http://www.youtube.com/v/cn4ZrkcdGxQขอบคุณmv โดนๆ จาก คุณ $VAN$ นะคะ
นิสาบานได้ว่า ไม่เคยดูเอ็มวีนี้ก่อนแต่งน้องฐาตอนนี้นะคะ ฮา...
ตอนที่ 81 แฟนหนู
ตอนบ่ายๆ หลังจากพี่โต้งกลับไปแล้ว โอ๋ก็มาเยี่ยม มันดูยิ่งหล่อล่ำเข้าไปอีก คือแบบความจริงมันออกจะแต๋วแตกซะขนาดนั้นแต่ทำไมกลับไปฟิตหุ่นซะล่ำ กล้ามโตแบบนี้ก็ไม่เข้าใจ....
หนูก็มีมารยาทนะคะไม่ได้เอ่ยถามออกไปตามตรงทั้งๆ ที่นึกสงสัยซะเหลือเกิน แต่ถึงไม่ได้ออกปาก โอ๋มันก็คงเดาคำถามจากสายตาได้....
“มึงไม่ต้อง...มาใช้สายตาแบบนั้นมองกูนะอีโง่... มึงมันจะไปรู้อะไร เดี๋ยวนี้ผู้ชายเค้าไม่ชอบ บอบบาง กุ้งนางแบบที่มึงเป็นกันแล้ว ถ้าไม่ออกแนวตัวเล็ก เด็กชายโชตะแบบอีออย มันก็ออกแนวล่ำมีกล้ามอย่างกูนี่แหละ แถมเลือกได้อีกตะหาก เพราะกูรุกรับเลิศ” มันปั้นหน้าเชิด น้ำเสียงแปร๋นๆ ช่างไม่เข้ากับหนังหน้าเถื่อนๆ ของมันเลยสักนิด
“อะไร? อีโอ๋นี่มึงเป็นสาวเสียบเหรอเนี่ย” หนูถามพลางอ้าปากหวอ เกากะบาลแกรกๆ นึกแปลกๆ กับตุ๊ดแอ๊บที่วี้ดว้ายสาวแตกแต่อยากเสียบผู้ชาย เสียสถาบันอิ๊บอ๋าย.....
“ก็เปล่า....กูแค่มีทุกสิ่งที่คุณเลือกสรรค์แค่นั้น แต่เรื่องนี้ให้ผัวมึงรู้ไม่ได้นะ เดี๋ยวก็หาเรื่องอีก ถึงบอกว่ากูยึดคติไม่กินเพื่อนก็เถอะ พี่แม่งคงไม่อยากจะฟัง ขี้หึงโคตรพ่อ.... แล้วนี่แกหายไปไหนละเนี่ย” มันถามพลางหันซ้ายหันขวา
อีนี่แรง ผงผัวที่ไหนอีก.....
“มึงหมายถึงใคร” หนูถามเสียงเหวี่ยงๆ หน้าตูมเป็นตูด...
“ก็แล้วจะใคร พูดเหมือนมึงมีผัวหลายคน ก็อีพี่โต้ง กะต๊ากๆ ไง ไม่อยู่หรอกเหรอ ขี้หึงขนาดนั้นน่าแปลกที่ไม่อยู่เฝ้า หรือเอาโซ่ล่ามมึงไว้ เพราะกลัวแรดไปหาชายอื่น โอ๊ยยย ป่านนี้กูยังไม่หายขำเลย พอนึกถึงตอนอีพี่มหาจำเริญส่งข้อความมาหากู บอกว่ามึงมีคนใหม่แล้วให้เลิกยุ่งอ่ะ”
หนูนั่งมึนขณะฟังอีโอ๋จ้อไม่หยุด มันกำลังเล่าถึงอะไรที่หนูนึกไม่ออกเลยสักนิด บางทีออยมันคงไม่ได้บอกโอ๋ว่าหนูจำเรื่องพวกนี้ไม่ได้.... และหนูก็ขี้เกียจจะบอกมัน เพราะตอนนี้หนูอยากรู้เรื่องราวในตอนนี้มากกว่า
“ข้อความอะไร ขอดูหน่อยได้ไหม?” หนูหันไปจับแขนมันอย่างร้อนรน จนมันชะงักแล้วหยุดพูด เอามือถือออกมาให้ดู
ขอบคุณสำหรับทุกอย่างที่ผ่านมา....
แต่ตอนนี้เราเจอคนที่ใช่กว่า....
ต่อไปนี้ขอให้เราสองคนเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันนะ
ถา.... “ชื่อกูเขียนอย่างงี้?” หนูขมวดคิ้วแล้วถามมันไป
“ก็ใช่น่ะสิ พี่แกก็นะ ชื่อแฟนตัวเองยังเขียนผิดเลย แถมยังถือวิสาสะเอามือถือมึงมาทำแบบนี้โดยไม่ขออนุญาตอีกต่างหาก แต่คนที่มันน่าหมั่นไส้มากกว่าก็คือมึงอะแหละที่งี่เง่า ควรจะโกรธที่เขาส่งข้อความแบบนี้มาเพราะความไม่เชื่อใจ ที่ไหนได้ดันงอนที่เขียนชื่อผิด ประสาท...” มันว่าแล้วสะบัดหน้าพรืด
“กูงง..... ก็เป็นเพื่อนกันอยู่แล้ว ยังจะส่งข้อความไปบอกให้เป็นเพื่อนเพื่ออะไรล่ะ”
“งงอะไร? ก็เขาเข้าใจผิดคิดว่ามึงกะกูเป็นกิ๊กกั๊กกันไง ขี้หึงหน้ามืดตามัว พอคิดว่ามึงนอกใจเค้าก็ทิ้งมึงไม่เหลือเยื่อใยเลยด้วยซ้ำ วันดีคืนก็กลับมาคืนดีกันได้อีก ทีนี้นะมึงถึงกับห้ามไม่ให้กูมาหาเลย เพราะมึงกลัวเขาจะหึงมึงอีก มึงมันก็อย่างนี้ตลอดอ่ะ รักผัวมากกว่าเพื่อน...”
เป็นไปได้เหรอ? ที่หนูจะลืมไอ้โรจน์แล้วมาคบกับพี่โต้ง.... ในตอนนี้หนูยังคิดถึงมันอยู่เลย ที่หนูอยากเป็นผู้หญิงก็เพื่อมันนี่นา แล้วทำไมหนูถึงเปลี่ยนใจได้ แล้วหนูเอาไอ้โรจน์ไปไว้ที่ไหนล่ะ?
“โอ๋.....” หนูเรียกมันด้วยเสียงสั่นๆ
“ไรยะ?”
“นี่กูคบกับพี่โต้งมานานขนาดนั้นเลยเหรอ?”
“ถ้าคบแล้วไม่ได้เลิกกันก็นานนะ ถามทำไมเหรอ?”
“โอ๋......”
“ไรอีก.....” มันทำเสียงเหมือนรำคาญ
“แล้วโรจน์ล่ะ...... มันเป็นยังไงบ้าง มันเลิกกับแฟนไปหรือยัง แล้วมีคนใหม่หรือเปล่า มึงได้ข่าวมันบ้างไหม?” หนูมองหน้ามันแววตามีแววสั่นไหว เหมือนจะขอร้อง
ถ้าหนูถามออยมันก็ตอบไปอีกเรื่องนึงตลอดสุดท้ายก็ไม่รู้เรื่องอะไรเลยอ่ะ
“กูเคยบอกมึงแล้วนี่เรื่องที่มันเลิกกะนังนั่นไปแล้ว แต่ส่วนมีใหม่หรือเปล่ากูไม่ได้ตามข่าวขนาดนั้น พอดีมันไม่ใช่ไอดอลของกูอ่ะนะ อยู่ดีๆ ทำไมถามถึงมัน จำได้ว่าตอนที่กูพูดถึงมันครั้งสุดท้าย มึงไม่อยากฟังเลยนี่นา”
“ทำไมจะไม่อยากฟัง ถึงตอนนี้กูยังคิดถึง ยังอยากรู้ว่ามันเป็นยังไง ถ้าหากว่าตอนนี้มันไม่มีใคร มันอาจจะกำลังคิดถึงกูเหมือนกันก็ได้”
“อะไรของมึงเนี่ย นี่หมอเอาไรให้มึงกิน ยาลืมเขย่าขวดเหรอ....ไหนมึงบอกว่ามึงเลิกสนใจมันแล้วไง.... เพราะตอนนี้มึงมีคนใหม่แล้วดีกว่ามันหลายเท่า... ต่อให้มันกลับมาหา มากราบตีนมึง มึงก็ไม่กลับไปไม่ใช่หรือไง”
โอ๋อยู่คุยด้วยไม่นานก็กลับไป เพราะมันกลัวพี่โต้งกลับมาเจอเข้า มันไม่อยากให้หนูมีปัญหา...
หนูเองก็นึกอยากให้เขากลับมา หนูจะได้บอกขอโทษที่ไม่ยอมเชื่อสิ่งที่เขาบอกแล้วยังไล่เขาไปวันนี้.. ตลอดทั้งวันหนูเฝ้าแต่หันไปมองที่ประตูเพราะคิดว่าเขาจะมา...แต่ก็รอเก้อ....
แล้ววันนั้นพี่โต้งก็ไม่ได้กลับมาจริงๆ อย่างที่เขาพูด...
ดึกแล้ว....หนูลืมตาโพลงนอนฟังเสียงทีวีมาเข้าหูโดยที่แทบไม่ได้ใส่ใจมันด้วยซ้ำ
ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกแย่... หนูควรจะนึกสงสัยได้ตั้งนานแล้ว ถ้าหากพี่โต้งไม่ได้เป็นอะไรกับหนูจริงๆ แกจะคอยดูแลหนูตลอดทำไมตั้งหลายวัน ไหนจะมือถือ กระเป๋าเงินที่บอกว่าอยู่ที่ห้องแกอีก ทำไมหนูถึงลืมคิดเรื่องนั้นไปเสียสนิท
ไม่เข้าใจตัวเองจริงๆ เรื่องสำคัญแบบนี้ทำไมถึงลืมได้นะ....
อีกวันออยก็มาเยี่ยมอย่างที่มันเคยสัญญาไว้ ทั้งๆ ที่มันอยู่ตั้งเชียงใหม่นั่งรถตั้งหลายชั่วโมงคงจะเหนื่อย ก็ยังอุตส่าห์มา พอหนูเล่าเรื่องพี่โต้งให้ฟัง แทนที่มันจะสงสารเห็นใจ กลับหัวเราะซะงั้น
“แกเนี่ยนะทำไมซื่อขนาดนั้น บอกให้ถามเค้าก็ไม่ถาม พอเค้าบอกแกก็ไม่เชื่อ
“ก็ฉันคิดว่าเค้าเป็นคนที่แกส่งมา.... เพราะฉันไม่ลืมไอ้โรจน์ซะที แกก็เลยส่งเค้ามาทำให้ฉันลืม”
“คิดได้นะ..... ฉันจะเอาเงินที่ไหนไปจ้าง.... แล้วโลกนี้มันจะมีด้วยเหรอคนที่มาคอยดูแลเทคแคร์คนที่ไม่รู้จักได้ดีขนาดนี้”
หนูเงียบ พยายามคิดตาม.... แต่ยิ่งคิดก็ยิ่งปวดหัว หลายอย่างมันตีกันวุ่นไปหมด
“แล้วนี่พี่แกหายไปไหนล่ะ ตั้งแต่มายังไม่เห็นเลย วันอาทิตตย์ไม่มีเรียนไม่ใช่เหรอ เค้าน่าจะมาเฝ้าแกนี่”
“สงสัยจะโกรธก็เลยไม่มาแล้ว...”
“ไม่หรอก ขนาดแกตะโกนออกลั่นว่าแกรักไอ้โรจน์คนเดียว เค้าก็ยังกลับมาเลยนี่... เดี๋ยวก็คงมามั้ง”
“ออย..ถ้าเค้ามา...ฉันจะพูดกับเค้ายังไงดี จะบอกยังไงให้เค้าเสียใจน้อยที่สุด ว่าฉันจำเขาไม่ได้ แล้วก็ไม่ได้รักเขาแล้ว.. ถ้าขาหายฉันจะไปหาโรจน์...” หนูจะบอกพี่เค้ายังไงดี...ว่าหนูในตอนนี้ไม่ได้รักเค้าแล้ว หนูจำเรื่องของเค้าไม่ได้ ตอนนี้สมองของหนูมีแต่หน้าของไอ้โรจน์ลอยวนเต็มไปหมด
“ฐา... ไม่เอาน่า....” มันเรียกพร้อมกับวางมือไว้บนหลังมือหนูแล้วลูบเบาๆ
“ผู้ชายในโลกนี้ไม่ได้มีคนเดียวนะ”
“แต่....ผู้ชายที่ฉันรักมีคนเดียว.....” หนูเถียง....อย่างน้อยในตอนนี้ก็คนเดียว...
“เมื่อก่อนอาจจะใช่ แต่ไม่ใช่ตอนนี้.... ฉันไม่รู้หรอกนะว่าแกตัดใจได้ยังไงเพราะแกไม่ได้เล่า.... แต่ถ้าเป็นฉันหรือคนอื่นๆ คงตัดมันขาดไปตั้งแต่ตอนที่มันบอกให้แกเป็นผู้หญิงแล้ว.... แต่สำหรับแกมันยืดเยื้อกว่านั้น แต่ท้ายที่สุด แกก็ทำมันได้ แล้วตอนนี้แกก็มีความสุขกับความรักครั้งใหม่ของแก ไม่กี่วันมานี้เอง ก่อนที่แกจะเป็นแบบนี้แกบอกฉันว่าแกรักพี่โต้งมาก อย่าให้ฉันเข้าไปยุ่งกับความรักของแก ถ้าฉันทำให้แกเลิกกับเขาหมือนตอนไอ้โรจน์ แกจะไม่ยกโทษให้ฉันอีก รู้ไหมฉันเสียใจนะ เสียใจเพราะรู้ว่าตัวเองเจ้ากี้เจ้าการชีวิตแกโดยที่แกไม่เคยเรียกร้องต้องการ... ฉันเป็นต้นเหตุให้ความรักครั้งแรกของแกพังพินาศ เป็นคนเริ่มต้นและเป็นคนจบ แต่กับพี่โต้งมันไม่ใช่ ทุกอย่างแกเป็นคนเริ่มต้น นี่เป็นความรักที่แกเลือกเองนะ”
“อาจจะใช่ แต่ถ้าฉันจำมันไม่ได้ จะให้ทนเสแสร้งแกล้งทำเป็นรักเหมือนเดิมฉันทำไม่เป็นหรอกนะ”
“ก็ไม่ต้องแกล้งสิ พี่เค้าก็รู้นี่ว่าแกจำไม่ได้ คงไม่คาดคั้นอะไรตอนนี้หรอก ใจเย็นๆ ก่อนนะ ไม่แน่ว่าแกอาจจะไม่ได้ความจำเสื่อมตลอดไป ... ระหว่างที่ความจำยังไม่กลับมาจะศึกษาดูใจกันไปก่อนก็ได้ แกอย่าเพิ่งพูดหรือทำอะไรสิ้นคิดอย่างงั้น.... ถ้าสมมุติแกเลิกกับพี่เค้าไปวันนี้ แล้วพรุ่งนี้ความจำกลับมา ไม่แน่นะแกอาจจะต้องเสียใจไปตลอดชีวิตก็ได้”
หนูเงียบไม่ได้เถียง แต่ในความเงียบ ออยมันคงรู้ว่า ไม่ได้แปลว่าหนูเห็นด้วย เพราะนิสัยหนูเป็นคนดื้อเงียบ ถ้าหากคิดต่าง...ถึงบางทีไม่เถียงแต่ก็ไม่ทำ
ออยกลับไปสักพักหนึ่งแล้ว....ตกบ่าย.... พี่โต้งก็มา
ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทุกครั้งที่เห็นพี่โต้งมา ทำไมในมือเขาชอบมีแต่ช่อกุหลาบสีแดงสด เขาจะไม่ปลุกหนูถ้าเห็นหนูหลับ หรือถ้าตื่นอยู่ เขาก็จะจัดดอกไม้ลงแจกันจนเสร็จก่อนถึงจะหันมาคุยด้วย
หนูโล่งใจไปเปลาะหนึ่งว่าตราบใดที่ยังเห็นเขากลับมาพร้อมดอกกุหลาบแบบนี้แสดงว่าเขาไม่ได้โกรธอะไรนักหนา แม้ว่าตอนนี้จะไม่ได้รักเขาและไม่สบายใจเลยที่รู้ว่าเราเป็นแฟนกัน แต่หนูก็ไม่ได้ใจร้ายใจดำมากขนาดที่จะพูดออกไปตรงๆ เพราะรู้ว่าทำจะทำให้คนฟังเจ็บปวด....
แต่โลกก็ไม่ได้สวยงามขนาดนั้น ถ้าหากความทรงจำเกี่ยวกับเขาไม่กลับมาเร็วๆ นี้ หนูก็ยังคิดเหมือนเดิมว่าหนูจะหาทางกลับไปหาไอ้โรจน์ให้ได้... ถึงมันอาจจะไม่ดีสำหรับพี่โต้ง... แต่หนูเชื่อว่าผู้ชายแสนดีอย่างเขาจะต้องได้พบเจอผู้หญิงดีๆ ที่คู่ควรมากกว่ากะเทยบ้านนอกอย่างหนูแน่ๆ
“เมื่อคืนนอนคนเดียว นอนหลับหรือเปล่า” พี่โต้งเป็นฝ่ายทำลายความเงียบลงอีกครั้ง
หนูเริ่มรู้แล้วว่าเขาจัดกุหลาบทำไม อาจจะเป็นเพราะเขากำลังทำสมาธิ หรือคิดหาเรื่องคุยกับหนู ปรับอารมณ์ให้เย็นลงเพราะไม่ว่าก่อนที่เขาจะจากไป หนูจะพูดหรือทำอะไรไม่ดีสักแค่ไหน เขาก็จะกลับมาพูดคุย ด้วยเสียงปกติราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น แม้แต่เรื่องเมื่อวานที่หนูผลักไสสัมผัสของเขานั่นก็ด้วย
“ก็ดีค่ะ” หนูตอบแค่นั้น หนูเหนื่อยมากเกินกว่าจะหาอะไรมาตอบยาวๆ
“พี่ซื้อขนมปังมาฝากด้วยนะ” พี่เขาว่ารีบหยิบถุงขนมส่งให้อย่างเอาอกเอาใจ หนูแหงะดูถุงหิ้วบอกชื่อร้าน “ปังเว้ยเฮ้ย”
“แถวนี้มีขายด้วยเหรอคะ ขนมปังยี่ห้อนี้”
“ไม่รู้สิ พอดีพี่ซื้อมาจากรุงเทพ”
หนูเงยหน้าขึ้นมองหน้าเขา
“ไปเยี่ยมหลานมาเหรอคะ”
“ค่ะ”
หนูพยักหน้า ทีแรกหลงคิดว่าจะโกรธหนูจนไม่อยากมาหา แต่ความจริงพี่เขาก็แค่ไปเยี่ยมหลานเท่านั้นเอง
“เออ...พี่คะ... ก่อนที่หนูจะถูกรถชน เราอยู่ด้วยกันเหรอคะ” หนูถามขึ้นด้วยเสียงอ้อมแอ้ม
“นี่น้องฐา...พอจะจำเรื่องของเราได้แล้วใช่ไหม?” ในคำถามนั้นมีแววดีใจอย่างไม่ปิดบังเลย
“เปล่าค่ะ หนูแค่ลองถามเพื่อนแล้วมันบอกอย่างนั้น” รอยยิ้มของเขาจางลงกลายเป็นเศร้า ทำเอาหนูรู้สึกผิดขึ้นมาเลยที่ทำให้ผิดหวัง
“ใช่เราอยู่ด้วยกัน” เขาตอบด้วยน้ำเสียงเบาเหมือนคนหมดแรง
“ถ้าอย่างนั้น พี่พอจะเอาของอย่างหนึ่งมาให้หนูได้ไหม?”
“อะไรเหรอ?”
“ถ้าหากรูปร่างและผิวพรรณของหนูเป็นแบบนี้ แสดงว่าหนูคงจะต้องกินยาบางอย่างเป็นประจำทุกวัน พี่ช่วยเอามาให้หนูหน่อยได้ไหมคะ?”
“ยาเหรอ? นี่น้องฐาคิดอะไรอยู่ น้องฐากำลังป่วยนะ นอนโรงพยาบาลขาหัก ยังจะกินอะไรสุ่มสี่สุ่มห้าได้ยังไง”
“ไม่ใช่สุ่มสี่สุ่มห้าซะหน่อย ก็กินอยู่ตลอดนี่นา”
“ร่างกายเราน่ะกำลังฟื้นตัวนะ ถ้าแข็งแรงเมื่อไรจะได้เดินได้ไวๆ ยังจะอยากกินยาที่ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงแบบนั้นเข้าไป แล้วมันจะมีประโยชน์อะไรนอกจากทำร้ายตัวเอง รอให้ออกจากโรงพยาบาลก่อนสิแล้วกินอะไรจะไม่ว่าเลย”
“ขาหนูใกล้จะหายแล้ว อีกไม่กี่วันหมอก็จะให้ลองฝึกใช้ไม้เท้า หนูจำเป็นต้องต้องกินยานั่นจริงๆ นี่ไม่ได้กินมาเป็นอาทิตย์แล้วนะ”
“ก็ช่างมันสิ....ไม่ได้กินสักเดือนสองเดือนไม่ตายหรอก”
“ไม่ได้..ถ้าให้หนูกลับไปเป็นผู้ชายเหมือนเดิมหนูไม่เอาหรอก”
ไม่...ไม่มีทาง ต่อให้หนูจะจำอะไรไม่ได้ก็เถอะ แต่ไม่มีทางที่หนูจะเปลี่ยนแปลงไปขนาดนี้โดยไม่ได้ทำอะไรแน่ๆ ถ้าหากความพยายามเป็นปีจะต้องเปล่าประโยชน์พราะการหยุดยาไปในช่วงเวลาสั้นๆ หนูไม่มีทางยอมแน่ๆ
“เพื่อใครล่ะ? น้องฐาทำทุกอย่างไปเพื่อใคร....” พี่โต้งตะคอกถาม
“..............” หนูว่าไม่ตอบดีที่สุด ถ้าพูดออกไป พี่เขาอาจจะหัวใจวายตายเลยก็ได้....
“พี่ไม่มีทางเอาของอันตรายแบบนั้นมาให้โดยที่ไม่รู้ว่ากินเข้าไปแล้วมันจะส่งผลยังไงหรอกนะ ถ้าตีกันกับยาที่หมอเค้าให้ แล้วช็อคตายขึ้นมาจะทำยังไง” อันตรายอะไรนักหนาล่ะ? กะอีแค่ยาคุม ทำเหมือนหนูขอยากรัมมอกโซนมากินไปได้ คิดอะไรล่วงหน้าคนเดียว...ยิ่งฟังก็ยิ่งหงุดหงิด....
“ไม่ต้องทำยังไง ทุกอย่างหนูเลือกเอง ตัดสินใจเอง พี่ไม่จำเป็นต้องมาเสียใจ รู้สึกผิดอะไรทั้งนั้น หนูจะเป็นจะตายมันก็ไม่เกี่ยวกับพี่หรอก” หนูตวาดกลับไป อย่างอารมณ์เสีย เมื่ออีกฝ่ายไม่ยอมตามใจเอาของที่อยากได้มาให้
“ทำไมจะไม่เกี่ยว ในเมื่อเรา....”
“เป็นแฟนกัน?” หนูสวนกลับไปด้วยเสียงสูงทันทีทั้งที่เขายังพูดไม่จบ
“ใช่” เขาตอบกลับมาด้วยเสียงหนักแน่น วางอำนาจ
แล้วไงล่ะ? แฟนแล้วไง.... หนูจำเป็นต้องเชื่อฟังทุกอย่างเหรอ? โดยเฉพาะเรื่องใหญ่ขนาดนี้
“ถ้าหากว่าคำว่าแฟนทำให้พี่ตัดสินใจแทนหนูได้ทุกอย่างแบบนั้น.......
เลิกกันตอนนี้เลยดีไหมคะ?”
.......................
น้องฐาคะ ไหนบอกว่าไม่ใช่คนใจร้ายใจดำไง แต่คำสุดท้ายที่พูดออกมานี่ หนูใจดีมากเลยนะคะลูก
สงสารพี่โต้งจางเยย