S'Diary : ไดอารี่ของสมปอง [ บทพิเศษ : 4/4/2019 ] หน้า 10
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: S'Diary : ไดอารี่ของสมปอง [ บทพิเศษ : 4/4/2019 ] หน้า 10  (อ่าน 31135 ครั้ง)

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
อยู่ด้วยกัน แต่ไม่ใช่แฟน ชักสงสารพี่หยามเสียแล้วเรา  :ling1:

ออฟไลน์ chaleeisis

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 249
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-3
บทที่ 36 คนแรกและคนสุดท้าย



ทำไมประเทศไทยจะต้องอากาศร้อนด้วยวะ

เหงื่อนี่ไหลจะหมดตัวแล้วนะ

งื้อออ.ออ.....อยากกลับหอ

ผมนั่งงอแงเขี่ยใบไม้เล่นไปมารอเวลาที่พวกพี่ปี 2 จะปล่อยกลับบ้าน ตอนนี้เป็นเวลาบ่าย 2 ซึ่งอากาศกำลังร้อนชิบหายเลย พวกพี่เขานัดเด็กโยธามาคุยเรื่องค่ายอบรมที่เราจะไปกันในอีกไม่กี่อาทิตย์ข้างหน้า จากเมื่อวันที่ผมไปดูค่ายกันที่พิษณุโลกนั้นก็ผ่านมา 3 อาทิตย์แล้วครับ ตอนนี้ชีวิตก็วนลูปกลับมาเรียนอีกครั้ง

วันหยุดช่างผ่านไปเร็วมากเว่อร์

ช่วง 3 อาทิตย์ที่ผ่านมาชีวิตผมกับพี่สยามก็แฮปปี้ดีครับ ไม่มีปัญหาเบาะแว้งอะไรกันเลยเพราะแยกย้ายกันทำแต่งานของคณะ แม่ง ประสาทจะเสียอยู่แล้ว ผมไม่ค่อยได้นั่งคุยหยอกล้อกับพี่สยามเป็นจริงเป็นจังเลยอ่ะ เป็นช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกันแต่รู้สึกเหมือนอยู่กันคนละฝั่งโลก พี่มันต้องทำเอกสารเรื่องค่ายส่งทางคณะไง ส่วนผมก็ต้องทำหน้าที่ในตำแหน่งประธานฯ ของผม

เหนื่อยโฮก

ทำแต่งานจนรู้ตัวอีกทีก็เปิดเทอมละ นี่เป็นวีค 2 ของเทอม 1 ซึ่งตารางเทอมนี้มันค่อนข้างที่จะโหดสัสเป็นอย่างมาก แต่ไม่เป็นไร ถึงจะโหดแค่ไหน สมปองคนนี้ก็จะฟันฝ่าไปให้ได้

ก็เลือกเองนี่หว่า

ฮุกก.ก.ก.....

"ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะปอง"

ผมเหลือบมองสมแยมก่อนจะเบะปากหนักขึ้นไปอีก "กูร้อนน่ะ ร้อนมากๆ ด้วย"

"ให้กูเป่าลมให้ไหม"

"ไม่ต้อง ถ้ามึงจะเป่ามึงต้องเป่าแบบไซโคลนเลยนะกูถึงจะหายร้อน"

"ถ้ามึงให้แยมมันเป่าแบบไซโคลนมึงก็ต้องปลิวหายไปกับเมฆสิสมปอง คิดอะไรเลอะเทอะ" สมเทียนเอ่ยขึ้นมาก่อนจะส่งพัดมาให้ผม "ให้ยืม 5 นาที"

"ขอบใจ" พอได้พัดมาผมก็กระหน่ำโบกใส่ตัวเอง ค่อยยังชั่วหน่อย เดี๋ยวผมให้พี่สยามมันไปซื้อพัดมาให้ใช้บ้างดีกว่า

ลันตามันยื่นหน้าเข้ามาใกล้รัศมีของลมพัด "เมื่อไหร่พี่เค้าจะเริ่มคุยวะ"

"รอพี่ปี 3 มั้ง อีก 15 นาทีอ่ะพี่เค้าถึงเลิกเรียน"

"อ๋อ จะว่าไปก็ดีเหมือนกันนะที่มีแต่เด็กโยธาน่ะ ไม่งั้นนั่งเบียดกันแย่"

"จริงมึง แต่วันนี้มันก็ร้อนจริงอ่ะ ขนาดไม่ได้นั่งกลางแดดยังร้อนขนาดนี้เลย"

ผมพยักหน้าเห็นด้วยกับสิ่งที่สมเทียนพูด "ใช่ ดีนะว่าพี่ๆ เค้ายังใจดีให้นั่งในร่ม ขืนได้ไปนั่งตากแดดกูต้องกลายเป็นสมปองตากแห้งแน่ๆ "

นึกภาพตามแล้วโคตรอนาถใจ

ผมมองด้านหน้าที่มีพี่ปี 2 ของโยธายืนเด๋อกันอยู่เป็นกลุ่มๆ พวกแก๊งค์ประธานสันฯ ก็อยู่นะ แต่ตัวประธานสันฯ น่ะไม่อยู่ พี่สยามมันไปคุยอะไรกับอาจารย์วิชัยไม่รู้ มันบอกว่าเดี๋ยวมา ไม่แน่ว่าอาจจะมาพร้อมพวกพี่ขันเลยก็ได้มั้ง วันนี้ถ้าทำกิจกรรมส่วนนี้เสร็จผมอยากชวนมันไปกินไอติมด้วยกัน แต่ก็ไม่รู้ว่าเจ้าตัวจะว่างไหมนะ

 ขอให้มันว่างด้วยเถอะ

ตั้งแต่กลับมาผมก็เขียนไดอารี่ลงไปหลายหน้าเลยครับ แน่นอนว่าเป็นการเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับวีรกรรมที่พี่สยามมันทำกับผม นี่เขียนบ่นไปว่าไม่ค่อยได้มีเวลาส่วนตัวใช้กับพี่มันเลย ถ้าพ่ออ่านพ่อต้องสงสารผมมากแน่ๆ ขนาดผมยังสงสารตัวเองเลย

อยากจิ่ครายยยย

"พวกพี่ๆ เค้ามาแล้วปอง"

ผมมองไปตามเสียงที่สมลันพูด ก็พบกับเหล่าพี่ปี 3 ที่เดินกันมาโดยมีพี่ขันเดินนำอยู่ด้านหน้า พี่สยามก็เดินมากับพวกเขาด้วย เห็นสีหน้าเหนื่อยๆ นั่นอยากจะพุ่งเข้าไปกอดซะจริง

พี่ขันไล่มองทางพวกผม "ครบแล้วใช่ไหม"

"ครับพี่" พี่ขุนเป็นคนตอบก่อนจะส่งใบรายชื่อให้พี่ขัน "นี่เป็นรายชื่อเด็กโยธาทั้งหมดครับ"

"โอเค พวกปี 2 ก็ไปนั่งรวมกันเป็นแถวซะไป พวกคณะกรรมการฯ ก็ด้วย" สิ้นเสียงพี่ขันพวกพี่ปี 2 ก็มานั่งตั้งกันเป็นแถวยาวอยู่ข้างแถวผม พี่สยามก็เดินมานั่งลงข้างๆ

"เหนื่อยไหม"

เจ้าตัวพยักหน้ารับ "เหนื่อยมาก จะตายแล้ว"

"ตายไม่ได้นะ กูยังไม่อยากเป็นหม้าย"

"แน่ะ เป็นห่วงล่ะสิ"

"ก็ต้องเป็นห่วงสิ" ผมเอียงตัวเข้าไปกระซิบใกล้ๆ "ขาดมึงไปนี่กูขาดใจเลยนะ"

"สมปองมึง...."

แก้มแดงไมอ่ะพี่สยาม

"เป็นไร เขินหรอ หน้าแดงลามไปยันหู" ผมเท้าคางมองพี่สยามก่อนจะยิ้มออกมา เห็นแบบนี้แล้วน่ารักชะมัด ความรู้สึกนี้มันคงจะคล้ายๆ กับตอนที่มันหยอดแล้วผมเขินแน่เลย

ฮ่าๆ ๆ ๆ นี่แหละช่วงเวลาแห่งการเอาคืน

"เพราะมึงนั่นแหละ เดี๋ยวจะโดนนะ" พี่สยามหรี่ตามองพร้อมกับคาดโทษ คิดว่าคนอย่างสมปองจะกลัวเหรอ

แบร่บๆ ๆ ๆ ๆ

แลบลิ้นใส่แม่ง ผมหันกลับมามองทางพี่ขันแต่ตาก็ยังเหลือบมองพี่สยามเป็นระยะ เจ้าตัวส่งสายตาที่อ่านได้ว่า กลับหอก่อนเถอะ มึงโดนกูแน่อีเมีย นี่ต้องสลดไหม ต้องกลัวรึเปล่า ผมบอกแล้วไงว่าจะไม่ยอมให้มันอยู่เหนืออีกต่อไป สมปองจะต้องเป็นผู้นำบ้างหลังจากเป็นแต่ผู้ตาม

ผมต้องเป็นเมียที่มีอำนาจ

พี่สยามก็พี่สยามเถอะ

"ฟังทางนี้ซิ" พี่ขันเอ่ยบอก เหล่าเด็กๆ ก็เงียบกันทันที "ที่เรียกมาวันนี้คือจะคุยเรื่องที่ไปค่ายอบรมของสาขา เราจะไปกัน 10 วัน ซึ่งค่ายนี้อยู่ที่พิษณุโลก ไอ้แช่มมึงไปแจกเอกสารชี้แจงให้น้องๆ "

"ได้เลยครับ" ว่าแล้วพี่แช่มก็เดินแจกเอกสารให้น้องๆ อย่างทั่วถึง ผมมองตารางกิจกรรมที่ตัวเองเป็นคนพิมพ์เองกับมือ

กิจกรรมอบรม 3 วันแรกนี่จะโคตรน่าเบื่อเพราะเป็นวันที่มีแต่การอบรมแบบอบรม 2 วันต่อมาก็จะเป็นการดูงานและฝึกปฏิบัติ ส่วน 3 วันสุดท้ายก็จะเป็นกิจกรรมที่เคยเสนอกันไป เดี๋ยวจะต้องมีการแบ่งกลุ่มกันเพื่อไว้ทำกิจกรรมครับ ได้ข่าวว่าเขาจะให้สุ่ม ไม่รู้ชะตากรรมตัวเองเลยว่าจะได้อยู่กลุ่มใคร แต่ถ้าถามจากใจแน่นอนว่าผมอยากอยู่กลุ่มเดียวกับพี่สยาม

ขอให้ได้ขอให้โดน

"ในการไปค่ายเนี่ยะ เราจะแบ่งกลุ่มเพื่อทำกิจกรรม 5 กลุ่มนะ โดยจะมีพวกผมเป็นคนดูแลพวกคุณ ผมจะรับผิดชอบกลุ่ม 1 ทะเลกลุ่ม 2 แช่มกลุ่ม 3 จันทร์ฉายกลุ่ม 4 และเฌอคือกลุ่ม 5 "

"ใช่ โดยการจับกลุ่มเราจะทำโดยการสุ่มให้พวกคุณนับเลขไปเรื่อยๆ เริ่มที่หัวแถวได้เลย" พี่แช่มสั่ง พวกหัวแถวก็นับไล่มาเรื่อยๆ นับแบบนี้ผมก็ไม่ได้อยู่กับพวกเพื่อนๆ ผมแน่ๆ

ลาก่อยนะเพื่อนๆ

สมปองจะคิดถึงพวกนาย

"นับสิปอง"

"หืมๆ เลขไรละนะ" มัวแต่ดราม่า แม่งฟังไม่ทันเลยเห็นไหมห่าปอง

"กู 5 ไง มึงก็ 1 สิ" ลันตาบอกก่อนจะหยิกขาผม "หัดมีสติซะบ้าง"

ผมทำหน้ามุ่ยใส่มัน " 1 ครับ" ฝากไว้ก่อนเถอะอีงูพิษ แค้นนี้ต้องชำระแน่

" 1 ครับ" พี่สยามเอ่ยนับก่อนจะคลี่ยิ้มบางๆ ให้ผม "อยู่กลุ่มเดียวกันเลยนะปอง"

เย่

อยากจะชูมือขึ้นเฮทั้งสองข้างแต่ต้องเก็บอาการไว้

"พูดงี้นี่ดีใจล่ะสิที่ได้อยู่กลุ่มเดียวกับกู"

"นอกจากจะอยู่ในกลุ่มแล้ว...." พี่สยามเลื่อนมากระซิบเบาๆ ที่ข้างหู "ขออยู่ในใจด้วยได้ไหม"

ตึกตัก

เรื่องนั้นมัน....

"ก็อยู่ในใจมา...ตั้งนานแล้วป้ะวะ" ผมบ่นอุบอิบ เจ้าตัวก็เลื่อนมือมาขยี้หัวผมเบาๆ

"น่ารัก"

"ไม่ต้องมาพูดเลย"

เขินนะไอ้บ้า





ร้านไอติม TSJ

ผมนั่งเท้าคางมองพี่สยามที่กำลังทำอะไรสักอย่างอยู่ที่เคาท์เตอร์ ตอนนี้เป็นเวลา 5 โมงกว่าๆ แล้วครับ หลังจากที่จัดการเรื่องกิจกรรมไปค่ายเสร็จผมก็ชวนเจ้าตัวมากินไอติม โชคดีที่มันบอกว่าโอเค มันว่าง พามากินได้ ผมนี่ถึงกลับปลื้มปริ่ม ซึ้งใจสุดๆ น้ำตานี่คลอเบ้าเลย

ก็เว่อร์ไปอ่ะ

ตอนนี้ร้านไอติมของพี่ถิ่นไทซ่อมแซมจนกลับมาสวยน่านั่งเหมือนเดิมแล้วนะครับ เอาจริงๆ ก็ใช้เวลาทำร้านนานอยู่นะ ช่วงที่ร้านปิดนี่เสียรายได้ไปเยอะเลยแหละ ที่ผมรู้ก็เพราะว่าพี่สยามมันมาบ่นให้ฟัง แถมรู้มาด้วยว่าไอ้พวกที่มาพังร้านเนี่ยะโดนเรียกค่าเสียหายไปหนักเอาการ ก็นะ อยู่ดีไม่ว่าดีเองนี่หว่า

สมน้ำหน้าแม่ง

"มาแล้วครับ" พี่สยามเดินถือไอติมชามใหญ่มาวางไว้ตรงหน้าผม หูวววว น่ากินสุดๆ ไอติมรสนมสดที่ท็อปด้วยเอ็มแอนด์เอ็มนี่เป็นอะไรที่เดอะเบสท์มาก

จะกินเข้าไปทั้งจานเลยคอยดู

"ถ้าไม่อิ่มสั่งเพิ่มได้ไหม"

"กินเยอะก็จะอ้วนน่ะนะ"

ผมมองค้อนใส่มันทันที "หนิ อยากตายหรอ"

"อยากใช้ชีวิตอยู่คนเดียวป้ะล่ะ"

หึ....พูดออกมาแบบนี้

"อยากอยู่กับมึง....โอเค้"

"โอเคครับ" พี่สยามมันยิ้มหวานก่อนจะตักไอติมเข้าปาก เห็นรอยยิ้มแบบนี้แล้วน่าหมั่นไส้จริงๆ เก่งจริงเรื่องต้อนกูด้วยคำพูดเนี่ยะเก่งจริง

ผมทำหน้ามุ่ยใส่มันก่อนจะตักไอติมเข้าปาก "อื้มม.ม.ม....อร่อยจัง สมกับที่อยากกินมาหลายวัน"

"อยากกินทำไมไม่บอกอ่ะ"

"ก็เห็นมึงไม่ว่าง กูก็เลยรอวันที่มึงว่างไง"

"วันหลังก็บอกได้นะ" พี่สยามตักเชอร์รี่มาใส่ไว้ในชามผม "สำหรับมึงอ่ะ ต่อให้ไม่ว่างยังไงก็จะพยายามหาเวลาว่างให้"

ผมหลุดยิ้มก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปใกล้ "เทคแคร์เก่ง"

"ชอบไหมล่ะ"

"ชอบ" พอผมบอกไปแบบนั้นคนตรงหน้าก็ยิ้มหวานออกมาจนตาหยี อยากบีบแก้มขาวๆ นั่นชะมัด เอาไว้กลับหอก่อนเถอะมึง

ผมนั่งกินไอติมของตัวเองพลางแย่งไอติมของพี่สยามมากินด้วย ทุกครั้งที่มากินไอติมด้วยกันพี่มันจะสั่งแต่รสช็อกโกแลตชิพ ก็คงคล้ายๆ กับผมที่กินแต่รสนมสด จะว่าไปผมไม่ค่อยรู้เรื่องของที่มันชอบเท่าไหร่นะ มีที่จำได้แม่นๆ ก็คือไอติมนี่แหละ ส่วนเรื่องอื่นนี่ไม่ค่อยรู้ สงสัยผมจะต้องสังเกตตัวมันให้มากขึ้นแล้วล่ะ

หรือถามเลยดีวะ

"พี่สยาม"

"หืม....จะเอาอีกหรอ"

"เปล่า คือกูมีอะไรอยากจะถามหน่อย"

"ถามอะไรอ่ะ" มือเรียวยื่นมาตักไอติมในถ้วยผมไปใส่ปาก

"คือกูอยากรู้อะไรที่เกี่ยวกับตัวมึงบ้าง กูไม่ค่อยรู้เรื่องเกี่ยวกับมึงเลยนะ อะไรที่มึงชอบหรือไม่ชอบ ของกินหรือสิ่งที่ชอบทำอะไรทำนองเนี้ยะ"

"กูไม่มีอะไรที่ชอบมากๆ เป็นพิเศษนะ เรื่องของกินคือกินได้ทุกอย่างไม่มีอะไรที่กินไม่ได้ ไม่มีอะไรที่แพ้ หลายๆ อย่างที่เกี่ยวกับกูมึงก็น่าจะรู้อยู่แล้วนะปอง"

"ก็ไม่ได้รู้เยอะป้ะวะ"

"ตัวกูก็ไม่ได้มีอะไรน่ารู้เยอะหนิ" มือเรียวยื่นมาจับมือผมก่อนจะใช้ปลายนิ้วโป้งเกลี่ยเบาๆ "เรื่องพวกนี้เรามีเวลาทั้งชีวิตที่จะเรียนรู้ซึ่งกันและกัน....ถูกไหม ให้บอกในวันเดียวมันก็ไม่พอหรอก"

"นั่นสินะ"

ก็จริงที่พี่สยามมันพูด เรื่องนี้จะให้บอกวันเดียวก็คงไม่หมดจริงๆ แต่ตัวมันก็รู้เรื่องของผมเยอะอยู่หน่า เนี่ยะ คิดละย้อนแย้งอีกละ งั้นเลิกคิดดีกว่า เอาเป็นว่าผมจะค่อยๆ เรียนรู้ความเป็นพี่สยามไปเรื่อยๆ แล้วกัน เพราะยังไงก็มีเวลาทั้งชีวิตนี่นะ

คิดแล้วก็เขิน

"ปอง"

"หืม...."

"มึงเคยมีแฟนใช่ไหม"

ผมพยักหน้ารับเบาๆ "มีอยู่คนนึง น่ารักมากด้วย สวยมากด้วย ตอนนี้เรียนหมอด้วย" พูดทีนี่หน้าส้มลอยมาเลยว่ะ

"เพอร์เฟ็คเลยงั้นสิ"

"ก็เป็นผู้หญิงที่น่ารักมากรองมาจากแม่กูเลยอ่ะ ว่าแต่มึงถามทำไม"

"ก็อยากรู้ว่าเด็กต๊องแบบมึงเคยมีแฟนกับเค้ารึเปล่า"

"เคยสิ แต่ว่ากับแฟนคนเนี้ยะกูคบได้ไม่นานเท่าไหร่เพราะว่าพ่อกูกับพ่อเค้าไม่ชอบหน้ากัน มันก็เลยลามจนรุ่นลูก เนี่ยะ เมื่อตอนที่กูกลับบ้าน ก็เจอเค้านะ"

"เจอแล้วยังไงต่อ"

"ก็คุยโน่นนี่นั่นแหละ ตอนนี้เค้ามีคู่หมั้นไปแล้วด้วย กูกับเค้าก็ยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน"

พี่สยามพยักหน้ารับรู้ "มึงเคยทำอะไรกับแฟนคนนี้บ้างไหม"

"ทำอะไรคือ...."

"ก็อย่างที่ทำกับกูไง"

"เคยแค่จับมืออย่างเดียว" ผมหยิบเชอร์รี่ลูกสุดท้ายขึ้นมากิน "ถ้าเป็นอย่างอื่นไอ้พวกหอมแก้ม จูบหรือมากกว่านั้น กูก็มีมึงนี่แหละที่เป็นคนแรก"

"จริงดิ่"

"เออสิวะ แต่ของมึง กูคงไม่ใช่คนแรกใช่ไหมล่ะ" เพราะคนแรกของมันคงจะเป็นคนที่ชื่อ....แซนด์

พี่สยามมันพยักหน้ารับเบาๆ แต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา ผมอยากรู้เรื่องของแฟนเก่ามันคนนี้ให้มากขึ้นเหมือนกันนะ ก็แค่อยากรู้อ่ะ ว่าเออรักกันยังไง ที่รู้นี่คือเคยคบกันมา 3 ปี แถมยังเป็นแฟนคนแรกและเป็นคนเดียวที่มันเคยมีอีกต่างหาก ตอนนี้ในใจนี่อยากจะรู้เรื่องในอดีตของมันมากเลยครับ

เพราะงั้นต้องถาม

"พี่สยาม คนที่ชื่อแซนด์เนี่ยะ เค้าเป็นคนแรกของมึงในทุกเรื่องเลยหรอ"

"ก็....ใช่แหละ เป็นคนแรกของกันและกันน่ะ"

"งี้นี่เอง" ผมยื่นหน้าเข้าไปใกล้ "ถามอะไรที่เป็นส่วนตัวมากๆ หน่อยได้ไหม"

"ส่วนตัวขนาดไหน"

"ครั้งแรกที่....ป๊ามกันนี่เมื่อไหร่"

พี่สยามเลื่อนมือมาบีบจมูกผมเบาๆ "เด็กลามก"

"ก็อยากรู้หนิ บอกได้ไหมล่ะ"

"ถ้าจำไม่ผิดคงเป็นตอนม.5 นึกถึงช่วงนั้นแล้วรู้สึกโคตรเอ๋อเลย ทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง"

"คนกากก็เงี้ยะ"

"ตอนนี้ไม่ได้กากแบบตอนนั้นแล้วละกัน" ใบหน้าหล่อเลื่อนเข้ามาใกล้ "พิสูจน์ด้วยตัวเองแล้วหนิ"

ฉ่า

หน้าร้อนอีกแล้ว

"พูดบ้าอะไรก็ไม่รู้" ผมยกมือขึ้นมาลูบหน้าตัวเองเบาๆ แม่งแก้มต้องแดงมากแน่ๆ ไม่น่าเลยปองเอ้ย นี่ก็เก่งเรื่องพูดจาให้ตัวเองโดนสวนซะจริง

ผมมองใบหน้าหล่อของพี่สยามที่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อะไรของมันไม่รู้ กลับถึงหอแล้วจะทุบให้ตายเลย หมั่นไส้นัก เรื่องแฟนเก่าที่มันเล่าให้ฟังเมื่อกี้ผมก็รู้สึกแปลกๆ ในใจเหมือนกันนะ สำหรับผมอะไรที่มันเป็นครั้งแรกมันก็จะพิเศษเสมอ ใครๆ ก็คงจะคิดแบบนี้ พี่มันเป็นครั้งแรกในหลายเรื่องของผม ลองคิดดูสิว่ามันพิเศษสำหรับผมมากแค่ไหน

แล้วตัวผมล่ะจะพิเศษสำหรับมันเหมือนกัน....รึเปล่า

ดึงดราม่าเฉย

"สมปอง"

ผมสะดุ้งเพราะเสียงเรียกนั่น "หืม....มีอะไร"

"ทำไมทำหน้าแบบนั้น"

"หน้าแบบไหนอ่ะ"

"เหมือนซีเรียสกับเรื่องที่รู้"

"ปะ...เปล่า ไม่ได้มีอะไรสักหน่อย" ผมบอกปัดไป ความคิดเมื่อกี้นี่ทำใจปวดตุ้บๆ เลยว่ะ

"งั้นหรอ" พี่สยามเลื่อนมือมาจับมือผมไว้ทั้งสองข้าง "ไม่รู้หรอกนะว่าเมื่อกี้คิดอะไรแต่กูมีสิ่งที่อยากจะบอกกับมึงไว้"

"ว่ามาสิ"

"สำหรับกูครั้งแรกหรือคนแรกคือสิ่งที่น่าประทับใจ แต่มันไม่ได้เป็นสิ่งที่ทำให้รู้สึกดีและพิเศษเท่ากับครั้งสุดท้าย....หรือคนสุดท้าย"

"พี่สยาม...."

"ช่วยอยู่เป็นคนสุดท้ายให้ทีนะ"

ตึกตัก

เชี่ยยยย

ขอกูแต่งงานป้ะเนี้ย

ผมหลุดยิ้มออกมาก่อนจะพยักหน้ารับคำพี่สยาม หัวใจเต้นโครมครามเหมือนกับจะหลุดออกมาข้างนอกยังไงอย่างงั้น วันนี้ก็ตั้งใจแล้วนะว่าจะไม่แพ้ทางมันแต่สุดท้ายแล้วก็แพ้อยู่ดี

ยอมหมดทั้งใจเลยกับคนนี้

"มึงเองก็....ต้องอยู่เหมือนกันนะ"

"มันแน่นอนอยู่แล้วครับ"

งื้ออ.อ.อ...ยิ้มหวานแบบนั้น

เอาใจกูไปเล้ยยยยยยยยยยย

เอาไป๊!!!










TBC.

สวัสดีค่ะชาลมาส่งหยัมปองแล้ว ยิ่งแต่งเรื่องนี้นับวันก็จะยิ่งเขินบิดไปบิดมา คือถ้าพี่สยามจะมาสายหยอดแบบนี้ทั้งชาลทั้งบี๋ก็จะแก้มแตกตายเอานะ ก็มีการกระโดดข้ามเวลามาหลายอาทิตย์หน่อยนะ คงไม่งงกันเนอะ เนี่ยะเดี๋ยวก็ใกล้ไปค่ายแล้วล่ะค่ะ น่าจะบทที่ 38 ที่ไปค่าย บทหน้าน่าจะเตรียมตัวกัน รอติดตามนะคะ

จะบอกว่าลงขันหมีไปแล้วนะ เผื่อยังมีคนที่อยากอ่านคู่นั้นแล้วไม่รู้ก็ขอบอก เรื่อง I'm not Playboy ผมไม่ได้เจ้าชู้ นะคะ ใครชอบความหม่น ความเทา ความดราม่าก็ไปอ่านกันได้

ถ้าชอบก็กดไลค์ คอมเม้นต์เพื่อเป็นกำลังใจให้กันได้นะคะ สามารถติดต่อข่าวสารได้ที่ทวิตเตอร์ Chaleeisis น้า

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ

ออฟไลน์ sompong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 355
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ชื่อสมปองเหมือนกันใยไม่เจอสามีอย่างพี่สยัมมั่งนะ

ออฟไลน์ Zenith

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
'อยู่เป็นคนสุดท้ายให้ทีนะ' โอ๊ยยยยยย แผ่นดินไหวแต่น้องไม่ไหวแล้วค่าาา เขินตัวบิดเป็นไส้เดือนแล้ววว พี่สยามมม นังคนเทคแคร์เก่ง นังคนหยอดเก่ง นังคนบ้า! แกทำให้มม.เรือผี#ขันปองของฉันเป็นหมันเพราะความโรแมนติกของแก๊ ฉันหรืออุตส่าดีใจเพราะมม.#ขันปองมา(เขาอยู่กลุ่มเดียวกัน)แม้จะมีแกมาอยู่ด้วยก็เหอะ แต่แกทำให้มันเป็นหมันไง เพราะแกเล่นขอลูกฉันแต่งงานไง เอ๊ะ?! ไม่ใช่สิ เออๆนั้นแหละ ได้หัวใจลูกฉันไปแล้วก็ดูแลดีๆนะเว้ย อย่าทิ้งขว้างนะ ไม่งั้นโกรธ  :m16:  :m31:

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
หวานกันอีกแล้ว หวานกันไปนาน ๆ ละ  :กอด1:

ออฟไลน์ chaleeisis

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 249
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-3
บทที่ 37 สมปองกับการไปค่าย
[/b]


"มึงตัดกระดาษให้มันตรงๆ สิวะปอง"

นี่ก็ตรงแล้วนะลันตา

"เออ ตัดเบี้ยวไปเบี้ยวมาอยู่ได้ มันจะเสร็จทันไหมห้ะ"

ต้องทันสิ ยังไงก็ต้องทัน

"พวกมึงก็ใจเย็นๆ ก่อนนะ อย่าว่าปองมันเลย"

มีแต่มึงนี่แหละแยมที่เข้าใจกู

ส่วนพวกที่เหลือแม่ง....อสรพิษ

ผมนั่งตัดกระดาษด้วยความชอกช้ำ ทำไมชีวิตของสมปองต้องมานั่งทำอะไรแบบนี้ด้วยวะ ตอนนี้ผมสิงอยู่ที่ห้องลันตาครับ มาทำพร็อพประกอบละครเวทีที่เราจะไปแสดงกันที่ค่าย คือพร็อพของกลุ่มผมน่ะ พวกพี่สยามกำลังทำอยู่ แต่ไอ้พวกกระดาษที่ผมนั่งตัดอยู่เนี่ยะมันเป็นของกลุ่มลันตากับสีเทียน ซึ่งความจริงผมไม่ต้องมานั่งทำอะไรแบบนี้ก็ได้นะ

แต่อีงูพิษมันสั่งไง

แม่งเอาเรื่องมิตรภาพมาพูด ผมนี่ก็อินตามเลย จะไม่ช่วยมันก็ไม่ได้อีกติดตรงคำว่ามิตรภาพ เนี่ยะ แต่พอมาช่วยผมก็โดนด่า หนักๆ หน่อยแม่งเอาหมอนมาฟาด ดูมันทำสิ หน้าตาออกจะน่ารักน่าเอ็นดูแท้ๆ แต่จิตใจนั้นช่างโหดเหี้ยมอำมหิตผิดมนุษย์มนา!!!

โหยยยย โคตรอินอ่ะปอง

ผมหยิบกระดาษแผ่นใหม่มาตัดพลางหันไปมองนาฬิกา ตอนนี้ประมาณเกือบ 1 ทุ่มแล้วครับ ฝั่งของพี่สยามก็น่าจะนั่งทำพร็อพกันอย่างขยันขันแข็งอยู่แน่ๆ ผมบอกมันไปแล้วว่าให้รีบช่วยกันทำก่อนแต่ก็ไม่เอาไง สายงานเผา แล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ต้องรีบไปที่มหา'ลัยแต่เช้ามืดเพราะว่าพวกกรรมการฯ ต้องคอยดูแลความเรียบร้อย

ดูจากทรงแล้วไม่น่าจะได้นอนนะคืนนี้

จะว่าไปก็ตื่นเต้นเหมือนกันนะที่จะได้ไปค่ายสักที ผมเตรียมอุปกรณ์ที่จะขอพี่สยามเป็นแฟนไว้เรียบร้อยแล้วครับ คนที่จะแบกไปให้คือแยมเพื่อนรัก เรื่องนี้มีแค่ผมกับมันที่รู้ ส่วนลันตากับสีเทียนผมยังไม่ได้บอกเพราะกลัวว่ามันจะทำแผนแตกก่อน แต่ถ้าไปถึงที่โน่นผมก็อาจจะเล่าเรื่องนี้ให้มันสองคนฟัง ต้องใช้งานพวกมันให้ช่วยจัดไฟไงไม่ใช่อะไร

"ละครเวทีของกลุ่มมึงคืออะไรอ่ะปอง"

"เห็นว่าพี่ๆ เค้าจะเอาเรื่องซินเดอเรลล่ามั้ง"

"ละมึงก็เป็นซินเดอเรลล่างี้"

ผมหันขวับมองลันตาทันที "อย่ามาพูดจาเหมือนรู้ว่ากูต้องเป็นได้ไหม"

"มึงไม่เป็นใครจะเป็นวะ เอาเป็นว่าเดี๋ยวกูจะรอดูสมปองเรลล่า"

สมปองเรลล่าหน้ามึงอ่ะ

"กูจะต้องไม่ได้เป็น เดี๋ยวมึงคอยดูได้เลยลันตา" ผมยักคิ้วให้มันเหมือนกับมั่นใจในสิ่งที่พูดมาก ถึงตอนม.6 เคยเป็นสโนปองมาแล้วรอบนึงแต่ตอนนี้โชคมันก็น่าจะเข้าข้างผมบ้างแหละวะ

ควรเป็นสมปองที่โชคดีบ้าง

ไม่ใช่เอาแต่โชกเลือดอย่างเดียว

"อ่ะปองนี่กระดาษ" แยมมันส่งกระดาษมาให้ผมอีก ทำไมยิ่งตัดแล้วมันยิ่งเยอะวะ นี่ไม่ลดลงบ้างเหรอ เมื่อยมือแล้วนะมึง

ผมสะบัดข้อมือตัวเอง "เมื่อยมือชิบ"

"แน่ะ" สีเทียนหรี่ตามองผมพลางยิ้มกรุ้มกริ่ม "เมื่อยมือแบบนี้นี่....ไปทำอะไรมาจ๊ะ"

"ก็นั่งตัดกระดาษนี่ไง คิดอะไรของมึง"

"แน่ะ"

"แน่ะหน้ามึงอ่ะ ตัดกระดาษไปเลยนะมึง" ผมโวยใส่มันก่อนจะหยิบกระดาษแผ่นใหม่ขึ้นมาตัด

ผมเข้าใจไอ้สิ่งที่สีเทียนพูดเมื่อกี้นะว่ามันหมายความว่ายังไง คิดว่ากูใช้มือ....ทำแบบนั้นบ่อยน่ะสิ หึ มันไม่เป็นแบบที่มึงคิดหรอกนะเพื่อนรัก ผมเข้าใจนะว่าผู้ชายมันก็ต้องมีบ้างแหละกับไอ้เรื่องพรรค์นี้ มันก็ต้องคึกคักกันบ้าง ช่วงที่ผ่านมาผมก็คึกคักอยู่นะ ไม่ใช่พวกตายด้าน แต่ว่าตอนที่ต้อง....อื้อหื้อออ....เนี่ยะ ผมไม่ได้ใช้มือตัวเองเท่านั้นเอง

มีผัวก็ต้องใช้มือผัวสิ

เอาจริงๆ คนที่ชอบทำผมของขึ้นก็คือมันนั่นแหละ เพราะงั้นก็เป็นเรื่องปกติที่มันต้องรับผิดชอบ แต่จะไปถึงขั้นให้ผมสมยอมนอนให้มันเชยชมนิ่งๆ ก็ไม่ใช่ไง กายและใจยังไม่พร้อมมากพอ บอกละว่าไว้เป็นแฟนกันก่อน เรื่องพวกนี้จะตามใจทุกอย่างเลย

จะนอนนิ่งๆ เป็นผักให้แทะเลยครับ

ครื้ดดด....ครื้ดดด

ผมเลื่อนมือหยิบโทรศัพท์มากดรับสาย "ฮัลโหลลลล"

(เมื่อไหร่จะกลับห้อง)

"ทำไมอ่ะ"

(คิดถึงแล้ว กลับมาสักทีสิครับ)

อย่าทำเสียงอ้อนแบบนี้สิวะ

"หื้ออ..อ.อ....นี่งานเสร็จแล้วหรอ"

(เรียบร้อยแล้ว เนี่ยะ อยู่ห้องแล้วด้วย)

"งั้นเดี๋ยวกูไป รอแปปนึงละกัน"

(ค้าบบบบ)

ผมกดวางสายก่อนจะหันไปทางลันตา "มึง กูต้องไปแล้วว่ะ"

"ผัวโทรตามหรอ" ลันตามันจ้องผมอย่างจับผิด

"ผัวอะไรของมึงวะเพ้อเจ้อ เดี๋ยวกูจะรีบไปจัดของด้วย พวกมึงก็อย่าลืมจัดของกันล่ะ"

"โอเค แล้วเจอกันนะสมปอง" แยมมันยิ้มหวานให้ผม เนี่ยะ มีแต่มึงคนเดียวนี่แยมที่เป็นมิตรกับสัตว์โลก

ผมรีบเผ่นออกมาจากห้องก่อนที่ลันตามันจะทักท้วงอะไรอีก ความจริงผมยอมรับไปเลยก็ได้นะว่าเออ ผัวโทรมาอ้อน แต่แบบ....มันก็เขินๆ อ่ะ ผมกับพี่สยามยังไม่ได้คบกันแบบทางการเลย ถ้าคบกันเมื่อไหร่นี่จะไม่ห้ามอะไรเลยสักนิด แต่ก็อีกไม่นานแล้วล่ะนะ เดี๋ยวก็ได้เป็นแฟนกันแล้ว

อา....ยิ่งคิดก็ยิ่งเขิน

ใช้เวลาประมาณ 5 นาทีผมก็เดินมาถึงห้องของตัวเอง พอเปิดเข้าไปก็พบร่างสูงของเจ้าหมีควายนอนแผ่อยู่บนเตียง ตัวต้องใหญ่ขนาดไหนถึงจะกินพื้นที่บนเตียงได้ขนาดนั้นอ่ะ ผมปิดประตูพร้อมกับล็อกกลอนไว้ก่อนจะเดินมาหาพี่สยาม เจ้าตัวนอนมองผมตาแป๋วไม่ขยับเขยื้อน

เป็นอะไรของมันวะ

"สมปอง"

"หืม...."

"ก้มลงมาให้จูบหน่อย"

ฉ่า

"พะ...พูดบ้าอะไรของมึง" ผมตีขามันก่อนจะนั่งลงบนเตียง "จูบเจิบบ้าอะไร"

พี่สยามรั้งให้ผมนอนราบไปกับเตียงก่อนจะใช้แขนตัวเองคร่อมผมไว้ "ก็คนมันอยากอ่ะ"

"ไม่ต้องมาอยากเลยนะ" ผมหันหน้าหนี ไม่อยากมองดวงตาคมคู่นั้นเลยว่ะ ใจพาลจะละลายเอาได้ง่ายๆ

"ต้องอยากสิ" จมูกโด่งฝังลงที่แก้มผมค้างไว้อยู่แบบนั้นก่อนจะถูแรงๆ "หมั่นเขี้ยวชะมัด" ว่าแล้วมันก็งับแก้มผม

"อื้ออ.อ.อ....พี่สยาม" ผมดันหน้าเจ้าตัวไว้ แต่มันก็จับมือทั้งสองข้างของผมกดไว้กับเตียงก่อนจะฟัดต่อไม่หยุด

มันจั๊กจี้โว้ยยยย

"อยู่นิ่งๆ "

"อยู่นิ่งอะไรเล่า ฮ่าๆ ๆ ๆ ๆ มันจั๊กจี้นะ พอก่อน อื้อ.อ.อ.อ...พี่สยาม"

"หึ...." คนบนร่างยอมหยุดก่อนจะเอาคางเกยอกผมไว้ "เด็กอะไรก็ไม่รู้น่ากินจริงๆ "

"เดี๋ยวมึงจะโดนกูกินก่อน ง้ามมมมมมมมมมม" ผมผงกหัวขึ้นมาทำท่าเป็นจะงับหัวพี่สยาม ตัวมันเองพอเห็นผมทำแบบนั้นก็หัวเราะออกมาอย่างชอบใจ

น่ารักซะจริง

ผมอมยิ้มมองพี่สยามที่กำลังยิ้มปากบานอยู่ หน้านี้ถ้าคนอื่นได้เห็นคงจะตกหลุมรักมันไปตามๆ กันแน่ๆ ดีละที่มันทำให้ผมเห็นแค่คนเดียว ไอ้ท่าทีอ้อนๆ นี่ก็ด้วย เดี๋ยวนี้พ่อคุณเขาอ้อนเก่งเหลือเกิน ผมนี่ต่อให้แข็งมาจากไหนก็ต้องยอมอ่อนให้ พี่สยามมันรู้ด้วยแหละว่าถ้าทำแบบนี้ผมถึงจะยอม พอเป็นแบบนั้นแม่งก็ทำใหญ่เลย

เดี๋ยวจะทำบ้างคอยดูเถอะ

ทำไมเมื่อก่อนผมถึงได้เบื่อขี้หน้ามันนักนะ แล้วทำไมตอนนี้กลายเป็นว่าชอบมองใบหน้าคมนี้ พอรู้สึกได้รักแล้วก็ไม่เคยเบื่อเลย ความรักนี่มันร้ายกาจเหมือนกันนะ มันชอบทำให้เราแพ้ภัยตัวเอง

ตลอด....

ผมประคองใบหน้าของพี่สยามเข้ามาใกล้ๆ ก่อนผงกหัวขึ้นไปจูบที่ริมฝีปากบางนั่นเบาๆ คนโดนจูบหลับตาลงก่อนจะเปิดปากรับลิ้นของผมให้เข้าไป เราจูบกันบ่อยก็จริง แต่ทุกครั้งมันก็ยังให้ความรู้สึกแปลกใหม่เสมอ ผมจูบแลกลิ้นกับพี่สยามอยู่อย่างนั้นก่อนจะสัมผัสได้ถึงแรงลูบภายใต้เสื้อที่ผมสวมอยู่

ร้ายยยย

"อื้ออ.อ.อ....." ผมถอนจูบออกก่อนจะจับมือเรียวที่ล้วงเข้ามาในเสื้อ "มือไว"

"ใจเร็วด้วยนะ....ใจนี่นึกไปถึงตอนมึงแก้ผ้าแล้ว"

ผมบีบจมูกมันอย่างหมั่นเขี้ยว "ไม่ต้องเลย อยากจูบเฉยๆ ไม่ใช่รึไง"

"โถ่ ถ้ารู้ว่าจะตามใจนี่จะไม่บอกแค่อยากจูบเลย"

"ให้แค่จูบ มากกว่านี้ห้าม"

"อื้ออ.อ..อ....ห่อเหี่ยวหมดแล้ว" พี่สยามบอกเสียงอ่อนก่อนจะซุกที่ซอกคอผม "เป็นมะเขือเผาแล้ว"

"มะเขือเผาอะไรของมึงวะพี่สยาม ฮ่าๆ ๆ ๆ ๆ เพ้อเจ้อจริงๆ "

เจ้าตัวละออกมาจากซอกคอผมก่อนจะทำหน้ามุ่ยใส่ "เพ้อเจ้อแล้ว....รักไหม"

"ไม่บอกหรอก"

"ทำไมไม่บอกล่ะ"

"ไม่บอก"

"สมปอง"

"กูว่า....เราไปจัดของกันดีกว่า" ผมดันตัวพี่สยามออกก่อนจะลุกจากเตียงแล้วมาหยุดอยู่ตรงหน้าตู้เสื้อผ้า ส่วนหมีควายก็ยังนั่งทำหน้ามุ่ยใส่ผมอยู่ "มาจัดของสิ"

"เนียนเปลี่ยนเรื่องเลยนะ" มันบ่นอุบอิบก่อนจะเดินมาอยู่ข้างๆ

"เปล่าสักหน่อย ไหนจะเอาอะไรไปบ้างก็หยิบมา เดี๋ยวกูพับให้" ผมบอกมันก่อนจะหยิบเสื้อผ้าที่จะเอาไปค่ายออกมาจากตู้

ไปตั้ง 10 วัน เสื้อผ้านี่ต้องยังไงเนี่ยะ คงจะต้องใส่ซ้ำๆ สินะ ไม่เคยไปค่ายนานขนาดนี้เลยนะครับ ตอนไปค่ายรด.ก็ไม่ได้ไปนานขนาดนี้ แต่ว่ามันยังดีตรงที่ค่ายที่จะไปมันสะดวกสบายพอตัวเลย ทุกคนจะต้องปลื้มปริ่มกับค่ายนี้แน่นอน

นายสมปองละหนึ่งคน

ผมนั่งพับเสื้อไปเรื่อยๆ พี่สยามก็หยิบโน่นหยิบนี่ส่งมาให้ผม ก่อนจะหยิบกระเป๋าใบใหญ่มาวางไว้ข้างๆ มือเรียวหยิบเสื้อผ้าที่พับแล้วเรียงใส่กระเป๋าอย่างเป็นระเบียบ ที่เป็นระเบียบนั่นเพราะมันรู้ครับว่าถ้ามันยัดๆ ๆ ๆ ผมจะด่ามัน จะว่าไปพี่มันก็เปลี่ยนไปหลายอย่างนะที่เกี่ยวกับการใช้ชีวิตน่ะ โดยเฉพาะเรื่องระเบียบนี่ดีขึ้นมาก

ลองไม่ดีสิมึง

ทุบหัวแบะเลยนะบอกเลย

"ไปหยิบไฟฉายมาให้หน่อย" ผมสั่งพี่สยาม เจ้าตัวก็ลุกไปหยิบไฟฉายมาให้ผมสองกระบอกพร้อมกับถ่านอีกหลายอัน

"เออปอง ถ้าในหอเค้าปิดไฟ มึงจะนอนได้หรอ"

"นอนได้ กูไปถามเค้าเรื่องนี้มาแล้ว เจ้าหน้าที่บอกว่าถ้านอนฝั่งริมประตูทางออกก็จะมีแสงไฟหน้าห้องลอดเข้ามา ก็สว่างอยู่"

"โอเค ตอนแรกกูคิดเรื่องนี้แบบจริงจังด้วยนะ กลัวว่ามึงจะนอนไม่ได้"

ผมเลิกคิ้วมองมัน "ขนาดนั้นเลย"

"ใช่สิ เนี่ยะ เห็นไหมว่าเป็นห่วงขนาดไหน"

"เห็นแล้ว" ผมหันไปหอมแก้มขาวฟอดใหญ่ "ขอบคุณที่เป็นห่วง"

"อื้ออ.ออ.อ.อ....." พี่สยามซบหน้าลงกับไหล่ผมพลางส่งเสียงอู้อี้ อาการนี้มัน....

"เขินอีกแล้วหรอ"

"ไม่ต้องมาพูดเลย"

"ฮ่าๆ ๆ ๆ " น่ารักชะมัด

นี่แหละคนคิ้วท์ที่แท้ทรู





มหา'ลัย P : หน้าตึกคณะวิศวะฯ

ผมยืนหาวไปด้วยพลางเช็คชื่อเพื่อนๆ ไปด้วย ขอบอกเลยว่าง่วงโคตร ง่วงชิบหาย ตอนนี้เป็นเวลาตี 5 แล้วครับ พวกคณะกรรมการฯ นี่แหกขี้ตาตื่นกันมาตั้งแต่ตี 4 แม่งเป็นอะไรที่ยากมากต่อการตั้งสติอ่ะ ผมนี่พร้อมจะโบยบินไปเฝ้าพระอินทร์ได้ตลอดเวลา

ตาจะปิดแล้ว

"ง่วงขนาดนั้นเลยหรอ" แยมมันเดินมายืนข้างๆ ก่อนจะแกะลูกอมส่งให้ผม "อ่ะ จะได้ตาสว่างขึ้นมาหน่อย"

"แต๊งค์นะมึง" ผมรับลูกอมมาก่อนจะใส่เข้าปาก มือก็เช็คชื่อเพื่อนไปเรื่อย

"เออปอง ของที่มึงต้องการ กูขนขึ้นรถให้หมดแล้วนะ"

"ขอบใจมากนะมึง"

"เล็กน้อย เรื่องแค่นี้กูทำได้อยู่แล้ว"

ผมพยักหน้ารับ "แล้วลันตากับสีเทียนอ่ะ"

"ขึ้นรถพวกมันไปแล้วล่ะมั้ง ดูทรงแล้วก็ง่วงน่าดูเลย พี่ๆ เค้านัดเช้าเลยนี่นะ"

"เอาจริงๆ ก็ไม่แปลกหรอก พิษณุโลกมันอยู่ไกลนี่นา มึงไปขึ้นรถได้แล้วแยม อีก 10 นาทีรถออก"

"โอเค งั้นเจอกันนะมึง" เพื่อนแยมบอกลาก่อนจะเดินไปขึ้นรถของตัวเอง ตอนนี้เช็คชื่อเพื่อนๆ ครบหมดแล้วครับ ตัวผมเองก็ควรรีบขึ้นรถเหมือนกัน

จะไปนอน

พอคิดได้แบบนั้นผมจึงเดินขึ้นรถมาก่อนจะไปนั่งโซนด้านหลังซึ่งมีพี่หอมกับพี่ก้องนั่งอยู่แถวนั้น ไม่รู้ว่าทำไมพวกแก๊งค์สันฯ ปี 2 เขาถึงรันได้เลข 1 เหมือนกันหมด ผมว่ามันต้องมีความขี้โกงแอบแฝงแน่ๆ แต่ช่างแม่งเถอะ ผมไม่สนใจหรอกว่าใครจะอยู่กลุ่ม 1 บ้าง

ขอแค่มีพี่สยามก็เป็นพอ

ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปตัวเองชูสองนิ้วโดยมีแบล็คกราวน์เป็นท้องฟ้ามืดๆ ด้านหลัง ก่อนจะโพสลงไอจี ไม่ติดแคปชั่นอะไรทั้งนั้น ให้คนที่เห็นไปตีความกันเอง การไปค่ายครั้งนี้อาจารย์วิชัยจะเก็บโทรศัพท์พวกเราทุกคนด้วยนะ อนุญาตให้แค่หัวหน้าของแต่กลุ่มมีไว้ใช้เพื่อติดต่อกันเท่านั้น ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม

แต่ว่าช่างเถอะ

นอนดีกว่า

"นั่งด้วยได้ไหมครับ"

ผมเปิดตามองคนพูดทันที "ถ้าบอกไม่ให้นั่งแล้วจะยังไง"

"ก็จะนั่งอยู่ดี" พี่สยามยิ้มหวานก่อนจะนั่งลงข้างผม "ง่วงหรอ"

"ดูหน้าสิ" หน้าสะลึมสะลือแบบนี้กูคงกำลังอยากกินข้าวอยู่ล่ะมั้ง

"โอ๋เอ๋นะครับ" มือเรียวเลื่อนมาขยี้หัวผมก่อนจะจับให้เอนไปพิงไหล่มัน "ง่วงก็นอนซะ"

"อืม แล้วเมื่อกี้มึงไปไหนมา"

"ไปซื้อขนมมาเพิ่ม กลัวมึงไม่พอกิน"

ผมหลุดยิ้มออกมาพลางเหลือบมองมัน "เห็นกูกินเยอะขนาดนั้นเลยหรอ"

"ใช่"

"พูดแบบนี้นี่อยากตายหรอ" ผมละจากไหล่หนามาส่งสายตาเหี้ยมๆ ไปให้

"โหดจังเลยน้า มานอนกันดีกว่า" พี่สยามกดหัวผมให้พิงไว้ที่เดิมพลางเลื่อนมือมากุมมือผมไว้ "ฝันหวานครับที่รัก...."

อื้ออ.อ.อ....ที่รักก็มา

พี่สยามนี่มันน่านักกกก

ผมกระชับฝ่ามือที่กุมอยู่นั่นให้แน่นขึ้นพร้อมกับหลับตาลง ต้องออมแรงไว้ใช้ที่ค่ายครับ ไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้างนะ ผมนี่ตั้งตารอวันที่ทำกิจกรรมเลย ไอ้วันที่อบรมกับดูงานเราจะข้ามมันไป เก็บใส่ไว้แค่ในสมองพอ รู้สึกตื่นเต้นเหมือนกันที่วันที่รอมันจะมาถึงแล้ว ผมหวังว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่นั่นมันจะเป็นความทรงจำที่ดีระหว่างผมกับพี่สยามนะ

หวังแบบนั้นจริงๆ

"เห้ยยยย นอนกุมมือกันด้วยว่ะ"

"ถ่ายรูปสิวะ ถ่ายรูปปปป"

"เอาไปลงเฟซเลย เร็วๆ "

"โว้ยยยยยยยยยยย ไอ้พวกเชี่ยนี่ เงียบปากไปเลยนะมึง เมียกูจะนอน!!!"

แม่ง....เมียเต็มปากเต็มคำเลยมึง

"มึงนี่มันจริงๆ เลยนะพี่สยาม"

จริงๆ เล้ยยยยยยยยยยย








TBC.

สวัสดีค่ะชาลมาส่งหยัมปองแล้ว ขอบอกเลยว่าใกล้ละ ใกล้จะเป็นแฟนแบบเป็นทางการแล้ววววววว เรื่องราวในส่วนนี้จะเป็นยังไงก็ต้องรอติดตามนะคะ รีบกักเก็บความหวานไว้นะเพราะเดี๋ยวความขมก็ใกล้จะมาแล้วเหมือนกัน

ถ้าชอบก็กดไลค์ คอมเม้นต์เพื่อเป็นกำลังใจให้กันได้นะ สามารถติดต่อข่าวสาร + สปอยล์ได้ที่ทวิตเตอร์ Chaleeisis นะคะ

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านน้า

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ Zenith

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
'เมีย' กูจะนอน ...แหมมมมมมมมมมมมมมมม่ อยากจะแหม่ให้ครบรอบกาแล็คซี่ไปเล้ยย อะไรจะขนาดนั้นค่าาคุณสยาม ไม่แคร์อะไรใดใดเลยน้าา รู้แล้วว่ารักมากอ่ะ ไม่ต้องอวดไม่ต้องโชว์ก็ได้ค่ะ!

ใช่แล้ว ฉันอิจฉา :o12:

ใกล้ล่ะๆ ใกล้จะได้เป็นผัวเมียอย่างเป็นทางการแล้ว เชิญเหล่า#หยัมปอง กักเก็บความหวานกันไว้ให้มั่นนะคะ เตรียมรับแรงกระแทกจากดราม่าที่กำลังจะมาในเร็วๆนี้ (ฮ่าาา)

แต่ไม่เป็นไรค่ะ ต่อให้ดราม่าสักแค่ไหนเรือ#หยัมปอง ก็จะฝ่าไปให้ได้ //เอาผ้าโพกหัว// มาเลยค่ะ พร้อมรับแล้ว! :katai4:

ออฟไลน์ sompong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 355
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ร้ายๆๆๆๆมากพี่สยามๆๆ

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
พี่หยามบอกกับทุก ๆ คนว่าปองเป็น "เมีย" แล้ว เมื่อไหร่ปองจะบอกกับทุก ๆ คนว่าพี่หยามเป็น .......... บ้างล่ะ  :hao3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11

ออฟไลน์ chaleeisis

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 249
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-3
บทที่ 38 สมปองกับการหาของ


ค่ายอบรมของสาขาโยธานี่....

ก็ดีนะครับ

ก็....ดี

ผมกำลังหาของอยู่ในป่า คือตอนนี้กลุ่มผมกำลังช่วยกันหาของอยู่ นี่ก็เป็นวันที่เท่าไหร่แล้ววะที่อยู่ที่ค่ายนี้มา แต่ว่าวันนี้เป็นวันทำกิจกรรมวันแรกครับ คือของที่ต้องหาแม่งมีเยอะมากอ่ะ หากันมาตั้งแต่เช้าละ ตอนนี้เป็นเวลา 5 โมงกว่าๆ พวกผมเพิ่งฐาน 4 เอง เดี๋ยวพอจบฐานนี้ก็ต้องพักกินข้าวก่อนแล้วค่อยไปหาต่อ

ฐาน 5 นี่ตอนกลางคืน

ในป่าแม่งอย่างมืดอ่ะ ละไม่รู้ว่าเขาจะแจกไฟฉายให้เพิ่มไหม ผมนี่อยากจะร้องไห้เลยทีเดียว กลัวเดินๆ อยู่แล้วไฟฉายดับ รับรองว่ากรี๊ดเป็นตายแน่

ทำไมชีวิตสมปองถึงได้น่าสงสารแบบนี้กันนะ

"หาเจอไหมปอง"

"ไม่เจออ่ะ ทางมึงล่ะเจอไหมพี่สยาม"

เจ้าตัวส่ายหน้ารัวๆ "ไม่เลย กูอยากรู้จริงๆ ว่าใครเป็นคนเอามาซ่อน แม่งหายากชิบหาย"

"นั่นดิ่ กูนี่ต้องปีนต้นไม้ขึ้นไปเอางี้" คิดแล้วแม่งโคตรหงุดหงิด นี่เห็นเราเป็นลิงกันเหรอวะถึงเอาของไปแขวนไว้บนต้นไม้ ละแขวนไว้อย่างสูง

เก็บตกลงมาตายแล้ว

"ฐานลำธารเมื่อเช้าก็เอาวางไว้ที่โขดหินกลางน้ำ คนเอาของไปซ่อนก็ทุ่มเทจริงๆ นั่นแหละ"

"เนอะ ไปหากันตรงโน้นไหม" ผมชี้ไปที่หลังต้นไม้ใหญ่

"เอาสิ นี่มึงกำลังหาอะไรอยู่"

"งูเขียวปลอม"

"โคตรกลมกลืนเลย จะหาเจอไหมเนี่ย"

"ไม่รู้ ก็ต้องลองไปหาก่อน" ผมลากพี่สยามให้มาหางูเขียวปลอมแถวๆ ต้นไม้ใหญ่ ยังไงก็ต้องเจอให้ได้ล่ะวะงูเขียวปลอมเนี่ย

ไม่รู้ว่าใครมันเป็นคนคิดเรื่องของที่เอาซ่อน คือแต่ละอย่างมันก็ดูแปลกประหลาดมาก เอาทัพพีตักข้าวมาซ่อนเงี้ยะ เอาฟองน้ำมาซ่อนเงี้ยะ ไอ้งูเขียวนี่ก็ด้วย แม่งเป็นอะไรที่หาสาระแทบไม่ได้เลย ตอนที่ผมเห็นรายชื่อของที่ต้องหาก้รู้สึกหงุดหงิดชิบ อย่าให้รู้นะว่าใครมันเป็นคนคิด

จะเอางูเขียวปลอมไปโยนใส่สักกำมือนึง

หึ้ยย.ย.ย....หมั่นไส้นัก

ผมกับพี่สยามช่วยกันหางูเขียวปลอม นี่ไม่ใช่ว่ามีนกบินมาเห็นแล้วโฉบมาเอาไปแดกแล้วเหรอวะ แต่เอาจริงๆ ผมว่านกก็ไม่น่าโง่ขนาดนั้นหรอก เพราะถ้ามันรู้ว่าเป็นงูปลอมมันก็ควรคายออก หรือถ้ามันรู้แต่ก็ยังจะทนกินต่อ อันนี้ก็เรื่องของแม่ง

แล้วทำไมต้องคิดเรื่องนี้วะปอง

"นี่ไงปองงูเขียว" พี่สยามมันหยิบงูเขียวขึ้นมาให้ผมดู แต่ถ้ามันเป็นของปลอมมันจะไม่แลบลิ้นแผล่บๆ แบบนั้นไหมวะ

ชิบหายละ

"พี่สยามนั่นมันงูของจริง"

เจ้าตัวมองงูในมือ "อ่าวหรอ แล้วตัวปลอมอยู่ไหนเนี่ยะ" มันบ่นพึมพำก่อนจะปล่อยงูในมือลงกับพื้น เดี๋ยวววว มึงปาไปไกลๆ ได้ไหมล่ะ คิดจะปล่อยก็ปล่อยงี้เหรอ

กระโดดเกาะหลังแม่ง

"อื้ออ.อ.อ...แทนที่จะปาไปไกลๆ " ผมบ่นมันพลางมองงูที่ยังวนเวียนอยู่ตรงเท้าพี่สยาม "พี่สยามเดี๋ยวมันกัด"

"มันไม่กัดหรอก ว่าแต่มึงกลัวงูหรอ ถึงได้มาขี่หลังกูเนี่ยะ"

"ไม่ได้กลัวแต่ไม่อยากโดนกัด กูไม่ชอบให้ตัวเองเจ็บ มึงเดินไปตรงอื่นสักทีซิ"

"ครับๆ " ว่าแล้วมันก็แบกผมเดินมาจากไอ้งูเขียวนั่น แม่ง อย่าให้กูกลับมาเจออีกนะมึง ทำมาเป็นเลื่อยออดอ้อนอยู่ตรงปลายตีนสุดที่รักกู เดี๋ยวเถอะมึง

เดี๋ยวเป็นงูสับ

ในขณะที่ผมกำลังคิดจะสับงู สายตาก็ไปสะดุดตากับอะไรบางอย่าง "ตรงนั้นพี่สยาม บนต้นไม้" ผมชี้งูเขียวปลอมที่ห้อยอยู่บนต้นไม้ให้มันดู

"ทำไมถึงเอาไปไว้บนต้นไม้วะ"

นั่นน่ะสิ

พี่สยามพาผมเดินมาหยุดที่ต้นไม้ต้นที่มีงูปลอมห้อยอยู่ มันห้อยอยู่ค่อนข้างที่จะสูงเลยครับ คือยังไงก็ต้องปืนขึ้นไปเอา จิ๊....เมื่อเช้าก็หวิดตกต้นไม้มาแล้วรอบนึง นี่ก็ยังจะต้องมาเสี่ยงตายอีกรอบเหรอวะ ผมลงจากหลังพี่สยามก่อนจะเงยหน้ามองเป้าหมายที่ต้องปีนขึ้นไปหยิบ

สูงชิบ

"เดี๋ยวกูปีนเอง" พี่สยามบอกก่อนจะทำท่าจะปีน

"ไม่เอา" ผมดึงเสื้อมันไว้ "เดี๋ยวกูปีนเอง"

"อันตราย"

"ถ้ามึงปีนสิจะอันตราย มึงตัวใหญ่ขนาดนี้ ปีนขึ้นไปกิ่งไม้ได้หักลงมาพอดี เพราะงั้นให้กูปีน"

"แล้วถ้ามึงพลัดตกลงมาล่ะ"

"มึงจะรับกูทัน....ใช่ไหม"

มันพยักหน้ารับเบาๆ "ใช่ ระวังด้วยละกัน"

"ระดับนี้แล้ว" ผมยักคิ้วให้มันก่อนจะเริ่มปีนขึ้นไปบนต้นไม้ กิ่งนี่จะใหญ่กว่านี้ก็ไม่ได้อ่ะนะ เหยียบทีแม่งจะหักอยู่รอมร่อ

"จับดีดีนะปอง"

"รู้แล้วค้าบบบบ"

ผมปีนสูงขึ้นมาเรื่อยๆ นี่ดีนะที่มีสกิลปีนเก็บมะม่วงติดตัวมาด้วยน่ะ มันก็เลยไม่ได้หนักหนาสาหัสเท่าไหร่ เมื่อกี้ตอนก้มลงไปมองพี่สยาม มันทำหน้ากังวลมากเลยนะครับ สงสัยจะเป็นห่วงผมนั่นแหละ แต่จะให้มันเป็นคนปีนขึ้นมาเก็บก็ไม่ได้อ่ะ เพราะอย่างที่ผมบอกว่ามันตัวใหญ่ แล้วถ้ากิ่งไม้ดันหักแล้วตัวมันร่วงลงมาผมก็คงรับมันไม่ไหว

ผมไม่ได้ตัวเล็กแต่มันอ่ะตัวใหญ่เกินมนุษย์

พอปีนขึ้นมาจนถึงงูเขียวปลอมแล้ว ผมก็จัดการหยิบมันแล้วปาลงไปให้พี่สยาม เอาล่ะมิสชั่นคอมพลีทแล้วนะ ภารกิจต่อไปคือการพาตัวเองลง ผมว่าการปีนขึ้นมามันไม่ยากเท่ากับการลงไปนะ นี่อยากจะกลายร่างเป็นสไปเดอร์แมนมาก แต่ถ้าผมเป็นสไปเดอร์แมนตั้งแต่แรกผมคงไม่ต้องปีนขึ้นมาแบบนี้หรอก เนี่ยะ เพราะเป็นสปองเดอร์แมนไงก็เลยต้องลำบากแบบนี้

คิดได้ไงวะสปองเดอร์แมน

ฮ่าๆ ๆ ๆ ๆ

"ปองระวัง!!!"

พรื้ดดดด

"เชี่ยๆ ๆ ๆ " ผมเกาะกิ่งไม้ไว้แน่นเพราะเสียหลัก ขานี่ลอยอยู่กลางอากาศแล้ว "พี่สยามมมม"

ถ้าไม่ช่วยรับกูก็ช่วยเอาปืนไปไล่นยิงไอ้นกตัวเมื่อกี้ที

จะบินตัดหน้าทำโพ่งงงง

"ปองงงง"

ผมมองลงไปด้านล่าง มือก้ยังเกาะกิ่งไม้ไว้แน่น "แม่งสูงอยู่นะเนี่ย"

"กูรอรับมึงเอง ปล่อยมือเลยปอง" คนด้านล่างบอกก่อนจะเตรียมท่า

"รับให้ได้นะมึง" ผมขยับตัวให้เหลือแค่มือที่จับกิ่งไม้ " 3....2....1...."

ตุบบบบ

"โอ๊ยยยยยยยยยยย"

อื้มม.ม.ม....เจ็บจัง

ผมรีบขยับตัวออกจากพี่สยาม "เป็นไงพี่สยาม"

"หนัก"

"หนิ....รู้งี้กูน่าจะกระโจนลงมาทับมึงให้แบนซะจริงๆ " ผมทำหน้ามุ่ยใส่มัน ไอ้ที่บอกว่าหนักนั่นคือจะด่ากูว่าอ้วนแบบอ้อมๆ สินะ

ผัวเวร

"อย่าทำหน้าแบบนั้นสิครับ" พี่สยามรั้งตัวผมไปกอดไว้ "ดีจริงๆ ที่ไม่เป็นไร เมื่อกี้ที่มึงลื่นกูใจหายใจคว่ำเลยนะ บอกแล้วให้ระวัง"

"ห้ามดุกู เรื่องนี้นกผิด" ผมซุกไหล่หนาๆ นั่นก่อนจะบอกเสียงอ่อน

"เด็กบ๊องเอ๊ย"

สัมผัสเบาๆ ที่หัวผมนั้นทำให้รู้สึกว่าตัวเองปลอดภัยจริงๆ ถ้าพี่สยามมันไม่อยู่ตรงนี้ผมจะเป็นยังไงวะ อาจจะยังห้อยโต่งเต่งแล้วรอเวลาร่วงลงมาก็ได้ แต่จะว่าไปถ้าไอ้งูบ้านี่ไม่ขึ้นมาอยู่บนต้นไม้เรื่องทั้งหมดก็คงจะไม่เกิดขึ้น เพราะงั้นต้องโทษคนเอามาวาง

หึ....กลับไปจะเผาพริกเผาเกลือสาปแช่ง

ตายแน่มึงงงง

"อะแฮ่มมมม....ในป่าก็เพลาๆ บ้างนะเพื่อนนะ"

พี่สยามคลายกอดจากผมก่อนจะหันไปทำหน้าเหี้ยมใส่เพื่อนรัก "มึงเงียบปากไปเลยไอ้ขุน"

"ฉุนเฉียวววว หมดเวลาหาของแล้ว พี่ขันเรียกรวมให้ไปกินข้าวละ"

"อ๋อเออ" พี่สยามลุกขึ้นก่อนจะดึงผมให้ลุกตาม "ไปกินข้าวกัน"

"อื้อ" ผมหยิบงูปลอมมาถือไว้ก่อนจะเดินตามหลังพี่สยามไป ตอนนี้ในป่าเริ่มจะมืดละ ก็นะ แม่งเกือบ 6 โมงแล้วหนิ

"เห้ยขุน ของเราฐานต่อไปนี่ที่ไหนนะ"

"แถวๆ เนินยิปโซ"

"เออ"

ปั้กกกก

"โอ๊ยยยย" ผมยกมือขึ้นกุมมูกตัวเองเพราะไปชนหลังพี่สยามเมื่อกี้ ใครมันเอาท่อนไม้มาวางไว้วะ สะดุดเลยเนี่ย

แล้วหลังไอ้พี่บ้านี่ก็แข็งวะจริง

"เดินให้มันดีดีสิปอง" พี่สยามเลื่อนมือมาจูงมือผมก่อนจะเดินนำออกมาเรื่อยๆ พอพี่ขุนเขาเห็นแบบนั้นก็มีการส่งสายตากรุ้มกริ่มมาให้

ผมขอหลบสายตานั่นแปป

เราสามคนเดินออกมาจากป่าก่อนจะรวมเข้ากับสมาชิกกลุ่มที่ 1 แล้วก็พากันเดินกลับค่าย เออเมื่อกลางวันมีเรื่องวุ่นวายเกิดขึ้นด้วยนะ คือพี่แช่มเขาหลงป่าครับ พวกคณะว้ากเกอร์กับคุณเจ้าหน้าที่ก็ไปช่วยกันหา ใช้เวลานานเลยนะกว่าจะเจอตัวพี่แช่ม การมาอยู่ค่ายที่เป็นป่ามันค่อนข้างยากด้านการติดต่อสื่อสารอยู่แล้ว ยิ่งพวกผมไม่มีโทรศัพท์ใช้ด้วยมันก็ยิ่งหนัก แต่เหตุการณ์ที่พี่แช่มหลงป่านี่ผมคิดแผนปฏิวัติไว้เรียบร้อยแล้ว

ทุกคนต้องพึงพอใจ

ผมจะเสนออาจารย์วิชัยว่าให้นักศึกษาสามารถพกโทรศัพท์ในค่ายได้ครับ เผื่อติดต่อเป็นกรณีฉุกเฉินแบบนี้ เคสของพี่แช่มถ้ายกไปใช้เป็นเหตุผลก็ฟังขึ้นอยู่นะ เดี๋ยวผมจะต้องใช้วาทะศิลป์กับสมองอันชาญฉลาดพูดต้อนอาจารย์วิชัยให้เขาคล้อยตามให้ได้ ผมว่ามันคงจะดีกับน้องๆ รุ่นต่อๆ ไป

ถ้าผมได้อยู่จนถึงตอนนั้นนะ

ไม่รู้ว่าถ้าได้อ่านไดอารี่ของผมแล้วเขาจะมีความเห็นยังไง หวังนะครับว่าจะได้เรียนที่นี่ต่อ ผมไม่ได้คิดเลยว่าถ้าต้องย้ายไปเรียนตามใจพ่อผมจะทำยังไง จะบอกกับพี่สยามยังไง แล้วมันจะมีความเห็นยังไงบ้าง อีกไม่สองวันข้างหน้าผมก็จะขอมันเป็นแฟนแล้ว แน่นอนว่าเรื่องนี้ต้องเขียนไว้ในไดอารี่ของผม

ถ้าพ่ออ่านแล้วรับรู้....มันจะเป็นยังไงนะ

"ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะ คิดอะไรอยู่หืม"

ผมส่ายหน้าเบาๆ "ไม่มีอะไร"

"ไม่สบายใจที่จะบอกก็ไม่เป็นไร" มือเรียวเลื่อนขึ้นมาลูบหัวผม "แต่ถ้าอยากบอกเมื่อไหร่....กูก็พร้อมรับฟังเสมอนะ"

"ได้ ถ้าถึงตอนนั้นกูพูดมากก็ห้ามบ่นนะ"

"กูก็ไม่เคยบ่นมึงเรื่องอะไรเลยนะนอกจากมึงอ้วนน่ะ"

"พี่สยามมมม!!!" ผมตีไหล่มันแรงๆ "กูอ้วนก็เพราะมึงนั่นแหละ มีปัญหามากนักหรอ กูอ้วนแล้วมันยังไงวะ"

ใบหน้าคมเลื่อนมากระซิบข้างหูเบาๆ "อ้วนยังไงก็รักครับ"

ตึกตัก

พี่สยามนี่แม่ง....

"อยู่เป็นจริงๆ เลยนะมึงน่ะ"





กลางป่าตอนกลางคืนนี่

อันตรายต่อชีวิตของสมปองสุดๆ

วอนไฟฉายอย่าถ่านหมดเลยนะ

ผมส่องไฟหาของไปเรื่อยๆ ตอนนี้พวกเรากลุ่ม 1 มาอยู่ฐานหาของกันแถวเนินยิปโซครับ ขอบอกเลยว่าบรรยากาสแม่งน่ากลัวชิบหาย มืดไปหมด วังเวงด้วย นี่ขนาดพยายามทำเสียงโหวกเหวกแล้วนะ ตอนนี้ประมาณเกือบ 2 ทุ่มแล้ว อีกไม่นานกิจกรรมของวันนี้ก็จะจบแล้วล่ะ

ดีใจมากเว่อร์

ช่วงวันที่มีการอบรมแบบหนักหน่วงขอบอกเลยว่าสมองฝ่อมาก ฟังเข้าสองหูแล้วทะลุออกปากมาแบบในรูปแบบเสียงกรน ผมนี่โดนพี่สยามดุเป็นว่าเล่นเลย กว่าจะผ่านช่วงอบรมกับช่วงดูงานไปได้นี่ก็เปื่อยอยู่เหมือนกัน เอาจริงๆ ผมอยากจะข้ามไปวันกลับบ้านเลยอ่ะครับ รู้สึกคิดถึงน้องเตียงนอนที่หอมากๆ

น้องเตียงเองก็คงคิดถึงผมเหมือนกัน

การนอนที่ค่ายนี่ก็ค่อนข้างลำบากอยู่พอสมควร ปกติแล้วผมกับพี่สยามจะต้องนอนกอดกันแบบแนบแน่นไง แต่พอมาค่ายก็ทำได้แค่นอนจับชายเสื้อมัน เพื่อนๆ แม่งแหละชอบแซว พอแซวแล้วก็ไม่เป็นอันนอนอีก เนี่ยะ ถ้ากลับไปหอนะผมจะนอนกอดพี่สยามทั้งวันเลย

เอาให้ชุ่มปอด

"สมปอง"

ผมหันไปมองตามเสียงเรียกหวานๆ "มีอะไรหรอนิว"

"คือเราอยากให้ปองช่วยหาชามตราไก่หน่อยอ่ะ"

ชามตราไก่

เอาชามตราไก่มาซ่อน....เพื่อ!!!!

"เอ่อ...ได้สินิว ว่าแต่พอได้คำใบ้มาบ้างไหม"

"อ๋อ พี่เค้าบอกมาว่าเดินลึกเข้าไปอีกหน่อยจนเกือบถึงลานกว้างอ่ะ คือตอนแรกนิวจะไปเองแหละแต่นิว...."

ผมพยักหน้ารับก่อนที่นิวจะพูดจบ "ไม่เป็นไรปองเข้าใจ นิวเป็นผู้หญิงเดี๋ยวมันอันตรายด้วยแหละ งั้นเดี๋ยวปองไปหาเอง เออถ้าพี่สยามมันถามหาปองก็บอกมันไปว่าปองไปหาชามตราไก่นะ"

"โอเค ขอบใจะปอง"

"ไม่เป็นไรครับผม" ผมยิ้มบางๆ ให้นิวก่อนจะรีบเดินส่องไปเข้าไปในป่าลึกอีกหน่อย

เอาจริงๆ ไม่อยากมาคนเดียวนะครับแต่ว่ามันก็จำเป็นน่ะนะ ตอนนี้พี่สยามมันโดนพี่ขันเรียกไปทำอะไรสักอย่างไม่รู้ แต่เดี๋ยวมันก็คงมาหาผมแหละ ลานกว้างของเนินยิปโซก็ค่อนข้างไกลจากจุดที่ชาวบ้านเขาหาของกันพอสมควร ถ้าคิดในแง่ดีคือผมจะได้ดูวิวเนินยิปโซตอนกลางคืน เดี๋ยววันที่จะขอพี่สยามเป็นแฟนก็จะต้องวิ่งวุ่นหน่อย

ตื่นเต้นเหมือนกันแฮะ

ผมเดินลัดเลาะจนมาถึงลานกว้างของเนินยิปโซ มันมืดจนมองไม่ค่อยเห็นดอกไม้เลยอ่ะ แต่ว่าดวงดาวบนฟ้านี่เห็นชัดเลยนะครับ หวังว่าอีกสองวันข้างหน้าดาวจะสวยเหมือนกับคืนนี้นะ

พรึ่บบบบ

ฟะ....ไฟฉายดับ

"อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"



[บันทึกพิเศษ : สยาม]



หืมมมม....

เสียงนั่นมัน

"ใครมันร้องวะ" พี่ขันเอ่ยขึ้นมาอย่างสงสัย "เสียงอะไรช่วยกันไปดูดิ้"

"เสียง....สมปอง" ผมรีบวิ่งไปตามทิศทางของเสียงที่ดังลั่นนั้นทันที เกิดอะไรขึ้นกับน้องวะ ลื่นล้ม เจองู หรือว่าเป็นอะไร

แล้วอยู่ไหนก็ไม่รู้เนี่ย

ผมวิ่งเลยเข้ามาในจุดที่เด็กปี 1 กำลังหาของ ทุกคนดูตกใจกับเสียงร้องเมื่อกี้มาก ผมส่องไฟหาตัวน้องแต่ก็ไม่เจอ ไปหาของอยู่ตรงไหนกัน นี่ก็บอกแล้วแท้ๆ ว่าให้อยู่รวมกลุ่มกับคนอื่นไว้จะได้ไม่หลงทาง อีกอย่างที่ผมเป็นห่วงมากคือกลัวไฟฉายน้องจะดับ เพราะถ้ามันดับจริงคงไม่ใช่เรื่องดีสำหรับคนที่กลัวความมืดอย่างสมปองแน่ๆ

"น้องๆ มีใครเห็นปองไหม"

"คืองี้ค่ะพี่สยาม ปองไปหาชามตราไก่แถวลานกว้างของเนินค่ะ"

"ขอบใจนะ เออพี่ขอยืมไฟฉายหลายๆ อันหน่อยได้ไหม"

"นี่ค่ะพี่" น้องๆ ส่งไฟฉายมาให้ผม

"โอเค พวกน้องไปรวมกับพี่ขันตรงทางโน้นก่อนนะ พี่จะไปตามหาสมปอง ฝากบอกพี่ขันด้วย" ผมบอกน้องๆ ก่อนจะรีบวิ่งไปตามทางทันที ลานกว้างของเนินยิปโซค่อนข้างไกลจากตรงนี้อยู่นะ เสียงที่ได้ยินเมื่อกี้ฟังยังไงก็เสียงสมปอง ถ้าร้องดังออกมาแบบนั้นผมว่ามันคงไม่ดีแน่

รอพี่แปปนึงนะปอง

"สมปองงงง!!!!" ผมตะโกนเรียกน้องพร้อมกับส่องไฟหาไปด้วย "สมปองงงงมึงอยู่ที่ไหน!!!!"

"ฮืออ.อ.อ...พี่สยาม!!!! ช่วยด้วย....ฮึกก.ก.ก...ฮืออ.อ.อ......"

เสียงมาจากทางนั้น

ผมรีบวิ่งตามเสียงเรียกมาทันทีจนออกมาถึงลานกว้าง "สมปองงงง!!!!"

"ฮึกกก.ก....ฮืออ.อ.อ....พี่สยามมมม"

"ปอง" ผมส่องไฟฉายไปตามทางก็พบกับร่างของน้องที่นั่งกอดเข่าร้องไห้อยู่กับพื้น "สมปอง"

น้องโผเข้ากอดผมทันที "ฮืออ.อ.อ....พี่สยามมมม.....ฮึกก.ก.ก....พี่สยาม"

"ไม่เป็นไรแล้วนะ พี่มาแล้วนะครับ" ผมลูบหัวน้องเบาๆ สมปองตัวสั่นมากเลยครับ เหตุการณ์เมื่อกี้ถึงแม้ว่าจะเป็นช่วงสั้นๆ แต่มันคงทำให้น้องรู้สึกแย่มากๆ

"ฮึกก.ก...มันน่ากลัว....ฮึกก....กก"

"ไม่ต้องกลัวแล้วนะ" ผมคลายกอดก่อนจะยกมือเช็ดน้ำตาให้น้อง "พี่อยู่ตรงนี้แล้ว เอาไฟฉายมาให้แล้วด้วย หยุดร้องเถอะนะครับ"

"ฮึกกก..ก...พากลับหน่อย....ไม่หาชามตราไก่แล้ว...ฮืออ.อ....ไม่หาแล้ว"

"ครับ ช่างชามตราไก่มัน เดี๋ยวขี่หลังแล้วก็ส่องไฟให้พี่ละกันนะ" ผมหันหลังให้ สมปองก็ขยับขึ้นมาขี่หลังผมก่อนจะถือไฟฉายทุกกระบอกไว้

"ฮึกก.ก.ก....ขอบคุณที่มาช่วยนะ....ขอบคุณจริงๆ "

"มันเป็นเรื่องที่พี่ต้องทำอยู่แล้ว" ผมเหลือบไปยิ้มให้น้อง "รีบกลับค่ายกันดีกว่า"

"อื้มมมม" น้องซุกหน้าไว้กับไหล่ผม มือก็ส่องไฟไปตามทาง

ไม่คิดเลยนะครับว่าอาการของน้องมันจะรุนแรงขนาดนี้ นี่แค่ไม่กี่นาทีที่อยู่ในความมืดเองนะ รับรู้ได้เลยว่าน้องกลัวมาก จนถึงตอนนี้ตัวก็ยังสั่นไม่หยุด ยังหยุดร้องไห้ไม่ได้ด้วย ใครจะคิดว่าคนที่ดูร่าเริงอยู่เสมอก็มีมุมแบบนี้กับเขาเหมือนกัน คราวหน้าผมจะต้องระวังเรื่องนี้ให้มากกว่านี้ จะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก เห็นน้ำตาสมปองแล้วมันปวดใจจริงๆ

ผมจะดูแลน้องให้ดีกว่าเดิม

สัญญากับไฟฉายหลายกระบอกในมือสมปองเลยอ่ะ



[จบบันทึกพิเศษ : สยาม]









TBC.

สวัสดีค่ะชาลมาส่งหยัมปองแล้ว ขอโทษด้วยที่เลทมา 1 วัน เมื่อวานมีธุระก็เลยย้ายมาลงเฉพาะกิจวันนี้แทน บทนี้ยังไม่ได้แก้คำผิดนะคะ เดี๋ยวชาลจะตามแก้ให้นะ ก็บทนี้ก็จะสื่อถึงความกลัวที่ค่อนข้างรุนแรงนะคะ คือคนที่กลัวอะไรบางอย่างจนมีอาการแบบนี้มันมีอยู่จริงๆ นะ

ขอชี้แจงเรื่องการพักการลงนิยายตั้งแต่วันที่ 2-6 เมษายนนะคะ มีเรื่องที่ต้องจัดการให้ทันค่ะเพราะฉะนั้นช่วยรอนิยายกันอย่างใจเย็นน้า

ถ้าชอบก็กดไลค์ คอมเม้นต์ เพื่อเป็นกำลังใจให้กันได้นะคะ สามารถติดต่อข่าวสาร + สปอยล์ได้ที่ทวิตเตอร์ Chaleeisis นะ

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ

ออฟไลน์ Zenith

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
โอ๊ยยยยย สงสารลูกอ่าา ปองลูกไม่เป็นไรแล้วนะพี่หยัมเขาอยู่กับหนูแล้วนะลูก ไม่ร้องไห้นะคะเด็กดี ฮือออ เข้าใจลูกเลยอ่ะ เราเองก็กลัวพวกสัตว์เลื้อยคลาน(แม้จะไม่ได้กลัวความมืดก็เถอะ แต่มันกลังเหมือนกันอ่ะ :monkeysad: ) เข้าใจเลยว่าเวลาที่เรากลัวสุดขีดมันเป็นยังไง

พี่หยัมดูแลน้องดีดีนะเว้ย อย่าให้น้องต้องเจอสิ่งที่กลัวอีกนะ เวลาน้องร้องไห้แล้วรู้สึกเหมือนจะร้องไห้ตามT^T แต่อีกไม่นานก็จะได้ขอพี่หยัมเป็นแฟนแล้วนะปอง ยิ้มสู้ไว้ลูก นึกถึงวันที่จะขอพี่หยัมเป็นแฟนไว้ (ฮ่าาาา)

ปล.ทำไมพี่หยัมไม่กลัวงูเขียวอ่ะ ถ้ามันกัดนี้ถึงตายเลยนะ คือแบบพวกนี้มันพิษร้ายแรงมากถึงยังไงก็ต้องระวังไม่ควรทำแบบนี้นะคะพี่หยัม มันอันตรายจริงๆ สัตว์พวกนี้เขาเองก็มีการป้องกันตัวเองด้วยการฉกกัด อยากให้ระวังอย่าทำสุ่มสี่สุ่มห้าแบบนี้ แม่ไม่ปลื้มเลยค่ะ :m15: :m15: :m15:

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ตกลงปองกลัวอะไรอ่ะ ความมืด  หรือ ผี  :ling3:

ออฟไลน์ sompong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 355
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
กิจกรรม ซ่อนของในป่าแล้วให้หาของตอนกลางคืนไม่น่าคิดได้นะ
มันทั้งอันตรายจากสัตว์มีพิษ จากสภาพป่าตอนกลางคืน
ขนาดหาของในบ้านตอนไฟดับยังลำบากเลย

พี่สยาม ห่วงใยปองดีมาก
ดูแล้วปองติดพี่หยัมสุดๆ
พี่สยาม สมปอง   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ chaleeisis

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 249
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-3
สวัสดีค่ะบี๋ ชาลมีเรื่องจะมาชี้แจงเกี่ยวกับการลงนิยายหน่อยนะคะ

เมื่อวานมีเหตุบัคลงโน้ตบุ๊คจนทำให้ไม่สามารถใช้โน้ตบุ๊คแต่งนิยายได้ ชาลขออนุญาตลงนิยายช้ากว่าตารางปกติสักระยะนึง เพราะจากนี้ต้องเปลี่ยนไปใช้โทรศัพท์พิมพ์แทนซึ่งคงใช้เวลานานมากกว่า หยัมปองที่ต้องลงวันนี้ชาลขอเลื่อนนะคะ ยอมรับเลยว่ายังไม่เสร็จ เพิ่งเสร็จไปได้ 30% มันช้ามากเพราะชาลใช้โทรศัพท์

ขอโทษทุกคนด้วยที่ทำให้รอนาน แต่ช่วยอดทนรอหน่อยนะคะเพราะตัวชาลเองก็พยายามอดทนอยู่เหมือนกัน

 เพราะงั้นรอกันอย่างใจเย็นๆ นะ สามารถติดต่อข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ทวิตเตอร์ Chaleeisis น้า  ขอบคุณนะคะ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-04-2018 21:12:48 โดย chaleeisis »

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
รอได้ต่ะ  :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
รอได้จ้า พร้อมเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น  :กอด1:

ปล. นังบัคมันเป็นใครฟ่ะ จับได้ ตบให้คว่ำ  :fcuk:

ออฟไลน์ chaleeisis

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 249
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-3
บทที่ 39 เนินยิปโซ


ครั้งนึง....สมปองคนนี้เคยเป็นสโนไวท์มาก่อน

ไม่นึกเลยว่าจะได้มาเป็นซินเดอเรลล่าด้วย

คิดแล้วปวดใจชะมัด

ผมนั่งนิ่งๆ ให้พี่ขุนกับพี่ชาแปลงโฉมตัวเอง คือตอนนี้กำลังเตรียมตัวเพื่อทำกิจกรรมสุดท้ายของการมาค่ายครั้งนี้นั่นก็คือการแสดงละครเวทีครับ กลุ่มผมเนี่ยะเล่นเรื่องซินเดอเรลล่า แล้วมันก็เป็นโชคร้ายของผมอีกครั้งที่ต้องได้มารับเล่นบทที่ผู้หญิงควรจะเล่น ไม่ใช่ว่าในกลุ่มผมไม่มีผู้หญิงนะ แต่ว่าพี่ขันสั่งมาว่าในฐานะที่ผมเป็นคนคิ้วท์แห่งโยธา ผมก็ต้องเป็นคนรับบทนี้

ตรรกะอะไรของพี่อ่ะ

อยากจะปฏิเสธไปแต่แบบคนสั่งคือพี่ขันไง ใครจะค้านได้วะ ดูรัศมีความมีอำนาจนั่นสิ ผมคิดนะว่าสักวันอยากจะมีอำนาจแบบนั้นบ้าง สั่งอะไรคนก็ทำตามเงี้ยะ แม่งโคตรคูลอ่ะ ตัดภาพมาทุกวันนี้มีคนที่ทำตามผมสั่งคนเดียวก็คือพี่สยาม เนี่ยะ ถือว่าเป็นหมีควายที่ทำตัวน่ารัก

เชื่อฟังเจ้าของ

พูดถึงพี่สยามแล้วตอนนี้มันงอนผมอยู่ครับ คือเมื่อวานมันมีกิจกรรมที่สานสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนกับพี่น้องไง ความจริงกิจกรรมนี้ต้องไปอยู่วันแรกด้วยนะแต่ไม่รู้ทำไมพี่ขันถึงสลับวันกัน ถ้าอยากรู้เหตุผลต้องไปถามพี่ขันเอาเอง กิจกรรมเมื่อวานมันเป็นการซุ่มจับคู่แล้วก็ให้ทำภารกิจต่างๆ ด้วยกัน ผมได้คู่กับรุ่นพี่ปี 3 คนนึง แล้วพอจบกิจกรรมอ่ะไอ้พี่นั่นมันบอกว่ามันแอบชอบผมมานานแล้ว

แม่ง ผู้ชายบอกชอบเว้ยยยย

เชี่ยสุดคือบอกต่อหน้าพี่สยาม

ทันทีที่มันได้ยินหน้าก็หงิกเป็นหมีอดอาหารเลย ส่วนผมนี่ก็เหวอมากไม่รู้จะยังไง รู้ตัวอีกทีพี่สยามเดินสะบัดตูดหนีไปละ มันไม่ได้คุยกับผมเลยนะตั้งแต่เมื่อวาน คงงอนที่ผมไม่ได้ปฏิเสธไอ้พี่นั่นไปในทันทีล่ะมั้ง แหม่ คนมันตกใจนี่หว่าก็ต้องมีอึกอักบ้างไหมวะ แต่ผมก็บอกไอ้พี่นั่นไปแล้วนะว่ามีคนที่ชอบแล้ว

เอาจริงๆ ต้องเรียกว่าคนที่รักต่างหาก

รักมากเลยด้วย

หลังจากที่กิจกรรมแสดงละครเวทีผมเตี๊ยมกับเหล่าสหายไว้แล้วเรื่องจะขอพี่สยามเป็นแฟน ตอนลันตากับสีเทียนรู้เรื่องนี่แซวผมกันใหญ่ พวกมันบอกว่าจะให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ได้ยินแบบนั้นก็ค่อยรู้สึกดีหน่อย ผมเตรียมคำพูดซึ้งๆ ไว้บอกพี่มันแล้วนะ หวังว่าจนถึงตอนนั้นปากคงไม่สั่นจนพูดจาไม่รู้เรื่อง

ขอให้ฟ้าเป็นใจให้สมปองด้วยเถอะครับ

"เสร็จละ ไหนลองลุกยืนซิปอง" สิ้นเสียงพี่ขุนผมก็ลุกขึ้นยืน นี่เป็นซินเดอเรลล่าที่ไทยมากนะครับ สวมผ้าถุงแล้วห่มสะไบด้วย

ฟีลนางตานีมากกว่านางซินฯ อีก

"เออ ใช้ได้" พี่ชาเดินวนรอบตัวผม "ว่าแต่ตัวเจ้าชายไปไหนเนี่ยะ"

"ไอ้ก้องไอ้หอมจัดการอยู่ เดี๋ยวกูไปช่วยไอ้แกงดูพร็อพก่อนนะ"

"เค เดี๋ยวกูอยู่เป็นเพื่อนสมปองเรลล่าเอง"

ผมทำหน้ามุ่ยใส่ "สมปองเรลล่าอะไรล่ะพี่"

"ออกจะคิ้วท์น่า" พี่ชาเลื่อนมือมาขยี้หัวผม "ว่าแต่แผนมึงนี่ยังไง"

"ก็ตามที่เตี๊ยมกันเลยพี่ เดี๋ยวผมจะรีบวิ่งไปที่เนินเลย"

"อย่าลืมไฟฉาย"

"ไม่ลืมแน่นอน มีสำรองรวม 5 กระบอกอ่ะเอาดิ่" ไม่มีพลาดแบบตอนไปหาชามตราไก่แน่ คิดถึงวันนั้นแล้วยังผวาอยู่เลย

แม่งโคตรน่ากลัวเลยอ่ะ

คิดดูดิ่ว่าอยู่ดีดีไฟก็ดับไปต่อหน้าต่อตาผมเลย จังหวะนั้นเหมือนเกิดสภาวะช็อกเลยอ่ะ ผมร้องออกมาดังมาก ขามันหมดแรงแถมน้ำตาก็ไหลออกมาไม่หยุด มันน่ากลัวมากเลยนะ แต่นับว่ายังโชคดีอยู่ที่พี่สยามมาช่วยผมไว้ ถ้ามันไม่โผล่ช่วย ผมคิดไม่ออกเลยว่าตัวเองจะเป็นยังไง

โชคดีจริงๆ ที่มันหาผมเจอ

ตอนที่พี่สยามแบกผมออกจากป่ามันเป็นอะไรที่รู้สึกอบอุ่นหัวใจมาก รู้สึกปลอดภัยมากๆ ด้วย นาทีนั้นคิดเลยนะว่าชีวิตผมขาดผู้ชายคนนี้ไปไม่ได้ ถ้ามีสมปองก็ต้องมีสยามอ่ะบอกเลย

ของมันต้องคู่กันจริงๆ

"ได้เวลาละปอง" พี่ชามองนาฬิกาบนผนัง ตอนนี้เกือบจะทุ่มนึงแล้วครับ กิจกรรมแสดงละครเวทีกำลังจะเริ่มละ

"งั้นไปกันเถอะพี่" ผมยกชายสะไบขึ้นมาถือไว้ "ผมพร้อมแสดงละ"

"ดีมากน้องรัก มีความมุ่งมั่น"

"ทำดาาาา" ผมยิ้มแฉ่งให้พี่ชาไป ความจริงก็ไม่ได้มุ่งมั่นหรอกครับแค่อยากทำให้มันจบๆ เท่านั้นแหละ

มีเรื่องสำคัญต้องทำต่อนี่นะ

ผมเดินตามพี่ชาออกมาจากห้องที่ใช้แต่งตัว ก่อนหน้านี้ได้มีการจับสลากลำดับคิวกันเรียบร้อยแล้วครับ โดยกลุ่ม 1 ของผมจะแสดงเป็นกลุ่มสุดท้าย แต่ละกลุ่มจะมีเวลาแสดงละครประมาณกลุ่มละ 20 นาที กลุ่มไหนแสดงได้ดีถูกใจคณะอาจารย์ก็จะได้รางวัลไป

ผมหวังว่าจะไม่ใช่ขนมปี๊บ

พี่ชาเดินนำมาจนถึงโซนของกลุ่ม 1 มีคนไม่น้อยเลยนะที่มองผมน่ะ ก็นะ ใครไม่มองก็แปลกแล้ว ดูสภาพเสื้อผ้ากับสภาพหน้าผมด้วย ก่อนแสดงนี่ต้องใส่วิกด้วยนะ สรรหากันมาจริงๆ ถึงบ่นไปมันก็เท่านั้นแหละว่ะปอง โชคชะตามันถูกกำหนดมาแบบนี้ คนต๊อกต๋อยแบบเรามันจะไปทำอะไรได้ ฮึกกกก..ก....

แม่งดราม่าโคตรๆ

ผมเดินไปนั่งลงข้างๆ ที่สยามที่แต่งตัวเป็นเจ้าชายเสร็จแล้ว แหม่ ดูดีใช่ย่อย จะดูดีมากกว่านี้ถ้าไม่ติดหนวดสะเหล่อๆ นั่น เจ้าชายประเทศไหนเขาไว้หนวดเฟิ้มเป็นซานตาคอสแบบนั้นวะ

เห็นละอยากจับมาถักเปียซะจริง

"พี่สยาม"

"....."

ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมีควายที่ท่านเรียก

"จะไม่คุยกับกูจริงๆ หรอ" ผมทำตาละห้อยใส่ก่อนจะทำแก้มป่องหน่อยๆ "มันเหงานะ"

"....."

ยัง....ยังเงียบอยู่

ผมแสร้งทำเป็นถอนหายใจ "งั้นไม่เป็นไร....กูไปคุยกับคนที่เค้าอยากคุยกับกูก็ได้" ว่าแล้วผมก็ทำท่าจะลุกแต่พี่สยามรั้งแขนไว้ก่อน

"หนิ....นั่งนิ่งๆ เลยนะมึง" เจ้าตัวเอ่ยเสียงฉุนพลางมองตาขวางปั๊ด หวงละมาทำเก๊ก น่าหมั่นไส้ซะจริง

"พูดได้แล้วหรอ"

"หึ...."

ผมยื่นหน้าเข้าไปใกล้พี่สยาม "หึ...อะไร"

"หึ...."

"หึ....ทำไม"

"หึ...."

"นี่มึงกวนส้นตีนกูอยู่หรอพี่สยาม" ผมทำตาโตใส่มัน ชักจะโมโหแล้วนะไอ้บ้านี่ มัวแต่หึหึหึอยู่นั่นแหละ มันน่าทุบนักนะ

"หึ...." มือเรียวเลื่อนมาขยี้หัวผมเบาๆ พี่สยามยิ้มหวานจนตาหนี มันคงพอใจที่ปั่นผมได้แน่ๆ ถึงได้ยิ้มซะขนาดนั้น ใจนึงผมอยากจะบีบคอมันแล้วเขย่าๆ ๆ ๆ นะ แต่อีกใจก็ทำไม่ได้อ่ะ

ดูมันยิ้มเซ่

ผมทำหน้าบูดเป็นตูดลิงใส่ พี่มันก็ลูบหัวผมอยู่อย่างนั้น แปลว่าไอ้ที่เงียบๆ มาตั้งแต่เมื่อวานนี่อาจจะรอผมมาง้อแบบนี้ก็ได้นะ ร้ายกาจชะมัด ผมว่าใจจริงมันอาจจะไม่ได้งอนอะไรหนักหนาหรอก แต่ที่ทำมาดเยอะก็น่าจะเป็นเพราะอยากแกล้งผม

นิสัยไม่ดีเลยอ่ะ

"เลิกลูบได้แล้ว" ผมจับมือมันออก หัวนี่ฟูเป็นรังนกแล้วเนี่ยะ

"สมปอง"

"หืม..."

ใบหน้าคมเลื่อนมากระซิบข้างหูผมเบาๆ "ใครก็ตามที่ไม่ใช่กู....มึงห้ามไปหลงรักเค้าเด็ดขาด"

ตึกตัก

พูดอะไรเนี่ยยยย

"ทำตัวเป็นคนขี้หวงไปได้" ผมอมยิ้มมองมัน สีหน้าที่พี่สยามพูดให้ฟังเมื่อกี้มันจริงจังมากเลยนะ

"ไม่ใช่คนขี้หวงธรรมดา กูเป็นคนขี้หวงมากๆ มากในมาก"

"มึงนี่....รักกูมากเลยนะเนี่ย"

"ก็รู้ตัวหนิ"

งื้อออ.อ.อ....ไม่ไหวแล้วโว้ย

ผมยกมือปิดหน้าตัวเองก่อนจะนั่งบิดไปบิดมา เขินมากอ่ะ ทำไมเขินแบบนี้ก็ไม่รู้ ผมว่าต้องเป็นเพราะหน้ามันแน่ๆ ที่ทำให้ผมเขิน หัวใจนี่เต้นรัวๆ เลย นี่ถ้าไม่ได้อยู่ที่ค่ายผมคงกอดมันตัวกลมไปแล้ว แต่ไม่เป็นไร เดี๋ยวจะเก็บความอยากทุกอย่างไว้กลับไปทำที่หอทีเดียว

จะเอาให้หนำใจเลยคอยดู!!!



"งานเต้นรำคืนนี้แกต้องเฝ้าบ้าน เข้าใจไหม"

ผมพยักหน้ารับเบาๆ "เข้าใจค่ะคุณแม่เลี้ยง"

"ดีมาก งานบ้านน่ะทำเข้าไป ฉันกับลูกๆ จะไปก่อน เฝ้าบ้านให้ดีล่ะ" ว่าแล้วคุณแม่เลี้ยงก็เดินนำพี่ก้องพี่หอมออกไป เหลือเพียงสมปองเรลล่าที่นั่งจุมปลุ๊กอยู่ตรงนี้

เศร้าใจจัง

ผมทำทีดราม่าก่อนจะหยิบผ้ามาถูพื้น ตอนนี้กลุ่ม 1 ของผมกำลังแสดงละครเวทีอยู่ครับ ขอบอกเลยว่าทุกคนตั้งใจดูมาก ตอนนี้แสดงถึงตอนที่จะไปงานเต้นรำที่ปราสาทของเจ้าชายหมีควายละ นับถอนหลังประมาณ 5 วิ นางฟ้าแม่ทูนหัวก็จะโผล่ออกมาเสกโน่นนี่ให้ คนที่เป็นนางฟ้านี่คือคนที่ทุกคนคาดไม่ถีงอย่างแน่นอน

"ซินนนนเดออออเรลลลลล่าาาาาา"

เสียงนำมาละ

ผมทำเป็นหันมองซ้ายมองขวา "เสียงใครน่ะ"

"นางฟ้าแม่ทูนหัวของเธอไงจ๊ะ" สิ้นเสียงพูด ร่างสูงก็เดินออกมาจากฉากด้านหลัง ในมือถือไม้กวาดทางมะพร้าว

อันนั้นเอามาแทนคฑาถูกไหม

ผมมองพี่ขุนตั้งแต่หัวจรดเท้า คือพี่จะเป็นนางฟ้าที่หล่อมากขนาดนี้ไม่ได้นะ การแต่งตัวของเขาดูดีมากเลย ยกเว้นไอ้คฑาไม้กวาดนั่นน่ะ นี่เวลาร่ายมนตร์มันจะหวดหน้าผมไหมเนี่ยะ

"ทำไมนางฟ้าแม่ทูนหัวถึงมาหาฉันล่ะ"

"ก็จะมาเป็นพี่เลี้ยงส่งเธอไปงานเต้นรำน่ะสิ"

ผมส่ายหน้ารัวๆ "ไม่ได้หรอก แม่เลี้ยงสั่งให้ฉันเฝ้าบ้าน แถมพวกนั้นก็ไปงานเต้นรำ ถ้าฉันไปเจอล่ะก็ มันต้องเป็นเรื่องแน่"

"พวกแม่เลี้ยงใจร้ายจะจำเธอไม่ได้แน่นอน เชื่อฉันสิ" พี่ขุนบอกก่อนดึงผมให้ลุกขึ้น "เราไปแปลงโฉมกัน" ว่าแล้วเขาก็ลากผมเข้ามาหลังต้นไม้ใหญ่ซึ่งมีพี่แกงสแตนด์บายรอเปลี่ยนชุดให้

ระหว่างนี้พี่ขันก็บรรยายเนื้อเรื่องไปเรื่อย นี่อีกแค่แปปเดียวละครเวทีก็ใกล้จบแล้วนะครับเพราะว่าจังหวะที่ผมต้องทำรองเท้าหลุดแล้ววิ่งหนีไปนั้น ผมจะวิ่งไปที่เนินยิปโซเลย เรื่องนี้เตี๊ยมกันกับทีมงานเรียบร้อย ป่านนี้พวกเพื่อนๆ ผมน่าจะกำลังจัดไฟกันอยู่ เออ เรื่องเซอร์ไพรสนี้ผมขออนุญาตทางเจ้าหน้าที่และอาจารย์วิชัยเรียบร้อย

ตอนขอนี่โดนแซวจนเขินตัวบิดเลยอ่ะ

"เสร็จละ ป่ะ" พี่ขุนลากผมออกมาหลังจากที่แต่งตัวเสร็จ ตอนนี้สภาพผมก็ไม่ได้เปลี่ยนไปมากกว่าเดิมเท่าไหร่แค่ผ้าถุงกับสะไบกลายเป็นสีฟ้า

"ชุดของฉัน"

"ยัง ยังไม่เสร็จ เธอต้องสวมสิ่งนี้ด้วย" มือเรียวของพี่ขุนล้วงไปหยิบรองเท้าแก้วในกล่องที่วางอยู่ใกล้ๆ ออกมาให้ รองเท้าแก้วนี่มันรองเท้าแก้วจริงๆ นะ

รองเท้าแตะที่มีแก้วโง่ๆ แปะอยู่ด้านบน

เอาคะแนนควาทครีเอทไปเลย 100 คะแนน

"รองเท้าแก้ว"

"ใช่ รองเท้าแก้ว" พี่ขุนนั่งลงไปสวมรองเท้าให้ผม "จงจำไว้อย่างนึงนะซินเดอเรลล่า เวทมนตร์ของฉันจะหมดฤทธิ์ตอนเที่ยงคืน เพราะงั้นจงรีบกลับมา"

"ได้....ขอบคุณนะนางฟ้าแม่ทูนหัว" ผมยิ้มหวานให้ก่อนจะเดินไปหลังฉาก คือปกติจะต้องมีรถฟักทองใช่ไหมล่ะแต่ว่าพี่ๆ มันขี้เกียจทำพร็อพก็เลยเป็นอย่างที่เห็น

ผมยืนมองพวกสต๊าฟที่กำลังวิ่งวุ่นเปลี่ยนฉาก พวกคนดูก็ฮือฮาอยู่นะ ดีละดี จังหวะที่ผมวิ่งหนีไปคงงงแดกกันบ้างแหละ ไม่เป็นไรช่างแม่งละกัน เดี๋ยวเรื่องที่จะเกิดขึ้นวันนี้ก็คงเป็นที่กล่าวขานไปอีกนาน

คิดแล้วก็เขินนนน

ผมมองทางเวทีที่พี่สยามเดินขึ้นไปแล้ว เสียงกรี๊ดดังมากเลยว่ะ แค่เปิดตัวเจ้าชายหมีควายแค่นี้มาทำเป็นกรี๊ดกัน ผมว่านะ คนไม่ได้กรี้ดที่มันหล่อหรอก เขาคงกรี๊ดหนวดที่มันติดอ่ะ ก่อนผมจะขอมันเป็นแฟนผมจะให้มันแกะหนวดออกก่อน

แม่ง....ไม่โอเคจริงๆ

หลังจากที่ยืนฟังเจ้าชายแพล่มอะไรอยู่คนเดียวสักพัก ผมก็เดินขึ้นไปบนเวทีก่อนจะทำเป็นชำเลืองตามองเจ้าชาย คือฉากนี้มีหน้าม้าที่มาเต้นรำกันด้วยนะ รวมถึงพวกแม่เลี้ยงด้วย ทันทีที่เจ้าชายเห็นผมก็ทำเป็นมองตาค้าง เห็นหน้ามันแล้วตลกอ่ะ จะขำก็ขำไม่ได้

เกิดเป็นสมปองต้องอดทนอะไรแบบนี้ด้วยเหรอวะ

พี่สยามเดินมาทางผมก่อนจะโค้งหัวให้ "จะเป็นเกียรติมาก....หากคุณเต้นรำกับผม" มือเรียวยื่นมาด้านหน้า

"ค่ะ" ผมวางมือลงบนมือพี่สยาม ทันใดนั้นเพลงเต้นรำของเราก็ดังขึ้นมาทันที

อะกู๋ ปิลุม มานดี ตะตุงตวง ตะตุงตวง....

 เดี๋ยวววว

ปราสาทมึงเปิดเพลงนี้เต้นรำเหรอ

พอเพลงนี้ดังขึ้นบนเวทีก็เปิดสเต็ปโหดกันเลยมีเดียว ผมยังคงยืนเด๋อไม่รู้จะยังไงต่อ เสียงหัวเราะชอบใจดังมาจากเหล่าคนที่นั่งอยู่ด้านล่าง เพลงยังคงดังต่อไปเรื่อยๆ พี่แกงที่โผล่หน้าออกมาบอกให้ผมกับพี่สยามเต้น คือต้องเต้นยังไงวะเนี่ย ส่ายตูดได้ไหม

ส่ายได้ละกัน

ผมเต้นส่ายตูดไปเรื่อย พี่สยามก็โยกไปตามเพลง แม่งเป็นงานเต้นรำที่เกินความคาดหมายมากๆ จะทำให้ซึ้งหน่อยก็ไม่ได้เลยนะ ใจคอจะเอาฮาอย่างเดียว แถมยังไม่ได้บอกให้นักแสดงเตรียมใจเลยด้วย

หึ้ยยยย...ย....อย่าให้รู้นะว่าใครเขียนบทน่ะ

เต้นส่ายตูดไปได้สักแปปเสียงระฆังก็ดังขึ้นเป็นสัญญาณว่าให้ผมต้องไปจากเจ้าชายได้แล้ว พอเป็นแบบนั้นผมหันไปหาพี่สยาม "ฉันต้องไปก่อน...."

"เธอชื่ออะไร"

"ฉัน....ไม่ทันแล้ว ขอโทษนะเจ้าชาย" ผมหันหลังก่อนจะแสร้งทำเป็นรองเท้าหลุดไปข้างนึงแล้วรีบวิ่งลงมาจากทางด้านหน้าเวที มือก็คว้าไฟฉายที่พี่ชาเตรียมไว้ให้แล้วมุ่งไปทางเนินยิปโซ

คนคงมึนงงว่าผมทำอะไรวะ

เดี๋ยวพวกพี่ๆ มันก็เสี้ยมพี่สยามต่อกันเองแหละ ผมวิ่งมาจนถึงทางเข้าป่าก่อนจะสวมรองเท้าที่ลันตาเตรียมไว้ให้ มือก็เปิดไฟฉายอีก 4 กระบอกแล้วเอาคล้องแขนไว้ ตอนนี้น่าจะ 3 ทุ่มกว่าๆ เหล่าสหายคงจัดไฟกันเสร็จแล้ว ผมวิ่งเข้ามาเรื่อยๆ ตอนนี้ไม่กลัวอะไรทั้งนั้นครับเพราะไฟฉายนี่ส่องสว่างไปหมด

"ปอง!!!!"

ผมส่องไฟตามเสียงก็เห็นร่างสูงของเพื่อนรัก "แยมมมม"

"มาแล้วหรอ" สีเทียนโผล่หน้าออกมา "แต่งตัวอะไรของมึงฮ่าๆ ๆ ๆ "

"เป็นสมปองเรลล่าไง ว่าแต่มึงจัดไฟกันเสร็จยัง"

"เรียบร้อย แผงวงจรอยู่กับลันตา มันจะเป็นคนเปิดเอง อ่ะนี่ช่อดอกไม้ กูหาได้ดีสุดเท่านี้แหละ" แยมส่งช่อดอกไม้ทำมือมาให้ผม มันเป็นช่อดอกไม้นานาชนิดเลยครับถูกห่อด้วยกระดาษสีน้ำตาล

หวังว่าพี่สยามจะชอบนะ

"ขอบใจพวกมึงจริงๆ ว่ะที่ช่วยทำทุกอย่างนี่"

สีเทียนยกมือแตะไหล่ผม "เล็กน้อยน่ะ เห็นมึงจะมีความสุขกูก็ดีใจละ"

"กูก็เหมือนกัน มึงไปยืนรอพี่เค้าตรงกลางเนินได้แล้ว"

"โอเค" ผมรับคำก่อนจะเดินมาตรงกลางของเนินยิปโซ

บนท้องฟ้าคืนนี้ดาวสวยมากครับ สวยกว่าคืนก่อนอีก สงสัยจะตื่นเต้นที่ผมจะขอพี่สยามเป็นแฟนแน่ๆ ทำดีมากเจ้าดาว มาเป็นพยานรักกันเยอะๆ เหตุการณ์แบบนี้ไม่เกิดขึ้นให้เห็นบ่อยหรอกนะ ตอนนี้ใจผมก็เต้นแรงอยู่พอตัวเลย เรื่องนี้ก็ต้องเขียนไดอารี่บอกพ่อสินะ ตอนพ่ออ่านพ่อจะตกใจไหม จะอ้าปากค้างรึเปล่าที่ลูกชายกำลังจะมีแฟนเป็นผู้ชาย

ช่างมัน ไว้ถึงตอนนั้นค่อยคิดละกัน

"สมปอง!!!!!"

มาละ

ผมหันมองตามเสียงก็พบกับพี่สยามที่ถอดหนวดออกไปแล้ว เจ้าตัววิ่งมาหยุดอยู่ทางเข้าเนิน "พี่สยาม...."

"แฮ่ก.ก....มาทำอะไรที่นี่" เจ้าตัวเดินมาหยุดตรงหน้าผม "เดี๋ยวก็เป็นเหมือนคืนนั้นหรอก"

"ไม่เป็นหรอกเพราะมีไฟฉายตั้งนี่" ผมโชว์ไฟฉาย 5 กระบอกที่คล้องอยู่กับแขนให้มันดู

"ถึงจะอย่างนั้นก็เถอะ ว่าแต่มึงวิ่งมาทำไมตั้งนี่ ละครเรายังไม่จบเลยนะ"

"ก็....เห็นดาวมันสวย ก็เลยอยากให้มาดูด้วยกัน"

"โถ่ปอง...." พี่สยามมันทำหน้ามุ่ยทันที พอเห็นแบบนั้นผมเลยตีหน้าซื่อใส่

"งืมม..ม....พรุ่งนี้เราก็กลับกันแล้วอ่ะ นี่เป็นวันสุดท้ายที่จะได้ดูดาวสวยๆ นะ"

คนตรงหน้าถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะเงยหน้ามองดาวบนฟ้า "ดาวมัน...ก็สวยจริงแหละ แต่ถ้ามันมีเยอะกว่านี้มันน่าจะสวยมากกว่านี้"

"หึ....นั่นสินะ งั้นกูจะเป็นคนเสกดาวมาให้เอง" ผมยกมือขึ้นดีดนิ้วดังเปราะทันทีที่พี่สยามพูดจบ แสงไฟดวงเล็กๆ ก็สว่างขึ้นลามไปทั่วทั้งเนินรวมถึงบนต้นไม้ก็มีหลอดไฟแบบดาวตกห้อยอยู่

สวยจริงๆ

ร่างสูงตรงหน้าผมหันมองไปรอบๆ ทั้งเนิน ริมฝีปากบางคลี่ยิ้มออกมา มันคงชอบในสิ่งที่ผมทำให้สินะ เห็นแบบนี้ก็รู้สึกดีใจว่ะ ผมอาศัยจังหวะที่พี่สยามมองไฟอยู่นั้นหยิบช่อดอกไม้ขึ้นมาถือไว้ตรงหน้า เอาล่ะ ตั้งสติแล้วหายใจเข้าลึกๆ นะปอง

ถึงเวลาแล้ว

"พี่สยาม...."

"หืม ดอกไม้งั้นหรอ"

"ของมึงอ่ะ" ผมยื่นช่อดอกไม้ให้ "ชอบ....สิ่งที่ทำให้ไหม"

"ชอบสิ ชอบมากๆ ขอบคุณนะครับ" เจ้าตัวยิ้มหวานก่อนจะรับดอกไม้ไปจากมือผม งื้ออ.อ.อ...ใจบางกับรอยยิ้มนี้อีกละ

โอ่ยตาย สมปองตายแน่ๆ

"กูเห็นมึงชอบ กูก็ดีใจละ" ผมผ่อนลมหายใจออกเบาๆ "คือ....กูมีเรื่องจะบอกมึงอ่ะ"

"เรื่องอะไรหืม...."

"ก็....ตอนแรกที่เจอมึง กูไม่ชอบขี้หน้ามึงมากเลยนะ คนบ้าอะไรก็ไม่รู้กวนประสาท แถมยังยังบอกว่ากูชื่อโบราณทั้งๆ ที่ตัวเองก็ชื่อสยามแท้ๆ "

"ถ้าไม่ทำแบบนั้นมึงก็จะจำกูไม่ได้น่ะสิ"

"นั่นแหละ....แล้วมึงก็เป็นคนที่เอาครั้งแรกของกูไปหมดเลยด้วย ทั้งหอมแก้ม ทั้งจูบ ทั้ง....ไอ้นั่นด้วย"

พูดเองนี่แก้มร้อนผ่าวเลยว่ะ

"แก้มแดงจังเลยนะ" มือเรียวยกขึ้นมากุมแก้มผม "มีอะไรจะพูดอีกหืม"

"ก็....จะบอกว่าไม่รู้เลยว่าเมื่อไหร่ที่ความรู้สึกไม่ชอบขี้หน้ามึงมันเปลี่ยนไป มึงคอยวนเวียนอยู่รอบตัวกูมาตลอด คอยช่วยเหลืออะไรหลายๆ อย่าง จนวันที่เรามาอยู่ด้วยกัน มึงก็คอยดูแลกู เป็นคนที่รู้ใจกูทุกเรื่อง ช่วงเวลาเหล่านี้มันดีมากเลย ขอบคุณนะพี่สยาม"

"กูก็ต้องขอบคุณมึงเหมือนกันที่กลายมาเป็นความสุขในชีวิตกู"

ผมพยักหน้ารับเบาๆ "ตอนที่กูกลับบ้านแล้วเราต้องห่างกัน กูก็คิดถึงมึงมาก มากจนคิดได้เลยว่าการอยู่ห่างกับมึงนานๆ มันคงไม่ดีแน่ เหมือนกูขาดมึงไม่ได้เลยพี่สยาม ขอโทษนะที่ทำให้รอซะนาน แต่ว่ากูจะไม่ให้มึงรออีกแล้ว" ว่าแล้วผมก็เลื่อนมือไปจับมือมันไว้

"สมปอง...."

"เป็น....แฟนกันเถอะนะ" ผมเอ่ยออกมาเบาๆ พลางสบดวงตาคมนั่น "กูจะเป็นเด็กดี ว่านอนสอนง่าย มึงต้องรักกูมากกว่าตอนนี้แน่ๆ "

"มึงนี่มันจริงๆ เลยนะปอง" พี่สยามหลุดหัวเราะออกมา ทำไมอ่ะ ผมพูดอะไรผิดไปงั้นเหรอ

"อย่าเพิ่งหัวเราะสิ....บอกคำตอบมา จะเป็นแฟนกูไหม ต้องเป็นนะ ขนาดนี้แล้วก็ต้องเป็นสิ"

"เป็นครับเป็น ต้องเป็นอยู่แล้ว" มือเรียวดึงผมเข้าไปกอดแน่น "ขอบคุณนะปอง....ขอบคุณ"

"อื้มม.ม.ม....กูรักมึงนะพี่สยาม รักมากๆ "

เจ้าตัวคลายกอดออกก่อนจะก้มจูบหน้าผากผมเบาๆ "กูก็รักมึงเหมือนกันนะ"

"มีความสุขจัง" ผมยิ้มหวานให้พี่สยาม มันเองก็ยิ้มหวานให้ผมเหมือนกัน

เสียงปรบมืออย่างยินดีดังออกมาจากรอบๆ เนิน นี่ตามมาดูกันเกือบหมดเลยไหมเนี่ย ถ้าเดินออกไปจากตรงนี้จะต้องโดนแซวแบบย่อยยับแน่ๆ แต่ไม่เป็นไร วันนี้เป็นวันดีผมจะยอมให้ละกัน ในที่สุดก็มีแฟนเป็นตัวเป็นตนแล้ว ทีนี้ผมจะพูดได้อย่างเต็มปากเต็มคำละครับว่าผมกับพี่สยามเป็นแฟนกัน

รักกันมากๆ ด้วยยยย

"ปอง" พี่สยามเลื่อนมากระซิบเบาๆ ข้างหูผม "กลับหอ....ต้องได้แง่มนะ"

มึงนี่มันจริงๆ เลยว่ะ

"กูรู้แล้วน่า...."

จะตามใจทุกอย่างเลย







TBC.

สวัสดีค่ะชาลมาส่งหยัมปองแล้ว ขอโทษด้วยที่มาเลทนะคะเพราะว่าโน้ตบุ๊คชาลพังไปแล้วก็เลยต้องแต่งในโทรศัพท์มันก็เลยช้ามากๆ ก็ต่อจากนี้ขอให้บี๋รอนิยายกันอย่างใจเย็นนะ

ก็เขาคบกันแล้วนะคะ ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง เดี๋ยวเรื่องจะเริ่มเจ้มจ้นขึ้นเรื่อยๆ ก็ต้องรอติดตามนะคะ ชาลเองก็ใกล้จะสอบไฟนอลละเหลือเวลาอีกเดือนเดียว โปรเจ็กต์ก็ถาโถมเข้ามาใส่ เพราะงั้นช่วยปากำลังใจมาให้เยอะๆ ด้วยนะคะ

ถ้าชอบก็กดไลค์ คอมเม้นต์ให้กันได้นะ สามารถติดต่อข่าวสารได้ที่ทวิตเตอร์ Chaleeisis นะ

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านน้าาา


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Zenith

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง! รอมา38ตอนที่จะส่งลูกให้ลูกเขย มาวันนี้ ความปราถนาของอิแม่สมหวังแล้วววว จุดพลุ! เย้! :mc4:

ตอนนี้คือน่ารักมากๆ ในมากๆ จริงๆ อ่ะ ทุกคนดูแบบเป็นงานกันหมด (ฮ่าาาา) ชอบในความช่วยเหลือสมปองกันทุกคน น่ารักจริงๆ อิแม่ตายตาหลับแล้วลูกเอ๊ยย :heaven

ต่อจากนี้แล้วสินะที่เรื่องมันจะเข้มข้นขึ้น รอติดตามจริงๆ ว่าจะมีดราม่าอะไรมาขัดขวาง เชื่อว่ายังไงซะ ทั้งคู่จะจับมือผ่านกันไปได้ (ใจจริงคือคิดอยู่นะว่า เห้ยย จะมีดราม่าจริงๆ เหรอ ก็ในเมื่อมันหวานขนาดนี้ จะดราม่ายังไงให้ดูเรียล) รอติดตามดราม่าว่าจะเข้มข้น สาดน้ำตากันขนาดไหน :monkeysad:  :m15:

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ตาม ๆ ตามไปถึงห้องหอในตอนหน้าด้วยคน   :m7:

ออฟไลน์ chaleeisis

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 249
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-3
บทที่ 40 คำขอของพี่สยาม [ Nc ]



การมีแฟนนี่ดีนะ

เปลืองเนื้อเปลืองตัวดี

ผมนั่งเป็นก้อนหินให้พี่สยามแทะโลมโน่นนี่ไปตามประสา มีงับหูบ้างล่ะ งับคอบ้างล่ะ งับแก้มบ้างล่ะ ถ้าจะหมั่นเขี้ยวกูขนาดนี้ก็แดกหัวกูไปเลยไหม ตอนนี้บ่ายโมงกว่าๆ แล้วครับ เดี๋ยวเจ้าหมีควายต้องออกไปเคลียร์เอกสารที่มหา'ลัยส่งให้ทางคณะ กว่าจะกลับก็คงจะค่ำ มันบอกว่ามันจะกลับมาช้าเพราะงั้นขอหาเศษหาเลยกับผมก่อนจะได้มีกำลังใจทำงานเยอะๆ

โคตรข้ออ้าง

"อื้ออออ.อ..อ..พอแล้ว" ผมเบี่ยงหัวหลบ "เดี๋ยวก็ไปสาย"

"ยังไม่พอเลย"

"มักมากจริง"

พี่สยามกดจมูกลงบนแก้มผมแรงๆ "ก็คนมันรักอ่ะ"

"มึงรักกูเกินไปละบางที" ผมบอกก่อนจะลุกออกจากตักมัน พี่สยามก็ทำหน้ามุ่ยใส่ "เป็นอะไรของมึง ดูทำหน้าเข้า"

"งอแงแล้ว"

"ทำเป็นเด็กไปได้" ผมเดินไปหยิบเสื้อช็อปมาสวมให้มันก่อนจะก้มลงไปจุ๊บที่หน้าผากขาวนั่นเบาๆ "ตั้งใจทำงานนะ กลับมาถ้าอยากทำอะไรก็จะตามใจเลย"

มือเรียวรั้งเอวผมเข้าไปกอดก่อนจะเงยหน้ามองตาปริบ "จริงนะ"

"จริงสิ ตอนนี้อ่ะไปทำงานก่อน เข้าใจไหม"

"เข้าใจแล้วครับ" พี่สยามคลายกอดแล้วเดินไปหยิบกระเป๋ากับกุญแจรถก่อนจะแวะมาหอมแก้มผมอีกรอบ "พี่ไปละนะ"

"อื้มมมม....ขับรถดีดี"

"ค้าบบบบ" เจ้าตัวยิ้มหวานก่อนจะเดินออกจากห้องไป ส่วนผมก็กระโจนลงเตียงแล้วเอาหน้าฟัดหมอนพี่มันอย่างเอาเป็นเอาตาย

เขินจังเลยโว้ยยยย

การมีแฟนนี่มันเปลี่ยนโลกจริงๆ เลยนะ ก่อนหน้านี้ผมกับพี่สยามก็อยู่ด้วยกันมาตลอดนี่หว่าแต่ทำไมความรู้สึกหวานๆ พวกนี้มันเพิ่งเกิดขึ้นหลังจากที่คบกันก็ไม่รู้ คงเพราะว่าสถานะของเรามันเปลี่ยนไป พอทุกอย่างชัดเจนขึ้นมันก็เลยรู้สึกดีขึ้นล่ะมั้ง ตอนนี้ก็พูดได้เต็มปากเต็มคำแล้วนะครับว่าเราสองคนเป็นแฟนกัน

งื้ออ.อ.อ...แก้มร้อนไปหมดแล้ว

นี่ก็สามวันแล้วนะที่กลับมาจากค่าย พี่สยามมันยังไม่ได้ทำอะไรผมทั้งนั้นเพราะว่าติดเรื่องทำเอกสารส่งทางคณะนี่แหละ แต่ว่าวันนี้น่าจะเสร็จหมดทุกอย่างแล้วล่ะ ผมเตรียมใจไว้แล้วว่าจะตามใจมัน อยากทำอะไรก็ทำเพราะว่าตัวมันเองก็อดทนมาตั้งเดือนกว่า นี่ถือว่ามากแล้วล่ะสำหรับคนหื่นกามอย่างพี่สยามน่ะเพราะงั้นก็ต้องเอาใจมันสักหน่อย

แต่ก่อนจะเอาใจมัน....ผมมีเรื่องต้องทำซะก่อน

พอคิดได้แบบนั้นผมก็ลุกเดินไปหยิบไดอารี่สีขาวที่ซ่อนพี่สยามเอาไว้ ต้องเขียนรายงานความคืบหน้าของชีวิตให้พ่อได้อ่านครับ เรื่องที่ผมมีแฟนพ่อก็ต้องรู้เหมือนกัน อยากเห็นหน้าพ่อตอนที่ได้อ่านจังว่าจะเป็นยังไง ผมเปิดหน้ากระดาษก่อนจะหยิบปากกามาแล้วสะบัดข้อมือสองสามที

พร้อมนะปอง


ลูกพ่อไม่โสดแล้วนะครับ

ปรบมือเร็วววว

คือที่ผมเคยเขียนบอกพ่อว่าผมจะไปค่ายอบรมของโยธาน่ะ ไปมาแล้วกลับมาแล้วนะ และก็มีแฟนแล้วเรียบร้อย ผมกับพี่สยามเป็นแฟนกันแล้วนะพ่อ ตอนที่ขอมันเป็นแฟนนี่เขินตัวแตกอ่ะบอกเลย มีคนถ่ายรูปตอนนั้นไว้ด้วย เดี๋ยวจะเอาให้ดูนะ อยากให้พ่อได้เห็นจริงๆ ว่าเนินยิปโซสวยขนาดไหน ผมไม่รู้ว่าตอนที่พ่อรู้เรื่องทั้งหมดนี่พ่อจะทำหน้ายังไงออกมา ไม่รู้เลยว่าพ่อจะรับได้ไหมที่ผมมีแฟนเป็นผู้ชาย แต่อยากให้พ่อรับได้นะครับเพราะยังไงก็มีแฟนไปแล้วอ่ะ

ผมรักมันมากด้วยอ่ะ

ถึงตอนแรกการพบกันของเราสองคนมันจะไม่ค่อยน่าประทับใจสักเท่าไหร่แต่ว่าตอนนี้ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปแล้ว อยากให้พ่อได้เจอพี่สยามจริงๆ ผมจะพามันไปให้พ่อรู้จักนะถ้ามีโอกาส หลังจากนี้ไม่รู้เลยครับว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง มันเป็นเรื่องของอนาคตน่ะเนอะพ่อ ผมจะพยายามทำทุกอย่างให้ดี ไม่ว่าจะเรื่องเรียน เรื่องงาน หรือว่าเรื่องของผมกับพี่สยาม เป็นกำลังใจช่วยให้ผมด้วยนะครับ

คิดถึงพ่อนะ

17/04/20XX : สมปอง




เรียบร้อยแล้วครับ

หวังว่าพ่อจะอ่านรู้เรื่องนะ

ผมเอาไดอารี่ไปซ่อนไว้ที่เดิมก่อนจะกลับมานอนแผ่อยู่บนเตียง เรื่องที่ผมกับพี่สยามเป็นแฟนกันก็รู้กันเป็นวงกว้างเลยนะ เพราะว่าลันตาเอาโทรศัพท์ของพี่ทะเลถ่ายไว้ให้ ยอดแชร์ก็เยอะพอๆ กับคลิปจุดจบของสมปองอ่ะ มีคอมเม้นต์ถาโถมเข้ามามากมายทั้งดีและไม่ดี แน่นอนว่าคอมเม้นต์ดีๆ ผมก็จำไว้ส่วนคอมเม้นต์ไม่ดีผมก็ปล่อยผ่านแม่ง

ไม่แคร์โว้ยบอกเลย

คนเขารักกันทำไมต้องชอบแซะ ผมไม่เข้าใจคนพวกนี้เลยจริงๆ ว่าจะพูดแบบนั้นทำไม ไม่ยินดีก็อยู่เฉยๆ สิวะ มาแซะนี่ก็ไม่ได้ทำให้ผมกับพี่สยามรักกันน้อยลงหรอกจะบอกให้

เจอหน้าจะเบ้ปากใส่แม่ง

หมั่นไส้

ครื้ดดดด....ครื้ดดดด

ผมเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มากดรับสาย "ว่าไงลันตาเพื่อนรัก"

(อยู่ไหนวะ)

"อยู่ห้อง มีไรวะ"

(ขอยืมเลคเชอร์อิ้งหน่อย)

"มาเอาดิ่"

(โอเค งั้นรอกูแปป)

"เออ" ผมรับคำก่อนจะกดวางสาย เดี๋ยวถ้าลันตามันมาเอาของเสร็จแล้วผมกะว่าจะนอน นอนรอเวลาและก็ออมแรงไว้ใช้คืนนี้

แค่คิดก็แก้มร้อมแล้วว่ะ

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

"เข้ามาเลยกูไม่ได้ล็อก" พอผมตะโกนออกไปแบบนั้นร่างเล็กของเพื่อนรักก็โผล่เข้ามาในห้อง

"ผัวมึงอ่ะ"

ดูคำแรกที่มันทัก

"ไปมอ ส่วนเลคเชอร์อยู่ที่ชั้นโน่น" ผมชี้ให้มันดู ลันตาก็เดินไปหยิบเลคเชอร์

"เออปอง เดี๋ยวมีควิซฟิสิกส์อ่ะ มึงจะให้กูติวให้ไหม"

ผมพยักหน้ารับทันที "ติววันไหนบอก กูไปละ เดี๋ยวพี่ทะเลงอแง" เพื่อนรักบอกก่อนจะเดินออกไปจากห้อง พี่ทะเลเขาไปทำงานเหรอวะ ผมนึกว่าพวกว้ากเกอร์ก็ไปทำงานด้วยซะอีก

ช่างเขาเถอะ

ผมดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัวก่อนจะคว้าหมอนพี่สยามมากอดไว้แน่น หอมจัง แต่ถึงหอมแค่ไหนก็สู้กับตัวจริงไม่ได้ ผมชักจะหลงมันมากเกินไปละ ถ้าเจ้าของหมอนใบนี้รู้มันคงจะดีใจจนตัวแตกซะละมั้ง ตอนนี้ผมควรนอนพักเอาแรงก่อนที่จะโดนหมีควายกิน

ฝันดีนะปอง

คร่อกก.ก.ก....



"อื้ออออ.อ.อ....."

รู้สึกแปลกๆ

"ตื่นได้แล้วนะปอง"

เสียงนี้มัน....

"อื้มม.มม....พี่สยาม" ผมลืมตาขึ้นมาก็พบกับร่างสูงที่คร่อมอยู่ตัวเองกับความรู้สึกโล่งๆ ของท่อนบน

เสื้อหายไปไหนวะ

"น่างับ" ว่าแล้วเจ้าตัวก็ก้มลงจูบเบาๆ ที่ไหปลาร้าผมก่อนจะไล่ต่ำลงมาที่ยอดอก

"เดี๋ยวววว" ผมจับหน้ามันไว้ก่อนจะผงกหัวขึ้นมาดูสภาพตัวเอง เสื้อยืดที่ผมใส่ถูกถอดออกไปแล้ว ตอนนี้ทั้งเนื้อทั้งตัวเหลือแค่บ็อกเซอร์ตัวเดียว แน่นอนว่าคนที่เปลื้องผ้าผมต้องเป็นพี่สยาม

นี่คิดจะลักหลับกันป้ะเนี่ยะ

"เดี๋ยวอะไรล่ะ ก็บอกเองไม่ใช่หรอว่าจะตามใจ"

"ก็ใช่ แล้วมึงมาตั้งแต่เมื่อไหร่อ่ะ"

"สักพักละ อีกแปปนึงก็เสียบมึงได้แล้ว"

ผมตีไหล่มันแรงๆ "แทนที่จะปลุกกันก่อน"

"ก็ปลุกไปบ้างแล้วนะ" มือเรียวลูบเบาๆ ที่เป้ากางเกงผมก่อนจะเลื่อนหน้าเข้ามาจูบ มึงจะมาชิงจูบตอนที่กูยังด่ามึงไม่เสร็จแบบนี้ไม่ได้นะ

เดี๋ยวโดนแน่พี่สยาม

ผมเปิดปากให้มันสอดลิ้นเข้ามา มือก็ยกไปโอบรอบคอแกร่งไว้ ลิ้นร้อนไล่เกี่ยวรัดกับลิ้นผมอย่างหยอกเย้า สัมผัสนี้ทำให้รู้สึกวาบหวามได้เสมอเลยนะ ทำให้รู้สึกดีมากด้วย พี่สยามขบที่ปากล่างผมเบาๆ ก่อนจะจูบย้ำๆ วนอยู่แบบนั้น

อื้มม.ม.ม....ทำไมมันดีแบบนี้

มือเรียวเลื่อนขึ้นมาลูบวนที่ยอดอกผม อีกข้างก็บีบเค้นแถวสะโพกหนักๆ ลิ้นก็ทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างดี คนบนร่างเริ่มจูบผมแรงขึ้นเรื่อยๆ ตามอารมณ์ที่เพิ่มมากขึ้น ผมก็พยายามจูบตอบเท่าที่ตัวเองจะทำได้แต่ก็รู้สึกได้ถึงความเด๋อด๋ายังไงก็ไม่รู้ แต่ไม่เป็นไรหรอก....

ของแบบนี้มันฝึกกันได้

"อื้ออ...อ....จูบได้....." พี่สยามมองหน้าผมก่อนจะหัวเราะออกมา

"อะไรของมึงวะ" ผมบีบแก้มมันแรงๆ "ขำอะไร"

"น่ารักไง....จูบได้น่ารักมากเลยครับ" คนบนร่างยิ้มหวานก่อนจะไล่จูบมาที่ซอกคอผมแล้วขบเม้มแรงๆ แรงขบระดับนี้คอผมต้องเป็นรอยแน่ๆ เลยว่ะ

ไม่ยอมอยู่ฝ่ายเดียวหรอก

ผมผงกหัวขึ้นไปขบที่ซอกคอพี่สยามแรงๆ จนถึงเป็นรอยจ้ำ "อื้มม.ม.ม....ใช้ได้"

"แสดงความเป็นเจ้าของหรอหืม"

"ทำไม่ได้รึไง"

"ทำไมจะทำไม่ได้ล่ะ" ริมฝีปากบางไล่จูบมาเรื่อยๆ จนถึงยอดอก ลิ้นล้อนไล่เลียวนรอบๆ ก่อนจะขบเม้มแรงๆ จนผมสะดุ้ง

เชี่ยยยย

โคตรเสียว

"ซี๊ดด.ด.ด....พี่สยาม....อ๊ะ" ผมแอ่นรับสัมผัสนั้น อื้ออ.อ.อ....ถ้าจะรัวลิ้นใส่กันขนาดนี้นะที่รัก

ใครมันจะทนไหววะ

"เด็กอะไรทำไมน่ากิน" พี่สยามทิ้งรอยรักไปทั่วทั้งหน้าอกผม มือก็เค้นคลึงอยู่กางเป้ากางเกง รู้สึกได้เลยว่าปองน้อยกำลังคึกคักสู้มือพี่มัน

ผมนอนกัดปากงึมงำปล่อยให้คนด้านบนทำตามใจอย่างเต็มที่ กางเกงบ๊อกเซอร์ถูกรั้งออกไป ตอนนี้ผมไม่เหลืออะไรที่จะปกปิดร่างกายแล้ว พอเห็นแบบนั้นผมก็ขยับมือไปถอดเสื้อยืดพี่สยามออกไปก่อนจะเลื่อนมาปลดกางเกงยีนส์ให้ ดวงตาคมมองผมนิ่งๆ ริมฝีปากบางยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย มีเสน่ห์ชะมัด

มือนี่สั่นไปหมดแล้ว

"อย่ามองแบบนั้นสิ"

"ทำไมล่ะ"

"มัน....เขิน"

"หึ...." พี่สยามจูบปากผมหนักๆ "เดี๋ยวได้เขินกว่านี้อีก" ว่าแล้วมือเรียวก็จับเข้นที่ปองน้อยก่อนจะรูดขึ้นรูดลง

"ซี๊ด.ด.ด....อื้อ.อ....อย่าลูบอย่างนั้นสิ"

"ก็ชอบไม่ใช่หรอ" มันเอ่ยเสียงพร่าพลางพร่ำจูบอยู่แถวปลายคางผม "ดูสู้มือดีออก"

อย่าพูดแบบนั้นเซ่!!!

"อ๊ะ....เปล่านะ"

"ก็เห็นๆ อยู่" มือเรียวเค้นปองน้อยหนักขึ้น อื้ม...ม....รู้สึกดีมากเลยว่ะ เพราะไม่ได้ทำนานด้วยรึเปล่าถึงได้เป็นแบบนี้

ก็อาจจะใช่

"อื้อ.อ.อ....พอก่อน" ผมจับมือมันเอาไว้ "อยากเสร็จพร้อมกัน"

"พูดแบบนี้ก็ได้เลยครับ" พี่สยามเอื้อมมือไปหยิบเจลสีหวานกับถุงยางในลิ้นชักมา มือเรียวบีบเจลใส่มือก่อนจะเลื่อนมาลูบเบาๆ ที่ช่องทางด้านหลัง

อื้มมม...ม...ความรู้สึกนี้มัน

ผมกัดปากตัวเองเบาๆ เพื่อข่มความเสียว นิ้วเรียวของพี่สยามลูบไล้เบาๆ ก่อนจะกดเข้าไปด้านในช้าๆ อื้อ.อ.อ....มันไม่ค่อยเจ็บเท่าไหร่ น่าจะเป็นเพราะเจลหล่อลื่น ผมพยายามกลั้นเสียงครางเอาไว้แต่ดูเหมือนว่ามันจะทำได้ยากซะเหลือเกิน

"อื้ออ.อ.อ...ตรงนั้น...อ๊ะ....พี่สยาม"

เจ้าตัวยกยิ้มก่อนจะกดย้ำๆ ที่จุดเดิม "ตรงนี้เสียวสินะ"

"อ๊ะ....อย่าแกล้ง....อื้อ.อ.อ...."

จะขาดใจแล้ว

"ปองครับ" เสียงพร่ากระซิบเบาๆ อยู่ข้างหู "พี่กินปองเลยได้ไหม"

ถ้าจะพูดแบบนั้น....

"ก็ไม่ได้ห้ามหนิ"

"คิ้วววท์" พี่สยามละออกไปก่อนจะถอดกางเกงตัวออกไป ลูกรักของพี่มันนี่ผมเห็นกี่ครั้งก็ไม่ชินตาสักที มือเรียวหยิบซองถุงยางมาแกะออกช้าๆ "อยากสวมให้พี่ไหม"

"สวมเองสิ" ตอนนี้ไม่อยากทำอะไรทั้งนั้นนอกจากนอนพะงาบๆ

"สวมเองก็ได้" มันทำแก้มป่องใส่ผมก่อนจะสวมถุงยางเข้าที่ลูกรัก สองมือก็จับขาผมแยกออกจากกันให้มากกว่าเติมแล้วจ่อส่วนปลายไว้ที่ปากทางเข้า

"เบาๆ นะ....โอ๊ยยยย กูบอกให้เบาๆ ไง" ผมตีไหล่พี่สยามแรงๆ ดันเข้ามานี่ดูตัวกูหน่อยได้ไหมเนี่ยะ ใช่ซี้....มึงไม่ใช่คนโดนเสียบนี่ มึงจะรู้สึกอะไร

ทำอย่างกับของตัวเองไซส์ 49 ไปได้

"ซี๊ดดดด..ด....อย่ารัดแน่นแบบนั้นสิปอง" มันพูดเสียงอ่อนพลางลูบเอวให้ผมผมเบาๆ "มันเจ็บนะ"

กูเจ็บกว่ามึงอีก

"อื้อ.อ.อ....เบาๆ อ๊ะ...." ผมจิกไหล่มันเพื่อระบายความเจ็บ พี่สยามดันลูกรักเข้ามาเรื่อยๆ ก่อนจะแช่คาไว้เพื่อให้ผมปรับตัว

"พร้อมแล้วบอกนะ"

"จูบหน่อย" สิ้นเสียงพูดพี่มันก็ก้มลงมาจูบ ผมยกมือขึ้นโอบรอบคอเจ้าตัวไว้ก่อนจะยกขาขึ้นเกี่ยวเอวสอบไว้

เราแลกจูบกันไปเรื่อยๆ รับรู้ได้ถึงความร้อนที่อยู่ในตัวเลยว่ะ ผมว่าพี่สยามคงอยากขยับเต็มที่แล้วล่ะ ในจังหวะนั้นคนที่จูบผมอยู่ก็รั้งให้ผมขึ้นมานั่งบนตัก สิ่งที่อยู่ในตัวก็ยิ่งดันเข้าไปลึกมากกว่าเดิม ท่านี้มันแปลกๆ นะ ผมไม่เคยทำมาก่อนด้วยแต่ก็พอรู้ดีว่าต้องทำยังไง

พี่สยามถอนจูบก่อนเลื่อนมากระซิบข้างหู "ออนท็อปให้หน่อยนะครับ"

"ออนท็อป...."

ขย่มน่ะเหรอ

"นะครับ ทำให้หน่อยนะ" พี่มันเอ่ยอย่างอ้อนๆ ถ้าจะทำแบบนี้ใครจะไปปฏิเสธได้วะ

"ทำไม่เก่งหรอกนะ" ผมขยับตัวก่อนจะจับไหล่พี่สยามไว้ "แต่จะพยายาม" ว่าแล้วผมก็เริ่มขยับเอวขึ้นลงช้าๆ

หูยยยย...ย....โคตรลึก

"ซี๊ดด.ด.ด...นั่นแหละ แบบนั้นแหละ" พี่สยามชันมือไว้ด้านหลังข้างนึงส่วนอีกข้างก็ลูบเอวผม

"อ๊ะ....อื้อ..อ...."

ผมเร่งจังหวะขยับขึ้นลง ท่านี้มันลึกมากอ่ะ แถมยังตรงจุดกระสันเน้นๆ เลยด้วย พี่สยามดูชอบใจไม่น้อยเลยที่ผมเป็นฝ่ายขยับแบบนี้ เสียงงึมงำในลำคอนั่นบ่งบอกว่ามันเองก็รู้สึกดีไม่ต่างจากผมสักเท่าไหร่

"ซี๊ด.ด.ด...อื้อ.อ....นั่นแหละคนเก่ง"

อย่าพูดแบบนั้นสิพี่สยามมมม

"อ๊ะ....โอ๊ยสวนเบาๆ สิ....อ๊ะ...พี่สยาม" ผมครางเสียงหลงออกมาทันทีเมื่อพี่มันยึดเอวผมไว้แล้วเด้งสวนขึ้นมา อื้มมม...ม....นอกจากเสียวไม่รู้สึกอะไรเลยโว้ย

ผมนั่งขยับเอวอยู่อย่างนั้น พี่สยามเองก็เด้งสวนขึ้นมาเรื่อยๆ เหมือนกัน ความรู้สึกนี้มันสุดจริงๆ มันดี....ดีไปหมด ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมมันถึงอยากให้ผมออนท็อปให้

ตอนนี้ชักจะไม่ไหวแล้ว

ผมเลื่อนมือมาสาวปองน้อยเมื่อตัวเองใกล้จะถึง "อ๊ะ....ไม่ไหวแล้วพี่สยาม...อื้อ.อ.อ..."

"งั้นพร้อมกันนะ" เจ้าตัวยึดเอวผมไว้ก่อนจะขยับสวนเข้ามาสุดแรง

"อ๊ะ....อื้อ.อ...."

"ซี๊ดดด.ด.ด....."

"อ๊ะ...พี่สยาม...อ๊าา...อ๊าาาาาาา"

"ซี๊ดด.ด.ด.....ปอง...."

"แฮ่กกกก....อื้อ.อ...." ผมหายใจแรงๆ อยู่กับบ่าพี่สยาม เหนื่อยครับ เหนื่อยมาก ท่านี้ดีงามเลยนะแต่เหนื่อยเพราะผมเป็นคนขยับไง

รู้สึกหมดแรง

"เป็นไงหืม" พี่มันเอ่ยถามก่อนจะจับให้ผมนอนราบไปกับเตียง "เหนื่อยขนาดนั้นเลยหรอ"

ผมพยักหน้าเบาๆ ก่อนจะเช็ดคราบน้ำรักออกจากมือ "ลองนั่งขย่มบนตักกูบ้างไหมล่ะ"

"มึงขย่มน่ะดีแล้ว" พี่มันถอนกายออกก่อนจะเปลี่ยนถุงยางใหม่ บ่งบอกเลยว่ามันไม่จบแค่นี้แน่ แต่เอาเถอะ ผมบอกมันไปแล้วนี่นะว่าจะตามใจทุกอย่างเพราะงั้นอยากทำอะไรก็ทำเลยจ้า

เอาให้ฟ้าเหลืองไปเลยจ้า

"ก่อนทำต่อมาจูบกันก่อน"

"หึ...." เจ้าตัวก้มมาจูบผมอีกครั้ง ดูทรงแล้วคืนนี้เราคงจูบกันอีกนับไม่ถ้วนแน่ๆ ผมชอบการจูบนะ มันทำให้รู้สึกดีจริงๆ

จูบจากคนที่เรารักยังไงมันก็ต้องดีล่ะนะ

"อื้อออ.อ.อ...." ผมละจูบออกมาก่อนจะรั้งคอให้พี่มันก้มลงมาใกล้ "....ต่อสิ"

"ได้เลยครับที่รัก"

จากนี้แพลนกล้องไปโคมไฟก่อนนะครับ

เขินน่ะ

"อ๊ะ....พี่สยาม"













TBC.

สวัสดีค่ะชาลมาส่งหยัมปองแล้วนะคะ ขอโทษด้วยที่เลทนิยายมาหลายวัน บทนี้ชาลยังไม่ได้แก้คำผิดนะคะเดี๋ยวจะไล่แก้ให้นะ

ก็ Nc ก็เป็นอะไรที่ยากมากๆ ถ้ามันแปร่งๆ ต้องขออภัยด้วย เรื่องจะเป็นยังไงต่อรอติดตามนะคะ ช่วยรอนิยายกันอย่างใจเย็นหน่อยนะ อยากให้เข้าใจว่าช่วงหลังจากนี้ชาลจะไม่ค่อยว่างเพราะต้องเริ่มจัดการงานที่มอแล้ว ถ้างดลงนิยายสักพักก็จะชี้แจงนะคะ

ถ้าชอบก็คอมเม้นต์เพื่อเป็นกำลังใจให้กันได้นะคะ สามารถติดต่อข่าวสาร + สปอยล์ได้ที่ทวิตเตอร์ Chaleeisis นะ

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ในที่สุดก็เสร็จสมอารมณ์ปองหยามจนได้  :m25:

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ Zenith

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
โอ้โห้วววววววววววววววววว โห้ให้ถึงกาแล็คซี่หน้าไปเลยจ้าาา ใครจะรู้ว่าลูกจะแซ่บเด็ดดวงขนาดนี้ เอาเลยลูกแม่ เอาให้พี่หยัมมันขาดใจตายไปเลยลูกกก  :hao6:

เป็นไงล่ะพี่หยัม เจอปองออนท็อปเข้าไป เหอะ! ดีไหมล่ะ (ฮ่าาาา)

สยามสมปองนี่เข้าเกิดมาเป็นของกันและกันจริงๆนะ ใครก็ไม่สามารถแยกเขาออกจากกัรได้อ่ะ ดูดิ ดูฉากนี้สิ เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยเลอออ  :katai2-1:

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
 :pighaun:

ตอนหน้าเอาแบบนี้อีกซักตอนได้ไหม
อิอิ

ออฟไลน์ chaleeisis

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 249
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-3
บทที่ 41 : ความทรงจำเก่าๆ

อากาศมันร้อนจนผมอยากจะระเหยลอยไปบนท้องฟ้ามาก

ไม่ไหวแล้วครับ

ผมนั่งปาดเหงื่ออยู่หน้าตึกคณะกับบรรดาเหล่าสหาย ทำไมประเทศไทยมันถึงได้ร้อนขนาดนี้วะ เสื้อนี่ชุ่มเหงื่อไปหมด ขนาดนั่งอยู่ในร่มก็ไม่ได้รู้สึกเย็นขึ้นเลย ตอนนี้ประมาณเที่ยงกว่าๆ แดดมันเลยเปรี้ยงมากๆ นี่ถ้าผมเดินออกแดดแค่ 3 นาทีผมก็เป็นสมปองย่างแล้วอ่ะ

คิดภาพตามแล้วอยากจิ่ครายยยย

ไลน์ไปอ้อนแฟนดีกว่า

พอคิดได้แบบนั้นผมก็หยิบโทรศัพท์มากดเข้าไปในไลน์ ก่อนจะส่งข้อความไปหาพี่สยาม ตอนนี้มันพักอยู่เหมือนกันครับ น่าจะอยู่ที่โรงอาหารกับเพื่อนๆ

สมปอง : ร้อนอ่ะพี่สยามมมม

สยาม : อยากให้แก้ผ้าให้ไหมล่ะ ได้นะ *สติ๊กเกอร์ยิ้มกริ่ม*

สมปอง : คิดแต่เรื่องแบบนี้

สยาม : คิดแต่เรื่องแบบนี้....ตลอดเวลา

สมปอง : คนลามก *สติ๊กเกอร์หมีโกรธ*

สยาม : ลามกแล้วรักพี่ไหม

ผมหลุดยิ้มออกมากับคำถาม ความจริงก็น่าจะรู้อยู่แล้วไหมล่ะ ว่ารักหรือไม่รัก ตั้งแต่เป็นแฟนกันก็ชอบให้ผมพูดให้ฟังตลอดว่ารักมันหรือเปล่า พี่สยามบอกว่าเวลาได้ยินคำว่ารักจากผมมันรู้สึกมีความสุขมาก ถ้าลอยได้ก็คงลอยไปแล้ว

นี่คิดว่าตัวเองเป็นบอลลูนยักษ์เหรอวะ

สมปอง : งืมมม....ไม่บอก

สยาม : ต้องบอกสิ

สมปอง : เอาไอติมมาแลก

สยาม : อีอ้วนนนนนน *สติ๊กเกอร์หมีไฟลุก*

บังอาจเรียกสมปองคนคิ้วท์ว่าอีอ้วนได้ยังไงหยาบคายที่สุด

สมปอง : อยากไปนอนห้องน้ำมะ

สยาม : เอากี่อันดีจ๊ะคนดี

สมปอง : เอา 3 อัน มาไวไวด้วยนะ

สยาม : ครับผม

เท่านี้ก็เรื่องจบ

ผมเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋าพลางชะเง้อหน้าไปมองลันตาที่กำลังนั่งเขียนอะไรสักอย่างอยู่ พอไล่อ่านดูมันคือสูตรฟิสิกส์กับทริคในการจำครับ เก่งว่ะ ผมนี่แค่คิดถึงสูตรก็จะเป็นบ้าแล้ว ไม่รู้ว่าอีงูพิษมันเอาสมองส่วนไหนไปจำไอ้สูตรพวกนี้ ผมเคยสงสัยเหมือนกันนะว่ามันมีเรื่องไหนที่ไม่เก่งบ้าง คนเรามันจะเพอร์เฟ็คไปซะหมดก็จะดูแปลกๆ ป้ะวะ

มันต้องมีความไม่เพอร์เฟ็คสักอย่างแหละ

"ลันตา"

"อะไร"

"มีอะไรที่มึงทำไม่ได้บ้างไหม"

เจ้าตัวเหลือบมองผม "หมายถึงอะไร"

"ก็แบบ....กูว่ามึงทำอะไรก็เก่งอ่ะ เรื่องเรียน กิจกรรม แกล้งกูก็แกล้งเก่ง มันน่าจะมีสักเรื่องไหมที่มึงทำไม่ได้อ่ะ"

"ก็มีนะ เรื่องที่กูทำไม่ได้"

"อะไร" ผมรีบถามกลับทันที เก็บข้อมูลไว้ครับ ลันตามันจะยอมบอกจุดอ่อนมันเองเลยนะ เผื่อผมจะแกล้งคืนมันในเรื่องพวกนี้ได้

"ก็ล้างบ่อจระเข้ ให้อาหารฉลาม ขัดตู้ปลาปิรันย่าอะไรเทือกๆ เนี้ยะ"

หึ....พูดแบบนี้

ผมกระชากคอเสื้อมันพร้อมกับทำหน้าเหี้ยมใส่ "กวนส้นตีนหรอห้ะ"

"เอ้า นี่พูดจริงๆ นะ นี่แหละสิ่งที่กูทำไม่ได้" อีงูพิษมันยักคิ้วให้ผม น่าหมั่นหน้ามากคนบ้าอะไรวะเนี่ย พอเห็นมันเป็นแบบนี้ผมก็นึกภาพเวลาที่พี่ทะเลอยู่กับมันไม่ออกจริงๆ เลยนะ

อ๋อลืมไป....เพื่อนกับผัวมันต่างกัน

ไม่ยุติธรรมเลย

ผมว่าเวลาที่ตัวเองอยู่กับเพื่อนผมก็เป็นสมปองคนคิ้วท์นะครับ เวลาอยู่กับผัวก็เป็นคนคิ้วท์เหมือนกัน เห็นไหม นี่ยุติธรรมขนาดไหน ทำไมลันตาเพื่อนรักถึงไม่เป็นแบบผมวะ ไม่เข้าใจเลย เรื่องนี้เอาไปฟ้องใครบ้างเนี่ยะ

เขียนไดอารี่ฟ้องพ่อละกัน

พ่อต้องเข้าใจผมแน่ๆ

ผมคลายมือออกจากเสื้อของอีงูพิษเพื่อให้มันจดสูตรต่อ เรื่องสืบหาสิ่งที่ลันตาทำไม่ได้นี่เดี๋ยวค่อยให้พี่สยามมันจัดการ รายนั้นรู้เรื่องชาวบ้านเยอะอยู่ละ รู้เรื่องของผมทั้งๆ ที่ตัวผมยังไม่รู้ด้วยนะ คือแม่งเกินคนจริงๆ ตำแหน่งนักเสือกประจำคณะวิศวะฯ นี่ยกให้มันได้เลยอ่ะ

อย่าไปบอกมันนะว่าผมพูดแบบนี้

จุ๊ จุ๊ ไว้

"เมียยยยยยยยยยย"

ผมสะดุ้งกับเสียงนั้นก่อนจะหันไปทำหน้าบึ้งใส่ "จะพูดผ่านโทรโข่งทำไมวะเนี่ยพี่สยาม"

"กลัวไม่ได้ยิน" เจ้าตัวเอ่ยก่อนจะเดินถือถุงไอติมมานั่งลงข้างๆ ผม "นี่ไอติมของเมียครับ"

"หยุดพูดผ่านโทรโข่งได้แล้ว" ผมแย่งโทรโข่งมาจากมือมัน ต่อให้ไม่พูดผ่านโทรโข่งคนเขาก็รู้กันทั่วละว่าผมเป็นเมียมัน

เรื่องขิงนี่เก่งงงง

"พี่สยามสวัสดีครับ" พวกเพื่อนๆ ผมยกมือไหว้พี่สยาม ตัวมันก็รับไหว้ก่อนจะหยิบไอติมในถุงส่งไปแจกเรียงคนแล้วค่อยยื่นมาให้ผมทั้งถุง

"ที่เหลือของมึง"

"มึงไม่กินหรอ"

"กินแล้ว" มันยิ้มหวานก่อนจะเอนหัวลงมาพิงไหล่ผม "เหนื่อยจังเลยเมีย บ่ายมีควิซคณิตฯ ด้วย"

"ขออวยพรให้โชกเลือด"

"หนิ เดี๋ยวก็ไม่ได้แดกหรอกไอติมน่ะ"

"จะกิน แบร่บๆ ๆ ๆ ๆ ๆ " ผมแลบลิ้นใส่มันก่อนจะงับไอติมที่เพิ่งแกะเสร็จ อื้มม.ม..ม....โคตรอร่อย อากาศร้อนๆ แบบนี้ก็มีแค่ไอติมเนี่ยแหละที่เยียวยาได้

ผมนั่งกินไอติมไปเรื่อย พี่สยามก็นั่งมองพลางอมยิ้มอยู่อย่างนั้น อะไรของมันวะ มองขนาดนี้ก็แดกหัวกูเข้าไปเลยไหม ผมว่ามันต้องกำลังเรื่องอกุศลอยู่แน่ๆ ดูจากสายตาเยิ้มๆ รอยยิ้มมีเลศนัยกับหน้าตาที่แสดงความหื่นกามออกมาอย่างชัดเจนนั่นแล้ว ผมว่ามันต้องไม่คิดว่าสิ่งที่ผมกำลังกินคือไอติมแน่ๆ เลยว่ะ

คนลามก

"อย่ามองแล้วทำหน้าแบบนั้นสิ"

"ไม่ให้มองคุณแล้วจะให้ผมไปมองใคร" ว่าแล้วใบหน้าหล่อก็ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ "คุณเป็นแฟนผมนะ"

ตึกตัก

หัวใจเต้นแรงท่ามกลางอากาศร้อนแบบมันจะตายเอาได้นะสมปอง

"อื้มม.ม....ก็ไม่ได้ห้ามว่าไม่ให้มอง" ผมทำแก้มป่องใส่ "แต่อย่ามองแล้วทำหน้าแบบนั้นสิ"

พี่สยามเลื่อนหน้าเข้ามาใกล้อีก "หน้าแบบไหนครับ"

"หน้าหื่นกามแบบนี้เนี่ยะ" ผมดันหน้ามันออกก่อนจะหันไปอีกทาง ไม่ไหวครับ สายตานั้นมันแผดเผารุนแรงมากกว่าแสงแดดอีก ขืนมองมากๆ ผมต้องละลายแบบไอติมนี่แน่ๆ

จริงจังเลยนะ

"หื่นแค่กับแฟนนะ"

ผมหันขวับไปมองมันทันที "ก็ลองหื่นกับคนอื่นดูสิ ตายนะขอบอก"

"ฮ่าๆ ๆ ๆ ๆ กลัวแล้วววว" มือเรียวเลื่อนมาขยี้หัวผมอย่างเอ็นดู ปากก็ยิ้มแฉ่ง เห็นแล้วน่าหยิกแก้มจริงๆ เอาไว้กลับหอก่อนเถอะ

โดนแน่พี่สยาม

"แล้วนี่จะไปเรียนกี่โมง" ผมถามเจ้าตัวพลางหยิบไอติมแท่งใหม่มาแกะ

"เนี่ยะ เดี๋ยวไปละ เออปอง ตอนเย็นเดี๋ยวไปคอนโดฯ นะ"

ผมเลิกคิ้วมองอย่างสงสัย "คอนโดฯ อะไรวะ"

"คอนโดฯ กูไง เออ มึงไม่เคยไปนี่หว่า ไม่เป็นไรเดี๋ยวพาไปวันนี้แหละ" มันบอกก่อนจะหยิบโทรโข่งแล้วก้มลงจุ๊บหัวผมเบาๆ "กูไปเรียนละ มึงก็ตั้งใจเรียนนะ"

"รู้แล้วน่า" หลังจากที่ผมรับคำพี่สยามมันก็เดินไปทันที ในใจนี่ข้องเรื่องคอนโดฯ อยู่เหมือนกันนะ ผมเข้าใจมาตลอดว่ามันอยู่หอแต่ความจริงมันกลับไม่ใช่

รู้ช้าจริงๆ เลยปองเอ๊ย

ตั้งแต่วันที่ได้กันครั้งแรกพี่สยามก็อยู่กับผมที่หอมาตลอดเลยไง ขนาดช่วงที่ผมกลับบ้านที่เชียงใหม่มันก็นอนที่หอผม ไม่ได้กลับไปคอนโดฯ ตัวเองเลยด้วย วันนี้นับว่าแปลก เพราะอยู่ดีดีก็ชวนไป เอาเป็นว่าค่อยรอดูตอนเย็นละกัน เพราะว่าตอนนี้เราต้องโฟกัสที่ไอติมก่อน

จะละลายหมดละเนี่ยยยย

"ปอง"

"หืม....ว่าไงสีเทียน"

"ตั้งแต่เป็นแฟนกับพี่สยาม ชีวิตเป็นไงบ้าง"

"ก็....ดีนะมึง ความรู้สึกเหมือนหวานมากขึ้น พูดเพราะขึ้น ทำตัวน่ารัก แต่ก็หื่นเหมือนเดิมนะมึง ชอบแทะโลมกู" เดินเข้าใกล้รัศมีเตียงแต่ 5 เซ็นฯ ก็โดนกระโจนใส่ละ

เป็นสมปองนี่เหนื่อยมากนะครับ

"คนเป็นแฟนกันก็ไม่แปลกป้ะวะ" ลันตามันเหลือบไปมองสีเทียนกับแยม "ว่าแต่มึงสองคนอ่ะ ไม่คิดจะมีแฟนบ้างหรอ"

สีเทียนส่ายหน้ารัวๆ "อยู่คนเดียวมันดีที่สุดแล้วว่ะสำหรับกู การที่ได้นอนบนเตียงกว้างๆ ไม่มีคนมานอนเบียดมันเป็นสุขมากเลยนะมึง"

"แต่การได้นอนกอดใครสักคนมันก็เป็นสุขเหมือนกันนะมึง"

"กูชอบนอนแผ่มากกว่านอนกอดใคร" สีเทียนมันยิ้มหวาน "จบนะ"

"เออจบ" อีงูพิษมันยอมแพ้ก่อนจะเปลี่ยนเป้าหมายไปหาเพื่อนแยมแทน "ละมึงล่ะยังไง พี่นมปั่นของมึงน่ะยังไง"

"ไม่มีอะไรคืบหน้า" เจ้าตัวบอกก่อนจะถอนหายใจออกมา เห็นแบบนี้น่าสงสารเหมือนกันแฮะ ชอบเขามาสักพักแล้วแต่ก็ยังทำอะไรมากไม่ได้

อีกฝ่ายเขาคบผู้หญิงอยู่นี่นะ

ผมเท้าคางมองเพื่อนรัก "แล้วคิดไว้ไหมว่าจะทำไงต่อ"

"ก็คิด แต่ตอนนี้ก็รอเวลาอยู่ ถึงตอนนั้นอาจจะต้องให้พวกมึงช่วย"

"ไม่มีปัญหา" ลันตามันยกมือแตะไหล่แยม "เพื่อเพื่อนอ่ะ....ขอแค่บอก"

"ขอบใจนะมึง....เห็นนั่นใครวะ" พอแยมพูดนั้นผมก็หันไปมองทันที

เชี่ยยยย

เชี่ยยยยยยยยยยย

ผมมองร่างสูงเจ้าของผมสีน้ำตาลอ่อนที่กำลังยืนมองไปรอบๆ ใบหน้าหล่อนั่นติดหวานอยู่ไม่น้อยเลย ดวงตาคม ริมฝีปากบางเป็นสีชมพูระเรื่อ ผิวขาวใสมีออร่าสีส้มวิ้งค์ๆ ลอยอยู่รอบตัวเลยอ่ะ รูปร่างก็ไม่ได้บางไป ไม่ได้หนาไป ต้องยอมรับเลยนะครับว่าคนตรงหน้าเป็นผู้ชายที่มีเสน่ห์มาก

ดึงดูดสายตาสุดๆ

เขามาทำอะไรที่นี่วะ

"มองขนาดนั้น ถ้าผัวเห็นผัวคงตบนะครับ" เสียงกระซิบเบาๆ ออกมาจากปากลันตาเพื่อนรัก แหม่ นานๆ จะมีคนน่ามองแบบนี้หลงมา เราก็ต้องมองให้พรุนกันไปข้างสิวะ

ไม่ได้เหรอ

"กูก็แค่สงสัยป้ะวะว่าเค้ามาทำไมที่ตึกเรา นี่เป็นครั้งแรกที่เห็นเลยนะมึง" ปกติแล้วคนที่ดูดีระดับนี้ไม่น่าจะหลงมาแถวนี้ได้ นี่ยังสงสัยอยู่เลยนะเขามาทำไม

ต่อมเสือกทำงานหนักมากอ่ะบอกเลย

"มึงเดินไปถามเค้าเลยไหมล่ะ" สีเทียนกระซิบบอกอยู่ข้างหู "ขอไลน์เค้ามาเผื่อด้วยนะ"

ผมหรี่ตามองมัน "ไหนบอกว่าไม่สนใจใครไง"

"กูน่ะไม่ได้สน แต่มึงนั่นแหละที่ดูสนใจเค้ามาก เผื่อจะเอาเก็บไว้เป็นกิ๊กไง"

"ไม่เอาโว้ย กูจะไม่ทำแบบนั้นเด็ดขาด เห็นด่าพี่สยามมันบ่อยมากแต่ก็รักมันมากเหมือนกันนะ"

"แหวะ" เหล่าสหายทั้งสามแหวะออกมาพร้อมกัน ทำไมวะ พูดแค่นี้ถึงกับพากันอ้วกเลยเหรอ

นี่กูผิดไรเนี่ยะ

"พวกมึงนี่มัน....เค้าไปละ" ผมมองร่างสูงที่เดินขึ้นตึกไป ความคาใจว่าเขาเป็นใครก็คงต้องติดอยู่ในใจต่อไปสินะ

เฮ้อ....ช่างแม่งละกัน

ผมเก็บของใส่กระเป๋าเพื่อเตรียมขึ้นไปเรียน ดีเหมือนกันนะที่วันนี้ไม่มีงานคณะต่อตอนเย็น แต่ผมว่ามันก็แค่ช่วงนี้แหละที่ยังลอยชายกันได้อยู่ เดี๋ยวก็ต้องประชุมเตรียมงานประกวดดาวเดือนอีก ก่อนหน้านั้นมันจะมีงานรับน้องครับ แต่ว่ามันจะเป็นหน้าที่ของรุ่นพี่ ซึ่งนั่นก็ดีแล้ว ท่านประธานคนนี้จะได้เหนื่อยน้อยลงหน่อย

คิดแล้วก็ปริ่มใจ

"ปองมันเป็นไรวะ"

"อากาศร้อนก็งี้แหละมึง....เป็นบ้า"

มึงสิบ้าอีงูพิษ





คอนโดฯ B

ผมเดินตามหลังพี่สยามเข้ามาเรื่อยๆ ตอนนี้ก็เป็นเวลาเกือบ 1 ทุ่มแล้วครับ ก่อนจะมาที่นี่เราแวะไปกินข้าวกันมาเรียบร้อย คอนโดฯ ของพี่มันค่อนข้างที่จะอยู่ไกลจากมหา'ลัยนะ ถ้ามีเรียนตอนเช้านี่คงหงุดหงิดกับรถติดน่าดูเลย ไม่รู้ว่าก่อนที่พี่สยามมันจะไปอยู่หอผมมันทนได้ยังไง

เป็นผมคงบ้าตาย

"ทำไมทำหน้าแบบนั้นหืม" นิ้วเรียวจิ้มที่กลางระหว่างคิ้วผม "คิ้วขมวดเชียว"

"กำลังคิดอยู่ว่ามึงไม่หงุดหงิดบ้างหรอ เวลาเช้าๆ ไปมอแล้วรถติดอ่ะ"

"ก็หงุดหงิดบ้างเป็นบางวัน แต่ตอนนี้ก็ไม่หงุดหงิดละนะ"

"ใช่สิ ก็อยู่หอกูหนิ" ผมทำหน้ามุ่ยใส่

"ทำไมหืม อยู่ไม่ได้หรอ"

"ไม่ได้บอกซะหน่อยว่าอยู่ไม่ได้" อีกอย่าง....ถึงจะบอกไปว่าอยู่ไม่ได้ แต่คนดื้อแบบมันก็ต้องไม่ฟังที่ผมพูดอยู่ละ

"ไปอยู่ด้วยตลอดชีวิตเลยได้ป้ะ"

ผมเหลือบไปมองเจ้าตัว "ก็แล้วแต่มึงสิ ชีวิตมึง"

"พูดแล้วนะ" มือเรียวเลื่อนมาจับมือผมก่อนจะจูงเดินไปจนถึงหน้าห้องๆ นึง พี่มันหยิบกุญแจไปไขประตูแล้วเปิดออกพร้อมกับเปิดไฟให้เรียบร้อย

ทำดีมากที่รัก

ผมเดินเข้ามาในห้องก่อนจะมองไปรอบๆ มันดูเป็นระเบียบมากเลยนะครับซึ่งมันไม่น่าจะมีระเบียบขนาดนี้อ่ะ หรือเพราะว่ามีแม่บ้านเข้ามาทำให้วะ เออ อาจจะใช่ ผมเดินมานั่งลงที่โซฟากลางห้อง พี่สยามก็ถอดเสื้อช็อปก่อนจะเดินมาทิ้งตัวนอนลงบนโซฟาโดยเอาหัวหนุนตักผมไว้ มือก็จับมือผมไปกุมไว้พลางยกขึ้นไปจุ๊บเบาๆ

อ้อนนี่จะเอาอะไรเนี่ยะ

"เป็นอะไรหืม"

"ก็....ไม่มีอะไร" มันบอกอปัดก่อนจะหันหน้าเข้าซุกท้องผม "พุงออกแล้วนะเมีย"

"เพราะใครล่ะ" ผมทำหน้ามุ่ยใส่ก่อนจะตีไหล่มันไปทีนึงอย่างหมั่นไส้ คนที่ทำกูอ้วนก็มึงนั่นแหละพี่สยาม

มึงคนเดียวเลย

"โอ๋นะครับ ถึงมึงจะตัวเป็นโอ่งยังไงก็รักนะ"

ผมบีบแก้มมันแรงๆ "ลองไม่รักดูสิ"

"ฮ่าๆ ๆ ๆ ๆ คิ้วท์" มือเรียวโน้มคอผมให้ลงไปใกล้ "ขอแลกลิ้นหน่อย"

"ไม่ อย่ามากาม"

"จริงจังนะ ขอจูบหน่อย"

"ม่ายยยย"

"เมียที่ดีต้องอยู่ในโอวาทรู้ไหม"

"ผัวที่ดีก็ห้ามอื้ออ.อ.อ....." ยังไม่ทันที่ผมพูดจบคนข้างล่างก็ขยับปากเข้ามาทาบทับซะก่อน

ให้มันได้อย่างนี้สิวะ

พี่สยามขบเม้มเบาๆ ที่ปากล่างจนผมต้องยอมเปิดปากรับลิ้นร้อนนั่นเข้ามา ทุกครั้งที่จูบกันมันยังคงทำให้ใจเต้นแรงได้เสมอ มันไม่เปลี่ยนเลยจากครั้งแรก ผมว่าไม่ใช่แค่จูบหรอกที่ทำให้ใจเราเต้นตึกตัก แต่มันเป็นทุกอย่างเลยต่างหาก ทุกๆ อย่างที่เกี่ยวกับผู้ชายคนนี้ มันทำให้ผมพ่ายแพ้ได้เสมอ

แพ้ราบคาบ

หลังจากที่คนเอาแต่ใจตักตวงสิ่งที่ตัวเองต้องการจนพอใจแล้วมันก็ถอนจูบออกไม่วายหอมแก้มผมหนักๆ ไปอีกหนึ่งที เห็นสีหน้ามีความสุขมากๆ นี่แล้วรู้สึกหมั่นไส้เหมือนกันนะ

งับแม่ง

"โอ๊ยยยย เจ็บนะเมีย นี่เป็นหมาหรอ" พี่มันบ่นอุบอิบพลางลูบจมูกตัวเองที่ผมเพิ่งงับไป

"หมั่นเขี้ยว"

เจ้าตัวยิ้มกริ่มใส่ "อยากได้อะไรยาวๆ ไปแทะไหมจ๊ะ"

"ไม่โว้ย ไปอาบน้ำได้ละไป จะนอนก็ค่อยมานอน"

"สนใจอยากอาบกับพี่ไหม"

"ไม่ ไปอาบเลย เรื่องเยอะมากเดี๋ยวก็ให้นอนในห้องน้ำนั่นแหละ"

"ใจร้ายจังวะ" พี่มันลุกออกมาจากตักผมก่อนจะทำแก้มป่องแล้วยื่นหน้าเข้ามาใกล้ "หอมก่อน"

"พี่สยาม"

"ฟอดเดียวละเดี๋ยวไปเลย"

"มึงนี่แม่ง...." ผมหอมแก้มพี่สยามฟอดใหญ่ "พอใจยัง"

"พอใจแล้วครับ" ว่าแล้วมันก็ลุกเดินเข้าห้องไป ไม่รู้ว่ากามมาจากไหนนักหนา อะไรที่จับได้อะไรที่ทัชได้นี่ก็ทำทุกอย่าง

ร้ายกาจ

ผมลุกเดินไปดูวิวที่ระเบียงของห้องนั่งเล่น มองจากชั้น 8 นี่ก็ใช้ได้อยู่นะ ผมเดินสำรวจห้องพี่มันไปเรื่อย เห็นสีห้องโทนน้ำตาลออ่อนๆ แบบนี้มันทำให้นึกถึงห้องผมที่เชียงใหม่เลย ถ้าพี่สยามมันได้ไปเห็นมันต้องตกใจแน่ๆ ที่ห้องเราสีเดียวกัน

"หืม....นั่นกล่องอะไรวะ" ผมเดินมาหยุดออยู่หน้าตู้ที่ด้านในมีกล่องมีน้ำตาลลายจุดอยู่ นี่เอาออกมาดูได้ไหมวะ พี่สยามมันจะดุผมไหม

ถ้ามันดุก็ค่อยง้อละกัน

พอคิดได้แบบนั้นผมก็เปิดตู้แล้วหยิบกล่องใบนั้นอออกมา หนักพอสมควรเลยครับ นี่เก็บอะไรไว้วะ หม้อหรือกระทะเหรอ แต่ถ้าเก็บพวกเครื่องครัวก็ไ่มต้องใช้กล่องที่คิ้วท์ขนาดนี้ก็ได้ป้ะวะ....รึได้

ช่างแม่งละกัน

ผมค่อยๆ เปิดฝากล่องออก สิ่งที่ผมเห็นออย่างแรกเลยคือตุ๊กตาหมีสีน้ำตาลกับช่ออดอกไม้ที่แห้งไปแล้ว มีอยู่ 3 ช่อเลยนะครับ แล้วก็มีของจุกจิกอะไรเยอะแยะเต็มไปหมด ใต้ล่างมีอัลบั้มรูปด้วย ผมหยิบมันมาเปิดดูก็พบภาพของพี่สยามที่ยังใส่ชุดนัดเรียนเป็นเด็กมัธยมอยู่เลย แต่ละรูปมันมีแต่รอยยิ้มทั้งนั้น ส่วนสายตาก็ไม่ได้มองกล้องแม้แต่น้อย

ดูทรงแล้วคงมองคนหลังกล้องแน่นอน

ผมหยิบอัลบั้มรูปมาเปิดไล่ดูไปเรื่อยๆ จนมาสะดุดตากับภาพนึง มันเป็นภาพที่พี่สยามถ่ายรูปคู่กับผู้ชายคนนึง รอยยิ้มของทั้งคู่บ่งบอกถึงความสุข ส่วนผู้ชายในรูปนั้น....ผมเจอเขาแล้วที่ตึกคณะวิศวะฯ ในวันนี้

ผู้ชายที่ชื่อแซนด์

แฟนเก่าของพี่สยาม

"เออพี่สยาม อีกสักพักพี่แซนด์จะกลับมาเรียนไทยแล้วนะ"

เขากลับมาจริงๆ ด้วยว่ะ

ผมเก็บทุกอย่างที่เป็นความทรงจำของเขาทั้งสองคนไว้ที่เดิมก่อนจะพาตัวเองกลับมานั่งที่โซฟาเหมือนเดิม ตอนนี้ในใจมีความรู้สึกหลากหลายมากครับ เรื่องที่ผมข้องใจว่าทำไมผู้ชายคนนั้นถึงมาที่ตึกวิศวะฯ ก็เคลียร์แล้วล่ะว่าเขามาทำไม ไม่เข้าใจตัวเองเลยว่าทำไมจะต้องรู้สึกหน่วงใจแบบนี้ อยู่ดีดีมันก็เป็นความรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองกำลังจะเสียพี่สยามไป

บ้าชิบ

พี่สยามยังเก็บของทุกอย่างไว้ เก็บไว้อย่างดีด้วย นึกถึงคำพูดที่มันเคยบอกอผมว่ากับแฟนเก่าก็จบกันไปด้วยดี ตอนนี้ก็เป็นเพื่อนกัน ผมไม่อยากคิดมากนะ อยากจะเชื่อใจในตัวพี่มันมากๆ แต่ว่ามันก็อดคิดไม่ได้จริงๆ ว่ะ

งี่เง่าชะมัด

ตื้อดึ่ง

ผมหันไปตามเสียงก็เห็นไลน์โทรศัพท์พี่สยามดังขึ้น พอเห็นแบบนั้นผมก็เลื่อนไปหยิบมาดู ข้อความที่แสดงอยู่ด้านหน้านั่นทำให้ความหน่วงใจของผมทวีคูณขึ้นไปอีก

.

SAND : ขอบใจนะสยาม....อย่าลืมนัดของเราล่ะ

.

ผมจะอธิบายความรู้สึกนี้....ยังไงดีล่ะ













TBC.

                   สวัสดีค่ะชาลมาส่งหยัมปองแล้ว ขอโทษที่ทำให้รอนานมากๆ นะคะ

วันพุธนี้ชาลจะสอบไฟนอลแล้ว งานที่ทำก็ยังไม่เสร็จดี ตอนนี้กำลังหัวหมุนอยู่เพราะงั้นช่วยรอนิยายกันอย่างใจเย็นนะคะ

ชี้แจงเรื่องการหยุดพักลงนิยายช่วงหลังสอบไฟนอลเสร็จ ชาลต้องเร่งปิดต้นฉบับขุนหนมเพราะงั้นอาจจะพักการลงนิยายทุกเรื่องไป 1 สัปดาห์ค่ะ ขอให้อดใจรอกันหน่อยนะ​

ถ้าชอบก็คอมเม้นต์เพื่อเป็นกำลังใจให้กันได้นะคะ สามารถติดต่อข่าวสาร + สปอยล์ได้ที่ทวิตเตอร์ Chaleeisis นะ

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-05-2018 21:07:42 โดย chaleeisis »

ออฟไลน์ sompong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 355
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ดาม่าไหมๆๆๆ

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
ถ้าจะไป คบหากัน ฉันไม่ว่า
หรือจะพา กันไปเที่ยว เลี้ยวถึงไหน
ขอแค่บอก กันตรงตรง ตกลงใคร
และไม่ใช่ คนสองใจ ใช้ปนกัน

เรื่องพรรค์นี้ มีแค่หนึ่ง ไม่พึ่งสอง
เรื่องพรรค์นี้ แบ่งใครครอง ต้องพลิกผัน
เรื่องพรรค์นี้ ถ้าไม่ชัด เนิ่นนานวัน
เราคงเลิก กันซักวัน ไม่มั่นใจ

ดราม่ามันกำลังจะมาแล้ว
..อยากกอดปลอบใจน้องปอง...
และกระทืบหัวสมองของ(ไอ่)พี่หยัม

ขอประนาม(ถ้ามี)คนสองใจในเรื่องนี้
เช๊ดดดดดดดดเข้

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด