-------- ตอนพิเศษ : ฮาโลวีน -----------
“ พี่กานต์ๆ เอาขนมปังปิ้งด้วยไหม จะได้ปิ้งเผื่อ ” ผมตะโกนบอกพี่แกที่ยังอาบน้ำอยู่บนห้อง
“ 4 แผ่น ! ”
ได้กลับมาเป็นเสียงตะโกนดังลั่น
เป็นหมีที่เสียงดีจริงๆ ครับ
อย่างนี้ไปเป็นพวกผู้คุมฝึกรด. อะไรงี้ได้เลยจริงๆ ไม่ก็ไปหารับตำแหน่งพี่ว้ากก็ไม่เลวนะครับ
เอาเป็นว่าทุกคนคงกำลังจะงุนงงที่เห็นผมอยู่ที่บ้านพี่กานต์
ใช่ ตามที่คุณคิดนั่นแหละครับ
ผมย้ายมาอยู่บ้านพี่กานต์แล้ว อย่าว่าอย่างงู้นอย่างงี้เลย
ก็ถ้าผมไม่มา พี่แกก็มาบุกบ้านผมครับ
เอางี้ดีกว่าผมจะเล่าเรื่องราวถัดจากตอนที่แล้วแล้วกัน
คือหลังจากนั้นพี่กานต์ก็จีบผมไปอีก 3 วัน อย่าเพิ่งอุทานว่าทำไมผมใจง่าย หยุดครับ ขอให้อ่านก่อน วิธีการที่พี่กานต์จีบก็คือการมาอยู่ในบ้านผม อยู่กับผมเกือบจะตลอดเวลา ราวกับว่าผมเป็นเด็กน้อยต้องการคนดูแล ไม่พูดคำหวานเชื่อมอะไรทั้งนั้นแหละครับ หมีโหดย่อมโฉดและเถื่อน นั่นคือนิยามของพี่กานต์
พี่แกก็ไปๆ มาๆ บ้านพี่แกสลับกับมาบ้านผมครับ
ซึ่งผมก็อดรู้สึกสงสารไม่ได้ เอาจริงๆ ทั้งผมทั้งพี่กานต์ก็ชอบกันนั่นแหละครับ ผมก็แค่รอให้พี่กานต์พูดอะไรสักอย่างเพื่อเปลี่ยนความสัมพันธ์คลุมเครือนี่บ้าง
วันที่ 3 พี่แกก็ยอมพูดครับ
“ พี่ชอบทอย มาอยู่บ้านพี่เหอะ พี่ขี้เกียจเดินมาบ่อยๆ เมื่อย ”
เป็นประการฉะนี้แล..
ถึงจะรักบ้านแค่ไหน แต่ก็อยากลองเปลี่ยนอารมณ์ดูบ้างนั่นแหละครับ ไปเป็นพิกเล็ทให้หมีโฉดก็ดูน่าสนุกดี
ระหว่างที่คิดนู่นนี่นั่นขนมปังก็ปิ้งเสร็จพอดีแต่เครื่องปิ้งมันปิ้งได้ทีละ 2 แผ่นครับ ผมเลยต้องปิ้งอีก 2 รอบ เพราะผมกิน 2 พี่หมีล่อไป 4
ไม่รู้ว่าทำไมพี่แกถึงกินเยอะนัก
ถึงจะสัมพันธ์กับขนาดตัวก็เถอะ
สงสัยจะชอบใช้พลังงาน
พูดถึงเรื่องพลังงานก็อดรู้สึกเขินไม่ได้ ไม่.. อย่ามารบเร้าให้ผมเล่าเลย ผมโครตอาย
“ เอาแยมอะไร ? นูเทลล่า หรือ ส้ม ”
ผมสะดุ้งเฮือก “ นูเทลล่าแล้วกันครับ ” หน้าเผลอแดงไม่รู้ตัว
ร่างที่ถูกใหญ่พอจนสามารถเป็นญาติห่างๆ ของหมีได้ขมวดคิ้วแน่น“ เป็นอะไรหน้าแดง ไม่สบายเหรอ ไปนั่งไป เดี๋ยวพี่ทำเอง ” มือหนาดึงกระชากลากถูพิกเล็ทไปโยนไว้บนเก้าอี้ ยื่นมีดกับขวดนูเทลล่าที่ถือมาแต่แรกให้ ก่อนที่จะถือจานขนมปังมาวางไว้ข้างหน้า
ถ้าเกิดพี่กานต์เอาผ้ามันผูกคอผม
ผมเป็นเด็กอนุบาลได้เลยครับจริงๆ
มือลูบหัวผมเบาๆ เสียงที่ปกติมักจะแข็งกระด้างอ่อนโยนจนรู้สึกได้ “ ยังเพลียอยู่เหรอ ครั้งหน้าก็นอนบนเตียงก็ได้ไม่ต้องลงมาทำข้าวเช้าหรอก เดี๋ยวพี่ทำเอง ”
รู้แล้วใช่ไหม
ผมรู้ว่าพวกคุณรู้แล้ว ฮือๆ
ว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น
ก็ได้ๆ เห็นแก่ตอนนี้เป็นตอนพิเศษ ผมจะย้อนไปเมื่อคืนให้ก็ได้
ว่าพิกเล็ตน้อยโดนหมีพูห์โฉดปู้ยี้ปู้ยำอย่างไร
ช่างน่าเสียใจจริงๆ
มันไม่ใช่ครั้งแรกที่อยู่ๆ พี่กานต์จะมานั่งมองผมที่นอนดูทีวีไปเรื่อย
มองไปมองมาจนผมรู้สึกเขิน
“ มีอะไรหรือเปล่า พี่กานต์ ”
“ เปล่า ”
ปากตอบเปล่าแต่ยังจ้องอยู่เหมือนเดิม
เอาจริงๆ นะ ผมรู้ว่าพี่แกกำลังคิดเรื่องอะไรอยู่ แต่ก็เฉไฉไปงั้นนั่นแหละ
ไม่คิดว่าจะโดนลูกรักพี่แกทำเจ็บขนาดนี้นี่หว่า
แต่ถูกจ้องขนาดนี้ให้ผมนอนเฉยๆ ก็ไม่ไหวเหมือนกันแหละ
ผมเลยยอมลุกขึ้นจากเตียงเดินมาหาหมียักษ์ที่ยังมองนิ่งๆ ดวงตาสีดำสนิทเหมือนกำลังซุกซ่อนไฟสุมร้อนแรงไว้ด้านหลัง
รอบแรก พี่กานต์รอให้ผมเริ่ม
รอบนี้ก็คงจะเหมือนกัน
“ ผมขอถามอะไรได้ไหมพี่ ? ”
“ ว่า ”
“ ทำไมพี่ถึงตั้งชื่อปลาทองว่าแซนด์วิชแฮมล่ะ ”
มันเป็นปัญหาคาใจผมนานละ แต่หาโอกาสถามไม่ได้สักที
ผิดคาด มีเลือดฝาดบนหน้าพี่กานต์
“ ตอนนั้นฟลุ๊คบอกว่าทอยชอบให้ซื้อแซนด์วิชแฮมมาฝาก พี่เลยตั้งชื่อนี้.. ”
ไม่น่าถามเลยว่ะ
จริงๆ
คำตอบชวนเขินมากครับ แต่เพื่อต่อเวลาเราเลยเล่นถามคำถามต่อ
“ พี่จำตอนที่พี่ทะเลาะกับพี่ฟลุ๊คตอนม. ปลายได้ปะ ”
พี่กานต์ทำท่าคิดไปสักพัก
“ จำได้ ”
“ พี่ทะเลาะกันเรื่องอะไร ”
เพราะไอ้ที่ทะเลาะกันนี่แหละครับ ผมถึงได้กลัวเข้าไส้
“ ตอนนั้นพี่กับมันเกี่ยงกันแสดงบทพระเอกละครเวที พี่ไม่อยากแสดง พี่ไม่ชอบ ไอ้ฟลุ๊คก็พยายามโยนให้พี่ แต่พี่ไม่ชอบเลยตะคอกด่ามัน ”
“ แสดงเรื่องอะไรเหรอครับ ”
เมื่อก่อนผมว่าผมเห็นพี่กานต์ออกงานโรงเรียนบ่อยอยู่นะ
สามารถนำไปใช้เป็นพระเอกหรือกรรมกรแบกหามได้ตามต้องการ
“ เงาะป่า มันให้พี่แสดงเป็นเงาะตอนยังไม่ถอดรูป ”
พี่กานต์เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ก็มีสีหน้าโกรธอยู่กรุ่นๆ
“ โอเค พี่ ผมหายข้องใจแล้ว อย่าฆ่าพี่ผมเลย ”
พยายามใช้คำพูดแทนน้ำผึ้งยื่นให้หมีพูห์ครับ
“ ช่างเหอะ พี่ไม่ไหวแล้ว ”
หมีพูห์ยักไหล่ใส่ผม แปลกนะครับวันนี้พี่กานต์ใส่เสื้อสีแดงอีกต่างหาก เหมาะดีจริงๆ พี่แกจ้องผมตรงๆ เลิกปิดบังสิ่งที่ซ่อนในแววตา พร้อมจะแผดเผาผมเต็มที่
อย่างว่าแหละครับ
พิกเล็ทยังไงก็ต้องตามใจหมีพูห์ที่เป็นตัวเอกของเรื่อง
ถึงได้ต้องเป็นฝ่ายจูบพี่กานต์ก่อน..
“ อือ พอพี่กานต์ พอ.. ”
จะบอกว่าพี่กานต์นี่ไม่ทะนุถนอมผมสักนิดครั้ง ฮือๆ
รอบหลังๆ มาเนี่ย
รอบแรกอ่อนโยนเหมือนแป้งเด็กแคร์ ทำไมถึงกลายเป็นหมีโฉดในวัยเจริญพันธุ์ไปได้
“ ไม่ .. ”
ลากเสียงยาวข้างหูพร้อมกัดเข้าที่คอ
“ โอ๊ย เบาๆ ”
ไม่แน่ใจว่าผมหมายถึงข้างบนหรือข้างล่างกันแน่ครับ
แต่ที่แน่ๆ โครตเขินเลย
กลัวว่าจะรอบนี้เสร็จ พี่กานต์จะต่ออีกรอบเนี่ย
ถ้ามีอะไรมาขัดขวางได้
ผมจะดีใจมาก ฮือ
“ ไม่ได้ทำเกือบอาทิตย์เลยนะ ทอย ”
พี่กานต์ปั่นนิยายส่งกองบก. ครับช่วงนั้นที่ห่างหายจากเรื่องใต้สะดือไป เพราะอะไรที่ปั่นไม่ทัน ? ก็พี่กานต์มัวแต่คิดเรื่องแบบนี้ไงครับ ฮือๆ
กริ๊งๆ
สุขสันต์วันฮาโลวีนฮาฟฟ จะให้ลูกกวาดหรือยอมโดนหลอกคร้าบบ
ฮาโหลววว
กริ๊งๆ
“ ฮาโลวีนบ้าอะไร ” พี่กานต์คำรามในลำคอ สีหน้าหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด
พี่หมีโกรธแล้ว
เด็กน้อย พวกนายต้องตายแน่ หนีไปซะ
“ ก็วันนี้วันฮาโลวีนอะพี่ เขาก็ต้องมาขอลูกกวาดกันดิ ” ผมพยายามหัวเราะแห้งๆ พยายามกดความรู้สึกพลุกพล่านของตัวเอง
แม่งปากบ่นแต่ก็ยังไม่เลิกขยับวะ
“ พี่กานต์ พอๆ เด็กมันรอนะ ”
คำขอของผมอุตส่าห์เป็นจริงทั้งที
พี่กานต์ขมวดคิ้วก่อนจะตะโกนออกไปเสียงดัง
ผมนี่ตกใจโครตๆ
กลัวว่าพี่แกจะตะโกนด่าเด็ก
“ ลูกอมอยู่ในตู้จดหมาย !! ”
ตะโกนเสร็จก็เลิกคิ้วให้ผมกวนๆ
ถามว่าผมรอดไหม
คำตอบคือ ไม่ !
พี่กานต์เคี้ยวขนมปังหงุบหงับนั่งตรงข้ามผม ขนมปังดูน้อยไปเลยเมื่อพี่แกกัดไปสองสามคำก็หมดแผ่นนึง
จนผมลังเลว่าจะสละของตัวเองให้พี่แกอีกอันดีไหม
แต่ถ้าให้ผมก็ไม่มีพลังงานไปทดแทนที่สูญเสียไปเมื่อวาน
ความคิดถูกพับเก็บไว้ ผมเลยไม่ได้ทำอะไรเพิ่มเติม
“ ทำไมพี่ซื้อลูกอมเก็บไว้ในตู้จดหมายล่ะ ? ”
อันนี้ผมงงงจริงๆ นะ
“ เด็กมันมาขอทุกปี รำคาญ เลยซื้อเอาไว้ ”
พี่กานต์ตอบอย่างขอไปที ซดนมโฮกฮาก
ผมหลุดหัวเราะ
“ พี่หน้าโหดงี้ มีเด็กกล้ามาขอด้วยเหรอ ”
“ ไม่รู้มัน เห็นกดทุกบ้าน ”
ช่างเป็นเด็กน้อยที่มีความพยายามกระตือรือร้นในเทศกาลจริงๆ
“ ทอยต้องให้ลูกอมพี่ด้วยนะ ”
“ ให้ทำไม ไม่ได้แต่งตัวผีนี่ ? ”
“ ก็เมื่อคืนเล่นผีผ้าห่มไง ”
พี่กานต์พูดเองขำเอง หัวเราะหึๆ กลั้นขำจนตัวสั่น
ส่วนผม
“ ... ”
สุขสันต์วันฮาโลวีนครับ
ขอให้มีเด็กมากดกริ่งบ้างนะครับ
--------------------------
เป็นตอนพิเศษรับฮาโลวีน
ไม่แน่พอมีวันสำคัญอะไร ตอนพิเศษอาจจะโผล่มาเรื่อย
ขอบคุณทุกคอมเมนต์ค่ะ