Hidden Love "Foolish Beat" @@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
Chapter 1 ชายหนุ่มร่างโปร่งขยับแว่นตาที่สวมอยู่พลางกอดกระชับแฟ้มเอกสารมากมายในมือเมื่อก้าวเข้าไปในลิฟท์แก้วของคอนโดหรูใจกลางเมือง เขารูดคีย์การ์ดแล้วเปิดประตูห้องอย่างเคยชิน ผ้าม่านผืนหนาปิดหน้าต่างบานเลื่อนมิดเสียจนไม่มีแสงเล็ดลอดทั้งที่เกือบจะเก้าโมงแล้ว
“เจ้านาย” ชณัฐส่งเสียงเรียกตอนที่เดินไปวางงานบนโต๊ะอาหาร เขาเคาะประตูห้องนอนพร้อมกับต้องส่ายหน้าอย่างเอือมระอา
ร่างสูงใหญ่นอนคว่ำอยู่กับเตียงหลังกว้าง ผ้าห่มและหมอนกระจายไปคนละทิศ เสื้อผ้าที่อีกฝ่ายสวมเมื่อวานถูกถอดทิ้งระเกะระกะอยู่บนพื้น และถ้าเขาเดาไม่ผิด ดูเหมือนว่าเจ้านายวัยหนุ่มจะไม่ได้อาบน้ำก่อนนอนด้วยซ้ำ
“เจ้านาย..” เขาถอนใจ ก้มลงเก็บเชิ้ตกับสูทที่ฝ่ายนั้นใส่ไปงานเลี้ยงแต่งงานเมื่อคืนขึ้น มา แค่ถอดเสื้อแล้วเอาไปใส่ตะกร้า รอแม่บ้านของคอนโดมารับไปซักรีด เจ้านายของเขายังทำไม่ได้เลย “คุณควรจะรีบแต่งงานแบบเร่งด่วน”
ตฤณ..คือชื่อของคนตรงหน้า ชณัฐพยายามเรียกตำแหน่งและหน้าที่ของอีกฝ่ายเพื่อตอกย้ำให้คนที่นอนอย่างไม่รู้สึกรู้สาอยู่ตรงนี้ทราบว่ายังมีงานและภาระต่างๆให้รับผิดชอบอีกเยอะ..ที่จริงคุณตฤณเป็นผู้บริหารที่เก่งมาก แต่บางครั้งก็มีช่วงเวลางอแงแบบนี้เหมือนกัน
“เจ้านาย!” ชณัฐตะโกนอย่างเหลืออด เขาลากผ้าห่มที่คลุมตัวอีกคนออกห่างก่อนจะต้องชะงักเมื่อเจอสาวสวยนอนเปลือยอกซุกตัวอยู่แนบหน้าท้องแกร่ง เจ้าหล่อนทำตาปรือ รอยลิปสีแดงเปื้อนเป็นแนวยาวจากปากไปถึงข้างแก้ม
“หมดกัน” เขาเหนื่อยหน่าย หยิบเสื้อคลุมให้หญิงสาวแล้วพยักพเยิดไปทางห้องน้ำ “คุณตฤณต้องเข้าประชุมตอนสิบโมงครึ่งครับ คงไปส่งคุณไม่ได้”
“จริงเหรอ” หล่อนชูแขนสองข้างเป็นการบิดขี้เกียจ ผ้าห่มที่คลุมหมิ่นเหม่บนหน้าอกอวบหลุดเลื่อนลงมา ชณัฐรีบคลี่เสื้อคลุมออกปิดแทบไม่ทัน
“งั้นหนุ่มแว่นคนนี้ก็ไปส่งฉันแทนสิ” สาวเจ้าหัวเราะคิกคัก
เขานิ่วหน้า ดันแว่นที่ตกลงมาขึ้นไปอยู่บนดั้ง “ขออภัยครับ”
“ใจร้าย” เธอตวัดขาขึ้นนั่งไขว่ห้าง ป่ายมือไปเอาบุหรี่ขึ้นมาคาบ
ชณัฐเป็นเหมือนเลขาสามัญประจำออฟฟิศ เขารู้งานทุกอย่างกระทั่งความเคลื่อนไหวของผู้คน และโดยไม่รู้ตัว เขาปราดเข้าไปจุดไฟให้หล่อนเสียแล้ว
“ว้าว..” เธอขำคิก พ่นควันใส่หน้าหนุ่มแสนซื่อ “สนใจจัง”
“ขอบคุณครับ แต่ไม่ดีกว่า” เขาปฏิเสธเมื่อเธอแหวกสาบเสื้อออก “จะรับมื้อเช้าพร้อมคุณตฤณหรือว่าจะให้ผมโทรบอกห้องอาหารให้ดีครับ” ถามพลางเดินไปเปิดหน้าต่างแล้วรูดม่านออก กลิ่นบุหรี่คงไม่ดีต่อสุขภาพเจ้านายนัก
“ไม่ล่ะ กลับเลยแล้วกัน” เจ้าหล่อนหาวหวอด คว้าเสื้อผ้ามาใส่ทั้งที่ยังไม่ได้ชำระล้างเนื้อตัว “ขอรองเท้าหน่อยสิจ๊ะหนุ่มน้อย”
ชณัฐเลิกคิ้ว เขาอายุสามสิบกว่ายังถูกเรียกว่าหนุ่มน้อยได้อีกหรือ
“แล้วเจอกันนะจ๊ะ” เธอส่งจูบให้เมื่อแต่งตัวเสร็จ
เขาถอนใจด้วยความเหนื่อยอ่อนในทันทีที่ประตูปิดลง แต่พอนึกอะไรขึ้นได้ก็ต้องคว้าสมุดโน้ตมาบันทึกข้อความ ตัวอักษรเป็นระเบียบถูกจดไว้อย่างดี
‘วันที่ 20/11/54 เดทกับสาวสวยผมน้ำตาลแดง ใส่เดรสสั้นสีครีมยาวเหนือเข่า เจอกันที่งานแต่งงานเพื่อนแล้วกลับมาที่คอนโด..ไม่ทราบเวลาแน่ชัด’
เขาชะงักไปนิด เหลือบมองเจ้านายที่ยังนอนหายใจสม่ำเสมออยู่บนเตียงแล้วใช้มือลูบตามผ้าปูที่นอน สำรวจพื้นและถังขยะทุกซอกทุกมุมก่อนจะบันทึกต่อ
‘..ไม่ได้ใช้ถุงยางอนามัย’ รู้สึกกระดากจริงๆที่ต้องมานั่งเขียนอะไรแบบนี้
ชณัฐต้องคอยจำว่ามีใครบ้างที่คุณตฤณเดทหรือพาขึ้นเตียงด้วย ไม่ใช่ว่าอยากรู้อยากเห็นเรื่องคนอื่น แต่เพราะสาวๆที่เป็นคู่ขามักแอบอ้างว่ากำลังอุ้มท้องสายเลือดของคุณตฤณอยู่ เขาเลยมีภารกิจเพิ่มเป็นการทำบัญชีรายชื่อผู้หญิงของหนุ่มนักรักอย่างเจ้านายนั่นเอง
“เฮ้อ..” ถ้าไม่ติดว่าเจ้านายเก่าฝากฝังคุณตฤณไว้ เขาคงอยากลาออกวันละหลายร้อยหน คุณตฤณใช้งานเขาเกินคุ้มจริงๆ
“ณัฐ..” เสียงแหบต่ำดังมาจากคนที่เพิ่งสะลืมสะลือตื่นขึ้น “ทำอะไร”
เจ้าของชื่อลุกขึ้นยืน ตีสีหน้าราบเรียบเหมือนเคย “ไม่มีอะไรครับเจ้านาย ผมแค่จดเอาไว้ เผื่อเธอบอกว่าท้องกับเจ้านายจะได้มีหลักฐานไปสู้”
“เลขาสามัญประจำบ้าน” ตฤณหัวเราะเบาๆ เขาลุกขึ้นนั่ง ผมยุ่งเหยิงไปหมด ชายหนุ่มเปลือยเปล่าไปทั้งตัว ดีแต่ยังมีผ้าห่มคลุมท่อนล่างไว้
“ประจำออฟฟิศก็พอครับ อย่าถึงกับประจำบ้านเลย..มันเหนื่อย” ไม่มีเลขาที่ไหนเที่ยวรื้อถังขยะเจ้านายเพื่อหาคอนด้อมด้วย!
“โกรธอะไรอีกล่ะ” ร่างสูงหาวหวอด “มันเป็นเรื่องธรรมดาของผู้ชาย”
“ครับ ผมทราบดี” ชณัฐดันแว่นขึ้นอย่างที่ชอบทำเป็นนิสัย “ตอนนี้เก้าโมงสิบห้า ตอนสิบโมงครึ่ง เจ้านายมีประชุมกับกลุ่มผู้บริหาร ถ้าไปอาบน้ำตอนนี้แล้วแต่งตัวอีกสักสิบนาที มารับมื้อเช้าที่ผมจะทำให้อีกยี่สิบนาที เราก็คงไปทัน”
ตฤณเท้าคางฟังเพลิน เวลาอีกฝ่ายเป็นการเป็นงานมันตลกจนอยากแหย่ให้โมโห เขาชอบมองชณัฐที่อยากด่าเขาเต็มแก่แต่ได้แค่อดกลั้นเท่านั้น
“ผมจะเปิดน้ำอุ่นให้” เลขาคนเก่งเดินวกไปทางห้องน้ำ
ร่างใหญ่ถึงกับขำอย่างหยุดไม่อยู่ แต่เมื่ออีกคนโผล่กลับเข้ามาพร้อมปรายมองด้วยดวงตาจริงจังว่าเขาควรไปจัดแจงตัวเองได้แล้ว ตฤณถึงลุกขึ้น
ชณัฐเสมองทางอื่นเมื่อเจ้านายรูปหล่อเดินเนื้อตัวเปล่าเปลือยมาทางเขา คุณตฤณเป็นเด็กหัวนอก การเปลือยกายอาบแดดถือเป็นเรื่องเคยชิน แต่กับคนที่เกิดและใช้ชีวิตในเมืองไทยอย่างเขา ไม่ใคร่จะเข้าใจพวกหัวทองนักหรอก
..หรือไม่..เจ้านายก็แค่อยากแกล้งให้เขาทำอะไรไม่ถูกเท่านั้น..
“ณัฐ..” เสียงทุ้มต่ำพึมพำ เรียกคนที่กำลังจะเดินออกไปให้หันกลับมา
“ครับ?” ชณัฐเหลียวหลัง ไม่ทันระวังจนทั้งตัวปะทะเข้ากับแผงอกล่ำสันของอีกฝ่าย ความสูงที่แตกต่างแทบทำให้เขาจมลงไปกับเรือนร่างสูงสง่า
ตฤณยกแขนขึ้นขวางคนที่ตั้งท่าจะถอยออกไป เขาหยักยิ้มมุมปาก ก้มหน้าลงแทบจะชิดกับแก้มขาวของคุณเลขา “หยิบเสื้อให้ด้วย”
ชณัฐมุ่นคิ้ว ระงับใจไม่ให้ผลักตัวเจ้านายออก “รับทราบครับ”
คล้อยหลังคนน่าโมโห ชณัฐได้แต่ยกมือขึ้นกดบริเวณอกซ้ายของตน
“เลิกส่งเสียงงี่เง่าประจานตัวเองได้แล้ว..” เขาสั่ง หายใจเข้าลึกๆสักสองสามทีพร้อมกับรับรู้ว่าเสียงหัวใจของตนกลับมาเต้นตามปกติเหมือนเดิม
..มันไม่ได้ส่งเสียงรุนแรง..รัวเร็ว..ระคนตื่นเต้นอย่างที่เพิ่งผ่านมา..
“ณัฐ! สบู่หมด ไปซื้อมาให้หน่อย” มีเสียงโวยวายดังมาจากในห้องน้ำ
ชายหนุ่มถอนใจ “ครับผม” เลขาสามัญประจำบ้านลืมเช็กรายการของที่ต้องซื้อจนได้ กลับมาเย็นนี้คงต้องแวะห้างไปหาเครื่องใช้มาตุนให้แล้ว
.
.
.
“เที่ยงสี่สิบ นัดทานมื้อเที่ยงกับผู้จัดการแผนกแล้วคุยเรื่องการตัดทอนงบรายเดือน บ่ายโมงครึ่ง นัดกับตัวแทนบริษัททั้งห้ารายเรื่องการประมูลสถานที่ก่อสร้าง บ่ายสาม โทรหาบริษัทคู่ค้าเรื่องการปรับเปลี่ยนรายละเอียดโครงการ ห้าโมงตรง โทรหาคุณจีจี้เรื่องอวยพรวันเกิดปีที่สามสิบของเธอ”
ชณัฐบอกตารางงานได้แม่นยำชนิดที่ไม่ต้องอ่านเลย
“หกโมงครึ่ง มีนัดดินเนอร์กับคุณโรสบนเจ้าพระยา ครุยส์..ส่วนถุงยางอนามัยแผ่นเรียบ ผมเตรียมไว้ให้แล้ว”
“ให้ตายสิ” ตฤณหัวเราะ เงยหน้าจากเอกสารที่ต้องอ่าน “ละเอียดกระทั่งเรื่องถุงยางเลยเหรอณัฐ คิดว่าคงไม่ได้ซื้อยาคุมให้เธอด้วยใช่มั้ย”
“อย่าทำเป็นตลกไปนะครับ” เขาดันแว่นขึ้น “เจ้านายไว้ใจผู้หญิงไม่ได้ ถึงเธอจะบอกว่าทานยาก็เถอะ ทางที่ดีคือป้องกันตัวเอง แถมไม่ต้องเสี่ยงเป็นโรคพรรค์นั้นด้วย” เขาเคาะสมุดโน้ต “ถ้าคุณทำตัวแบบที่ผมบอกมา ตารางเวลาที่ต้องนัดหมอเพื่อตรวจเลือดก็จะว่างขึ้นอีกหลายที่”
ตฤณยกมือยอมแพ้ เขาเป็นผู้ชายอย่างนั้นจริงๆ ถึงแม้จะรักสะอาด แต่เขาก็มีศักดิ์ศรีของตน พอถูกสาวๆท้าเรื่องขี้ขลาด คนอย่างเขาก็ยอมตามใจ ใช้ตัวเปล่าๆกับพวกหล่อนอยู่ประจำ ผลน่ะเหรอ ก็บอกว่าท้องเป็นวรรคเป็นเวรนั่นไง เดือดร้อนมานั่งตรวจสอบกันอีก
เขารู้ว่าพฤติกรรมบางอย่างไม่เป็นลูกผู้ชายเอาเสียเลย แต่อันที่จริง พวกเขาตกลงกันก่อนจะมีความสัมพันธ์แล้ว ว่าต่างฝ่ายต่างได้ ไม่ผูกมัด ไม่ทวงสิทธิ์ ไม่ทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของภาย หลัง แต่ไม่รู้ทำไม หลังทุกอย่างผ่านไป ต้องมีสาวๆมาบอกว่าเขาเป็นพ่อเด็กนับครั้งไม่ถ้วน
..ถ้าเขาเป็นพ่อจริงก็ดีอยู่หรอก..แต่ถ้าไม่ใช่..มันคงไม่งามเท่าไหร่..
“ผมควรทำหมันไปเลยดีมั้ย” ตฤณพูดเล่นๆ
“หยุดทำเรื่องแบบนี้บ้างไม่ได้เลยเหรอครับ” ชณัฐถามอย่างระอา
“มันเสียสุขภาพนะณัฐ” เขาหัวเราะ “หรือจะบอกว่าเราไม่ทำ”
คนฟังแก้มขึ้นสี รีบดันแว่นขึ้นกลบเกลื่อนสีหน้าตน “ช่างผมเถอะครับ”
“ชักอยากจะรู้นะเนี่ย”
“รับกาแฟมั้ยครับ ผมจะชงมาให้” ชณัฐถนัดกระทั่งชงกาแฟ มีแต่เขาเท่านั้นที่ชงได้ถูกปากคุณตฤณที่สุด หรือแม้แต่ของว่างตอนประชุม เขาก็ต้องไปซื้อหามาถึงจะได้ดั่งใจนาย
“ไม่อยากกิน” ตฤณปัด “ตอบมาซะดีๆ หรือคุณไม่เคยมาสเตอร์เบท”
ชณัฐสำลักลมหายใจตัวเองสะดุดเป็นห้วง สีเลือดแล่นริ้วขึ้นข้างแก้มแบบที่ปิดอย่างไรก็ไม่มิด เขาบอกเจ้านายออกไปไม่ได้หรอกว่าเขาทำอย่างไร..บ่อยแค่ไหน..และ..นึกถึงใคร
“ผมเคยคบกับเพื่อนผู้หญิงสมัยมหา’ลัยครับ” เขาปั้นเรื่อง “ก็..มีอะไรกันบ้างตามประสา แต่ว่าผมอกหัก” การอ้างเรื่องแบบนี้คงดีที่สุด “ผมเลยเข็ด”
ตฤณดูท่าทางสนอกสนใจมาก ชณัฐทำงานกับเขามาหลายปีแล้ว รู้ใจกันเหมือนเพื่อนสนิท แต่เขากลับไม่ค่อยได้ล้วงลึกเข้าไปถึงเรื่องของอีกฝ่ายเลย จะมีก็แต่คุณเลขาคนนี้เท่านั้นที่ได้รู้เห็นพื้นที่ส่วนตัวของเขาแทบทุกมุม..เรื่องอะไรเขาจะยอมเสียเปรียบกันเล่า
“พออกหักเลยไม่สนเรื่องบนเตียงสินะ” เขาพยักหน้า
“ครับ” ชณัฐลอบถอนหายใจอย่างโล่งอกที่เจ้านายไม่ติดใจอะไรอีก
“ผมก็นึกว่าคุณชอบผู้ชายซะอีก”
คนได้ยินตัวชาดิก ปลายนิ้วเย็นเฉียบแทบจะวินาทีนั้น “จ..จะเป็นอย่างนั้นไปได้ยังไงล่ะครับ” เจ้าตัวดันกรอบแว่นขึ้น “ก็..ก็ผมเคยคบกับผู้หญิงมาแล้ว”
ตฤณยิ้มน้อยๆ “ไม่ได้บอกว่าจริงสักหน่อย..แค่นึก”
ชณัฐยืนตัวเกร็ง ก้มมองแฟ้มงานในมือ “อย่าล้อเล่นสิครับ”
ตฤณมีท่าทีสบายๆผิดกับอีกฝ่าย เขาเอนหลังพิงพนัก ยกมือหนุนท้ายทอยอย่างอารมณ์ดี
“คุณคิดอย่างที่ผมคิดมั้ย..”
“ครับ?”
“เซ็กซ์กับผู้ชาย..คงได้อีกรสชาติหนึ่ง”
ชณัฐเงียบกริบก่อนจะรวบรวมสติใหม่ แต่ถึงอย่างนั้น..เสียงในอกที่มันเต้นรัวแรงจนฟังไม่ได้จังหวะกลับยิ่งเด่นชัด “ม..มันน่าจะรู้สึกแย่มากกว่า”
“ถึงคุณจะพูดแบบนี้ก็เถอะ แต่ผมก็ยัง..” เขาผิวปากหวือ ดวงตาสีเข้มเปลี่ยนเป็นจริงจังเมื่อโน้มตัวมาข้างหน้า “..อยากลองอยู่ดี”
..................................................................................