Act 3: เขา...ดื้อ ปรี๊ดดดดดดดดดดด “เริ่ม!”
เฮือก!
“อ๊ะ โทษทีปั้น ฉันเนี่ยขี้ลืมจริงๆ แทนที่แกจะกลับไปเก็บของกลับบ้านเลยต้องเดินย้อนมาหาฉันอีก” ชมพู่รับเอกสารตารางซ้อมจากมือเราหลังจากที่เราเดินเข้ามาหาเธอข้างสนามบาสในโรงยิมมหาลัย เสียงชมพู่ตะโกนเมื่อกี้ทำเอาเราที่เดินคิดอะไรมาเรื่อยเปื่อยสะดุ้งตกใจ
“ไม่เป็นไร เรายังไม่ได้ออกจากมอพอดี” เราตอบชมพู่แล้วมองกลุ่มนักกีฬาตัวสูงแย่งลูกบาสกันอยู่ เสียงพื้นรองเท้าเสียดสีกับพื้นสนามเสียงดังเอี๊ยดอ๊าด ชมพู่เป็นผู้จัดการทีมบาสของมหาลัย เธอเป็นนักกิจกรรมตัวยงเลยล่ะ ผิดกับเราที่เอาแต่ขลุกตัวอยู่ในห้อง
“ขอบใจมากปั้น” ชมพู่เดินนำเรามานั่งตรงอัฒจันทร์ “แล้วเดินเหม่อเข้ามาในโรงยิมเนี่ยไม่ดีเลยนะ ถ้าลูกบาสลอยมาโดนหัวแกจะทำไง”
“แหะๆ”
“ไม่ต้องมายิ้มประจบ ดีนะวันนี้ชมรมฉันจองสนามไว้ก่อน” เรามองรอบๆ โรงยิมวันนี้มีแค่ทีมบาสของมหาลัยทีมเดียวเท่านั้นครับ
“โดนหัวเราไม่เป็นไรหรอกเราเป็นผู้ชายนะ ชมพู่สิต้องระวัง”
“ย่ะ...ระดับฉันแล้วถ้าใครกล้าปล่อยลูกบาสมาโดนหัวฉันเนี่ย เจอตารางซ้อมแน่นๆ แน่ๆ”
“ดีนะเราไม่ได้เล่นบาส ไม่อยากเจอผู้จัดการทีมโหด”
“แกแค่วิ่งไม่ให้บ่นปวดขาก่อนเถอะ” ชมพู่ย่นจมูกพร้อมกับผลักหัวเราเบาๆ เราคุยเรื่องรีเสิร์ชที่ทำคู่กับชมพู่อยู่ไม่นาน ไม่ได้สังเกตว่าเสียงรองเท้ากับเสียงลูกบาสกระทบพื้นเงียบไปตั้งแต่เมื่อไหร่
“ผู้จัดการคร้าบบบบ ช่วยพาเพื่อนไปนั่งไกลๆ ได้ไหมคร้าบ” ผู้ชายคนหนึ่งตะโกนมาจากสนามบาส เขาใส่เสื้อแขนกุดสีดำสกรีนหมายเลขเสื้อเบอร์ศูนย์ ผิวขาวตัดกับสีเสื้อมาแต่ไกล
“เล่นต่อไปสิ พวกแกจะมายุ่งอะไรกับฉัน!”
“โอ๊ยยยย ถ้าเพื่อนผู้จัดการยังนั่งแถวนี้ พวกเราไม่มีสมาธินะครับ” พอคนนั้นพูดต่อเพื่อนในทีมที่หันมามองทางพวกเราก็พยักหน้าไปด้วย
“เอ่อ...เราออกไปก็ได้นะ” เราทำหน้าเหวอๆ ไม่คิดว่าตัวเองจะรบกวนคนอื่นขนาดนี้
“ปั้นแต่ไม่ต้องออกไป ไอ้เจ็ม! หุบปาก ทำไมเวลามีสาวๆ มาดูพวกแกก็แอ็คท่าเล่นซะเต็มที่ ทำไมแค่เพื่อนฉันคนเดียวถึงไม่มีสมาธิ”
ชมพู่หน้าบึ้ง เธอลุกขึ้นยืนพลางจับข้อมือเราเข้าไปใกล้ขอบสนาม ส่วนมืออีกข้างก็เท้าเอวอย่างเอาเรื่อง
“ชมพู่” เราร้อง อยากจะออกไปเต็มที สถานการณ์มันอึดอัดพิกล “เราไม่เป็นไร เรามารบกวนเอง”
“ตอบ!” ชมพู่ไม่ตอบเราแต่หันไปหาพวกนักกีฬาแทน
“จะให้ตอบจริงๆ หรอครับ” เจ็มที่ดูเหมือนจะกล้าคุยกับผู้จัดการทีมตอบ เขามองซ้ายมองขวาหาเพื่อนร่วมชะตากรรม แต่นักบาสคนอื่นๆ ก็ถอยหลังกรู เราก็เริ่มกลัวชมพู่แล้วนะเนี่ย
“เช็ดพื้นสนามหนึ่งอาทิตย์?”
“อย่านะครับผู้จัดการรรร ก็...คือ...พวกมึงก็ไม่ช่วยกูเล้ย”
“รีบๆ ตอบดิ หน้ายักษ์แล้ว”
“อะไร! อ้ำอึ้งอยู่ได้”
“เอ่อ...ใจเย็นๆ ครับผู้จัดการร คือว่า...เพื่อนผู้จัดการน่ารัก พวกเราหยุดมองไม่ได้เลยอ่า แบบว่าใจมันวอกแวกอะคร้าบบบบบบบ”
“...!!” ชมพู่ตาโตปล่อยมือจากข้อมือเรา แล้วหัวมาหาเราทั้งตัว “ปั้นแกรีบๆ กลับไปเลย!”
เราเดินออกมาจากมอ ข้ามถนนไปอีกฝั่งเพื่อเข้าไปที่หอ ปีสี่ก็แบบนี้จะว่าว่างก็ไม่เชิง มีเรียนน้อยแต่งานระดับประเทศเลยทีเดียว อาจารย์เราเขี้ยวมากเพราะงานที่วัดคุณภาพของนักศึกษาคืองานจบครั้งนี้แหละ พอมาถึงห้องที่เรารัก เราก็นอนเอนหลังบนเตียงพร้อมชูมือถือขึ้นมาเล่น
Poochom ขอโทษแทนเด็กๆ ด้วย
*แนบรูป น้องๆ นักกีฬานั่งคุกเข่ากับพื้น
read Khaopun
เฮ้ยไม่ต้องขนาดนั้นหรอก
น้องๆ ก็พูดเล่นไปเรื่อย
Poochom ปั้นแต่ที่พวกมันพูด
ที่พวกมันพูดว่าแกน่ารักอะเรื่องจริงนะ
...เฮ้ เฮ้ ผู้ชายตัวใหญ่เกือบสิบคนมาชมว่าน่ารัก เรากลัวนะ...
Poochom มันมาถามฉันใหญ่เลยว่าแกเป็นใครทำไมไม่เคยเห็น
5555 ขำดีเหมือนกัน
แต่ฉันปกป้องแกแล้ว ไม่ให้ใครรู้จักแกได้ง่ายๆ หรอก
read Khaopun
เราต้องรู้สึกยังไง
Poochom แกก็ต้องรู้สึกดีสิ
ฉันเป็นผู้จัดการมัน สวยขนาดนี้มันยังไม่เคยชมฉันเลย
ดีแต่บ่นว่าฉันโหดอย่างนู้นอย่างนี้
ฉันต้องไปแล้วล่ะ แอบกดมือถือเดี๋ยวพวกมันเอาเรื่องฉันไปฟ้องโค้ช
กลับบ้านดีๆ ล่ะ
เรากดอะไรไปเรื่อยเปื่อย กะว่าจะงีบซักสิบนาทีแต่จนแล้วจนรอดมันก็หลับไปลง เราเลยลุกขึ้นเก็บของใส่กระเป๋าเตรียมตัวกลับบ้าน เวลาผ่านไปเร็วชะมัด แป๊บเดียวก็เวียนมาเสาร์ อาทิตย์อีกจนได้
ตื่อ ดือ ดึ๊ง ระหว่างที่เรากำลังคิดว่าจะเอาเอกสารอันไหนกลับไปอ่านที่บ้านก็มีเสียงแจ้งเตือนจากโทรศัพท์ดังขึ้น เราละสายตาจากเอกสารที่กองอยู่ตรงพื้นก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบแหล่งที่มาของเสียง
ปกติทุกๆ วันศุกร์แม่จะส่งข้อความมาถามว่ากลับกี่โมงเสมอ แต่เพราะทั้งอาทิตย์ที่ผ่านมามันมีอะไรไม่ปกติ ดังนั้นคนที่ส่งมาตอนนี้ก็คือคนที่ทำให้เกิดความไม่ปกติคนนั้นแหละ
Nine naay พี่ปั้นวันนี้วันศุกร์แล้วพี่ปั้นจะกลับบ้านกี่โมง
read Khaopun
เรื่องของเรา
Nine naay ใช่ครับ เรื่องของพี่กับผมก็เรื่องของเราไง
...เขาชอบพูดอะไรทำนองนี้อยู่เรื่อย... เราเปิดหน้าต่างบทสนทนาค้างไว้แบบนั้นแล้วหันไปเลือกเอกสารต่อ
Nine naay พี่ปั้นนนนนน
ถ้าพี่ไม่ตอบ ผมก็จะเรียนพี่แบบนี้แหละ
พี่ปั้นนนนนนนนนนนนนนนนนนนน
ไม่พูดแบบนั้นแล้วก็ได้ คุยเถอะ ตอบเถอะครับบ
read Khaopun
เราจะกลับกี่โมงก็เป็นเรื่องของเรา
Nine naay งั้นไม่เป็นไรวันนี้ผมไม่มีเรียน
ผมจะไปนั่งรอตรงป้ายรถเมล์ตอนนี้เลย
read Khaopun
จะบ้าหรอนี่พึ่งสิบเอ็ดโมงเอง
Nine naay ผมรอได้ ถ้าพี่ไม่บอก
read Khaopun
ทำไมนายถึงดื้อแบบนี้นะ
Nine naay ผมไม่ได้ดื้อ
read Khaopun
นายดื้อ
เขาเงียบไปเลย เราก็ไม่ได้ทักอะไรกลับไปแล้วหันไปรวบเอกสารทั้งหมดเข้ากระเป๋า สุดท้ายเราก็เลือกไม่ได้ซักที เอากลับหมดนั่นแหละ เราเหลือบตามองโทรศัพท์มือถือที่ไม่มีข้อความของเจ้าเด็กจอมดื้อคนนั้นต่อ ก็รู้สึกแปลกใจหน่อยๆ
read Khaopun
เฮ้ อย่าบอกนะว่าไปรอแล้วน่ะ
Nine naay ยังครับ
แต่พอพี่บอกว่านายดื้อแล้วมันรู้สึกดีอะ
เอ้า เงียบเลย
เขินหรอ
read Khaopun
วันนี้เราไม่กลับ
Nine naay ทำไมอะพี่ พี่ต้องกลับบ้านสิ จะเหลวไหลไม่ได้นะ
ผมรอพี่ตั้งแต่ศุกร์ที่แล้วจนถึงศุกร์นี้เลยนะ ไม่กลับไม่ได้
read Khaopun
นายอย่ามาบ้าบอได้ไหม
นายก็ทักเรามาทุกวันเลยนี่
...จะเอายังไงอีก...
Nine naay ก็ผมอยากคุยกับพี่นี่
แต่ถ้าได้เจอด้วยจะดีมากเลย
ผมรบกวนมากไปหรอครับ
บอกหน่อยนะครับ สงสารน้องคนนี้หน่อย
read Khaopun
นายนี่มันจอมดื้อจริงๆ เลย
เรากลับเวลาเดิมทุกอาทิตย์นั่นแหละ
Nine naay พี่ปั้น มีใครบอกไหมว่าพี่เป็นคนใจดี
แต่พี่ใจดีกับผมแค่คนเดียวก็พอนะ
เจอกันครับ
...เขามันดื้อจริงๆ นั่นแหละ...
สาบานว่าตอนลงจากรถเราไม่เคยคาดหวังว่าจะมีใครมารอรับ เรากลับบ้านหรือไปไหนมาไหนเองตั้งแต่เริ่มช่วยเหลือตัวเองได้ พ่อกับแม่ไม่เคยไปส่งเราที่โรงเรียน ไม่เคยพาเราไปเรียนพิเศษ เราเลยมักจะพึ่งพาตัวเองเสมอๆ ถ้าต้องไปที่ใหม่แล้วหลง เราถือว่านั่นคือเสน่ห์ของการเดินทางล่ะ
“พี่ปั้น!”
แต่ครั้งนี้ต้องบอกว่าแตกต่างออกไป....เอ่อ...โดยสิ้นเชิง
“พี่ปั้น!” เราก้มหน้าก้มตาหลบสายตาจากคนที่มองมาประมาณว่าเราไม่รู้จักไอ้หมอนี่นะ ก็เพราะผู้ชายตัวสูงที่กำลังนั่งจ้องรถตู้อยู่ที่ป้ายรถเมล์คนนั้น อยู่ดีๆ ก็ลุกพรวดทันทีที่เราก้าวขาลงมาจากรถ แน่นอนเขารู้ว่ารถตู้จากนครปฐมจะมาจอดตรงไหน
“พี่ปั้น” พอเห็นว่าเราไม่มองเขาซักที นายคนนี้ก็เดินเข้ามาประชิดตัวเราทันที “ผมเดาว่าต้องเป็นรถคันนี้แน่ เดาผิดไปสามคันแหนะ”
เพราะเขาพูดแบบนั้นเราจึงเงยหน้าไปมองเขา “นี่นายมารอเราตั้งแต่กี่โมง”
เขาส่ายหน้า โบกไม้โบกมืออย่างมีพิรุธ “เปล่านะ ผมมาเยี่ยมแม่เพื่อนที่โรงพยาบาลแล้วก็แวะมารอพี่เมื่อกี้เอง”
“แม่เพื่อนนายยังไม่หายอีกหรอ”
“อ๋อ เอ่อ...ยังเลยพี่ อาการหนัก” เราส่ายหัวเบาๆ
“จะโกหกอะไรก็ให้เนียนๆ หน่อยเถอะ”
เขาหัวเราะออกมาสองสามคำคล้ายว่ายอมรับก่อนจะก็เบนสายตามามองถุงผ้าในมือเรา “ผมช่วยถือไหม”
“เราไม่ใช่ผู้หญิง”
“ผมก็ไม่ได้บอกว่าพี่เป็นผู้หญิงซะหน่อย อยากช่วยไม่ได้หรอ”
“ไม่เป็นไร” กระชับสายกระเป๋าแน่นย้ำคำตอบ
“โอเค” เขายิ้มมุมปาก ให้ตายเถอะ ต้องยอมรับว่าเขาน่ามองจริงๆ นั่นแหละ ยืนคุยกับเขาตรงป้ายรถเมล์นี้มีคนหันมามองตั้งหลายคนแล้ว
“พี่ปั้น ไปกินข้าวกัน” เขาพูดแล้วคว้าข้อมือเราไปที่ทางขึ้นสะพานลอยทันที
“เดี๋ยวๆ” เราขืนตัวไว้
“พี่บอกว่าผมโกหกไม่เนียน ผมจะไม่โกหกแล้ว ตรงๆ เลยละกัน อยากชวนไปกินข้าว ไปเหอะ”
“เนียน”
“อะไรอะพี่ ผมไม่โกหกอะไรอีกแล้วนะ”
“มือนายอะเนียน” เราบอกเขานิ่งๆ เกือบจะหลุดขำเพราะหน้าตาตลกๆ ของเขาแล้ว เขาทำท่าปล่อยมือเราช้าๆ พร้อมกับเกาหางคิ้วเบาๆ
“อะแฮ่ม ขอโทษครับ ตกลงไปกินข้าวนะ...ผมเหงาไม่อยากกินข้าวคนเดียว” ท้ายประโยคเขาทำหน้าเศร้าพร้อมดันหลังเราให้เดินขึ้นไปบนสะพานลอยก่อนจะเดินตามมา ตีมึนชะมัด ผู้คนในวันศุกร์ยังคึกคักเหมือนเดิม เพราะงั้นบนทางขึ้นสะพานลอยแคบๆ แบบนี้ เราเลยต้องเลยชิดขวาแบบสุดๆ รู้สึกแปลกใจที่เวลาเหลือบมองด้านซ้ายจะเห็นมือของเขายื่นออกมาเหมือนรั้วกั้นบริเวณเอวเรา พอพ้นทางขึ้นแล้วก็เป็นทางเชื่อมเข้าเซ็นทรัลฯ เขาถึงเดินยิ้มร่ามาข้างๆ
“นายไม่มีเพื่อนหรอ” เขาเลิกคิ้วหันมามองเราแบบแปลกใจระคนตลก แน่ล่ะก็เขาเหมือนจะหัวเราะออกมาซะแบบนั้น
“อะไรทำให้พี่คิดแบบนั้น”
“ก็นายบอกเหงาไม่อยากกินข้าวคนเดียว” เราถึงยอมเดินตามมานี่ไง
“ถ้าไม่ติดว่าพึ่งบอกพี่ว่าจะไม่โกหก ผมจะบอกว่าพี่ว่าใช่ครับ ผมไม่มีเพื่อน อยากมีคนมากินข้าวด้วยกันทุกมื้อเลย พี่ปั้นสนใจไหมครับ”
“เราไม่อยากฟังแล้ว” พอเราพูดเรื่องจริงจัง เขาก็พาออกทะเลไปซะหมด
“ฮ่าๆ โอ๋ พี่ปั้นนน ผมมีเพื่อนครับแต่วันนี้อยากมีพี่ปั้นเลยมาหาพี่ปั้นไง”
“นายคงเชี่ยวชาญเรื่องหยอดมุกจีบสาวอะไรเทือกๆ นี้ใช่ไหม” ถ้าเราเป็นผู้หญิงเราคงอายม้วน แต่เพราะเราเป็นผู้ชายเลยไม่มั่นใจว่าเด็กกะล่อนแบบเขาพูดเป็นนิสัยหรือว่าพูดเพราะอีกฝ่ายเป็นเรากันแน่ คิดว่าคงไม่ใช่อย่างหลัง
เขาเรียกขณะที่เท้าของเราและเขาก้าวเข้ามาในห้างแล้ว ไอเย็นปะทะร่างทำให้รู้สึกดีกว่าอยู่ข้างถนนร้อนๆ เป็นไหนๆ
“พี่ปั้น...”
“อะไร"
“ผมไม่เคยจีบสาวหรืออะไรแบบนี้หรอกนะ กับพี่ปั้นอะคนแรกเลย...”__________________
-พี่ปั้นของน้องงง-เขานัดกันทุกวันศุกร์เหรอคะ5555
มาทิ้งไว้ที่ตอนนี้ อาจจะหลบหายไปไม่ต้องตามหา
เเจกันนนค่า
ขอบคุณทุกคนเช่นเคยค่ะ
#เรากับเขา
♡