มาสาย มาช้า ตีเลยครับๆๆ
*******************************************************************
หน้าที่ 41 วรรค 4
* ผมนั่งคิดอยู่หลายวันครับว่าจะพิมพ์วรรคนี้ยังไง เพราะมันมีเรื่องอารมณ์เยอะมาก เลยขอตัดๆเอาเนื้อๆหน่อย แล้วก็จะได้ไปเรื่องอื่นกัน เพราะอยู่กับเรื่องนี้นานๆมันบอกไม่ถูก แฮะๆๆหลังจากเหตุการณ์ที่วากดิษกลับมาทำงาน ทั้งๆที่มันยังดูซูบๆอยู่ ผมก็ได้แต่มองมันอยู่ห่างๆครับ เพราะมันมักจะส่งสายตาโหดๆมาที่ผมตลอดเวลา แต่ผมไม่ได้กลัวหรือหงุดหงิดอะไรนะครับ ผมต้องตามตื๊อมันนี่
ส่วนความสัมพันธ์ขณะนี้บอกยากครับ เพราะมันไม่เปิดโอกาสให้ผมเข้าใกล้ เราแยกกันอยู่ผมนอนที่หอพัก วากดิษไปนอนที่บ้าน นอกจากเจอหน้ากันในที่ทำงาน เราไม่ได้เจอหรือคุยอะไรกันเป็นพิเศษเลยครับ
ฟากพวกเพื่อนๆของผมพอได้ยินว่าผมนอกใจวากบ้า ก็พาลเดือดร้อนไปหมดครับ เพราะแต่ละคนมีความคิดต่างกัน ทำให้นอกจากทำงานฆ่าเวลาแล้ว ผมทำอะไรได้ไม่มากนัก
“ เออคิม ” พี่ริชเดินมาสะกิดผม ช่วงนี้ก็มีแค่พี่ริชกับพี่พานครับที่ยังพูดกับผมอยู่ ส่วนคนอื่นๆหมายถึงที่สนิทกัน ทำท่าจะคว่ำบาตรผม
“ ครับพี่ ”
“ วันนี้พาลูกค้าไปเลี้ยงหน่อยนะ ”
“ เลี้ยงอะไรล่ะพี่ ” พี่ริชขยับเข้ามาใกล้กว่าเดิม
“ นวด ” พวกที่มาคุยงานเนี่ย ไม่ค่อยสนใจอย่างอื่นหรอกครับ ถ้ามาต่างที่หน่อย ก็จะเที่ยวแต่แบบนี้
“ ได้พี่ ” พอตกปากรับคำแล้ว ผมก็แกล้งเดินไปรายงานท่านผู้จัดการครับ
“ ดิษ ” มันเงยหน้าละครับ
“ คืนนี้ เราพาแขกไปเลี้ยงนะ ” มันทำท่าถอนหายใจ
“ บอกทำไม ให้เค้าพาไปสิ ” เค้านี่คงหมายถึงพี่พานแหละครับ
“ แน่ใจเหรอ ”
“ ถ้าจะกวนประสาทก็ไม่ต้องมา ” ตกลงใครกวนใครวะ
“ ดิษ ”
“ ไม่เห็นกองเอกสารพวกนี้หรือไง ..... ”
“ ถ้าลำบากใจจริงๆ จะ ...... ”
“ พอๆ ออกไปได้แล้ว ” มันขว้างเอกสารใส่ผมด้วยครับ ความจริงผมกะจะบอกมันว่าถ้าลำบากใจ ผมจะไปก็ได้ แต่มันก็ทำเหมือนเดิมครับ ไม่ให้ผมพูดอะไรเลย แบบนี้เมื่อไรกูจะได้คุยกับมึงเนี่ย
คืนนั้นผมพาพวกแขกที่จะลงทุนกับเราไปยัดตามห้องต่างๆของโรงแรมเรียบร้อย ก็เตรียมจะชิ่งครับ เพราะใจนึงผมอยากจะไปคุยกับเพื่อนๆคนอื่นบ้าง แต่ดันไปเห็นผู้ชายหุ่นคุ้นๆซะก่อน ไม่ใช่ใครหรอกครับ ไอวากบ้านั่นแหละ มันมากับผู้หญิง ..... มาที่โรงแรมเนี่ยนะ
“ สวัสดีครับ ” ผมรีบเดินปรี่เข้าไปหาครับ วากบ้ามันก็ตื่นๆนิดหน่อย
“ ........ ”
“ ใครเหรอคะพี่ ” ผู้หญิงคนนี้ดูสวยดีครับ ดูจากการแต่งตัว เหมือนไปเที่ยวกันมาเลย
“ รุ่นน้องที่ทำงานน่ะ ” มาแล้วครับ คำเชือดเฉือนของมัน
“ งั้นสวัสดีค่ะ ”
“ มาทำอะไรที่โรงแรม ” ผมถามกลับไป น้ำเสียงเปลี่ยนแล้วครับ
“ ไม่ใช่ธุระของคิม ”
“ หึ ..... พรุ่งนี้ถ้ามีข่าวลือแปลกๆอย่ามาโทษผมนะ ” ผู้หญิงคนนั้นเริ่มจะหน้าเสียครับ สงสัยจะชวนกันมาทำอะไรบางอย่างที่ไม่น่าเปิดเผยแหงๆ คิดได้ดังนั้นหัวใจผมเหมือนโดนบีบเลยครับ
“ ไปได้แล้ว ”
“ กูไม่ไปหรอก หึ ไปทำอะไรกันก็ไปเถอะ กูจะไปหากินเหล้าแถวนี้ ” พอได้ยินว่าเหล้าไอวากดิษมันมีสะดุ้งนิดๆครับ แต่สุดท้ายมันก็เบือนหน้าหนีผมไปกับผู้หญิงคนนั้น
ผมเดินออกมาที่ที่ลานจอดรถ ทั้งๆที่ขาแทบจะหมดแรงอยู่แล้ว นี่มันกำลังจะสั่งสอนผมเหรอ ทำไมถึงทำกับผมแรงขนาดนี้นะ
“ พี่โจ ”
“ ....... มีอะไร ” หึหึ แม้แต่พี่โจก็ยังทำเสียงเย็นๆใส่ผมเลยครับ
“ จะตัดพี่ตัดน้องกับกูเลยไหมห๊ะ !!!!! ” ผมตะคอกใส่มันเลย เหลืออดแล้วครับ
“ โธ่คิม พูดเหมือนกับไม่รู้ว่าพี่ก็หนักใจนะ ”
“ กูหิวเหล้า ไปร้านพี่นากได้ไหม ” พูดไปก็กลั้นน้ำตาไปครับ นี่แค่จะหาที่ปรับทุกข์ยังต้องขออนุญาตเลย
“ มาได้ .... พี่ดิษไม่รู้ใช่ไหม ”
“ หึ ป่านนี้คงซั่มสาวจนลืมกูไปแล้วมั้ง ”
“ โอเคๆ อย่าใจร้อน พี่จะรอ ” จากนั้นผมก็โทรหาคนๆนึงเพื่อไปเจอกันที่นั่นด้วย
ผมรีบขับรถไปหาพี่โจครับ พอผมไปถึงก็เจอคนหลายคนที่ไม่คาดว่าจะได้เจอ ในนั้นมีพี่กริช พี่นาก ไอโต้ง และยัยนัทครับ เดิมทีพวกนี้นั่งกินกันข้างนอก พอผมมาพี่นากก็ให้ผมเข้าไปนั่งกินกันข้างในเหมือนทุกครั้ง
“ มาเที่ยว พาเมียมาทำไมไอโต้ง ” ผมแซวมันครับ
“ ย่ะ ไม่ต้องมากัดชั้นเลย ตกลงอะไรขู่พี่โจของชั้นทำไม ”
“ เหอะๆ นัทจ๋า เพลาๆบ้างเถอะ ” พี่นากพูดแซมขึ้นมา พี่นากกับนัทเนี่ยสนิทกันมากครับ
“ พี่กริช พี่ต่อยผมแล้วพี่จะคุยกับผมได้หรือยัง ” พี่กริชมองหน้าผม ก่อนทำท่าจะลุกหนี
“ พี่หมอครับ ” พี่โจจับมือเอาไว้ก่อน
“ เฮ้ยคิมทำอะไรวะ !!!!! ”
“ กูตายนี่จบไหมวะ ” ผมจับมีดที่วางอยู่ไม่ไกลจากโต๊ะมานักมาจ่อที่ข้อมือตัวเอง พวกนั้นชักจะหน้าถอดสีครับ
“ ตายแล้วมันจะจบเหรอ แกอยากให้มันคนที่รักแกต้องตรอมใจตายไปพร้อมกันหรือไง ” พี่กริชเทศน์ใส่ผม
“ กูจะทำยังไงดีวะ ฮือออออ ” ผมเข่าอ่อนลงไปกองกับพื้นครับ ยัยนัทก็วิ่งร้องไห้มากอดผม
“ นี่แกคิดฆ่าตัวตายจริงเหรอคิม ”
“ จะให้ทำยังไง กูไม่ได้ทำอะไรเลย แต่ทำไมทุกคนต้องทำแบบนี้กับกูด้วย ” ผมระบายสิ่งที่อัดอั้นมานานออกไป
“ เฮ้ยๆๆ อย่าต่อยกันๆๆ ” ไอโต้งที่ท่าทางนิ่งๆ กระโดดต่อยใส่พี่หมอกริชครับ พี่นากกับพี่โจต้องเข้าไปห้ามเอาไว้
“ โอย อะไรของพวกมึงวะ ร้านกูไม่ใช่สนามมวยนะสัด ” พี่นากคงจะเซ็งเต็มที่แล้วล่ะครับ มาเจอกันที่ร้านแกทีไร มีต่อยกันทุกที เหอะๆๆ
“ กูทำอะไรให้มึงโต้ง ” พี่หมอกริชผู้อ่อนแอยังลุกไม่ขึ้นครับ ได้แต่นอนโวยวายตรงนั้น
“ ยังจะถามอีก ใครที่ส่งข่าวให้พี่ดิษ ตกลงจะให้เค้าปรับความเข้าใจกันไหม ” อะไรเนี่ย
“ กูไม่ได้ส่งข่าว มันถามกูก็ตอบ ” ยังๆ ยังไม่ยอมหลุด
“ ทำไมต้องต่อยไปคุยไปวะเนี่ย ไอพวกเกษตรน้องไอดิษเอ้ย ” พี่นากก็พูดเล่นๆอะครับ
“ ฮืออออ ทำไมกูถึงกลายเป็นแบบนี้ ” แค่ได้ยินว่าดิษๆ ผมก็ร้องไห้อีกแล้วครับ ไม่รู้ทำไมเวลานี้ถึงอ่อนแอขนาดนี้ ไม่นานก็มีเสียงเปิดประตูเข้ามาครับ คนที่เข้ามาทำเอาผมต้องทั้งอึ้งทั้งตกใจ
“ มาจนได้นะพี่ ”
“ เออ แล้วนั้นลงไปนั่งไปนอนอะไรกันตรงนั้น ”
“ พี่ปัน ...... สวัสดีครับ ” ผมค่อยๆพยุงตัวขึ้นไปหาพี่ปัน
“ มึงโง่กันจริงๆ มาให้กูกอดหน่อย ” พี่ปันกอดผมครับ ทำผมร้องไห้อีกรอบแหละ วันนี้กูตีบทแตกกระจุยเลยไหมล่ะ ฮุ้วว
พอพี่ใหญ่ของพวกผมมาทุกคนก็เริ่มระงับอารมณ์แล้วมานั่งกันอีกรอบ พี่กริชก็ถามไถ่ถึงพี่ปันนิดหน่อย จากนั้นครู่นึงคนที่ผมโทรหาก็มาครับ คนๆนั้นคือไอแบงค์ครับ ผมกะว่าจะเรียกมันมาปรับความเข้าใจเรื่องของพี่กริช แต่ตอนนี้ไม่รู้จะมีแรงหรือ ปล่าว
“ ตกลงอะไรกัน ”
“ ใครจะเล่า ” พี่โจถาม
“ อะไรใครจะเล่า มันยากตรงไหนวะ ” พี่ปันถามต่อ
“ มันหลายทางมากพี่ เล่ายังไงก็ไม่ตรงกันหรอก เผลอๆแม่งต่อยกันอีก ” พูดได้ฉลาดมากครับ ตั้งแต่คบกันก็วันนี้แหละ เหอะๆ
“ งั้น พี่หมอเล่าก่อนได้ไหม ” พี่ปันโยนไปที่พี่กริชครับ พี่กริชพยักหน้าก่อนจะเล่าให้ฟัง
พี่กริชบอกว่า ไอวินเข้ามาเยี่ยมวากดิษแล้วเล่าให้ดิษฟังตั้งแต่ก่อนจะผ่าตัด ว่าพี่พานทำท่าจะจีบผม จากนั้นพี่ริชก็เป็นอีกคนที่ไปเล่าให้ดิษฟัง ดิษเลยฝากให้พี่กริชดูแลผมด้วย
“ แต่พี่เชื่อว่ายังไงคิมก็ไม่มีทางเป็นอย่างนั้น พี่เลยไม่สนใจ ”
“ ปกติพี่โกรธเกลียดอะไรคิมมันไหม ” พี่ปันถามครับ พี่กริชส่ายหน้าแต่ไม่ยอมพูด
“ พี่กริชโกรธที่คิมไม่เป็นอย่างที่พี่คิดใช่ไหมคะ ” ยัยนัทพูดขึ้น ผมเริ่มจะเข้าใจความคิดของพี่กริชครับ
“ หึหึ พี่ไม่น่าไปรับปากมันตั้งแต่แรก เรื่องของคนอื่นแท้ๆ ”
“ แล้วพี่เคยคุยกับคิมจริงๆจังๆหรือยัง ” พี่ปันถามต่อครับ
“ ไม่เคย ”
“ เอาความผิดหวังของตัวเองไปลงโทษคนอื่นตามเคย ” จู่ๆไอแบงค์ก็โพล่งออกมาครับ
“ ว่าไงนะ แบงค์เองก็ติดนิสัยเพื่อนมาเหมือนกันสิ ” เอาแล้วไง
“ เหอะ พูดไปเถอะ ผมไปที่อื่นดีกว่า ” แบงค์ไม่อยากเถียง เลยทำท่าจะเดินหนี
“ เดี๋ยวแบงค์ ” ผมพูดขึ้นเองครับ
“ คิมอ่ะ ”
“ เรื่องนี้น่ะ ไม่เกี่ยวกับพวกผม ถึงพี่จะเอาแต่เหน็บแนมผม แต่ผมก็ทนเห็นคนรักกันเข้าใจผิดไม่ได้ ”
“ คิมไม่ได้ยินที่เค้าพูดเหรอ เค้าหาว่าเราเป็นพวกนอกใจน่ะ ” แบงค์พูดไปชี้หน้าพี่กริชไปครับ
“ พี่ปล่าวนะ ” พอได้ยินเค้าแก้ตัว ผมแอบมั่นใจว่าสองคนนั้นยังห่วงหากันอยู่ครับ
“ พี่กริชฟังนะ แบงค์เค้าไม่ใช่เด็กๆแล้วครับ ก่อนเจอพี่เค้าก็หาเงินเอง ถ้าพี่จะให้เค้าเป็นแค่แม่บ้าน เค้าทำไม่ได้ ” อันนี้คงต้องย้อนไปถึงที่ผมคุยกับแบงค์เมื่อนานแล้วอะครับ
“ คิม อย่าพูดเลยนะ เค้าไม่ฟังหรอก ” ตอนนี้ในห้องหันหน้าไปตามเสียงคนพูด ดูไปก็ขำๆดีครับ
“ คิมไม่รู้ว่าเค้าจะฟังไหม แต่เป็นสิ่งที่เค้าควรได้ยิน ” พี่กริชเริ่มถอนหายใจยาวๆ
“ พี่ไม่ได้คิดว่าแบงค์เป็นแม่บ้านเลยนะ ....... พี่แค่เห็นแบงค์เคยมีของพวกนั้น พอแบงค์เลิก ก็แทบไม่gs]nvอะไรเลย ต้องทำงานส่งตัวเอง ทั้งๆที่ครอบครัวก็มี พี่ปวดใจที่เห็นแบงค์ลำบากนะ ”
“ ผมเคยบอกแล้วว่าผมรับได้ ”
“ ขอโทษนะสองคน ” ผมรีบเบรกครับ
“ อะไรเนี่ยคิม กำลังไปได้สวย ถึงกูจะขนลุกก็ตาม ” พี่ปันบ่นใส่ผม ตอนนั้นพี่ปันแต่งงานแล้วครับ ผมคงเคยบอกไปแล้ว
“ พี่ เรื่องเค้าสองคน คนอื่นไม่ต้องรู้ก็ได้ ”
“ หายบ้าแล้วสิ กลับมาเป็นผู้เป็นคนแล้ว .... สองคนจะเคลียร์กันก็ได้นะ ผมคุยกันต่อเอง ” พี่ปันบอกพี่กริชกับแบงค์
“ ไม่ครับ ที่มาเพราะเรื่องของคิม เอาเรื่องนี้ก่อน ” แบงค์ตั้งท่าไม่ยอมไป ส่วนพี่กริชก็ทำท่าคิดอยู่ครู่นึง ก่อนจะเดินมาหาผม
“ พี่ขอโทษ ”
“ ทำอะไรน่ะพี่ ” พี่กริชยิ้มให้ผม น่ารักอยู่นะ คึคึคึคึ
“ ทุกคนพูดถูก พี่ก็แค่คนใจแคบคนนึง พี่เอาความผิดพลาดไปโยนใส่คิมคนเดียว ”
“ พอจะเคลียร์กับเมียได้ล่ะ แหม ...... ” พี่นากได้ทีเหน็บพี่กริชบ้างครับ
“ ยังซะหน่อย ” แบงค์รีบชิงตอบ
“ ยัง ..... แสดงว่าใกล้แล้วใช่ปะ ” พี่กริชหันไปหยอกกับไอแบงค์ แม่งไม่เกรงใจกูเลย
“ งั้น ...... ที่พี่ต่อยหน้าผม ผมขอคืนนะพี่ ” ผมหักนิ้วเตรียมเดินไปหาพี่กริช แกหน้าซีด ก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า
“ โต้งต่อยพี่แล้ว หายกันเหอะ ”
“ ฮ่าๆๆ ” ในที่สุดในห้องก็เริ่มกลับมาสู่บรรยากาศเดิมๆครับ ทุกคนเริ่มคุยและยิ้มให้กัน จากนั้นเราก็จับเข่าคุยกัน
“ ดิษเข้าโรงแรมกับผู้หญิงเหรอ ” พี่กริชทวนสิ่งที่ผมเล่าให้ฟัง
“ ครับ ผมเพิ่งเจอกับมัน ”
“ ที่คิมไปโรงแรมมีใครรู้ไหม ” พี่ปันถามผม
“ รู้หลายคนพี่ มันก็รู้ ผมบอกมันเอง ”
“ เหอะ ” พี่นากที่ไปนั่งซุ่มที่มุมห้องกับพี่โจกระแอมใส่ผม
“ อะไรพี่ หิวเท้าเหรอ ” ผมแซวแก
“ แรงนะๆ ..... จะบอกว่าโดนมันปั่นหัวแล้วม้าง มุขง่ายๆมันใช่ประจำ ยังไม่เข้าใจเหรอ ” ผมหน้าแดงวูบเลยครับ
“ อะไรๆ หน้าแดงทำไม ” พี่โจได้ทีแซวผม
“ ก็ ..... แต่มันขึ้นไปจริงๆนะพี่ ”
“ บางทีมันอาจจะทำอะไรขึ้นมาจริงๆก็ได้นะคิม ” พี่ปันพูด
“ ทำไมล่ะคะ ไหนว่าสองคนนี้ยังรักกันอยู่ไง ” ยัยนัทอยู่ไม่สุขแล้วครับ
“ คืองี้นะ พี่ก็ไม่ได้สนิทกับดิษเท่าไร แต่พี่รู้แค่มันมีนิสัยประหลาดมากๆ จำตอนที่มันยกแฟนเก่าให้ไอโจได้มะ ” ผมเหมือนเคยได้ยินนะ
“ จำได้พี่ ” พี่โจตอบ
“ นั่นแหละ ยกแฟนเก่าให้ มันคิดได้ยังไง สุดท้ายมึงก็ไม่ได้คบกันใช่ไหมล่ะ ” พี่โจพยักหน้า
“ แล้วมันเกี่ยวอะไรพี่ ” ไอโต้งถามบ้าง
“ ก็ ...... ดิษมันคิดว่าคิมนอกใจไปมีอะไรกับคนอื่น มันอาจจะไปหาลองมีอะไรกับคนอื่นดู มันอาจจะอยากรู้ว่าคิมรู้สึกยังไงตอนที่นอกใจ แล้วก็อยากให้คิมเจ็บด้วย อันนี้กูคิดของกูเองนะๆ ” ถึงแกจะย้ำว่าคิดเอง แต่ผมน่ะช็อคไปแล้วครับ
“ เป็นเพราะพี่ พี่ไม่น่าเอาแต่บ่นว่าคิมให้ดิษฟังเลย พี่ผิดเอง ” พี่กริชเริ่มโทษตัวเองครับ
“ ไม่ต้องโทษตัวเองหรอกพี่ ...... ความจริงผมก็เกือบจะเผลอตัวเหมือนกัน ”
“ เฮ้ยจริงอะ ...... กับผู้ชายด้วยเหรอ ” พี่โจเริ่มหูตั้งครับ พวกนี้นี่หูไวจริงๆ
“ ทุกอย่างมันดูจะใช่ จนเกิดเรื่องนึงขึ้น ผมก็เลยหยุด ”
“ เรื่องอะไร เล่าได้ไหม ” พี่ปันถามอีก ตอนนี้ผมไม่เหลือความอายอะไรอีกแล้วครับ ผมก็อยากรู้ว่าผมทำผิดไปมากขนาดไหน
“ ตอนเกือบมีอะไรกัน ”
“ ........... ” ทุกคนในห้องเงียบฉี่เลย
“ เป็นไรกัน ”
“ แล้วไม่มีเหรอ ” พี่นากขยับเข้ามาถาม ส่วนยัยนัทมันหน้าแดงใหญ่ละครับ สงสัยจะจินตนาการไปไกล เหอะๆ
“ ไม่มี ”
“ มันพิสูจน์ไม่ได้ซะด้วยสิ ” โต้งพูดขึ้น ผมก็ถอนหายใจครับ ผมรู้ดีว่ามันยาก
“ แต่ผมเชื่อ ” แบงค์ที่นั่งนิ่งนานแล้วเอ่ยขึ้น
“ ผมก็เคยจู่โจมคิม ...... นานแล้ว ” พี่กริชหัวเราะในลำคอครับ ไอแบงค์เสียงอ่อนเลย
“ แล้วยังไง จู่โจมแล้วทำไม ”
“ ตอนนั้นคิมใส่สร้อยที่มีแหวนอยู่ด้วย คิมเล่าให้ผมฟังเรื่องของพี่ดิษ ผมเลยหยุดแค่นั้น ..... คนอื่นผมไม่รู้ แต่คิมเป็นอย่างนั้น ” ตอนนี้พี่โจก็ก้มหน้าลงไปครับ คงจะอายที่ตัวเองก็เคยทำกับผม แม้แต่พี่หมอกริชก็ด้วย นึกๆไปกูนี่โดนเยอะเหมือนกันแฮะ ชาติที่แล้วไปทำอะไรไว้วะ ฮุ้วว
“ ผมก็คิดงั้น คิมมันมีความเป็นลูกผู้ชายนะ มันก็มีศักดิ์ศรีของมัน ถ้ามันทำจริง มันคงไม่บากหน้ามาหาพวกเรา และตั้งแต่เรามานั่งคุย มันก็ไม่ได้เอ่ยถึงผู้ชายคนที่กล่าวหาว่าเค้ามีอะไรกับมันเลย ” ผมทั้งอึ้งทั้งตื้นตันครับ ไม่คิดมาก่อนว่าพี่ปันจะพูดถึงผมในแง่นี้ ทุกคนดูเหมือนจะได้คิดกันมากขึ้นครับ หลังจากคุยจบตรงนั้นเราก็ไม่คุยเรื่องความเป็นตัวของผมอีก
“ เออ แล้วนี่ พี่มาได้ยังไง ” ผมถามครับ
“ แม่งเอ้ย ไม่ถามตอนกูกลับซะเลยล่ะ ”
“ ปู่ก็ๆ ” ผมเอาหน้าไปถูกับแขนของพี่ปัน
“ พอๆ ...... ไอดิษมันโทรไประบายกับกู ”
“ จริงอะ แล้วทำมาพี่เลือกมาหาผมล่ะ ไม่ไปหาน้องชายคนโปรดล่ะ ...... โอ๊ะ !!! ” ว่าแล้วก็โดนเขกหัวครับ
“ ก็กูได้คุยกับมันแล้ว เหลือแต่มึงก็ต้องมาหามึงดิ ไอโจมันบอกว่ามึงจะมานี่ กูเลยมา” พี่ผมดูเป็นคนมั่นคงเสมอครับ
“ ผมจะทำยังไงดีพี่ ถ้ามันไปกับผู้หญิงพวกนั้นล่ะ ”
“ เดิมทีกูว่าจะไม่บอก แต่ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ...... มันบอกว่าจะหาผู้หญิงไปเที่ยว แต่จะไม่มีอะไรเด็ดขาด กูก็ไม่รู้ว่ามันทำไปทำไม ”
“ เฮ้อ มันทำให้ผมเจ็บได้แล้วล่ะพี่ ” พี่ปันโอบไหล่ผม
“ ที่ทำได้ก็แค่เลือก ว่ามึงจะเชื่อใจมันหรือปล่าว ”
“ เอางั้นเหรอพี่ ”
“ ฮ่าๆๆๆ ” แล้วจะมาหัวเราะเหมือนคนบ้าทำไมเนี่ย
“ อะไรของพี่ ”
“ นานแล้วล่ะ กูเคยพูดแบบเดียวกันกับไอดิษ ตอนที่มึงไปคบกับผู้หญิงคนนึง มันน้อยใจเหมือนจะตาย กูพูดไอเมื่อกี้แหละ ไอดิษก็ถามแบบเดียวกับมึง ”
“ ใช้มุขเก่าเลยว่างั้นเถอะ ”
“ กูแต่งงานแล้ว กูรู้ว่าพวกมึงเป็นยังไง ” ไม่น่าพี่ปันก็ขอกลับ ผมกะจะไปส่ง แต่พี่ปันบอกว่ารอให้ผมคืนดีกับดิษก่อนค่อยมาประจบ เหอะๆ
“ คิม ”
“ ว่าไงแบงค์ กลับยังไง ” พี่กริชเดินมาแล้วครับ
“ พี่จะไปส่งเอง ..... พี่คงพูดอะไรไม่ได้ แต่พี่จะช่วย พี่ขอโทษนะ ”
“ พี่ทำไปเพราะห่วงมัน ผมจะอะไรกับพี่ได้ ” พี่กริชจับมือผม
“ นัทพูดถูก แบงค์ก็พูดถูก พี่เห็นแก่ตัว ทำให้เรื่องมันบานปลาย ”
“ ถ้าพี่จะช่วยก็แค่ดูแลแบงค์ให้ดีๆ ผมห่วงเพื่อนคนนี้ ” แบงค์ทำตาซึ้งใส่ผมครับ น้ำตาซึมเลย หึหึ
“ คิมล่ะ เราช่วยอะไรได้บ้าง ” แบงค์ถามผม
“ ไม่มีหรอก พี่ปันบอกหนทางให้เราแล้ว ...... แล้วนี่หายงอนกันหรือยัง ”
“ บ้าเหอะ ไม่มีทาง ” แบงค์รีบตอบเลยครับ
“ งั้นพี่ไปส่งแบงค์ แล้วค่อยเจอกันนะ ” ลากันเรียบร้อย ผมก็ไปลาพี่โจกับพี่นาก
“ คิม ไปส่งเราหน่อยเด้ ” ไอโต้งกับยัยนัทมันเมากันอยู่ก่อนแล้วครับ ทีแรกพี่กริชจะไปส่ง แต่เพราะต้องไปส่งแฟนเค้า สองคนนี้เลยไม่มีคนไปส่ง
“ มาสิ ผมไปนะพี่โจ พี่นาก ”
“ คิมๆๆ ” พี่นากวิ่งมาหาผมครับ
“ ครับพี่ ”
“ คืนดีกันเร็วๆนะ ” ผมได้แต่ยิ้มครับ ส่วนพี่โจก็โบกมือพร้อมกับชูกำปั้นให้ ทำนองว่าสู้ๆ จากนั้นผมก็ขับรถไปส่งไอโต้งกับยัยนัท
“ แคมมมม ”
“ มึงเมาแล้วติดเรทนะนัท ” มันขอนั่งหน้าครับ ให้สามีมันนั่งหลัง
“ ฮึก ชั้นมันไร้ค่าจริงๆเลย ฮืออ ”
“ อ้าว ไอโต้ง เมียมึง ...... พวกมึงร้องไห้กันทำไมวะ ” กะจะหันไปให้ไอโต้งปลอบเพราะผมขับรถอยู่ ไอสองคนนี้ดันร้องไห้กันทั้งคู่
“ ฮึก คิม ...... กูทำอะไรได้มากกว่านี้ไหมวะ ” ไอโต้งพูดกับผมทั้งน้ำตา นานแล้วครับที่ผมไม่เห็นมันร้องไห้เป็นเด็กน้อยแบบนี้ ที่จำได้ก็ตอนที่มันจะเลิกกับนัท เพราะมันไปเจาะไข่แดงเค้า
“ สองคนนี้นี่นะ ฮุ้ววววว ” ผมแวะจอดข้างทางเพราะทนเสียงร้องไห้ของมันสองคนไม่ได้ ตอนนี้ผมร้องไปหลายรอบจนไม่ร้องแล้วครับ
“ แกสองคนไม่ต้องร้อง กูโอเคแล้ว ”
“ แต่พวกชั้นไม่นี่ ” อะไรวะ
“ ไม่นี่อะไร ”
“ แกจำได้ไหมว่าพวกชั้นกลับมาคบกันเพราะใครน่ะ ” ผมยืนนึกครู่นึง
“ ใช่ที่กูดึงมึงสองคนมาเคลียร์ไหม ” ไอโต้งพยักหน้า
“ โห พวกมึงเอาไปคิดเป็นบุญเป็นคุณเลยเหรอ เหอะๆๆ ”
“ ไม่ใช่แค่พวกกูนะคิม เพื่อนๆเค้าก็รู้ กูยังเคยคิดเลยว่าถ้าแต่งงานวันไหน จะให้มันไปสู่ขอนัทให้ดู ” ยัยนัทตีแฟนมันผัวะๆเลย เหอะๆๆ เล่นเองเขินเองนะพวกมึง
“ กูยังไม่แก่ขนาดนั้นเว้ย แล้วก็ไม่ต้องคิดแบบนั้นหรอก กูทำไปเพราะ ..... ” พอนึกถึงเหตุผล ผมดันนึกไม่ออกครับ
“ ทำไม มึงพูดไม่ออกเหรอ ” รู้ดีอีกไอนี่
“ เออ ”
“ แกไม่ต้องบอกชั้นหรอกคิม เรื่องของจิตใจไม่ต้องอธิบายหรอก ” ยัยนัทนี่มีมุมน่ารักด้วยแฮะ
“ ก็ได้ ถ้าถามว่าช่วยอะไรได้อีกไหม มึงช่วยส่งแรงใจให้กูก็พอ ”
“ มึงจะทำยังไงต่อ ”
“ กู ........ กูจะจีบไอดิษ ”
“ ห๊ะ !!!! แกก็นอนกันจนแล้ว จะจีบอะไรอีก ”
“ แหม นอนกันแล้ว ไม่ว่ากูโดนเปิดซิงซะเลยล่ะ ” ไอสองคนนั้นเริ่มหัวเราะครับ
“ เอาน่าๆ ...... แต่ยังไง จีบอะไร ”
“ ..... คอยดูแล้วกัน ” จากนั้นผมก็พามันไปส่งที่ห้อง แล้วกลับหอพักครับ แต่แล้วพาถึงห้องผมก็ต้องตกใจสุดขีดครับ เพราะคนที่ยืนอยู่
“ ดิษ !!!!! ...... ”
*********************************************************
คิดถึงอะ แฮะๆๆ ขอบคุณทุกคนมากนะครับ และขอโทษจริงๆที่ไม่ต่อเนื่องเท่าไร เข้าใจกันเนอะๆ