ปากงี้...รักเลยซะดีมั้ย? (Mate become True love) : Hie_KunG
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ปากงี้...รักเลยซะดีมั้ย? (Mate become True love) : Hie_KunG  (อ่าน 286468 ครั้ง)

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
มาต่อหน่อยสิคร้า

ปล. เจ้ยืนยันนะเคอะว่า ภูหินร่องกล้าสวยน่าไปมากเคอะ  อิอิ  :impress2:

ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
สงสัยเรื่องนี้จะรู้ตัวพระเอก นายเอกซะแล้วสิ  เป็นต้นข้าวกับไผ่รึเปล่า  แกล้งกัดกันเพื่อปิดความรู้สึกตัวเองอะ  สายฟ้าก็รับบทเพื่อนที่แสนดีไป  น่าสงสารจริงๆ  เห็นเค้าแกล้งกันอ่า

ชอบเรื่องนี้มากๆ ดำเนินเรื่องน่าติดตามดี  เหมือนมีอะไรให้คอยลุ้นอยู่ตลอด 

รออ่านต่ออยู่นะ  เป็นกำลังใจให้กานต์คนโพสกับคนแต่งจ้า  o15

meemewkewkaw

  • บุคคลทั่วไป
ว้า . . . อุตส่าห์ลุ้นว่าจะไปทำอะไรกันในน้ำ อยู่ในอ้อมกอดแล้วเชียว :haun5:

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
ม่ายนะ ต้นข้าวคู่กับไผ่เหรอ   :serius2:  :serius2:
เชียร์สายฟ้า  เชียร์สายฟ้า  :like6:  :like6:

kYos

  • บุคคลทั่วไป
 :impress2: ว้าววว.. ถึงเนื้อถึงตัวกันสุดๆ  o3 o3

ออฟไลน์ Shumi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
รู้สึกเค้าจะเฉลย ตั้งแต่ตอนแรกสุด ก่อนเข้าเนื้อเรื่องนะ  :sad3:
ดูท่า คงอีกนาน นะเรื่องนี้  :sad2:

sabishiikant

  • บุคคลทั่วไป
ซักพักอาจารย์ก็เรียกทุกคนไปรับข้าวกล่อง

“อ้าว นายต้นข้าวกับนายทิวไผ่ไปทำอะไรกันมาน่ะ เปียกปอนกันมาเชียว ไม่มีชุดเปลี่ยนด้วยระวังเป็นหวัดล่ะ” อาจารย์นาถวดี ที่ปรึกษาประจำชั้นสอบถามด้วยความเป็นห่วง

“เราไปเล่นน้ำกันมาน่ะครับอาจารย์” ทิวไผ่ตอบอย่างยิ้ม ๆ ขณะที่ต้นข้าวหนาวจนปากสั่น เพราะน้ำในลำธารเย็นมาก เขายิ้มเจื่อน ๆ ให้อาจารย์ก่อนจะหันไปค้อนควับใส่ทิวไผ่อย่างแค้นเคือง

เมนูอาหารวันนี้ คือ กระเพราไข่ดาว ทุกคนกินกันอย่างเอร็ดอร่อยด้วยความหิว และเหน็ดเหนื่อยจากการทำงานกันมา หลังจากนั้นอาจารย์ ปล่อยให้ทุกคนพักผ่อนเดินเล่นชื่นชมความงดงามของธรรมชาติ ก่อนจะกลับอาจารย์เอากล้องมาถ่ายภาพหมู่ไว้เป็นที่ระลึก รถออกเดินทางกลับในเวลาบ่ายโมงเศษ ๆ

ต้นข้าวนั่งกอดอกตัวซีดปากเขียวอย่างหนาวเหน็บเมื่อรถวิ่งด้วยความเร็วทำให้ลมพัดประทะเข้ากับเสื้อผ้าเปียก ๆ ของเขา จนร่างกายบอบบางนั้นสั่นสะท้านจนเห็นได้ชัด แถมซ้ำระหว่างทางฝนดันตกลงมาอีก โชคยังดีอยู่บ้างที่รถยังมีหลังคาผ้าใบช่วยกันฝนได้บ้าง เสื้อผ้าที่เปียกปอนบวกกับไอฝนที่ถาโถมเข้ามาตามแรงปะทะของรถที่กำลังวิ่ง ยิ่งทำให้ต้นข้าวหนาวเหน็บจับขั้วหัวใจ
ทิวไผ่ลอบมองต้นข้าวและนึกสงสารขึ้นมาอย่างจับใจ นี่เขาแกล้งหมอนี่รุนแรงไปหรือเปล่านะ สายฟ้าถอดเสื้อแขนยาวให้เพื่อนรักใส่อีกตัวเมื่อเห็นอาการของต้นข้าวไม่สู้ดีนัก ด้วยความหนาวและเมื่อยล้า ต้นข้าวจึงผล็อยหลับไปบนตักของสายฟ้าในที่สุด
สภาพของทุกคนตอนนี้ ไม่ต่างอะไรไปจากต้นข้าวมากนัก ทุกคนมีอาการเมื่อยล้าและอ่อนเพลีย นั่งหลับกันโงนเงนไปมาเกือบทั้งคันรถ แม้แต่สายฟ้าเองก็ฟุบหลับไปกับต้นข้าว และเพื่อน ๆ ด้วย
ทิวไผ่นั่งมองสองเพื่อนรักนอนหลับไปด้วยกันอย่างอ่อนเพลีย และนึกเอ็นดูในสภาพเหมือนกับเด็ก นอนหลับยังไงอย่างงั้น ลมพัดน้ำฝนเข้ามาปะทะร่างทิวไผ่จนหนาวสะท้านเช่นกัน แต่สำหรับเขาแค่นี้ไม่มีปัญหาอะไร เพราะเป็นนักกีฬาร่างกายแข็งแรง ไม่เจ็บไข้ได้ป่วยง่าย ๆ อยู่แล้ว

รถกลับมาถึงโรงเรียนประมาณบ่ายสามโมงเย็น ทุกคนต่างแยกย้ายกันกลับบ้านด้วยอาการเมื่อยล้า บางคนมีผู้ปกครองมารับ หลายคนกลับเองตามปกติ

“ต้น...ต้น...ตื่นได้แล้ว ถึงแล้ว” สายฟ้าปลุกต้นข้าวโดยเขย่าร่างเบา ๆ

“อืม...ถึงแล้วเหรอ ปวดหัวจัง” ต้นข้าวสะลึมสะลือลุกขึ้นยืนอย่างช้า ๆ ทันใดนั้นก็เซถลาจนเกือบจะล้ม

“ต้น...ไหวมั้ย ให้เราไปส่งบ้านดีกว่า” สายฟ้าพูดอย่างเป็นห่วง และขันอาสาไปส่งบ้านเมื่อเห็นว่าเพื่อนอาการไม่ดีเอาเสียเลย

“ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวแม่มารับน่ะ” ต้นข้าวตอบมาอย่างเนือย ๆ ใบหน้าซีดเซียว

“เอางั้นเหรอ อืม...เรานั่งรอแม่นายเป็นเพื่อนละกัน อ๊ะ นั่นแม่เกดมาพอดีเลยปะ เราไปส่งขึ้นรถ” สายฟ้ากุลีกุจออย่างห่วงใย

“หวัดดีจ้ะลูกฟ้า ลูกต้น เอ๋...ทำไม่ลูกต้นของหม่ามี้น่าซีดจังล่ะจ๊ะ” เกศสินีสังเกตอาการของลูกชายสุดที่รักของเธอ และพูดอย่างเป็นห่วง

“หวัดดีครับคุณแม่ รู้สึกว่าต้นจะไม่ค่อยสบายน่ะครับ สงสัยทำงานหนักแล้วโดนฝนเข้าไปอีกนะครับ”

สายฟ้าบอกอาการของต้นข้าวให้มารดาเพื่อนรักของตนฟัง

“ตายแล้ว งั้นเดี๋ยวหม่ามี้พาไปหาหมอนะคะ”

“ไม่เป็นไรหรอกครับแม่กลับไปกินยาแล้วนอนพักต้นคงดีขึ้นครับ” ต้นข้าวตอบมารดาด้วยอาการเหนื่อยอ่อน

“ขอบใจลูกฟ้ามากนะจ๊ะ ที่ช่วยดูแลต้นข้าวของแม่น่ะจ้ะ”

“ไม่เป็นไรครับคุณแม่ ต้นกับผมเราเป็นเพื่อนกันครับ เพื่อนต้องดูแลเพื่อนอยู่แล้วครับ คุณแม่ไม่ต้องเกรงใจหรอกครับ งั้นผมขอตัวกลับก่อนนะครับ หวัดดีครับ”

“จ้ะลูก เดินทางดี ๆ นะจ๊ะ” เกศสินีพูดกับเพื่อนรักของลูกชายอย่างเป็นห่วง

 
...



“หวัดดีไผ่” สายฟ้าทักทายทิวไผ่ เมื่อก้าวเดินเข้ามาในห้องในเช้าวันใหม่

“ดีครับฟ้า ทำไมเสียงฟ้าแปร่ง ๆ ไปอ่ะ ไม่สบายเหรอ” ทิวไผ่ถามเมื่อได้ยินเสียงสายฟ้าที่ทักทายตัวเองผิดปกติไป

“ครับ ก็ทำงานตากแดดทั้งวันแถมมาโดนฝนอีก เลยเป็นหวัดนิดหน่อยน่ะครับ”

“กินยารึยังครับเนี่ย มาเรียนด้วย ไหวเหรอ ทำไมไม่นอนพักอยู่ที่บ้านซักวันก่อนล่ะครับ” ทิวไผ่ถามอย่างห่วงใย

“กินแล้วครับ” สายฟ้าตอบอย่างใจชื้นเป็นพิเศษ ที่ทิวไผ่เป็นห่วงตนเอง

“อืม...นี่สายแล้วยังไม่เห็นต้นข้าวมาโรงเรียนเลย” ทิวไผ่พูดเปรยขึ้นเมื่อไม่เห็นต้นข้าวคู่กัดของเขาโผล่เข้ามาซักที

“สงสัยจะนอนซมอยู่บ้านเพราะพิษไข้มั้งครับ ต้นอาการไม่ค่อยจะสู้ดีตั้งแต่ตอนกลับมาแล้วนะ ฟ้ายังไม่ได้โทรไปถามที่บ้านต้นเลย ว่าเป็นยังไงบ้าง” สายฟ้าสันนิษฐาน

เมื่อได้ยินสิ่งที่สายฟ้าพูด จิตใต้สำนึกของทิวไผ่ก็หวนกลับเข้ามาในห้วงความคิด ‘จริงเหรอ ถ้าหมอนั่นป่วยถึงขั้นนอนซมอยู่ที่บ้านเราก็มีส่วนผิดด้วยซินะ ที่ไปแกล้งเจ้านั่นหนักไปหน่อย ยิ่งบอบบางอยู่ด้วยสิ เป็นอะไรมากรึเปล่านะ’

“อื้ม...เอ่อ...สายฟ้าครับ เย็นนี้เราไปเยี่ยมต้นข้าวที่บ้านกันดีไหม” ทิวไผ่พูดด้วยสีหน้าที่ดูเรียบเฉย

“…ดีเหมือนกันครับไผ่ ฟ้าก็เป็นห่วงต้นมันเหมือนกัน” สายฟ้าตอบ ‘เดี๋ยวนี้ไผ่เป็นห่วงต้นด้วยเหรอเห็นเกลียดกันจะตายเจอหน้ากันกัดกันตลอดนี่นา’

หลังเลิกเรียน สองหนุ่มพากันขึ้นรถเมล์ไปบ้านของต้นข้าวทันที โดยสายฟ้าเป็นคนนำทาง ระหว่างทางสายฟ้า ลอบมองหน้า ทิวไผ่อย่างสับสน ทำไมทิวไผ่ แปลก ๆ ไป เขาห่วงใยต้นข้าวตั้งแต่เมื่อไหร่ ทั้งที่โดยปกติแล้วสองคนนี้ไม่มีทางญาติดีกันได้เลย ยิ่งคิดยิ่งทำให้ความหวาดกลัว และความหวาดระแวงเดิม ๆ ของสายฟ้า ในความสัมพันธ์ของเพื่อนทั้งสองกลับคืนมาอีกครั้ง

“ถึงแล้วครับไผ่...เดี๋ยวฟ้ากดกริ่งเรียกคนในบ้านก่อนนะครับ” สายฟ้าบอกทิวไผ่ เมื่อมาหยุดยืนอยู่หน้าบ้านเดี่ยวหลังหนึ่งซึ่งตั้งอยู่กลางซอย

“ครับ”
‘นี่เหรอบ้านนายหน้าใสนั่น น่าอยู่ดีนะ’ ทิวไผ่มองผ่านรั้วอัลลอยด์เหล็กดัดเข้าไปภายในบ้านทรงยุโรปโมเดิร์นสองชั้นตั้งอยู่ถัดเข้าไปจากสนามหญ้าหน้าบ้าน รอบ ๆ ตัวบ้านมีสวนหย่อมเล็ก ๆ และไม้ยืนต้นให้ร่มเงาช่วยทำให้บ้านร่มรื่นน่าอยู่มากขึ้น ทันใดนั้นมีสุนัขพันธุ์โกลเด้นรีทีฟเวอร์ กับไวท์ลาบาดอร์ สองตัววิ่งออกมาต้อนรับแขกที่หน้าบ้านพร้อมกับส่งเสียงทักทายด้วยการเห่าเสียงดัง จนทำให้แขกผู้มาเยือนครั้งแรกอย่างทิวไผ่สะดุ้งตกใจนิด ๆ

“เฮ้ จอห์นนี่ บ๊อบบี้ จำกันไม่ได้รึ” สายฟ้าส่งเสียงทักทายเจ้าสี่ขาสองตัวนั่น มันกระดิกหางร้องครางหงิง ๆ ทันทีอย่างคนคุ้นเคย แต่กลับจ้องมองทิวไผ่ซึ่งเป็นคนแปลกหน้าอย่างไม่เป็นมิตรนัก
 
“นี่ทิวไผ่เพื่อนฉันเอง เพื่อนต้นข้าวเจ้านาย ของแกด้วยนะ” สายฟ้าพูดกับเจ้า สองตัวนั่น ดูเหมือนว่ามันจะเข้าใจ ด้วยการกระดิกหางให้กับทิวไผ่ด้วย

“หวัดดี จอห์นนี่ บ๊อบบี้ ฉันมาเยี่ยมเจ้านายแกน่ะ” ทิวไผ่กล่าวทักทายเจ้าสองตัวนั้นบ้าง มันตอบมาด้วยการเห่าเบา ๆ หนึ่งครั้งและกระดิกหางไม่หยุด

   “อ้าว...ลูกฟ้า มาเยี่ยมต้นกันเหรอจ๊ะ” เกศสินีส่งเสียงทักทายผู้มาเยือน

   “หวัดดีครับ คุณแม่ ผมกับไผ่มาเยี่ยมต้นกันครับ เห็นไม่ไปโรงเรียนเลยคิดว่าต้องไม่สบายแน่ ๆ”

   “หวัดดีครับ เอ่อ...คุณน้า” ทิวไผ่ทักทายมารดาของต้นข้าว อย่างเกรง ๆ

   “เรียกแม่เหมือนลูกฟ้าก็ได้จ้ะลูกไผ่” เกศสินีทักทายด้วยความเป็นกันเอง

   “ครับ คุณแม่ ผมไม่เห็นต้นเค้าไปเรียนเลยเป็นห่วงน่ะครับ จึงชวนฟ้ามาเยี่ยม”

   “อ้าว...ยืนคุยกันตั้งนานเข้าบ้านกันก่อนดีกว่าจ้ะลูก ลูกฟ้าพาเพื่อนเข้ามาในบ้านก่อนนะจ๊ะ” เกศสินีชี้ชวนให้แขกของลูกชายเข้ามาคุยกันในบ้าน

   สายฟ้าและทิวไผ่เข้าไปนั่งกันที่ห้องรับแขก ที่ดูโอ่โถง บ้านของต้นข้าวถึงไม่ใหญ่โตนักแต่ก็เป็นครอบครัวที่ค่อนข้างมีฐานะอยู่พอสมควร เจ้าสี่ขาสองตัวเข้ามาคลอเคลียแขกผู้คุ้นเคยอย่างไม่ห่าง เพราะสายฟ้ามาที่บ้านนี้ทีไรเขาจะต้องพาจอห์นนี่ กับบ๊อบบี้ วิ่งเล่นกันที่สนามหญ้าหน้าบ้านจนหอบแฮ่ก ๆ ไปกันทั้งหมาและคน

   “วันนี้ฉันไม่ได้มาเล่นกับแกนะ ไว้วันหลังละกัน” สายฟ้าพูดและลูบหัวมันสองตัวที่มานั่งอยู่ตรงหน้า ท่าทางมันดูเหงา ๆ ลงอย่างเห็นได้ชัด

   “จอห์นนี่ บ๊อบบี้ มาหาฉันสิ” ทิวไผ่พูดและทำเสียงเรียกเจ้าสองตัวนั่น มันเดินมาหาและให้ลูบหัวอย่างว่าง่าย

   “จอห์นนี่ บ๊อบบี้ ออกไปวิ่งเล่นข้างนอกกันดีกว่าไป อย่ามากวนแขกสิ” เสียงสาวใหญ่เจ้าของบ้าน ไล่พวกมันออกไปเล่นข้างนอก เจ้าสองตัวนั่น วิ่งคลอเคลียกันออกไปนอกบ้านอย่างว่าง่าย

   “ลูก ๆ ดื่มน้ำหวานเย็น ๆ กับกินผลไม้ไปก่อนนะจ๊ะ เดี๋ยวแม่ขึ้นไปตามต้นให้จ้ะ”

   “ไม่เป็นไรครับแม่ ไม่ต้องให้ต้นลงมาก็ได้ครับ ให้ต้นนอนพักผ่อนดีกว่า” สายฟ้าตอบมารดาของเพื่อนรัก

   “เอางั้นเหรอจ๊ะ” เกศสินีนั่งลงที่โซฟาเดี่ยวตรงข้ามกับเด็ก ๆ

   “ต้นเป็นยังไงมั่งครับ คุณแม่” ทิวไผ่ถามถึงต้นข้าวอย่างเป็นห่วง จนสายฟ้าอดแปลกใจเสียไม่ได้

   “เมื่อวานที่แม่ไปรับเค้าที่โรงเรียนน่ะจ้ะ ต้นเค้าบอกว่า กลับบ้านกินยาเดี๋ยวคงหาย แต่พอมาอาบน้ำแล้วกินยา กลับตัวร้อนขึ้นกว่าเดิม แม่จึงพาไปหาหมอที่คลินิก ไปให้หมอตรวจ เพราะแม่กลัวต้นเป็นไข้ป่า หมอฉีดยาลด และบอกว่า แค่ไข้ขึ้นเพราะร่างกายปรับตัวกับสภาพอากาศไม่ทันเลยเป็นหวัดจ้ะ นอนพักซักสองสามวันคงหาย”

   “ขอเราขึ้นไปเยี่ยมต้นซักประเดี๋ยวได้มั้ยครับ” สายฟ้าขออนุญาตผู้เป็นเจ้าของบ้าน

   “ได้ซิจ๊ะ งั้น ตามแม่มานะ” เกศสินี เดินนำทางเพื่อน ๆ ของลูกชายขึ้นไปบนห้องชั้นสองของบ้าน

   “ลูกต้นจ๊ะ หลับอยู่รึเปล่า”

 “เปล่าครับแม่” ต้นข้าวตอบมารดา พร้อมกับขยับตัวขึ้นนั่งพิงหัวเตียงโดยใช้หมอนรองหลังไว้ เขาอยู่ในชุดนอน มีผ้าห่มคลุมช่วงล่างของลำตัวตั้งแต่เอวลงมา ใบหน้าของหนุ่มหน้าใสค่อนข้างซีดเซียวเพราะยังไม่ฟื้นตัวจากพิษไข้ดีนัก

“สายฟ้าพาเพื่อนมาเยี่ยมลูกแน่ะ”

“ไง ต้น เป็นยังไงบ้างดีขึ้นรึยัง” สายฟ้าส่งเสียงทักทายถามไถ่อาการด้วยความห่วงใย เมื่อเห็นใบหน้าซีดเซียวของเพื่อน

“ตามสบายนะจ๊ะ” เกศสินีพูดแล้วเดินลงไปข้างล่างให้ลูกชายกับเพื่อน ๆ ได้คุยกันเป็นการส่วนตัว

“อื้ม... ก็ค่อยยังชั่วขึ้นแล้ว พรุ่งนี้คงไปเรียนได้ แล้วเห็นแม่บอกว่า นายพาใครมาเหรอ”

“หวัดดี ว่าไงคุณหนู หายรึยัง” ยังไม่ทันสิ้นเสียงของต้นข้าวทิวไผ่ก็โผล่เข้าไปทักทายด้วยเสียงยียวน กวนประสาท เช่นเคย
   
   “ใครอนุญาตให้นายเข้ามาในบ้านและห้องของฉัน” ต้นข้าวแหวออกมาอย่างพาล ๆ เมื่อเห็นหน้าคนที่เขาไม่ชอบขี้หน้านัก

   “ก็ แม่นายไง อะไร นี่ คนอุตส่าห์เป็นห่วงมาพูดงี้ได้ไง ป่วยจริงเปล่าเนี่ยปากเก่งไม่หายเลยนะ”

   “ใครไปขอร้องให้นายเป็นห่วงฉันไม่ทราบ ถ้าจะมาปากมอมแถวนี้ ออกจากห้องฉันเดี๋ยวนี้นะ”

“ทำไม กลัวเราปล้ำมากรึไง สายฟ้าก็อยู่ทั้งคนกลัวอะไร” ทิวไผ่เยาะคนป่วยที่นอนอยู่บนเตียง

“ไอ้บ้า ถ้าคิดจะมาหาเรื่องกันล่ะก็ออกไปเลย ออกไปเดี๋ยวนี้” ต้นข้าวนึกฉุนคำพูดห้วน ๆ กวน ๆ นั้นอย่างระงับอารมณ์ไม่อยู่ เขาขว้างหมอนใส่คนยั่วโมโหอย่างไม่ยั้ง ทิวไผ่ยกมือขึ้นปัดป้องพัลวัน

   “ฟ้าครับ ผมลงไปรอข้างล่างนะ อยู่บนนี้เดี๋ยวโดนหมาบ้ากัดตาย” ทิวไผ่กระแทกเสียงใส่ต้นข้าวแล้วเดินลงไปข้างล่างทันที

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
เมื่อไหร่จาได้ฉากเข้าพระเข้านางล่ะถ้ายังทะเลาะกันแบบนี้  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
หุหุ พาไผ่ไปเยี่ยมนี่นะ คงจะหายเร็วหรอก  :sad2:

ken_krub

  • บุคคลทั่วไป
เป็นกำลังใจให้ครับ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






Jingjoh

  • บุคคลทั่วไป

ifwedo

  • บุคคลทั่วไป
อยากอ่านหวานนเหมือนกันรอๆๆ :sad2:

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
มารอฉากหวานอีกคน

meemewkewkaw

  • บุคคลทั่วไป
สงสัยจะอีกนานม้างเนี่ย กว่าจะได้หวานกัน :เฮ้อ:

ขอบคุณมากครับ :yeb:

sabishiikant

  • บุคคลทั่วไป
สายฟ้าได้แต่ยืนมองทั้งคู่ปะทะคารมและโต้เถียงกันอย่างงง ๆ ไหนทิวไผ่เป็นห่วงต้นนักหนาแล้วทำไมเจอหน้ากันยังกัดกันไม่ยอมลดราวาศอก แล้วที่ทิวไผ่บอกว่า ปล้ำ มันคืออะไร สายฟ้าครุ่นคิดด้วยความขุ่นข้องใจ

ต้นข้าวหันมามองหน้าเพื่อนรักอย่างคาดคั้น
 “นายพานายนั่นมาทำไมพามาเยาะเย้ย มาหาเรื่องเราถึงบ้านเลยนะ นายเป็นเพื่อนเรารึเปล่า เพื่อนตัวเองนอนป่วยอยู่แท้ ๆ กลับพาคนอื่นที่นายก็รู้ว่าเราไม่ชอบหน้ามาก่อกวน รึว่าเห็นคนอื่นดีกว่าเพื่อนคนนี้ไปซะแล้ว” ต้นข้าวพูดด้วยเสียงตัดพ้อน้อยอกน้อยใจเพื่อนอย่างสุดฤทธิ์
 
   “ต้นพูดแบบนั้นไม่ถูกนะ แล้ว นายก็ไม่น่าพูดแล้วก็แสดงกริยาแบบนั้นกับไผ่ด้วย รู้ไหมใครชวนเรามาเยี่ยมนาย”

   “อย่าบอกนะว่าไอ้ขี้เก๊กนั่นชวนนายมา”

   “ใช่ ท่าทางเค้าเป็นห่วงนายมากด้วย”

   “ใครใช้ให้นายนั่นมาห่วงเราล่ะ สำนึกผิดอ่ะดิ แต่เราว่าไม่ คงต้องการมาเยาะเย้ยเรามากกว่านายก็เห็นนี่ ตายห่าล่ะ...ทีนี้นายนั่นก็รู้จักบ้านเราน่ะสิ แถมเข้าถึงห้องเราด้วย สงสัยมีแผนอะไรแน่ ๆ โอ๊ย... ฟ้านะฟ้า นายตกเป็นเครื่องมือให้นายนั่นหลอกใช้มาแกล้งเราอีกแล้ว...โอ๊ย ปวดหัว...” ต้นข้าวกุมขมับ พร่ำบ่นอย่างฟุ้งซ่าน

   “บ้าน่า ต้น อย่างมองโลกในแง่ร้ายสิ ไผ่เค้าอาจจะเป็นห่วงนายจริง ๆ ก็ได้ ที่เค้ามีส่วนทำให้นายนอนซมอย่างนี้ไง แล้วเมื่อกี้นายก็ไปยั่วโมโหไผ่เขาก่อนนะ คนเค้าอุตส่าห์มาเยี่ยม กลับไปด่า ไปว่าเค้าเสีย ๆ หาย ๆ แบบนั้น”

   “นี่นายกำลังโทษเราอยู่นะ ไม่เห็นรึไง นายนั่นทักเราคำแรกพูดดีด้วยซะที่ไหนล่ะ”

   “อ่ะ ๆ ๆ พอแล้ว ไม่พูดแล้วเรื่องนี้ เดี๋ยวจะกลายเป็นมาเยี่ยมคนป่วยกลับมาทำให้ป่วยหนักลงไปอีก ดูแลตัวเองดี ๆ แล้วกัน กินข้าวกินยาพักผ่อนเยอะ ๆ อย่าคิดมาก แล้วหัดมองโลกในแง่ดีซะบ้าง หวังว่าพรุ่งนี้คงได้เจอนายที่โรงเรียนนะ เรากลับก่อนล่ะค่ำแล้ว บ๊ายบายนะ”
สายฟ้าตัดบทสนทนาเพราะคุยกันไปเรื่องคงไม่จบง่าย ๆ รังแต่จะทะเลาะกันเสียงเปล่า ๆ อีกอย่างตอนนี้ ต้นข้าวยังไม่ฟื้นไข้อยู่ด้วย

   “ขอบใจนายมากนะสายฟ้าที่เป็นห่วงเรา”

   “อื้ม...ไปล่ะ”

   “เดี๋ยวฟ้า...เอ่อ...ฝากขอบใจนายนั่นด้วยละกันที่อุตส่าห์เป็นห่วง”

   “ได้ เดี๋ยวบอกไผ่ให้ นอนได้แล้วจะได้หายเร็ว ๆ” 

   สายฟ้าเดินลงบันไดอย่างช้า ๆ ในหัวสับสนวุ่นวายไปหมดเพราะความคิดที่แตกแยกออกเป็นสองฝ่ายกำลังต่อสู้ห้ำหั่นกันอย่างเอาเป็นเอาตายอยู่ในสมองของเขา  สองคนนี้สร้างภาพแกล้งทะเลากันรึเปล่า เพราะในส่วนลึกก็ยังเป็นห่วงกันและกันอยู่ จะใช่หรือ ในเมื่อพบหน้ากันก็ทะเลาะกันทุกที ไม่มีอะไรที่จะลงรอยกันได้ แถมต้นข้าวยังเคยชกทิวไผ่จนเลือดกบปาก แล้วที่ทิวไผ่บอกจะปล้ำต้นข้าวล่ะ แล้วก็ตอนในห้องน้ำนั่นด้วย  ถ้าเกิดสองคนนั้นคิดอะไรกันจริง ๆ แล้วเราล่ะ... คนที่จะเจ็บปวดรวดร้าวคือเราสินะ ยิ่งคิดยิ่งสับสนวุ่นวายข้อมูลความคิด ตีกันยุ่งเหยิงพัลวันไปหมด จนหัวแทบจะระเบิดออกเป็นเสี่ยง ๆ เสียให้ได้

   “แม่ครับ ผมกับไผ่ขอตัวกลับกันก่อนนะครับ” สายฟ้าส่งเสียงกล่าวลาเกศินีที่กำลังวุ่นกับการหุงหาอาหารเย็นอยู่ในครัว

   “อ้าวลูกจะกลับกันแล้วหรือจ๊ะ ทำไมไม่รอทานข้าวเย็นกันก่อนล่ะ แม่กำลังทำกับข้าวเลย” เธอวางมือจากงานครัวชั่วคราวแล้วเดินมาคุยกับเด็ก ๆ ที่ห้องรับแขกที่ทิวไผ่นั่งเล่นรออยู่ก่อนแล้ว

   “เอ่อ...เราไม่รบกวนดีกว่าครับอีกอย่างเย็นมากแล้ว ไม่ได้บอกทางบ้านไว้ด้วยครับ ไว้โอกาสหน้าละกันครับ รับรองผมจะมากินอาหารฝีมือคุณแม่แน่นอนครับ” สายฟ้าพูดกับมารดาของต้นข้าวอย่างสนิทสนม

   “งั้นพวกเราลาก่อนนะครับ หวัดดีครับคุณแม่ขอให้ต้นหายเร็ว ๆ นะครับ” ทิวไผ่กล่าวลาเจ้าของบ้าน

   “จ้า เดินทางดี ๆ นะจ๊ะลูก ๆ โชคดีจ้ะ”

   สองหนุ่มเดินออกจากบ้านของต้นข้าว โดยมีสองสหายสี่ขาตามมาส่งถึงประตูรั้ว พวกมันส่งเสียงครางหงิง ๆ ทำตาม่อย ๆ เมื่อคนคุ้นเคยที่เคยพาพวกมันวิ่งเล่นเป็นประจำกำลังจะจากไป สายฟ้าและทิวไผ่สั่งลาเจ้าสองตัวนั้นโดยการลูบหัวเบา ๆ เจ้าบ๊อบบี้กระโดดขึ้นใช้สองขาหน้าเกาะเอวสายฟ้าเพื่อเหนี่ยวรั้งไว้เป็นเชิงอ้อนวอน เจ้าตัวร้ายอีกตัวก็นั่งทำหน้าเศร้าอย่างเหงาหงอย แววตาดำขลับของมันบ่งบอกถึงความอาลัยอาวรณ์

   “เดี๋ยวว่าง ๆ ฉันจะมาเล่นกับพวกแกน้า วันนี้จะกลับแล้ว ดูแลบ้านและเจ้านายของพวกแกดี ๆ ล่ะ”

สายฟ้าสั่งลา พลางลูบหัวมันสองตัวเบา ๆ เจ้าบ๊อบบี้ได้แต่ครางหงิง ๆ ส่วนเจ้าจอห์นนี่เห่าเสียงดังสองครั้ง เชิงว่าเข้าใจที่สายฟ้าพูด สายฟ้าและทิวไผ่จ้องมองในความแสนรู้ของพวกมันอย่างเอ็นดู

   “นี่ไผ่ครับ ต้นฝากขอบคุณมาสำหรับความห่วงใยด้วยนะ” สายฟ้าตัดสินใจบอกสิ่งที่ต้นข้าวฝากมา หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่นาน ระหว่างเดินออกไปหน้าปากซอยเพื่อขึ้นรถเมล์กลับบ้าน

   “ใครห่วงนายนั่นเหรอ.... แน่ใจนะ ว่านายนั่นฝากขอบคุณมาจริง ๆ เห็นอยู่ต่อหน้ายังกับจะฆ่ากันซะให้ได้ยังงั้นแหละ” ทิวไผ่ทำหน้าเหรอหราพูดอย่างไม่อยากจะเชื่อที่สายฟ้าพูดนัก

   “จริง ๆ ต้นบอกฟ้าตอนที่ฟ้ากำลังจะออกจากห้องน่ะ เอ่อ...ถ้าไผ่ไม่ห่วงต้น แล้ว...ไผ่ชวนฟ้ามาเยี่ยมต้นทำไมเหรอ...”

สายฟ้าตัดสินใจพูดในสิ่งที่ตนเองครุ่นคิดทบทวนมาหลายรอบอย่างสงสัยเพื่อหยั่งเชิงปฏิกิริยาตอบสนองของทิวไผ่ซึ่งเดินอยู่ข้าง ๆ หนุ่มหน้าคมเข้มผู้ขโมยหัวใจเขาไปตั้งแต่วันแรกที่พบกัน

   “ก็ เรามีส่วนทำให้นายนั่นป่วยนี่นาที่ไปอุ้มนายนั่นโยนลงน้ำด้วย ไม่นึกว่าจะไข้ขึ้นจนนอนซมขนาดนี้” ทิวไผ่ตอบไปตามความจริงที่กลั่นกรองออกมาจากจิตใจ ซึ่งเป็นคำตอบที่สายฟ้าพอใจและไม่ได้นึกคลางแคลงใจอะไรแต่อย่างใด

...

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
กว่าจะยอมคุยกันเนอะ
 :try2:

ken_krub

  • บุคคลทั่วไป
เป็นกำลังใจให้ครับ

Hie_KunG

  • บุคคลทั่วไป


 :laugh3:...หวัดดีค้าบบบบ ทุกคน ...สอบเสร็จแล้วฮะ (2-3 วันแล้วอ่า อิอิ หนีไปรีแล็คมา มะได้ไปไหนหรอกกิน ๆ นอน ดูหนังฟังเพลง อ่ะคับ).... เลยได้โอกาสแว๊บเข้ามาทักทายแฟน ๆ และคนโพสต์อ่าจ้ะ อิอิ o18
...ดีใจมากมาย ที่มีแฟน ๆ ตามให้กำลังใจอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง เปงปลื้มมากมายเรยอ่า.....  :-[



เดี๋ยวผมจะเขียน ตอนพิเศษ ของ 4 หนุ่ม ฝากพี่กานต์ไว้ให้นะคับ...อิอิ... :teach:


...มะวานผลแอดฯ ออกแล้ว  น้อง ๆ เปงไงกันบ้างเอ่ย ใครสมหวังก็ยินดีด้วยครับ ใคร ผิดหวังก็ขอเป็นกำลังใจให้สู้ต่อไปคับ สู้โว้ยยยย!!!!... o7
...แล้วก็เตรียมตัวโดนรับน้องจากรุ่นพี่ได้เร๊ยยยย  เหอๆ...อีก 2 อาทิตย์ ก็จะเปิดเทอมแล้ว อิอิ ส่วนน้อง ๆ ที่อยุ่มัดยมก็จะเปิด เทอม อีก 2-3 วัน กันนี้แล้วจิ เตรียมตัวพร้อมกันยังเอ่ยยยย... o3



 ...วันนี้บ๊ะบาย มีความสุขทุกคนนะค้าบบบ ...
:bye2:



ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
เจ้เข้ามาติดตามตัวละครที่ชื่อ สายฟ้า เคอะ  อยากรู้ว่าเขาจะทำไงต่อไป

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
อ่ะ ฮีจังมาด้วย ว่างกับเขาแล้วหรอ
จะมีใครได้เจอเรื่องรับรองแบบนี้จริงๆมั่งป่าว
 :impress2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
ยิ่งอ่าน ยิ่งเห็นใจสายฟ้า โถพ่อคุณ (เริ่มเหมือนแม่ยกเข้าไปทุกที) ซื่อจริง ๆ  :try2:  :try2:

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
สรุปสายฟ้าเรา จะกินแห้วมั้ยเนี่ย

ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
คุณฮิจัง ชื่อน่ารักจังอ่า  :give2:

สงสารสายฟ้าเหมือนกันเนอะ กลายเป็นเพื่อนที่บอกความรู้สึกตัวเองก็ไม่ได้  o7

Jingjoh

  • บุคคลทั่วไป
คุณฮิเอะ อย่าใจร้ายกับสายฟ้านะงับ
จิงโจ้ขอร้อง
 :dont2:

kYos

  • บุคคลทั่วไป
ว้าววว คนเขียนเข้ามาทักทายกานด้วย  :like6:
ชอบเรื่องนี้มากเลย น่าติดตามได้ตลอด  o17

ifwedo

  • บุคคลทั่วไป
เลิศศ

meemewkewkaw

  • บุคคลทั่วไป
ดีกันไวๆน๊า . . . แอบลุ้นแอบเชียร์ :like6:

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
รออ่านต่อจ้า  :teach:

คนเขียนคงไม่ใจร้ายให้สายฟ้าต้องอยู่โดดเดี่ยวหรอกนะ  :dont2:

sabishiikant

  • บุคคลทั่วไป
บทที่ 5 : มหา’ลัยในฝัน

   ต้นข้าวนอนพักรักษาตัวด้วยพิษไข้ จากการโดน คู่กัดตัวแสบแกล้งจนนอนซม อยู่ 2-3 วัน ก็หายเป็นปกติ เช้านี้ อากาศดูสดชื่นอย่างมาก หนุ่มน้อยหน้าใสตื่นนอนอย่างกระปรี้กระเปร่า ลุกจากที่นอนอาบน้ำแปรงฟัน เพื่อเตรียมตัวไปโรงเรียนตามปกติเช่นทุกวันที่ผ่านมา หลังจากนอนซมอยู่บ้านทนอุดอู้น่าเบื่อมาสามวันเต็ม ๆ

นี่ก็ใกล้ปลายฝนต้นหนาวแล้ว ปิดเทอมนี้ ฤดูกาลแห่งการสอบคัดเลือกเข้ามหาวิทยาลัยรอบโควตา คงจะเริ่มขึ้น เด็ก ๆ รุ่นราวคราวเดียวกับต้นข้าวต่างเตรียมตัวอ่านหนังสือ และเรียนกวดวิชากันมาแต่เนิ่น ๆ เพื่อชิงความได้เปรียบในการสอบแข่งขัน ซึ่งใครที่พร้อมเท่านั้นที่จะสามารถสอบเข้าไปเรียนในคณะ และมหาวิทยาลัยที่ตนใฝ่ฝันและปรารถนาไว้ได้สำเร็จ
ต้นข้าวกับสายฟ้าเคยพูดคุยกันว่า สายฟ้าอยากเรียนทางด้านสาขาวิทยาศาสตร์สุขภาพ แต่ต้นข้าวกับไม่ชอบทางนี้เอาเสียเลย เขาอยากเรียนกลุ่มมนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์ซะมากกว่า เพราะเป็นอะไรที่ไม่น่าจะปวดหัว และสนุกสนานมากว่าสายแพทย์ที่ต้องท่องตำราภาษาอังกฤษมากมายและยังมีการคำนวณอีกนักต่อนัก
ซึ่งพ่อแม่ของเขาก็ไม่ได้ห้ามปรามหรือคัดค้านแต่อย่างใด เพราะการได้เรียนในสิ่งที่ชอบและรัก จะทำให้ประสบผลสำเร็จในชีวิตและหน้าที่การงานมากว่าที่ถูกครอบครัวบังคับหรือการเลือกเรียนตามเพื่อนเสียอีก ซึ่งบางครั้งทำให้ค้นหาเป้าหมายในชีวิตไม่เจอ หรือเจอเมื่อช้าและสายไปแล้ว

ที่โรงเรียนของต้นข้าว มีการจัดติวให้นักเรียนจากอาจารย์ฝ่ายแนะแนวและสาขาวิชาต่าง ๆ ของโรงเรียน เป็นประจำช่วงหลังเลิกเรียน และหนึ่งเดือนก่อนสอบ จะเป็นการติวเข้มมากขึ้น ซึ่งต้นข้าวจะเข้าติวบ้างเมื่อมีโอกาส ส่วนใหญ่จะอ่านหนังสือเองส่วนสายฟ้าและทิวไผ่ จะเข้าติวสม่ำเสมอกว่า และทิวไผ่อาจเป็นแรงจูงใจและเหตุผลหนึ่ง ที่ทำให้สายฟ้าจะได้ใกล้ชิดคนที่ตนแอบปลื้มอยู่ ถึงแม้มันจะเป็นความรู้สึกฝ่ายเดียว แต่มันก็ทำให้สายฟ้ามีความสุขและร่าเริงแจ่มใสอย่างบอกไม่ถูก ในบางครั้งสองเพื่อนรักก็นัดติวกันเองที่บ้านของใครคนใดคนหนึ่งในช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์

“ต้น เย็นนี้ไปติวกับเราไหม” สายฟ้าถามเพื่อนรัก

“อืม ไปดิ ไม่ติดธุระอะไรหลังเลิกเรียนหรอก เข้าฟังอาจารย์พูดบ้างก็ดีเหมือนกัน อ่านเองบางทีไม่เข้าใจอ่ะ” ต้นข้าวตอบ

หลังจากเลิกเรียนแล้ว ต้นข้าว สายฟ้า และเพื่อน ๆ ต่างเข้าฟังอาจารย์บรรยายกันที่ห้องประชุมอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา โดยที่คู่กัดสองคนยังคอยส่งสายตาจิกกันไปมาเช่นเคย จนคนนั่งคั่นกลางซึ่งทำหน้าที่คอยเป็นกรรมการห้ามมวยเกิดอาการเบื่อหน่ายชาชินเสียแล้ว

วันนี้มีการติววิชาภาษาอังกฤษ โดยอาจารย์ฝรั่งชาวอเมริกันที่สอนประจำอยู่ที่โรงเรียนของพวกเขามาหลายปีแล้ว อาจารย์พูดไทยค่อนข้างคล่อง และสนิทสนมเป็นกันเองกับเด็ก ๆ ทั้งโรงเรียน การเรียนการสอนจึงเป็นไปอย่างสนุกสนาน ทำให้เด็ก ๆ ไม่เกิดเบื่อหน่าย

การติววันนี้จบลงที่เวลาหนึ่งทุ่มเศษ เด็กทุกคนต่างพากันแยกย้ายกันกลับบ้าน สายฟ้าและต้นข้าว ได้นัดติวและอ่านหนังสือด้วยกันที่สวนหลังบ้านของต้นข้าวในวันเสาร์นี้ก่อนที่จะแยกย้ายกันกลับ


...

ในวันเสาร์ หลังจากทำกิจวัตรธุระประจำวันเสร็จเรียบร้อย ต้นข้าวลงมานั่งดูทีวี ที่ห้องรับแขก เพื่อรอสายฟ้ามาติวหนังสือด้วย

“อื้ม วันนี้ลูกนัดสายฟ้ามาติวหนังสือกันใช่ไหมจ๊ะ หม่ามี้เตรียมของว่างไว้ให้แล้วนะคะ มีผลไม้สด กับ คุกกี้ค่ะ”

“ขอบคุณครับแม่ เดี๋ยวสาย ๆ ฟ้าคงมาน่ะครับ สงสัยตอนเช้าคงพาคุณยายไปทำบุญที่วัดอยู่ฮะ”

ต้นข้าวกล่าวขอบคุณมารดาคนสวยของตน  ซักพักเสียงกริ่งหน้าบ้านก็ดังขึ้น พร้อมกับเสียงอันดังในการทักทายแขกผู้มาเยือนของเจ้าสี่ขาคู่หูเพื่อนยาก ต้นข้าวกำลังจะลุกออกไปเปิดประตูแต่เกศสินี บอกว่าเดี๋ยวจะออกไปเปิดเอง แล้วให้ต้นข้าวไปเตรียมหนังสือ และอาหารว่างที่เธอจัดไว้คอยรับรองเพื่อนที่ศาลานั่งเล่นกลางสวนหลังบ้าน ซึ่งเป็นมุมสงบและร่มรื่นมีลมพัดเย็นสบายตลอดเวลาท่ามกลางสนามหญ้าและสวนหย่อมเขียวชอุ่ม เหมาะที่จะเป็นมุมนั่งเล่นพักผ่อนหย่อนใจ และอ่านหนังสือยิ่งนัก

ต้นข้าวกลับเข้ามาที่ห้องรับแขก เห็นสายฟ้านั่งพูดคุยอยู่กับทิวไผ่และมารดาของตนก็ให้รู้สึกแปลกใจกับแขกที่ไม่ได้รับเชิญ และนึกฉุนและเคืองเพื่อนรักขึ้นมาในทันทีที่กล้าพาคู่อริของเขาเข้าบ้านเป็นครั้งที่สอง ซึ่งทิวไผ่ส่งสายตาให้อย่างท้าทาย แต่ด้วยความเกรงใจมารดาของตน ต้นข้าวได้แต่มองตอบด้วยสายตาขุ่นมัว สลับกับมองสายฟ้าอย่างเคือง ๆ ที่ไม่ยอมบอกว่าจะมีคนอื่นมาด้วย ซึ่งแน่ล่ะ ถ้ารู้ว่าทิวไผ่จะมาด้วยต้นข้าวต้องไม่ยอมอย่างแน่นอน สายฟ้าจึงไม่บอกให้ต้นข้าวรู้ล่วงหน้า

“เอ่อ ต้น ไผ่โทรมาหาฟ้าเมื่อเช้า เค้าขอมาติวกับพวกเราด้วยน่ะ” สายฟ้าพูดแก้ต่าง

“อื้ม ดีจ้ะลูก ๆ หลาย ๆ คน ช่วยกันแชร์ความรู้กัน งั้นตามสบายนะคะ แม่ขอตัวไปทำงานบ้านก่อนนะ”

ไม่ทันที่ต้นข้าวจะอ้าปากเอ่ย เกศสินีก็ชิงพูดตัดหน้าเสียก่อน แล้ว แยกไปทำงานบ้านที่คั่งค้างไว้

“ใครอนุญาตให้นายมาบ้านฉันอีก” ต้นข้าวทักทายหนุ่มหน้าเข้มด้วยเสีย ห้วน ๆ

“ก็แม่นายไง ไม่ได้ยินที่แม่นายพูดเมื่อกี้หรอ รึว่าหูตึง” ทิวไผ่แขวะกลับมาอย่างเจ็บแสบ

“นี่สองคนนี้ จะพูดกันดี ๆ ชาตินี้จะมีซักครั้งไหมกัดกันอยู่ได้ มาติวหนังสือนะไม่ใช่มาปะทะคารมหรือโต้วาทีกัน”

สายฟ้าชิงห้ามมวยก่อนที่ต้นข้าวจะทันได้ตอบโต้กลับคำพูดของทิวไผ่ พร้อมกับลุกขึ้นเดินออกไปที่สวนหลังบ้านทันทีอย่างคนคุ้นเคย โดยที่มีทิวไผ่ลุกเดินตามไปด้วย แต่ไม่วายทำยักคิ้วหลิ่วตาใส่หนุ่มร่างบาง อย่างผู้เหนือกว่าจนฝ่ายหลังโกรธจนแทบเต้นที่ทำอะไรไม่ได้ทั้งที่อยู่ในบ้านตัวเองแท้ ๆ ทั้งยังเกรงใจมารดาของตนด้วย
“ไผ่จะเลือกเรียนอะไรหรอ ครับ” สายฟ้าถามทิวไผ่ขึ้นระหว่างที่นั่งอ่านหนังสือด้วยกันอยู่

“อืม ยังไม่แน่ใจเลยครับฟ้า ไผ่ว่า จะคอยดูคะแนนก่อนน่ะครับ” ทิวไผ่ตอบ

“แต่คนเราก็ต้องมีเป้าหมายบ้างนะครับ ว่าชอบอะไร อะไรที่เหมาะกับเรา” สายฟ้าแย้ง

“ก็มีบ้างครับ ไผ่ อยากเรียนทางสังคมศาสตร์น่ะ คิดว่ามันคงไม่หนักเกินไป”

“หรอครับ เหมือนต้นเลย ต้นชอบสายมนุษย์สังคม แต่ฟ้าชอบสายวิทย์สุขภาพน่ะ จะได้ช่วยเหลือชาวบ้านที่เจ็บป่วย”

“เหมือนตรงไหน สายมนุษย์สังคมมีตั้งหลายคณะ หลายเอก อย่ามาโบ้ยน่า” ต้นข้าวหาเหตุง้องแง้งขึ้นมาอย่างข้าง ๆ คู ๆ เมื่อโดนว่าชอบอะไรที่เหมือนกับทิวไผ่ คนที่ตนไม่กินเส้นด้วยเอามาก ๆ

“เราหมายถึงสายงานอาชีพกว้าง ๆ น่ะ นายนี่ เฮ้อ....” สายฟ้าถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย ส่วนต้นข้าวก็ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้อ่านหนังสือของตนต่อไป

ตลอดทั้งวันการติวหนังสือรู้สึกจะไม่เต็มที่นัก เพราะสายฟ้าต้องคอยอย่าศึกปะทะฝีปากเป็นระยะ ๆ เพราะต้นข้าวและทิวไผ่มักจะมีความเห็นไม่ลงรอยกันเสมอ ๆ จนบางครั้งก็เบื่อที่จะห้าม แต่ก็ยังโชคดีบ้างที่บางจังหวะมารดาต้นข้าวยกน้ำหวานมาเสิร์ฟพอดี ทำให้สงครามน้ำลายสงบลงไปได้ชั่วขณะหนึ่ง

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
ต้นข้าวกับทิวไผ่จะได้อยู่คณะเดียวกันมหาลัยเดียวกันมั้ยอ่ะ อิอิ นึกแล้วน่าสนุก :laugh3:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด