ต่อจาก 30%
ผมหันมองประตูก่อนจะลุกขึ้นเดินไปรอหลังจากได้ยินเสียงรองเท้าหยุดยืนอยู่หน้าห้อง ก่อนที่ประตูจะเปิดอ้าออก ปรากฎร่างของพี่ตุลย์ที่เบี่ยงตัวให้พี่ทอฟ้าซึ่งจูงมือที่หนึ่งอยู่นั้นเข้ามาก่อน
แกร๊ก
“โอ๊ะ...มายังไง ถึงครบพ่อแม่ลูกอย่างนี้เนี่ยครับ”
ส่วนผมก็ประมาณเมียน้อยอุ้มลูกของตัวเองไว้เหมือนกัน
“มาดักรออยู่ใต้คอนโดฯ” พี่ตุลย์ตอบ แม้จะโดนพี่ทอฟ้าตวัดสายตามาให้ก็ดูไม่ค่อยสนใจสักเท่าไหร่ ผมก็ทำได้เพียงแค่ยิ้มแหะๆ กับภาพครอบครัวร้าวๆ ที่ไม่น่าดูนัก
“อา เอ่อ มาที่นี่หลังเลิกงานได้แล้วหรอครับ?”
“วันนี้ฉันมีธุระจะคุยกับพี่ตุลย์เป็นพิเศษน่ะ”
“อ๋อ เหรอครับ”
“แม่ๆ แม่กินข้าวหรือยังครับ? กินข้าวกับที่หนึ่งก่อนไหม?” ที่หนึ่งกระตูกเสื้อแม่ตัวเองยิกๆ นอกจากสายตาที่เป็นประกายแล้ว เหมือนผมจะเห็นเสงวิบวับๆ ลอยอยู่รอบตัวมันด้วย
แต่ก็อย่างว่าแหละ ก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้เจอ พอพี่ทอฟ้ามาที่นี่ได้ ส่วนใหญ่ก็สวนกับที่หนึ่งทุกที
“มีอะไรให้แม่กินบ้างละครับ?”
“วันนี้มีแกงจืดครับ ป้าสร้อยเอามาให้เมื่อตอนเที่ยง” ผมเป็นฝ่ายตอบ ขยับตัวหลบให้สองแม่ลูกเดินร่าเริงเป็นอาราเล่เข้าไปในห้องครัวก่อนจะเดินอุ้มตอนต้นไปหาพี่ตุลย์ที่กำลังกางแขนรออยู่
กระโจนตัวเองใส่แทนได้ไหมเนี่ย~
ทำได้แค่คิดครับ สุดท้ายก็ยื่นตอนต้นให้นั่นแหละ เอาจริงๆ นะครับ ช่วงนี้ผมกับพี่ตุลย์แม่งไม่มีเวลาส่วนตัวเลยอะ พอพี่ตุลย์กลับบ้านมา ก็เลี้ยงพวกเด็กๆ แทนผม ส่วนผมก็อ่านหนังสือกว่าจะเลิก พี่ตุลย์ก็หลับไปแล้วทุกที พอตื่นมาพี่ตุลย์ก็ไปทำงาน ผมก็วุ่นกับเลี้ยงเด็กต่อหรือไม่ก็ไปเรียน นี่สินะ ที่เป็นปัญหาว่าทำไมคนเราพอมีลูก ชีวิตคู่ก็เหมือนจะหายไป
เฮ้ออ
“พ่อกินข้าวด้วยไหมอะ?”
“กินเลยๆ พ่อกินมาแล้วครับ” พี่ตุลย์ตะโกนตอบกลับไป
“กินแล้วจริงดิ?” ผมเลิกคิ้วทำหน้ากวนๆ รู้อยู่ครับว่าไอ้พี่ตุลย์ยังไม่กินข้าวเย็นมาหรอก ก็ปกติเขาจะกลับมากินพร้อมผมนี่หน่า
“หึ โกหกน่ะ กลัวคนแถวนี้จะเห็นภาพบาดใจ”
ผมกอดอก “ขอโทษด้วยนะครับ ที่พี่สอยได้คนไม่งี่เง่ามา เห็นภาพพ่อแม่ลูกนั่งกินข้าวด้วยกัน ผมไม่นั่งร้องไห้หรอก บอกเลย” ส่งเสียงหึไปด้วยสองที
“หรอ แล้วถ้าเกิดลูกอยากเห็นพี่ป้อนข้าวให้ฟ้าเงี่ยละ?”
“เฉยๆ มีเจ็บกว่านี้ปะ” พร้อมทำหน้าตาแบบมะเฟืองเอง
“แล้วถ้าที่หนึ่งบอกให้หอมแก้มละ?”
“...เฉยๆ มีเจ็บกว่านี้ปะ ไม่เป็นอะไรเลยครับ”
“แล้วถ้าเป็นจุ๊บละ?”
“...” ผมเงียบยาว ยิ่งไอ้พี่ตุลย์เห็นว่าไม่ตอบ ก็ยิ่งทำหน้าเหนือใส่ อยากจะบอกแม่งไปเลยว่า เฉยๆ แต่ทำจริงขึ้นมานี่ก็มีพีคกันบ้างละครับ พี่ตุลย์ยิ่งใช่ว่าจะคาดเดาอะไรได้
“ว่าไง?”
“โอ๊ย หิวข้าว พี่ไม่กินช้ะ? เดี๋ยวผมไปกินเอง บาย”
ผมหันหลังเดินเข้าครัวแม่ง ตักข้าวๆ ตักแกงๆ มานั่งกินเป็นพ่อแม่ลูกแทนซะเลย พอเหลือบมองพี่ตุลย์ก็เห็นกำลังท่าทางอารมณ์ดีเดินอุ้มตอนต้นเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องนอน
เห็นผมเถียงไม่ได้ละมีความสุข!
หลังจากกินข้าวเสร็จผมก็มาล้างจานส่วนที่หนึ่งกับพี่ทอฟ้าก็นั่งดูการ์ตูนด้วยกันอยู่หน้าทีวี ตอนต้นกำลังเดินเล่นอยู่ในครัวป้วนเปี้ยนอยู่แถวๆ ตัวผมเนี่ยแหละ
ที่จริงแล้วพี่ทอฟ้าก็อาสาจะมาช่วยผมล้างจานอยู่เหมือนกันนะครับ แต่พอดีมีเด็กขี้หวงกีดกันเอาไว้ไม่ให้แม่ตัวเองพบรักใหม่ครับ อิอิ ก่อนหน้านี้ที่นั่งกินข้าวอยู่ด้วยกัน ผมก็เผลอพูดหยอกไปตามภาษาที่ฝั่งแน่นอยู่ในสายเลือด ที่หนึ่งนี่หัวฟัดหัวเหวี่ยง ประมาณว่าเคยเป็นเพื่อนรักกันมากแค่ไหน แต่ตอนนี้เอ็งกับข้าเป็นศัตรูประมาณนั้น (จะแทนว่ากูกับมึง ผมว่าแม่งดูโหดสัดไปหน่อย)
อ่า...ส่วนไอ้พี่ตุลย์
แกร๊ก
เขาว่าพวกแก่ๆ นี่หนังเหนียว ตายยากครับ เผลอคิดปุ๊บ เปิดประตูโผล่มาปั๊บ
“พี่...”
“พี่ตุลย์” เสียงเรียกของผมโดนกลบด้วยเสียงเรียกของพี่ทอฟ้าที่อยู่ใกล้มากกว่า “ฟ้ามีเรื่องจะคุยด้วย”
พี่ตุลย์ไม่ได้พูดอะไรตอบเพียงแค่เดินเข้ามาในครัว เปิดตู้เย็นกินน้ำโดยมีพี่ทอฟ้าเดินตามหลังมา
“มีเรื่องอะไรก็พูดมา”
“พูด...ตรงนี้หรอ?” พี่ทอฟ้าถามเสียงลังเล มองผมแล้วก็มองลูกของตัวเองคล้ายจะบอกกลายๆ ว่าไม่อยากจะให้ผมแล้วก็ที่หนึ่งได้ยินเรื่องที่กำลังจะคุยกัน
“งั้นก็ไปคุยกันในห้องนอน”
“อะ โอเค เอางั้นก็ได้”
“เดี๋ยวสิ...”
พรึ่บ!
ผมพุ่งเข้ามาขวางคนทั้งคู่ที่กำลังเดินเข้าไปในห้องนอน พี่ทอฟ้ากับพี่ตุลย์ตกใจไม่น้อยที่อยู่ดีๆ ผมก็โผล่มา แต่อย่าว่าแค่พวกเขาเลยครับ ผมเองก็ตกใจเหมือนกันที่อยู่ดีๆ ก็โผล่พรวดมาขวางหน้าพวกเขาเอาไว้แบบนี้ มันก็แค่ผม...ไม่อยากให้สองคนนั้น เขาไปในห้องที่เป็นของผมกับพี่ตุลย์ก็แค่นั้น
“ห้องนอน...ห้องนอนมันห้องเล็ก เสียงมันอาจจะก้องดังออกมาข้างนอกก็ได้ ผมว่าพี่คุยกันข้างนอกเถอะ ส่วนผมจะพาที่หนึ่งกับตอนต้นไปอยู่ในห้องนอนของที่หนึ่ง โอเคนะ?”
“เอางั้นก็ได้”
ผมพยักหน้า ก่อนจะพาเด็กทั้งสองเข้าห้องนอนของที่หนึ่ง ปล่อยให้พวกเขาทั้งสองได้คุยธุระกันไป
“อันธพาล! ทำไมต้องให้มาอยู่ในห้องนอนด้วยละ ที่หนึ่งยังอยากจะอยู่กับแม่นะ!”
“ตอนนี้แม่ที่หนึ่งเขาขอเวลาส่วนตัวคุยกับพ่อที่หนึ่งอยู่ไง เขาไม่อยากให้เรารบกวน”
“ไม่รบกวนหรอกหน่า จะนั่งดูการ์ตูนเงียบๆ เดี๋ยวแม่กลับไปแล้วที่หนึ่งไม่รู้จะทำยังไง!”
ผมเกาหัวแกรกๆ เอาไงดีวะ
“แม่ไม่กลับไประหว่างที่ที่หนึ่งอยู่ในห้องหรอกหน่า อย่าวุ่นวายสิ ดูตอนต้นยังสงบเสงี่ยมเลยเห็นไหมเนี่ย” ผมจิ้มแก้มตอนต้นจนได้ยินเสียง แอ๊ แอ๊ ตอบกลับมา
“ไม่เอา ที่หนึ่งจะไปหาแม่” เด็กนั่นพูดเสียงฉุน พุ่งจะไปเปิดประตูห้องแต่ดีที่ผมยกขาขึ้นมากั้นไว้ได้เสียก่อน
“คือ...พ่อแม่ที่หนึ่งอาจจะกำลังสวีทกันอยู่ก็ได้นะ อย่าไปรบกวนเขาดีกว่า ให้พ่อแม่อยู่ส่วนตัว เพื่อคุยกระจุกกระจิกๆ รื้อฟื้นความหลังอะไรแบบนี้”
“แปลว่าพ่อกับแม่อาจจะมาอยู่ด้วยกันหรอ?”
“อะ อ่าก็ไม่รับปากว่าใช่ แต่ก็อาจจะเป็นไปได้”
ฉิบหาย ผมก็เริ่มกังวลแล้วแหะ
“เอางี้นะท่านนายพล กระผมหน่วยสอดแหนมจะขอไปปฏิบัติหน้าที่แล้วจะนำมารายงานให้ ส่วนท่านขอให้พักอยู่บนเตียงของท่านให้สบายเถอะ” ผมตะเบ๊ะ
“รับทราบ! งั้นจงรีบไปสอดแหนมแล้วมารายงานให้ไว” ที่หนึ่งก็เข้ามาอินด้วย กระโดดขึ้นบนเตียงประหนึ่งเป็นบัลลังก์พร้อมตอนต้น ส่วนทหารสอดแหนมต๊อกต๋อยอย่างผมก็แนบหูไปกับประตูไม้อัด
“ไม่ได้!”
ผมแอบสะดุ้งในใจกับน้ำเสียงที่พี่ตุลย์ใช้ ผมไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้พี่ทอฟ้าพูดอะไรเลยยังจับต้นชนปลายไม่ถูกนัก
“พี่ไม่เข้าใจหัวอกฟ้าบ้างหรือไง ฟ้าอยากจะอยู่กับพวกเขาทดแทนช่วงเวลาที่ฟ้าไม่ได้อยู่กับเขา”
“โดยที่ฟ้ากำลังจะบังคับให้พี่ไม่ได้อยู่กับเขา ทั้งๆ ที่พี่ไม่ได้ทำอะไรผิดงั้นหรอ? พี่เป็นคนที่อยู่กับพวกเขามาตลอดนะ พี่เป็นคนที่ดูแลเขามาตลอด มันใช่แล้วหรอ ที่จะต้องมาเสียสละลูกให้คนที่ทิ้งพวกเขาไป!”
“ฟ้าถึงอยากแก้ตัวอยู่นี่ยังไงคะ แต่ฟ้าอยู่ที่นี่กับพี่ไม่ได้ ฟ้าอยากอยู่กับลูก แต่ฟ้าก็มีครอบครัวของฟ้าแล้ว พี่จะให้ฟ้าทำยังไงเล่า”
“นั่นมันก็เรื่องของฟ้า แต่พี่ไม่ยอมให้ลูกๆ ไปอยู่กับฟ้าเด็ดขาด!”
ผมตกใจกับการโต้เถียงที่ดุเดือด แต่รู้สึกตะลึงมากกว่าคือหัวข้อที่พวกเขากำลังคุยกัน ถ้าให้ผมตีความ มันหมายความว่า พี่ทอฟ้าจะเอาที่หนึ่งกับตอนต้นไปอยู่ด้วยงั้นหรอ!?
“ถะ ถ้างั้นแค่ตอนต้น...เขายังเล็ก เขายังปรับตัวได้ให้เขาไปอยู่กับฟ้านะ ให้ฟ้าได้ดูแลเขานะพี่ตุลย์ฟ้าขอร้อง ไม่ว่ายังไงฟ้าก็อยากจะอยู่กับลูก แค่คนเดียวก็ได้ ให้เขาไปเป็นครอบครัวของฟ้ากับพี่วีนะ!”
“ที่พูดนี่ไม่เข้าใจหรอ? คำว่าไม่นี่มันเข้าใจยากมากหรือไง ไม่ได้ ไม่ได้ก็คือไม่ได้! ไม่ว่าจะใคร คนไหนพี่ก็ไม่ให้!”
ผมได้ยินเสียงพี่ตุลย์ตะคอกดังมากก่อนที่ผมจะได้ยินเสียงเดินกระแทกฝีเท้าราวกับคนที่เส้นความอดทนใกล้จะขาดผึง แต่เพียงไม่นานผมก็ได้ยินเสียงฝีเท้าของอีกคนเดินเร็วๆ เหมือนจะมารั้งตัวพี่ตุลย์เอาไว้
“พี่จะให้โอกาสฟ้าสักครั้งไม่ได้เลยหรอ! ฟ้ารู้ตัวว่าฟ้าผิดไปแล้วที่แล้วมา แล้วฟ้าก็ขอโทษ สำนึกผิด พี่จะไม่ให้ฟ้าแก้ตัวบ้างเลยหรือไง ลูกก็มีสอง ก็เอามาให้ฟ้าสักคนสิ!”
เพี๊ยะ!
…
ผมอ้าปากค้าง...และคิดว่าคนที่โดนตบหน้านั้นก็คงไม่ต่างกัน
“เธอเองไม่ใช่หรอที่ทิ้งพวกเขากับมือ! แค่ทุกวันนี้ยอมให้เจอหน้าลูก ได้มานั่งกินข้าวกับลูก ได้มาเล่นกับลูกไม่รู้ตัวหรอว่านี่มันก็มากเกินไปแล้วกับคนอย่างเธอ! หมามันยังไม่ทิ้งลูกของตัวเอง เกิดมาเป็นคนแท้ๆ ลูกคนไหนๆ ก็ทิ้งหมด แล้วที่อย่างนี้จะมาทำเป็นสนใจ ทำไมเธอไม่รอให้เขาแต่งงานไปก่อนละ ถึงคิดจะกลับมาได้! บังเอิญย้ายมาที่นี่ บังเอิญเจอหน้าพี่ ก็เลยนึกถึงลูกขึ้นมาได้งั้นหรอ! ที่แล้วมาไม่คิดแม้จะถามหรือติดต่อมาหาสักครั้ง เห็นพวกเขาเป็นอะไร! แล้วยังมาพูดขอกันได้หน้าด้านๆ นี่ลูกนะ ไม่ใช่ตุ๊กตา เธอยังเป็นแม่คนอยู่บ้างไหมทอฟ้า ช่วยทำให้ไม่รู้ว่าแม่ของลูกฉันเป็นคนหน้าสมเพชหน่อยได้ไหม!!”
“พี่เอส...”
เสียงเรียกมาพร้อมกับแรงที่ดึงเสื้อ ผมหันไปหาที่หนึ่งทันทีที่สบตากับอีกฝ่ายผมก็ดึงที่หนึ่งเข้ามากอดไว้ทันทีใช้ท่อนแขนของตัวเองปิดหูของเด็กคนนั้นเอาไว้
ผมไม่รู้ว่าที่หนึ่งได้ยินตั้งแต่ตอนไหน แต่แววตานั่น...
ได้ยินแน่ๆ ที่หนึ่งได้ยินเรื่องนอกประตูนั่นแน่ๆ!
ตึง!!
ผมหันขวับไปที่ประตูหลังจากได้ยินเสียงของแข็งอะไรบางอย่างกระแทกกับกำแพงอย่างรุนแรง ยิ่งข้างนอกเดือดพลาดมากแค่ไหน ผมยิ่งกอดที่หนึ่งเอาไว้แน่นเท่านั้น ให้แขนของผมมันปิดหูของที่หนึ่งให้มิดจนไม่ได้ยินเสียงอะไร
“อย่ามาดูถูกฟ้านะ! ทั้งๆ ที่ไม่ได้เป็นฟ้าแท้ๆ จะไปรู้อะไร! พี่ไม่เข้าใจความลำบากใจของฟ้าหรอก ไม่มีใครเข้าใจความลำบากใจของฟ้า ฟ้ามาหาลูกไม่ได้เพราะลูกอยู่กับพี่! แล้วมันผิดหรอที่ฟ้าอยากจะเป็นภรรยาที่ดี เชื่อฟังสามี เคารพสามี ไม่ทำในสิ่งที่สามีลำบากใจ ฟ้าผิดมากหรอ! พี่ไม่เข้าใจฟ้า ไม่มีใครเข้าใจ ไอ้เด็กนั่นก็เหมือนกัน! ทำไมถึงมีแต่คนว่าฟ้าไม่รักลูก ฟ้ารักพวกเขา ฟ้ารักลูกมาก! ฟ้าเป็นแม่พวกเขา! ฟ้าก็ต้องรักพวกเขาสิ อย่ามาดูถูก! อย่ามาว่าฟ้านะ!!”
“พี่ไม่เข้าใจฟ้าหรอก แต่ถ้านี่มันเป็นทางเลือก แล้วฟ้าเลือกที่จะเป็นภรรยาที่ดีแทนที่จะเป็นแม่ที่ดีไปแล้ว ฟ้าจะกลับมาเปลี่ยนใจทำไม? ในเมื่อฟ้าก็มั่นใจว่าสิ่งที่ตัวเองเลือกมันไม่ผิดแล้วจะกลับมาหาทางที่ตัวเองไม่ได้เลือกทำไม”
เสียงของพี่ตุลย์อ่อนลงมาก แต่ในขณะเดียวกันเสียงนั่นก็สั่นด้วยความเจ็บปวด เจ็บปวดจนผมไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้าที่หนึ่งที่อยู่ในอ้อมกอด หรือตอนต้นที่นั่งไม่รับรู้เรื่องราวอยู่บนเตียง
“ฟ้าไม่ได้กลับมาเลือกใหม่นะ ฟ้าแค่อยากให้สองทางนี้มันเป็นทางเดียวกัน ลูกเองก็ต้องการแม่ แล้วฟ้าเองก็ต้องการพวกเขา พี่วีเขาต้องดูแลลูกดีมากแน่ๆ มันไม่มีอะไรที่จะแย่เลย ทำไมพี่ถึงไม่เข้าใจ”
“...”
“พี่ตุลย์...”
“กลับไปเถอะ ถ้าฟ้าเลิกเห็นแก่ตัว คิดถึงใจของคนอื่น ของลูก ฟ้าคงไม่พูดแบบนี้ แค่นี้พี่ก็ยิ่งมั่นใจว่าฟ้าดูแลลูกไม่ได้หรอก...
แค่รักลูกให้เท่ากับที่พี่รัก ฟ้ายังทำไม่ได้เลย”
“!!”
“กลับเถอะ มันเสียเวลา”
ความเงียบรายล้อมอยู่หลายนาที ก่อนที่ผมจะได้ยินเสียงประตูห้องถูกเปิดและปิดลงเป็นสัญญาณว่าข้างนอกนั่นไม่มีใครนอกจากพี่ตุลย์
แต่ถึงอย่างนั้น ผมก็ยังไม่กล้าเปิดประตูเพื่อที่จะไปหา ผมไม่รู้ว่าผมควรต้องทำยังไง พูดอะไร อยู่กับเขาแบบไหน และผมก็ไม่รู้ว่ากับคนที่กำลังเสียใจไม่แพ้กันอยู่ในอ้อมกอดผมเนี่ยหละ ผมควรทำยังไง
สุดท้ายผมก็ทำได้เพียงแค่อยู่เฉยๆ ไม่สามารถจัดการอะไรกับความเจ็บปวดที่อยู่ทั้งสองด้านของประตูได้เลย
TBCป๊าดดด เขียน 70% ที่เหลือนี่ หยุดไม่ได้ จะ pause 50% ก่อนไม่ได้เลย แบบต้องเขียนให้จบจะบอกว่า ฟิลลิ่งนี่คืิอมาเต็มโกรธแทนพี่ตุลย์
ทอฟ้านี่เหมือนเป็นผู้หญิงสมัยก่อนมากก แบบจะเป็นช้างเท้าหลังขั้นสุด ไร้ซึ่งความเป็นผู้นำ 55555555555555
#daddybelover