มีแค่ 6 รีเอง
เหอเหอ
ลงต่อดีกว่า เด่วจอรอกันนาน
---------------------------------------------------------------------
เพื่อนสนิท ตอน 4 “โพดโทรมาเหรอ” ร่างสูงกว่าเอียงหน้าไปถามร่างเล็กที่กดวางสาย โทรศัพท์ที่โทรเข้ามาพร้อมกับร้อยยิ้มเจ้าเล่ห์
“เออ.... มันบอกวันนี้ไม่กลับอยู่บ้านรุ่นน้อง เลยอำไปว่าวันนี้แม่ทำของชอบไว้เยอะ” พัฒนายิ้มร่า
ดีใจที่แกล้งพี่ชายฝาแฝดได้
“เป็นโพดอะดีแล้ว ถ้าเป็นคนอื่นเราหวง” ปราโมทย์พูดเรื่อย ๆ สีหน้านิ่งเฉย ไม่ได้แสดงความรู้สึกอะไรใด ๆ ออกมา ก็จริงนั่นแหละ เขาหมายความตามที่พูดจริง ๆ เขาหวงพัฒนามาก ๆ เมื่อก่อนจะแสดงออกมาก็ไม่ได้ ได้แต่เล่นบทเพื่อนที่แสนดี แต่ตอนนี้ใจตรงกันแล้ว ครั้นจะปล่อยให้คนอื่นมาคาบไป ..... ก็ใช่ที่......อุตส่าห์หลงอุตส่าห์รักมานาน ได้แต่เก็บไว้เงียบ ๆ มาตลอด จนตอนนี้ในที่สุด ความรู้สึกอัดแน่นที่เก็บไว้ในใจตลอดมาจนแทบระเบิดนั้นก็ได้ปลดปล่อยออกมาซะที
“หวงบ้าไรวะ” พัฒนาบ่นงึมงำ หน้าแดง ตั้งแต่วันนั้นที่เขาแกล้งบอกรักกับร่างสูงแล้ว ปราโมทย์ก็พูดอะไรหวาน ๆ บ่อย ๆ มันทำให้ร่างบางรู้สึกแปลก ๆ โดยไม่รู้ตัว และอดยิ้มไปกับคำพูดจริงใจนั้นไม่ได้
ไม่นะ............เขาไม่ได้ชอบปราโมทย์ซะหน่อย แล้วก็หาทางที่จะบอกความจริงหลายครั้งแล้วด้วย แต่ร่างสูงผิดเองนี่....ที่มาทำให้ร่างเล็กบางหวั่นไหวและเริ่มรู้สึกแปลก ๆ ได้ทุกวัน ปราโมทย์มักจะโทรมาหาและบอกว่าคิดถึง บอกให้เขาหลับฝันดีทุกคืน เจอหน้ากันทุกวัน ก็ไม่เห็นพูดอะไร แต่เวลาโทรมาหาเนี่ยพูดได้พูดดี ไม่มีหยุด
ปราโมทย์นั่งดูหนังที่เช่ามากับพัฒนาเพียงสองคน พ่อกับแม่ของพัฒนาไม่อยู่ไปต่างจังหวัด พร้อมครอบครัวของน้าของชายหนุ่ม เลยเหลือพัฒนาอยู่บ้านคนเดียว และตอนนี้สมโภชน์น้องชายฝาแฝดของพัฒนาก็ดันไม่อยู่ซะอีก ทางสะดวกอะไรขนาดนี้
ปราโมทย์แอบคิดทะลึ่ง ๆ ขึ้นมาได้ เขาไม่คิดจะทำจริง ๆ หรอก ถ้าร่างเล็กนี้ไม่สมยอม
เขาไม่อยากทำลายน้ำใจของพัฒนา อยากจะทะนุถนอมไว้ แต่ก็อดแปลกใจตัวเองไม่ได้
นี่เขารักพัฒนาขนาดไหนกันนะ ถึงยอมปล่อยให้อยู่รอดปลอดภัยมาได้ บางครั้งก็กลัวว่าวันหนึ่งจะอดใจไม่ไหวแล้วโดดปล้ำพัฒนาขึ้นมา จะทำยังไง ร่างเล็กนี่คงเอะอะโวยวายไม่เลิกแน่
ชายหนุ่มคิด แอบยิ้มกับตัวเองเงียบ ๆ ก่อนจะเหลือบตามองร่างเล็ก ๆ ที่เอาแต่เคี้ยวมันฝรั่งในถุงไม่หยุด ตาก็มองจ้องภาพในจอทีวีเขม็ง นี่เจ้าตัวจะรู้บ้างไหมเนี่ย ว่าไอ้บ้าที่นั่งข้าง ๆ อ่ะ คิดอะไรเตลิดเปิดเปิงไปถึงไหนแล้ว
“พัด............ขอ..เอ่อ..ขอ” ร่างสูงกว่าที่นั่งเรียบร้อยอยู่บนเตียงพูดตะกุกตะกัก เขาอาบน้ำเสร็จก่อนร่างเล็กกว่าที่เดินเอาผ้าขนหนูเช็ดผมมาจากห้องน้ำ
วันนี้พัฒนารู้สึกว่าอากาศมันร้อนผิดปกติ จนต้องรีบอาบน้ำสระผม แถมแชมพูหมดต้องเดินไปซื้อหน้าปากซอยอีก ซวยจริง ๆ ที่ได้แชมพูเด็กมาเพราะอาแปะบอกว่าแชมพูอย่างอื่นขายหมดแล้ว เลยต้องจำใจซื้อมาทั้งอย่างนั้น ขืนรอสระพรุ่งนี้มีหวังหัวเน่าแน่ แล้วไอ้เพื่อนบ้านี่ก็ทำหน้าอึกอัก อึกอักอะไรอยู่ได้ ดูสิ มือมันจะพันกันตายมั้ยล่ะนั่น
“อะไรของมึงวะ อ้ำอึ้งอยู่ได้ ขออะไรก็ขอมาเร็ว ๆ เดี๋ยวกูจัดให้” ร่างเล็กโวยวาย มือหนึ่งก็เช็ดผม
ปากก็โวยวายไปเรื่อย ถ้าร่างเล็กบางกว่านั้นได้รู้ว่าชายหนุ่มจะขออะไร คงจะสำนึกผิดในความปากพล่อยของตัวเอง
“ได้จริงเหรอ....” ร่างสูงเงยหน้าถามร่างเล็กที่ยืนเอามือเช็ดผมไม่รู้เรื่องรู้ราว
“มึงนี่มันเซ้าซี้จริง....กูบอกว่าจัดให้ก็จัดให้” เสียงใสบอกให้รู้ว่าเริ่มโมโหแล้ว จะขออะไรของมันวะ ดูทำหน้าเข้า ปกติชอบทำหน้าเฉย แต่ตอนนี้มาทำหน้าออดอ้อนอยู่ได้ แล้วไอ้สายตาวิงวอนนั้นมันอะไรกัน พักนี้รู้สึกว่าปราโมทย์จะทำหน้าตาได้หลากหลายเหลือเกิน ไม่ปฏิเสธหรอกนะว่าเวลาที่ปราโมทย์ยิ้มเนี่ย อะไรมันก็ดูสดใสไปหมด แต่ว่าไอ้เรื่องที่มาหลงรักเขาเนี่ย มันยังรับไม่ค่อยได้อยู่ดี
เขาเป็นผู้ชายนะ จะไปทำอะไรอย่างนั้นได้ไง แต่ที่ยอมให้อยู่ข้าง ๆ ตอนนี้ก็เพราะความดี ความอบอุ่นอ่อนโยนที่ปราโมทย์มีให้ จนเขาไม่กล้าที่จะสลัดทิ้ง และไม่กล้าที่จะบอกความจริงซะที
และที่สำคัญพักนี้เขารู้สึกแปลก ๆ เวลาที่ปราโมทย์เข้าใกล้มาก ๆ ใจมันจะสั่น ยิ่งเห็นใบหน้าคมนั้นแล้ว มีบางครั้งที่เขาก็คิดอะไรไปไกล เขากับปราโมทย์เนี่ยอะนะ จะเป็นแฟนกัน ยิ่งคิดก็ยิ่งเครียด
“ขอ......เอ่อ........จูบได้มั้ย” ร่างสูงพูดออกไปแล้วก็อดกระดากปากไม่ได้ เขาเป็นบ้าอะไรเนี่ยไปขออะไรอย่างนั้น แล้วพัฒนาจะโดดต่อยเขาหรือเปล่าเนี่ย แต่มันไม่ไหวจริง ๆ ขืนปล่อยไว้อย่างนี้
เขานั่นแหละที่จะบ้าเอาได้ง่าย ๆ ขอซะให้พัฒนาด่าดีกว่า จะได้เลิกคิดไปเลย
ร่างเล็กชะงักนิ่ง เมื่อกี้บอกไปแล้วว่าขอได้ แต่เขาไม่รู้นี่ว่าปราโมทย์จะขอ..........แต่ว่าพูดไปแล้ว
เขาไม่กล้าที่จะกลืนคำพูดตัวเองจริง ๆ เอาวะ แค่ปากแตะ ๆ หน่อยเดียว ให้มันทำ ๆ ไปเหอะ
ไม่สึกไม่หรอหรอกน่ะ ถือว่าตอบแทนความใจดีของปราโมทย์ก็แล้วกัน เขาเองก็ไม่มีอะไรจะให้หรอกมีแต่ปราโมทย์ ที่ขยันหานั่นหานี่มาให้ แถมยังช่างเอาใจ เขาอยากกินอะไร อยากทำอะไร
ในทางที่ไม่เสียไม่หาย ชายหนุ่มก็ไม่เคยขัดสักที
“เออ.........” รับคำไปแล้วก็ถึงค่อยมานึกอาย นี่จะทำจริง ๆ เหรอเนี่ย
ร่างสูงเงยหน้าขึ้นทันที ดวงตาคมชะงักนิ่งสบตากับดวงตากลมโตนั้น ไม่ต้องรอให้พูดอะไรอีก
ร่างสูงก็ลุกขึ้นยืนตรงหน้า ดึงผ้าขนหนูออกจากมือของร่างเล็กนั้น ชายหนุ่มเกลี่ยผมเปียกชื้นที่ปรกที่ใบหน้างดงาม มือสองข้างประคองที่ใบหน้าขาวนวล ก่อนที่ริมฝีปากนั้นจะโน้มเข้าแตะที่หน้าผาก..................และ เรื่อยมาที่เปลือกตาสองข้าง
แผ่วเบาอบอุ่นนุ่มนวล
ร่างเล็กมีอาการสั่น มือเล็กบางดึงเสื้อเชิตของชายหนุ่ม กำไว้แน่น ดวงตากลมโตหลับลง ยินยอมรับความรู้สึกจากชายหนุ่มที่มอบให้
ในครั้งแรกที่ริมฝีปากร้อนผะผ่าวแตะลงที่ริมฝีปากบางเหมือนจะลองสำรวจดูปฏิกิริยาของร่างเล็กนั้น
มันทำให้ร่างบางสะดุ้ง ก่อนจะยอมรับโดยดุษฎีเมื่อริมฝีปากของชายหนุ่มประทับนิ่งลงมาอีกครั้ง
ปลายลิ้นนุ่มนวลที่เพียรพยายามโลมไล้ ให้ร่างบางยอมรับรสสัมผัสของปลายลิ้นที่รุกล้ำเข้ามาในริมฝีปากสีแดงสด ปลายลิ้นของชายหนุ่มควานหาความหวานจากร่างเล็กบาง ความรู้สึกอ่อนหวาน ปราศจากอาการจาบจ้วงและเห็นแก่ตัว ทำให้ร่างเล็กงามนั้นแทบยืนไม่ติด
“อือ” ร่างเล็กครางแผ่ว เคลิบเคลิ้มไปกับรสสัมผัสนุ่มนวล ที่ร่างสูงตรงหน้ามอบให้ จากส่วนลึกสุดของความรู้สักที่เรียกว่า........รัก......... ความอิ่มเอมเต็มตื้นไปด้วยความสุขจากรสสัมผัสที่ได้รับแผ่ซ่านไปถึงหัวใจ มันอบอุ่นอ่อนหวานละมุนละไม จนไม่สามารถจะถ่ายทอดเป็นคำพูดให้ใคร ๆ รับรู้ได้
ณ เวลานั้น สำหรับชายหนุ่มร่างสูงแล้ว เขาอยากให้เวลาที่แสนสุขนี้หยุดอยู่กับที่ เมื่อเขาได้ครอบครองริมฝีปากบางของเจ้าของร่างเล็กที่ประคองไว้ ปลายลิ้นเรียกร้องสอดรัดพัวพัน แสดงความเป็นเจ้าของของร่างเล็กนุ่มนิ่มที่เขาประคองกอดรัดเอาไว้ เขามีความสุขมากที่สุดในโลกในเวลานี้
ร่างสูงต้องรีบถอนริมฝีปากออกอย่างเสียดาย เมื่อร่างเล็กในอ้อมแขนทำท่าจะยืนไม่อยู่เอา
เขาต้องรีบประคองร่างเล็กนั้นไว้ในอ้อมแขน ก่อนจะนั่งลงโดยที่ร่างงดงามบอบบางเลื่อนมาซบอยู่ตรงไหล่กว้างแล้ว พัฒนาหน้าแดงซ่าน ไม่ยอมเงยหน้ามองเขาสักนิด มือเรียวยาวนั้นเกาะกุมมือเล็ก ๆ นุ่มนิ่มของอีกฝ่ายไว้
ชายหนุ่มลูบไล้มือเล็ก ๆ นั้นไปมา อมยิ้มอย่างมีความสุข ในขณะที่ร่างบางได้แต่อิงอยู่ตรงไหล่
ปล่อยให้ร่างสูงกอดนิ่ง ๆ และลูบไล้มือเล็กบางนั้นเล่นเบา ๆ
ไม่มีเสียงเอะอะโวยวายอย่างที่ปราโมทย์คิด มีแต่ความเงียบและหัวใจที่แข่งกันเต้นอย่างไม่เป็นจังหวะของทั้งสองฝ่าย
ไม่มีคำพูดใดออกมาจากปากของทั้งคู่ มีเพียงความรู้สึกอบอุ่นที่ถ่ายทอดถึงกัน
..
..
TBC
*******************************