lady---ตกลงรูปน้องควีนรึรูปตัวเองอ่ะ หายป่วยแน่แล้วชิมิ รักษาสุขล่ะ
namtaan---น้องปันปันที่เรียนเภสัช จุฬาแล้วก็เล่นเปียโนเก่ง ร้องเพลงเก่งด้วยใช่มั้ย ---คนไรจะใกล้เพอร์เฟคขนาดนี้ฟะ น่ารักค่อดดดด
Vesiiiiiiiiiiiii , yeyong !!!!
อรุณสวัสดิ์
*********************************************
ลมเหนือที่รัก
ตอน39 เพราะคนนี้
------------------
yeaw's insight
ห้าโมงเย็น ห้องซ้อมดนตรีบ้านเจฟฟรี่
"มึงปล่อยมาได้ไงเหยี่ยว" เจฟฟรี่ไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยทัก ผมหยุดตีกลองหันมอง
"ปล่อยไร?"
"ลม...เด็กลมนั่น มีจักรยานปั่นมาเอง กูก็ชอบ แต่มึงรู้มั้ยทำไมกูให้โจ๊กไปรับถึงหน้าคอนโดมึง"
"ไมวะ?"
"ตรงโกดังกลางซอยที่บอกจะรื้อแต่ยังไม่รื้อ แถวนั้นมีเด็กเล่นยาซ่องสุมอยู่ ขามาไม่เป็นไรแต่ขากลับค่ำไปกูเป็นห่วง"
ผมลอดหน้าต่างบานกระจก อีกห้องติดกัน เด็กเสื้อสีน้ำเงินสดกำลังพรมนิ้วบนเปียโน ริมฝีปากกำลังคลี่ยิ้มพรายน้อยๆ ดื่มด่ำ
"แล้วเสือหมอบ 'กิ๊กลม'ของมันราคาก็ไม่ใช่น้อย ๆ ถึงไม่ใช่คนเล่นจักรยานแต่ดักฉุดไปขายได้ ไม่แน่อาจเล่นคนด้วย ถึงตอนนั้นคนน้ำตาตก...ไม่ใช่กูแน่" พูดหน้านิ่งเสียงเหี้ยม เกากีต้าร์ต่อไม่สนแต่ผมแทบทำไม้กลองหลุดมือ
"...เค้าจะมาหามึงให้ได้" ได้กิ๊ก 2 รีบรี่มาหากิ๊ก 1 ทันที ‘ไปหาสุดที่รักสุดโปรดเต็งหนึ่งของลม’ ยังติดรูหู ...ทิ้งเก็ทกับบีไปดูหนังกันสองต่อสอง เห่อจะปั่นจากลาดพร้าว บ้าเหร๊อ ผมสั่งไอ้บัดดี้บอยยกขึ้นรถส่งของที่ร้านให้เดลิเวอรี่ตรงถึงหน้าคอนโด ขับตามกันมาตุ๊กตานั่งข้างฮัมเพลงคลอมาตลอด ได้แต่อมยิ้มตอบ
ถึงหน้าคอนโด ไม่ยอมขึ้นห้อง...เอาลงจากรถปิคอัพปุ๊บ-ปั่นวนเป็นนานกว่าจะมาบ้านเพื่อนผมยาวได้
"เหยี่ยว ...ลมมันมาหากูหรือมาหาเปียโนหลังนั้นกันแน่ แหกตาดูดีๆ หึงไม่เข้าเรื่อง"
ชิส์ เจฟฟรี่ ...รู้ไปหมด ท่าทางจะเป็นลาบราดอร์กลับชาติมาเกิดนะมึงเนี่ย
---------------------------
"เจฟฟรี่?"
"หือ..."
"กู...จริงจังกับเค้าดีมั้ยวะ?" ผมถามตรง
"ถามใจมึงเองก่อนจะถามกู"
"เค้าเต็มใจกะกูรึเปล่า...?" ผมละเมอ
"ระดับมึงจะดูไม่ออกเชียวเหรอวะ...รึต้องให้บอก"
"เฮ้ย กูจริงจัง!" มันถอนใจยาว
"กูไม่เคยเห็นใครเป็นตัวของตัวเองเท่าเด็กลมมาก่อน พอใจมั้ย" คนที่ผ่านมาไม่เสแสร้งทำดี ก็หลอกหวังอะไรซักอย่างจากผม
"เออ ช่วยได้มากว่ะเพื่อน" ผมแยกเขี้ยว
"เหยี่ยว...มึงแค่ไม่ต้องเสียดายรึเสียใจทีหลัง ผลออกมาหัวรึก้อย กูว่าคุ้มที่จะเสี่ยงว่ะ"
"มึงรู้ไรมาวะ?"
"ไม่รู้ดิ กูว่า กูดูคนไม่ผิดหรอก" ยกนิ้วชี้จมูกจมูกตัวเอง
.........................................
....................................................
เหตุผลลึกๆ คือ พ่อมีคนรักเก่า ซุกไว้ในใจหลายปี ไม่แยกทางกับแม่เด็ดขาด หนีมาอยู่เมืองไทยใช้ชีวิตกับชู้ ผมเคยแอบเห็น ผู้หญิงไทยคนนั้นเหมือนย่ายังกับแกะ ใบหน้าพิมพ์ไทยสวยหวาน รูปร่างเล็กแบบบาง...ช่างคล้ายคลึงลมเหนือของผม
เพียงแต่คนของผมผิวขาวใสกว่า จมูดโด่ง ปากแดงออกทางฝรั่งมากกว่า
เหตุผลลึกๆ ที่ผมสะดุดตากับดวงหน้านี้ในแว่บแรกหรือไร...
...ดวงหน้าที่ปู่รักย่า เป็นผู้หญิงที่อยู่ใกล้ชิดไม่ห่าง
...ดวงหน้าที่พ่อเก็บซ่อนไว้เป็นคนรัก
...ดวงหน้าที่ผมอยากเก็บกักลมเหนือเอาไว้กับตัว
ผู้ชายบ้านในชอบคนประมาณนี้งั้นเหรอ ท่าจะไม่ใช่แค่สายเลือดคงส่งผ่านฝังดีเอ็นเอมาด้วยแน่
-----------------------------------
แม่ไฮโซกรีกที่ถูกคลุมถุงชนรับไม่ได้ รู้เรื่องทีหลังกลายเป็นคนอารมณ์ร้าย ลงไม้ลงมือตีผมตั้งแต่ 4-5ขวบ
ทั้งๆ ที่ผมโตมากับย่า ผู้หญิงไทยแสนหวาน แสนอ่อนโยน พูดอังกฤษได้น้อยคำ มีเพียงรอยยิ้มประดับพร้อมยื่นมือมาลูบตัว โอบกอดผมเสมอ ทำอะไรให้เงียบๆ ละมุนละไม...ให้ความรู้สึกคล้ายอยู่ในแสงแดดอุ่น แต่ผมคงโหยหาอ้อมกอดของพ่อหรือแม่อยู่ลึกๆ
ภาพที่จำได้คือ คนรับใช้จะดูแลสภาพผมให้สะอาด เรียบร้อย ดูดีต้อนรับพ่อกับแม่ที่เดินเข้าบ้าน แตะแก้ม ลูบศรีษะผมเล็กน้อยแล้วเดินขึ้นห้อง-พื้นที่ส่วนตัวของใครของมัน รอเวลาออกไปงานตอนค่ำอีกงาน
ย่าจะจูงมือผมออกไปทานข้าว หรือเรียนพิเศษ...ผมโตมากับคนรับใช้ ดีที่มีย่าคอยประคับประคองจิตใจ
...ที่ผมสะดุดใจกับลมเหนือเพราะเหตุผลลึกๆ นี้หรือไรนะ
--------------------------------------------------
จำได้... ตอนนั้นอยู่อเมริกา ย่าเพิ่งเสียชีวิต พ่อจากไปทำงานที่ไหนซักแห่งในโลก
ในงานศพนั่น... ป้ายหินอ่อนสีขาวมีชื่อย่าอยู่ ผมกุมมือน้องชายฝาแฝดของปู่ -ปู่อีกคนที่ชื่อ อเล็กซานเดอร์แน่น ไม่มีน้ำตา รู้แน่ชัดว่าย่าจากผมขึ้นสวรรค์ตามปู่ไปแล้ว จากผมไปด้วยโรคมะเร็งหรืออะไรซักอย่างที่ไม่น่าจดจำ
ค่ำนั้น...แม่เรียกหาผม ดีใจ หัวใจพองโตไม่เคยเป็นมาก่อน---แต่แม่กลับตีผม ตีด้วยมือของท่านเอง!!!
จากนั้นมา...ทุกๆ ครั้งที่ผมเดินผ่านหรือแม่เข้ามาเจอผม จะหาเหตุเสียงดัง ด่าทอผม 'แกเกิดมาทำไม ทำไมถึงหน้าเหมือนคนที่ทรยศชั้นขนาดนี้ ทำไมมาอยู่ที่นี่' แล้วก็จิกเนื้อตัว ตีผม
รับรู้เพียงว่า พ่อไม่อยู่คุ้มครองผมเพราะพ่อมีผู้หญิงคนใหม่ ...อยากให้แม่-ราชินีของผมกลับคืนมา และลึกๆ ผมคิดถึงย่าเหลือเกิน ถึงจะมีน้ำตานองหน้าเพราะเจ็บเนื้อตัวแต่ผมไม่เคยปล่อยเสียงร้องเล็ดลอด ได้แต่ปล่อยให้แม่สาแก่ใจอยู่ฝ่ายเดียว แล้วมองแม่แสนสวยสะอื้น...ซบหน้าลงกับฝ่ามือตัวเองแล้วร้องไห้
มีปู่อเล็กซานเดอร์นั่นแหละที่เข้ามาช่วยผม ดึงผมไปอยู่ด้วยเวลาหลังเลิกเรียน วันเสาร์-อาทิตย์ อ่านหนังสือให้ฟัง สอนมารยาทสุภาพบุรุษ
ครึ่งปีต่อมา...เป็นป้ามารีน่าที่ย้ายผมเข้าโรงเรียนประถมที่โรม อยู่เป็นลูกชายป้า(แม่อยู่อเมริกา) แม่เสียชีวิตตอนผมจบประถมพอดี เท่าที่จำได้ไม่เคยสัมผัสความอบอุ่นอ่อนโยนจากคนที่ชื่อว่าแม่จริงๆ เลย
แล้วก็ป้ามารีน่าอีกนั่นล่ะที่ให้ย้ายมาอยู่กับพ่อ เข้าม.1 ที่กรุงเทพนี่ ---ต้องมาอยู่กับคนที่ทำให้แม่เป็นบ้าแบบนั้น!
โตมากับความรู้สึกฝังใจ ...คนที่ผมรักที่สุดกลับทรยศผมเสียเอง!
-----------------------------------
ที่เมืองไทย...พ่องานยุ่งไม่ค่อยมีเวลารึไม่ก็ไปอยู่กับคนรัก ผมทั้งต่อต้าน สับสน โกรธกริ้ว ปนเปมั่วไปหมด ประชดเป็นเด็กมีปัญหา จับกลุ่มตั้งแก๊งค์ต่อยตีเค้าไปทั่ว มั่วทั้งผู้ชายผู้หญิง (โชคดีไม่เล่นยาเสพติด แค่เหล้าบุหรี่พอเท่ห์ เล่นยาทำไมมีเรื่องสนุกๆ ให้ทำอีกตั้งเยอะ ผมคิดตอนนั้น)
จุดเปลี่ยนคงเป็น-วันที่ป้ามารีน่า แม่ทูนหัวของผม นางฟ้าประจำตัวผมมายืนร้องไห้ข้างเตียงคนไข้ วันที่ผมป่วยหนัก วันนั้น---
ยังจำได้ดี ช่วงฮอร์โมนวัยรุ่นพลุ่งพล่าน ทุกอย่างร้อนแรงฉุดไม่อยู่ เรื่องพ่อ เรื่องบ้าน เรื่องแม่เสียชีวิต มีเรื่องต่อยตีเกือบจะถูกเชิญออก
ป้ามารีน่าเข้ามาจัดการทุกอย่าง พร้อมๆ กับผมเริ่มต้นเล่นบาสเกตบอลอย่างบ้าคลั่ง เสียเหงื่อลงแรงให้กำลังกายถดถอย หัวถึงหมอนจะได้หลับสนิท
ช่วงนั้น ม.3 ภายในจิตใจที่ว้าวุ่น กลับสงบ ชุ่มเย็นเพราะเสียงเปียโนจากห้องดนตรีข้างสนามซ้อม ทุกๆ วัน เวลาย่ำค่ำต้องรอฟัง เหมือนยาเสพติดประจำวัน
..................
.......................
"มึงจำเด็กที่เล่นเปียโนตอนเราซ้อมบาส ตลอดช่วงม.3 ได้มั้ยวะ?"
"ไม?..ก็-พอจำได้" สะดุ้งวูบ จู่ๆ คิดเรื่องเดียวกันได้ยังไง
"กูเคยไปแอบดู ถามภารโรงมาด้วย มันเป็นเด็กม.1 ว่ะ"
"เหรอ นึกว่ารุ่นพี่ม.ปลาย ...อ้อ ตอนนั้นมึงขี้เกียจซ้อมไวโอลิน หันมาเล่นบาสกะกูนี่หว่า"
"ใช่ เสียงเปียโนนั่นทำให้กูอยากกลับไปเล่นดนตรีติดหมัด ขนาดขึ้นม.4 ย่าจะให้กลับอังกฤษแต่กูยังอยากฟังไอ้เด็กนั่นเล่นอีก เลยอยู่เรียนกับพวกมึงต่อ"
"555 มึงตกหลุมจนถึงตอนนี้เลยว่ะ ไปไหนไม่ได้" อดีตตามมาให้คิดถึง เรื่องดีๆ ...เพื่อนดีๆ ผมเลือกเรียนที่นี่ก็เพราะมิตรภาพ เพราะเพื่อนอย่างเจฟฟรี่อย่างไอ้กายนี่ล่ะ
"เออดิ ...พวกมึงทำกูเสียคน" ผมกับมันหัวเราะพร้อมๆกัน
เสียงเปียโนในห้องแว่วลอดออกมา
------------------------------
...ไม่นึกว่าเจฟฟรี่จะติดใจ สนใจจำได้ด้วย
ผมขึ้น ม.ปลาย ไม่มีเสียงสวรรค์นั่นอีกต่อไป เจฟฟรี่มาบอกมันย้ายโรงเรียน
ตอนนั้นผมมีเรื่องหันเหความสนใจ ...เด็กผู้หญิงที่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก คนที่ทางบ้านหมายมั่นปั้นมือจะให้เป็นคู่ครอง อาจจะต้องแต่งงานกันในอนาคตกลับท้องก่อนแต่ง
ยิ่งย้ำว่าผมถูกคนที่รักทรยศเข้าไปอีก คราวนี้ผมเล่นหุ้นจริงจัง เริ่มเรียนรู้ธุรกิจ อยากเป็นอิสระจากทุกสิ่ง
คบคนไม่ซ้ำหน้า เปลี่ยนคู่นอนไปเรื่อย ไม่เคยจริงจังหรือจริงใจกับใคร
พอทำท่าจะตีจากหรือผมเบื่อ ก็จะชิงบอกเลิกก่อนทุกครั้งไป...
ยกเว้น..เด็กคนนี้ อยู่ด้วยกันเวลาผ่านไปนานเท่าไรแล้ว
....................
.........................
ผมเปิดประตูห้องซ้อม เสียงเปียโนเล็ดลอด ตัวโน๊ตสะดุดหยุดนิ่ง ใบหน้าหวานเงยหน้าขึ้นมาสบตา
...เหมือนตกอยู่ในมนต์สะกด
อมยิ้มน้อย ๆ ตบข้างเบาะ ขยับนั่งชิดอีกฝั่งของเก้าอี้
ผมก้าวเข้าหา ทรุดนั่งเคียงข้าง
มือสวย กดคีย์ซ้ำ ๆ ออกปากย้ำเป็นจังหวะ
"ดี่ ดี ดี๊ ดี--ดี่ ดี ดี๊ ดี---" ผมพยักหน้า หัวเราะหึๆ ในลำคอเบาๆ
"...Mozart sonata no.16" บอกชื่อเพลง ตาสวยเหลือบมองก่อนให้สัญญาณเริ่มเล่น
http://www.youtube.com/v/IRNE_IfFNZE ช่างสนุกสนานเพลิดเพลิน เนื้อตัวเบาล่องลอย ทุกเรื่องที่หนักเพียบบนบ่า...จางหาย
เพราะเพลงที่บรรเลงหรือไร ...ไม่ใช่แน่
เพราะคนๆ นี้ต่างหาก ...ลมเหนือ ที่รัก
******************************TBC by puppyluv