#ญอผู้หญิงโศกา
ตอนที่ 05
เข้าใกล้อีกนิด
“มีอะไรเหรอแจ็ค?”
“ไอ้เท็นไม่รับสายน่ะ”
แจ็คขมวดคิ้วมองโทรศัพท์ ก่อนจะหันไปทางแฟนสาวซึ่งหัดแต่งคอสเพลย์เป็นครั้งที่ห้าตามคำแนะนำของเพื่อนที่บอกว่าอาจทำให้เพิ่มความกล้าขึ้นได้ แต่บลูก็ยังก้ม ๆ เงย ๆ กังวลและคิดไปว่าคนผอมเท่านั้นถึงจะดูสวย เขาไม่อยากให้เธอจมอยู่กับความคิดแบบนั้น จึงตามมาเป็นตากล้องให้เหมือนทุกครั้งจนคราวนี้เริ่มรู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงของเพื่อนที่เลือกไม่รับสาย
ท่ามกลางผู้คนมากมายที่แต่งเป็นตัวละครในการ์ตูนยอดฮิตหน้าลานมาบุญครอง แจ็คก้มลงมองมือถืออีกครั้งแต่เท็นก็ยังไม่โทรกลับ โอเค มันอาจจะเป็นวันปกติที่บางทีเพื่อนอาจจะออกไปข้างนอกกับแม่หรือหมกตัวอยู่ในห้องกับการ์ตูนกองพะเนินที่เพิ่งซื้อมา
ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยต้องคิดมาก แต่เพราะแจ็คไม่ค่อยมีเวลาว่างให้เพื่อนเหมือนอย่างเคยจึงกระวนกระวายกับเรื่องนี้อย่างบอกไม่ถูก ใช่ เขากำลังรู้สึกผิดและอยากทำอะไรสักอย่างเพื่อแก้ไข ซึ่งการทิ้งบลูไว้ตรงนี้ตามลำพังคงไม่ใช่ทางที่ควรเลือกเช่นกัน
“เท็นน่าจะเล่นเกมกับธีร์อยู่หรือเปล่า?”
“ก็อาจจะใช่” เห็นว่าช่วงนี้เริ่มคุยกันได้บ้างแล้ว และเขาก็ไม่รู้ว่าสองคนนั้นจะประคองความสัมพันธ์ลุ่ม ๆ ดอน ๆ ไปได้อีกนานสักเท่าไหร่ เพราะไอ้ธีร์เป็นคนปากไว มักจะพูดอะไรไปโดยไม่คิดซึ่งผิดกับไอ้เท็นที่เป็นคนเก็บทุกอย่างมาใส่ใจ
คนหนึ่งติดเล่นเกินไป อีกคนก็หยิบทุกอย่างมาคิดในแง่ร้ายไปเสียหมด แจ็คเคยพยายามหาตรงกลางให้เพื่อนทั้งสองคน แต่ตอนนี้เขาใช้เวลาอยู่กับแฟนมากเกินกว่าจะเชื่อมทั้งคู่ให้เข้ากันได้
ถึงสองคนนั้นจะเล่นเกมด้วยกันอยู่จริงก็ไม่ได้ทำให้แจ็ครู้สึกดีขึ้น เขาไม่อยากหาเหตุผลมาปลอบใจตัวเองว่าการติดแฟนมันไม่ส่งผลต่อคนรอบข้าง แต่ก็ทำอะไรได้ไม่มากไปกว่านี้แล้ว นอกจากรอเวลาไปส่งบลูแล้วแวะไปหาเพื่อนที่บ้าน
“ยิ้มหน่อยสิ วันนี้บลูแต่งเป็นฮารุฮิมาเพื่อแจ็คเลยนะ” เด็กสาวที่เคยมีหุ่นท้วมในวันนี้ผอมลงไปถึงห้ากิโล เธอกุมมือคนรักพร้อมช้อนตามอง แม้จะรู้สึกน้อยใจที่เห็นแจ็คใจลอยอยู่หลายครั้งแต่บลูก็ไม่กล้าพูดอะไรมากนักเพราะไม่อยากเป็นแฟนที่งี่เง่า
“ขอโทษที่ทำให้เสียบรรยากาศนะ”
“ไม่เลย บลูสิต้องขอโทษ ทั้งที่แจ็คควรจะไปเที่ยวกับเพื่อนแต่ต้องมาเฝ้าบลูแบบนี้ ขอโทษนะคะ”
“ไม่เอาไม่ขอโทษแล้วค่ะ บลูไปยืนตรงนั้นเร็ว แจ็คจะถ่ายรูปให้”
“ตรงนี้เหรอคะ?”
ไม่รู้ว่ารอยยิ้มตอนนี้จะซ่อนความกังวลไว้ได้หรือไม่ เด็กหนุ่มมองแฟนสาวหุ่นเจ้าเนื้อนิด ๆ พลางกดชัตเตอร์ ก่อนจะนึกถึงคำพูดของไอ้ธีร์เมื่อคืนนี้ที่ทำให้กังวลมากกว่าจะสบายใจ
‘ช่วงนี้มันติดสาว มึงไม่ต้องห่วงหรอก เพื่อนเรากำลังจะโตเป็นหนุ่มแล้ว’
เรื่องจริงเหรอ? เด็กหนุ่มยังคงเอาแต่คิดเรื่องนี้ อาจเป็นเพราะเท็นไม่เคยส่งสัญญาณให้รู้มาก่อน และแจ็คก็จดจำเพื่อนสนิทที่มักจะอยู่ติดเขามากกว่าจะหันไปให้ความสนใจผู้หญิงที่ไหน มันเป็นไปได้ด้วยเหรอที่เท็นคิดจะชอบใครโดยที่เขาไม่รู้เรื่องเลย
‘มันอาจจะอยากเล่า แต่ตอนนั้นมึงน่าจะอยู่กับเมียไงเพื่อน’
อืม... มันต้องเป็นไปได้อยู่แล้ว
*
การแข่งรอบแรกช่างทุลักทุเลนัก เป็นเพราะความขัดแย้งที่หาความลงตัวไม่ได้ของขี้ซุยบราเทอร์ แหลมอยากแหกปากอัดหมอนกับเกมที่ควรได้เปรียบแต่ก็เกือบพังเพราะสมาชิกจำเป็นที่ไม่เคยเชื่อฟังคนในทีมเลยสักอย่างเดียว จริงอยู่ว่าพี่เท็นเล่นได้ดี แต่นั่นก็อาจแค่กับบลูไวเปอร์หรือทีมอื่น ๆ ที่เคยเข้า ๆ ออก ๆ มาแล้วนับแสนทีมไหมล่ะ เกมนี้มันเล่นเป็นทีมนะ ลุยเดี่ยวไปคิดว่าจะชนะได้เหรอ
EarthIII: ไอ้เท็นเหมือนตัวฟรี ขยะสัส
ToyStory1: สงสารขี้ซุยฯ มีคนอีโก้หมา ๆ อยู่ในทีม คงคิดว่าตัวเองเก่งแล้ว
YOYOYO: พวกขี้ซุยกลับเกมมึงไปเหอะ ปัญญาอ่อนสัส
241774696: สันดานเดิมไม่เคยเลิกครับ 5555555555555555555
โอเค เท็นอาจจะเล่นขวางโลกเพราะอยากกวนตีนสี่คนนั้น แต่พวกในห้องแชตก็ไม่สนเลยว่าขี้ซุยบราเทอร์แทบไม่ฟังคำแนะนำของเขาเลย คนพวกนั้นอาจจะโปรอีกเกม ยอมรับก็ได้ ถึงจะไม่เคยพูดก็เถอะ แต่เกมนี้มันคนละเกมและเขาคลุกคลีอยู่กับมันมานานเป็นสิบปี เพราะงั้นขี้ซุยบราเทอร์ก็อีโก้จัดไม่ฟังเหมือนกันล่ะวะ
แต่แผนทุกอย่างก็พังไม่เป็นท่า หลังจากแพ้เกมแรกเท็นถึงได้มีเวลาพักหายใจ ชายหนุ่มเลื่อนสกรอล์เมาส์อ่านข้อความที่มีทั้งให้กำลังใจและสาปแช่ง บางคนด่าอย่างไร้เหตุผลเพราะหมั่นไส้อยู่แล้ว แต่ก็ยังมีบางคนที่ทำให้จุกอยู่ในใจไม่น้อย
‘งานนี้ไม่ได้แข่งเพื่อรางวัล แต่เป็นการเล่นเพื่อนำเงินไปช่วยเด็กยากไร้ซึ่งมันขึ้นอยู่กับจำนวนยอดโดเนท ถ้าคุณกับคนในทีมเล่นดี คนก็คงกดโดเนทเงินให้ ทำไมไม่นึกถึงจุดประสงค์ของงานหน่อยล่ะครับว่าจะจัดขึ้นมาเพื่ออะไร ทำไมถึงเอาแต่ใจหลับหูหลับตาเล่นโดยไม่สนทีมเลย?’
สุดท้ายคนผิดก็ยังคงเป็นเขา ต่างจากอีกกลุ่มหนึ่งที่ได้รับกำลังใจและคำชม ถึงจะโดนด่าบ้างแต่ก็บางตานัก คนเหล่านั้นทำเหมือนว่า TEN10 เป็นตัวแถม ซึ่งมันอาจจะได้ผลถ้าทั้งสี่คนต้องการให้เขาหัวเสีย แต่ฝั่งคู่ต่อสู้ก็ได้เปรียบเพราะสิ่งที่เป็นกันอยู่หรือเปล่าล่ะ เวรเอ๊ย เท็นกับพวกบ้านั่นมีโอกาสตีเสมอได้ในเกมนี้ ซึ่งถ้ายังเอาแต่สนใจหนทางการเล่นของตัวเอง พวกขี้ซุยบราเทอร์ก็มีแต่จะได้คะแนนน่าเห็นใจ
“มารวมกลาง กันบ้านแล้วเอาลิน่าคนแรก”
ได้ยินเสียงหลุดขำของไอ้เด็กลูกครึ่ง คงมีความสุขมากสินะที่เห็นเขาเป็นฝ่ายยอมแพ้สงครามประสาทก่อน แต่หลังจากพูดไปไม่ถึงห้าวิทุกคนยอมก็ทำตามอย่างว่าง่ายจนอดประหลาดใจไม่ได้ แต่ก็ดีไปอีกอย่างเพราะเท็นไม่อยากเถียงกับใครในสถานการณ์แบบนี้
( เอา Roshan* เปล่าเดี๋ยวกูช่วย )
*Roshan = สัตว์ประหลาดตัวใหญ่ในเกมที่ถ้าตีตายแล้วจะดร็อป Aegis ซึ่งเป็นไอเท็มที่คนได้มันไปจะสามารถเกิดใหม่ได้ทันทีหลังจากโดนฆ่า
( ได้ยินที่ถามไหม? )
( เท็น? )
“มึงคุยกับใคร กูจะไปรู้เหรอ?”
( ในทีมมีใครควรถือ Aegis นอกจากมึงอีกไหมล่ะหื้อ? )
“คราวหลังก็หัดเรียกชื่อสิ ถ้าแถวนั้นมีผีคงได้แห่เข้าบ้านมึงหมด เล่นพูดลอย ๆ แบบนี้”
1111111111111: เอาเว้ย ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ 555555555555555
FBIIBF: ตีกัน ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ 555555555555555555
Aonnaka: เออ มันต้องแบบนี้สิวะ พี่เท็นอย่าไปยอมค่ะ น้องเป็นกำลังใจให้
Thonglhor77: ประชดเก่ง กัดเก่งเป็นหมาาาา
( รีบมา เดี๋ยวกูค้ำให้ )
บรรยากาศตอนนี้ต่างไปกว่าทุกครั้ง มันทั้งหัวเสียและรู้สึกดีอยู่ลึก ๆ ซึ่งแน่นอนว่าเท็นไม่อยากยอมรับว่าอย่างหลังมันได้เกิดขึ้นจริง เหมือนว่าเขากับแจ็คยอมถอยหลังคนละก้าวโดยไม่มีใครประชดประชันกันเพื่อเอาชนะ มันเป็นช่วงวินาทีสั้น ๆ ที่ทำให้รู้สึกหายใจได้ทั่วท้องมากขึ้น
แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้อะไร ๆ ดีขึ้นมากนักนอกจากสถานการณ์ในเกม
ยอดเงินโดเนทพุ่งขึ้นสูงเรื่อย ๆ หลังจากเห็นว่าขี้ซุยบราเทอร์เริ่มตีเกมกลับขึ้นมาได้ เท็นถนัดเล่นแครี่ซึ่งเป็นตำแหน่งความหวังทีม หากตัวเขาไม่ได้เกิด ช่วงท้ายเกมน่าจะพินาศได้ง่าย ๆ
ส่วนไอ้แจ็คเล่นซัพพอร์ทห้า คอยออกของช่วยให้เขาฟาร์มง่ายขึ้นเช่น Observer Ward ที่จะทำให้มองเห็นได้ว่าใครอยู่ในละแวกนั้น ป้องกันการโดนฝั่งตรงข้ามลอบฆ่าเพื่อนร่วมทีม เป็นตำแหน่งสนับสนุนคนอื่นจนตัวตายโดยไม่ห่วงเรื่องไอเทมของตัวเอง
โซ่เล่นมิดเลน คนที่ต้องคอยกดศัตรูเลนกลาง ตำแหน่งนี้ต้องเอาอีกฝั่งให้อยู่ไม่อย่างนั้นความฉิบหายจะบังเกิด ส่วนไอ้เด็กลูกครึ่งนั่นเล่นออฟเลน คอยดันป้อมชาวบ้านและบางครั้งก็ตามไปช่วยเพื่อนตุ๋ยฝั่งตรงข้าม พี่ตั้บเป็นซับพอร์ทสี่ที่ช่วยแจ็คซื้อของซัพทีมเช่นกัน แต่ตำแหน่งนี้จะมีของใส่ตัวมากกว่าซัพพอร์ทห้าหน่อย
สุดท้ายขี้ซุยบราเทอร์ก็ตีเสมอขึ้นมาได้จากเกมที่สอง
หลายคนกรีดร้องหา Thr33Gamer ขวัญใจชาวบ้านแม้ว่าไอ้เวรนั่นจะไม่ใช่ดาวประจำเกมนี้ แต่เป็นเพราะทีมมันอยู่ที่นี่ เขาจึงโดนค่อนแคะอยู่ตลอดรายการ แต่ถึงอย่างนั้นเท็นก็พาขี้ซุยบราเทอร์ผ่านรอบแรกไปได้อย่างขาดลอยในเกมสุดท้าย
พอลดทิฐิไม่ทะเลาะกัน การคว้าชัยชนะก็ไม่ใช่เรื่องยาก ถึงจะกระดากปากเวลาพูดคุยปกติอยู่บ้างแต่ถ้าแกล้งทำเหมือนไม่คิดอะไรก็คงไม่ต้องอายใครทั้งนั้น คำชมส่วนใหญ่ถูกเทไปให้เด็กพูดจาสุภาพและเล่นอย่างสุขุม ไหนจะการซัพพอร์ทของไอ้แจ็คซึ่งทำให้แฟนเกม DotA ถึงกับพากันยุให้ย้ายมาแข่งเกมนี้
เท็นกดออกเกมขณะที่ทุกคนกำลังคุยกับแฟน ๆ ในห้องแชตหลังแข่งจบ เขาบิดขี้เกียจพลางเขย่ากระป๋องน้ำอัดลมที่ดื่มหมดไปตั้งแต่ครึ่งเกมแรก จึงลุกไปเปิดตู้เย็นเปิดฝากระดกใหม่แล้วเรอเสียงดังจนหมาสะดุ้งตื่น
“อะไร แค่นี้ขวัญอ่อนเหรอ?” พี่ซันไม่ได้เข้าใจสิ่งที่เขาพูด เจ้าขนทองยิ้มลิ้นห้อยเดินเข้ามาหาเขาพร้อมสั่นหางราวกับมันเข้าใจว่าประโยคเมื่อครู่เป็นการชวนเล่น
“เมื่อกี้พ่อเพิ่งพาทีมกากชนะ พูดมาซิว่าพ่อพี่ซันเก่งที่สุด” เขาพูดลอดเสียงไรฟันอย่างมันเขี้ยวพลางฟัดหอมขนสีทองของลูกรักแล้วลุกไปคว้าผ้าขนหนูเตรียมอาบน้ำ มันคงดีถ้าหากว่าเขาจะนอนใช้ความคิดในอ่างเงียบ ๆ แล้วปล่อยให้เรื่องวิเคราะห์เกมเป็นหน้าที่ของคนเก่งในช่องแชต
RRRrrrrr!!!
แค่สิบวิเท่านั้น... เท็นหายใจเข้าลึก ๆ แล้วภาวนาว่าขอให้เป็นใครสักคนบนโลกยกเว้นผู้ใหญ่ใจดีที่คงโทรมาเยินยอแล้วปิดท้ายด้วยการขอให้เล่นแบบที่ต้องการในรอบถัดไป กระแสสังคมน่าเบื่อแค่ไหน คงไม่มีใครเข้าใจมันดีเท่าเขาอีกแล้ว
โทรเข้า...
‘0909xxxxxx’
ใคร?
“ครับ?”
( ... )
คนในสายไม่ได้กล่าวทักทายจนชวนคิดไปว่าคงโทรผิด เท็นขมวดคิ้วพลางละโทรศัพท์ออกมาดูเบอร์แล้วเอาแนบหูอีกครั้ง “ถ้ายังไม่พูดผมจะวางแล้วนะ”
( เดี๋ยว )
ชายหนุ่มหยุดยืนอยู่หน้าห้องน้ำพร้อมผ้าขนหนูที่พาดอยู่กับท่อนแขน เขาไม่ได้จำเสียงนั้นได้ดีหรือว่าอะไรหรอกนะ ถ้าไม่ติดที่ว่าเพิ่งมีปากเสียงกันเล็ก ๆ น้อย ๆ ไประหว่างเล่นเกม ให้ตายสิวะ ไอ้แจ็คโทรมางั้นเหรอ ฟ้าจะผ่าลงกลางหัวไหม วันนี้พยากรณ์อากาศว่าไงบ้าง?
( พี่ต๋องให้เบอร์มึงมา เขาบอกว่ากูกับมึงควรโทรคุยกันเรื่องรอบหน้าไว้บ้าง )
“อ่าฮะ แล้วไงต่อ?”
( นี่เบอร์กู จะเมมไม่เมมก็ได้ มันจำง่ายอยู่ เริ่มต้นด้วยศูนย์เก้าศูนย์เก้า เผื่อมึงนึกออกว่าเกมหน้าอยากให้ใครเล่นตัวไหนพวกกูจะได้ไปซ้อมกัน )
พวกกูเฉย... TEN10 ก็เป็นหนึ่งในทีมเหมือนกันนะเว้ย อย่างน้อยก็ในงานนี้
“แหม่ ทีงี้ทำเป็นเห็นหัวกู” เขายืนพิงกับผนังพลางล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกง ถึงจะรู้ว่าเปล่าประโยชน์แต่การรู้สึกว่าชนะมันก็เยียวยาช่วงโดนทุกคนเหยียบระหว่างเล่นเกมได้บ้าง
( วันนี้ได้แสนสองเพราะคนถูกใจที่เราทะเลาะกันแต่ก็ยังชนะ )
“แต่แสนสองนั่นมึงก็ไม่ได้แตะสักบาท แคร์ทำไมวะ?”
( ถ้าเกมหน้าเราทะเลาะกันแล้วก็ชนะด้วยมันก็อาจจะได้มากกว่าแสนสอง พอถึงตอนนั้นเด็ก ๆ คงได้ทุนมากขึ้นอีก )
“พ่อพระอะไรขนาดนั้น?” เท็นจิ๊ปากรัวพลางส่ายหน้าหน่าย ๆ อันที่จริงไม่ใช่เรื่องที่ต้องแปลกใจด้วยซ้ำเพราะนิสัยไอ้แจ็คเป็นคนมีน้ำใจอยู่แล้ว แต่ก็ไม่คิดว่าจะลงทุนมาทะเลาะกันเพื่อยอดเงินแบบนี้
( กูไม่ได้พ่อพระ แต่กูรู้ว่าแสงสว่างมันหน้าตาเป็นยังไง )
“...”
( มึงจะมองกูยังไงก็ได้ แต่เงินโดเนทที่มากขึ้นก็มีแต่จะให้โอกาสคนได้มากกว่าเดิม )
“เออ รู้แล้ว เดี๋ยวเกมหน้ากูจะโชว์เทพจนพวกมึงหงอไปเลยเป็นไง?” เขาพูดตัดรำคาญกับเรื่องที่เพิ่งเปิดใจยอม อันที่จริงก็อยากได้ยอดโดเนทเยอะ ๆ เหมือนกันนั่นแหละ เขาก็รักเด็ก แค่ไม่เคยบอกให้ใครรู้
แค่ถ้าเป็นเมื่อก่อนไอ้แจ็คจะพูดไงนะ?
‘ทำบุญกันเหอะ สงสารเขา’
ตอนที่พูดก็คว้าข้อมือเขาแล้วเขย่าเบา ๆ ไปด้วย สุดท้ายคนที่ฟังแต่เพื่อนเสมอมาก็อมยิ้มแล้วพยักหน้าตกลงอย่างไม่มีข้อกังขาใด ๆ
( ความจริงกูไม่ได้อยากโทรมาหรอก แต่เห็นมึงออกจากห้องทั้งที่ยังไม่ได้ตกลงกันว่าเกมหน้าจะเอายังไง ว่าแต่มึงมีแผนบ้างไหม? )
“กูเห็นพวกมึงคุยกับแฟนคลับอยู่ก็เลยไม่รู้ว่าจะอยู่ไปเพื่อไร ส่วนเรื่องแผนกูยังไงก็ได้ มึงลองว่ามาสิ ถ้าอันไหนไม่เวิร์กกูจะได้เบรกไว้ตั้งแต่ตอนนี้”
( แผนเหรอ... )
แจ็คเงียบไปใช้ความคิด เขาจึงเดินเข้าไปเปิดน้ำในอ่างแล้วกระดิกนิ้วเรียกแมวผีที่นั่งมองทุกการกระทำอยู่บนฝาชักโครก ซึ่งแน่นอนว่ามันแค่มองเหยียดแล้วกระโดดหนีไป
( มึงทำอะไรอยู่ เหมือนได้ยินเสียงน้ำ เยี่ยวเหรอ? )
“ก็แย่ละ กูจะอาบน้ำ”
( โอเค งั้นอาบเลย ถ้าทำธุระเสร็จแล้วก็โทรมาหรือไม่ก็ทักแชตสตรีมก็ได้ กูแสตนบายอยู่หน้าคอมจนถึงตีสอง )
“ไลน์ล่ะ?”
( หะ? )
ได้ยินเสียงวิ้งก้องอยู่ในหูกับคำพูดที่หลุดออกไปก่อนสมองจะยั้งไว้ได้ เท็นรู้สึกว่าสองมือเริ่มเย็นเพราะสิ่งที่โพล่งออกไป หากอีกฝ่ายสวนกลับมาในเชิงที่ชวนทำให้อับอาย เขาก็คงต้องหาทางแถให้ได้ถ้าไม่อยากเสียฟอร์ม
“ไลน์ไง กูเคยบอกมึงแล้วใช่ไหมว่าเราควรแอดกันไว้” นึกถึงการเผชิญหน้ากันในห้างตอนวันคริสต์มาสปีก่อนเมื่อตอนอยากลากโซ่เข้าบลูไวเปอร์ อยากรู้นักว่าอีกฝ่ายจะมีสีหน้าอย่างไรหลังจากได้ยินคำถามนี้อีกครั้ง จะมึนตึงอย่างรำคาญใจแล้วมองมาด้วยแววตาที่มีให้คนแปลกหน้าเท่านั้น แบบนั้นน่ะ เขาคิดถูกแล้วใช่หรือเปล่า?
( เดี๋ยวส่งให้ทางข้อความ )
เท็นแลบลิ้นกวนกับคำตอบที่น่าพอใจพลางละโทรศัพท์ออกมาดู ก่อนจะชิงวางสายไปโดยไม่บอกอีกฝ่ายสักคำ มันคงดีกว่าถ้าจะปล่อยให้ไอ้แจ็คสบถด่าบ้างหลังจากคุยกันดี ๆ มาเกินห้านาทีแล้ว ใช่ เขาทำตัวไม่ถูก โอเคไหม เมื่อกี้มันทั้งดีและแย่ แต่จากอารมณ์เนือย ๆ ที่เป็นเส้นตรง อยู่ ๆ ทุกอย่างก็พุ่งเป็นกราฟหุ้น ซึ่งมันคงมาจากรอยยิ้มเล็ก ๆ ที่แต่งแต้มบนใบหน้า
รอยยิ้มจากคนที่เคยทำให้มันหายไป
*
เด็กวัยรุ่นชอบงานโรงเรียนอยู่แล้ว เท็นหมายถึงคนที่มีหน้าตาในสังคมนั้น ๆ ไม่ใช่พวกโนเนมที่พอหันไปแล้วก็ต้องขมวดคิ้วเพราะไม่รู้จัก ซึ่งเขาคือหนึ่งในประเภทหลังที่ถูกส่งชื่อให้ขึ้นแสดงโชว์กีตาร์
ไม่มีใครอยากมาดูหรอก เท็นไม่ใช่คนดังในโรงเรียนที่ใคร ๆ ก็อยากมาจับจองแถวหน้า แต่ทุกอย่างมันผิดถนัด เพราะทันทีที่ถือกีตาร์ออกมาจากม่านเพื่อขึ้นโชว์แรกของวัน เด็กหนุ่มก็ต้องเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อสายตาเพราะข้างล่างมีนักเรียนยืนส่งเสียงเชียร์อยู่เต็มไปหมด
‘เรามักจะมองเห็นคนสำคัญก่อนเสมอ’
ใครสักคนเคยพูดไว้ เท็นไม่เคยเชื่อกระทั่งเขาเห็นเจ้าของผมสกินเฮดที่ยืนถือกล้องวิดีโออยู่ท่ามกลางนักเรียนมากมาย ไหนจะมีไอ้บ้าหอบฟางอีกสองสามคนกระโดดโลดเต้นอยู่ด้านหลังพร้อมชูป้ายชื่อเขา วันนี้ไอ้ธีร์มันดีด โดนไอ้แจ็คจ้างมาหรือไงก็ไม่รู้ แต่ภาพเหล่านั้นก็เรียกรอยยิ้มออกมาได้ง่าย ๆ เลยทีเดียว
เท็นไม่ได้เป็นคนมีความมั่นใจ แต่อยู่ ๆ ความรู้สึกเหล่านั้นก็อัดแน่นเต็มอกเพียงเพราะเห็นแจ็คละสายตาจากกล้องพร้อมส่งเสียงเชียร์ อีกทั้งยังชูนิ้วหัวแม่มือให้และตอนนั้นเขาอ่านจากริมฝีปากได้ว่า
‘หล่อ!!! ที่!!! สุด!!!’
“หล่อเหี้ยไรล่ะ...” เท็นยิ้มพลางพึมพำกับความบ้าบอของเพื่อนสนิท หลายวันที่คุยกันน้อยกว่าพนักงานแลกเหรียญบีทีเอส เขาคิดว่าอีกฝ่ายคงอยากทำให้บรรยากาศมันดีขึ้น ซึ่งก็ได้ผล
“เพลงนี้เป็นเพลงที่ผมกับเพื่อนชอบร้องด้วยกัน แล้วมันก็อยู่ตรงนั้น ทุกคนรู้จักแจ็คใช่ไหมครับ?” สิ้นสุดคำถาม เด็กหนุ่มสาวก็ส่งเสียงจนฟังไม่ออกว่าพูดอะไร
เจ้าของผมสกินเฮดโดนหันไปให้ความสนใจ และเท็นไม่รู้ว่าที่พูดไปนั้นสมควรแล้วหรือไม่ มันจะเป็นการรื้อความหวังว่าทุกอย่างจะกลับไปเป็นเหมือนเดิมไหม เพราะก่อนหน้านี้ก็เหมือนจะดีขึ้นแล้วหลังจากพยายามไปมีชีวิตในแบบของตัวเอง ถึงจะทุลักทุเลและไม่สนุก แต่อย่างน้อยก็ทำให้เขาไม่ต้องเอาใจตัวเองไปผูกอยู่กับเพื่อนตลอดเวลา
ถ้าแจ็คกลับมาใช้เวลาอยู่ด้วยกันเหมือนเดิมแค่วันเดียว พรุ่งนี้จะรู้สึกแย่หรือเปล่า?
“อยากขึ้นมาร้องด้วยกันไหม?”
ไม่ควรเลย ถ้าหลังจากนี้มันหายหัวไปอีกใครคงเซ็งหนักแน่ ๆ เท็นไม่ควรขายฝันให้ตัวเองกลับไปเป็นหมาหัวเน่าเที่ยวควงสาวแล้วปิดท้ายในม่านรูด แต่ไอ้เวรนั่นก็ดันฝากกล้องไว้กับไอ้ธีร์แล้วพูดอะไรสักอย่างก่อนจะแทรกผู้คนขึ้นมา ซึ่งเขาก็ขยับขาไมค์ให้คนข้าง ๆ ได้ร้องเพลงคู่กับกีตาร์ตัวโปรดที่ไปซื้อด้วยกัน
“เย็นนี้ไปกินกล้วยกล้วยกัน”
“ดูหนังด้วย”
“สองเรื่องเลยเป็นไง?”
“ค่อยน่าฟังขึ้นมาหน่อย”
ทั้งคู่คุยกันทั้งที่สายตาทอดมองไปยังผู้คนข้างล่างเวที แม้จะมองไม่เห็นอีกฝ่าย แต่เขากลับรับรู้ได้ว่าตอนนี้แจ็คก็คงยิ้มอยู่เหมือนกัน
“กูขอโทษนะ”
“เลอะเทอะ ร้องเพลงให้เพราะเท่าเสียงกีตาร์กูก่อนแล้วค่อยว่ากัน”
เด็กหนุ่มสองคนยิ้มขำก่อนเสียงกีตาร์จะเริ่มบรรเลง ตามด้วยเสียงคุ้นหูที่ทำให้รู้สึกเหมือนได้กลับบ้านอีกครั้งหลังจากเดินหลงอยู่ในป่าทึบ บ้านหลังนี้ที่ให้ความรู้สึกปลอดภัย อบอุ่น และเป็นตัวเองได้ถึงที่สุด ซึ่งเท็นหวังว่าแจ็คจะคิดอย่างนี้
“แต่ก่อนแต่ไรเข้าใจ~ ว่าการเป็นคนรัก คือเรียนรู้กันและกัน~”
ถึงจะไม่เท่ากัน แต่ขอให้มีสักเศษเสี้ยวบ้างก็ได้
ในเมื่อเพื่อนพยายามขนาดนี้ เท็นเองก็จะพยายามทำตัวให้ดีขึ้นเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายเป็นกังวลเหมือนกัน ‘ทุกคนมีเรื่องส่วนตัวทั้งนั้น’ วันนี้เท็นเข้าใจดีแล้ว
“แต่ถ้าใครคนหนึ่งไม่ใช่ตัวจริง~ ก็คงต้องจากกัน เหมือนดังเรื่องเธอกับฉัน~~~”
เข้าใจทุกอย่างเป็นอย่างดีเลย
*
‘เธอบอกเหตุผลที่หยุดความรักระหว่างฉัน~ เพราะเธอไม่รู้ว่าจะรักเขามากกว่าไหม~~’
เปิดเพลงคลอไปกับเสียงองค์ประกอบในเกมซึ่งยังคงขับเคลื่อนอยู่ทุกวินาทีที่ควบคุม งานแข่งการกุศลสายแรกจบไปแล้วและขี้ซุยบราเทอร์สามารถต่อลมหายใจไปวีคหน้าได้ ดังนั้นช่วงระหว่างอาทิตย์แจ็คจึงพอมีเวลาฝึกเล่นเงียบ ๆ ระหว่างบอสไม่เข้าออฟฟิศและตอนเลิกงานแล้ว
( แจ็คพี่มาถึงหน้าแล้ว ออกมาได้เลย )
“โอเคพี่ เดี๋ยวผมขอเก็บของสามนาที”
โชคดีที่ทีมกำลังจะชนะแล้ว แจ็คจึงกวักมือเรียกรุ่นน้องโต๊ะข้าง ๆ ให้มาช่วยเล่นระหว่างหันไปคว้ากระเป๋าเป้ที่มีของจำเป็นทุกอย่าง วันนี้ผู้ใหญ่ใจดีมารับไปกินข้าว ไอ้คนที่หูผึ่งเพราะเรื่องเงินบริจาคให้เด็กยากไร้จึงตอบรับเพราะไม่มีเหตุผลอะไรให้ปฏิเสธ
ถ้าให้พูดพี่ต๋องก็คงเหมือนพี่ชายอีกคนที่ไม่ควรหักหน้าด้วยการปฏิเสธ แจ็คไม่ใช่คนโดดเด่นในสังคมเกมเมอร์ แต่ถ้าเป็นเรื่องเกรงอกเกรงใจชาวบ้านเขาค่อนข้างมั่นใจเลยว่าโดดเด่นกว่าใคร
“พี่แจ็คจะกลับมาอีกปะ?”
“กลับดิ มึงเอาไรเปล่า?”
“ไม่เอา แต่พี่ไม่เอารถไปเหรอ?”
“วันนี้มีคนมารับน่ะ”
“เย้ยยยยยยยยย สาวใหญ่จากแถวไหนว้า?!!!” ฝ่ายปั้นโมเดลชะโงกหน้าแซวตามประสาคนขี้เสือก ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นจริงก็คงตอบขิง ๆ ได้ แต่นี่มันใช่เสียทีไหนกันล่ะ
“สปอนเซอร์รับไปกินข้าวเฉย ๆ พี่ ถ้ามีเมียเมื่อไหร่จะตะโกนบอกให้ได้ยินไปถึงปากซอยเลย” คนฟังหลุดขำพรืดกับความจริงที่ไม่ชวนให้ตื่นเต้นเอาเสียเลย ไอ้แจ็คก็ยังเป็นไอ้แจ็ค ไม่เคยมีเรื่องสาวเข้ามายุ่งเกี่ยวตั้งแต่ชาติไหน ตอนนี้ก็ยังแห้งเหี่ยวเหมือนเดิม
“งั้นผมยืมมอไซค์ไว้ได้เปล่าพี่ อีกชั่วโมงนึงผมว่าจะแวะไปซื้อข้าวอะ คืนนี้กะจะอยู่ยาว”
“เอาดิ เติมน้ำมันให้กูด้วยล่ะ” เขาตบบ่าไอ้ซื่อบื้อปุ ๆ แล้วเดินออกไปจากตรงนั้น ทิ้งให้เด็กมันนั่งงงตาแตกกับค่าน้ำมันซึ่งเขาเติมไว้เต็มถังตั้งแต่เมื่อเช้าแล้ว
พอไปถึงรถผู้ใหญ่ใจดีก็ยิ้มรับอย่างเป็นมิตร แจ็คไม่ใช่คนเอาใจเก่งอะไรขนาดนั้น แต่ถ้าพี่ต๋องอยากแนะแนวทางการเล่นเกมหน้าเพื่อยอดโดเนทแจ็คก็พอทำให้ได้อยู่
ทั้งคู่ยังไม่ได้เข้าเรื่องประเด็นหลัก บทสนทนาบนรถโดยรวมแล้วเป็นเรื่องอาชีพผู้พัฒนาเกมควบนักกีฬาอีสปอร์ตจนเกิดคำถามว่า ‘ทำหลายอย่างแบบนี้จะมีเวลาให้แฟนเหรอ?’ ซึ่งคนถูกถามก็ได้แค่ยิ้มแล้วบอกว่า
‘ถ้าเจอคนที่ชอบจริง ๆ ผมจะเอาเวลานอนนั่นแหละไปให้เค้า’
เซนทรัลเวสต์เกตคือเป้าหมายของวันนี้ จะว่าไปแจ็คก็ไม่ได้กินอาหารขึ้นห้างมาสักพักใหญ่แล้ว ระหว่างเดินออกลานจอดรถจึงนึกถึงครอบครัวที่กินอะไรง่าย ๆ อยู่ทุกวัน ไม่ค่อยได้สังสรรค์มื้อใหญ่ อืม... ศุกร์นี้เอ็มเคท่าจะดี แม่กับน้องชอบกินเป็ด
“...”
แต่พอไปถึงร้านอาหารก็ต้องชะงักฝีเท้าเมื่อพบว่าคนที่นั่งอยู่ด้านในนั่นคือหมาบ้าที่ฟลัดสติ๊กเกอร์ใส่ในไลน์เป็นร้อย ไอ้หน้าวอกหัวเทานั่นเห็นเขาแล้ว และพี่ต๋องคงรู้มาก่อนถึงได้โบกมือตอบโต้มันพร้อมดันหลังเขาเข้าไปด้วยกัน
“พี่น่าจะบอกผมหน่อย”
“อ้าว พี่เห็นว่าคุยไลน์กันได้แล้วก็เลยคิดว่าอะไร ๆ จะดีขึ้นแล้วซะอีก เอาไงวะ แยกโต๊ะไหม เดี๋ยวพี่ไปนั่งกับแจ็คเอง” กดดันด้วยสีหน้าคนดีแล้วจะทำอะไรได้ แจ็คยิ้มอย่างแห้งพลางเสยผมที่ปรกใบหน้าก่อนจะถอนหายใจหนัก ๆ
“ไม่เป็นไรพี่ ผมคุยกันได้ แต่เมื่อเช้ามันกวนตีนผมเฉย ๆ”
“เท็นมันก็งี้แหละน่า” พี่ต๋องหรี่ตายิ้มพลางตบหลังคนอายุน้อยกว่า ก่อนทั้งคู่จะนั่งลงฝั่งตรงข้ามไอ้คนแต่งตัวจัด
“วันนี้สระผมมาเหรอ สลวยมาแต่ไกลเลย” คนถูกแซวไม่ขำด้วย ทั้งคู่สบตากันท่ามกลางเสียงพนักงานต้อนรับ เพราะสงครามสติ๊กเกอร์หน้าโง่นับร้อยที่เกิดขึ้นหลังจากที่เขาบอกว่า ‘กูไม่ชอบแจ้งเตือนไลน์เยอะ ๆ’
“สั่งข้าวก่อนแล้วค่อยตีกัน”
แจ็ครวบผมแล้วมัดด้วยยาง ขณะที่คนนั่งฝั่งตรงข้ามทำท่าเกลียวผมล้อเลียน ซึ่งเขาก็เอามือถือขึ้นมาไถเล่นแสร้งเป็นไม่สนใจ และการทักไปหาเพื่อนพระก็ดูจะเป็นหนทางที่ฉุกละหุกฉิบหาย
jjack: พระธีร์ สวดมนต์ให้อ่านหน่อย
บุตรแห่งวันเพ็ญ: เอาบทไหน กุสลาธัมมาเลยปะ สวดเสร็จเข็นหลวงพี่เข้าเมรุเลย
TUBTUBZA: ไอ้แหลม ไอ้เด็กเหี้ย พี่มึงบวชอยู่นะ!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
THREE: จริง ให้เกลียดกันบ้าง
TUBTUBZA: เกียจพอไหม
Derya MK12: จริง ๆ ต้องเกียรติแบบนี้ครับพี่ตั้บ...
บุตรแห่งวันเพ็ญ: 555555555555555555555555555555555
TUBTUBZA: อ้าวเหรอ ขอโทษที่ตอนเป็นเด็กโดดเรียนไปแว๊น
jjack: เร็ว ๆๆๆๆๆ บทอะไรก็สวดมา ตอนนี้มือสั่นแล้ว
THREE: นะโมตัดสระ สองร้อยหะโต ถ้าไดร์หนีบด้วยก็โกไปปากซอย
TUBTUBZA: แหลม กูว่ามึงมาด่าต่อเถอะ
บุตรแห่งวันเพ็ญ: มารศาสนา
Derya MK12: โซ่บอกแล้วใช่ไหมครับว่าอย่าลากโซ่กลับกรุ๊ปนี้ เนี่ย รู้สึกบาปไปด้วยเลย
(ต่อด้านล่างนะคะ)