สนิมน้ำค้าง (Stained Glass) บทที่ ๔๐ และ อวสาน (ธันวาคม ๑๒, ๒๕๕๓) หน้า ๓๑
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: สนิมน้ำค้าง (Stained Glass) บทที่ ๔๐ และ อวสาน (ธันวาคม ๑๒, ๒๕๕๓) หน้า ๓๑  (อ่าน 220321 ครั้ง)

ออฟไลน์ I_ARMS

  • >*<
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
ชักจะเบื่อกับนิสัยบอทเต็มที เห้อ

kanda53

  • บุคคลทั่วไป
อ่านสองตอนรวดเลย.....
ก่อนอื่นขอชมก่อน...ภาพทุ่งนาข้าวสวยมาก..ทุ่งรวงทองจริง ๆ..
โรงเรียนเก่าของน้องอิ๊ค...ร่มรื่นกับธรรมชาตินะ...
ทางเข้าน่ะ...รีสอร์ทรึโรงเรียนกันจ๊ะ...จัดได้สวยเชียว.... o13

น้องน้ำ...พูดขอโทษบอทบ่อยมาก...ทั้งที่ไม่มีอะไรต้องขอโทษ
บอทช่างใจดำ...ไม่ห่วงไม่สงสารน้องน้ำเลย...ปล่อยให้ลำบากหา
รายได้พิเศษไปคนเดียว...ทั้งที่ตัวบอทเองก็ใช้จ่ายด้วย...ทำได้งั๊ย :m16:
ต่อไปบอทจะโดนไม้จูงไปทางไหน????....ยาเสพติด???ติดการพนัน???
ถ้าถึงขนาดนั้น....ก็คงเป็นนรกของน้องน้ำไปด้วย......... :เฮ้อ:
รอวันที่น้องน้ำจะเข้มแข็งพอที่จะหักดิบกับบอท.....
เพื่อให้บอทโตเป็นผู้ใหญ่ที่ต้องรับผิดชอบชีวิตของตนเอง....
จะมีวันนั้นไหมน้า.... :impress:


 :L2: น้องน้ำคนดี กะ น้องอิ๊คคนเก่ง... :กอด1:


ออฟไลน์ なおみ™

  • เดียวดาย...ในโลกกว้าง
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1892
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-6
กลับมาแล้วหรอคะ ได้อ่านสองตอนรวดเลย แต่เป็นสองตอนที่น่าอึดอัดใจ  :เฮ้อ:

กลอนบทแรกตอนท้ายของตอนล่าสุดเพราะดีนะคะคุอิ๊กกี้

  :จุ๊บๆ: +1 ค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-11-2010 20:17:45 โดย なおみ™ »

ออฟไลน์ TanyaPuech

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4341
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +531/-23
 :z3: :z3:

ไม่ไหวล่ะพี่อิ๊กกี้
ไม่ไหวจริงๆๆๆ
รีบๆไปถึงจุดหักเหรุนแรงที่เดียวเลยดีกว่าที่จะมาทรมานยืดๆไปแบบนี้  มันให้อารมณ์เหมือนละครช่อง7เลย 555

น้ำก็น่ะ โง่เกิ๊น ไอแมงดาบอทก็ไม่ไหว  :เฮ้อ:

มาไวไวล่ะกัน

yayee2

  • บุคคลทั่วไป
โรงเรียนร่มรื่นดีจัง ชอบที่ยังคงต้นไม้ใหญ่ไว้  อย่างพะยอม ยางนาพวกเนี่ย
เด็กอีสานปัจจุบันบางคนยังไม่เคยเห็นเลยนะน้องอิ๊ก
น้องอิ๊ก น้ำจะต้องอยู่แบบเจ็บๆไปอีกนานแค่ไหน
บอทความจำเสื่อมเนี่ย ต่อมความเป็นสุภาพบุรุษ ต่อมความเห็นอกเห็นใจ
ต่อมความเกรงใจ ต่อมความรับผิดชอบ มันเสื่อมด้วยเหรอ

ออฟไลน์ som

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2708
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +230/-2
พี่อิ๊กหวัดดีครับ
ฮึฮึไม่อึดอัดเลย  สบายใจโล่งมาก  หึหึ
ตอนนี้ก็แค่แทบกระอักเลือดออกมาเท่านั้น
บอททำไมเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้
แค่ความจำเสื่อม แต่ทำไมนิสัยถึงเปลี่ยนไปเลยละ  หรือว่าจิตใต้สำนึกจริงของบอทเป็นแบบนี้
แสดงว่าที่บ้านที่บ้านนอกก็เสแสร้งแน่ๆ

ออฟไลน์ knightofbabylon

  • it's sorrow that feeds your lies!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2542
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-51
ไม่หวั่นแม้ดราม่ามาก
ขอแค่ ให้บอท เจ็บ แบบที่ทำน้ำเจ็บ บ้าง
เอาแค่เท่าที่น้ำก็พอ มากกว่านี้ มันไม่แฟร์ แต่น้อยกว่านี้ ไม่ได้นะ
 :m13:

รอเกาะติดสถานการณ์น้ำกับบอทต่อไปนะคะ
ยังไงก็ยังคงไม่เข้าใจ
ความจำเสื่อมแล้วนิสัยเปลี่ยน มันแปลกๆอยู่
แต่ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม บอกแล้วว่า..

รอการเอาคืนจากน้ำเอาเจ็บปวดสาหัสอย่างสาสม
เพราะเป็นคุณค่าที่บอทคู่ควร
 :-[


 :กอด1:คุณอิ๊ก รอตอนต่อไปนะคะ

ปล.กลับมาดูรูป อิจฉาจัง โรงเรียน ต้นไม่ก็เยอะ ที่ให้วิ่งเล่น ทำกิจกรรมก็เยอะ
 :a6:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-11-2010 21:18:04 โดย knightofbabylon »

ออฟไลน์ jimmyFG

  • Ich Liebe dich.
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2276
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +203/-4
    • @Facebook
รอการเอาคืนของน้ำๆ

รอ รอ รอ

หายดราม่าแล้วจะมาใหม่ๆ เน้อ

ข้าน้อยขอลาโลกไปก่อน อิอิ


 :L2:

ออฟไลน์ なおみ™

  • เดียวดาย...ในโลกกว้าง
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1892
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-6
มารอตอนใหม่ค่ะ  :กอด1:

ออฟไลน์ eiky

  • Played Me!!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1760/-3
บทที่ ๓๑

ปุจฉา รู้ไหมถ้าเราส่องกระจกตอนที่เราร้องไห้อยู่นั้นเราจะมองเห็นผู้ใด

“นี่จะสอบอยู่แล้ว แต่กูยังอ่านหนังสือไม่ได้สักเล่มเลย มึงอ่านถึงไหนแล้วน้ำ”

เล็กถามขึ้นก่อนเลิกงาน น้ำเองพอทำงานคล่องแล้วก็เป็นที่รักของผู้จัดการร้านและเพื่อนร่วมงานด้วยเป็นคนขยัน อีกทั้งภาษาอังกฤษที่พอสื่อสารได้ มนัสได้แนะนำให้น้ำไปเรียนเพิ่มเติมวิชาภาษาอังกฤษเพื่อความก้าวหน้าในชีวิต น้ำเองก็กำลังมองหาสถาบันสอนภาษาอังกฤษอยู่ เพียงแต่รอให้การสอบในเทอมแรกผ่านไปก่อน น้ำถือชีทสรุปข้อสอบที่ได้มาจากหน้ารามฯทั้งตอนเดินทางไปทำงาน ตอนกลับบ้าน ก่อนนอนก็อ่านแต่ไปแอบอ่านด้านล่างเพราะบอทเองนอนเร็ว น้ำไม่อยากจะรบกวน ดูเอาเถิดเวลาน้ำกลับบ้านจากทำงานค่ำแล้วเห็นบอทนอนแล้วก็จะไม่เปิดไฟ ค่อยๆย่องทำทุกอย่างให้เบามือที่สุด หนังสือก็ลงไปอ่านข้างล่าง แต่เวลาที่บอทไปเที่ยวเตร่กับไม้กลับค่ำๆมืดๆ แม้น้ำจะนอนแล้วแต่บอทเองก็จะเปิดไฟสว่างทำกิจกรรมทุกอย่างเหมือนกับว่าน้ำเองได้ตื่นอยู่ น้ำไม่ได้คิดติดใจอะไร ก็รักเขาเทิดทูนเขา เราเองก็ทำผิดกับเขาเอาไว้มากนักจะเอะอะไปรังแต่จะเสียความรู้สึกกันเปล่าๆ ทนได้กับเรื่องแค่นี้ ต่อให้มากกว่านี้ก็ทนมาแล้ว เริ่มจะชินกับบอทคนใหม่

“ก็อ่านรอบสองแล้วมึงกลัวสอบไม่ได้ เห็นเขาบอกยากไม่ใช่เหรอรามฯน่ะ”

“โห อ่านรอบสอง มากไปแล้วน้ำ กูยังไม่ได้สักรอบมึงฟาดไปรอบสอง อะไรวะ จะรีบจบไปไหนมึง”

“แหม แล้วจะมาเรียนเอาโล่อะไรล่ะ รีบจบรีบออกมาหางานทำ”

“เออนะ แล้วไอ้บอทล่ะ พักนี้ไม่ค่อยเห็นหน้าเลย แหมก่อนได้งานหมาตัวไหนบอกก็ไม่รู้จะมารับมาส่งทุกวัน แต่พอได้งานไม่เห็นแม้แต่เงา”

เล็กพาดพิงสายตาหมายความอย่างที่พูดออกมา

“ก็อ่านหนังสือเหมือนกันล่ะมึง”

“ให้จริงเถอะ ไม่ใช่ระเริงเที่ยวเตร่อยู่กับไอ้ไม้หน้าสามอะไรนั่นหรอกเหรอ”

“ช่างเถอะ เออว่าแต่พี่มนัสเรียกกูไปทำไมวะ”

“ผ่านโปรมั้งมึง มึงดูพี่เขายิ้มสิไม่น่าจะใช่เรื่องไม่ดี”

น้ำเดินเข้าไปหามนัสด้านใน

“ครับพี่นัสเรียกน้ำเหรอครับ”

“นั่งก่อนน้ำ เป็นไงเรา ทำงานมาจะสามเดือนแล้วนะ”

“ก็ดีครับ สนุกดี”

“อืม ดีแล้ว พี่เห็นเราทำงาน คุยกับลูกค้าพี่ก็มีความสุข พี่เรียกเรามาวันนี้ก็เรื่องโปรเวชั่นล่ะน้ำ เราผ่านแล้วนะ เร็วกว่าคนอื่นเขาหน่อย เงินเดือนพี่ปรับให้เท่านี้นะ พอใจไหม”

มนัสบอกจำนวนออกมา

“โห จริงเหรอครับพี่”

น้ำร้องออกมาทำตาโต

“ทำงานให้ดีล่ะ”

“ครับ ขอบคุณมากครับพี่นัส”

“น้ำ เดี๋ยวก่อน พี่รู้นะว่าเรามีอะไรในใจ ตอนที่เราคุยกับลูกค้าก็ยิ้มแย้มดีนะ แต่เวลาเราอยู่คนเดียว ดูรู้นะว่าเรากำลังทุกข์ใจถ้ามีอะไรไม่สบายใจอย่าเก็บมันไว้คนเดียวนะ อย่างน้อยก็เล่าให้เพื่อนๆฟังบ้าง เราเป็นครอบครัวเดียวกันนะน้ำอย่าลืม”

น้ำก้มหน้านิ่งไม่คิดว่าจะมีคนสังเกต

“ครับพี่ ขอบคุณครับ”

น้ำเดินออกมาจากห้องของมนัส หน้ามุ่ยอยู่ครู่เดียวก็ยิ้มร่าเดินมาหาเล็ก

“ไงมึงยิ้มแก้มปริเงินเดือนขึ้นล่ะสิท่า”

“เออว่ะ ไม่คิดเลยว่ากูจะมีเงินเดือนเยอะขนาดนี้”

“เอาน่ามึง ทำๆไปเผลอๆเงินเดือนเป็นหมื่นนะ”

“โห ถ้างั้นกูไม่ต้องเรียนให้จบก็ได้นะ”

“ไม่ได้หรอกมึง พอได้วุฒิมาฐานเงินเดือนมันก็ปรับเพิ่มตาม เรียนจบ ป ตรีมานั่นล่ะดีกว่า จะได้ไม่ลำบาก อย่างพี่นัสก็จบรามฯ เห็นไหมได้เป็นผู้จัดการร้านเงินเดือนเหยียบสองหมื่นนะมึง”

“จริงดิเอองั้นกูจะรีบเรียนให้จบ”

“ลูกค้ามา มึงไปรับหน่อย กูจะไปเก็บโต๊ะ”

เล็กดันหลังให้น้ำเดินไปรับรองลุกค้ากลุ่มใหม่ที่กำลังเดินเข้ามาในร้าน

“สวัสดีครับ กี่ท่านครับ”

น้ำไหว้ทักทาย กลุ่มของนักศึกษาวิชาทหารเดินเข้ามาสามคน อีกคนใส่ชุดนักศึกษา หน้าตาท่าทางดูดีไม่เหมือนเด็กนักศึกษาที่น้ำเคยเจอในรามฯ

“เท่าที่เห็น”

เสียงดังมาจากคนตัวเล็กสุดความสูงน่าจะเท่าๆกับน้ำ

“สี่คนครับ”

น้ำยิ้มให้เพราะคิดว่าคงโดนลูกค้าแกล้งเอาให้แล้ว แต่อีกคนที่ตัวหนาๆกว่าเพื่อนในกลุ่มก็แก้คำพูดให้เพื่อน

“เชิญด้านนี้ครับ”

น้ำเดินนำหน้าไปทางโต๊ะที่เหมาะกับทั้งสี่คน

“ไม่ จะนั่งตรงนี้ ต่อโต๊ะให้ได้ไหมพี่”

เขาบอก น้ำเองหยุดกึกลงแล้วหันมองหาตัวช่วย แต่เล็กเองยังง่วนอยู่กับการเก็บโต๊ะอยู่จึงไม่อยากจะรบกวนเพื่อน

“ได้ครับ รอสักครู่นะครับ”

“คนอีสานว่ะ”

“ไอ้ห่า มึงว่าเค้า มึงรู้ได้ไง”

“มึงก็ฟังสำเนียงคอทองแดงมันดิวะ”

“กูว่าไม่ใช่หรอกมึง เหมือนคนจีนมากกว่า”

“หรือว่าจะเป็นพม่าวะ”

ได้กลายเป็นหัวข้อสนทนาไปแล้ว น้ำเองรู้สึกร้อนผ่าวๆที่หน้าเพราะไม่เคยมีใครนินทาหรือเอ่ยถึงในระยะประชั้นชิดเช่นนี้

“คนอีสานครับ ร้อยเปอร์เซ็นต์ มีอะไรสงสัยอีกไหมครับโต๊ะพร้อมแล้วเชิญครับ”

น้ำเองก็รู้สึกไม่พอใจที่มีคนมาดูถูกหรืออะไรก็ตามแต่แต่เขาได้กลายเป็นหัวข้อสนทนาไปแล้ว ไม่พอใจไม่รู้ทำไม

“โห มั่นด้วยนะมึง”

“พอได้แล้ว ไอ้วา ห่ากัดชาวบ้านเขาอยู่ได้ จะแดกไม่แดก”

เพื่อนคนที่สวมชุดนักศึกษาปรามเพื่อนคนตัวสูงสุด น้ำเองเม้มปากจนเป็นเส้นตรง

“เมนูครับ”

พอยื่นเมนูให้ไอ้คนตัวสูงก็แกล้งทำเป็นจับไม่ดีทำให้เมนูร่วงลงพื้น น้ำเองสูดลมหายใจเข้าปอดให้ลึกๆแล้วก้มลงเก็บให้

“เอ้ย โทษทีพี่ มือมันลื่น”

“ไอ้วา”

เพื่อนของเขาเองก็คงไม่คิดว่าเขาจะทำอะไรแบบนี้ได้ ร้องออกมาพร้อมกัน

“ไม่เป็นไรครับเดี๋ยวพี่เก็บให้”

น้ำก้มลงเก็บอย่างเสียไม่ได้ เขาไม่ได้แกล้งอะไรอีกเพียงแต่สายตาที่มองขวางๆเท่านั้นเอง

“ใครเป็นน้อง ทำไมเรียกแทนตัวเองว่าพี่”

“เฮ้ย ไอ้วา พอๆ”

“ก็คุณเรียกผมว่าพี่ไม่ใช่เหรอครับ ถ้าคุณเรียกผมว่าพี่ แสดงว่าคุณก็ต้องเป็นน้อง แปลกตรงไหนครับถ้าพี่ เอ้ย ผมจะแทนตัวเองว่าพี่ เดี๋ยวกลับมารับรายการอาหารนะครับ”

น้ำเองก็ลอยหน้าลอยตาพูด แต่สายตานิ่งเหลือเกิน

“อวดดีนะ หน้าเด็กกว่ากูด้วยซ้ำมั้ง ไอ้นี่เดี๋ยวเถอะ”

“พอแล้วไอ้วา มึงจะไปเอาอะไรกับเด็กเสิร์ฟวะ อารมณ์เสียเปล่าๆ”

“มึงดูหน้ามันดิ กวนตีนว่ะ เดี๋ยวมึงเจอกูๆ”

“เฮ้ย อย่าทำอะไรนะโว้ย กูไม่เกี่ยวนะ”

“ไอ้ตาขาว กูไม่ให้พวกมึงลำบากหรอกน่า อยากจะแกล้งคนอวดดีสักหน่อย ดูซิว่าจะยังอวดดีอยู่ไหม ห่า กูยิ่งเรียน รด มาเหนื่อยๆอยู่”

เขาสบถออกมาสายตายังจับจ้องอยู่ที่น้ำที่เดินไปหาลูกค้าคนใหม่แล้ว ท่าทางของน้ำมันไม่ได้ขัดหูขัดตาตรงไหนเลย กริยาท่าทางรอยยิ้มที่เต็มดวงหน้ามันน่ามองมากกว่าน่าชังเสียอีก

“เล็กมึงไปรับออเดอร์โต๊ะสี่หน่อยดิ กูจะรับโต๊ะแปด”

“อะไรวะน้ำ กูต้องไปช่วยพี่แววออกอาหารอ่ะดิ เขาออกไม่ทัน”

“อ้าวเหรอ ไม่มีคนว่างอีกแล้วเหรอ”

“ไม่มี พี่นวลแกลาครึ่งวัน ผัวแกไม่สบาย”

น้ำเองต้องจำใจเดินกลับไปรับออเดอร์ที่โต๊ะของคนที่เพิ่งมีปากเสียงกันมา

“เอาสปาเก็ตตี้ซอสปลากะพง เอาแองเจิ้ลแฮร์นะเอาซุปหัวหอมผสมกับเห็ด”

เขาไม่ได้กางเมนูดูแต่อย่างใดสายตาจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าของน้ำ

“ขอโทษนะครับ รายการอาหารที่คุณสั่ง ไม่มีนะครับเรามีตามเมนูที่แจ้งไว้”

“อะไรกัน ขายอาหารบ้าอะไรไม่มี แค่นี้ไม่มีแล้วจะไปทำอะไรกิน”

เขาโวยวายออกมาเสียงไม่ดังมากคงเพราะยังเด็กเลยไม่กล้าออกฤทธิ์ออกเดชมากนัก

“คุณล่ะครับ”

น้ำทำเป็นไม่สนใจหันไปหาเพื่อนๆของเขา เพื่อนๆของเขาก็ให้ความร่วมมือดีไม่มีใครอุตริเอ่ยรายการอาหารออกมาเหมือนเขา

“อาหารรอประมาณ ๑๕  นาทีนะครับ”

“อ้าว เฮ้ย น้อง แล้วของพี่ล่ะ”

“ครับ รับอะไรนะครับ”

น้ำยังชักสีหน้าปกติอยู่

“เอาเหมือนไอ้เต้”

เขาตอบแล้วแสยะปากทำหน้ากวนๆใส่

“คนไหนชื่อเต้ครับ”

เพื่อนคนตัวเล็กจะยกมือแต่เหมือนเขาเอาเท้าหรืออะไรสักอย่างสะกิดไว้ เขาหดมือลงทันที เพื่อนคนสวมชุดนักศึกษาจึงพยักหน้า แล้วอมยิ้ม

“ครับ เป็นสปาเก็ตตี้ผัดขี้เมาทะเล กับซุปหัวหอมนะครับ”

น้ำทวนรายการอาหารอีกรอบแล้วค่อยเดินกลับเข้าไปในครัว

“มึงเจอกูแน่ ไอ้หน้าจืด”

“กูว่าอย่าไปอะไรกับเขาเลยมึง ทางดูซื่อๆออก”

“ซื่อห่าอะไรล่ะ มึงไม่ดูมันต่อล้อต่อเถียงกับกูวะ กวนตีนกูมันต้องเจอแบบนี้”

เขาคาดโทษเอาไว้ทั้งที่น้ำไม่ได้ทำอะไรให้เลย เหนื่อยมาจากที่อื่น อารมณ์เสียมาจากคนอื่น จึงหาที่ลงและคนที่จะโดนหางเลขคือน้ำ ที่มีจิตใจไม่ปกติสุขอยู่เป็นทุนอยู่แล้ว น้ำเดินเข้าไปในครัว พอเล็กเห็นสีหน้าก็มองออกไปยังโต๊ะที่น้ำเพิ่งเดินเข้ามา

“พวกลูกคนรวยมันว่าอะไรน้ำ”

“ไม่มีอะไรหรอกมึง ไม่ได้สนใจ มึงออกไปรับหน้าแทนได้ไหม กูไม่อยากไป”

“ได้ๆ”

เล็กบอก พออาหารเสร็จน้ำก็หลบไปทำอย่างอื่นในครัว เล็กออกไปเสิร์ฟอาหารให้

“อ้าว แล้วน้องคนนั้นไปไหน”

เขาถามขึ้น

“อ้อ น้องเขาไม่ค่อยสบายค่ะเลยพักก่อน มีอะไรหรือเปล่าคะคุณ”

เล็กถามเสียงกวนๆ ทั้งกลุ่มปราดตาขึ้นมองเป็นตาเดียวกัน

“เมื่อตะกี๊ยังเห็นดีๆอยู่เลยนี่ เป็นอะไรครับ”

“น่าจะปวดหัวค่ะ อาหารที่สั่งได้ครบแล้วนะคะ เชิญรับประทานให้อร่อยค่ะ”

เล็กพูดแล้วเดินออกมา

“น้องๆ”

ลูกค้าอีกโต๊ะกวักมือเรียกเล็กให้เดินไปหา

“น้องน้ำล่ะ พี่จะกลับแล้ว”

ลูกค้าประจำของน้ำนั่นเอง เป็นคู่สามีภรรยา ฝ่ายภรรยาถูกใจการบริการของน้ำมาก จึงแวะเวียนมาทานอาหารที่นี่เกือบจะทุกวัน

“ซวยแล้วไอ้น้ำ”

เล็กชักสีหน้าไม่ค่อยดีแต่ก็เดินกลับเข้าไปในครัว

“น้ำ คุณตั้มกับคุณเรณูจะกลับแล้วมึง เขาเรียกหา”

พอเล็กเอ่อยออกมาน้ำก็ระบายลมหายใจอย่างเสียไม่ได้

“เอาเถอะช่างมัน อะไรจะเกิดก็เกิด”

น้ำพูดกับตัวเองแล้วเดินออกไป พยายามหลบหน้าโต๊ะคู่กรณีแล้วตรงไปหาลูกค้าประจำ ทักทายกันอยู่สักพักก่อนจะส่งลูกค้าออกนอกร้าน คุณตั้มกับคุณเรณูให้ทิปพิเศษแก่น้ำทุกครั้งที่มาทานอาหาร และน้ำเองก็เอาไปรวมกับทิปรวมของร้าน เป็นที่ชอบใจของเพื่อนๆพนักงานเป็นอย่างยิ่ง เพราะน้ำเองทำยอดรับทิปมากกว่าใครในแต่ละเดือน

“เฮ้ย น้องๆ มานี่หน่อย”

น้ำชะงักทันที เพราะเสียงเรียกมาจากโต๊ะที่พยายามหลบอยู่

“ไม่เอาน้อง เอาน้องคนนั้น”

เล็กเดินตรงไปหา แต่เขาปฏิเสธเสีย น้ำเองเม้มปากแน่นแล้วสูดลมหายใจเข้าทางปากพยายามชักสีหน้าให้เป็นปกติแล้วจึงเดินเข้าไปหา

“ครับ มีอะไรเหรอครับคุณ”

“อาหารไม่เห็นอร่อยเลยไม่คุ้มนะเนี่ย ไม่จ่ายได้ไหม”

คิดไว้แล้วไม่มีผิดว่าเขาต้องหาเรื่อง น้ำเองนิ่งอยู่ยังไม่เอ่ยอะไรออกไป

“ว่าไงน้อง เงียบเชียว ตกลงจะเอายังไง”

“อาหารของเราทำตามมาตรฐานของต้นฉบับที่มาจากสาขาใหญ่นะครับ ถ้าคุณไม่ชอบเดี๋ยวไปให้พ่อครัวเขาปรุงให้ใหม่ก็ได้ ไม่ทราบว่าชอบรสชาติแบบไหนครับ”

เขายิ้มออกมาทันที

“ปรุงใหม่มันก็ไม่น่ากินดิ จะไม่จ่ายน่ะมีอะไรไหม”

“เฮ้ย ไอ้วา พอเถอะมึง น้องครับไม่มีอะไรครับ”

“อย่าเสือกไอ้เต้ กูจะจัดการเอง”

เขาหันไปตวาดเพื่อน ตอนนี้เองน้ำถึงสังเกตว่าเขามีอิทธิพลต่อเพื่อนๆของเขามากกว่าใคร เพราะทุกคนหน้าเจื่อนลงนิ่งเงียบไปเสียทุกคน

“ไม่จ่ายคงไม่ได้หรอกครับ ผมมีวิธีคือปรุงใหม่ หรือทำจานใหม่มาให้ เพราะอาหารของเราไม่ได้มีข้อบกพร่องอะไรเพียงแต่ไม่ถูกปากของคุณเท่านั้นเอง”

“หึหึ ดี งั้นไปทำมาใหม่”

เขายื่นจานสปาเก็ตตี้ที่กินไปนิดเดียวให้น้ำ พอน้ำยื่นมือรับเขาก็ปล่อยมือทั้งที่น้ำยังไม่ได้แตะจาน

“เพล้ง”

จานแตกไปตามระเบียบ เส้นสปาเก็ตตี้กระจายอยู่รวมกับเศษจานเต็มพื้น น้ำหน้าเสียเพราะตั้งแต่ทำงานมายังไม่เคยทำจานแตกเลยสักใบ

“เฮ้ย ทำไมไม่ระวังเลยวะ”

เขาสบถออกมาเบี่ยงตัวออกทำท่าขยะแขยง น้ำรีบก้มลงเอามือจะโกยเศษของอาหารที่กลับกลายเป็นกองขยะไปแล้วเพียงเพราะความรักสนุกของใครบางคน

“น้ำอย่า เดี๋ยวมันบาดมือ”

“โอ๊ย”

เล็กร้องมาแต่ไกล แต่ช้าไปด้วยความที่รีบจนลนลานเศษกระเบื้องได้บาดนิ้วชี้ข้างซ้ายของน้ำ เลือดสีแดงสดไหลออกมา คนทั้งโต๊ะนั่งนิ่งไม่มีใครพูดอะไรสักคำ เล็กปรี่เข้ามา น้ำเองก็กดแผลเอาไว้

“น้ำ แผลลึกไหม ไปล้างก่อนมึง”

เล็กดันหลังให้น้ำลุกขึ้นแล้วหันไปขอโทษลูกค้า

“อะไรกันน้ำ มีอะไรทำไมทำจานแตกต่อหน้าลูกค้าแบบนี้ ขอโทษลูกค้าซะ”

"ขอโทษครับ ที่ผมสะเพร่า รบกวนการรับประทานอาหารของคุณ"

เสียงคุณมนัสดังขึ้นปรี่เข้ามาขอโทษลูกค้าอีกราย น้ำเม้มปากแน่น ลูกค้าไม่มีทางผิด ได้รับการอบรมมาแล้ว น้ำเองที่ไม่เจียมตัว ไม่ระวังตัวเองก้มหน้ายอมจำนน โดยไม่ปริปากอะไรออกมาอีกสักคำ

“ขอโทษด้วยนะครับ น้องเขาไม่ทันระวัง เดี๋ยวผมจะให้เขาทำอาหารมาให้คุณใหม่นะครับ ขอโทษจริงๆ”

“อ้อ ไม่เป็นไรครับ ผมรีบปล่อยมือเองล่ะ”

เขาเอ่ยออกมาสีหน้าสลดลงมาก เพื่อนๆในโต๊ะทุกคนก็ก้มหน้านิ่ง

“ไหวไหมน้ำ เมื่อกี๊พี่แกล้งดุเราไปอย่างนั้นล่ะ อย่าถือนะ พี่ดูอยู่ ดูว่าน้ำจะจัดการกับลูกค้ากลุ่มนี้ยังไงดี มันสุดวิสัยนะ แต่วิธีการคุยของน้ำดีแล้วนะ หน้านิ่งดีไม่แสดงสีหน้าอารมณ์อะไรมากนัก ฝึกไว้ๆจะได้เก่งๆ ถ้าเรียนจบมาพี่จะดันให้เป็นผู้จัดการร้านแทนพี่”

มนัสตบบ่าของน้ำเบาๆ ระหว่างที่เล็กกำลังทำแผลให้น้ำอยู่

“ขอบคุณครับพี่นัส น้ำไม่ได้คิดอะไรกับลูกค้าหรอกครับ”

“ดีแล้วน้ำ อย่าไปเอาคำลูกค้ามาติดใจ คนเรามีหลายประเภท คนดีๆอย่างคุณตั้มกับคุณเรณูก็มี เห็นไหมติดน้ำจะตาย มีครั้งนึงเขามาวันอังคาร พอบอกว่าน้ำหยุด ไม่ยอมนั่งเลย พี่อ้อนวอนแทบตายก็ไม่ยอม ดีแล้วนะน้ำ สิ่งไหนดีก็ให้รักษาความดีนั้นไว้ให้ได้นานๆ”

ปกติเวลาปิดหน้าร้านจะปิดก่อนเวลาเลิกงานจริงของน้ำหนึ่งชั่วโมงเพื่อให้พนักงานได้เก็บกวาดทำความสะอาดเครื่องไม้เครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆในร้าน คุณมนัสอนุญาตให้น้ำกลับก่อนเพื่อนหนึ่งชั่วโมงเพราะเห็นว่าได้รับบาดเจ็บ ไม่มีใครไม่เห็นด้วยเพราะน้ำเองถือเป็นกำลังสำคัญและเป็นที่รักใคร่ของเพื่อนๆไปแล้ว

“อย่าลืมกินยาแก้ปวดกันไว้นะน้ำ เดี๋ยวไข้ขึ้นนะ”

แววรุ่นพี่บอกก่อนที่น้ำจะเดินออกจากร้าน

“พรุ่งนี้เจอกันมึง เพจมานะ”

เล็กบอกเพราะพรุ่งนี้ต้องไปสอบวิชาแรกที่รามฯสอง น้ำเองยังไม่เคยไปต้องให้เล็กเป็นคนพาไป นัดเวลากันแต่เช้าตรู่เผื่อเวลาไปทบทวนตำราเรียนก่อนสอบอีกด้วย น้ำล่ำลาเพื่อนๆทุกคนแล้วเดินออกจากห้างมา เดินพ้นร้านยังไม่เกิน ๒๐ เมตร

“น้องๆ เดี๋ยว”

น้ำหันไปตามเสียงเรียก พอเห็นว่าใครก็ผงะ ชายคนในร้านที่มีเหตุกันนั่นเอง แต่ตอนนี้เหลืออยู่แต่เขากับเพื่อนตัวเล็กๆอีกคนเท่านั้น น้ำเม้มปากทำท่าเป็นไม่ได้ยิน

“เฮ้ย เดี๋ยวดิ เรื่องเมื่อตอนกลางวันน่ะ โทษทีนะ”

เขาปรี่เข้ามาจับบ่าของน้ำไว้อย่างวิสาสะ น้ำเองหยุดกึกลง

“เรารู้จักกันเหรอครับ กรุณาเอามือออกจากบ่าของผมด้วย”

น้ำพูดเสียงเรียบมองหน้าเขาเหมือนมองกำแพง สายตานิ่งเย็นชา เขาสะดุ้งค่อยๆลดมือออก

“เอ่อ คือ ผม อยากจะขอโทษน่ะ ที่ทำให้น้องได้รับบาดเจ็บ”

เขาทำสีหน้าสลดลงมาก น้ำเองยังคงนิ่งอยู่

“ไม่เป็นไรครับ ผมไม่ถือสา ผมไม่ระวังเอง คุณไม่ได้ทำอะไรผิดนี่ อีกอย่างผมไม่มีพี่ เพราะผมเป็นลูกชายคนโต ขอตัวนะครับ”

น้ำเดินหนีไปไม่อยากจะวุ่นวายกับใคร ไม่อยากให้ใครเข้ามาข้องเกี่ยวด้วยมากนัก แต่เขาเองเดินตาม

“มึงกลับบ้านไปก่อนไปไอ้เต้”

“อ้าว มึงจะไปไหนวะไอ้วา น้องเขาไม่ว่าอะไรก็ไม่กลับล่ะ”

“เขาไม่ว่าแต่เหมือนเขายังไม่ยกโทษให้ว่ะ กูรู้สึกไม่ดี”

“อ่ะนะ อย่างมึงเนี่ยนะรู้สึกไม่ดี”

วายุตวัดสายตามองเพื่อน รายนั้นรีบกุลีกุจอกลับไปทันที ส่วนเขาเองได้เดินตามน้ำไปยังท่ารถเพราะกว่าจะเลิกงานเรือก็หมดแล้ว น้ำเองไม่ทันได้สังเกตว่ามีคนตามมาหรือเปล่า เดินมองไปเบื้องหน้าไม่ได้สนใจคนรอบข้าง พอก้าวขึ้นรถเมล์ ก็ยังไม่ทันได้มองอยู่ดีเพราะคนเบียดเสียดแออัดกันแน่นเหลือเกิน

“สองคนครับ”

“อ๊ะ”

ตอนนี้เองถึงรู้สึกตัวว่ามีคนตาม ตามแบบประชิดตัวด้วยเพราะเขายืนเบียดอยู่ข้างหลังน้ำนั่นเอง น้ำพอรู้สึกตัวก็พยายามกระเถิบหนีไปด้านหน้า เขาเองก็ตาม หากจะดิ้นรนหนีมากไปก็จะดูมากเกินไปเพราะรถมันแน่น น้ำเองจึงนิ่งอยู่ พอลงป้ายหน้าบิ๊กซีรามฯน้ำก็รีบลงจากรถ เขาเองก็ลงตาม ตอนนี้เองที่ใจสั่นไหวเกรงว่าจะมีเหตุร้ายเกิดขึ้นกับตน

วิสัชนา ก็จะเห็นเงาของใครคนหนึ่งซึ่งโศกาอาดูรอยู่หน้ากระจกเงานั้น เงาของเขาคนนั้นซึ่งจิตใจหล่นร่วงหายไปไหนต่อไหนเสียแล้ว

เขียนโดย อิ๊กกี้


ปล
ก็คงไม่เครียดเท่าไหร่เนอะตอนนี้ หลายคนคงจะลุ้นว่าอะไรมันจะยังไง อิอิ ติดตามๆ
ขอบคุณทุกกำลังใจที่เหนียวแน่นเช่นเดิม รักทุกคนจังเลย สำหรับเพื่อนๆที่คิดว่าจะทนไม่ได้ ไม่เป็นไรครับ คิดว่าเรื่องนี้คงไม่เท่าไหร่หรอก แต่มันจะตะหงิดๆในใจแค่นั้นเอง
ไม่นิยมความเจ็บปวดแล้วเหมือนกัน 555 คิดอะไรไม่ออกนั่นเอง

ตอนนี้มอบพิเศษให้ น้อง
ZakuPz อ่านแล้วก็ขอให้มีความสุขนะครับ และอย่าลืมเผื่อแผ่ความสุขไปให้คนรอบข้าวด้วยน้า จุ๊บๆๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-03-2013 09:12:01 โดย eiky »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ なおみ™

  • เดียวดาย...ในโลกกว้าง
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1892
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-6
จองที่ไว้ก่อน  :laugh:

_______________________________

อ่านตอนนี้แล้วค่อยยิ้มได้หน่อยนะคะ อย่างน้อยก็มีคน(คงจะ)รักน้ำเพิ่มอีกคน
ตาวายุก็โอเคนะคะ เปิดตัวมาตามแบบฉบับพ่อแง่แม่งอนเลย ต้องการให้คนอ่านลุ่นหรอคะเนี่ยคุณอิ๊กกี้

*******************

สำเนียงทองแดง คำนี้หมายถึงสำเนียงแบบคนใต้นะคะ สำเนียงแบบคนอีสานน้องมิก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเรียกว่าอะไร
ชักสีหน้าให้เป็นปกติ ชักสีหน้า หมายถึง ทำสีหน้าโกรธ ไม่พอใจ ฉะนั้นชักสีหน้ากี่ครั้งๆ สีหน้าก็คงไม่เป็นปกติไปได้ ใช้ว่า ทำสีหน้าให้ปกติ ดีกว่านะคะ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-11-2010 10:41:25 โดย なおみ™ »

samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป
อิชั้นจะไปร้องเรียนขอเปลี่ยนตัวพระเอกค่ะ

เอาพี่วายุแทนได้มิคะ "แลดู" จะเป็นคนดี ถึงตอนแรกจะชั่วไปหน่อยก็เหอะแต่เข้าใจผู้ชายมันมักจะชอบแกล้งคนที่ตัวเองชอบหรือถูกใจ! :-[
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-11-2010 22:10:10 โดย samsoon@doll »

ออฟไลน์ Natavishi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 459
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
 อ่าาา มี ตัว ละคร ใหม่ อีกแล้ว   

bbyuqin

  • บุคคลทั่วไป
หุหุ...สงสัยวายุจะมาเป็นตัวแปรทำให้บอทจำได้เร็วขึ้นรึปล่าว??

ออฟไลน์ DarKLasT

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 595
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0
เหอะๆๆ

ขอเปลี่ยนตัวพระเอกได้ไหมคร้าบ

แต่บอทก็ไม่ผิดนี่นะสองจิตสองใจแล้วอ่ะ

ออฟไลน์ zombi

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-5
ความรัก บางครั้งมันก็มาแบบไม่ทันให้เราได้เตรียมตัวเตรียมใจ

แล้วถ้ามันเกิดขึ้นกับคนที่ไม่ควรเกิด ไม่ถูกเวลา ควรทำอย่างไร

mumoo

  • บุคคลทั่วไป
เฮ้อ.......ท่าทางจะมีคนมาสนใจน้ำแระ
แต่น้ำตอนนี้คงยังไม่พร้อมจะเปิดใจรับใครอื่นนอกจากคนคนนั้น
คนที่เคยแสนดี แสนรัก แสนอาทร....ที่ตอนนี้เป็นเหมือนภาพฝันอันเลือนลาง
อ่านแล้วอึดอัดแทน ได้แต่ลุ้นให้น้ำหลุดจากสภาพนี้เร็วๆ
ปล.ตามอ่านมาพักนึงแระ แต่ไม่แน่ใจว่าเคยเม้นให้รึยัง(แอบเลว) วันนี้เลยซะหน่อยฉลองตัวละครใหม่ที่น่าจะเข้ามามีบทบาทในชีวิตของน้ำไม่น้อย(ล่ะมั้ง?) รอติดตามตอนต่อไปค่ะ

moonoi_sert

  • บุคคลทั่วไป
 :m16:นี่แหละหนาเจ้าวาตอนทำไม่คิด พอทำลงไปแล้วถึงจะคิดได้ เจ้าวาหรือเปล่านะที่จะทำให้น้ำรู้จักที่จะรักตัวเองมากขึ้น :m16:

ออฟไลน์ jimmyFG

  • Ich Liebe dich.
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2276
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +203/-4
    • @Facebook
วาน่าจะเป็นพระเอกเน้อ

ตอนนี้มาหายดราม่าเป็นปิดทิ้งเลย
เชียร์วา :mc4:
^^

lazewcielo

  • บุคคลทั่วไป
สงสัยวายุ คือ คนที่จะมาจีบน้ำแน่ๆเลย
ฮิ...เอาให้บอทมันกระอักไปเลย หมั่นไส้!

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ordkrub

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-12
เชียร์ให้น้ำเลือกคนที่ใช่ของตัวครับ อดีตก็เก็บไว้แต่สิ่งดีๆให้จดจำแต่ไม่ต้องไปอาลัยอาวรณ์ ทำปัจจุบันให้ดีเพื่อตัวเองและครอบครัวครับ

yayee2

  • บุคคลทั่วไป
คุณอิ๊กส่งคนมาดูแลหัวใจอันบอบช้ำของน้ำแล้วหรือจ๊ะ

ออฟไลน์ sang som

  • เจ็บจิต!!
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1609
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-6
คราวนี้ไอ้คุณบอทหายความจำเสื่อมชัวร์ o13

ออฟไลน์ knightofbabylon

  • it's sorrow that feeds your lies!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2542
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-51
น้ำคงไม่เปลี่ยนใจจากบอทหรอก
แต่ 'วายุ'   คุณคือเป้าหมายของคนอ่าน
 :interest:

เอาตอนที่บอทยังความจำไม่กลับนี่แหละ
เอาให้กระอัก
พอความจำกลับแล้ว จะได้เจ็บลึกๆ

คิกๆ



 :กอด1:คุณอิ๊ก

ออฟไลน์ som

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2708
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +230/-2
ตอนนี้มันกุ๊กกิ๊กดีเนาะ
เหมือนน้ำกำลังโดนจีบเลย

ออฟไลน์ rellachulla

  • iiRita♥World Behind My Wall♥
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1606
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-8
น้ำคงไม่เปลี่ยนใจจากบอทหรอก
แต่ 'วายุ'   คุณคือเป้าหมายของคนอ่าน
 :interest:

เอาตอนที่บอทยังความจำไม่กลับนี่แหละ
เอาให้กระอัก
พอความจำกลับแล้ว จะได้เจ็บลึกๆ



กดไลค์ค่า เห็นด้วยที่สุด
คุณคืิอคนสำคัญค่ะวายุ

หรือวายุจะเป็นพระเอกค๊าาา
อะไรก้อเกิดขึ้นได้เนอะ

ออฟไลน์ TanyaPuech

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4341
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +531/-23
น้ำคงไม่พร้อมรักนายวาหรอก ตอนนี้ไม่มีบอทรู้สึกสบายใจแหะ 55

ออฟไลน์ eiky

  • Played Me!!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1760/-3
บทที่ ๓๒

ปุจฉา เวลานอนหลับแล้วฝัน ฝันร้ายกับฝันดีท่านเลือกฝันอันไหน

“เดี๋ยวก่อนสิน้ำ”

เขาเรียกชื่อออกมา น้ำพอได้ยินก็รีบจ้ำหนีไป เพราะในใจก็กลัวเต้นระริกระรัวอยู่

“เดี๋ยว ขอคุยด้วยหน่อย”

“คุณจะตามมาทำไม”

“เรียกเราวาก็ได้ เราชื่อวายุ”

เขารีบมาขวางหน้าไว้ไม่ยอมให้น้ำเดินเข้าซอย

“ต้องการอะไร”

“เอ่อ ก็ไม่อะไรมากหรอก เหมือนนายยังไม่ยกโทษให้เราเลย เราอยากให้นายยกโทษให้”

“ผมยกโทษให้ เราไม่มีอะไรติดค้างกัน”

น้ำพูดออกมาโดยที่เขายังพูดไม่จบ เขายิ้มออกมา

“นายพักในซอยนี้เหรอน้ำ”

เขาเรียกชื่ออย่างสนิทสนม คงจะจำมาตอนที่เล็กเรียกตอนที่ทำจานกระเบื้องบาดมือ

“มือยังเจ็บอยู่ไหม เราซื้อยาให้เอาไหม”

“ไม่ต้อง ขอบคุณ”

“ไหนบอกว่ายกโทษให้แล้ว ทำไมยังทำท่าหน้าบึ้งใส่เราอยู่ล่ะน้ำ”

“ตกลงนายจะเอายังไงเนี่ย เราจะรีบกลับหอ เรายกโทษให้นายแล้วพอใจไหม”

ทำชักสีหน้ารำคาญออกมาอย่างสุดทน แต่เขาเองกลับหัวเราะออกมา

“เราอยากเป็นเพื่อนนาย ได้ไหม”

“เราเป็นคนอีสาน ไม่คู่ควรที่จะเป็นเพื่อนกับคนเมืองอย่างพวกนายหรอก เรามันคนละชั้นกัน อย่ามายุ่งกับเราเลยดีกว่าเดี๋ยวคนจะหาว่านายมีเพื่อนเป็นคนลาว”

“ฮ่าๆๆ ไหนบอกยกโทษให้จำขึ้นใจเลยนะ เราขอโทษแทนเพื่อนด้วยละกันที่มันปากไม่ดี เราเองก็ปากไม่ดี ตกลงเราเป็นเพื่อนกันนะ นี่เบอร์เพจเรา”

เขาล้วงหยิบเอาเศษกระดาษในกระเป๋ามาจดอย่างรีบร้อนแล้วยื่นให้น้ำ แต่น้ำเดินหนีไปก่อนแล้ว

“อ้าวน้ำ รอก่อนดิ”

เขาวิ่งตามฉวยข้อมือของน้ำเอาไว้แล้วยัดกระดาษใส่มือให้น้ำ ยากที่จะขว้างปาทิ้ง ไม่มีเหตุผลอันใดที่จะเก็บมันไว้เหมือนกัน น้ำพยักหน้าแล้วเดินขึ้นหอไป เขายังยืนนิ่งอยู่ที่เดิมมองน้ำเดินขึ้นหอไปจนลับตาค่อยก้าวเท้าเดินหนีไป ช้าๆ ใบหน้าก็ฉายรอยยิ้มออกมา

“เอ๊ะ ทำไมล็อคประตู บอทๆ หลับเหรอ”

น้ำเดินขึ้นไปบนห้องเห็นประตูปิดมิดชิดใส่กลอนจากด้านใน เคาะเรียกอยู่นานสองนาน

“อ้าวน้ำ ทำไมกลับเร็วล่ะวันนี้”

บอทยื่นหน้าออกมาโดยที่ไม่เปิดประตูทั้งบาน น้ำขมวดคิ้วมองอย่างสงสัย

“จานบาดมือ พี่เขาเลยให้กลับก่อน”

น้ำบอกออกไปแต่สายตายังพยายามมองเข้าไปในห้อง แต่บอทขวางไว้

“มีอะไรหรือเปล่าบอท เราเหนื่อยจะเข้าห้อง”

น้ำเริ่มชักสีหน้าไม่พอใจ บอทเองก็หน้าซีดลง

“เอ่อ”

“น้ำกลับมาแล้วเหรอบอท”

เสียงที่ทำให้เข่าอ่อน มือสั่น ใจหวิว จากที่สั่นเต้นรออยู่ก่อนแล้วมันสั่นไหวไปยิ่งกว่าเดิมอีก ใจหายลอยไปไกลแสนไกล เหมือนหูฝาดกับเสียงคุ้นเคยที่ได้ยิน

“อืม เข้ามาดิน้ำ”

เข้ามาสิเหรอ นี่มันห้องที่น้ำหาเงินมาจ่ายค่าห้องอยู่ทุกเดือน ห้องพักที่เป็นสถานที่ส่วนตัวที่สุด เป็นที่พักผ่อน เป็นเหมือนบ้าน แล้วนี่อะไร แล้วนี่ใคร เพื่อนหรือ? แล้วยังไง คำถามต่างๆมากมายผุดขึ้นในหัวของน้ำเป็นร้อยเป็นพัน แต่คำถามนั้นไม่มีคำตอบจากใครหรือจากสิ่งใด น้ำเม้มปากแน่นจุกอยู่ในอก เดินเข้าห้องไปไม่มีเรี่ยวแรง ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน ไม่รู้จะหยิบจับสิ่งใดก่อนหลังดี ที่ที่เคยกลับมาแล้วนั่งลง มันมีร่างของคนอื่น คนที่ไม่พึงประสงค์นั่งทับอยู่ ไม่รู้จะยิ้มหรือทำหน้าอย่างไรดี นี่มันห้องของเราแต่ทำไมรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนแปลกหน้าไปเสียอย่างนั้นเป็น แขกที่เขาไม่ได้เชิญไปเสียแล้ว

“ไม้ มาเที่ยวเหรอ”

คำถามโง่ๆของคนโง่ที่เขากำลังงอกเงยลอดออกไปจากปาก

“อืมพอดีเราแวะมาแถวนี้เลยมาเยี่ยมบอทกับน้ำหน่อย ห้องเล็กไปนะน้ำ ไม่อึดอัดเหรอ”

ได้แต่เม้มปากแน่น

“ก็เช่าไว้พออยู่พอนอนกันแค่สองคนน่ะไม้ ไม่ได้อยู่วิเศษอะไรนักหรอก”

“ดูพูดเข้า เห็นบอทบ่นว่าอึดอัดอยู่ บอกให้ไปอยู่คอนโดฯด้วยกันก็ไม่ไป น้ำไปอยู่กับเราไหม”

ทำไมรู้สึกเหมือนใจมันหมดแรงหมดกำลังแบบนี้ มองไปทางบอทที่ก้มหน้านิ่งอยู่ อึดอัดมากขนาดนี้เชียวหรือบอท ทำไมไม่บอกเรา ทำไมไม่เอ่ยมันออกมาตอนที่อยู่กันสองคน ตอนที่มีแค่เราสองคน ไปบอกเขาทำไม ถ้าบอทอึดอัดมากเราจะหาที่ดีกว่านี้ แม้เขาจะแค่พูดจาถากถางให้รู้สึกเจ็บช้ำหนำใจ แต่น้ำกลับรู้สึกเหมือนเขากำลังรุมตบหน้าอยู่อย่างเมามัน เจ็บจนชา

“เราไม่รบกวนไม้หรอก เดี๋ยวเราก็ว่าจะหาหอที่ใหญ่กว่านี้แล้วล่ะ เพราะท่าทางบอทเองคงจะอึดอัดจริงๆ ใช่ไหมบอท”

น้ำเสียงที่เปล่งออกมามันเหน็บบอทโดยเจ้าตัวก็รู้สึกตัวดี เม้มปากแน่นได้แต่ก้มหน้า

“เรามารบกวนนายสองคนหรือเปล่าเนี่ย บรรยากาศไม่ดีเลย”

ไม่รู้สินะรู้สึกว่าอีตานี่มันดัดจริตมากเหลือเกิน รู้ดีอยู่แก่ใจแท้ๆ รู้ดีทุกอย่างแต่ก็ยังหน้าด้านหน้าทนมานั่งลอยหน้าลอยตาอยู่ในที่ของคนอื่น ที่ที่เรานั่ง

“ไม่หรอกไม้ ไม่กวนหรอก”

บอทเป็นคนพูดออกมา น้ำเองมองหน้าบอทอยู่ตลอดเวลา

“ตกใจนะ นึกว่ามารบกวนเราจะได้ขอตัวกลับเลย ห้องมันเล็กเนอะ ที่มันไม่พอสำหรับสามคนหรอก จริงไหมน้ำ”

ตอนนี้เองที่รู้สึกว่าเขาเองก็ไม่ใช่คนที่จะยอมอะไรง่ายๆเหมือนกัน สายตาที่มองมาทางน้ำมันไม่ยอมลดละให้เลย

“ใช่ ที่มันเล็กไปสำหรับสามคน ถ้ามีคนต้องไป เราว่าเราออกไปดูของหน้ารามฯดีกว่า ตามสบายนะไม้”

ปากบอกไม้แต่ตามองดูบอทไม่วางตา น้ำตาที่กำลังเอ่อออกมาน้ำกระพริบตาไล่มันไป ถ้าหากจะเสียน้ำตาไอ้คนดัดจริตตรงหน้าจะไม่มีทางได้เห็นมัน เจ็บปวดเหลือเกิน แต่จะร้องไห้คร่ำครวญเพื่อสิ่งใดเห็นประโยชน์มีไม่ น้ำตัดสินใจเดินออกจากห้อง เดินออกมาอย่างผู้แพ้ หมดแล้วกำลังใจ เขาเปลี่ยนแปลงไปแล้ว เขาไม่ไว้หน้าเราเลย ความรักความห่วงใยที่สะสมสร้างร่วมกันมาเขาลืมมันไปหมดแล้ว เขาไม่เหลือที่ว่างให้เราอีกแล้ว เจ็บเหลือเกิน แม้จะร้องไห้ออกมาจนน้ำตาเป็นสายเลือดมันจะบรรเทาไหม ไม่เลย รังแต่จะสุมรุมความเจ็บช้ำเข้าไปในหัวใจกัดกินให้ใจมันเป็นสนิมคั่งค้างไป เปล่าๆ แต่ถามว่าจะเลิกราเดินหนีไปเลยหรือ ก็ไม่ ตอบโดยไม่ต้องคิดว่าไม่ เขาจำไม่ได้ เขาไม่ได้ตั้งใจที่จะทำให้เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้น ถ้าหากว่าบอทคนเดิมอยู่ตรงนี้เขาก็คงจะไม่ทำแบบนี้ ไม่มีทางน้ำมั่นใจ ถ้ามั่นใจเช่นนั้นก็อดทนเอาเถิดน้ำ สักวันเขาจะต้องกลับมาเป็นเหมือนเดิม สักวันความเจ็บช้ำนี้มันจะหายไป น้ำเดินล่องลอยพาร่างไร้วิญญาณเดินเรื่อยเปื่อยมาถึงหน้าสนามกีฬา ไม่รู้สึกตัวเลยว่ามีคนตามมา เขาเดินตามออกมาห่างๆ แม้มีบางช่วงจะเดินเบียดคนดันมาตัวแทบมาประชิดติดกันแต่น้ำเองด้วยไม่มีสติ ใดจะสะกิดเตือนให้รู้ตัวว่าใครตามมา เขาเองก็ไม่ได้อยากจะรบกวนเหมือนกำลังเฝ้ารอโอกาสอยู่

“เดินลอยๆแบบนี้ไม่กลัวโดนคนฉุดเหรอน้ำ”

เขาเข้าไปกระซิบถามใกล้ๆ น้ำเองหันมาช้าๆไม่ได้ตกใจหรือแสดงอาการตื่นกลัวเลย พอเขาเห็นแววตาของน้ำก็สะดุ้งใจหายไปเหมือนกัน แววตาที่เต็มเอ่อไปด้วยม่านน้ำตา

“น้ำ น้ำเป็นอะไร”

น้ำกระพริบตาถี่ๆ รู้สึกตัวขึ้นมา ยิ้มแห้งๆ ยิ้มทำไมในเมื่อใจมันมอดไหม้ไปหมดแล้ว

“เราอยู่เป็นเพื่อนนะ”

เขาไม่เพียงแต่พูดเท่านั้นฉวยข้อมือของน้ำลากไปนั่งที่สนามหญ้าหน้าสนาม กีฬา น้ำเองก็ตัวปลิวลอยตามไป ไม่ขัดขืนแม้ไม่ได้เต็มใจ แต่มันไม่มีใจที่จะรั้งหรือทำอะไรได้มากไปกว่านี้

“มีอะไรไม่สบายใจเหรอน้ำ บอกเราได้นะ”

เขานั่งลงข้างๆน้ำ มองหน้าที่เศร้าหมองของน้ำอย่างเห็นใจ แม้จะไม่รู้เรื่องราวอะไรก็ตาม

“เปล่าหรอก ทำไมนายยังไม่กลับบ้าน”

น้ำเฉไฉไปเรื่องอื่น พยายามทำใบหน้าให้ร่าเริง ไม่อยากให้คนแปลกหน้าเห็นว่าเขาเองทุกข์ใจอยู่มากเพียงใด

“พอดีเรากินเตี๋ยวหน้าเซเว่นอ่ะ เห็นนายเดินลงมา เรียกก็ไม่ยอมหันเลยเดินตาม มีอะไรหรือเปล่าน้ำ เห็นเดินขึ้นห้องไปแป๊บเดียวเอง”

เขาเองไม่ยอมลดละเช่นกัน แม้ว่าจะถูกเบี่ยงประเด็นไปก็ตาม

“ไม่มีอะไรหรอก เราแค่อยากออกมาเดินเล่น นายไม่กลับเหรอ ดึกแล้วนะ”

น้ำเหม่อมองออกไปไกลแสนไกล สายตาจับจ้องอยู่ที่ดวงไฟสีส้มดวงใหญ่ที่เปิดให้แสงสว่างอยู่บริเวณโดยรอบของสนามกีฬา

“ยัง เราบอกแม่ไว้แล้วว่าจะกลับค่ำ เหมือนนายร้องไห้เลยนะ มีอะไรเหรอน้ำ”

เขาดูจริงจังที่จะเค้นเอาคำตอบมาก จริงจังเสียจนน่าใจหาย

“ไม่สบายใจก็ระบายมันออกมาได้นะ อย่างน้อยก็คิดว่าเล่าให้คนแปลกหน้าอย่างเราฟัง”

ใช่สินะ เขาเป็นใครมาจากไหนเรายังไม่รู้เลย เขายังห่วงใยถามว่าเจ็บไหม รู้สึกอย่างไร ไม่สบายใจหรือทุกข์สุขดีห่วงใยความรู้สึกของเรา แล้วคนที่เรารักมากอย่างนั้น รักหมดทั้งหัวใจล่ะ แค่เพียงปรายตามองมายังไม่มี แค่เพียงถามเราสักคำว่าเจ็บไหมยังไม่มี นี่มันอะไรกัน นี่มันเกิดอะไรขึ้นระหว่างเรา เขาจะรู้ไหมว่าเจ็บ เขาจะรู้ไหมว่าเราปวดหัวใจ แค่คิดน้ำตาก็ไหลพรั่งพรูออกมา น้ำเอามือกุมหน้าไว้สะอื้นออกมา เขาเองก็ตกใจแต่ก็เอามือโอบบ่าของน้ำไว้ ร่างของน้ำสั่นไหวสะท้าน เสียงสะอื้นที่ออกมาจากข้างในอกมันดังบาดใจคนได้ยินเหลือเกิน เสียงร้องไห้ที่คนร้องพยายามกักเก็บเอาไว้มันฟังดูแล้วใจหายรันทดเหลือเกิน วายุเองบีบบ่าของน้ำเบาๆ

“ขอโทษนะนาย ที่นายมาเห็นคนบ้าอย่างเราร้องไห้”

น้ำพูดออกมาพยายามยันตัวขึ้น แต่วายุฉวยข้อมือรั้งไว้อีกครั้ง

“ถ้าไม่สบายใจก็อยู่ให้สบายใจก่อนสิน้ำ อย่าเพิ่งไป”

“ทำไมล่ะ ทำไมนายถึงมาทำดีกับเรา เราเป็นแค่เด็ก”

“น้ำ”

เขาแทรกขึ้นสายตาปราม น้ำนิ่งยอมนั่งลงที่เดิม

“น้ำจะมาจากไหนมันเกี่ยวกันด้วยเหรอสำหรับมิตรภาพ ใครกันนะที่เป็นคนบัญญัติอะไรไร้สาระพวกนี้ แบ่งชนชั้นวรรณะกัน ตลกสิ้นดี เป็นคนอีสานแล้วยังไง เป็นคนเมืองแล้วยังไง ไม่กินข้าวกันหรอกเหรอหรือว่าอิ่มทิพย์ คนมาจากไหนก็คนเหมือนกันนั่นล่ะน้ำ นายอย่าคิดมากดิ เราว่าถึงนายจะเป็นคนอีสานแต่ดูท่าทางนายยังนิสัยดีกว่าไอ้เต้เพื่อนเราอีก นะ”

วายุพูดขึ้นมาแล้วหัวเราะอย่างอารมณ์ดีน้ำเองก็ยิ้มๆ

“นายมีแฟนไหม”

น้ำถามขึ้นแต่ไม่ยอมมองหน้า วายุถอนหายใจแล้วมองหน้าน้ำ

“ทะเลาะกับแฟนเหรอน้ำ”

“นายเคยรักใครมากๆไหม รักหมดทั้งใจ แต่ถ้าหากว่าบางอย่างทำให้เขาจำเราไม่ได้ นายจะทำยังไง”

น้ำเองถามออกไปเหมือนไม่ต้องการคำตอบ

“ถ้าเป็นเราเหรอ อืม พูดยากนะ เพราะถ้ารักแล้ว มันก็รัก จะทำยังไงได้ เราเคยมีแฟนเหมือนกัน แต่ไม่รู้สิไม่ได้รู้สึกรักมาก คงเป็นเพราะรักแบบวัยรุ่นน่ะน้ำ ไม่คิดว่ามันเป็นรักที่จริงจังอะไรตอนเลิกกันก็ไม่ได้เสียใจ ต่างคนต่างไป”

“ถ้าหากว่าคนที่นายรักมากๆกำลังปันใจให้ใครอื่นล่ะ นายจะทำยังไง”

น้ำซุกหน้าลงกับเข่าที่ชันขึ้นของตัวเอง ร้องไห้ออกมาอีกครั้ง แต่ไม่มากเหมือนครั้งแรก

“เราเข้าใจน้ำ เราเข้าใจ อย่าคิดมากนะ เราเป็นกำลังใจให้”

ทั้งสองนั่งคุยกันอยู่พักใหญ่ๆ จนเกือบเที่ยงคืนวายุจึงเดินกลับมาส่งน้ำที่หน้าหอ ทั้งที่น้ำไล่ให้กลับบ้านไปก่อนแต่เขาก็ไม่ยอม วายุบกว่าบ้านอยู่ ถนนนวมินทร์ น้ำเองไม่รู้เหมือนกันว่ามันอยู่ตรงไหนของเมืองใหญ่เมืองนี้ วายุบอกไม่ต้องห่วงเพราะจะนั่งรถแท็กซี่กลับบ้าน น้ำเองจึงไม่ว่าอะไรยินยอมให้เขาทำตามใจ พอกลับข้นห้องไปไม่เห็นไม้แล้วมีเพียงบอทที่แกล้งทำท่าเป็นนอนหลับอยู่ คงไม่อยากจะคุยกับน้ำน้ำเองพอกลับเข้าห้องไปก็จิตใจไม่เป็นปกติเหมือนเดิม ยิ่งเห็นร่างของคนที่รักยิ่งทรมานปวดใจ กว่าจะอาบน้ำเสร็จก็เกือบตีหนึ่งเข้าไปแล้ว พออาบน้ำแต่งตัวเสร็จน้ำก็ถือหนังสือลงไปชั้นล่างเพื่อนอ่านสรุปอีกครั้ง ก่อนที่จะไปสอบในวันพรุ่งนี้

อุษาสางสาดแสงส่องร่างยาวเหยียดที่บิดขี้เกียจไปตามความยาวของห้อง อีกคนเฝ้ามองคอยจ้องดูอยู่ไม่วางตา ชำระกายาล้างหน้าพร้อมเสร็จสรรพเตรียมจะออกไปสอบ จะเรียกคนหลับให้ตื่นก็เกรงใจ ไม่กล้าปลุกเขา ไม่กล้ากวนเขา ร่างของคนเดิมใจอื่น ไม่กล้าจริงๆ

“บอท ไม่มีสอบเหรอวันนี้อ่ะ”

น้ำตัดสินใจถามออกไป

“หือ มี น้ำจะไปแล้วเหรอ”

“อืม นัดเล็กเอาไว้ บอทไปด้วยกันไหม”

“ไม่เป็นไรเดี๋ยวไม้เอ่อ”

“อ้อ งั้นน้ำไปนะ”

คงไม่มีประโยชน์อะไรที่จะอยู่ฟัง คำก็ไม้สองคำก็ไม้ แล้วชื่อน้ำคนนี้มันหายไปไหนกัน จากที่เคยสำคัญเป็นอันดับแรก ตอนนี้ชื่อนี้อยู่ลำดับที่เท่าไหร่แล้วหรือ น้ำเม้มปากแน่นเดินลงจากหอไปด้วยจิตใจที่ห่อเหี่ยวไร้ซึ่งเรี่ยวแรง

“น้ำ คู่กรณีมึงมาอีกแล้ว ให้กูไปรับหน้าไหม”

เล็กถามขึ้นเมื่อเห็นกลุ่มของวายุเดินเข้ามาในร้าน

“ไม่เป็นไรมึง เดี๋ยวกูไปรับเอง”

น้ำบอกแล้วเดินเข้าไปหา น้ำทักทายตามปกติ

“ว่าไงนายน้ำ วันนั้นเราขอโทษด้วยนะที่พูดจาไม่ดีกับนาย”

คนตัวเล็กสุดเอ่ยขึ้นยิ้มๆ

“ไม่เป็นไรครับ สี่ท่านนะครับ เชิญด้านนี้ครับ”

น้ำเองก็ยิ้มให้ ไม่ได้คิดติดใจอะไรมากนัก วายุเองยิ้มเดินตามน้ำไปก่อนใคร

“น้ำ นี่ไอ้เต้ ไอ้ป๋อง แล้วก็ไอ้เน็ท”

วายุแนะนำเพื่อนให้รู้จัก น้ำเองก็ยิ้มให้ไม่ได้ยกมือไหว้เพราะว่ารุ่นเดียวกัน

“เห็นไอ้วามันบอกว่าน้ำเรียนรามฯเหรอ เราว่าจะไปลงไว้เหมือนกัน อยากจะจบปริญญาสองใบ”

เน็ทเอ่ยขึ้น จากที่เคยดูแคลนเอาไว้แต่น้ำเสียงตอนนี้มันดูเปลี่ยนไป

“ไอ้ห่า ใบเดียวมึงก็เอาให้รอดก่อนเถอะ ดอดจะเรียนสองใบ ถุย”

ป๋องเหน็บเสียงหัวเราะก็ดังขึ้น

“ผมก็เพิ่งลงเหมือนกันล่ะครับ คงแนะนำอะไรได้ไม่มากหรอกครับ”

“โห ยังผมยังคุณอยู่เหรอน้ำ ไม่อยากให้เราเป็นเพื่อนเหรอ”

เต้มองหน้าน้ำที่หลบตาทันทีที่เขาเอ่ยขึ้น

“ในร้านนี่มึง น้ำเขาเห็นว่าเราเป็นลูกค้า ทำตัวดีๆล่ะไอ้พวกนี้”

“โห ไอ้วาพวกกูน่ะดีอยู่แล้ว ว่าแต่มึงเถอะ ก่อเหตุไว้ไม่ใช่เหรอคราวที่แล้ว ว่าแต่มือหายยังอ่ะน้ำ”

ป๋องยื่นหน้ามามองที่มือของน้ำ

“หายแล้วครับ วันนี้ทานอะไรดีครับ”

น้ำยื่นเมนูให้ทุกคนแล้วรอรับรายการอาหาร ระหว่างนั้นวายุก็ชวนคุยไปเรื่อยๆ

“ตกลงมึงจีบน้ำเหรอไอ้วา”

เต้เอ่ยขึ้นทำหน้าตายใส่ วายุเองทำหน้าเหรอหราทันที

“บ้า พูดอะไรวะ กูแค่ชอบที่เขานิสัยดี”

“อะไร รู้จักกันไม่ทันไรเห็นว่าเขานิสัยดีแล้วเหรอ กูไม่เชื่อ”

เน็ทเสริม

“นั่นดิ ได้ข่าวว่ามาเทียวหาน้ำเขาทุกวันนี่มึง เอายังไง”

ป๋องอีกรายที่ไล่อยู่

“เออ กูชอบเขา แล้วยังไง แต่กูคงไม่มีหวังหรอกว่ะ น้ำเขามีแฟนแล้ว ท่าทางจะรักมากด้วยนะ”

สารภาพออกมา ชอบกันง่ายมันจะหน่ายกันง่ายไหมนะ คำว่าชอบแค่เพียงพูดลอดปากออกมามันก็หมดค่าไปแล้วหรือ ยิ่งคำว่ารักมันง่ายมากนักหรือไรที่จะพูดมันออกมา แค่คำพูดมันคงไม่ยากหรอก แต่ในใจล่ะเป็นไปเหมือนอย่างที่ปากพูดไหม

วิสัชนา อย่าได้เลือกสิ่งใดเลยท่าน เพราะหากท่านนอนหลับแล้วฝันหมายถึงว่าท่านนอนหลับไม่สนิท พักผ่อนไม่เพียงพอนั่นแล

เขียนโดย อิ๊กกี้



ปล วันลอยกระทงไปลอยไหนกันเอ่ย ขอให้มีความสุขกันถ้วนหน้านะคร้าบ ผมไม่ลอยนะอิอิ มีเรื่องในอดีต ข้ามไป ก็ขอให้มีความสุขมากๆนะครับ

ตอนนี้มอบพิเศษให้ คุณ ordkrub น่าจะชื่อ คุณ อ๊อดป่ะครับ ขอให้มีความสุขกับการอ่านนะครับ ขอบคุณที่ติดตามมาตั้งแต่ต้น จากใจครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-03-2013 09:12:44 โดย eiky »

samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป
อ่านแล้วสงสารน้ำ เฮ่อออออออเครียดหวะ วายุเอยจีบๆน้ำซะทีน้ำจะได้เอาเวลาไปคิดเรื่องอื่นบ้าง   :serius2: :serius2: :serius2: :serius2:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-11-2010 21:58:47 โดย samsoon@doll »

ออฟไลน์ zombi

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-5
นายวา เคยได้ยินไหม ตื้อเท่านั้นที่ครองโลก

เอาใจช่วยนะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด