DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายTHIRD&PUIMEK❁FIVE❁14-04-16 [P.72]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: DGseries.ปรารถนารักอสรพิษร้ายTHIRD&PUIMEK❁FIVE❁14-04-16 [P.72]  (อ่าน 623088 ครั้ง)

ออฟไลน์ nightsza

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-1
เอเดนนะกว่าจะได้เลื่อนขั้น เป็นเด็กดีของยอร์ชไปนานๆนะ

ออฟไลน์ The darkness

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 60
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ช็อคนะเนี่นที่เอเดนชอบแมว คือลักษณะ นิสัย เฮียแกไม่ให้เลยนะ มุ้งมิ้งเกินไป  o22
 

ออฟไลน์ PRINCESSPRIME

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 51
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

กลิ้งรอคุณริริมาต่อ    :katai5:

ออฟไลน์ ♥♥ดอกช่อบานสะพรั่ง♥♥

  • เหรียญยังมีสองด้าน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 279
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-2
มานอนรอยคอ  :t3: คิดถึง

ออฟไลน์ HanATarO

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2141
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-2
ได้เลื่อนขั้นแล้วนะ เอเดน ดีใจด้วย

ออฟไลน์ RiRi

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 568
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +595/-8
    • RiRiWorld
R.E.V.E.N.G.E
[/color][/size]
ELEVEN[/font][/center]







        ADEN

        ผมมองตามแผ่นหลังของยอร์ชที่เดินห่างออกไป เหลือเชื่อเลย เขาทิ้งผมให้อยู่คนเดียวในสถานการณ์แปลกๆอีกแล้ว ถึงผมจะอยู่มานานเป็นพันปี แต่ไม่เคยมีเสี้ยววินาทีไหนที่ผมจะต้องมาทำอะไรแบบนี้ ขายผัก...ให้ตายเถอะ เสียชื่อคนอย่างเอเดนชะมัด

        ผมกดโทรศัพท์ต่อสายหาเพื่อนอย่างไอ้เบน ดีที่มันรับสายเร็วไม่ให้ผมหงุดหงิดไปมากกว่านี้ แต่จะให้ทำยังไงได้ ถ้าผมไม่รักผู้ชายที่ชื่อยอร์ชจริงๆ ผมก็คงไม่ยอมขนาดนี้

        ผมว่าผมเปลี่ยนไปจนน่าหัวเราะว่าไหม

        “โทรมามีอะไร อย่าบอกนะว่ายังมัดใจชายไทยนิสัยดีคนนั้นไม่ได้ น้องยอร์ชใช่ไหม”

        ผมว่าผมอาจจะคิดผิดที่เลือกโทรหาเบนแทนที่จะเป็นชาร์ล จะได้เรื่องหรือเปล่าผมชักไม่แน่ใจ

        ผมกรอกตาเล็กน้อย รับรู้ถึงสายตาคนรอบข้างที่มองมาแต่ผมไม่สนใจเพราะตอนนี้กำลังหงุดหงิดอยู่

        “แกคิดว่าคนอย่างฉันจะกระจอกขนาดนั้นหรือไง”

        “แล้วแกได้เขาหรือยังล่ะ” มันสวนกลับมา

        ผมเลยได้แต่นิ่ง

        “เห้ย เงียบนี่คือฉันพูดเรื่องจริงเหรอ แกยังไม่ได้แอมน้องยอร์ชอีกเหรอวะ” ไอ้เบนทำเสียงตกใจจนหน้าหมันไส้

        “เขาเรียกว่าให้เกีรยติเว้ย” ผมโกหกใครจะอยากให้มันรู้กันว่าผมทำให้ยอร์ชใจอ่อนด้วยไม่ได้ ทั้งๆที่ตลอดระยะเวลาที่มีชีวิตมาไม่เคยมีใครปฏิเสธเสน่ห์ของผมได้สักคน เน้นย้ำว่าไม่มี ยอร์ชเป็นคนแรกที่ทำให้ผมหัวหมุนเป็นเด็กน้อยริรักได้ขนาดนี้

        เหอะ ทุกวันนี้ผมเฉียดเข้าห้องเขาได้ที่ไหน ขู่ฟ่อๆเตรียมจะกัดท่าเดียว

        “พอๆ ฉันไม่ได้จะโทรไปหาเพื่อให้แกซักไซ้เรื่องคนของฉัน” ผมตัดบทก่อนที่จะออกนอกเรื่องไปมากกว่านี้

        “แล้วแกโทรหาฉันมีเรื่องอะไร ฉันยังไม่ได้ด่าแกเลยที่โทรมากวนเวลาพักผ่อนของฉัน”

        “เออน่า ฉันแค่อยากให้แกช่วยอะไรฉันหน่อย”

        “ช่วย? ว่ามาเลยเพื่อน” น้ำเสียงของเบนกะตือรือร้นเป็นอย่างมาก

        “ยอร์ชให้ฉันมาขายผักที่ตลาดนั้น เขาทิ้งฉันไว้กับแผงร้านและผักจำนวนหนึ่ง ถึงฉันจะเป็นนักธุรกิจ แต่แกเข้าใจใช่ไหมว่าฉันไม่เคยขายของแบบนี้มาก่อน”

        “อ่า ก็คงยากพอควร”

        “เออ เพราะฉะนั้นแกต้องช่วยฉัน”

        “ช่วยยังไง”

        นั่นไง ผมว่าแล้วว่าผมต้องคิดผิด

        “ฉันว่าฉันโทรหาไอ้ชาร์ลน่าจะดีกว่า” ผมเตรียมจะกดวางแต่เสียงร้องห้ามของเบนดังลอดมาตามสายเสียก่อน

        “เฮ้ยๆ เดี๋ยวดิวะเอเดน อย่าวางสายนะโว้ย”

        “เออ”

        “ก็ไม่ยากหรอก แกก็ใช้เสน่ห์ให้เป็นประโยชน์ คือร้านเปิดแผงคล้ายๆตามงานเฟสติวัลประจำปีใช่ไหม แต่ก็เอาผักมาวางบนแผง แล้วก็ทักทายคนที่เดินผ่านไปมา”

        “ต้องทักทายด้วยเหรอวะ” ผมรีบถามแทรก เพราะผมคิดภาพตัวเองกับสิ่งที่เบนบอกไม่ถูก ทักคนที่ไม่รู้จักเนี่ยนะ ให้ตายก็ไม่ทำหรอก ผมไม่เคยทำ

        “เออดิ ก็แบบ สวัสดีครับ สนใจผักสดๆไหมครับอะไรแบบเนี้ยอ่ะ”

        “ฉันพูดไทยไม่ได้เผื่อว่าแกจะลืม”

        “เออวะ” มันทำเสียงเหมือนตกใจ “ แต่ก็ภาษาอังกฤษก็ได้ พูดไปเถอะ นี่สมัยไหนแล้ว น่าจะมีคนฟังออกแหละ”

        “อืม” ผมได้แต่หวังว่าจะเป็นแบบที่ไอ้เบนว่า

        “อย่างต่อไปก็ อย่าทำหน้าโหด ฉันรู้นะเว้ยว่าแกไม่ชอบยิ้ม แต่ทำหน้าเฉยๆก็พอ ไม่งั้นลูกค้าไม่เข้าร้านแน่ๆ”

        “อืม แล้วไงต่อ” ผมถามโดยใช้น้ำเสียงที่ติดจะเร่ง เพราะเริ่มจะร้อน อากาศช่วงบ่ายของเมืองไทยนรกที่สุดเท่าที่เคยเจอมา ผมเป็นคนติดอากาศเย็น อากาศร้อนจัดเป็นของแสลง

        “ก็นั่นแหละ พอมีลูกค้ามาซื้อ แกก็พูดกับเขาเป็นภาษาอังกฤษ ทำไม้ทำมือก็ได้ ขายไปรับเงินทอนตัง เอาผักใส่ถุง ง่ายๆนะ แกทำได้” เบนพูดให้กำลังใจเหมือนผมเป็นเด็กตัวเล็กๆ

        ข้อดีของเบนอย่างหนึ่งที่ทำให้ผมคบมันเป็นเพื่อนก็คือ ต่อให้ปกติจะเป็นคนขี้เล่นที่กวนประสาทคล้ายจะพึ่งพาไม่ได้ แต่ถ้าถึงเวลาที่ผมต้องการการช่วยเหลือหรือคำแนะนำอย่างจริงจัง มันจะช่วยผมอย่างเต็มที่ ให้กำลังใจและหยุดที่จะล้อ ซึ่งทำให้ผมไม่รู้สึกแย่มากนักที่บางเรื่องอาจจะเป็นเรื่องง่ายของคนอื่นแต่ผมทำไม่ได้

        “ขอบใจ”

        “อืม โชคดีเผื่อ ได้ผลยังไงอย่าลืมรายงาน แล้วก็ขอให้เผด็จศึกน้องยอร์ชได้ในเร็ววัน อย่าลืม หยอดได้หยอดไป คิดถึงตอนที่แกจะได้กอดเขา แกก็จะทำได้เอง หวานเข้าไว้รับรองว่ารายไหนก็ไม่รอด สู้ๆ” เบนร่ายยาวทิ้งท้ายก่อนจะรีบวางสายเพราะบอกว่าง่วงนอน

        ก็อย่างที่อีกฝ่ายพูดนั่นแหละ คนอย่างผมหวานได้อ้อล้อเป็นก็เพราะไอ้เบนที่แหละที่เป็นครูสอนให้ผม ไม่อย่างนั้นทุกวันนี้ผมอาจจะไม่ได้จูบจากยอร์ชเลยสักจูบก็ได้ ตอนแรกที่มันแนะนำผมก็ค้านหัวชนฝา แต่พอลองเข้าจริงผลลัพธ์มันดีกว่าที่คิด ทีนี้ผมก็เลยกลายเป็นคนหน้าด้านไม่ลังเลที่จะทำตัวในแบบฉบับที่เรียกได้ว่าไม่ใช่ตัวของตัวเอง

        ผมยืนทำตัวไม่ถูกอยู่สักพัก ก็มีผู้หญิงสองคนเดินมายืนหน้าร้าน พวกเธอมองผมก่อนจะยิ้มเขินอาย ผมเข้าใจความหมายของอาการเหล่านั้น เธอสอบถามเรื่องผักและซื้อกันไปคนละเล็กน้อย จากนั้นก็ขอถ่ายรูปกับผม ทีแรกผมคิดจะปฏิเสธเพราะผมไม่ค่อยชอบอะไรแบบนี้ แต่สุดท้ายผมก็ยอมให้เธอถ่ายรูปแบบหน้านิ่ง อย่างน้อยพวกเธอก็ยังมาช่วยผมซื้อผัก

        ผ่านไปสักพักผมก็เริ่มจับจุดได้ โอเค มันไม่ได้เลวร้ายเสียทีเดียวหากไม่นับอากาศร้อนๆและความไม่คุ้นเคยที่จะต้องให้บริการใครในฐานะคนขาย เพราะเมื่อก่อนที่ผมดำรงตำแหน่งเจ้าของร้านไวน์ในฐานะมนุษย์คนหนึ่งผมก็แค่ชี้นิ้วสั่งเท่านั้น ไม่เคยต้องออกมารองรับลูกค้าหรือให้บริการด้วยตัวเอง หรือแม้แต่ช่วงเวลาที่ผมเป็นนากินีตัวตนที่แท้จริงของผม ผมก็เป็นหัวหน้าที่มีลูกน้องนับพันตนที่คอยจะรับคำสั่งผมตามแต่ที่ผมต้องการ ผมอยู่กับอำนาจมาจนเคย พอตองมาเป็นเบี้ยตัวเล็กไร้อำนาจก็ทำให้เซอยู่บ้าง แต่คนที่สอนให้ผมยอมรับได้ก็คือคนเดียวที่ผมยอมรับให้เข้ามาอยู่ในใจ

        ผักที่ผมนำมาขายพร่องไปกว่าครึ่งก็รู้สึกหิว เห็นรถขายเบอร์เกอร์ตั้งร้านขายอยู่ใกล้ๆกันผมก็เลยไปซื้อเบอร์เกอร์มากิน รสชาติไม่เลว ผมยกหลังมือซับเหงื่อ ทานจนหมดก็อยากเข้าห้องน้ำ และไม่สามารถทนกลั้นเอาไว้ได้ ผมจึงต้องฝากเจ้าของร้านข้างๆดูร้านให้แล้วรีบไปเข้าห้องน้ำ แต่หลังจากที่ทำธุระเสร็จกำลังจะเดินกลับไปที่ร้าน ผมเจอชายคนหนึ่งที่จัดอยู่ในประเภทโฮมเลส ผมเจอคนไร้บ้านไร้ครอบครัวมาเยอะมากกว่าหมื่นกว่าแสนคน แต่ไม่เคยมีครั้งไหนที่ผมจะรู้สึกเหมือนครั้งนี้

        ผมไม่เคยนอนข้างถนน ผมนอนพักในบ้านตัวเองตลอด หรือถ้าจะพักที่อื่นก็ต้องที่ดีๆที่สะดวกสบาย ได้อาบน้ำทุกครั้งที่รู้สึกไม่สบายตัว ต่างจากชายคนนี้ที่เนื้อตัวดำจากเศษดินเศษฝุ่น เสื้อผ้าสกปรกยิ่งกว่าผ้าขี้ริ้วเสียอีก ถ้าเป็นผมคงทนไม่ได้ แต่กับคนที่ไม่มีเงิน หากจะเอาเงินไปซื้อเสื้อผ้าเอาไปซื้อข้าวกินไม่ดีกว่าเหรอ รูปร่างของชายคนนี้ผอมซูบเกินกว่าที่จะได้กินอาหารครบทุกมื้อ ทำให้ผมนึกถึงเมื่อสักครู่ที่ผมเพิ่งจะกินเบอร์เกอร์เข้าไปจนอิ่ม แค่นิดเดียวผมยังทนไม่ไหว ถ้าหากผมต้องอดมื้อกินมื้อมันจะเป็นอย่างไร คงทรมานมาก

        ผมหยุดยืนมองนิ่ง มองทุกการกระทำของชายผู้นั้นที่ยกมือไหว้ทุกคนที่เดินผ่าน บางคนเดินหนีบางคนหยิบยื่นเศษเงินให้ สิ่งเดียวที่ผมคิดในตอนนี้คือ ถ้ายอร์ชมาเห็นผู้ชายคนนี้ยอร์ชจะทำอย่างไร เพราะตัวผมเองผมไม่รู้หรอกว่าควรทำอย่างไรดี

        และน่าอัศจรรย์ใจที่เมื่อผมนึกถึงยอร์ช ผมกลับเดาได้ว่าเขาจะต้องเข้าไปช่วยเหลือผู้ชายคนนี้อย่างแน่นอน คนจิตใจดีอย่างยอร์ช ต่อให้รู้ว่าคนที่กำลังเดือดร้อนทุกข์ยากจะเป็นพวกหลอกลวง แต่เขาก็ยินดีที่จะช่วยเหลือโดยที่ไม่หวังผมตอบแทน

        ขาของผมก้าวเข้าใกล้ชายคนนั้นโดยอัตโนมัติ ผมไม่ต้องคิดอะไร ลวงเงินที่ขายผักได้จำนวนหนึ่งให้กับเขา อย่างน้อยเงินจำนวนนี้ที่ไม่มีค่ากับผมเลยแม้แต่นิดอาจจะทำให้เขามีข้าวอีกได้สักสามสี่มื้อ

        แบบนี้หรือเปล่าที่ยอร์ชเคยบอกไว้...แบ่งปัน

        ผมไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองหลุดยิ้มตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่จะโอเวอร์เกินไปหรือเปล่าถ้าผมจะบอกว่าผมกำลังมีความสุข ผมคิดว่าผมได้ทำความดีแล้ว และถ้ายอร์ชรู้เขาจะรู้สึกภาคภูมิใจในตัวผมบ้างไหม

        ผมแค่อยากให้เขามองผมในแง่ดีบ้าง

        เกินคาด เมื่อเขารู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้

        ‘ถ้างั้นตอนนี้เราเป็นคนพิเศษที่ดูใจกันอยู่นะ โอเคไหม’

        ไม่มีอะไรที่ผมจะรู้สึกดีใจไปมากกว่านี้อีกแล้ว แต่ถ้าถามใจจริงผมก็อยากที่จะข้ามขั้นตอนไปเลย อยากทำให้ยอร์ชเป็นของผมแบบเต็มตัวซะ แต่ดูเหมือนว่ายอร์ชจะมีอะไรบางอย่างที่ปิดกั้นอยู่

        ถ้าเป็นผมคนเดิมคงไม่ต้องมานั่งใส่ใจความรู้สึกของอีกคนมากเท่านี้ แต่เขาทำให้ผมเปลี่ยนไปจนมองข้ามเรื่องเล็กน้อยที่เกี่ยวกับเขาไปไม่ได้

        หลังจากวันนั้นผมไม่ได้เป็นคนปลูกผักอีกต่อไป ผมเข้าไปทำงานในโรงบ่มไวน์แทน ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมถนัดมากที่สุด ผมมีความรู้ทางด้านพวกนี้ และผมถนัดงานที่ต้องใช้หัวคิดในการวางแผนมากกว่างานออกแรงด้านนอก แทบไม่ต้องใช้ความพยายามอะไรมากก็ทำให้ยอร์ชมองเห็นความสามารถในตัวผมที่มีมากกว่าตัวเขาเอง พักหลังมานี้ยอร์ชจะเรียกผมไปปรึกษางานบ่อยมาก

        อย่างในคืนนี้ที่ยอร์ชมาคุยงานขยับขยายโรงบ่มไวน์ที่ผมเสนอไปที่ห้องของผม เผลอแปบเดียวเขามาหลับคาโต๊ะทำงานในห้องผมเสียได้

        และแน่นอนผมไม่ใช่ผู้ชายที่ดี เรื่องคิดจะฉวยโอกาสมีอยู่เต็มหัวสมอง และในเมื่อเหยื่อมานอนหลับตาพริ้มให้เชยชิมอยู่ตรงหน้าขนาดนี้คิดว่าผมจะโง่ปล่อยเขากลับไปนอนที่ห้องอย่างนั้นเหรอ ไม่มีทาง

        ในเมื่อผมเข้าไปนอนที่ห้องเขาไม่ได้ ก็ให้เขานอนกับผมที่ห้องของผมก็สิ้นเรื่อง

        “กล้าหลับในห้องผมนี่ผมจะคิดว่าคุณเองก็ยิมยอมพร้อมใจนะยอร์ช” ผมกระซิบเบาก่อนจะอุ้มยอร์ชขึ้นไปนอนบนเตียง

        ผมยืนร่างโปร่งที่นอนหายใจสม่ำเสมอจากปลายเตียง กำลังคิดว่าเขาไว้ใจผมมากขนาดที่หลับสนิทแบบไม่รู้ตัวเลยเหรอ ผมถอดเสื้อยืดออกจากตัวเหลือเพียงกางเกงขายาว เพราะเป็นคนขี้ร้อนผมเลยไม่เคยใส่เสื้อนอนเลยสักครั้ง และกับอากาศเมืองไทย บางครั้งผมก็เปิดแอร์เย็นช่ำแล้วเปลือยกายนอนก็มี

        พอผมขยับตัวขึ้นเตียงคล่อมร่างยอร์ชเอาไว้ เขาขยับตัวเล็กน้อยแต่ยังคงหวงช่วงเวลาหลับใหลไม่ยอมตื่นขึ้นมาระวังตัวเอง วันนี้เขาวิ่งวุ่นทั้งวัน ทั้งไปส่งของด้วยตัวเองถึงสามที่ ก่อนจะไปตรวจเช็คตลาดในตัวเมืองและจังหวัดข้างเคียง กลับมาถึงไร่ก็ตอนเย็น แทนที่จะหยุดพักก็ไปช่วยคนงานคัดแยกองุ่นด้วยตัวเอง จากนั้นก็ลากผมไปคุยเรื่องงานในออฟฟิต กว่าจะกลับเข้าบ้านได้ก็ตอนที่คุณศิลาพ่อของยอร์ชออกมาตามไม่อย่างนั้นก็ทำงานไม่เลิก

        สุดท้ายแทนที่จะพักก็มาคุยเรื่องแผนงานใหม่กับผมที่ห้องอีก  อดทนไหวก็อึดเกินมนุษย์ปกติจะทำได้

        ชอบทำอะไรเกินตัว และมากกว่านั้นคือชอบทำให้ผมเป็นห่วง

        ใบหน้าของยอร์ชก็เหมือยผู้ชายปกติธรรมดาทั่วไปที่ดูจะแตกต่างคือจิตใจของเขาที่เอาชนะผมได้ แก้มใสที่ไม่ขาวมากเพราะทำงานตากแดดแทบทุกวัน แต่ถึงอย่างนั้นกลับไม่มีฝ้ากระหรือขี้แมลงวันกวนใจสักนิด กลิ่นหอมอ่อนๆที่โฉยออกมาจากเรือนร่างที่นอนนิ่ง ยิ่งก้มลงไปใกล้ยิ่งได้กลิ่น

        จุ๊บ

        “หอม” ผมพูดอย่างล่องลอย ไล้จมูกเกลี่ยแก้มใสทั่วใบหน้าทั้งซ้ายและขวา อดใจไม่ไหวกดจูบลงไปเน้นๆ และลงน้ำหนักแรงกดหนักขึ้นเรื่อยๆ

        “หมันเขี้ยว” ผมกัดแก้มยอร์ชแรงๆ แต่เขามีแก้มไม่เยอะเท่าไหร่ไม่เหมือนน้องชายเขา เจ้าตัวสะดุ้งและทำท่าจะปรือตาตื่นผมเลยใช้โอกาสนี้จูบลงบนริมฝีปากยอร์ชและเพิ่มจังหวะที่หนักหน่วงไม่ให้เขาได้ทันตั้งตัว

        ยอร์ชได้แค่ครางในลำคอ เขาดูสับสนงุนงงว่านี่คือความฝันหรือความจริง ผมลูบหลังกล่อมยอร์ชไปในตัว จากที่แสดงอาการขัดขืนก็ผ่อนคลายจนกลายเป็นโอนอ่อนตาม

        ริมฝีปากขยับกลืนกินความอ่อนนุ่ม ดูดดึงขบเม้มอย่างไม่รูจักเบื่อ กลีบปากของยอร์ชคล้ายผลไม้เชื่อมรสหวาน ยิ่งได้ส่งลิ้นเข้าไปทักทายถึงภายในยิ่งมีแต่จะถลำลึกกับรสชาติที่ได้สัมผัส

        เกิดเสียงจ๊วบจ๊าบสยิวหู ผมจูบจนอีกฝ่ายเกือบจะหายใจไม่ออก เลยต้องให้เขาได้พักหายใจ เปลี่ยนไปซุกไซ้ที่ซอกคอแทน ไล้เลีย ขบกัด และสร้างคิสมาร์ค ผมหวงทุกอย่างที่อยู่บนร่างกายนี้ คนๆนี้เป็นของผม มีแค่ผมคนเดียวที่สัมผัสเขาได้ และบนร่างของเขาจะต้องมีเพียงกลิ่นของผมเท่านั้นที่แสดงความเป็นเจ้าของ

        “อย่า ออกไป” เสียงของยอร์ชดังขัดการกระทำ แต่ผมก็ไม่ได้หยุด เลื่อนลงต่ำเลิกเสื้อยืดเนื้อบางขึ้นแล้วระดมจูบทั่วหน้าท่องที่มีกล้ามเนื้อร่ำไรอย่างคนออกกำลังกายเป็นประจำ

        “จะนอน!” ยอร์ชโวยวายเสียงเบาอีกครั้ง ผมเงยหน้าขึ้นดู เขายังไม่ตื่นดีแต่คงจะรำคาญที่ผมกวน

        “งอแง” ผมว่ายิ้มๆ ยกตัวขึ้นจูบยอร์ชอีกครั้งให้หนำใจ และคราวนี้ยอร์ชรู้สึกตัวตื่น เขาปรือตามองแบบงงๆ ผมเลยดึงร่างโปร่งเข้ามากอดไว้แน่นให้ใบหน้าของเขาแนบอยู่ที่อก

        หัวใจของผมเต้นแรง หวังว่ายอร์ชจะได้ยินว่าผมรู้สึกดีที่ได้นอนกอดเขาบนเตียงเดียวกัน

        “เอเดน” เขาเรียกชื่อผมเสียงง่วงงุน

        “นอนเถอะ คุณต้องพักผ่อน” ผมบอกทั้งๆที่เป็นคนก่อกวนการพักผ่อนของยอร์ชจนตื่น

        “ผม...จะกลับไปนอนที่ห้อง” ดูท่าว่ายอร์ชจะเริ่มได้สติ เพราะเขาเริ่มทำตัวเป็นสาวเวอร์จิ้นที่ไม่ยอมนอนห้องเดียวกันผู้ชายอย่างผม แต่จะว่าไปยอร์ชก็น่าจะเวอร์จิ้นอยู่ในฐานะของการเป็นภรรยา

        พอเขาเริ่มดิ้นและทำท่าจะลุกขึ้น ผมก็ออกแรงกอดเขาแน่นไม่ให้เขาขยับตัว แน่นอนว่ายอร์ชสู้แรงผมไม่ได้อยู่แล้ว

        “นอนที่นี่แหละ นอนกับผม” ผมพูดเสียงอ่อนให้ยอร์ชทำตามความต้องการ

        “แต่...”

        “นะ”

        “...”

        “นอนกับผมนะยอร์ช”

        “อืม”

        ยอร์ชผ่อนอาการเกร็ง ยอมนอนอยู่ในอ้อมกอดของผมโดยไม่ขัดขืน ผมหลุดยิ้มท่ามกลางความมืด ยอร์ชบ่นเล็กน้อยว่าอึดอัดที่ผมกอดแน่น ผมเลยยอมปล่อยช่องว่างให้เขาได้หายใจแต่ยังคงกอดเข้าไว้อยู่ และเมื่อยอร์ชหลับสนิทอีกครั้ง ผมถึงทำเพียงแค่โอบกอดเบาๆ จูบซับที่ขยับเอื้อนเอ่ยขอให้เขานอนหลับฝันดี

        ไม่กี่ชั่วโมงต่อมาผมได้รับโทรศัพท์ด่วนจากชาร์ล ให้ผมรีบบินกลับนิวยอร์กไปจัดการด้วยตัวเองเป็นการด่วน ปัญหาที่เกิดขึ้นก็คือ มีคนไปกระจายข่าวเรื่องความไม่น่าเชื่อถือในตัวผม เนื่องจากภาพที่ผมไปขายผักที่ตลาดหรือภาพที่ผมไปเดินซื้อของในเมืองถูกส่งต่อไปยังกลุ่มนากินีในอเมริกา ทำให้พวกนั้นเห็นว่าผมกลายเป็นเบี้ยล่างมนุษย์อย่างยอร์ช จึงนึกจะก่อกบฏขึ้น

        ผมไม่ใช่คนใจดี และไม่เคยใจดี การที่พวกมันเห็นว่าผมอ่อนให้ยอร์ชเลยคิดว่าจะโค่นผมได้ง่ายๆ บอกเลยว่าพวกนั้นคิดผิด

        “ยอร์ช” ผมเรียกคนที่นอนหลับเสียงเบา ช่างใจว่าจะปลุกเขาดีไหม แต่นี่ถึงเวลาที่ผมจะต้องรีบไปสนามบิน

        แต่ยอร์ชนอนนิ่งไม่ได้ยิน ผมไม่มีเวลาแล้วเลยตัดสินใจปล่อยให้เขานอนไป แต่เขียนข้อความวางไว้บนโต๊ะหัวเตียงแทน และอีกสิ่งหนึ่งที่ไม่ลืมจะทำก็คือประทับจูบเพื่อขอกำลังใจ

        ทุกอย่างระหว่างผมกับยอร์ชกำลังไปด้วยกันได้ดี แต่พวกลูกน้องชั่วมาทำเป็นมารขวางทางรัก ผมจะเอาชีวิตพวกมันมาสังเวยให้กับเวลาที่ผมจะต้องเสียไป

        “ผมจะรีบกลับมาหาคุณนะยอร์ช ผมสัญญา”

        ผมจูบแก้มนิ่มอีกรอบ ตัดใจออกจากบ้านขับรถตรงไปยังสนามบินเชียงใหม่ เพราะมัวแต่อ้อยอิ่งอยู่กับยอร์ชจนเกือบจะมาเช็คอินไม่ทัน ในเวลาเร่งรีบแบบนี้ถ้าไม่ได้อำนาจเม็ดเงินก็คงไม่สามารถหาตั๋วได้ในเวลาฉิวเฉียด

        ตลอดการเดินทางกลับประเทศบ้านเกิดผมเอาแต่คิดถึงคนที่อยู่เมืองไทย ป่านนี้คงจะตื่นขึ้นมาเป็นสุขแล้วละมั้งเพราะไม่มีผมอยู่กวนประสาทเขา แต่ทางที่ดี ผมอยากให้ยอร์ชคิดถึงผมมากกว่า

        ปัญหาที่นิวยอร์กไม่ระคายสมองผมแม้เพียงนิด ทันทีที่เครื่องลงจอดบนพื้นสนามบิน ผมก็ต่อสายหาชาร์ลให้เตรียมการให้พร้อม คนขับรถประจำตัวผมมาจอดรอรับถึงที่ ถึงแม้ผมจะประกาศต่อหน้าพ่อไปแล้วว่าผมจะไม่กลับไปที่คฤหาสถ์อีก แต่พ่อก็ยังคอยให้คนของท่านตามดูแลผมอยู่ไม่ห่าง ผมไม่ปฏิเสธและไม่ได้แสดงว่าเต็มใจรับ พ่ออยากทำอะไรก็ทำ ผมจะรับหรือไม่ก็เรื่องของผม

        ผมกลับมาถึงที่พัก ไอ้ชาร์ลและเบนนั่งรอในห้องนั่งเล่น สีหน้ามันดูเรียบเฉยไม่เครียดแม้แต่นิดเช่นเดียวกับผม

        “เป็นไงบ้าง”ผมถามถึงสถานการณ์ทันที เตรียมพร้อมที่จะสะสางปัญหา ริมฝีปากผมยกยิ้ม ชาร์ลและเบนมองหน้ากันก่อนจะฉีกยิ้มหัวเราะร่า

        “แกดูไม่กังวลเลยนะ” ชาร์ลว่า

        “ฉันกำลังสนุกต่างหาก ไม่ได้ยืดเส้นยืดสายตั้งนาน มีเรื่องสนุกก็ต้องรู้สึกดีสิ หรือพวกแกกลัว”

        “ไม่เลยสักนิด” ชาร์ชตอบยิ้มๆ

        ผมนั่งลงที่โซฟาเดียว ยกขาขึ้นไขวห่างอย่างสบายอารมณ์ ปล่อยให้ชาร์ลรายงานข่าวคราวพวกที่อยู่ข้างนอก

        “พวกนั้นเห็นว่าแกที่ไม่เคยมีจุดอ่อนกลับมีช่องโหว่ขึ้น เป็นเรื่องธรรมดาที่อยากจะแสดงอำนาจ อย่าจะโค่นพวกเราเพื่อขึ้นมาอยู่เหนือกว่า ต้องทำใจวะ อยู่ในที่สูงย่อมมีคนหวังร้ายเป็นเรื่องธรรมดา”

        ผมพยักหน้าเข้าใจ “พวกที่คิดจะลองดีมีอยู่เท่าไหร่”

        “ไม่น้อย ส่วนมากเป็นพวกเกิดใหม่ที่เหิมเกริมในพลังที่เพิ่งจะมี เพราะมีนากินีบางพวกไปเป่าหูลากพวกมันเข้าพวก บอกว่าอยู่ภายใต้พวกเรามีแต่จะเป็นขี้ข้าไม่มีบทบาทในสังคมบ้าบออะไรของมันนั่นแหละ” เบนพูดติดจะหงุดหงิดเล็กน้อย

        “ไม่เป็นไร ปล่อยให้มันเพ้อฝันไป เพราะเดี๋ยวพวกมันจะได้รู้ว่าคิดจะท้าทายอำนาจของฉันจุดจบจะเป็นอย่างไร” ผมแสยะยิ้มร้าย

        “ตอนนี้ฉันรวบรวมพวกเราไว้แล้ว มีน้อยกว่าพวกกบฏอยู่เกือบเท่า แต่ฝีมือไม่กระจอกแน่นอน” ชาร์ลรายงาน

        “ดี บอกให้พวกนั้นเตรียมตัวให้พร้อม คืนนี้เราจะออกไปอบรมเด็กน้อยที่กล้ามาปีกกล้าขาแข็ง”

        “เราจะจัดการมันที่ไหนดี” เบนถาม

        “ให้คนกระจายข่าวออกไปว่าเราจะไปเจอกันที่ป่าทางใต้ ใครที่ต้องการเด็ดหัวฉันให้มันมา ฉันจะรอให้มันไปขย้ำถึงที่ ใครที่คิดว่าตัวแน่ให้มันมา!”

        ผมรู้สึกกระปรี้กระเปร่ายิ่งกว่าครั้งไหน อยู่เมืองไทยก็อยู่แต่ในร่างของมนุษย์ จะกลายร่างคืนสู่ร่างนากินีก็ลำบาก แต่ครั้งนี้ไม่ใช่แค่จะได้คืนร่างแต่ผมจะได้ออกกำลังด้วย ช่างรู้สึกดีจริงๆ



        ............................
        เอเดนเหมือนเด็กหนีเที่ยวไหม ดูร่าเริงน่าดู
        ความจริงตอนนี้จะเป็นตอนที่เอเดนแสดงบทโหด แต่งเสร็จแล้ว และเตรียมลงตามที่บอกไว้ทางเพจ แต่มาแงะพล็อตดู ชิหาย พล็อตแหว่ง เลยต้องนั่งแต่ใหม่ สุดทายเลยยืดมาตอนนี้ แต่วันนี้เรามาพิเศษนะยูววว เราลงพี่เสือพร้อมกันเลย หากใครที่ตามอ่านอยู่ก็แวะไปอ่านด้วยนะคะ
        หนังสือยังเปิดให้จองให้โอนอยู่นะคะ ใครสนใจห้ามพลาด ตอนพิเศษจุใจมากจริงๆ แต่งให้ถึงสองเล่มหนาๆ
        อ่านแล้วเม้นให้กำลังใจกันหน่อยนะคะ  :katai2-1:
        รัก :L1:

ออฟไลน์ dragon123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 744
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
ไปแล้วไปลับไม่ต้องกลับไทยเลยนะ!!  :fire: :angry2:

#ทีมน้องโยชิ  :กอด1:

ออฟไลน์ mypink801

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1580
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
เอเดนน่ารักตอนบอกว่ายอร์ชงอแง  :o8: :o8:
ไปไม่บอกเจ้าตัวเป็นๆแบบนี้โดนงอนแน่เอเดนนน

ออฟไลน์ k_keenny

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1
คิดถึงมากๆเยยยยยยย เอเดนน่ารักกว่าเดิมเยอะ

ออฟไลน์ neno.jann

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 456
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
เอเดนหนีเที่ยว กลับไทยมาโดนยอร์ชดึงหูยานแน่  :katai3: เก็บเงินโอนค่าหนังสือก่อน ฮรือออ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
อู๊ยยยยยย อดทนได้ดีมากเอเดน อดเปรี้ยวไว้กินหวานนะ
ว่าแต่หนีเที่ยวแบบนี้ พี่ยอร์ชตื่นมาจะเจอโน๊ตข้างๆรึเปล่าน้อ
รอตอนต่อไปน้าาาา

ออฟไลน์ maminmeaw

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 205
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
อุ้ยๆๆๆรอลุ้นๆๆๆตอนต่อไปจ้า

ออฟไลน์ bobie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2182
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +269/-7
เอเดนหนีเที่ยวก็พอนะ
อย่าไปทำอะไรไม่ดีๆให้พี่ยอร์ชโกรธอีกนะ
ถ้าโกรธอีกนี่ความหวังริบหรี่เลยนะ

ออฟไลน์ karashi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 428
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
    • นิยาย นิยายแจ่มใส นิยายมือสอง
เอเดนจะโดนยอร์ชโกรธมั้ย 555

ออฟไลน์ N-T

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 113
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

ออฟไลน์ Praykanok

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 234
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
อ่านรวดเดียวตั้งแต่แรกเลยยยย กรี๊ดดดด สนุกมากค่าาาาา
น่ารักทั้งอาซาทั้งโยชิ ชอบมากๆค่ะะะ
ส่วนเอเดนนี่...ได้บู้ซักทีหลังจากไปทำตัวเป็นงูเชื่องซะนาน หวังว่ายอร์ชจะไม่โกรธนะ 555
รอค่าาาาๆๆๆ

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ rayaiji

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 817
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
    • ray's deviantart
เด็กน้อยงอแงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง

ออฟไลน์ Persoulle

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
หมั่นไส้เอเดนอ่ะ อย่าเพิ่งรับรักนะพี่ยอช

ออฟไลน์ BeauBeeiiz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 420
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-1
พอยอร์ชตื่นขึ้นา. ยอร์ชจะกับวลใจนิดนึง แต่ที่แอบห่วงคือ

พวกกบฎจะวกกลับมาทำร้ายยอร์ชนี่สิ โอยยย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ indyska

  • •ความสุขที่เsาสร้างเอv• - monblurx -
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 150
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
ริริ ... ขออีกๆ ๆ ๆ ๆ อยากให้เอเดนบู๊มานานละ 5555555 บับว่า"ยอมแค่เมียคนเดียวนะ"  :man1:

ออฟไลน์ ♥♥ดอกช่อบานสะพรั่ง♥♥

  • เหรียญยังมีสองด้าน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 279
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-2

ออฟไลน์ Monkey D lufy

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +245/-4

ออฟไลน์ nightsza

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-1

ออฟไลน์ PRINCESSPRIME

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 51
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ขอบคุณค่าาา
 :pig4:

นอนรอคุณริริ  :katai5:

ปล. สวัสดีปีใหม่นะคะ

ออฟไลน์ RiRi

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 568
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +595/-8
    • RiRiWorld
SPECIAL
R.E.V.E.N.G.E

TWELVE








      ADEN

      ผมกดต่อสายหายอร์ชทันทีที่เข้ามาในห้องพักเพื่อรอเวลาออกไปสะสางปัญหา สายแรกเขาไม่รับ ผมเหลือมองนาฬิกาที่บ่งชี้เวลาเที่ยงวัน ที่ไทยตอนนี้ก็คงจะเที่ยงคืน

      คงจะหลับแล้ว แต่ถึงจะรู้อย่างนั้นแต่ผมก็ไม่หยุดโทรไปกวนคนที่น่าจะกำลังนอนหลับสบาย เพราะว่าผมน่ะคิดถึงยอร์ชมากเหลือเกิน

      “ฮัลโหล” และเขาก็รับสาย แต่น้ำเสียงห้วนไปหน่อยนะ ผมกระตุกยิ้ม คิดว่าผมรู้ว่าเขาจะทำหน้ายังไง

      “หลับแล้วเหรอ” คำถามโง่ๆ แต่เพราะอยากกวนอีกฝ่ายให้อารมณ์เสียเล่น

      ยอร์ชเงียบไป ได้ยินเสียงสวบสาบจากผ้าห่มและการขยับตัว

      “โทรมาทำไม” เสียงนี่ห้วนมาเชียว

      “ผมคิดถึง” ปากเอ่ยพูดโดยที่ผมเองไม่ทันได้รู้ตัว ผมและยอร์ชปล่อยใหความเงียบกลืนกินเรา เป็นความเงียบที่ไม่ได้อึดอัด แต่ปล่อยให้เราสองคนซึมซับความหมายของการคิดถึง

      จวบจนกระทั่งยอร์ชถามคำถามทำลายความเงียบ

      “คุณไปทำอะไรที่นิวยอร์ก”

      ผมทิ้งตัวนอนลงบนเตียง มือข้างหนึ่งรองหนุนหัว อีกข้างถือโทรศัพท์แนบหูแน่น “มาทำธุระนิดหน่อย”

      “ธุระอะไรถึงรีบไปขนาดนั้น ไม่คิดจะบอกกันสักคำ” น้ำเสียงงัวเงียเต็มไปด้วยความสงสัย คงยังไม่รู้ตัวว่าถามอะไรออกมา ยอร์ชในภาคปกติจะไม่ค่อยถามเซ้าซี้

      ผมใช้เวลาคิดอยู่ไม่กี่วินาทีว่าควรบอกยอร์ชดีไหม แต่สุดท้ายผมก็เลือกที่จะพูดความจริง แต่อาจจะไม่ทั้งหมดโดยเฉพาะตนเหตุที่ทำให้เกิดความวุ่นวายขึ้น สำหรับผม ผมไม่คิดว่าเป็นเพราะยอร์ช แต่ถ้าให้เล่าทั้งหมด ยอร์ชจะต้องคิดว่าเป็นเพราะเขาอยู่ด้วยกันมาสักระยะหนึ่งทำไมผมจะไม่รู้ว่ายอรชเป็นคนอย่างไร

      ว่ากันตามความจริง คนอย่างยอร์ชดีเกินจะคู่กับผม

      และ

      ผมก็เลวมากพอที่จะไม่ปล่อยคนดีๆอย่างยอร์ชไปเจอคนที่ดีกว่าผม

      ซึ่งผมไม่แคร์เลยสักนิด

      ผมเต็มใจที่จะเป็นคนเลว และเลวได้มากกว่านี้หากมันทำให้ยอร์ชอยู่กับผม

      “ลูกน้องผมที่นี่ก่อกบฏนิดหน่อย ก็อย่างว่าพอผมไม่อยู่ก็คิดจะก่อกวนท้าทายอำนาจ ผมเลยต้องจัดการ ไม่โกรธผมใช่ไหมที่ไม่ได้บอกคุณ ผมไม่อยากปลุกไม่อยากกวนคุณตอนนอน”

      “แล้วทำไมตอนนี้โทรมากวนผมตอนดึกดื่นได้” ยอร์ชกระชากเสียงเล็กน้อย

      “หึหึ งอนผมเหรอ”

      “ผมเนี่ยนะ ฝันหรือไง”

      “ไม่ฝันได้ไหมละ คุณจะงอนก็ได้ แล้วผมจะกลับไปง้อทีเดียว” เดี๋ยวนี้ผมง้อเขาบ่อยจนเริ่มจะชินกับตัวเองในภาคไม่ปกติ

      “จะกลับมาได้เหรอ เดี๋ยวก็มีปัญหาอีก”

      “ทำไม ไม่อยากให้ผมกลับไปเหรอ” ผมย้อนถามกลับจริงจัง

      “มันก็แล้วแต่คุณไม่ใช่เหรอไง ผมห้ามแล้วคุณจะฟัง?”

      “ไม่”

      “หึ ไม่อยากให้ผมเกเรก็กลับมาคุมเองสิ”

      ผมเลิกคิ้วคิดตามที่ยอร์ชพูด “อ่อยผมเหรอ”

      “ผมจำเป็นต้องทำอย่างนั้นเหรอ” ฟังเสียงกวนๆของเขาแล้วมั่นเขี้ยว อยู่ใกล้มือคงได้มีจับมาจูบบ้างละ

      “ผมจัดการปัญหาแค่วันสองวันเท่านั้นแหละ ไม่นานหรอก” เพราะผมไม่มีทางจะให้มันนานไปกว่านั้น

      “คุณจะ...” ยอร์ชคล้ายจะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็ไม่ยอมพูด

      “อะไร” ผมถาม ผ่อนเสียงให้อ่อนโยนนิดหนึ่ง

      “คุณจะไม่ทำอะไรรุนแรงใช่ไหม”

      ผมแทบหลุดหัวเราะ แต่ก็พยายามกลั้นขำเอาไว้ เพราะสำหรับยอร์ช สิ่งที่ผมจะทำคงไม่น่าขำ และสิ่งที่ผมเคยทำคงติดฝังอยู่ในใจไม่น้อย มาคิดอีกทีก็ไม่น่าขำสักเท่าไหร่ ผมรู้ว่าสิ่งที่ผมเคยทำยอร์ชคงไม่มีวันลืม และผมก็ไม่ขอใหเขาลืม แค่เขาเปิดใจให้ก็ดีแล้ว นั่นคือความคิดแบบพระเอกนะ แต่พอดีผมไม่ใช่

      “ผมไม่สัญญาหรอกนะว่าจะไม่มีนากินีตัวไหนตาย แต่ผมจะพยายามยั้งมือไว้ให้มากที่สุด เพราะกับนากินีบางตัวมันก็ยั่วโมโหจนน่ากำจัดทิ้งจริงๆ”

      “ผมไม่อยากให้คุณทำร้ายใคร”

      “แล้วคุณจะให้มันทำร้ายผมอย่างนั้นเหรอ” ผมถามเพราะความอยากรู้จริงๆ ไม่ใช่เพราะไม่พอใจ

      “ไม่ใช่!”

      “แล้วยังไง”

      “เฮ้อ ช่างเถอะ เรื่องของคุณนี่ ไม่ใช่เรื่องของผม อยากทำอะไรก็ทำเถอะ แต่บอกไว้ก่อนเลยว่า ถ้าจะทำตัวไม่ดีละก็ อย่าให้ผมรู้ ไม่งั้นคุณเตรียมตัวเก็บข้าวของออกจากบ้านได้เลย”

      “หึหึ” ผมอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ เพิ่งรู้ตัวว่าผมชอบฟังยามที่อีกฝ่ายมีอารมณ์ฉุนเฉียว ยิ่งถ้าเป็นกับผมแล้วยิ่งชอบใหญ่

      “เป็นห่วงผมเหรอ ความจริงคือเป็นห่วงผมใช่ไหม”

      “...”

      “เอาเป็นว่าผมสัญญาก็แล้วกันว่าจะพยายามใจเย็นที่สุด และคุณก็ต้องสัญญากับผมด้วยว่าจะเป็นเด็กดี”

      “เด็กดีอะไรของคุณ”

      “ห้ามอ่อย ห้ามให้ใครมาก้อล้อเกาะแกะ ห้ามมีกิ๊ก โอเคไหมครับ”

      “เหอะ ไม่รู้สิ ถ้าเขาน่าสนใจผมอาจจะพิจารณา อย่าลืมนะว่าคุณยังไม่ได้เป็นแฟนผม”

      “นี่...”

      แล้วสายก็ตัดไป ผมเอาโทรศัพท์ออกห่างจากหูมาดู ยอร์ชตัดสายผมทิ้ง แล้วไอ้ประโยคก่อนจะวางสายนี่คืออะไร แล้วอาการว้าวุ่นในอกเหมือนไฟสุมทรวงนี่อีก สรุปแลวเขาอยากให้ผมฆ่าคนหรือไม่ฆ่าคนกันแน่ มาทิ้งระเบิดไว้แล้วก็จากไป

      “รอผมกลับไปก่อนเถอะ คุณโดนหนักแน่ยอร์ช”






      ผมและพวกพ้องมาถึงที่หมายก่อนเวลานัด แต่ดูเหมือนพวกกบฏมันจะเลือดร้อนมาถึงก่อนผมเสียอีก แต่ทำเป็นซุกซ่อนตัวแอบดูลาดเลา

      “เหอะ คิดจะมาสู้ทั้งๆที่ทำตัวขี้ขลาด” ไอ้เบนแสยะยิ้มว่าเข้าให้เสียไม่เบานัก คาดว่าพวกมันคงได้ยินกันทั่ว

      ดวงตาของพวกมันวาวโรขน์ แต่ก็ยังคงไม่กล้าออกมา จากที่ประเมินทางสายตา พวกที่มาซุ่มดูคือพวกไร้ฝีมือระดับล่างหากหัวหน้าพวกมันไม่ก้าวออกมาพวกมันก็คงจะทำได้แค่หางจุกตูดเท่านั้น

      “น่าสมเพช” ผมพ่นลมออกจมูก นึกหงุดหงิดอยู่ลึกๆที่ผมเคยมีไอ้พวกนี้เป็นลูกน้อง

      ผมกลายร่างเป็นงูอย่างรวดเร็วแล้วเลื้อยขึ้นไปบนกิ่งไม้สูง ก่อนจะคืนร่างสู่ร่างมนุษย์อีกครั้ง พวกมันกำลังเคลื่อนพลมา ส่วนลูกน้องผมรอบตัวมีน้องกว่าพวกสวะอยู่สามเท่าไดแต่นั้นไม่ได้ทำให้ผมเป็นกังวล เพราะลูกน้องที่ยังอยู่กับผมตรงนี้ไม่ได้มีดีแค่สมอง แต่ความสามารถและพละกำลังก็ไม่เป็นสองรองใคร

      ส่วนพวกที่เลือกจะเป็นปฏิปักษ์คือพวกเกิดใหม่ที่มีอายุไม่ถึงสองร้อยปีด้วยซ้ำ เหมือนเด็กห้าควบที่คิดจะเทียบรุ่นกับผู้ใหญ่ ไม่ดูกำลังตัวเอง ผมถึงได้บอกไงว่าพวกมันน่ะน่าสมเพช

      พวกมันเคลื่อยตัวใกล้เข้ามา และไอ้หัวแดงตาแดงที่จ้องมองมายังผมอย่างท้าทายก็คงจะเป็นหัวหน้าการก่อกบฏ และผมรู้จักมันดี

      รอน ไคลสตัน

      ถ้าบอกว่าชาร์ลกับเบนเป็นมือขวากับมือซ้ายของผม ไอ้รอนก็คงเป็นเท้าขวากับเท้าซ้ายละมั้ง เพียงแต่ผมไม่ค่อยเจอมันเพระให้มันช่วยดูความเรียบร้อยทางตอนใต้ของอเมริกาให้ ไม่คิดว่ามันจะคิดไม่ซื่อถึงเพียงนี้

      หรือไม่ มันก็คงประเมินความใจดีของผมไว้สูงเกินไป

      บอกแล้วไง ผมยอมให้ยอร์ชคนเดียวเท่านั้นที่อยู่เหนือกว่า คนอื่นอย่าหวัง

      จวบจนรอนเดินเข้ามาใกล้ เบนดูโมโหจัดที่รูว่าคนที่หักหลังพวกเราเป็นใคร จึงพร้อมพุ่งเข้าชนกับรอนเต็มที่ แต่ชาร์ลเป็นคนรั้งเอาไว้ ไอ้คนทรยศเงยหน้ามองผม มันแสยะยิ้มไม่เกรงกลัว ก็ดี ถ้ามันกลัวจะไปสนุกอะไร

      “รอน แกเองเหรอที่ก่อความวุ่นวาย” ผมถามเสียงปกติแต่ดังกังวาลทั่วผืนป่า

      “ฮ่าๆๆๆ” รอนหัวเราะเสียงดังลั่น ส่งผลให้พวกลูกน้องของมันหัวเราะตาม ไอ้เบนฉุนเฉียวหนักกับความกวนประสาทของอีกฝั่ง ถ้าเป็นผมเมื่อก่อนคงจะพุ่งไปฆ่าไอ้รอนตั้งแต่วินาทีแรกที่เห็นหน้ามันแล้ว ไม่รอให้มันมาหัวเราะเยาะผมหรอก

      “มันหมดยุคของนายแล้วเอเดน นิกินีผู้สูงศักดิ์ที่เดินตามหลังมนุษย์งี่เง่าต้อยๆๆ มีอะไรให้พวกฉันควรเคารพบ้าง คำตอบคือไม่มี” ท่าทางอวดดีใช่ได้

      “ใช่ ไม่มี!” เสียงลูกน้องของมันเอ่นสนับสนุน

      “เอเดนที่ฉันเคยยอมเป็นลูกน้องไม่ได้ตัวนาสมเพชแบบนี้ นายกำลังจะทำให้เราต่ำต้อยเพราะไปเป็นข้ารับใช้ของพวกมนุษย์ แบบนี้น่ะเหรอที่สมควรเป็นหัวหน้าแห่งชาวนากินีของอเมริกา ไม่มีอีกต่อไป พวกฉันไม่ยอมรับ!”

      ผมปล่อยให้รอนมันพล่ามอย่างสบายใจและยอมใหลูกน้องของมันส่งเสียงอึกกระทึกได้ใจไปก่อน ผมแค่ส่งสัญญาให้ลูกน้องรอเวลาเท่านั้น พวกเกิดใหม่จะเลือดร้อน มุทะลุ บ้าคลั่งและหัวรุนแรง แต่ทว่าเป็นแค่เด็กฝึกหัดไม่เป็นมวย ต่อสู้ได้แต่สะเปะสะปะ ดังนั้นผมควรจะต้องเอ็นดูพวกมันไว้ให้มากๆ ก่อนที่มัจจุราชจะเข้าสิง

      ผมกระโดดลงจะต้นไม้ลงตรงหน้ารอน มันผงะถอยหลังหนึ่งก้าว พวกลูกน้องหน้าโง่ของมันพากันถอยห่างแล้วตั้งรับ ผมมองไอ้รอนตั้งแต่หัวจรดเท้า ริมฝีปากกระตุกยิ้มดูถูกดูแคลน

      “ฉันจะบอกอะไรแกไว้อย่างหนึ่งก่อนที่แกอาจจะไม่มีชีวิตอยู่ต่อ ฉันยังคงเป็นนากินีที่ชิงชังมนุษย์เช่นเดิม และคนอย่างฉันไม่เคยเปลี่ยนแปลง แกเคยเห็นฉันเป็นยังไงวันนีฉันยังเป็นอย่างนั้น มันไม่ใช่เพราะฉันยอมอยู่ใต้คำสั่งของมนุษย์แค่คนเดียวหรอกที่ทำให้แกทรยศฉัน แต่เพราะสันดารที่เลียงไม่เชื่องของแกต่างหาก ในวันนั้น ฉันน่าจะปล่อยให้แกโดนมนุษย์หน้าโง่ฆ่าตายเนอะ ว่าไหม วันนี้จะได้ไม่มีทำจองหองอวดดีใส่ฉันแบบนี้”

      “แกจะบอกว่าแกมีบุญคุณกับฉันอย่างงั้นเหรอ!” รอนกัดฟันอย่างโกรธแค้น มือทั้งสองข้างกำแน่นขนเส้นเลือดตามท่อนแขนปูดโปน

      “ใช่สมองโง่ๆของแกคิดดูสิ”

      “เอเดน!”

      “แต่เอาเถอะ ไหนๆแกก็ลงทุนทำมาขนาดนี้แล้ว ก็ช่วยแสดงฝีมือให้เห็นหน่อยแล้วกันว่าแกเหมาะสมที่จะมายืนแทนตำแหน่งฉัน

      ไอ้รอนเดินเข้ามาใกล้ผมจนระยะของผมกับมันห่างกันแค่หนึ่งก้าว มันยกมือพลักตัวผมแล้วเริ่มเปิดศึกอย่างเป็นทางการ ร่างงูที่แท้จริงของมันเป็นสีดำสลับน้ำตาลแดง ขยายร่างใหญ่สุดหวังจะประกาศความน่าเกรงขาม ผมสบตากับชาร์ลและเบนเพียงพริบตา ลูกนองที่รอท่าก็เริ่มจู่โจมทันที

      รอนฉกวูบลงที่ตัวผม ผมเพียงเบียงหลบเท่านั้น มองมันด้วยความสมเพชผ่านดวงตามนุษย์ครั้งสุดท้ายก่อนที่จะกลายร่างเป็นนากินี

      ความพิเศษของผมไม่ใช่แค่การที่เป็นงูมีสองหัว แต่เพราะมีถึงสองหัวจึงมีความพิเศษมากกว่าหนึ่ง ผมรู้จุดอ่อนของรอนดีเพราะเป็นคนสอนมันมากับมือ ผมก็ไม่รู้ว่ามันเอาหัวส่วนไหนคิดมาต่อกรกับคนอย่างเอเดน

      ผมเลื้อยขึ้นต้นไม้สูง และพ่นไฟจากมุมบน ไอ้รอนหลบได้ทัน มันเป็นนากินีที่เคลื่อนที่ได้เร็ว มีความสามารถในการพ่นไฟเช่นเดียวกันผม แต่สิ่งหนึ่งที่มันไม่มีคือความรอบคอบ และความสามารถในการแพร่พิษด้วยการหายใจรด

      พวกลูกน้องของไอ้รอนจำนวนหนึ่งจบชีวิตลงเพราะฤทธิ์ไฟของผม ก็ช่วยไม่ได้นะ ผมทำเพราะป้องกันตัวเอง ยอร์ชจะมาว่าผมหากรู้เรื่องที่หลังไม่ได้เพราะผมจะไม่ยอมรับความผิด

      ไอรอนที่โดนไฟของผมลามเลียถากๆเกิดอาการโมโห พุ่งเข้าใส่ผมแต่โดนไอ้ชาร์ลใช้ส่วนห่างปัดจะเซ ผมให้ชาร์ลจัดการไปก่อนแล้วลงไปเล่นกับลูกงูตัวน้อยๆที่ยังอ่อนหัด

      พอร่างของผมแตะถึงพื้นเท่านั้น งูนับร้อยก็เล่งเป้ามาที่ผม งานหนักเอาเรื่อง ท่อนหางของผมถูกวพกมันกดทับไม่ให้ขยับตัว รุมกันแพร่พิษใส่ ไอ้เบนและลูกน้องคนอื่นๆเข้ามาช่วย ผมทำใจเย็นไม่ใช่ว่าสู้ไม่ได้ แต่เพราะกำลังสนุกอยู่ต่างหากล่ะ

      ผมปล่อยให้พวกมันเกาะแกะก่อนจะสะบัดร่างที่เดียวพวกมันก็กระเด็กกันไปคนละทิศละทาง ผมมองตากับไอ้เบน มันส่ายหัวขำกับความนึกสนุกของผม

      ‘กี่นาทีดี’ ไอ้เบนถาม

      ผมโคลงหัวทั้งสองเล็กน้อยก่อนตอบ ‘ห้านาทีก็เกินพอ’

      ‘ชาร์ล ห้านะทีนะโว้ย’ ไอ้เบนตะโกนไปหาชาร์ลที่กำลังกอดรัดฟัดเหวี่ยงกับไอ้รอนอย่างดุเดือด

      ดวงตาสีเหลืองอำพันของชาร์ลยามเอาจริงจังจังสบตากับผม มันแลบลิ้นหนึ่งทีเพื่อน้อมรับคำสั่ง

      ‘Deal!’

      ในที่สุดเพียงแค่สามนาทีกว่าๆผมก็จัดการกับพวกไอ้รอนได้อย่างราบคาบ บ้างตายบ้างบาดเจ็บหนักโดนเฉพาะไอ้รอนที่เจ็บหนักสุดเพราะถูกพวกผมสามคนจัดการอย่างสนุกสนาน

      “ไง เก่งนักไม่ใช่เหรอ อยากเป็นใหญ่แทนฉันไม่ใช่เหรอไง ลุกขึ้นมาสิ” ผมใช้เท้าเขี่ยร่างของมันที่ยังคงอยู่ในร่างงู

      ‘ฆ่าฉันสิ แกรออะไร’

      ผมพยักหน้าเดาะลิ้นที่กระพุ้งแก้ม นับถือในความใจกล้าของมันจริงๆ “สะบักสะบอมขนาดนี้ยังจะกล้าอวดเก่ง ฉันควรส่งนายกลับไปนรกอีกครั้งไหม”

      ‘ก็ทำเส่!’

      “ไม่ละ แบบนั้นมันไม่ทรมานสะใจฉัน ชาร์ล”

      “อืม” ชาร์ตตอบกลับ สายตาจ้องไอ้รอนไม่วางตา มันคงแค้นน่าดู เพราะไอ้รอนคือคนที่ชาร์ลไว้ใจให้ช่วยงานมากที่สุดรองจากไอ้เบน

      “ส่งมันไปให้ลูกน้องพ่อฉันจัดการ พวกเขารู้ว่าเขาจะขังมันไวที่ไหนไม่ให้ออกมาเพ่นพร่านสร้างความวุ่นวาย”

      “ได้ ฉันจัดการเอง”

      “ส่วนแกไอ้เบน พรุ่งนี้เรียกนากิทีทั่วทั้งอเมริกามาพบฉันในวันถัดไป ฉันมีเรื่องสำคัญจะประกาศ”

      “เรื่องอะไรวะ” ไอ้เบนถามอย่างสงสัยตามนิสัยของมัน ผมหรี่ตามอง มันเลยยิ้มแหะๆก่อนจะอือออรับคำสั่ง

      ผมแยกตัวกลับที่พัก ส่วนไอ้เบนและชาร์ลแยกกันไปทำตามที่หน้าของใครของมันก่อนจะกลับมาที่บ้านพัก หมอประจำตระกูลรอคอยท่าอยู่ที่บ้านทั้งๆที่ผมไม่ได้เรียกหา จะเป็นใครไปไม่ได้ที่ทำเรื่องพวกนี้นอกจากคนที่เคยสำคัญที่สุดในชีวิตของผม แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว

      ผมปล่อยให้หมอทำตามหน้าทีของเขาแม้ว่าผมจะไม่ได้บาดเจ็บหนักอะไรก็ตาม แค่รอยถลอกฟกช้ำเล็กๆน้อยเท่านั้น ผมสนใจอยู่อย่างเดียวก็คือ

      การโทรกลับไปหาคนที่อยู่ประเทศไทย

      แต่ครั้งนี้ยอร์ชไม่รับสาย โทรไปกี่ครั้งก็ไม่รับ ทั้งๆที่เวลานี้เป็นเวลากลางวันของที่นั่น เขาทำอะไรอยู่ ผมร้อนรนจนเริ่มจะหงุดหงิด เลยเปลี่ยนไปต่อสายหาลูกน้องที่ให้คอยดูความเรียบร้อยทางนั้นแทน

      “ครับนาย” เดวิด ลูกน้องที่ไทยรับสาย

      “ตามดูให้หน่อยว่ายอร์ชทำอะไรอยู่ เขาไม่รับสายฉัน” ผมสั่ง

      “ได้ครับนาย อีกสิบนาทีผมจะโทรไปรายงาน”

      “ห้านาที” ผมแก้เวลา สิบนาทีนานเกินไป ผมรอไม่ไหว

      “ครับนาย ห้านาที”

      ผมกดวางสาย นั่งรับลมหายใจเข้าออกแสร้งทำเป็นใจเย็นทั้งๆที่ร้อนรุ่ม ผมไม่ชอบเลยจริงๆ เป็นความรู้สึกที่น่ากลัวเมื่อคุณรู้ตัวว่าหัวใจของคุณไม่ได้อยู่ในร่างกายของคุณแบบที่ควรจะเป็น

      และหัวใจของผมตอนนี้มันอยู่ที่เขา...ยอร์ช

      “คุณมีอิทธิพลต่อความรู้สึกผมมากเกินไปแล้วนะยอร์ช ช่วยรับผิดชอบด้วย” ผมคาดโทษอีกฝ่ายเบาๆ เขาจะรับรู้หรือไม่ผมไม่สน ผมสนแค่ว่าเขาต้องชดใช้ที่ทำให้ผมเป็นบ้าเพราะเขาได้ถึงเพียงนี

      เฮ้อ ผมแย่แล้วจริงๆ

      ห้านาทีต่อมาเดวิดโทรมารายงานว่ายอร์ชคุยงานกับลูกค้าในตัวเมือง คงไม่มีอะไรที่จะต้องเป็นกังวลหากภาพที่เดวิดส่งมาไม่ใช่ความที่ผู้หญิงคนหนึ่งไม่ได้ส่งยิ้มหว่านเสน่ห์ใส่คนของผมอยู่ และคนของผมดูท่าแล้วว่าจะชอบเธอเสียด้วย ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เชียว

      ร่างของผมสั่นไปหมด ผมรู้ตัวว่าผมเป็นอะไร ผมกำลังหึง และแรงหึงทำให้ผมอยากจะขึ้นเครื่องบินกลับไทยมันเสียตอนนี้ ถ้าไม่ติดว่ายังมีอีกเรื่องต้องสะสางผมกลับเดี๋ยวนี้แน่

      “จับตาดูเอาไว้ให้ดี ถ้ามีผู้หญิงหรือผู้ชายที่ไหนเข้ายอร์ชเกินพอดี รีบรายงานฉันทันทีเข้าใจไหม” ผมสั่งเสียงเข้ม

      “ได้ครับ ผมจะรีบรายงานทันทีหากมีใครมายุ่งกับคุณยอร์ช”

      “ดี ฉันฝากด้วย”

      “ครับ สวัสดีครับ”

      คืนนั้นผมนอนไม่หลับทั้งคืน เอาแต่ดูรูปยอร์ชที่เดวิดส่งมารายงาน ทีหับคนอื่นละยิ้มกวางหัวเราะอย่างมีความสุข ทีกับผมละทำเป็นนิ่งไม่ตอบรับความรู้สึก

      “มันจะเกินไปแล้วนะยอร์ช!” ผมตะโกนอยู่คนเดียวในห้องนอนกว้าง

      บอกแล้วไงว่าให้เป็นเด็กดีไม่ให้เกเร นี่อะไร ตอนกลางคืนคุยกับผม ตอนกลางวันไปหว่านเสน่ห์ใส่สาว ดูท่าว่าเขาจะไม่เกรงกลัวผมเลยสินะ

      ได้ ผมจะไม่รอแล้ว กลับไปเมืองไทยครั้งนี้ผมจะทำให้ยอร์ชเป็นของผมให้ได้ ไม่มีวันที่เขาจะเป็นของใครอื่น



      ……………………………………..
      ความจริงตอนพิเศษที่จะลงในเว็บจะต้องจบที่ตอนที่12 แต่ทว่าจากที่บอกไว้ครั้งที่แล้วว่าริริรื้อพล็อตใหม่ตอนมันก็เลยขยายออกไป คิดว่าคงจะชอบกันแหละเนอะ เพราะในส่วนของตอนพิเศษในหนังสือก็ขยายเพิ่มด้วยเช่นกัน
      ตอนนี้ยังไม่ได้ตรวจคำผิดนะคะ อ่านหนังสือเตรียมสอบเทรนเสร็จก็มาจิ้มๆแต่งๆ มึนๆเบลอ ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยนะคะ


     

ออฟไลน์ PRINCESSPRIME

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 51
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
คุณริริมาแล้วววว  :heaven

จิ้มก่อนอ่าน  :z13:

ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
อย่างพี่ยอร์ชนี่จะเป็นโมเม้นแบบบบ
ยั่วให้หึง จะได้กลับมาไวๆ รึเปล่าน้ออออ 5555
รอตอนต่อไปน้าาาา

ออฟไลน์ Hanaki

  • --- Chasing the one ---
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 7
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
รักมากก็ทุรนทุรายมากอ่ะเนอะเอเดน โธ่... พ่อคุณ! (ว่าที่)เมียไม่เห็นคุณค่า :o12:

ออฟไลน์ HanATarO

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2141
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-2
จะกล้าทำจริงๆ หรอ เอเดน

เราจะรอลุ้นนะ 555

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด