【❤เพราะแบบนี้ไงผมถึงปล่อยเขาไปไม่ได้❤】:: UP!! ตอนพิเศษปีใหม่ 1/1/2560!
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: 【❤เพราะแบบนี้ไงผมถึงปล่อยเขาไปไม่ได้❤】:: UP!! ตอนพิเศษปีใหม่ 1/1/2560!  (อ่าน 107929 ครั้ง)

ออฟไลน์ mayomhwan

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
คือน่ารัก คืออ้อยมาก  คือดี  อยากโดนบ้างง

ออฟไลน์ bevobova

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 58
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
บทที่ 16   ความรู้สึกแปลกๆ


เย็นวันศุกร์อันแสนสุขสันต์   หลังจากเลิกเรียน สารถีสุดหล่อนามว่าไทกริสก็มารับต่ายถึงหน้าคณะ  เรียกสายตาแซวกลายๆจากผองเพื่อนทั้งสาม  ชวนอยากจะจิ้มลูกกระตานั่นเป็นรายตัว

ไทกริสที่จะดูอารมณ์ดีเป็นพิเศษ จากเสียงผิวปากเบาๆ  พอลองถามไปก็บอกว่า ทำวิชาของมหาลัยได้คะแนนท๊อป  ทำให้ต่ายได้นึกย้อนไปถึงวันที่ช่วยเจ้าตัวติววิชานี้ ในฐานะที่เคยผ่านมาก่อน

อีกคนนั่งฟังเหมือนเข้าหูซ้ายทะลุหูขวา แต่ก็พยักหน้ารับ  แต่พอถามก็ตอบได้หมด  ต่างจากวิชาเอกที่เจ้าตัวสุดแสนจะตั้งใจ
เห็นได้ชัดว่า เด็กโค่งไม่ชอบวิชานี้


ซึ่งก็คือ  “วิชาการพัฒนาตนเอง” 


ในสมัยที่ต่ายอยู่ปีหนึ่งนั้น  อาจารย์ผู้สอนที่มาจากคณะสังคมศาสตร์ มาถึงก็แจกชีทปึกเบ้อเริ่ม บอกให้ไปถ่ายเอกสารกันเอง  แต่พอในคาบก็มักจะเชิญวิทยากรจากคณะอื่นมาบ้าง มหาวิทยาลัยอื่นมาบ้าง ซึ่งเนื้อหาที่ได้ก็ไม่ได้ตรงตามเนื้อที่ต้องเรียนซักเท่าไหร่   อย่างการฝึกนั่งสมาธิ  รวมกลุ่มกันบำเพ็ญประโยชน์

แต่พอมาสอบ ดันเอาเนื้อหาจากในชีทที่เป็นทฤษฎีพวกมาสโลว์งี้ ซิกมันด์ ฟรอยด์งี้  คาร์ลงี้

อ่า  ก็พอจะเข้าใจความรู้สึกล่ะนะ .....

แต่ ไอ้ได้คะแนนท็อปนี่มัน  แอบซุ่มสินะ



“จะไปไหนน่ะ” ต่ายร้องถามในทันที เมื่อเส้นทางตรงหน้าไม่ใช่ทางกลับคอนโด
“ไปหาเพื่อนกระต่าย”  คนขับตอบ  ต่ายอ้าปากพะงาบๆเมื่อได้ยินคำตอบ


ห้ะ?!!!!


ต่ายมองทางตรงหน้าสลับกับมองคนขับที่ดูจะคุ้นชินเส้นทางไม่เหมือนกับคนที่เพิ่งมาเมืองไทยได้ไม่ถึงหนึ่งปี  ดูชำนาญทางยิ่งกว่าต่ายที่อยู่มาทั้งชีวิตอีก

จนกระทั่งรถเลี้ยวเข้ามาในซอยหนึ่ง  ก่อนรถจะดับลงเมื่อหาที่จอดเรียบร้อย

สถานที่ตรงหน้า เป็นเหมือนร้านแนวบ้านสวน  ตกแต่งคล้ายกับสวนอังกฤษ  ดูร่มรื่น บรรยากาศไม่เหมือนอยู่ในตัวเมืองด้วยซ้ำ

มองป้ายหน้าร้านรู้สึกตะหงิดๆในใจ 

เอ่อ  ไม่ใช่อะไรหรอก
แค่อ่านไม่ออก…….

Nyúl ház


หันไปหาเจ้าเด็กโค่ง พลางส่งสายตาแบบคนไม่เข้าใจ(เรียว่าคนโง่ก็ดูทำร้ายตัวเอง)  ซึ่งเจ้าเด็กโค่งก็ไม่ทำให้ผิดหวัง
เสียงทุ้มนุ่มเปล่งออกมา

“นีล ฮาส”

พอไทกริสไขข้อข้องใจให้แล้ว ต่ายจึงสาวเท้าเดินนำเข้าไปตามทางเดินที่ปูหินกรวดมน แต่ก็ต้องมาสะดุดกึกกับหน้าร้าน
สติกเกอร์หน้าร้านเป็นรูปตัวการ์ตูนกระต่ายดูน่ารักน่าฟัด  กับตัวหนังสือที่ขียนว่า Rabbit café ตัวโตๆ  ทำให้ต่ายพลันนึกไปถึงคำพูดของไทกริส


ไปหาเพื่อนกระต่าย 

ก็ต้องร้องอ๋อในใจ  เพื่อนที่ว่าไม่ใช่คน  แต่เป็นสัตว์สินะ


“กริส  เพื่อนของพี่ที่ว่า คือกระต่าย?” 
“อือ กระต่ายเป็นเพื่อนของกระต่ายไม่ถูกเหรอ”   เด็กโค่งหน้ามึนตอบ

ต่ายถอนหายใจพลางโคลงหัวไปมาอย่างนึกขัน



“อ้าว! ตัวเล็ก  น้องต่าย”   เสียงใสเอ่ยทัก พร้อมกับเสียงกรุ้งกริ้งของกระดิ่งยามที่ประตูถูกเปิดออก

“อ๊ะ! พี่รีน สวัสดีครับ” คนตรงหน้าคือ พี่ไอรีน หนึ่งในพี่สาวฝาแฝดของไทกริสที่ออกมาพร้อมผ้ากันเปื้อนสกรีนชื่อร้านสีหวานน่ารัก

“ดีจ้าาา  เข้าไปนั่งข้างในกันดีกว่า” 

แล้วเขาและไทกริสก็ถูกพี่สาวตัวเล็กถูกดันเข้าไปในร้าน

พอเข้าไปในร้าน ก็อดรู้สึกเขินๆไมได้ เพราะเกือบทุกสายตา หันมามองทางเขากันหมด
(แม้จะมั่นใจว่า ไม่ได้มาทางต่ายเลยก็ตาม) 


เดินกับไทกริสนี่ รัศมีของต่ายดับ ชนิดที่ว่าไม่เหลืออะไรเลย  ผิวก็ขาวผ่องมีออร่า  หน้าตาก็ลูกเสี้ยวยุโรป แถมสูงยาวเข่าดีอีกต่างหาก  สาวไม่เพ้อก็ให้มันรู้กันไป


ทั้งสองถูกไอรีนพี่สาวไทกริสพ่วงด้วยตำแหน่งเจ้าของร้าน เข้ามาที่โต๊ะมุมหนึ่งของร้าน

ข้างในเป็นโต๊ะญี่ปุ่นทั้งหมด แต่ก็มีส่วนที่เป็นนอกร้าน ที่เป็นโต๊ะสไตล์ผู้ดีอังกฤษ
ส่วนตัวร้านถูกจัดเป็นสองส่วน ส่วนที่เป็นคาเฟ่จิบชากาแฟกับส่วนที่เป็นห้องของกระต่าย


“เป็นไงบ้างฮึ  ไม่ได้ดื้อกับพี่ต่ายใช่ไหม” พี่ไอรีนยกมือขึ้นลูบเบาๆที่หัวของไทกริส

“ไม่ดื้อซะหน่อย” อีกฝ่ายตอบ แต่หน้าไอรีนเหมือนไม่เชื่อ จนต้องร้องหาพยานส่วนตัว
“ถามกระต่ายดู”  คนถูกโยนกระพริบตาปริบๆ พอเห็นสายตาคาดคั้นจากพี่ไอรีน ก็ต้องตอบ
“เป็นเด็กดีมากครับ” ยีกลุ่มผมนุ่มแรงๆด้วยความหมั่นไส้เป็นของแถม

พี่ไอรีนเปลี่ยนสีหน้าจริงจังเป็น ยิ้มหวานให้ จนคนอย่างต่ายต้องตาพร่าไปชั่วขณะ


นั่งคุยซักพักพี่ไอรีนก็ขอตัวไปดูร้าน พร้อมบอกให้พนักงานเอาของกินมาเสิร์ฟ

“มาที่นี่ทำไมเนี่ย”  มอบรอบๆร้านที่ตกแต่งด้วยสีพาสเทล คู่หนุ่มสาว ไม่ก็เด็กนักเรียนผู้หญิง 
หันกลับมามองตัวเอง ดูไม่เข้ากับที่นี้อย่างมาก

นึกถึงตอนที่สมัยก่อนที่โดนเจ้าเพื่อนตัวดีอย่างแชม ลากเข้าร้านเมดคาเฟ่ ต่ายต้องสตรองแค่ไหนที่ต้องทำท่าเนียวๆ ใส่พนักงานสาวที่ยิ้มขำกับท่าทางอันสุดจะกล้ำกลืนฝืนทนของเขา


“นั่นไงเพื่อนกระต่าย” เด็กหนุ่มชี้ให้อีกคนดู ในห้องกระจกที่มีกรงวางเรียงราย  พื้นปูด้วยพรมขนนุ่มทั้งหมด 
มีป้ายหน้าห้องเกี่ยวกับกฎต่างๆก่อนเข้าห้อง

ไม่นาน เครื่องดื่มก็มาเสิร์ฟ ดูดแก้ร้อนไปสามปื๊ด  แต่ก็ต้องเบ้หน้า

เพราะมันขึ้นสมองจี๊ด  คนตัวขาวทำหน้านิ่ง แต่แววตาสั่นระริกเหมือนกำลังกลั้นขำอยู่

“มาแล้วจ้า  ป่ะไปกัน”  พี่ไอรีนเดินออกจากเคาท์เตอร์ ก่อนจะพาพวกเขาไปเข้าไปในโซนห้องกระต่าย

ข้างในมีลูกค้า 2-3 คนกำลังเล่นกับกระต่ายอยู่ โดยมีพนักงานคอยดูแลอยู่ใกล้ๆกัน 

ต่ายทรุดตัวลงนั่งข้างหมอนรูปแครอท ก่อนพี่ไอรีนจะอุ้มกระต่ายตัวสีน้ำตาลตัวนึงเข้ามา
ถ้าจำไม่ผิด จะเป็นพันธุ์ฮอลแลนด์ ล็อป

“มาแล้ว   หนูชื่อมอลท์ค่ะ  ” พอเจ้ากระต่ายถูกวางกับพื้นพรม เจ้าขนฟูก็ทำจมูกฟุดฟิดๆไปทั่ว จนจะมาหยุดที่ไทกริส

เจ้ามอลท์ได้ทำการปีนขึ้นไปบนตักของเด็กโค่ง    พี่ไอรีนหัวเราะคิก ก่อนจะป้อนอาหารเม็ดเป็นรางวัล
“น่ารักมาก”  ชมกระต่ายตัวเอง ก่อนจะพากระต่ายตัวอื่นๆมา

ชื่อของกระต่ายนั้น สร้างสรรค์จนคนพื้นที่ความจำเหลือน้อยอย่างต่ายไม่สามารถจำไม่ได้ จะมีแต่ไอ้ตัวที่ชื่อมอลล์นี้แหล่ะเพราะพฤติกรรมออเซาะเจ้าเด็กโค่งจนเกินจะเป็นกระต่าย

จนต่ายรู้สึกหมั่นไส้นิดๆ

“อ่ะ อ้าปาก” ปากบอกเจ้ามอลล์นะ  แต่มือยื่นหญ้าขนให้เจ้าเด็กโค่ง

อีกคนหันหน้าหนี  ต่ายรู้สึกได้ใจ พอไทกริสยิ่งหันหนีก็ยิ่งเอาหญ้าเข้าไปใกล้อีก

 ไปๆมาๆ  กลายมาเป็นตัวของต่ายแทบจะเกยขึ้นไปบนตัวของเด็กโค่ง 
โชคดีที่ไม่มีใครสนใจทางนี้  เพราเป็นมุมอับ แถมยังมีคอกเตี้ยๆกั้นไว้อีก 

ต่ายกระแอมไอก่อนจะดึงตัวเองกลับมานั่งที่เดิม

แต่อีกคนหาให้ความร่วมมือไม่  ดึงตัวของต่ายเข้ามาใกล้อีก

“เห้ย!!” เกือบยั้งตัวเองให้พูดเสียงดังไม่ทัน

ต่ายขึงตาใส่เจ้าคนหน้าตายแต่มือปลาหมึก

“เดี๋ยวจะโดน”  ปาต้นหญ้าใส่อย่างแรง  แต่เชื่อเถอะ ไม่สะเทือนอะไรเลย
“โดนอะไร  หืม?” ถามอย่างเดียวไม่ได้รึไงไม่รู้ ต้องเอาหน้าเข้ามาใกล้ๆ


ต่ายรีบยกมือดันหน้าอีกคนไว้  ก่อนจะรีบย้ายตัวเอง ออกห่างเจ้าเด็กโค่งนี่
ไม่รู้ว่า ความรู้สึกแก้มร้อนๆ  แถมปวดกรามจะค้างนี้เกิดขึ้นได้ยังไง

พวกเขานั่งเล่นกระต่าย จนเกือบสองทุ่ม ถึงเวลาที่พี่ไอรีนกำลังเก็บร้านพอดี

พี่ไอรีน ยื่นถุงใส่ขนมนมเนยมาให้หลายถุง บวกกับกล่องข้าวที่เจ้าตัวบอกว่าเป็นของชอบไทกริส


ไอรีนบอกลาน้องชายด้วยใบหน้าที่รื่นด้วยน้ำตา  เพราะการงานและระยะห่าง(จากที่ไทกริสไปอยู่ฮังการี)ทำให้ไม่ได้ดูแลน้องชายเท่าที่ควร  ต้องลำบากให้น้องชายข้างบ้านช่วยดูแลให้  แต่เอาเข้าจริงๆ ตัวเธอกับน้องชายคนเล็กก็ไม่ได้สนิทกันยอ่างที่ควรจะเป็น  เพราะอายุที่ห่างกันเป็น 10 ปี  บางทีก็อดรู้สึกอิจฉาต่ายไม่ได้  ที่สนิทกับน้องชายเธอมากกว่าเสียอีก และดูเหมือนเจ้าน้องชายตัวดีก็ติดพี่ต่ายคนนั้นกว่าพี่สาวแท้ๆของตัวเองอีก
 

“ดูแลตัวเองดีๆนะ ตัวเล็ก  น้องต่ายด้วย”
“ครับ” ทั้งสองขานรับหญิงสาว  ก่อนจะพากันกลับคอนโด

“เหยดดด” เสียงร้องของต่ายทำให้ไทกริสที่นอนเล่นโทรศัพท์เงยหน้าขึ้นมามอง  พลางเลิกคิ้วใส่

“โทษๆ ไอ้เอกมันเล่นพิเรนทร์นิดหน่อย” ต่ายบอกปัด มือสไลด์หน้าจอโทรศัพท์ยิกๆ  แต่ก็ไม่อาจะรอดพ้นสายตานิ่งๆของไทกริสได้

“นั่น?”
“พวกสาวๆที่เคยคุยเมื่อคราวก่อน เขาแอดไลน์ไอ้เอกมา”  ต่ายพูดถึงสาวที่เคยเจอกันที่ร้านเหล้า
“นี่ไง” เปิดรูปโปรไฟล์ไลน์ให้อีกคนดู  อีกคนก็รับมาดูด้วยสายตาว่างเปล่า

“อืม” ส่งคืนต่ายที่ดูพราวทูพรีเซ้นท์จนออกนอกหน้า

“ดูทำหน้าสิ  นี่อย่างเด็ดเลยนะ คัพดีด้วย” ประโยคหลังพึมพำกับตัวเองเบาๆ
“ชอบแบบกระต่ายมากกว่า” อีกคนเถียง  คิ้วของคนอายุมากกว่ากระตุกถี่รัว   

“เดี๋ยวนะ เด็กน้อย นั่นมัน..”

“นอนได้แล้วกระต่าย”   อีกคนพูดตัดบท  พลางล้มตัวนอน ไม่สนต่ายที่กำลังเบลอขนาดหนัก
“เดี๋ยวสิ” เหวใส่อีกคนที่หลังตาไม่รับรู้อะไรใดๆ  แต่มือขาวกลับดึงแขนต่ายที่กึ่งนั่งกึ่งนอน ให้นอนลงเสียที
“นอนได้แล้วกระต่าย”  เปลือกตาที่ปิดลงไปแล้วกลับเปิดขึ้น เผยให้เห็นนัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนที่เริ่มปรือ
“กู้ดไนท์ครับ”ริมฝีปากสีอ่อน แนบบนหน้าผากกับริมฝีปากเบาๆ แล้วหลับตาลงเหมือนไม่มีเหตุการณ์ใดๆเกิดขึ้น

แต่คนที่โดนเด็กโค่งประทุษร้าย?!ด้วยริมฝีปากสีอ่อนนั้น  นิ่งค้างเป็นหิน

นี่เขาเสียรู้เจ้าเด็กโค่งนี่อีกจนได้!!!



พอสงบสติอารมณ์ที่แตกกระเจิงไป ก็นึกถึงคำพูดนั้นของไทกริส

นี่ไทกริสยังนับถือ ลัทธิต่ายลิซึ่ม อยู่รึ?!!!!

ด้วยช่วงเวลาที่ห่างกันไปถึง 10 ปี ทำให้ทั้งต่ายและไทกริสเหมือนมีกำแพงขวางกั้น มีหลายอย่างที่ต่ายไม่เข้าใจไทกริส เช่นเดียวกับไทกริสที่ไม่อาจเปิดเผยบางอย่างให้ต่ายได้รับรู้ได้  นั่นก็เป็นอุปสรรคหนึ่งที่ทั้งสองรู้สึกได้ แต่ก็ไม่อาจจทำลายมันลงได้





ว่ากันว่า เวลาแห่งความสุขมักจะผ่านไปเร็ว
ทุกคนมักคิดอย่างนั้น  ทั้งๆที่เวลาก็เดินเท่าเดิมมาตลอด เพียงแต่เพราะความสุข ทำให้ผู้คนหลงลืมบางสิ่ง บางสิ่งที่เป็นสิ่งที่แน่นอนของโลกใบนี้

“แปปๆจะไฟนอลแล้วหรอวะ  นี่กูยังรู้คะแนนมิดเทอมไม่ครบเลยนะ” เอกว่า พลางถอนหายใจเฮือก

ผ่านไปสองเดือน  เทศกาลสอบก็หวนคืนอีกครั้ง
“ถ้าไฟนอลมา ก็เท่ากับว่า เดดไลน์โปรเจ็คของอ.สุชาดานั้น กำลังจ่อคอหอยเราอยู่” แกนพูดด้วยน้ำเสียงเนิ่บๆ แต่ใจความประโยคนั้น ถือเป็นพลังทำลายล้างจิตใจเด็กปี3 คณะวิศวกรรมศาสตร์อย่างพวกต่ายได้

ต่ายถอนหายใจตามเพื่อน พลางนึกไปถึง โปรเจ็คสุดท้ายของเทอมแรก ที่มีคะแนนถึง 50 คะแนน
เป็นวิชาที่ตอนเรียนว่าเครียดแล้ว ตอนทำงานส่งเครียดยิ่งกว่า

“กูยังไม่ได้พิมพ์ใหม่เลยอ่ะ” แชมครางออกมา  เมื่อพูดถึงดราฟที่ส่งไป แต่ถูกตีกลับมาพร้อมกับหมึกสีแดงที่ขีดเป็นรูปกากบาท  พร้อมกับคำว่า “แก้ใหม่ค่ะ”
 
“ต่ายคราวนี้มึงเอาไปส่งนะ” แชมบอก  เขากับต่ายเป็นพาร์ทเนอร์ของโปรเจ็คนี้
“เออ” ต่ายรับปากอย่างเบื่อๆ
“เป็นไรวะ” แชมถาม เมื่อเห็นท่าทางแปลกๆของเพื่อน

“พวกมึง..”

“มีไรวะ? ”

“คือ มึงว่าไทกริสนี่..........  --  ช่างมันเถอะ”  ต่ายบอกปัด เพราะเริ่มต้นไม่ถูก

“อ้าว พูดให้อยากแล้วจากไป” เอกพูดอย่างเสียดาย

“พูดให้จบสิวะ”  แชมพูด  พลางใช้สายตากดดัน  ต่ายเผลอกลืนน้ำลายอึกใหญ่

“ไว้กูแน่ใจอะไร ไว้ค่อยว่าอีกทีดีกว่า”

“ก็ได้วะ” ผองเพื่อนตบไหล่ต่ายเบาๆ  แม้จะไม่รู้ว่าคงตรงหน้าจะบอกอะไร  แต่ดูจากหน้าตาก็จะกลุ้มใจไม่น้อยเหมือนกัน


TBC....

--------------------------------------------------

BEVA TALK :   กะกะกลับมาแล้วค่ะะะ    ปัญหารุมเร้ามากค่ะ ช่วงนี้ ทั้งสอบ ทั้งฝนตกเน็ตเจ๊ง  พอมีเน็ตก็ไม่มีคอม จะอัพในโทรศัพท์ก็ไม่มีไฟล์ โฮฮฮฮฮฮฮฮ 

ตอนนี้ไม่พูดอะไรมาก   พบกันตอนหน้าน๊าา   ไม่นานแน่ค่ะ  อิอิ  :mew3:

ขอบคุณที่ยังติดตาม ขอบคุณที่มาเม้นท์ให้นะคะ  :mew1: :mew1:

คิดเห็นยังไงกับตอนนี้ ช่วยบอกกันหน่อยน๊าาาาา  บีว่าขออออออ  พลีสสสสสส




หนูชื่อมอลท์ค่ะ >w<   [จริงๆแล้วคือ พี่ต่ายในสายตาของน้องไทกริส]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-05-2016 21:52:42 โดย bevobova »

ออฟไลน์ drasil

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1690
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +95/-1
กระต่ายเริ่มรู้ตัวแล้วสินะๆ ความรู้สึกช้าจริงๆน้องหนู

ออฟไลน์ Sorso

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 795
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-3
มาปูเสื่อรอ จองพื้นที่แป๊บ

ออฟไลน์ MaRiTt_TCL

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1513
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-6
รอจ้าาาาา ไทกริสรุกต่ายหนักๆนะ5555

ออฟไลน์ mayomhwan

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
น่าร๊ากกกกกกกกก  แต่คงไม่มีดราม่าใช่ไหมง่าาาาา  :o12:

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
โถ่ว กระต่ายคะแน่ใจเถอะค่ะ มาขนาดนี้แล้ว ชัวร์!!!
มอลท์ น่าร๊ากกกกกกก >\\\\<

ออฟไลน์ patchylove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1585
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-4

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
ู่ถ้ากริสอยู่ลัทธิต่ายลิซึ่ม ต่ายก็(กำลังจะ)อยู่ลัทธิกริสลิซึ่มเหมือนกันล่ะ  :ruready

ออฟไลน์ SOMCHAREE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-2
พี่ต่ายน่ารักจุง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
แต่คนอ่านก็เข้าลัทธิ ต่ายลิสสึ้ม กับ กริสลิสสึ้ม สองลัทธิเลยเหมือนกัน :katai2-1:
รอ :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ bevobova

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 58
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
บทที่ 17  (ไม่)เข้าใจ




การอยู่ร่วมชายคาเดียวกันกับไทกริสนั้นก็ไปได้สวย ไม่มีปัญหาใดๆ แถมยังมีความสุขดีด้วย 

คือจริงๆก็ไม่ต่างจากชีวิตในสมัยก่อนเท่าไหร่ เพราะพวกเขาก็เข้าออกบ้านของกันและกันอย่างกับเนบ้านหลังเดียวกันอยู่แล้ว



แต่สิ่งที่ต่างกันไปก็คือ .......

ไทกริสที่สูงกว่า ขาวกว่า พูดน้อยกว่าเดิม และ ชอบถึงเนื้อถึงตัวกว่าเดิม

โอเค  สำหรับต่ายมันก็ไม่ได้แย่อะไร

แต่สิ่งที่ทำให้ตะขิดตะขวงในใจ คือ ......


ความคิดของเจ้าตัวต่างหาก

ต่ายกลัว

กลัวความคิดของไทกริส


ซึ่งมันเป็นอะไรที่วนเวียนอยู่ในสมองของต่าย จนแทบจะไม่มีสมาธิอ่านหนังสือ 


ซึ่งก็คิดไว้ว่า หลังจากสอบเสร็จ  จะเป็นเวลาจัดการมันเสียที
เพื่อตัวเขาเองและ...ไทกริส




เด็กหนุ่มที่ถูกเรียกว่าเด็กโค่ง รู้สึกเหมือนกับว่า  คนที่อยู่ร่วมห้องอีกคนนั้น .....


กำลังทำตัวห่างเหินจากเขา  หากแต่พอมานึกคิดขึ้นสาเหตุนั้น  ก็จนปัญญา

อาจเพราะเครียดเรื่องสอบก็เป็นได้


เขาพยายามหาสิ่งที่พอจะช่วยอีกคนได้  เช่น


การชงโอวัลตินให้อีกคนดื่ม   วิเคราะห์จากอุปกรณ์แล้ว ไม่น่าจะยาก 

เขาก็เคยเห็นเวลาที่ต่ายชงให้เขา  แค่ใส่ผงนั่น แล้วกดน้ำร้อนใส่ก็เสร็จแล้ว


คิดได้ดังนั้น ก็ลองลงมือทำ

สายตาเพ่งไปที่กระติกน้ำร้อนราวกับบังคับให้ไฟขึ้นสีเขียวเสียที

เพราะผงโอวัลตินที่ตักใส่แก้วเตรียมไว้นั้นมันเริ่มจะแข็งเป็นก้อนแล้ว


ชะโงกไปมองคนอายุมากกว่าที่นั่งคิ้วขมวด ปากพึมพำเป็นสูตรคณิตที่เด็กบริหารยากที่จะเข้าใจ


ติ๊ง!!!
เสียงของกระติกน้ำร้อนดังขึ้น   ไทกริสยิ้มร่า รีบถือแก้วมากดน้ำร้อนใส่

หาไม่รู้ว่า  แก้วที่ตัวเองใช้นั้น เป็นแก้วสำหรับใส้น้ำเย็น ....

มือขาวใช้ช้อนคนจนเกิดเสียงกรุ้งกริ้ง ในยามที่ช้อนกระทบกับตัวแก้ว

พยักหน้าให้กับความเก่ง?!ของตัวเอง ก่อนจะถือแก้วไปให้อีกคนที่นั่งอยู่บนโซฟาทันที

หากแต่ยังไม่พ้นห้องครัว  แก้วที่ถืออยู่ก็เกิดเสียงเปรี๊ยะ  ส่วนหูจับกับตัวแก้วนั่นหลุดออกจากกัน  ก่อนที่ตัวแก้วจะกระทบลงสู่พื้นอย่างรวดเร็ว
 
เพล้งงงงง!!




เฮือกก!   

ต่ายสะดุ้งเฮือก  เนื้อหาสอบพยายามท่องมาลอยหายไปหมด หันไปมองต้นตอของเสียง ก็พบกับ

ไทกริสกับเศษซากแก้ว

ชั่วแว่บนึง ที่สายตาของทั้งคู่ประสานกัน  ก่อนฝ่ายของต่ายจะหลุบตาลง
 
“ขอโทษ” เสียงทุ้มพูดแผ่ว  ก่อนจะรีบใช้มือเปล่าๆ กวาดเจ้าแก้วตัวปัญหา โดยไม่สนใจว่าเศษแก้วจะบาดตัวเอง

“เดี๋ยวสิกริส  ใช้มือกวาดได้ไง” ต่ายรีบสาวเท้าเข้าไป แล้วยึดมือของไทกริสไว้ มือขาวเต็มไปด้วยรอยบาด ค

ก่อนจะเดินข้ามไปหยิบไม้กวาดและที่โกยขยะมาจัดการ   โดยมีเด็กโค่งยืนนิ่งเป็นกำลังใจอยู่ข้างๆ


เศษแก้วผสมกับน้ำสีน้ำตาลกลิ่นเหมือนโอวัณตินถูกโกยลงถังขยะเป็นที่เรียบร้อย

ต่อไปก็เป็น 

ต่ายหันขวับมาที่เด็กโค่ง สำรวจไปทั่วร่าง ก็พบรอยแผลที่เท้าบวกกับรอยแดงที่น่าจะเกิดจากน้ำร้อน

ถอนหายใจเฮือกใหญ่ๆ ก่อนจะจูงเด็กโค่งตัวขาวเข้าห้องน้ำ  เพื่อไปล้างแผล

“ไปทำอีกท่าไหนเนี่ย” พอเริ่มทำแผล ปากก็เริ่มบ่น
 
“แก้วมันแตกเอง” เด็กหนุ่มเถียง  ต่ายพยักหน้าอย่างขอไปที

“จะบอกอะไรให้นะ  นั่นมันแก้วใส่น้ำเย็น  มันทนความร้อนไม่ได้หรอกนะ” ต่ายบอก  อีกคนทำหน้าฉงน

“แก้วใส่น้ำเย็นมันแก้วใสๆ  ส่วนที่ใส่น้ำร้อนมันจะเป็นแก้วลายๆนั่นไง”  ต่ายชี้แจง 

แก้วที่ใช้นั้นจะแยกแก้วน้ำร้อนกับแก้วน้ำเย็น  แก้วน้ำร้อนก็เป็นแก้วลายการ์ตูนที่น้านีขนซื้อมาให้ลูกชาย ส่วนแก้วสีใสที่ใส่น้ำเย็นก็จะบางๆ และทั้งสองถูกแยกไว้เป็นสองฝั่ง

แต่สำหรับคนที่ไม่ได้เข้าครัวอย่างไทกริสคงจะไม่รู้เรื่องนี้

หลังจากนี้คงต้องใช้ปากกาเมจิกเขียนแล้วมั้งว่าแก้วไหนสำหรับน้ำอะไร


“เฮ้ออ แบบนี้จะอยู่คนเดียวไหวไหมเนี่ย”  พอพูดประโยคนี้ออกมา มือขาวที่ถูกทำแผลอยู่ก็เกร็งแข็งขึ้น

“ทำไม ต่ายจะไปไหน” เสียงทุ้มนุ่ม เปลี่ยนเป็นเสียงแข็งขึ้นมา

“ก็ไม่ได้จะไปไหน  แต่พี่เคยบอกแล้วไง  พี่อยู่กับนายไม่ได้ตลอดหรอกนะ”

เขาเคยบอกไทกริสด้วยประโยคนี้ ตั้งแต่ตอนเจอกันแรกๆ

“ทั้งพี่แล้วก็นาย ก็ต้องมีแฟน มีลูก มีครอบครัวที่อบอุ่น...”

“อยู่ด้วยกันไม่ได้เหรอ” ไทกริสพูดด้วยเสียงอ่อน 

“ไม่ได้หรอก”  ต่ายหลบสายตา   สายตาที่เว้าวอนของไทกริส ...

“แต่เราอยากให้กระต่ายอยู่ด้วย”

“ก็บอกว่าไม่ไง!!”  ต่ายเผลอตวาด  เด็กโค่งผงะไปชั่วขณะ

ต่ายเองก็ตกใจตัวเองที่ตวาดออกไปอย่างนั้น  สองมือยกมือขยุ้มผมของตัวเอง  แต่ก็ต้องหยุดชะงัก เพราะคำพูดต่อมาของไทกริส

“เรารักกระต่ายนะ” 

ต่ายเม้มปากแน่น   หลับตาพร้อมกับหายใจเข้าออกช้าๆ ก่อนจะเปิดปากพูด

“กริส พี่ว่า นายอาจจะยังสับสน  เราทั้งสองไม่ใช่เด็กๆกันแล้วนะ มันเป็นไปไม่ได้  ถึงมันเป็นไปได้  พี่ก็คงยอมรับไม่ได้ หยุดเถอะนะ”   ต่ายไม่รู้เลยว่าตัวเองเสียงสั่นแค่ไหน 

เกิดความเงียบขึ้นระหว่างทั้งสอง  ก่อนคนอายุน้อยกว่าจะเป็นคนทำลายความเงียบนั้น

“..... วันนี้ไปห้องโจนะ” ร่างสูงลุกขึ้นยืน  มองต่ายที่นั่งก้มหน้าไม่สบตา  ก่อนจะหันตัวเดินออกจากห้องไป


“โธ่เว้ย!!”  ของใกล้ตัวอย่างขวดสบู่ล้างมือ กลายมาเป็นที่ระบายอามรณ์ที่ขุ่นมัวนี้

ปั่ก!!    ขวดพลาสติกสีขาวลอยลิ่วไปกระทบกับผนังห้องน้ำ 

“เหี้ยๆๆๆๆๆๆๆๆๆ” สบถซ้ำๆ พร้อมกับน้ำตาที่ไหลมาอย่างห้ามไม่ได้ 

เขาไม่รู้ว่าตัวเองทำไมถึงเป็นอย่างนี้ ทำไมถึงทำร้ายไทกริส ทำไมถึงต้องร้องไห้ ......



เหล่าชายหนุ่มเพื่อนของต่าย ต่างมองหน้ากันที มองที่ต่ายที  ใบหน้าคมคายโทรมสภาพแบบไม่ได้นอนมาหลายคืน  บางทีก็เหม่อจนต้องคอยเรียกสติให้กลับมาเสมอ 

ไม่รู้ว่าสอบคราวนี้จะไหวรึเปล่า

“ไหวปะเนี่ยมึง”  เอกยื่นถุงเซเว่นที่ข้างในมีขวดเครื่องดื่มชูกำลังกับกาแฟกระป๋องในนั้น   ต่ายรับมาอย่างนิ่งๆ ก่อนจะหยิบกาแฟกระป๋องมากระดกดื่ม

“จะเอาเต็มก็ไม่บอกกู  ” เอ่ยแซวเล่นอย่างขำๆ  แต่อีกคนหาเล่นด้วยไม่  แค่มองหน้าก่อนจะก้มหน้าอ่านหนังสือเงียบๆ

ที่จริงเงียบตั้งแต่มันเหยียบที่นี่ด้วยซ้ำ

ปากคันยุบยิบอยากจะถาม แต่เห็นสายตาของผองเพื่อนที่เหลือแล้ว เลยต้องเย็บปากตัวเองให้สนิท

“สู้เว้ย วันนี้วันสุดท้ายแล้ว จะได้ปิดเทอมซะที~” พูดพลางบิดขี้เกียจ พยายามทำบรรยากาศที่ดูขุ่นมัวให้สดใส  แม้จะไม่ได้ช่วยอะไรเลยก็ตาม


นับตั้งแต่ที่ทะเลาะกับไทกริสครั้งนั้น จนถึงวันนี้ก็ผ่านมา 2 วันแล้ว  เจ้าตัวที่บอกว่าไปห้องของโจนั้น ก็กลับมาอีกทีในเช้าวันรุ่งขึ้น 

เกิดความรู้สึกแปลกๆ ระหว่างเขาและไทกริส 

ไทกริสสอบเสร็จไปตั้งแต่เมื่อวาน  ก็เหลือแค่ต่ายที่เหลืออีกตัวที่สอบในวันนี้




“จบกันที อ.สุชาดา  ลาก่อนครับอาจารย์” เอกพูดออกมาปลงๆ หลังจากส่งโปรเจ็คสุดท้ายของเทอมไป
“ไม่ต้องลาก่อนหรอก  เทอมหน้าก็เจอ” แกนตบอกแน่นๆของเอก  อีกคนทำหน้าเหมือนวิญญาณจะลอยออกไปเป็นที่เรียบร้อย
“มึงอยากจะไปกินเหล้าอะไรพวกนี้ไหม” แชมถามต่าย ที่กำลังจุดไฟที่บุหรี่

 .. เป็นภาพที่ไม่ได้เห็นมานานมาก ตั้งแต่เรื่องของเมล่อน ...

“อืม ก็ดี อยากแดกพอดี” ต่ายตอบ พลางพ่นควันออกมา เหล่าผองเพื่อนยิ้มแหยๆออกมา

ร้านที่มากันในวันนี้ ตามที่บอกต่อๆกันมาว่าเป็น  ร้านบรรยากาศดี ดนตรีสด  แถมสาวยังเด็ดอีก
 ซึ่งก็ไม่ไกลจากมหาลัยเท่าไหร่  เพราะฉะนั้นจะเห็นหน้าตาเดิมๆ ก็คงไม่แปลก


“มึงทะเลาะกับไทกริส?” แชมถาม  ทำเอาต่ายที่กำลังกระดกแก้วชะงัก พลางส่งสายตาเนือยๆมาให้

“มั้ง” ตอบอย่างขอไปที  มือหนาหมุนแก้วเหล้า สายตาก็จ้องไปที่น้ำสีอำพันนั้น


“มันเกิดอะไรขึ้น?” แชมยังคงถามต่อ   ส่งสายตาคาดคั้น  จนต่ายพ่นลมหายใจหนักๆออกมา

หลังจากนั้น เรื่องราวในวันนั้นก็ถูกถ่ายทอดออกมา  เสียงสั่นเครือในยามที่เล่าถึงตอนที่ต่ายตะคอกใส่ไทกริส  ทำเอาผองเพื่อนต่างยิ้มจางๆออกมา

“กูทำอะไรไม่ถูก   กูไม่อยากทำให้พ่อแม่ผิดหวัง  แล้วน้านีอีกล่ะ  เขาฝากลูกไว้ให้กู  แต่ถ้ามันเกิดเรื่องแบบนั้น ...”

“ใจเย็นก่อนมึง” แชมรีบปลอบ  เมื่อเห็นเพื่อนเริ่มฟิวส์ขาด   

น้ำตาลูกผู้ชายไหลออกมา  สามใบเถามองกันอย่างทำอะไรไม่ถูก
เพราะอารมณ์เพื่อนตอนนี้ยากที่จะรับมือ  ครั้งสุดท้ายที่เจอก็คือกับเมล่อน

แต่นี้มันออกจะ  ดูสับสน  ไม่ใช่สิ้นหวัง ..


“อันที่จริง พวกกูก็สังเกตไทกริสมาได้ซักพักแล้วล่ะ  น้องมันเห็นมึงสำคัญจริงๆแหล่ะนะ” เอกบอก พลางยกมือกอดคอเพื่อนไว้
“ทั้งสายตา ทั้งการกระทำ บอกเลย กูนี่อึ้งไปเลย  ฮ่าๆ”  เสียงหัวเราะของเอกเคล้าไปกับเสียงดนตรีสด  ต่ายมองหน้าเพื่อนไปทีละคน
“กู...”
“มึงจะลองเสี่ยงไหมล่ะ   อ่าาา  กูไม่รู้หรอกนะ เรื่องความรักอะไรนั่น  แต่ถ้าเป็นกู โดนปฎิเสธยังดีกว่าบอกให้เลิกรัก  ถ้าหากอยู่ดีๆ  แม่มึงบอกให้มึงเลิกทำในสิ่งที่มึงรักมาก  มึงจะทำได้เหรอ”  แชมพูด แววตาที่สับสนของเพื่อน ทำให้เขาอยากจะช่วย  ให้เพื่อนได้หลุดพ้นกับความสับสนนี้

“เอางี้ดีกว่า  มึงรักไทกริสไหม?”  แกนที่นั่งเงียบมานาน เอ่ยถาม  ต่ายมองหน้าคนพูด  ก่อนจะเริ่มอึกอัก

“กู..”
“แบบที่ไทกริสรักมึงนะ” แกนเอ่ยดัก
“คิดว่านะ”  ผองเพื่อนต่างใช้สายตาประณามเพื่อนตัวดีทันที   
“อย่ามามองกูแบบนั้นได้ไหม”  หยิบขนมขึ้นมาปาใส่เพื่อน ที่ส่งสายตาแบบไม่เชื่อในคำพูด

“ปากไม่ตรงกับใจ”
 “ไอ้คนปากแข็ง” 
“ไอ้เลี้ยงต้อย”


ต่ายแจกนิ้วกลางให้เพื่อนแต่ละคน 

แต่
“ไอ้เยงต้อยนี่ยังไงวะ ไอ้เอก”
“มึงไม่ได้เลี้ยงเด็กสามขวบอยู่หรอวะ”   
“สามขวบเชี่ยไร”
“โอยย เห็นดูแลซะขนาดนั้น  มึงไม่ต้องปากแข็ง นี่มันมากกว่าพี่น้องแล้วสัด   ตาสว่างซะที”
“พอๆ พูดไปก็ไม่ได้ประโยชน์หรอก ให้มันรู้ซึ้งเองเถอะ”  แชมพูด

“แล้ว พวกมึงคงไม่เกลียดพวก แบบนี้ใช่ไหม”  ต่ายเอ่ยถามอย่างไม่แน่ใจ
“ด๊อนวอรี่   จะเป็นยังไงก็เพื่อนกู  อีกอย่าง มึงก็ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน มึงก็ยังคงเป็นมึง เป็นไอ้ต่ายคนเดิม  เพิ่มเติมคือมีแฟนเป็นผู้ชาย ฮ่าๆ”


“เออ ว่าแต่ สองคนมึงนี่ ใครอยู่บนอยู่ล่างวะ” ถามขึ้นอย่างอดไม่ได้
“กูสิ กูต้องอยู่ข้างบน!   เชี่ยยยยย  มันยังไม่ถึงขั้นนั้นเว้ย” ต่ายโวยวาย เสียงเฮฮาพร้อมกับบรรยากาศกลับมาเป็นอย่างเดิม


ครืด~ ครืด~   โทรศัพท์ของต่ายที่วางบนโต๊ะสั่นขึ้น

คิ้วเข้มขมวดอย่างฉงน เมื่อเห็นรายชื่อคนโทรมา

-กานต์-




TBC...

---------------------------------------------------------------------
 
ฺBEVATALK :  วิ่งหนี  :z10: :z10: :z10: :z10:    สารภาพว่าอยากให้มีดราม่าค่ะ  (โรคจิต)  พออ่านเม้นท์ แทบอยากจะลบที่แต่งไว้เลยทีเดียว  แต่สุดท้ายก็เอามาลง  อิอิ   ดราม่าไม่เยอะน๊าาา พี่ต่ายแค่สับสน  จริงๆนางรู็แต่ไม่แสดงออกนะ  อิอิ  :z2: :z2:

ขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจและทุกเม้นท์ค่าาาา  รักนะ จุ๊บๆ
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
คิดเห็นยังไงกับตอนนี้ บอกกันด้วยน๊าา พลีสสสส




ออฟไลน์ drasil

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1690
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +95/-1
พี่ต่ายไม่ต้องกลัววว มีคนพร้อมจะก้าวไปพร้อมพี่ต่ายนะ

ออฟไลน์ SOMCHAREE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-2
ต่ายยยง้อน้องด้วย

น้องกำลังเสียใจแน่ๆ

ออฟไลน์ MaRiTt_TCL

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1513
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-6
สงสารกริสเลยอ่า 
กานต์โทรมาทำไม

ออฟไลน์ kiolkiol

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 337
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
กานต์โทรมาทำไมมม 

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
ต่ายทำร้ายกรีสสสสสส  :hao5:

ออฟไลน์ korinasai

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
ไทกริส ปล้ำเลย กระต่ายคนปากแข็ง

ออฟไลน์ mayomhwan

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ฮืออ  ว่าแล้วต้องดราม่า    พี่ต่ายง้อน้องเลย

ว่าแต่   กานต์นายโทรมาไมมมม

ออฟไลน์ bevobova

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 58
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
บทที่ 18  ปรับความเข้าใจ







ไทกริสรีบบึ่งรถจากคอนโด ออกมารับต่าย  เมื่อได้รับข้อความจากแชม ที่บอกให้มารับต่ายด้วย

จุดหมายนั้น เป็นร้านเหล้าร้านหนึ่งแถวสุขุมวิทที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัย

เด็กหนุ่มลงจากรถอย่างเร่งรีบ เพราะอยากไปหาอีกคนอย่างเร็วที่สุด 


แต่ก็ต้องชะงักไป ..



กานต์ลงมาจากรถพร้อมกับเพื่อน วันนี้พวกเขากะจะซัดเหล้าหลังจากสอบเสร็จ เป็นเหมือนการปลดแอกตัวเอง หลังจากงมกับกองหนังสือมานาน



“โอ๊ะ นั่นน้องไอ้ต่ายนี่”   ซันสะกิดเพื่อน พลางชี้ไปอีกฝั่งของลาน ซึ่งไทกริสกำลังยืนอยู่กับผู้ชายวัยกลางคนสวมชุดยาม

“อย่าบอกว่า ไอ้ต่ายก็มาด้วย” วินพูดเสริม

“แล้วไง” กานต์ถามเสียงเย็นอย่างไม่สบอารมณ์ เหมือนกับว่าสองคนนี้กำลังกลัว

“กูไม่อยากให้มึงไปมีเรื่องนี่หว่า ต่ายแม่งน่ากลัวจะตาย  แล้วยังไอ้เอกอีก กูขอบาย” วินพูดอย่างเกรงๆ

“เรื่องมันจบไปแล้ว  เข้าร้านได้แล้ว”

เอี๊ยดดดดดดดด !!

"หนวกหูว่ะ ไอ้พวกนี้" กานต์บ่นออกมาพลางเดินออกจากลาน

“เฮ้ย นั่น!!”   วินรีบชี้เพื่อนให้ดู






พลั่ก!

“อย่ามาแหยมกับกู”  ร่างของชายฉกรรจ์ที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน  ต่อยเข้าเต็มๆที่ใบหน้าหล่อของเด็กหนุ่ม



เรื่องของเรื่องก็คือ ......

หลังจากที่ไทกริสจอดรถเสร็จ  เนื่องจากที่จอดนั้นเต็มไปด้วยรถของลูกค้า   แต่ก็อดแปลกใจไม่ได้ ว่าที่ตรงนี้ยังว่างอยู่  พอลงจากรถ ก็มีชายที่คิดว่าน่าจะเป็นยามของที่นี้เดินเข้ามา


“ตรงนี้จอดไมได้นะครับ” ชายวัยกลางคนพูดอย่างหวาดๆ  ไทกริสทำหน้าสงสัย  อีกคนจึงขยายความ

“คือตรงนี้ เป็นที่จอดของคุณธรณินครับ”  เด็กโค่งยิ่งงหนักเข้าไปใหญ่ 

ใครคือ ธรณิน?  แต่ก็พอเข้าใจในสิ่งที่ลุงพยายามจะสื่อจึงหมุนตัวกลับเพื่อขยับรถ


ในขณะที่กำลังปลดล๊อครถ ก็มีรถสปอร์ตคันนึงเข้ามาปาดด้วยความเร็วสูง


เอี๊ยดดดดดดดดดดดดดดด!

เสียงล้อเบียดกับถนนจดเกินเสียงดังสนั่น จนรู้สึกหูอื้อ


ชายร่างสูงใหญ่ ใบหน้าทะมึนทึง เดินลงมาจากรถ

“เห้ย! มึงเป็นใคร มาจอดในที่ของกู” อีกฝ่ายตะโกนลั่นด้วยโทสะ
 
“เอ่อ  ผมบอกเขาแล้วนะครับ”  ลุงยามรีบบอก  แต่ก็ถูกอีกฝ่ายผลักจนเซออกไป ไทกริสรีบเข้าไปจับไว้  ก่อนจะมองคนตรงหน้าด้วยสายตานิ่งๆ

“กำลังจะออก  ถอยรถออกไปก่อนสิ”


แทนที่จะทำตาม กลับถูกขยุ้มเข้าที่คอเสื้อ

เด็กหนุ่มมองไปรอบข้าง เห็นผู้ชายอีกหลายคนเดินเข้ามาล้อม หน้าตาพร้อมมีเรื่องเต็มที่

“ท่าทางมึงจะเพิ่งเคยมา เลยไม่รู้จักกูสินะ” ชายคนเดิมยังคงพล่าม  ไทกริสถอนหายใจ ไม่อยากเสียเวลากับเรื่องแบบนี้


“อย่ามาแหยมกับกู” หมัดลุ่นๆจะกระทบที่ใบหน้าเขา จนเซไปด้านหลัง  สมองมึนเบลอ

“จับมันไว้  ขอเล่นกับมันหน่อย”

“ครับ นาย” ชายที่ถูกเรียกว่านาย จ้องมาที่ไทกริสด้วยท่าทางข่มเหงเต็มที่ 

แต่ก่อนลูกน้องจะได้เข้ามาจับตัว  หนึ่งในนั้นก็ถูกหลังมือของไทกริสฟาดไป

อีกฝ่ายเลือดขึ้นหน้า ควักมีดออกมาขู่ 


แม้จะเคยเรียนศิลปะป้องกันตัวมาบ้าง แต่จำนวนคนที่มากขนาดนี้  ก็คงจะไม่ไหว

คงต้องป้องกันตัวเท่าที่ตัวเองจะทำได้   เดี๋ยวก็ต้องมีใครมาเห็นบ้างล่ะ

แต่คนแรก ที่เด็กหนุ่มกลับนึกถึง ก็คือ  คนที่เขาจะมารับ

พลั่ก! พลั่ก! ฟืบ!


เด็กหนุ่มกระตุกยิ้มเมื่อเห็นลูกน้องของฝ่ายนั้นถูกเขาซัดจนร่วงไปถึงสองคน
 

แต่......


ฉึก!!

คมมีดฟันเข้าที่ต้นแขนของไทกริส จนเกิดรอยแผลเป็นทางยาว  โชคดีที่ไม่ลึกมากนั้น   แต่ความเจ็บนั้นแล่นริ้วจนต้องเบ้หน้า

ฝ่ายนั้นพอเห็นไทกริสชะงักก็ปรี่เข้ามาจับตัว  พยายามดิ้นรนแต่ก็ไม่สามารถหลุดออกไปได้

ซ้ำนั้นหนึ่งในนั้นยังกดเข้าที่บาดแผล จนต้องร้องออกมา

“อ๊ากก”

“มึงก็เก่งใช่ย่อยนี่”  นายของฝ่ายนั้นแสยะยิ้ม พร้อมๆกับต่อยหมัดเข้าที่ท้องของไทกริส
“อั่ก!” 
“หึ สะใจว่--- อุก”

ไม่ทันไร ขวดเบียร์ปริศนาก็ลอยคว้างใส่ที่คนตรงหน้าเต็มๆ   ทั้งลูกน้องและคนโดนต่างมองหาตัวการกันยกใหญ่



“มึงทำอะไรของมึงงง”  ซันร้องลั่น หลังเห็นวินหยิบขวดเบียร์คว้างใส่คนร่างหมีนั่น

“ช่วยน้องมันไง มันจะตายนะเว้ย พวกคนอื่นไปไหนกันหมดวะ” พูดเสร็จก็เดินเฉิดฉายออกไป โดยไม่สนเพื่อนที่ร้องคร่ำครวญอยู่ข้างหลัง

“เอาไงล่ะทีนี้”  หันไปถามกานต์ที่ยืนหน้าเครียดไม่แพ้กัน  ก่อนที่จะควักมือถือมาให้

“โทรหาไอ้ต่าย  เรียกให้มันมา  กูไปช่วยไอ้วินก่อน”   ซันอ้าปากพะงาบๆ มองโทรศัพท์สลับกับเพื่อนที่เดินออกจากที่ซ่อนไปแล้ว


พอควบคุมสติได้ ก็ทำตามอย่างที่กานต์บอก  แต่กว่าอีกฝ่ายจะรับสายก็แทบจะใจแป้ว


“มีไร”

“ต่ายเหรอ นะ.นี่ซันเพื่อนกานต์  คือมึงอยู่ที่ร้านXXXXX ใช่ไหม”  ปลายสายนิ่งไปอึดใจก่อนจะตอบ

“ใช่”

“มึงรีบมาที่ลานBเลย  ตอนนี้น้องมึงกำลังจะแย่แล้ว เพื่อนกูด้วย” รัวคำพูดเสร็จก็กดตัดสายทันที  ก่อนจะมองหาอาวุธที่จะไปต่อกรกับพวกนั้น




“มึงรีบมาที่ลานBเลย  ตอนนี้น้องมึงกำลังจะแย่แล้ว  เพื่อนกูด้วย” 

แม้จะยังงงๆกับสถานการณ์  แต่คำว่าน้องมึง  คนที่นึกถึงอยู่คนเดียวก็คือ   ไทกริส 
แล้วมาอยู่ที่นี้ได้ยังไงกัน!


“ไปลาน B เร็ว” หันเรียกผองเพื่อน  ที่กำลังดื่มด่ำกับแอลกอฮอล์ พวกมันหน้าเหวอ แต่ต่ายที่ไม่มีเวลามาอธิบายวิ่งนำไปก่อนแล้ว    แม้จะงงไม่ต่างกัน แต่ก็วิ่งตามเพื่อนไป


พอมาถึงที่ลานB ภาพตรงหน้าก็ทำให้ต่ายต้องเลือดขึ้นหน้า


เร็วกว่าความคิด ขาของเขาวิ่งเข้าไปกระโดดถีบไอ้หน้าโจรที่กำลังหันมีดไปที่ไทกริส  ก่อนจะยืนจังก้าบังไทกริสไว้

“พวกมึงเป็นใคร”  แววตาที่วาวโรจน์ไปด้วยความโมโห  ทำให้พวกนั้นชะงัก  แต่ก็ใจแข็ง ถ่มน้ำลายลงพื้น   ก่อนกระดิกนิ้วเรียกต่ายที่เตรียมตั้งหมัดพร้อม


และหลังจากนั้นวิชามวยที่ได้ร่ำเรียนมาก็ถูกใส่เข้าที่พวกนั้นจนสลบเหมือด
 

“ไอ้พวกนี้มันเป็นใครเนี่ย” เอกใช้ปลายเท้าเขี่ยๆที่ร่างชายคนนึงที่นอนสลบแทบเท้าเพราะโดนลูกเตะของเขาเต็มๆ

“หึ มัวแต่ไปมุดหัวอยู่ที่ไหนถึงไม่รู้จักนายน้อยธรณิน” เอกเลิกคิ้วใส่ ก่อนจะหันไปถามผองเพื่อนซึ่งก็ได้รับสายตาว่างเปล่า 

“รู้สึกมันจะเป็นหุ้นส่วนของร้านนี้กับลูกตำรวจชั้นผู้ใหญ่” กานต์บอก

ส่วนนายน้อยที่มันว่า  เผ่นแน่บไปตั้งแต่ต่ายกระโดดถีบลูกน้องจนกระเด็นไปแล้ว

ผลุบ!

ร่างของเด็กโค่งที่ยืนอยู่ข้างหลังต่ายนั้นล้มลง  โชคยังดีที่แกนที่อยู่ใกล้สุดรับไว้ก่อน  แต่ความต่างของร่างกายเลยทำให้ทุลักทุเลไปตามกัน


“กริส!!  ทำใจดีๆไว้” ต่ายรีบเข้าไปหา  พลางใช่มือตบเบาๆแก้มของเด็กโค่งที่เหมือนหมดสติไปแล้ว  ที่แขนเสื้อข้างซ้ายชุ่มไปด้วยเลือด จนคนมองรู้สึกใจไม่ดี

“รีบพาไปโรงพยาบาลดีกว่า” แกนที่ดูมีสติ รีบบอกเพื่อน   ต่ายพยักหน้าให้ ก่อนจะพยุงไทกริสขึ้นรถ
 
“พวกมึงก็มาด้วยล่ะ” ก่อนจะขึ้นรถไป ก็หันไปบอกกานต์และเพื่อน  ซึ่งฝ่ายนั้นก็ยักไหล่ให้  เพราะพวกเขาก็อ่วมไม่น้อย ยิ่งอีกฝ่ายใช้มีดด้วยแล้ว  แต่ก็ไม่ได้หนักเท่าเด็กตัวขาวนั่น



ไทกริสถูกส่งตัวเข้าห้องฉุกเฉิน เพราะเสียเลือดไปไม่น้อย  ผิวกายที่ขาวจัดเป็นทุนเดิม ในตอนนี้ซีดราวกับศพ
 แถมรอยช้ำที่ใบหน้าและตามตัวเริ่มขึ้นสีเข้มจนต่ายต้องกำหมัดแน่น เพื่อไม่ให้ตามไปฆ่าไอ้พวกนั้น


ระหว่างนั่งรอไทกริส  กานต์ ซันและวินที่เข้าไปทำแผลก็ออกมาพอดี

“เป็นไงบ้าง” กานต์เอ่ยถาม

“ไม่รู้ ยังไม่ออกมาเลย” ต่ายตอบด้วยเสียงเหนื่อยอ่อน

“ถึงมือหมอแล้วน่า”

“อืม ขอบใจพวกมึงด้วยนะ ที่ช่วยไทกริสไว้” ต่ายก้มหัวให้ทั้งสามอย่างสุดซึ้ง  เพราะถ้าไม่ได้สามคนนี้ ไม่รู้ว่าไทกริสจะเป็นอย่างไรบ้าง

“หึ  ตอนแรกก็ไม่อยากจะช่วยหรอก   บอกไอ้วินเถอะ ” พยักเพยิดไปที่วินที่ยิ้มแฉ่ง  มีผ้าก๊อซแปะที่แก้มไว้

“ฮ่าๆ เปลี่ยนเป็นเลี้ยงเหล้ากูก็พอ”  ต่ายตอบรับ ก่อนจะให้สัญญาอย่างลูกผู้ชาย

“นี่มึงจะกลับร้านรึเปล่า”   ต่ายหันไปถามกานต์

“อืม ไปเอารถ คงไม่มีอารมณ์กินละ”  ต่ายพยักหน้าให้  ก่อนทั้งสามจะเดินออกไป


ต่ายและผองเพื่อนนั่งสุมกับอยู่ที่หน้าห้องฉุกเฉิน  ซึ่งก็ผ่านไปเกือบชั่วโมงแล้วที่ไทกริสถูกส่งเข้าไป

แอ๊ดดด
 
สี่หนุ่มหันขวับไปที่ประตูห้องฉุกเฉิน  หมอเดินออกมาด้วยใบหน้าเหนื่อยอ่อน แต่ก็ยังยิ้มให้พวกเขา

 “คนไข้ปลอดภัยแล้วครับ  เดี๋ยวอีกซักพักพยาบาลจะย้ายมาห้องพักฟื้นนะครับ”   คุณหมอหนุ่มบอกอย่างใจเย็น 
แม้จะเห็นสภาพแต่ละคนแล้วที่ราวกับไปซัดกับใครมา     ก่อนจะขอตัวออกไป



มือสีแทนลูบเข้าที่ใบหน้าที่มีรอยช้ำของเด็กโค่งอย่างแผ่วเบา   พลางมองไปที่แขนซ้ายที่ถูกพันผ้าที่หัวไหล่ยาวไปถึงข้อศอก  แม้หมอจะบอกว่าแผลไม่ลึก แต่ก็เย็บไปถึง 18 เข็ม

เขายังรู้สึกใจหายกับเหตุการณ์แบบนี้  ยิ่งได้ยินเหตุผลแล้ว ยิ่งอารมณ์เดือด

‘รู้สึกว่าไทกริสจะจอดในที่ของมัน  มันเลยแสดงอำนาจ’ แชมบอก

‘แล้วก็เอ่อ...  กูขอโทษที่เรียกไทกริสออกมา  กูแค่อยากให้มาปรับเข้าใจกับมึงเท่านั้น’

แม้ในตอนแรกต่ายยอมรับว่า อยากจะตั๊นหน้าอดีตเดือนคณะนี่  แต่สุดท้ายก็ทำได้แต่พยักหน้าให้อย่างไม่ถือสา เพราะก็ไม่ใช่ความผิดของแชมซะทีเดียว


เพื่อนทั้งหมดกลับไปแล้ว  เหลือแต่เพียงต่ายและคนป่วยที่นอนนิ่งอยู่บนเตียง

“เฮ้ออ  นายจะให้พี่อกแตกตายให้ได้ใช่เนี่ย” จิ้มจมูกโด่งๆนั่นอย่างหมั่นไส้

“เพราะแบบนี้ไง พี่ถึงปล่อยนายไปไม่ได้ซักที” 


ผ่านไป 2 วัน  คนป่วยก็ได้รับการอนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลได้

ซึ่งก็เป็นสองวันที่สาหัสสำหรับต่าย หลังจากทำเรื่องโหดร้ายใส่ไทกริส  เพราะไทกริสแทบจะไม่คุยกับเขา แถมยังหลบหน้าตากันอีกด้วย  จะมีก็วันที่ยังมีคุยบ้าง


เรื่องที่เกิดขึ้น พ่อของเอกและแชมช่วยกันเคลียร์ให้  ก็ถือว่าน่าจะจบกันได้  และเรื่องนี้เขาไม่ได้บอกพ่อแม่ของไทกริส เพราะคนเจ็บห้ามไว้ ด้วยเหตุผลที่ว่า ไม่อยากให้เป็นห่วง


พอถึงคอนโด เด็กโค่งก็เดินตรงเข้าห้องไป  โดนไม่ฟังเสียงเรียกของต่าย

“เดี๋ยว จะทำอะไร”  ต่ายถาม  ไทกริสที่กำลังถอดเสื้อชะงัก  คิ้วหนาย่นลง มองหน้าต่ายก่อนจะตอบ

“อาบน้ำ”

“เช็ดตัวก่อนดีไหม  แผลยังไม่หายดีเลย”

“อยากอาบแล้ว อยากสระผมด้วย” 

“เช็ดตัวก่อน เดี๋ยวพี่ทำให้”

เพราะหมอกำชับมาว่า ห้ามให้แผลโดนน้ำ ซึ่งมองอีกคนแล้ว คงไม่ทำตามชัวร์ๆ

คนเจ็บไม่พูดอะไร  แต่สีหน้าดูก็รู้ว่าไม่โอเค  แต่ก็ไม่กล้าขัดใจเขา


เรียกได้ว่า เป็นครั้งที่สองที่ต่ายเช็ดตัวให้ไทกริส


แต่ครั้งนี้ต่างออกไป เพราะอีกคนมีสติแล้วก็มองตาแป๋วดูทุกการกระทำของต่าย

อันที่จริงก็ไม่เรียกเช็ดตัวซะทีเดียว  เพราะไทกริสดูจะงอแงเพราะไม่ได้อาบน้ำ  สุดท้ายต่ายเลยต้องเปิดน้ำใส่ค่อนอ่างเพื่อให้คนเจ็บได้สัมผัสน้ำบ้าง

พอพูดถึงก็มาพอดี   


ในสภาพ.....




เปลือยท่อนบน




และล่าง!!!!!! 

“เดี๋ยวววววววววววว  นายจะถอดทั้งหมดทำไมเนี่ย” ต่ายร้องลั่น หลังจากเห็นสภาพของอีกคนเกือบเต็มตา  โชคดีหันหนีกลับมาทัน

โอยยย  ขวัญเอ๋ย ขวัญมา


เด็กโค่งตีหน้ามึน ทำอย่างกับการล่อนจ้อนแบบนี้เป็นเรื่องธรรมดา


TBC...

------------------------------------------------------------------------

ฺBEVA TALK :  โฮกกกก เน็ตหอนี้ทำร้ายจิตใจบีว่าจริงจัง  ตอนเช้าลองเล่นดูปรากฏว่าเล่นได้ ในใจคิดว่าเย็นนี้จะอัพนิยาย  ผ่านไปไม่ถึงชั่วโมงนางเจ๊งค่ะ  :hao5: :hao5: :hao5:

สุดท้ายก็ต้องขอเน็ตคนอื่นมาอัพ แฮร่ๆ

ตอนนี้ตัดไปตัดมา ถ้างงก็ขอโทษด้วยนะคะ  :mew2:

ติดตาม  พี่ต่ายจะเสร็จไทกริสหรือไม่  หรือ ไทกริสจะเสร็จพี่ต่าย  แอร๊ววววว  :hao7:

เม้นท์กำลังใจให้คนเขียนด้วยน๊าาา  :hao5:   คิดเห็นอย่างไรกับตอนนี้ บอกกันด้วยน๊าาาา










CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ MaRiTt_TCL

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1513
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-6
โหห ต่ายโครตแมน ไทกริสไอ้ตัวดื้อ  หึยหมั่นไส้

ออฟไลน์ patchylove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1585
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-4
โฮๆๆๆ แขนน้องต่ายมีอผลเลยอ่ะ  :sad4:

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
เด็กโข่งน่ารักอ่ะ รอต่อค่าาาาา :mew1:

ออฟไลน์ lnudeel

  • I wanna be a CAT!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-5
โถ่น้องกริสคนมึน

ออฟไลน์ wan_sugi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 587
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-2
เริ่มปรับความเข้าใจกันแล้ว ถึงแบบมึนๆ ปนเจ็บตัว แต่ก็ยังดีอ่ะ
อยู่ห่างๆ แบบเฮิร์ตๆ คนอ่านใจคอไม่ดี
++ ให้ค่ะ

ออฟไลน์ mayomhwan

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
พี่ต่ายโคตรเท่อ้ะ    :hao6: :hao6: :hao6: 

พี่ต่ายเสร็จน้องแน่นอนค่ะ !!!

ออฟไลน์ bevobova

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 58
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
บทที่ 19  เหตุเกิดใน..ห้องน้ำ







ใช่!   มันอาจจะเป็นเรื่องธรรมดา


แต่กับคนที่เขาเพิ่งพูดจาไม่ดีใส่  แถมตอนอยู่โรงพยาบาลก็ไม่ได้คุยอะไรเลย  เพราะเหมือนอีกคนจะยังคงงอน?!เขาอยู่

กว่าจะเจรจากันสำเร็จ  น้ำลายแทบแห้ง

สุดท้ายไทกริสก็ยอมที่ใช้ผ้าขนหนูผืนจ้อย ปิดอาวุธลับไว้

และหลังจากนั้น ……..

สปาโดยต่าย ก็เริ่มขึ้นในห้องน้ำ

ตามร่างกายของเด็กโค่งยังคงมีรอยช้ำสีม่วงปนเขียวปรากฏให้เห็น   โดนเฉพาะตรงหน้าท้องที่เด่นชัดตัดกับผิวขาวจัดนั่น

“ยังเจ็บอยู่ไหม” ลูบเบาๆ ที่รอยช้ำนั่น 
“ไม่ แต่ถ้าก้มก็เจ็บ” ไทกริสตอบด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ  ปล่อยตัวตามสบาย ให้ต่ายอาบน้ำให้

คนอายุมากกว่าใช้ฟองน้ำลูบไปตามตัว พยายามหลีกเลี่ยงรอยช้ำทั้งหลาย
แต่คนเจ็บดูไม่สนใจ  จับมือของต่ายไปที่ตรงรอยช้ำนั้น   เป็นการบอกกลายๆว่า ไม่ต้องสนใจ




ถึงจะใช้ผ้ามาปิดไว้ก็เถอะ ….

แต่ต่ายสาบานได้ ไอ้วับๆแวบๆนั้น ต่ายไม่ได้สนใจเลยซักติ๊กเดียว

จริงๆนะ

ไอ้ที่มันใหญ่เกินหน้าเกินตา   ไม่ได้มองเลยนะ ....

เชื่อสิ .....



“กระต่าย” เด็กหนุ่มที่นอนหลับตาพิงอ่างเอาไว้ เพื่อให้ต่ายที่นั่งอยู่ขอบอ่างได้สระผมให้อย่างถนัด

“หืม?” ต่ายใช้นิ้วมือนวดศรีษะเบาๆ  อย่างงที่ช่างชอบทำกัน   อีกฝ่ายหลับตาพริ้มอย่างสบายใจ

“หายโกรธกันแล้วใช่ไหม”  ต่ายชะโงกหน้ามามองไทกริส ราวกับไม่แน่ใจคำถาม

ใครกันแน่ที่ควรคำถามนั้น


“เรื่องนั้น....  ขอโทษนะกริส ที่ตะคอกใส่แบบนั้น  คือมันแบบ....... ทำตัวไม่ถูกน่ะ”  ต่ายสารภาพเสียงแผ่ว  นิ้วมือสางผมไปพร้อมๆกับใช้ฝักบัวชะล้างฟองแชมพู

 “แต่ไม่ใช่ว่าเกลียดนายนะ แต่ว่-----  อื้ออ”

แขนแกร่งของไทกริสรั้งคอของต่าย ก่อนจะดึงเข้ามาประกบจูบ โดยไม่ให้ตั้งตัว

ควับ !

“เหวอ~!”

ไม่รีรอให้เสียเวลา ร่างโปร่งที่ดูจะตัวบางกว่ากลับจับตัวคนที่นั่งอยู่ขอบอ่างให้พลิกเข้ามาอยู่ใต้ร่างแทน

ต่ายเบิกตากว้าง   

เมื่อเจอกับแววตาที่เปี่ยมไปด้วยอารมณ์จ้องมาจนอดขนลุกซู่ไม่ได้

ไม่ใช่ว่าไม่เคยเจอสายตาแบบนี้มาก่อน  แต่จะว่ายังไงดี 

ครั้งนี้ มันดู ...  ร้อนแรงกว่าทุกครั้ง


“กระต่าย~” น้ำเสียงทุ้มพร่าเอื้อนเอ่ย ร่างเปลือยเปล่าขยับมาแนบชิด  จนต่ายรู้สึกถึงอะไรบางอย่างดุนดันอยู่ที่หน้าท้อง
“ดะเดี๋ยว  กริส แผลนาย” พยายามร้องห้าม  แต่อีกคนหาได้สนใจไม่   สองมือประคองหน้าของต่ายไว้ แล้วแนบริมฝีปากลงซ้ำ 

มือที่พยายามดันอีกฝ่ายออกแปรเปลี่ยนมาเป็นคล้องคออีกฝ่ายไว้

ทำให้ริมฝีปากร้อนจัดแนบเข้าที่ปากของต่าย  บดคลึงจนทั่วทั้งร่างสั่นสะท้าน  ปลายลิ้นไล้เลียไปทั่วริมฝีปากจนถึงแนวฟัน  ราวกับขออนุญาต จากนั้น ค่อยสอดลึกเข้าไปภายในโพรงปาก  เกี่ยวตวัดกับลิ้นเจ้าของถิ่น  หยาดน้ำใสไหลออกมาจากมุมปาก

เสียงบดจูบดังก้องทั่วห้องน้ำ  อุณหภูมิห้องก็เพิ่มสูงขึ้นพอๆกับร่างกายของทั้งสองที่เบียดเสียดกันอยู่อย่างนี้
“อืออ” เสียงครางดังของต่าย ยามที่นิ้วเรียวของเด็กโค่ง ลูบไล้ทั่วแผ่นหลัง
“เดี๋ยวก่อน!”  ต่ายหอบสั่น    อีกฝ่ายชะงัก

“ต้องไม่ใช่แบบนี้สิ”   ต่ายงึมงำ   

ทำไมเขาต้องมาอยู่ใต้ร่างไอ้เด็กโค่งนี่ล่ะ  มันต้องเป็นฝ่ายเขาที่อยู่บนไม่ใช่หรอ!

หากแต่พอตกอยู่ในสถานการณ์นี้  เรี่ยวแรงก็พาลหายไปหมด

เหมือนทุกครั้งที่ถูกไทกริสจูบ


ไทกริสใช้แขนยันกับขอบอ่างไว้เพื่อดันตัวเองขึ้น   ก่อนจะใช้หน้าผากพิงกับไหล่คนใต้ร่าง
“ขอโทษ” เสียงครางหอบในลำคอดังข้างๆหูต่าย


ต่ายทำอะไรไม่ถูก ยิ่งรู้สึกว่ามีบางสิ่งดันอยู่ที่ท้องเขา ยิ่งตัวแข็งทื่อ

ในเมื่อเป็นผู้ชายกัน ทำไมเขาจะไม่รู้ ....


“อ่า  แต่ถ้าให้ช่วยก็พอได้นะ”  นิ้วของต่ายชี้ไปที่ส่วนนั้นของไทกริสที่ผงาดแสดงแสนยานุภาพ
 
พอเห็นอย่างเต็มๆตา ก็รู้สึกหงุดหงิดอย่างไม่มีเหตุผล

ทำไมมันโลกนี้มันไม่ยุติธรรม??????????????


ร่างขาวจัดชะงักก่อนจะก้มมองในสิ่งที่ต่ายชี้ไป  รอยยิ้มร้ายๆผุดขึ้นบนบนใบหน้าหล่อ
“เอาสิ”


บางทีต่ายก้คิดว่า ใบหน้านิ่งๆที่เห็นเป็นประจำนั้น เป็นเพียงหน้ากาก  ต้องใบหน้าตอนนี้สิ ของจริง!!


ร่างสูงโปร่งย้ายตัวเองขึ้นไปนั่งบนขอบอ่างแทนที่ต่ายที่เคยนั่งตรงนั้น  ส่วนต่ายก็นั่งคุกเข่าอยู่ในอ่างในสภาพเสื้อผ้าเปียกมะล่อกมะแล่ก

แววตาของไทกริสนั้นเหมือนกำลังจ้องจับเหยื่อไม่มีผิด

ยิ่งจ้อง ร่างกายของต่ายก็ร้อนรุ่มตาม

ต่ายมองส่วนนั้นที่ผงาดชี้หน้าต้านทานแรงโน้มถ่วงโลก   อดกลืนน้ำลายดังเอือกไม่ได้

ใช้สองมือกอบกุมอย่างประหม่า


แน่สิ เขาไม่เคยทำให้ใครนี่นา



เงยหน้ามองร่างสูงที่มองลงมาด้วยสายตาแวววับ

ก่อนจะขยับมืออย่างช้าๆ  ได้ยินเสียงอีกคนครางฮือทันที   มือขาวสอดเข้าที่กลุ่มผมของต่ายสางมันออกอย่างเบามือ

สัมผัสที่อบอุ่นนั้น ทำให้ต่ายรู้สึกตื่นเต้นอย่างห้ามไม่ได้

มองส่วนนั้นที่ร้อนผ่าวในมืออย่างชั่งใจ
ก่อนจะใช้ลิ้นไล้เลียไปตามความยาวของมัน  มันกระตุกเบาๆ  ก่อนอ้าปากออกแล้วรับไปจนเกือบหมด 
แต่เพราะขนาดที่ใหญ่เกินกว่าที่ต่ายจะรับ ทำให้ต่ายรู้สึกสำลัก

เด็กโค่งครางออกมาอย่างพอใจ  แววตาเต็มไปด้วยความเร้าร้อนมองคนที่กำลังทำให้เขารู้สึกอยากจะเก็บไว้กอดคนเดียว ทั้งวันทั้งคืน

ยิ่งได้ยินเสียงคราง ต่ายยิ่งได้ใจ ใช้ลิ้นละเลงส่วนปลาย ทั้งดูดทั้งรัวลิ้น  จนไทกริสกัดฟันแน่น  พลางขยับกายสวน

“อึก” ต่ายแทบจะคายออก เพราะมันแทบจะทิ่มเข้าไปในลำคอ
ต้นขาขาวเกร็งแน่น พยายามยั้งแรงไม่ให้ขยับรุนแรง   ต่ายจึงต้องห่อปากตัวเองก่อนจะเร่งจังหวะให้เร็วขึ้น

เสียงหายใจหอบของไทกริส ทำให้รู้ว่าใกล้จะถึงแล้ว

ไม่นานก็

"อ่าส์~"

พรวด !

มือขาวรีบดันหน้าต่ายออก ก่อนที่น้ำขุ่นข้นสีขาวจะพุ่งพรวดออกมา

แต่ก็ไม่ทันการณ์ เพราะมีบางส่วนกระเด็นเข้าที่ใบหน้าของต่าย



ไทกริสมองภาพตรงหน้าอย่างพยายามหักห้ามใจ

ภาพของคนที่เขารัก ในสภาพหอบกระเส่า ใบหน้าเปื้อนจากน้ำของเขา

ต่ายกระพริบตาปริบๆ มองเจ้าเด็กโค่งที่หอบไม่ต่างกัน 

ก่อนอีกคนจะดึงตัวของเขาขึ้น แล้วกดจูบอย่างแนบแน่นแล้วผละออก 

หันไปเปิดฝักบัว กวักน้ำลูบใบหน้าที่เปื้อนอย่างเบามือ

“อ่า ขอบใจ”


ต่ายบอกตรงๆ ว่าโคตรจะอายจนไม่กล้าที่จะสบตาเลย

“เอ่อ  นายออกไปก่อนนะ” ต่ายรีบไล่อีกคน 
ปากพูดแต่สายตาจ้องแต่ช่วงอกขาวๆ

“ครับผม” ตอบรับด้วยเสียงน่ารักแถมด้วยรอยยิ้มกริ่มที่มองมาที่เป้าของต่ายอย่างเจ้าเล่ห์ 

เด็กโค่งยอมทำตามแต่โดยดี  แถมยังหยิบเสื้อคลุมอาบน้ำมาให้ต่ายอย่างรู้งาน



พอไทกริสออกจากห้องน้ำไป ต่ายก็แทบจะเอาหันตัวเองโขกกับผนักห้องน้ำ

“กูทำอะไรลงไปวะเนี่ยยยยยยยยยย”  บ่นกับตัวเอง พลางมองไปส่วนล่างของตัวเอง

“แล้วมึงจะขึ้นมาด้วยทำไมมมม”   โวยวายเสร็จก็ต้องมาจัดการตัวเอง 

ก่อนจะออกจากห้องน้ำด้วยความรู้สึกอยากจะฮาราคีรีตัวเอง เหมือนเขาทำให้ผ้าขาวต้องแปดเปื้อน (ทั้งๆที่ตัวเองไม่ใช่คนเริ่ม)

พอหันมาเจอสายตากรุ้มกริ่มของต้นเหตุ  ขอเปลี่ยนจากฮาราคีรี มาเป็นขอมดำดินให้รู้แล้วรู้รอดไป

สุดท้ายก็ต้องทำใจดีสู้เสือ?! เดินไปหาเด็กโค่งที่นั่งเช็ดผมอยู่ที่ขอบเตียง

“ไหนดูแผลหน่อย” ต่ายพูดพลางหลบสายตาของไทกริสที่จ้องนักจ้องหนา


วันนี้คุณชายใส่เสื้อกล้ามสีดำตัดกับสีผิวขาวจัด  อวดรอยช้ำเป็นลายพร้อยกับผ้าผันแผล  ลองแตะๆที่ผ้าพันแผลดู เมื่อสัมผัสได้ว่ามันชื้น เลยต้องแกะออกแล้วจัดการทำเปลี่ยนใหม่


“ให้ตาย จะมีอารมณ์ทั้งทีช่วยคิดถึงสังขารตัวเองหน่อยเถอะ” บ่นงึมงำอย่างเสียไม่ได้  เจ็บขนาดนี้ยังไม่เจียมตัว

“อะไร มองแบบนี้หมายความว่ายังไง” เมื่อเงยหน้าขึ้นไป พบว่าถูกนัยน์ตาสีน้ำตาลทองแดงมองมาอยู่

“ถ้าหายแล้ว  ต่ายจะยอมไ— อือ”  ไม่ต้องรอให้พูดจบประโยค ต่ายก็จัดการเอาผ้าเช็ดผมอุดปากร้ายๆนั่นไว้

“โอยยย นี่นายโดนซ้อมซะสมองรวนไปหมดแล้วรึไงเนี่ย  เมื่อก่อนไม่เห็นจะเป็นแบบนี้”

“หืม? คิดงั้นเหรอ” เด็กโค่งยกยิ้มมุมปาก   ต่ายนิ่งคิดไป

จะว่าไป ไอ้ที่ชอบมาถึงเนื้อถึงตัว ไม่ใช่ว่า .....

เพี๊ยะ!


ด้วยความหมั่นไส้ เลยตีไปตีต้นขาขาว จนเกิดรอยแดงทั้งห้านิ้วประทับไว้  ไทกริสโอดครวญอย่างโอเวอร์


“นายนี่มัน เด็กลามก”  พูดจบก็สะบัดหน้าหนี ข่มความรู้สึกจะระเบิดเป็นโกโก้ครั้นช์   

ทำไมต้องมารู้สึกเหมือนเป็นสาวแรกแย้มขนาดนี้ด้วยเนี่ยยยย!!!
 

TBC...
---------------------------------------------------

BEVA TALK :     :katai5: :katai5: :katai5: :katai5:   อั๊ยย่ะ  พี่ต่ายคนเก่ง ช่างไม่รู้ตัวว่าถูกเจ้าเสื้อร้ายจ้องจับกินอยู่ทุกวัน

เอามาเสิร์ฟแล้วค่ะ    แอบขำเม้นท์ตอนที่แล้ว  ไทกริสโดนเรียกว่าเด็กดื้อด้วย  น่ารักกกกกก  :-[

ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นท์และทุกบวกนะคะ  รักคนอ่านทุกคนค่ะ   :กอด1: :กอด1:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

สุดท้ายนี้ คิดเห็นอย่างไรกับตอนนี้ เม้นท์บอกกันหน่อยน๊า  อยากติอยากชม อยากให้แก้ไขปรับปรุงช่วงไหน  บอกได้เลยค่ะ ^^   :L1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-05-2016 20:43:31 โดย bevobova »

ออฟไลน์ lnudeel

  • I wanna be a CAT!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-5
โถวววว~~. ต่ายตามใจน้องตลอดเลยเน้อะ :hao6:

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
ต่ายน่ารักกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก กริสเก็บหางหน่อย เดี๋ยวต่ายจะรู้ตัวนะ :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ cakecoco-boom

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 201
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
ต่ายใจง่ายยยยยยยยย  :katai5:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด