ตอนที่ ๑๒ภาพที่ปรากฏต่อหน้าผมนั้นทำให้ผมตลึงไปชั่วขณะ ผู้ชายที่ผมไม่รู้จักกำลังกอดแนนอยู่บนเตียงดูก็รู้ว่าไม่ใช่แค่คนรู้จัก ใส่ชุดของเด็กมัธยม
“แนน” ผมเรียกชื่อแฟนผมอีกครั้ง
“ติ....ณ ทำไมวันนี้กลับเร็วจัง” สีหน้าของแนนตกใจมาก ไอ้หนุ่มคนนั้นถึงทำหน้าถอดสี รีบปล่อยวงแขนที่กอดแนน
ตอนนี้ทั้งห้องเงียบ ผมได้ยินเฉพาะเสียงของหัวใจผมเท่านั้นที่มันเต้นเร็ว และเร็วขึ้น ผมจะจัดการเรื่องนี้อย่างไร ใช่ผมโกรธ โกรธจนไม่รู้จะทำยังไง ผมเร่งฝีเท้าเข้าไปประชิดไอ้หนุ่มคนนั้นที่ยังยืนตัวแข็งอยู่ และทั้งหมัดและเท้า ที่ผมมอบรางวัลให้กับมัน แนนได้แต่ร้องห้าม แต่ผมไม่สนใจ ผมต่อยและตีมันจนหน่ำใจ ก็เดินออกจากห้องไป แนนยืนร้องไห้ที่ประตู ผมเดินผ่านแนนไปโดยไม่ทักไม่พูดอะไร จากนั้นผมตรงไปหอไอ้ชาติทันที
ปัง ๆ ๆ ผมเคาะประตูห้องไอ้ชาติอย่างแรง ประตูถูกเปิดออก
“ขิง ไอ้ชาติอยู่ไหม”
“มีอะไรไอ้ติณ เข้ามาสิ แล้วมึงเป็นอะไรหน้าแดงกล่ำขนาดนั้น ใครเหยียบหางวะ”
“เหยียบหาง พ่อมึงเดะ อย่าเพิ่งพูดมากกิ่งอารมณ์ไม่ดี”
“อารมณ์ไม่ดีอะไรของมึง”
“ขิง เรื่องแนน”
“ทำไมเหรอ”
“เรื่องนั้นที่ขิงเล่าให้ไอ้ชาติฟัง ติณอยากได้ยินจากปากขิงอีกครั้ง
“เอ่อคือ” ก่อนที่ขิงจะตอบอะไรขิงก็หันไปมองหน้าไอ้ชาติ
“เล่าไปเถอะ”
“ใช่ขิงเล่าเถอะ เพราะว่าความจริงมันถูกเปิดเผยแล้ว ติณแค่อยากได้ยินให้มันเจ็บช้ำให้ถึงที่สุด
“หมายความว่าอะไรติณ” ขิงถามผม เดินไปนั่งข้าง ๆ ไอ้ชาติ
“ชาติ” ผมเรียกชื่อมันพร้อมกับตบไปที่บ่าเบา ๆ
“กูขอโทษวะ เรื่องเมื่อตอนกลางวัน”
“ไม่เป็นไรกูเข้าใจ เป็นใครได้ยินเร่องแบบนี้ก็ต้องไม่พอใจเป็นธรรมดา แต่ว่ามึงเป็นอะไร”
“วันนี้กูกลับห้องเร็วกว่าปกติ พอกูเปิดประตูเข้าใจก็เห็นผู้ชายคนอื่นกำลังกอดแนนอยู่บนเตียง กุไม่ต้องเล่าอีกใช่ไหมว่ามันหมายความว่าอะไร”
“เฮ้ย มึงอย่าคิดมากเลย ตัดใจเถอะวะ หน้าตาอย่างมึงหาได้ไม่ยากหรอก”
“ทำไมวะ กูไม่ดีตรงไหน ก็เอาใจมันสารพัด ยอมมันทุกอย่าง สุดท้ายมันทิ้งกูไปเอาไอ้เด็กมัธยมที่ไหนก็ไม่รู้ ไปไอ้ชาติไปกินเหล้ากับกู กินให้มันลืม” ผมลากไอ้ชาติมากินเหล้า ณ หนองน้ำหลังสวนสาธารณะ แห่งหนึ่งซึ้งถูกเรียกว่า สวนหลวง แน่นอนว่างานนี้ไม่ขาดไอ้อ้นอีกคน พอมาถึงเรื่องราวของผมก็ถูกไอ้ชาติเล่า ให้ไอ้อ้นฟัง ส่วนผมแดกอย่างดื่ม ชนิดนอนสะต๊อป
“เฮ้ย เบาๆหน่อยไอ้ติณ เดี๋ยวมึงตาย”
“มึงเป็นห่วงกูด้วยเหรอวะไอ้ชาติหมา”
“เปล่า กูกลัวไม่มีเงินใส่ซองงานศพมึงมากกว่า
“ไอ้เหี๊ยะ” พวกผมกินเหล้าไปคุยกัน ทำให้ผมคลายความทุกข์ลงไปได้บ้าง โทรศัพท์ผมสั่นอยู่ตลอดเวลา เพราะทั้งสายเข้า และข้อความ แน่นอนมันถูกส่งมาโดยแนน ผมไม่อยากรับ ไม่อยากคุย ผมยังไม่พรอ้ม และถ้าคุยผมคงไม่มีเรื่องอะไรจะพูดอะไร ผมคงอภัยให้กับเหตุการณ์นี้ไม่ได้ พวกผมกินจนเหล้าร้านปิด ผมยังรู้สึกว่ามันยังไม่สะใจ ผมจึงเสนอไอเดีย นั้นคือแวะซื้อเบียร์แล้วไปกินต่อกันที่หอไอ้อ้น ถึงไอ้อ้นจะมีเมีย แต่มันไม่ได้อยู่ด้วยกัน เมียมันอยู่บ้านกับพ่อแม่ พวกผมมากินเบียร์ต่อที่ห้องไอ้อ้นจนสลบกันไป สรุปรุ่งเช้าพวกผมก็ไม่สามารถพาสารรูปมาปรากฏตัวที่โรงเรียนได้ ผมตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ในเวลา เกือบบ่ายสองโมง ส่วนเพื่อนผมทั้งสองยังสลบ พอตื่นขึ้นมาหัวผมก็คิดถึงเรื่องแนน ผมหยิบโทรศัพท์มาดูสามสิบกว่าสายที่แนนโทรหา พร้อมกับอีก๑๐กว่าข้อความ ในเวลาไม่นานหลังจากที่ผมตื่นแล้ว ผมก็เดินทางกลับมาที่หอ ผมภาวนาให้แนนไปเรียนเพื่อที่จะได้ไม่ต้องเจอหน้าเธอ ผมเปิดประตูเข้าไป
“ติณ ฮือ ๆ ติณ ไปไหนมา แนนโทรหาตั้งหลายครั้ง ก็ไม่รับสาย แนนเป็นห่วงติณมากเลยนะ ฮือๆๆ” แนนรีบวิ่งมากอดผมไว้ ผมแกะมือของแนนออก แล้วเข้าไปหยิบกระเป๋า ผมรีบเก็บเสื้อผ้าของผมใส่กระเป๋ให้ได้มากทที่สุด
“ติณ ติณ ทำอะไร ติณเก็บเสื้อผ้าไปไหนฮือๆๆติณ”
ผมยังไม่ตอบเธอแต่พยายามแกะมือเธอออก ตอนนี้แนนพยายมแย่งกระเป๋าจากมือผม ผมกระชากกระเป๋าจนมันหลุดจากมือแนน
“ติณ จะทิ้งแนนไปเหรอ ฮือๆ ๆ แนนขอโทษ แนนไม่ได้ตั้งใจ”
“ไม่ได้ตั้งใจ ฮึๆๆ แนนคิดว่าติณโง่ขนาดนั้นเลยเหรอ”
“ติณ แนน ขอโทษ ยกโทษให้แนนนะ แนนัญญาว่าจะไม่ทำอย่างนี้อีก”
“แนนพูดเหมือนมันเป็นเรื่องง่ายนะ เราเลิกกันเถอะ” ผมพูดจบก็รีบเดินออกห้องพร้อมกับกระเป๋า
“ติณ ไม่มีทาง ไม่มีทางที่แนนจะเลิกกับติณได้ยินไหม” นั้นคือเสียงสุดท้ายที่ผมได้ยินก่อนที่ผมจะกลับมายังหอไอ้อ้น