ตามชื่อเรื่องเลยค่ะ ดังนั้นเรื่องนี้ไม่มีคนนะคะ
ตอนอ่านเรื่องนี้ควรพยายามทิ้งสติไปครึ่งหนึ่ง เพราะความจริงแล้วนั้นหอยไม่มีตาค่ะ
-----------------------------------------------------------------------------------------
ผมควรเริ่มเรื่องจากตรงไหนก่อนดี
ก่อนอื่นเลยผมอาศัยอยู่ที่ใต้ทะเลแห่งนี้มานานมากแล้ว หากถามว่าพ่อแม่หน้าตาเป็นอย่างไรนั้นผมเองก็ตอบไม่ถูก --นั่นแหละ ยังไม่ทันจำความได้พ่อแม่ก็หายไปนับตั้งแต่วางไข่ไว้ที่ท้องทะเลแห่งนี้ ฟังดูแล้วน่าเศร้าเนอะ แต่ว่ามันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วที่จะไม่เคยเห็นหน้าพ่อหรือแม่ของตนเองถ้าเป็นหอย
เอาเป็นว่าไม่มีหอยตัวไหนได้เห็นหน้าพ่อแม่หรือหน้าตัวเองแน่นอน รวมทั้งผมเองก็เช่นกัน
นอกจากในน้ำนี้ผมก็ไม่เคยเห็นทัศนียภาพอย่างอื่น เคยมีหอยบอกต่อกันว่าข้างบนเหนือน้ำนั้นสดใสกว่าใต้ทะเลอยู่ก็จริง แต่ผมกลับไม่มีความคิดที่อยากจะขึ้นไปดูโลกข้างบนเลย
ไม่ใช่เพราะผมไม่เชื่อคำบอกเล่านั้นหรือกลัวสิ่งที่อยู่ด้านบนหรอก แค่ขี้เกียจแบกเปลือกหอยขึ้นไปด้วยก็เท่านั้น มันหนัก
ตอนที่ยังเป็นลูกหอยผมก็กินแพลงก์ตอนพืชอยู่หลายวัน พอโตขึ้นผมก็หากินอยู่ที่พื้นทะเล คอยขูดตะไคร่หรือสาหร่ายต่าง ๆ กิน
ถึงแม้ว่าจะไม่มีใครมาสอนผมว่าควรต้องระวังสัตว์ตัวไหนหรืออะไร ทว่าดูเหมือนทุกอย่างนี้จะสามารถรับรู้ได้โดยสัญชาติญาณอยู่แล้ว
แน่นอนว่าสัตว์ที่บรรดาพวกผมกลัวมากที่สุดย่อมเป็นปลาหมึก
ลองจินตนาการภาพดูว่าระหว่างที่กำลังเดินเตาะแตะอยู่ตามริมหาดอยู่ดีๆ จากนั้นก็มีหนวดปลาหมึกโผล่มาจากทางด้านหลังแล้วเลื้อยเข้ามาชอนไชข้างในสิว่ามันน่ากลัวขนาดไหน!
แค่นึกว่าต้องโดนหนวดเหนียวๆ เปื้อนเมือกมารัดตัวก็รู้สึกขยะแขยงแล้ว ถึงแม้ว่าตัวผมจะลื่นๆ เป็นเมือกเหมือนกันก็เถอะ
ทว่าพักนี้ดูเหมือนว่าสาหร่ายเริ่มหายากมากขึ้นเรื่อยๆ แม้แต่ปะการังก็ยังตายกลายเป็นสีขาวเยอะขึ้น ส่วนอุณหภูมิในทะเล.. เห็นมีหอยบอกต่อกันมาว่าก่อนหน้านี้ยังอุดมสมบูรณ์กว่านี้เยอะ เย็นกว่านี้ด้วย
จนบางทีเดี๋ยวนี้ผมก็ไม่ค่อยเห็นสาหร่ายแล้ว อาศัยขูดตะไคร่กินเอาอย่างเดียว พออาหารลดน้อยลง พวกปลาหมึกที่อดอยากก็ล่าพวกเรากินมากขึ้น ผมเลยต้องระวังตัวให้มากกว่าเดิม
วันนี้ผมเองก็เดินเลียบหาอะไรกินตามพื้นเหมือนกับวันก่อนๆ หลังจากขนเปลือกหอยขนาดยักษ์เดินไปรอบๆ จนเห็นว่าตรงที่หินก้อนนั้นมีตะไคร่ขึ้นเกาะอยู่เพียบ ผมก็รีบคลานไปอย่างอ้อยอิ่ง
จวบจนกระทั่งเมื่อมาถึงที่ก้อนหิน ผมก็พยายามขูดตะไคร่ที่อยู่บนก้อนนั้น ทว่ายังไม่ทันที่จะได้เข้าปาก ร่างกายของผมก็ถูกดึงไปทางด้านหลังอย่างแรง
ในขณะที่ผมมึนงงอยู่เพราะยังไม่ทันได้ทำความเข้าใจว่าอะไรเป็นอะไร สัมผัสเปียกชื้นและลื่นๆ ก็เลื้อยชอนไชเข้ามาในเปลือกหอย ภายในพริบตานั้นผมก็ทำความเข้าใจได้อย่างรวดเร็วว่าอะไรเป็นอะไร
หมึกสาย
ในวินาทีที่ความตายกำลังคืบคลานเข้ามาใกล้อย่างช้าๆ นั้น ผมพึงระลึกแล้วว่าถึงอย่างไรตนเองก็ตายเป็นแน่แท้
จังหวะที่หนวดปลาหมึกเข้ามารัดตัวนั้น ผมก็พยายามขัดขืน ถึงจะรู้ว่าขัดขืนไปแล้วไม่ได้อะไรก็ตาม ในเมื่อพวกนักล่าแรงเยอะกว่าผมที่เป็นเหยื่ออยู่หลายเท่าตัว
ปลาหมึกดึงผมออกมาจากเปลือกหอยนั้นได้สำเร็จ ผมทำใจเอาไว้แล้วว่ายังไงตัวเองก็ตายแน่ๆ พอคิดแบบนั้นแล้วร่างกายพลันขดเข้าหากันโดยอัตโนมัติ
ในขณะนั้นอยู่ๆ หนวดปลาหมึกที่ชอนไชเข้ามาก็หยุดด้วย
ผมมองหมึกสายที่ขนาดใหญ่กว่าเปลือกหอยเกือบเท่าตัว พลันความกลัวไหลทะลักเข้ามาจนผมไม่อาจสู้หน้าได้ ในขณะที่กำลังจินตนาการถึงภาพความตายของตนเองหลังจากนั้น อยู่ๆ ปลาหมึกก็ใส่ผมกลับเข้าไปในหอยเหมือนเดิม
“....”
อะไรวะเนี่ย สรุปจะกินหรือไม่กิน
เมื่อกี้ผมทำใจไว้แล้วว่ายังไงก็ตายแน่ๆ เลยพอทำใจที่จะรับได้หากต้องตาย แต่พอมาหักมุมแบบนี้แล้วผมก็เริ่มไปไม่ถูกเสียดื้อๆ
จากนั้นอยู่ๆ อีกฝ่ายก็ใช้หนวดยกตัวเปลือกหอยขึ้น แล้วสอดหนวดชอนไชเข้ามาเพื่อปิดรูเปลือกหอย
ผมถึงกับตั้งสติไปไม่ถูก ทว่าเมื่อเริ่มตั้งสติได้แล้วและมีเวลาคิดเรื่องต่างๆ มากขึ้น ถึงเอะใจคิดขึ้นมาได้ว่าดูเหมือนว่าปลาหมึกต้องการจะพาไปที่ไหนสักแห่ง ไม่อยากนั้นคงไม่จงใจสอดหนวดเข้ามาเพื่อปิดช่องทางหนีหรอก
ผมใช้เท้าเขี่ยๆ ตรงหนวดปลาหมึกสองสามเส้นนั้น ในขณะที่หนวดปลาหมึกก็แหย่กลับจนผมจั๊กจี้แล้วต้องรีบขยับตัวหนี ..อืม บางทีอาจจะมีความเป็นไปได้ที่อีกฝ่ายอาจจะเอาไปให้ปลาหมึกตัวอื่นกิน แต่จะคิดแบบนั้นก็คงไม่ถูก ในเมื่อส่วนมากพวกหมึกสายชอบอาศัยอยู่ตามลำพังมากกว่าอยู่รวมกันเป็นฝูงเหมือนหมึกตัวอื่นๆ
ถ้าอย่างนั้นเอากลับไปกินที่พัก..?
แล้วทำไมถึงจำเป็นต้องเอาเปลือกหอยไปด้วย?
ผมคิดไม่ตกกับเรื่องนี้เลย ความจริงถ้าต้องการเอาไปเก็บไว้ในที่พักตนเอง เขาก็ไม่น่าเอาเปลือกหอยมาอยู่ดี บางที..บางที อาจจะมีความเป็นไปได้ว่าเขาอาจจะเอาเปลือกหอยไปใช้เป็นที่พัก
แต่ถ้าเป็นแบบนั้นจริง ป่านนี้เขาก็คงกินผมไปแล้ว
ผมหดตัวเข้าไปในเปลือกหอยเมื่อรับรู้ได้ถึงแรงกระแทกจากภายนอก พอหนวดปลาหมึกถูกดึงออกไป ผมก็ลังเลอยู่ครู่ใหญ่ก่อนจะค่อยโผล่หน้าออกมาข้างนอก
เอากลับมาที่รูจริงๆด้วย..
ผมมองโลกภายนอกด้วยความรู้สึกหดหู่ ต่อให้หนีเข้าไปในเปลือกหอยก็ไม่ได้ประโยชน์อะไร ในเมื่อหนวดสามารถสอดเข้ามาด้านในได้ งั้นสู้โผล่ออกมาข้างนอกเผื่อหนีทันดีกว่า
ระหว่างที่กำลังขยับตัวมองรอบๆ อยู่นั้น เขาก็ใช้หนวดปลาหมึกยื่นบางอย่างมาให้ตรงหน้า พอสังเกตดีๆ ผมถึงเห็นว่าสิ่งนั้นน่าจะเป็นเนื้อหอย
“...”
พอผมขยับตัวถอยหนี สีหน้าของปลาหมึกก็ดูผิดหวังมาก ไม่สิ สีหน้าปลาหมึกยังเหมือนเดิม แต่น่าจะบอกว่าผมรู้สึกได้เองมากกว่าว่าเขาผิดหวัง
แล้วหลังจากวันนั้นก็มีแต่คำถามในหัวของผมเต็มไปหมด
พอรู้ว่าผมไม่ได้กินเนื้อหอย เขาก็ไปสรรหาอาหารต่างๆ มาให้ หลังจากทนดูอยู่ได้พักหนึ่งด้วยความทนไม่ไหว ผมเลยขูดตะไคร่บนโขดหินกับกินแพลงก์ตอนให้เขาดู
วันถัดมาปลาหมึกเลยเอาหินก้อนเล็กที่มีตะไคร่น้ำเกาะมาให้ ท่าทางของเขาดูดีใจมากที่ผมยอมกินอะไรสักที
ผมขูดตะไคร่น้ำกิน สายตาก็มองด้วยความหวาดระแวงกลัวว่าจะถูกดึงจับไปเคี้ยวเข้าไปในปากแบบไม่ทันตั้งตัว ดังนั้นตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันผมจึงระวังตัวตลอด
ทว่าอีกฝ่ายไม่ได้มีท่าทีที่จะทำแบบนั้นเลย
พออยู่ไปด้วยกันระยะหนึ่งผมก็เริ่มลดความระวังตัวลง ผมเดาว่าเขาคงไม่ได้อยากจับกิน แต่เหมือนอยากเลี้ยงมากกว่า..?
แล้วเขาจะเลี้ยงหอยอย่างผมไปทำอะไร
นั่นสิ หากให้ตอบแบบมองในแง่ดีหน่อยคือเขาคงอยากเป็นเพื่อน มองอีกแง่คือเขาขุนผมไว้เป็นเสบียงเพราะผมยังโตไม่เต็มที่ แต่แบบนั้นน่ะเสียเวลาเปล่าชัดๆ
เมื่อเห็นว่าปลาหมึกไม่ได้มีทีท่าจะกิน ผมเลยอาศัยอยู่ต่อไปเรื่อยๆ ความจริงแล้วการได้อยู่กับเขาก็นับว่าเป็นเรื่องดี อย่างน้อยก็มีอาหารกิน มีที่ปกป้อง ชีวิตจะหาความสบายแบบนี้จากที่ไหนได้อีก
จวบจนกระทั่งฤดูกาลผสมพันธุ์หวนมาถึง
…………………………………………
……………………
เรื่องนั้นเกิดขึ้นในตอนกลางวันหรือตอนเช้า ผมเองก็ไม่แน่ใจสักเท่าไร แต่รู้แค่ว่าในขณะที่กำลังขูดตะไคร่น้ำกินอยู่ดีๆ เขาก็ใช้หนวดดึงตัวผมให้ออกมาจากเปลือกนั้น
ผมตกใจกับการกระทำกะทันหันนั้นไม่น้อย ส่วนหนึ่งเพราะอยู่กับเขามานานมากจนวางใจว่าอีกฝ่ายคงไม่ทำอันตรายอะไร จึงไม่เคยคาดคิดถึงเรื่องแบบนี้มาก่อน
ผมพยายามขืนตัวหนี ในขณะที่เขาลากร่างของผมไปกับพื้นทราย แล้วเอาอะไรบางอย่างเข้ามาเสียดสีกับร่างกาย ผมตัวแข็็งทื่อเมื่ออีกฝ่ายพยายามควานหารูเพื่อสอดสิ่งนั้นเข้าไปด้านใน
หลังจากที่เสียดสีกันอยู่พักหนึ่ง น้ำอะไรบางอย่างก็ถูกพ่นออกมา แล้วอวัยวะนั้นก็หดกลับเข้าไป ในขณะที่ผมยังไม่หายตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น
ผมเดาว่าเขาคงรู้แล้วว่าผมเป็นตัวผู้หลังจากที่พยายามผสมพันธุ์เมื่อครู่ แต่ที่คิดไม่ถึงคือหลังจากรู้ว่าผมเป็นตัวผู้แล้วแต่ดันทำต่ออีกต่างหาก
อย่าบอกนะว่าเขาพาผมมาอยู่ที่นี่เพราะรู้สึกถูกใจเลยพามาเพื่อผสมพันธุ์ ..ผมนึกถึงความเป็นไปได้ที่ตนเองไม่เคยนึกมาก่อนขึ้นมา ดูเหมือนจะมีโอกาสสูงมาก แต่เขาลืมไปหรือเปล่าว่าผมกับเขาน่ะเป็นคนละสปีชี่ส์กันเลย
ถึงจะอยู่ในไฟลัมกับอาณาจักรเดียวกันก็ใช่ว่าจะทำได้สักหน่อย!
ผมรู้สึกว่างเปล่ามาก แม้ว่าเขาจะจับผมยัดเข้าไปในเปลือกหอยเหมือนเดิมและผมก็หดหนีเข้าไปข้างในแล้ว ถึงอย่างนั้นผมก็รู้สึกโหวงๆ อย่างบอกสาเหตุไม่ได้อยู่ดี
ผมคิดว่าเขาอาจจะเป็นเพราะชอบอะไรในตัวผมสักอย่าง แล้วคิดว่าผมเป็นตัวเมียถึงได้เก็บมา แต่จะเอามาทำอะไรต่อนั้นก็เป็นปริศนายากจะหยั่งถึง
แล้วถ้ารู้ว่าเป็นตัวผู้แล้วผมจะถูกฆ่าหรือเปล่า..?
ผมเริ่มคิดหน่อยๆ แล้วว่าที่รู้สึกโหวงๆ ไม่ใช่เพราะผมถูกทำแบบนั้น ทว่าเป็นเพราะผมกลัวว่าในเมื่อความแตกแล้วเขาจะทำอย่างไรกับผมต่อไป
ถ้าเกิดต้องถูกเขากิน ผมสู้ไปให้ปลาหมึกตัวอื่นหรือสิ่งมีชีวิตอื่นกินดีกว่า
ผมคิดแบบนั้น ตั้งใจว่าถ้าเป็นไปได้ก็จะหนีไปเงียบๆ แต่เทียบกับความเร็วของปลาหมึกกับหอยที่ต้องแบกเปลือกเดินไปตามพื้นทรายแล้ว ความเป็นไปได้ที่จะหนีนั้นยากจนแทบเป็นศูนย์
ดังนั้นผมเลยทำใจไว้กึ่งหนึ่งว่า เอาเถอะ ต่อชีวิตมาได้ยาวถึงขนาดนี้ก็นับว่าดีแค่ไหนแล้ว ถึงจะถูกกินในวันพรุ่งนี้ก็ไม่เห็นเป็นอะไร
ทว่าหลังจากนั้นปลาหมึกก็ยังคงทำตัวเหมือนเดิม เขาเคยทำกับผมอย่างไร ทุกอย่างก็ยังคงเหมือนเดิมอยู่อย่างนั้น จนความระแวงที่มีในตอนแรกเริ่มลดลงไปนิดหน่อย
พอความระแวงเริ่มลดลง ผมก็เริ่มสงสัยว่าความจริงแล้วเขาคิดอย่างไรกับผม ..ที่แน่ๆ ผมรู้สึกดีกับเขาในหลายๆ เรื่อง แต่ผมไม่รู้หรอกว่าเขาคิดอย่างไร ในเมื่อพวกเราสื่อสารกันไม่ได้
ผมเดินเตาะแตะอย่างเชื่องช้าไปตามพื้นทราย ก่อนจะขยับเข้าไปถูเข้ากับผิวหนังของเขา ปลาหมึกขยับตัวทันทีที่ผมเข้าไปสัมผัส ก่อนจะใช้หนวดรวบตัวผมเข้ามากอดแล้วถูไถราวกับว่าผมเป็นของรักอย่างไรอย่างนั้น
ผมพิงตัวเขา ตัดสินใจว่าคิดมากไปก็ไม่เห็นได้ประโยชน์ใดๆ ฉะนั้นปล่อยให้ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นแบบนี้ต่อไปนั่นแหละ
อย่างน้อยตอนนี้อยู่ด้วยกันแค่นั้นก็พอแล้ว--------------------------------------------------------------------------
[Talk]
สวัสดีค่ะ
สารภาพว่าตอนเขียนเรื่องนี้ค่อนข้างเครียด เขียนไปก็กลัวว่ามันเหมือนมนุษย์เกินไป บทบรรยายเลยออกมาค่อนข้างสั้นมากเลยค่ะ เพราะตันจนนึกอะไรไม่ออก
ความคิดแรกสุดก่อนเริ่มเขียนเรื่องนี้คืออยากเขียนพระเอกเป็นปลาหมึกค่ะ แล้วพอคิดว่านายเอกจะเป็นอะไร เลยคิดว่ายังไงก็ต้องเป็นหอยแน่ๆ!
..แต่เราไม่ได้คิดว่าจะเขียนฉากแบบนั้นออกมาเหมือนกันค่ะตอนแรก.. เผื่อใครสงสัยว่าเป็นพันธุ์อะไร
พระเอกเป็นหมึกสายค่ะ
ส่วนนายเอกเป็นหอยชักตีน
ทั้งนี้ขอบคุณแหล่งที่มาของข้อมูลจากเว็บต่างๆ เหล่านี้ด้วยค่ะ
https://en.wikipedia.org/wiki/Laevistrombus_canariumhttps://www.youtube.com/watch?v=Q4q0U8UK_VEhttps://en.wikipedia.org/wiki/Conchhttps://th.wikipedia.org/wiki/หอยชักตีน
https://www.technologychaoban.com/news_detail.php?tnid=1071https://th.wikipedia.org/wiki/หมึกสาย
https://www.youtube.com/watch?v=hIzeGkxBEgchttps://th.wikipedia.org/wiki/หอยสังข์
http://www.electron.rmutphysics.com/science-news/index.php?option=com_content&task=view&id=1010https://th.wikipedia.org/wiki/ตะไคร่น้ำ
https://www.youtube.com/watch?v=8aTNLaLQaAI