ตอนที่ 3
เจ็ดโมงเช้าฟ้าลั่นพาคนสภาพยับยู่ยี่ไม่ต่างกันมากินข้าวมันไก่ร้านใกล้ตึก แถวนี้ไม่ค่อยมีนักศึกษาอยู่มากนักเพราะไม่น่าอยู่
“เมื่อยเชี่ย”
ยิ้มขำคนหน้าขาวที่หน้าซีดตาปรือ รอบคอมีแต่รอย
“เดี๋ยวไปส่ง”
“ไม่ต้องหรอก กูอยู่ไกล”
เมื่อเช้าวันก่อนก็แค่แยกกันที่ตึกเพราะเชอเบทขับรถมาเอง
“ไหวหรอ”
สองคืนติด…ขนาดมันเดินยังขาลากหน่อยๆ
“เออน่า”
“กูไปส่งดีกว่า”
“ไม่ต้องดูแลกูหรอก ไม่ใช่แฟนสัส”
บ่นขำๆ ก้มหน้ากินข้าว
“เกี่ยวอะไร เขาเรียกน้ำใจ”
“น้ำใจหรือน้ำเงี่ยน…”
“เดี๋ยวได้โดนกูอีกรอบ”
ขยี้หัวคนผมยาว แม่งน่าหมั่นไส้ น่าหมั่นไส้จริงๆ น่าหมั่นไส้ทุกอย่าง ทั้งหน้าตายียวน คำพูดกวนตีน และท่าทางเหมือนไม่อยากให้
เข้าไปยุ่งชีวิตกันและกัน
“วันนี้ไม่ไหวแล้วสัส กูมีเรียนสิบโมงครึ่ง”
“ก็บอกแล้วให้กูไปส่ง”
“ขี้เกียจให้มึงเห็นบ้านกู”
“เหตุผลมึงนี่นะ…ทำไมเห็นบ้านมึงแล้วทำไม”
คิ้วเรียวขมวดก่อนจะกลอกตามองฟ้าลั่น
“คู่นอนกับชีวิตส่วนตัวกู ไม่อยากเอามาปนกัน”
สำหรับเชอเบท…ฟ้าลั่นแค่คู่นอน….
แต่สำหรับฟ้าลั่น…เชอเบทมันก็แค่นั้นเหมือนกัน
แต่สภาพแม่งดูไม่น่าไว้ใจให้กลับคนเดียวเลยด้วยซ้ำ
“งั้นกูเป็นเพื่อนมึง”
“เพื่อนที่ไหนเขาเอากันวะ ตรรกะมึงนี่”
“Friend with Benefit”
ฟ้าลั่นยิ้มกวนตีนกลับ ใบหน้าหล่อที่สภาพงัวเงีย ผมเซ็ตอย่างดีปัดไปปัดมาไม่เป็นทรงเพราะโดนเชอเบทขยุ้มทั้งคืน…หมดสภาพไม่ต่างกัน
“กูไม่เคยอยากได้ของเดิมซ้ำๆว่ะ”
“หรือกูไม่ถึงใจ?”
ยิ้มยั่ว….ถ้าไม่ถึงใจไอ้เชอไม่ครางซะดังขนาดนั้นหรอก
“มึงกาก”
“กากแล้วให้กูเอาสองคืนติดแถมยาวทั้งคืนทำไมล่ะเชอเบท.. น้องเชอ”
“เชี่ยฟ้าลั่น”
หัวเราะลั่น….ไอ้เชอเบทหน้าหยิ่งที่มักจะยิ้มนิดๆ หลิ่วตาหน่อยๆตอนนี้หน้าบู้….เออเว่ยแม่งก็น่ารักดีน่ะ น่ารักแบบ…น่าเอา
“ว่าไง…”
“มึงนี่ติดใจกูล่ะสิ”
“เออ เห็นหน้ามึงมังกรกูก็ตั้งแล้ว”
“มังกรหรือหนอนชาเขียว”
สวนทันควัน…แล้วก็รีบหลบตาเพราะฟ้าลั่นเริ่มขมวดคิ้ว
“กูให้พูดอีกรอบ”
“เออ….กูก็พูดไปเรื่อย”
ยังไม่อยากโดนเอาแต่เช้า…
“ตกลงกูไปส่ง”
“กูยังไม่ได้ตกลงเป็นเพื่อนมึง”
“กูบังคับ”
หัวเราะ….ฟ้าลั่นแม่งเอาแต่ใจ!
“ต้องให้ได้เลยใช่ปะ”
“เออ ต้องได้”
“เฮ้อ….ยินดีที่ได้รู้จัก Friend with Benefit”
กินข้าวกันไปคนละสองจานฟ้าลั่นก็ได้ไปส่งเชอเบทครั้งแรก….คอนโดที่ไม่ค่อยใกล้มหาลัยเท่าไหร่แต่ก็ไม่ถึงกับไกลมาก ราคาไม่แพงเพราะห้องไม่ได้ใหญ่
“แต๊งกิ้ว”
“แล้วเจอกันที่มหาลัย”
“เรียนโคตรคนละคณะ ทำเหมือนเจอง่าย”
ส่ายหัว
“เดี๋ยวกูโทรหา”
“มึงไม่มีเบอร์กู”
ฟ้าลั่นยิ้มมุมปาก หยิบมือถือส่งให้เชอเบท
“มึงเมมก็มีแล้ว”
“เชี่ยเอ้ยทำไมกูต้องมาเป็นเพื่อนกับคนที่เอากูสองคืนติดด้วยวะ….”
“เมมๆไปเหอะน่า กดโทรเข้าของมึงด้วย”
ล็อคคอคนถือโทรศัพท์ให้เอนตัวมานั่งพิงไหล่ มือที่โอบไหล่คนขาวไว้พันนิ้วเล่นกับผมยาว
เชอเบทเอนหัวพิงบ่ากว้าง สายตาจ้องไปที่จอโทรศัพท์กดเบอร์ตัวเองแล้วโทรออก
“อ่ะ ได้ละ”
ล้วงมือถือตัวเองออกจากกระเป๋ากางเกงมากดตัดสาย
“เมมชื่อให้กูด้วย”
เดาะลิ้นรำคาญ
“อยากเมมชื่อกูว่าไร”
“แล้วแต่มึงดิ อยากให้กูเรียกว่าไร”
วางคางเกยบนหัวเชอเบทที่นั่งขมวดคิ้ว..
“เมมว่าไรดีวะ….แค่นี้แล้วกัน”
นิ้วเรียวกด SB แล้วกดบันทึก
“แล้วชื่อกูในมือถือมึง”
“มึงอยากเลือกบ้างมั้ยล่ะ? เสียใจกูชอบเมมเอง”
มือถือเชอเบทมีเบอร์ของ FL FWB
Fahlan…Friend with Benefit
“หึ โทรก็รับด้วย”
“ถ้าว่างนะ ไปละ”
“ก็ไปดิ”
“สัส ล็อคกูไว้จะไปได้ปะล่ะ”
แกะแขนแกร่งออกจากคอตัวเองแต่ก็แกะไม่ออก
“ฟ้าลั่น…”
เสียงรำคาญ
“จูบก่อน”
“กลางวันแสกๆ”
“กฎข้อไหนห้ามจูบ….อื้อ…”
โดนจูบไม่ทันตั้งตัว หัวเราะทุ้มในลำคอ….เพราะแบบนี้ไงถึงติดใจ ไม่เขิน ไม่อาย ไม่เรื่องมากและ….ไม่รู้สิ
“พอละ ไปละสัส จะรีบอาบน้ำ”
ฟ้าลั่นมองจนอีกฝ่ายเดินเข้าไปในคอนโด มือหนายกแตะปากที่ยังชื้นฉ่ำ….ก่อนจะขับรถกลับบ้านตัวเองบ้าง มีเรียนสิบโมงครึ่งเหมือนกัน
“เชี่ยฟ้า เมื่อคืนทิ้งพวกกู”
ปิงตบหัวเพื่อนไปหนึ่งที
“หึหึ โทษที”
“ควงสาวกลับห้องอีกอ่ะดิ”
แท๊ปแซวยิ้มๆ สามสหายนั่งลงที่โต๊ะแถวหลังสุดชั้นบนสุดของห้องเรียนห้องใหญ่ที่ทำที่นั่งไล่ระดับเหมือนโรงหนัง วิชาทางสายสังคมที่ทุกคณะต้องเรียนอย่างน้อยหนึ่งวิชา
“หึหึ ไม่บอกโว้ย”
“เชี่ยอารมณ์โคตรดี แสดงว่าเมื่อคืนถูกใจจริง”
“แหงดิ แล้วพวกมึงอ่ะ?”
หรี่ตามองเพื่อนกลับ ไอ้ปิงกับไอ้แท๊ปก็ไม่เบาเถอะเรื่องแบบนี้
“เชี่ยปิงแม่งเมาแล้วอ้วก กูต้องลากกลับอดไปต่อดิสัส ต้องลากแม่งกลับห้องกูอีก”
แท๊ปบ่นเซงๆ
“เชี่ยปิงโคตรกาก”
“กูแดกเยอะไปหน่อย สาสสส กูขอโทษเว่ยแท๊ป”
ยิ้มแหย…
“พวกมึงได้กันเองเลยมั้ย?”
สะดุ้งทั้งคู่
“เชี่ยฟ้าผ่า”
“มีแต่ฟ้าลั่น”
กวนตีนเพื่อนกลับ…เลยได้นิ้วกลางมาสองนิ้ว
“เอ้านักศึกษา วันนี้อาจารย์อีกท่านลาไปราชการต่างประเทศสองอาทิตย์ คณะสถาปัตย์จะมาเรียนด้วย แบ่งๆกันนั่งล่ะ ห้องน่าจะแน่นหน่อย”
สถาปัตย์….ปีไหนล่ะ?
นักศึกษาชายหญิงที่การแต่งตัวคนละทางกับเศรษฐศาสตร์ที่แต่งตัวถูกระเบียบหรือเอาง่ายๆดูดีเหมือนพนักงานออฟฟิศ เซ็ตผม ใช้แบรนด์เนม
สถาปัตย์เข้ามาแต่ละคน…หาใส่ชุดนักศึกษาโคตรยาก มีแต่เสื้อคลุมคณะใส่ทับกันมาเพราะวิชาเรียนรวมต้องแต่งตัวให้มันดีๆ อาจารย์พอหยวนให้กับเสื้อคลุมคณะที่ใส่ทับเสื้อยืดกันมาได้
ทรงผมก็หลุดโลก สภาพเหมือนไม่ได้นอน
“เอ้านั่งเร็วๆ จะเริ่มสอนแล้ว”
ฟ้าลั่นมอง…มองหาคนที่อาจจะหลงมาด้วย…สถาปัตย์มีตั้งห้าชั้นปีจะโชคดีเป็นปีเชอเบทหรือเปล่า?
“เห้ยเด็กมึง”
สองคนสุดท้ายที่เดินเข้ามา…เชอเบทผมยาวที่รวบผมขึ้นยุ่งๆ ใส่แว่นสีดำทรงวินเทจ เสื้อเชิ้ตนักศึกษาแขนยาวติดกระดุมถึงคอ กางเกงยีนส์สีดำและรองเท้าหนังเหมือนเดิม….
กระเป๋าหนังคาดอก…ในมือมีสมุดเล่มบาง
“เชี่ยที่นั่งเต็ม”
คนเดินขึ้นมาถึงกลางห้องขมวดคิ้ว
“เอ้านักศึกษาตรงไหนว่างบ้าง เพื่อนสองคนไม่มีที่นั่ง”
“ตรงนี้ว่างหนึ่งที่ครับ”
ฟ้าลั่นเดาะลิ้น ยิ้มยียวนเมื่อสบตาเรียวที่เลิกคิ้วเมื่อสบตากัน
“มานั่งดิ”
เพื่อนร่วมชั้นปีแปลกใจ…ข้างฟ้าลั่นใครนั่งได้ที่ไหนถ้าไม่ใช่เพื่อนสองคน ฟ้าลั่นไม่ได้หยิ่งแต่ก็ไม่ใช่คนสนิทกับคนอื่นง่าย
“ตรงนี้ว่างอีกที่”
เสียงจากฝั่งสถาปัตย์
“ปริ๊นซ์ มึงไปนั่งกับเกียร์แล้วกัน เดี๋ยวกูไปนั่งกับพวกนั้น”
“อื้อ โอเค”
ปริ๊นเดินแยกไปด้านล่าง เชอเบทเดินขึ้นชั้นบนสุด….นั่งลงข้างฟ้าลั่น
“ไงเด็กสถาปัตย์”
“เออ เชี่ยบังเอิญสัส”
“คอแดง”
มือขาวยกขึ้นปิดคอทันที กลอกตาเซ็งเพราะผ้าพันคอไม่รู้หล่นอยู่ไหนหาไม่เจอ ขนาดติดกระดุมคอมาแล้วยังเห็นอีกหรอวะ?
“ไม่ปล่อยผมล่ะ”
“ร้อนสัส”
“ห้องนี้แอร์เย็น”
“แกะให้ดิ๊”
เอียงหัวให้ ฟ้าลั่นยิ้มขำแต่ก็ยกมือขึ้นดึงหนังยางสีดำออกจากกลุ่มผมยาวที่มีกลิ่นแชมพูหอมออกช้าๆ….ผมสีดำทิ้งตัวลงจรดขอบกางเกง
“อ่ะยางมึง”
รับยางจากมือสีแทนไปใส่ข้อมือ
“แต๊ง”
วิชานี้เรียนครั้งละชั่วโมงครึ่ง อาทิตย์ละสองครั้ง
เชอเบทลอบมองคนข้างตัวที่มีปากกาลูกลื่นราคาแพงกับสมุดจดปกหนัง ฟ้าลั่นไม่ได้ชวนคุยด้วยซ้ำแค่สนใจสไลด์ที่อาจารย์เปิด แถมจดยิกๆ
ผู้ชายหื่นเมื่อคืนกลายเป็นหนุ่มหล่อตั้งใจเรียน
ส่วนเขาก็เหมือนคณะสถาปัตย์นั่นล่ะ บางคนเอากระดาษมาตัด บางคนยังนั่งวาดแบบ….ไม่สนใจเรียนสักคนเพราะเป็นวิชาศึกษาทั่วไปอ่านเอาจากชีทสรุปที่ซีรอคแจกกันก็พอ
คนผมยาวทิ้งตัวลงกับโต๊ะ วางแว่นไว้ข้างๆ แนบหน้ากับโต๊ะหันออกไปที่กำแพง ตาเริ่มปรือ…
แอร์เย็นๆ เสียงอาจารย์ก็เหมือนเสียงสวดมนต์
แถม…ยังมีคนลูบผมให้เคลิ้มอีก
ฟ้าลั่นยิ้มจางมองคนที่หันหน้าไปอีกทางแต่คงหลับไปแล้ว สูงซะเปล่าแต่ตัวโคตรบาง มือขวาจดงานมือซ้ายลูบผมนิ่มไปเรื่อยเปื่อย
“เชี่ย มุ้งมิ้งหรอฟ้า”
“ชู่ว…เดี๋ยวมันตื่น”
ปิงยิ้มล้อเลียน แท๊ปที่นั่งตรงกลางหลิ่วตาแซว
“น้องมันหนาวหรือเปล่ามึง?”
แท๊ปมองคนข้างตัวเพื่อนที่เริ่มยกแขนกอดอก
“แอร์ตรงนี้โคตรเย็น”
ปิงบ่นเหมือนกัน
“เอาเสื้อกูไปเชี่ยปิง”
ฟ้าลั่นขำเพื่อนที่ดูมีซัมติงกัน….แต่ตัวเขาไม่มีเสื้อแจ็คเก็ทมาแบบไอ้แท๊ป ระหว่างอาจารย์ให้ดูคลิปวิดิโอ เลยดึงมือขาวหยวกมาถูเบาๆ
“หือ..”
สะลึมสะลือตื่นมาดูคนที่จับมือ
“อุ่นดีมั้ย?”
พยักหน้าหงึกๆ
“นอนตักหน่อย”
“มาดิ”
ฟ้าลั่นเขยิบพิงพนักเก้าอี้ เชอเบททิ้งตัวลงหนุนตัก….เก้าอี้ห้องนี้เป็นเก้าอี้เดี่ยวแต่ตั้งเบียดๆเกือบติดกัน เชอเบทจะทิ้งตัวนอนก็ไม่ลำบาก
สองแขนขาวยกกอดเอวฟ้าลั่น ซุกหน้าลงกับหน้าท้องแกร่ง
ลมหายใจสม่ำเสมอ….หลับไปแล้ว
“อื้อหือขุ่นเพื่อน”
ปิงแทบจะผิวปากแซว
“อย่าเสือก”
เดาะลิ้นกวนตีนก่อนจะสนใจสไลด์อาจารย์ต่อ มือข้างซ้ายยังวนเนียนเกี่ยวผมยาวที่แผ่เต็มตักเล่น
…..สบายใจ
=====================================================
หู้ววววว -...- น้องเชอขี้อ่อย
ปล. friend with benefit เป็นสำนวนที่หมายถึง เพื่อนที่เป็นเซ็กเฟรนด์กันด้วยนะคะ