ตอนที่6 มาแล้วคร้าบ
แบงค์วิ่งตามหากอล์ฟกับเจี๊ยบ จนมาเจอทั้งคู่อยู่ที่หลังอาคารเรียน แบงค์รีบเดินตรงมาหาทั้งคู่ แต่สิ่งที่แบงค์เห็นถึงกับทำให้แบงค์ร้องออกมาด้วยความตกใจ
“ เจี๊ยบ เจี๊ยบร้องไห้ทำไม ” แบงค์ถามออกมาด้วยความตกใจที่เห็นเพื่อนของตนนั่งร้องไห้น้ำตาไหลพราก เจี๊ยบเงยหน้าขึ้นมามองแบงค์เล็กน้อย
“ นายก็น่าจะรู้อยู่แก่ใจนะ ” เจี๊ยบพูดด้วยน้ำเสียงฉุนเฉียว โดยไม่หันมาสบตาแบงค์แม้แต่น้อย
“ แต่เราไม่ไดคิดอะไรกับพี่เค้านะ ” แบงค์ตอบ
“ แต่พี่เค้าชอบแบงค์นะ เค้าไม่ได้ชอบเรา ” เจี๊ยบพูดด้วยน้ำเสียงเศร้า
“ เจี๊ยบในโลกนี้มีผู้ชายอีกตั้งเยอะแยะ ไม่ตายก็หาใหม่ได้ว่ะ ” กอล์ฟพูดเพื่อให้เจี๊ยบรู้สึกดีขึ้น แต่เจี๊ยบก็ยังไม่หยุดร้องไห้ เจี๊ยบนั่งร้องไห้อยู่ซักพักก็เงยหน้าขึ้นแล้วพูด“ ช่างเหอะ… ไม่ตายก็หาใหม่ได้เนอะ ” เจี๊ยบพูดขึ้นพร้อมกับรอยยิ้ม
ส่วนกอล์ฟกับแบงค์ เมื่อเห็นเจี๊ยบกลับมาเป็นคนเดิม ก็รู้สึกโล่งใจ แต่ยังรู้สึกงงไม่น้อย
“ ไปกินส้มตำกันเหอะ ” เจี๊ยบเอ่ยปากชวนเพื่อนทั้งสอง
“ เฮ้ย… ไอ้เจี๊ยบแกนี่เปลี่ยนอารมณ์ง่ายจริงๆเลยนะ เมื่อกี้ยังร้องไห้ขี้มูกโป่ง แล้วตอนนี้ดันอยากกินส้มตำซะงั้น ”
กอล์ฟพูดพร้อมกับยิ้มขำเจี๊ยบ ที่เมื่อกี้เพิ่งร้องไห้เพราะอกหักรักคุดมาหยกๆ แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นคนละคนซะงั้น
“ ก็กินให้ลืมคนบางคนไง ไม่เคยเห็นในทีวีเหรอวะ ที่เวลาอกหักเค้าต้องกินอะไรแซ่บๆหน่ะ ” เจี๊ยบพูดพร้อมกับทำหน้าทะเล้น
“ ถ้างั้น…รออะไรอยู่ล่ะรีบไปกันเหอะ ” แบงค์บอกกับเพื่อนๆ
วันนี้กอล์ฟกับแบงค์กลับมาที่บ้าน แบงค์รู้สึกแปลกใจมากที่เห็นกอล์ฟนิ่งเงียบตั้งแต่แยกจากเจี๊ยบมาเมื่อกี้แล้ว
“ พี่กอล์ฟเป็นอะไรรึปล่าว แบงค์เห็นพี่เงียบมานานแล้วนะ ” แบงค์ถามอย่างอดไม่ได้ที่เห็นว่ากอล์ฟยิ่งทำเฉยเมยกับตน
“ ก็ไม่ได้เป็นอะไรนี่ ” กอล์ฟตอบกับน้องชาย แต่สีหน้าของกอล์ฟที่แสดงออกมา ทำให้แบงค์ไม่ค่อยเชื่อในคำพูดของพี่ชายเท่าไรนัก
“ พี่ไปอาบน้ำนอนก่อนนะ ” กอล์ฟพูดแล้วเดินหนีออกไป
“ พี่กอล์ฟเค้าเป็นอะไรของเค้านะ ” แบงค์ครุ่นคิดในใจ
ผ่านไปหลายวันแล้ว แบงค์ยังไม่หายกระวนกระวายใจที่เห็นกอล์ฟยังมีทีท่าเมินเฉยกับตนโดยที่ไม่ทราบสาเหตุ เวลาถามคำก็ตอบคำแล้วก็ไม่ค่อยคุยอย่างสนิทสนมเหมือนที่เคย
“ แบงค์ เดี๋ยวนี้กอล์ฟมันเป็นอะไรวะ รู้สึกว่ามันดูหงุดหงิดๆอยู่เรื่อยเลย ” ต้าถามขึ้นด้วยความเป็นห่วงเพื่อน
“ ประจำเดือนมาไม่ปกติมั้ง ” เจี๊ยบตอบแทนแบงค์ที่นั่งหน้ามุ่ยอยู่
“ กรูไม่ได้ถามความเห็นมรึง นู่น! มาทางไหนกลับไปทางนั้นเลยไป ” ต้าผลักไสไล่ส่งเจี๊ยบให้กลับไปนั่งที่ เจี๊ยบทำหน้างอนใส่ต้าเล็กน้อยแล้วก็เดินกลับไปที่นั่งของตน
“ เราก็ไม่รู้เหมือนกัน ขนาดกับเราเค้ายังไม่ค่อยพูดด้วยเลย ” แบงค์พูดเสียงเศร้า
วันนี้แบงค์ เจี๊ยบ และป่าน ก็มาซ้อมรำกันตามปกติ แต่ที่ไม่ปกตินักก็คือวันนี้กอล์ฟไม่ได้มาดูแบงค์ซ้อมรำด้วย
“ วันนี้กอล์ฟไม่มาอีกแล้วเหรอ ” เจี๊ยบถามขึ้นในขณะที่ตัวเองก็รำไปด้วย
“ มันคงยุ่งล่ะมั๊ง ” ป่านตอบแทนแบงค์
“ นี่! สุรัตนาวี อย่าชวนเพื่อนคุยสิ เดี๋ยวเหอะ! เดี๋ยวได้รำให้ครูดูคนเดียวนะเราหน่ะ ”
อาจารย์ปัทมาพูดขึ้นเมื่อเห็นเจี๊ยบกำลังชวนเพื่อนคนอื่นๆคุย
“ แฮ่ะๆ ” เจี๊ยบหัวเราะแห้งๆให้กับอาจารย์ ก่อนจะซ้อมรำต่อไป
เสียงโทรศัพท์มือถือดังรัว ทำให้กอล์ฟต้องวิ่งออกมาจากห้องน้ำอย่างรีบร้อนเพื่อมารับสาย
“ ฮัลโหลสวัสดีครับ ”
“ กอล์ฟเหรอจ๊ะลูก ” เสียงแม่ของแบงค์ดังมาจากปลายสาย
“ ครับ ”
“ กอล์ฟวันนี้พ่อกับแม่มีประชุมคงจะกลับดึกหน่อยนะลูก หาอะไรกินไปก่อนเลยไม่ต้องรอ ” แม่ของแบงค์กล่าวสั่งกับกอล์ฟ
“ น้องกลับมาถึงบ้านรึยังจ๊ะ ”
“ ยังครับ ” กอล์ฟตอบเสียงเรียบ
“ น้ามีเรื่องจะบอกแค่นี้แหละจ่ะ งั้นแค่นี้ก่อนนะลูก ”
“ ครับ ” กอล์ฟตอบแล้วก็วางสายไป เสียงเคาะประตูดังขึ้นกอล์ฟจึงลุกขึ้นจากเตียงเดินไปเปิดประตู
“ แม่ได้โทรมาหามั๊ย ” แบงค์ถามพี่ชาย
“ โทรมาแล้ว ” กอล์ฟตอบแล้วรีบเดินหนีออกไป
“ พี่กอล์ฟเป็นอะไรของเค้านะ ” แบงค์คิดในใจ แล้วก็มองตามกอล์ฟที่เดินออกไปอย่างรีบร้อน
วันพรุ่งนี้ก็จะเป็นวันที่โรงเรียนจะจัดงานมหกรรมวิชาการแล้ว แบงค์ เจี๊ยบ และป่าน ยังคงวุ่นวายกับการซ้อมรำอยู่ในช่วงบ่ายของวัน บ่ายวันนี้ทั้งสามคนไม่ต้องเข้าเรียนเพราะต้องซ้อมใหญ่เพื่อเตรียมตัวให้พร้อมที่จะแสดงในวันรุ่งขึ้น
“ อ้าว…นักเรียนมาดูชุดที่ตัวเองต้องใส่ได้แล้ว ” อาจารย์ปัทมาเรียกเด็กๆที่ซ้อมรำกันอยู่พร้อมกับขนถุงใบใหญ่มาวางที่โต๊ะ
ทุกคนกรูกันมาที่โต๊ะของอาจารย์ เพื่อมาดูชุดที่ตัวเองต้องใส่ในวันรุ่งขึ้น
“ โห…สวยมากเลยค่ะอาจารย์ ” เด็กคนหนึ่งพูดขึ้นในขณะที่มือก็กำลังง่วนอยู่กับการหยิบเครื่องประดับขึ้นมาดู
“ อ้าว…มาช่วยกันลองใส่ให้พวกลิงพวกนี้ทีซิพวกเราหน่ะ ” อาจารย์ปัทมาหันหน้าไปเรียกพวกเด็กผู้หญิงที่เป็นรุ่นพี่ ม.6 ที่นั่งอยู่ตรงมุมห้องให้เข้ามาช่วยกันแต่งตัวให้น้องๆ
“ หูย… อาจารย์พูดซะเสียเลยนะคะ มีลิงที่ไหนจะสวยแบบนี้เนอะ ใช่มั๊ยพวกเรา ” เจี๊ยบพูดพร้อมกับยักคิ้วให้เพื่อนๆที่ยืนรุมอยู่ที่โต๊ะอาจารย์
“ แล้วชุดของแบงค์ล่ะคะอาจารย์ ” ป่านถามขึ้น เมื่อตนยังไม่เห็นชุดและเครื่องประดับที่แบงค์ต้องใส่เลย
“ ชุดของตัวเอก... อยู่นี่จ๊ะ ” อาจารย์ปัทมาพูดพร้อมกับเดินไปหยิบถุงที่วางอยู่ตรงมุมห้องมายื่นส่งให้กับแบงค์ที่ยืนรออยู่
“ นี่! นายมานพไปช่วยน้องเค้าใส่ซิ ไปเปลี่ยนชุดที่ห้องศิลปะนะ เปลี่ยนเสร็จแล้วก็รีบกลับมาเร็วๆนะ ” อาจารย์สั่งมานพที่เป็นสาวประเภทสอง ให้พาแบงค์ไปเปลี่ยนชุดที่อื่นเพราะเห็นว่าในห้องมีแต่เด็กผู้หญิงเต็มไปหมด
แบงค์เดินตามมานพออกมาจากห้องแล้วมุ่งหน้าไปที่ห้องศิลปะที่อยู่ถัดจากห้องนาฏศิลป์ไปอีกห้องหนึ่ง เมื่อมาถึงเห็นห้องเงียบเชียบ ก็รีบเดินตรงดิ่งเข้าไปเพื่อที่จะรีบเปลี่ยนชุด
“ อ่ะ เราไปเปลี่ยนเสื้อแล้วก็ถอดกางเกงนักเรียนออกด้วย แล้วนุ่งผ้าถุงนี่ออกมานะ แล้วพี่จะนุ่งผ้าถุงชั้นนอกให้อีกที ” มานพสั่งพร้อมกับยื่นผ้าถุงกับเสื้อรัดรูปสีแดงสดให้แบงค์เข้าไปเปลี่ยนในห้อง
“ ตายห่าแล้วxxx! ต้องถอดกางเกงด้วย แล้วไอ้ผ้าถุงนี่มันนุ่งยังไงกันวะ ” แบงค์บ่นกับตัวเอง แล้วก็รีบเปลี่ยนชุดเพื่อที่จะได้ออกไปใส่เครื่องประดับอย่างอื่นต่อ
“ โห…ดีนะพี่ที่ผ้าถุงมันเป็นแบบสำเร็จรูปมีตะขอให้ติด ไม่งั้นแบงค์คงนุ่งไม่เป็นแหงๆ ” แบงค์พูดพร้อมกับยิ้มเจื่อนๆให้กับมานพ
“ มารีบใส่เครื่องประดับกันเหอะนะ เดี๋ยวถึงเวลาที่เพื่อนๆของพี่มันจะมาเรียนวิชาศิลปะกันแล้ว ” มานพพูดพร้อมกับเร่งมือแต่งตัวให้แบงค์
เมื่อใส่เครื่องประดับทั้งหมดแล้ว มานพก็เดินไปหยิบ เทริด ที่ไว้สำหรับสวมศรีษะมาเพื่อที่จะสวมให้แบงค์
“ โห ! พี่ทำไมมันใหญ่อย่างนี้ล่ะ ถ้าใส่ไปแล้วคอแบงค์จะไม่หักเหรอพี่ ” แบงค์ร้องออกมาด้วยความตกใจ ที่เห็นสิ่งที่ตัวเองต้องใส่บนหัว
“ เถอะน่า…รีบใส่เร็วเข้าเดี๋ยวก็โดนอาจารย์ปัทมาดุเอาไม่รู้ด้วยนะ ” มานพพูดเสียงดุ
เมื่อแต่งตัวเสร็จแล้วแบงค์กับมานพก็เดินกลับมายังห้องนาฏศิลป์
ทุกคนที่นั่งอยู่ในห้องเมื่อเห็นแบงค์เดินกลับเข้ามาก็ถึงกับมองด้วยความตะลึง
“ มีอะไรวะไอ้เจี๊ยบ มองอยู่นั่นแหละ ” แบงค์พูดขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์เท่าไรนักที่เห็นทุกสายตามองมาที่ตนอย่างนี้
“ แบงค์ แกเหมือนผู้หญิงมากเลยนะเว้ยรู้ตัวรึปล่าว ” ป่านพูดขึ้นเมื่อเห็นแบงค์ยังมีท่าทีเขินอายคนที่อยู่ในห้อง
“ เออเราก็เห็นด้วยว่ะ นี่ถ้ามันมีหน้าอกซักนิดคนอื่นต้องคิดว่ามันเป็นผู้หญิงแน่ๆเลย ”
เจี๊ยบช่วยพูดสมทบอีกแรง
“ แล้วเป็นไงบ้างวะ ชุดหน่ะ ” ป่านถามขึ้น เมื่อเห็นเพื่อนมีสีหน้าไม่ค่อยดีนัก
“ เออว่ะ หนักสมกับคำร่ำลือเลย แล้วยิ่งไอ้ที่อยู่บนหัวนะ หนักซะจนคอแทบจะหักแล้วเนี่ย ” แบงค์ทำหน้ามุ่ยพร้อมบ่นกับเพื่อนๆ
“ ช่างมันเหอะนะ ทนใส่วันพรุ่งนี้อีกแค่วันเดียวเอง ” ป่านพูดปลอบใจเพื่อน
เย็นวันนั้น แบงค์มายืนรอกอล์ฟที่หน้าโรงเรียนเหมือนเช่นเคย แต่วันนี้กลับไม่เห็นกอล์ฟเดินมาหาเหมือนเช่นทุกวันจึงแปลกใจ
“ นี่เค้าไปไหนของเค้านะ ” แบงค์พูดกับตัวเองทั้งๆที่สายตาก็ยังไม่เลิกมองหาพี่ชายของตน แต่แล้วก็ไม่เจอแม้แต่เงา
“ มายืนรอใครครับ ” เสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากทางด้านหลังทำให้แบงค์ต้องหันกลับไปดู
“ อ้าว พี่ต้อมเองเหรอครับ ”แบงค์ถามอย่างไม่ค่อยสนใจนัก เพราะตอนนี้สิ่งที่เขาสนใจมากกว่าก็คือการมองหาพี่ชายของตัวเอง
“ น้องแบงค์ยังไม่ได้ตอบพี่เลยนะว่าน้องแบงค์มารอใคร ” ต้อมทักท้วง
“ แบงค์มารอพี่ชายครับ ” แบงค์ตอบไปอย่างไม่สบอารมณ์เท่าไรนัก
“ อ๋อ พี่ชายคนที่เป็นนักตะกร้อใช่มั๊ย ” ต้อมถามอีกครั้ง
“ ใช่ครับ ” แบงค์ตอบโดยที่สายตายังคงมองไปทางอื่น
กอล์ฟเดินกลับมาจากซ้อมตะกร้อแล้วมุ่งตรงไปยังหน้าโรงเรียนเพื่อรีบไปตามหาน้องชายที่รอกลับบ้านด้วยกัน แต่พอมาถึงก็เห็นแบงค์ยืนคุยอยู่กับต้อม จึงไม่กล้าที่จะเดินเข้าไปหา ก็เลยทำได้แค่ยืนมองอยู่ห่างๆ
“ คนที่แบงค์บอกว่าเป็นคนพิเศษ คงเป็นนายต้อมคนนี้สินะ ” กอล์ฟคิดในใจ
“ พี่ขอให้แบงค์โชคดีกับคนที่แบงค์รักนะ ” กอล์ฟพูดกับตัวเองแล้วเดินออกมาจากตรงนั้นอย่างเงียบๆ ทั้งๆ ที่ตนยังรู้สึกอึดอัดใจ
“ นี่ก็เย็นมากแล้วนะ พี่ว่าพี่ชายของเราคงกลับบ้านไปแล้วล่ะ ” ต้อมพูดขึ้นเมื่อเห็นโรงเรียนเริ่มเงียบลง
“ แต่พี่กอล์ฟไม่เคยผิดนัดนะครับ ถ้าพี่เค้าบอกว่าจะมาเค้าก็ต้องมา ” แบงค์ตอบกับต้อมพร้อมกับดูเวลาที่นาฬิกาข้อมือไปพร้อมกัน
“ นี่น้องแบงค์คงเป็นห่วงพี่ชายมากเลยสินะครับ ” ต้อมพูดด้วยน้ำเสียงเศร้าเมื่อเห็นแบงค์ ไม่สนใจสิ่งที่ตนพูดแม้แต่น้อย
“ อ้าว! แบงค์มายืนทำอะไรอยู่ตรงนี้ ” ต้าถามด้วยความแปลกใจที่เห็นแบงค์ยังไม่กลับบ้าน
“ ต้า เห็นพี่กอล์ฟบ้างมั๊ย ข้าโทรหาก็ไม่ยอมรับสาย ” แบงค์ถามขึ้นอย่างร้อนใจ
“ ไอ้กอล์ฟหน่ะเหรอ มันขอกลับบ้านไปตั้งนานแล้วนี่ วันนี้มันบอกว่ามันนัดกับนายเอาไว้ อ้าว! ยังไม่เจอกันอีกเหรอ ” ต้าถามด้วยความงุนงง
“ ว่าไงนะ! กลับไปแล้วงั้นเหรอ ” แบงค์ร้องออกมาด้วยความแปลกใจ
“ พี่ต้อมครับ แบงค์กลับบ้านก่อนนะครับ ” แบงค์พูดจบแล้วก็รีบวิ่งออกไป
ปล่อยให้ต้อมแล้วก็ต้ามองตามไปอย่างงงๆ
“ เฮ้ย ไอ้น้องมีเบอร์โทรของน้องแบงค์รึปล่าววะ ” ต้อมหันไปถามเด็กที่ยืนอยู่ข้างๆ
“ มี แต่คงให้ไม่ได้หรอกถ้าไอ้แบงค์รู้นะ มีหวังเสียชีวิตแน่ๆ ” ต้าตอบพร้อมกับทำหน้าทะเล้น
“ ถ้างั้น แลกกับนี่ ” ต้อมพูดพร้อมกับล้วงกระเป๋าแล้วควักเงิน 500 บาทยื่นส่งให้กับต้า ต้าลังเลอยู่ซักพัก " คงไม่เป็นไรหรอกมั๊งก็แค่เบอร์โทรเอง " ต้าคิดในใจ
“ ว่าไงล่ะไอ้น้อง ” ต้อมถามขึ้นเมื่อเห็นเด็กชายที่อยู่ตรงหน้ามีท่าทีลังเลอยู่
“ เอาวะ เป็นไงเป็นกัน ” ต้ารีบรับเงินไว้แล้วหยิบมือถือขึ้นมากดหาเบอร์แบงค์
แล้วยื่นส่งให้กับต้อม