับ
แต่หลังๆ ชักจะเจาะจงว่าเป็นผม...คือ ตอนนั้นผมโดนเพื่อนเขม่นไปแล้ว เด็กๆ อ่ะคับ เป็นใครๆ ก็อยากให้ครูสนใจใช่มั้ย
แต่ผมกลับตรงข้ามนะคับ...ผมชอบแยกตัว ฉายเดี่ยว พอมีคนสนใจมากๆ ผมจะหนีอ่ะคับ
แต่ตอนนั้นมันไม่เป็นงั้นสิคับ....ผมยังไม่รู้นี่ ว่าพี่จ้าวเค้ามีจุดประสงค์อะไร
ผ่านไปเดือนนึง.....ผมเริ่มรู้ตัวว่าสนิทกับพี่จ้าวจริงๆ เพราะอยู่มาวันนึง จู่ๆ เค้าชวนผมไปเที่ยวเฉยเลย ไปกันแค่สองคน...
พูดกันตามตรง....ผมโคตรอยากไป เพราะวันๆ ผมไม่ค่อยได้เที่ยวคับ แต่ปัญหาติดตรงที่บ้านจะให้ไปรึเปล่าเนี่ยสิ พี่เค้าก็บอกว่าไม่เป็นไร เดี๋ยวเค้าจัดการขอพ่อแม่ผมให้เอง ไม่ต้องห่วง... ผมก็พยักหน้าโอเค แต่ก็ย้ำให้พี่เค้าโทรไปบอกแม่ผมด้วย (สมัยนั้นยังไม่มีโทรศัพท์มือถือกัน)
กลับบ้านไปผมก็เล่าให้แม่ฟังว่า พี่ที่สอนพิเศษชวนไปเที่ยว
แม่ผมก็งงสิคับ...ก็ถามว่าไปที่ไหน อะไรยังไง....เค้าก็ห่วงๆ ผมน่ะ แต่ก็โอเคให้ผมไป เพราะเห็นว่าพี่เค้าก็โตแล้วอ่ะนะ แถมลงทุนโทรมาขอขนาดนี้ จะไม่ให้ก็ยังไงๆ
พอพี่จ้าวโทรขอแม่ผมคืนก่อนไปเสร็จ....แม่ก็มานั่งสัมภาษณ์ผมว่าไปสนิทกับพี่เค้าได้ยังไง สนิทกันมากถึงขั้นชวนไปเที่ยวเลยเหรอ ผมก็...จะไปรู้เหรอคับตอนนั้น จะให้ตอบว่าไงล่ะ....
/
พอเช้าวันรุ่งขึ้น จะบอกว่าพี่จ้าวขับมอไซต์มารับผมที่บ้านตั้งแต่เช้าเลยคับ...ผมยังไม่ทันแต่งตัวเลย
แม่กับยายก็เลยออกไปรับหน้าแทนก่อน ก็ไปพูดคุยสอบประวัติกันล่ะมั้งคับ
พอผมแต่งตัวเสร็จ...ผมยังจำได้ติดตาเลยนะคับ
พี่เค้ายิ้มหวานมาให้ทีเดียวเชียว...แต่ผมกลับเกร็งขึ้นมาตะหงิดๆ เพราะไม่เคยไปเที่ยวกับคนอื่นนอกจากคนในครอบครัวมาก่อนครับ
“ฝากพุด้วยนะลูก...ขับรถก็ระวังๆ กันด้วย” แม่ผมพูดก่อนที่จะแยกย้ายกันไป
“ครับผม จะดูแลน้องเค้าอย่างดีเลย คุณป้าไม่ต้องห่วงนะครับ” พี่จ้าวยิ้มรับ ก่อนจะไหว้แม่กับยายผม แล้วเดินนำไปที่รถ
“วันนี้อยากไปไหน หืม?” พี่จ้าวขึ้นคร่อมมอไซต์แล้วหันมายิ้มถามผม
“ไม่รู้ครับ...ไปไหนก็ได้” ผมกระโดดขึ้นรถบ้าง พี่จ้าวหันมาหาอีกทีตอนใส่หมวกกันน็อค...
“ใส่ให้พี่หน่อยคับ มองไม่เห็นอ่ะ” เค้าเงยหน้าให้ผมรัดสายหมวกกันน็อคให้ พอใส่เสร็จ เค้าก็ยิ้มให้อีกที แล้วก็ขยี้หัวผมแบบหมั่นเขี้ยวง่ะคับ
พอออกรถปั๊บ...ตอนนั้นผมเกร็งๆ ปนเกรงใจพี่เค้านะคับ
แม้ว่าเราจะคุยกันบ่อยๆ ที่เรียนพิเศษ แต่มันก็ในฐานะลูกศิษย์กับอาจารย์อ่ะคับ ผมเองก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะมันไม่มีอะไรต้องคิดนี่คับ
แต่พอวันนี้ได้ออกมาเที่ยวกันแบบนี้ผมเลยเริ่มรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนพิเศษขึ้นมาจริงๆ
“เกาะเอวพี่ไว้ก็ได้ครับ พี่กลัวน้องจะตกรถ” พี่จ้าวยังอุตส่าห์หันมาตะโกนบอกผมตอนขับรถอยู่
พอได้ยินผมเลยยกมือมาจับตรงเสื้อพี่เค้าอ่ะคับ ไม่ได้เกาะเอว จับแค่เสื้อ แบบว่ายังแอบเกรงใจอยู่อ่ะ
“เดี๋ยวพี่ไปถอนเงินที่ธนาคารแป๊บนึงนะ แล้วเดี๋ยวค่อยไปหาอะไรกินกัน” พี่จ้าวยังคงคุยกับผมตอนขับรถต่อไป...
ช่วงเช้าๆ ไม่ค่อยมีรถคับ พี่ท่านเลยขับกินลมซะงั้น
ตอนนั้นผมแอบคิดแบบเด็กๆ นะว่า....โห ทำไมไม่เตรียมเงินไว้ก่อนไปวะ ยังต้องเสียเวลาไปถอนเงินที่ธนาคารอีก แอบเซ็งไปเลยง่ะตอนนั้น
แต่พอพี่เค้าจอดรถหน้าตู้ๆ นึงหน้าธนาคาร จะว่าเป็นตู้โทรศัพท์ก็ไม่ใช่ ทีวีก็ไม่เชิง.......แป่ว สรุปมันคือตู้เอทีเอ็ม
ตอนนั้นผมยังไม่รู้จักไอ้ตู้นี้นี่หว่า บอกตรงๆ แอบหน้าแตกเพล้งในใจ ไม่รู้จักจริงๆ อ่ะ ผ่านธนาคารเป็นล้านครั้งก็ไม่เคยสังเกตว่ามันคืออะไร
จนพี่เค้ากดตังค์ออกมา...ผมชะโงกหน้าดูแบบเพิ่งเคยเห็นแบบนี้ง่ะ ชีวิตผม เรียนแล้วก็มีคนมารับกลับบ้าน ไม่ค่อยได้ออกไปไหน ไม่ค่อยรู้จักอะไรมากมาย
“แค่นี้น่าจะพอเนอะ” พี่จ้าวหันมาถามผมถึงจำนวนเงินที่ถอนออกมา ซึ่งผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าพอหรือไม่พอ
“ชอบกินไก่มั้ย?” พี่จ้าวถามอีก ผมก็แค่พยักหน้า...
แล้วเค้าก็ขับรถพาผมไปร้านอาหารร้านนึง...
พออยู่นานๆ ไปถึงรู้มันคือภัตตาคาร...เชียวนะ แต่เค้ามีของดีคือไก่นานาชนิดให้เลือกง่ะ
/
พอเข้าไปถึงข้างใน.....จะบอกว่าไม่มีคนเลยคับ
ฮ่าฮ่า ไม่ต้องแปลกใจ เพราะมันยังเช้าอยู่อ่ะ ห้างยังไม่เปิดเลยคับพี่น้อง
พี่เค้าก็ถามผมอีกว่าอยากกินอะไร ผมก็นั่งอึ้งอยู่อย่างงั้นอ่ะ.... (ผมเด็กอยู่มั้ง ไม่เคยสั่งของกินเอง) มันออกแนวอึดอัด ยังไงบอกไม่ถูก
พี่จ้าวก็เหมือนว่าถามผมไปงั้นแหล่ะ สุดท้ายเค้าก็เป็นคนสั่งอาหารเองทั้งหมด
จานหลักๆ เลยก็คงต้องเป็นไก่นึ่งอะไรเทือกๆ นั้นล่ะคับ
ผมไม่ค่อยอยากกินนะ...กินไม่ลงอ่ะ เห็นหน้าตาไม่ค่อยน่ากิน (กินข้าวเช้ามาแล้วด้วยนิดนึง)
แต่ความจริงอร่อยมาก...เหอๆ พี่จ้าวเค้าก็บริการผมทุกอย่างนะ คอยตักนั่นตักนี่ให้ หั่นไก่ให้ด้วย....
ไม่มีคนคอยทำอย่างงี้ให้ผมนานแล้วนะเนี่ย...แอบสะท้อนใจเล็กๆ
“มา อ้าปาก เดี๋ยวพี่ป้อน” ผมส่ายหัวทันที
“กินเองได้คับ” พี่เค้าก็เลยวางส้อมลง
“ไม่อร่อยเหรอ พี่เห็นพุไม่ค่อยกิน” ทำหน้าลำบากใจให้ผมด้วย
“ป่าวคับ พุไม่ค่อยหิว”
“โห..กินนิดเดียวเอง ช่วยกินหน่อยสิคับ เดี๋ยวพี่ตักให้นะ” ที่จริงแอบเสียดายไก่เหมือนกัน......ผมกินแทบนับคำได้
/
รู้สึกพี่จ้าวจะคอยชวนผมคุยเยอะมาก...แต่อย่างที่บอก ผมเป็นคนไม่ค่อยพูด ค่อนข้างเงียบเลยแหล่ะ... จนบางทีพี่จ้าวก็หมดมุขเป็นเหมือนกัน จนแล้วจนรอดผมก็ไม่สามารถช่วยพี่เค้ากินได้หมด....เหลือเยอะด้วยอ่ะ แต่พี่เค้าก็ปล่อยๆ ไป ไม่ได้ว่าอะไร หลังจากนั้นเราก็ไปเที่ยวกันต่อ...พี่จ้าวพาผมไปร้านขายสัตว์เลี้ยง
ผมเคยเล่าให้ฟังว่าหมาที่บ้านตาย พี่เค้าเลยพาผมมาซื้อหมาตัวใหม่
ตอนแรกผมดูมันก็ไม่น่ารักเท่าไหร่...ไม่รู้ด้วยว่าพันธุ์อะไร แต่พี่จ้าวบอกตัวนี้น่ารัก ขนสีน้ำตาลเข้ม ตัวเล็กๆ ที่สำคัญเห่าเก่ง พอผมเอาไปเลี้ยงที่บ้านจะได้ไม่เหงาหู พี่จ้าวว่างั้นนะ
เหอๆ ผมก็ยังไงก็ได้อ่ะ...ผมเป็นคนประเภทดูเหมือนจะสนใจสิ่งหนึ่ง แต่ในขณะเดียวกันก็ดูเหมือนจะไม่สนใจสิ่งนั้นเหมือนกัน....งงๆ มะคับ คือผมเป็นคนรักหมานะ แต่ผมก็ทำเหมือนไม่ค่อยสนใจมันน่ะ
ตอนพี่จ้าวซื้อมาให้ เค้ายังบอกว่าแอบกลัวผมเอามันไปทิ้งเลย เพราะดูเหมือนผมไม่ค่อยดีใจที่ได้มันมา
ผมก็เงียบนะ....ไม่ได้บอกว่าผมคิดยังไงกับมัน ซึ่งนี่ก็เป็นนิสัยที่เป็นด้านลบอย่างหนึ่งของผมเหมือนกัน
พอซื้อเสร็จพี่เค้าก็ฝากไว้ที่ร้านก่อน เดี๋ยวตอนกลับเค้าจะวนรถมารับอีกที
/
จนตอนเที่ยงพี่จ้าวยังจะพาผมไปกินไก่อีก...คราวนี้เป็นเคเอฟซี เค้ายังคอยหั่นไก่เป็นชิ้นๆ ให้ผมกินเหมือนเดิม...ผมแอบไม่พอใจที่เค้าทำเหมือนว่าผมเด็กมาก เรื่องแค่นี้ผมทำกินเองได้หรอก แต่ในขณะเดียวกันผมก็พอใจนะ ที่ไม่ต้องเปลืองแรงหั่นเอง
กินเสร็จเราก็ไปเดินซื้อของกันนิดหน่อย....
อยากจะบอกว่าแม่ให้ตังค์มา ผมยังไม่ได้ใช้สักบาท พี่จ้าวออกให้หมดเลย
พอผมจะจ่ายเอง พี่เค้าก็บอกไม่ต้อง ไม่เป็นไร เค้าจะจ่ายเอง....ผมก็ไม่ว่าไร ขัดไม่ได้อยู่แล้วอ่ะ
เดินเที่ยวกันจนเหนื่อย....ตอนเย็นก่อนกลับ พี่จ้าวเค้าชวนผมไปเที่ยวมหาลัยเค้า แล้วก็อยากให้ผมแวะไปดูหอที่เค้าอยู่
ผมแอบไม่เข้าใจนะ...ไปทำไมมหาลัย? ไปทำไมหอพัก? แต่จังหวะนั้นเค้าพาไปไหนก็ไปล่ะคับ แถมม.พี่จ้าวอยู่ใกล้บ้านผม ผมเลยคิดว่าแวะก่อนกลับก็ไม่เสียหายอะไร
พี่จ้าวก็พาผมขับรถวนๆ ในมหาลัย....บรรยากาศตอนเย็นมันก็ค่อนข้างจะดีอยู่
มีนักศึกษานั่งอยู่ตามม้านั่งประปราย จนกระทั่งพี่จ้าวจอดรถตรงหน้าโรงอาหาร เหมือนอยากจะเข้าไปหาเพื่อนหรืออะไรทำนองนั้นมั้ง
ลงรถปั๊บเค้าก็จับมือพาผมเดินเข้าไปหาเพื่อนที่นั่งๆ คุยกันอยู่
“เฮ้ย ไปไหนมาวะไอ้จ้าว หายหัวไปทั้งวัน” เพื่อนพี่จ้าวทักทันทีที่เห็นร่างสูงๆ เดินเข้าไปหา
“อ้าว....แล้วนั่นใครวะ?” อีกคนพอเห็นผมก็เลยถามขึ้นมา
“.....นี่เด็กที่เรียนกับกู ชื่อน้องน้ำพุ” พี่จ้าวยืดอกยิ้มเหมือนจะภูมิใจนำเสนอผมมาก
“เหอๆ กูก็นึกว่าใคร....ที่แท้เด็กมึง?? น่ารักดีนี่หว่า” มีแซว....แต่ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไร เลยเฉยๆ
“ไอ้นี่...เดี๋ยวกูต่อยปากแตก น้องเค้ายังเด็กอยู่เว้ย 12-13 อยู่เลย” พี่จ้าวสวนคืนเหมือนจะโมโหนะ แต่กลับยิ้ม.....ดูขัดกันอย่างแรง
“ห่า...กูพูดถึงหมาที่น้องเค้าจูงมาเว้ย....น่ารักดี” แหง่ะ...พูดถึงหมาแต่หันมาส่งสายตาล้อเลียนให้ผมนี่หมายฟามว่าไง
“หมาตัวนั้นชื่ออะไรคับน้องน้ำพุ?”
“หมีคับ” ผมกับพี่จ้าวตกลงว่าชื่อนี้ครับเพราะมันหน้าตาเหมือนเท็ดดี้แบร์
“น่ารักจัง พี่ขออุ้มได้มั้ยคับ?”
“คับ” ผมตอบแบบไม่คิดไรจริงๆ
แล้วพี่คนนั้นเค้าก็เดินมาคับ.....เดินมาถึงปุ๊บ พี่เค้ากลับสอดแขนใต้รักแร้โอบหลังแล้วอุ้มผมขึ้นเฉยเลย ตกใจดิคับ...ไอ้ผมก็นึกว่าเค้าจะไปอุ้มเจ้าหมี
พอผมร้อง “เอ้ย” เท่านั้นล่ะคับ........ไม่ทันหายอึ้ง พี่จ้าวเดินมากระชากผมออกจากมือพี่คนนั้น แล้วแทบจะโยนผมลงพื้นกันเลยทีเดียว....พอขาผมแตะพื้นปั๊บ พี่จ้าวก็ยันเท้าไปที่ท้องพี่คนนั้น จนพี่เค้าเซเกือบล้ม
“มึงอย่ามาทำกับน้องเค้าแบบนี้” พี่จ้าวชี้หน้าบอกเพื่อน ที่ดูเหมือนจะอึ้งไม่แพ้กัน
“เรื่องงานไว้วันหลังแล้วกัน ตอนนี้กูไม่มีรมณ์แล้ว” แล้วก็หันหน้าไปบอกเพื่อนอีกคนที่นั่งตาค้างอยู่ จากนั้นก็ลากแขนผมออกจากโรงอาหารไปที่รถมอไซต์
ตอนนั้นผมไม่ค่อยเข้าใจเรื่องที่เกิดขึ้นเลยคับ.......
/
“ตกใจรึเปล่า?” พี่จ้าวถามอีกครั้งตอนที่เค้าขับรถพาผมไปถึงหอพักของเค้าแล้ว...มันก็อยู่ใกล้ๆ มหาลัยล่ะคับ...เห็นเค้าบอกว่าอยู่คนเดียว ภายในห้องค่อนข้างเป็นระเบียบ หรือเพราะข้าวของไม่ค่อยจะมีก็ไม่รู้
“ป่าวครับ” ผมตอบไปตามความจริง....เพราะผมไม่ค่อยสนใจเรื่องแบบนี้อยู่แล้ว แค่งงเฉยๆ มันยังไม่ทันตั้งตัว
“พี่ขอโทษนะ....เพื่อนพี่มันทำอะไรไม่ค่อยคิดอ่ะ ถ้าทำให้พุตกใจพี่ก็ขอโทษแทนมันด้วย” พี่เค้าพูดพลางจ้องตาผมไปด้วย....ผมหลุบตาลงแล้วพยักหน้าแค่นั้น
และแล้วก็เกิดความเงียบขึ้นมาอีกครั้ง ผมเองก็ไม่รู้จะทำอะไรก็เลยได้แต่นั่งลูบหัวเจ้าหมีเล่นอยู่ในห้องพี่จ้าว คือผมชอบลูบหัวหมาคับ มันดูอบอุ่นดี
“น้ำพุต้องดูแลเจ้าหมีมันให้ดีๆ รู้มั้ย....เห็นอย่างงี้มันก็ขี้เหงานะ ถ้าเจ้าของดูแลไม่ดี” พี่จ้าวลงมานั่งข้างๆ แล้วดึงเจ้าหมีไปนั่งบนตัก
“ครับ” ผมตอบรับสั้นๆ เหมือนเคย
“สัญญากับพี่ได้มั้ยคับว่าน้ำพุจะไม่ทิ้งมัน”
“ได้คับ”
“ท่าทางเจ้าหมีมันจะกินจุด้วยนะ อย่าลืมให้อาหารมันทุกวันนะ”ผมพยักหน้าอีก พี่จ้าวยิ้มตาหยี แล้วดึงผมไปกอด....แถมแอบขโมยหอมแก้มผมด้วยอ่ะ
เงอะ....พอโดนทำแบบนั้นผมหน้างอขึ้นมาโดยอัตโนมัติ
“ฮ่าฮ่า......โกรธที่พี่หอมแก้มเหรอ?”
“..........................” ผมไม่ตอบ แต่จ้องหน้าแบบเคืองๆ ง่ะคับ แล้วยกไหล่ขึ้นมาเช็ดหน้าตัวเอง...ออกแนวรังเกียจเล็กๆ
พี่จ้าวเห็นก็กลั้นยิ้ม แล้วดึงหน้าผมมาหอมแก้มอีกข้าง คราวนี้ผมโกรธจริงคับ เลยผลักไหล่พี่เค้าออกสุดแรง
“อะไรกัน แค่หอมแก้มเอง....ทำไมหวงเหรอ?” ยังไม่ยอมหยุดยิ้มล้อผม แถมยังเอานิ้วมาเขี่ยแก้มเล่น
“..........................” ผมทำหน้าไม่พอใจ แต่ไม่ได้พูดอะไร
“โอ๋...พี่ขอโทษนะครับ พี่ผิดไปแล้ว ยกโทษให้พี่นะคับน้องน้ำพุ” จะขอโทษแต่เสรือกมากอดไม่เลิก
“ปล่อย” ผมพูดแบบมีอารมณ์นิดๆ
“บอกก่อน....ว่าไม่โกรธพี่แล้ว”
“ปล่อยยย” ผมขึ้นเสียงอีก ไม่ได้ดีดดิ้นอะไรคับ เพราะลองๆ ง้างแขนดูแล้วมันไม่ออก
“น้า......พี่ขอโทษจริงๆ........น้องน้ำพุอย่าโกรธพี่นะครับ” น้ำเสียงเริ่มจริงจังขึ้นมา ผมก็เลยยอมพยักหน้ายกโทษให้พี่เค้า
ผมยังนั่งเล่นอยู่ในห้องของพี่จ้าวจนมันเย็นมากแล้ว พี่เค้าเลยพาผมกลับไปส่งบ้าน
แม่ผมออกมารับ แล้วก็ยืนคุยกับพี่จ้าวนิดหน่อย....ก่อนที่พี่เค้าจะขอตัวกลับบ้านไป
H
(โค๊ะ โพสติดแล้ว)
ปล่อยออกมาแล้ว..... ขอฝากตัวอีกทีนะคับ
ดีเลวยังไง ก็ติชมได้นะทุกท่าน
เรื่องย้อนหลังไปเมื่อสิบปีก่อนได้ โลว์เทคอยู่
เราชอบนำเสนอมุมดาร์คๆ ของคน เพราะฉะนั้น... ก็พึงระลึกได้ว่าคนเราไม่มีทางดีได้ตลอดเวลา หรือ 100% เป็นกำลังใจให้ด้วยนะคร้าบ
เราเขียนไว้อีกเรื่อง สนใจตามอ่านได้คับ
จิ้มที่นี่แต๊งกิ้ว:pig4: