เรื่องของนายกับคุณเลขา..... คุณนัทกับคุณรัชชานนท์ ตอน สมัครงาน
“ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือครับ พ่อของผมบอกว่าถ้าไม่ได้ความช่วยเหลือเรื่องเงินอุดหนุนจากคุณพ่อคงแย่”
เลขารัชชานนท์หน้านิ่ง กำลังพูดคุยอยู่กับเจ้าของโรงงานตัวจริงและในเวลานี้เจ้าของโรงงานกำลังยุ่งวุ่นวายกับการติดต่องานส่วนต่างประเทศ เพื่อป้อนงานสู่โรงงานที่ประเทศไทย
ได้รับความช่วยเหลือ ก็ต้องรู้จักขอบคุณความช่วยเหลือนั้น แต่สิ่งที่ได้ยินถัดจากนั้น กลับทำให้ฟ้าไม่เข้าใจ
“หมายถึงอะไรล่ะ เงินอุดหนุนที่ว่า ผมยังไม่ได้เซ็นเช็คแม้แต่ใบเดียวเลย ล้อเล่นอะไรกันรัชชานนท์”
ล้อเล่นหมายความว่ายังไง ล้อเล่นเหรอ เงินส่วนที่ได้รับนำมาหมุนเวียนในกิจการเรียบร้อยแล้ว แต่ผู้ที่ต้องขอบคุณที่สุด กลับไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับเงินจำนวนนั้นเลย หมายความว่ายังไง
“ไม่ใช่คุณพ่อแล้วจะเป็นใครไปได้ครับ คุณพ่อล้อผมเล่นเรื่อยเลยนะครับ”
นิ่งสงบที่สุด พยายามให้ทุกอย่างนิ่ง และสงบที่สุด แต่เสียงหัวเราะจากปลายสาย และคำพูดที่ยืนยันหนักแน่นว่าไม่ได้เซ็นเช็คอะไรให้เลย ยิ่งทำให้ฟ้าต้องขมวดคิ้วมุ่นด้วยความประหลาดใจ
เก็บความสงสัยเอาไว้ และคิดว่าคงต้องคุยกับใครบางคนที่ให้เช็คมา ต้องคุยเรื่องที่มาที่ไปของเงินจำนวนนั้น ว่ามันมาได้ยังไง
“เรื่องที่โรงงานปกติดีครับ คุณนัทเป็นคนเก่ง เรียนรู้ได้เร็ว มีหลายเรื่องที่ผมต้องเรียนรู้จากคุณนัทด้วยครับ ผมกำลังทำหน้าที่อย่างเต็มความสามารถให้สมกับที่คุณพ่อไว้วางใจครับ ก็ดูแลตามที่คุณพ่อมอบหมายครับ ใช่ครับ สวัสดีครับ”
พูดคุยกันอีกพักใหญ่ และจบบทสนทนาพร้อมกับความคาใจ
มันเป็นเรื่องเมื่อสองชั่วโมงก่อน และในเวลานี้ ความสงสัยก็ควรได้รับการชี้แจงซะที
“คุณนัทครับ”
ตัดสินใจลุกขึ้นยืน และลากเก้าอี้มาอยู่ตรงหน้าของคนที่กำลังยุ่งวุ่นวายอยู่กับการอ่านเอกสาร
อ่านไปกินขนมไป และในเวลานี้ คนที่แทบจะนอนเลื้อยอยู่บนเก้าอี้ ลุกขึ้นนั่งตัวตรงเรียบร้อยแล้ว เพราะกลัวจะโดนเอ็ดหาว่าทำตัวไม่สมเป็นผู้บริหาร แม้จะเลยเวลางานมานานแล้วก็ตาม
“ไม่ใช่คุณนัทสิ แต่เป็น คุณนัธพันธ์ครับ”
ห๊ะ
ทำไมเป็นคุณนัธพันธ์ล่ะ จริงจังเหรอพี่ฟ้า หน้าเครียดเลย พี่ฟ้าหน้าเครียดขนาดนี้เพราะอะไร เกี่ยวกับนัทหรือเปล่า เรื่องนี้เกี่ยวกับนัทใช่มั้ย
“ครับ คุณรัชชานนท์”
ขานรับและทำหน้าจริงจังไปด้วย
อะไรล่ะพี่ฟ้า พี่ฟ้าหน้าเครียดแล้วก็ดูจริงจังขนาดนี้ มีอะไรหรือไงพี่ฟ้า นัทช่วยได้หรือเปล่า
นัทอยากช่วยพี่ฟ้า
“เรื่องเงินน่ะ”
เรื่องเงิน
เงินเหรอ
อย่าบอกนะว่าพี่ฟ้าจะทวงค่ากับข้าว
แย่แล้ว
เรื่องเงินน่ะ ตอนนี้นัทไม่มีหรอกนะ ยังไม่สิ้นเดือน นัทค่อยจ่ายตอนเงินเดือนออกได้มั้ย พี่ฟ้าอย่าทวงนัทเลยนะ ขอร้องล่ะ อย่าทวงเลย นัทยังไม่มีจริง ๆ
“ขอโทษที่นัทให้พี่ฟ้าเลี้ยงข้าวตลอด แต่ว่า...ช่วงนี้นัท....”
อยากจะชี้แจงอยู่หรอกนะ แต่ต้องรีบปิดปากเงียบ
ไม่ได้ แบบนั้น มันไม่ได้
“คือว่านัทหมายถึงว่า...”
คิดคำพูดไม่ออก ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร แล้วนัทก็ยกมือขึ้นเกาหัวและพยายามคิดหาคำพูดที่ดีที่สุดมาพูด
“นัท”
ครับ
ทำไมพี่ฟ้าต้องทำหน้าเครียดขนาดนั้นด้วย นัทกินเยอะไปใช่มั้ย พี่ฟ้าก็เลยต้องพูดตรง ๆ พี่ฟ้าอึดอัดใจหรือเปล่า
นัทขอโทษ
จากหน้านิ่งกลายเป็นหน้าเศร้า จากหน้าเศร้ากลายเป็นสลด และตอนนี้ก็เป็นนัทที่คิดอะไรไปไกล และนั่งก้มหน้าเพราะคิดคำพูดดี ๆ ไม่ได้
ยังไงล่ะพี่ฟ้า
ก็นัท....
“เช็คนั่น.......”
ไม่ต้องให้พูดต่อ นัทเงยหน้าขึ้นมอง และรู้ได้ทันทีว่าสิ่งที่อีกฝ่ายกำลังจะพูดคืออะไร
นิ่งเงียบ และต่างฝ่ายต่างก็จ้องหน้ากันนิ่งๆ
และเป็นนัทที่ต้องเป็นฝ่ายหลบตา หรุบสายตาลงต่ำและมองที่ปลายนิ้วของตัวเอง
“พ่อนัทไม่ใช่คนสนับสนุนเงินช่วยเหลือให้กับโรงงานพี่หรอก ใช่มั้ยครับ”
ใช่
พ่อไม่รู้เรื่องด้วยซ้ำ และถ้าพ่อรู้พ่อคงด่านัท แต่อย่างน้อย นัทใช้เงินเก็บส่วนตัวที่เก็บมาตลอด ยังไงมันก็คือเงินส่วนของนัท ถึงพ่ออยากพูดอยากว่า พ่อก็พูดได้ไม่เต็มปากหรอก
ส่วนเรื่องเงินของโรงงาน มันยากกับการเบิกจ่าย เงินมากขนาดนั้น นัทไม่มีสิทธิ์เบิก มันจะมีปัญหามากมายตามมา
เพราะฉะนั้นเงินนั่นเป็นของนัททั้งหมด ใครจะว่าอะไรนัทได้ล่ะ
“ในสายตานัท ครอบครัวพี่คงแย่มากสินะ”
“ในสายตานัท ครอบครัวพี่ฟ้าไม่ได้แย่”
รีบตอบออกไปตรงๆ และต่างคนก็ต่างนิ่งเงียบกันไป
นิ่งอยู่นาน
เงียบอยู่นาน
สิ่งที่ฟ้ารู้สึกได้ในเวลานี้คือ.....ละอายใจ....
“เช็คนั่นมาจากไหนเหรอนัท ถ้าไม่ใช่คุณพ่อนัทให้มา แล้วมันมาจากไหนเงินตั้งมากมายขนาดนั้น นัทไม่มีอำนาจเซ็นเอกสารสำคัญ พี่อยู่ตรงนี้พี่รู้ ถ้าไม่ใช่พ่อนัทช่วยแล้วนัทเอาเงินมากมายขนาดนั้นจากที่ไหนมาให้ครอบครัวพี่ นัทกำลังทำอะไรอยู่”
ชะงักกับคำพูดนั้น และนัทก็เงยหน้าขึ้นมองคนที่พูดบางอย่างออกมา นั่นเงินเก็บนัทนะพี่ฟ้า มันเป็นเงินส่วนของนัท พี่ฟ้าพูดแบบนี้หมายความว่ายังไง หมายความว่านัท....ทำอะไร
“พี่ฟ้าคิดว่านัททำอะไร”
ลุกขึ้นยืน และมองหน้าของคนที่พูดบางอย่างที่ไม่ควรพูดออกมา
คิดว่านัทโกงบริษัทตัวเองหรือไง
คิดว่านัท....
“นัทไม่ได้บ้า ถึงขนาดซิกแซก ยักยอกเงินโรงงานตัวเองหรอกนะ”
พี่ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น พี่ไม่ได้คิดเลยด้วยซ้ำ แต่พี่ไม่เข้าใจ และพี่ไม่รู้จริง ๆ ว่านัทกำลังทำอะไรอยู่กันแน่
นัทให้ความช่วยเหลือครอบครัวพี่ขนาดนี้ พี่....พูดอะไรไม่ออก ครอบครัวพี่ทำให้นัทลำบากอยู่ใช่มั้ย
นัทหาเงินมาช่วยเหลือครอบครัวของพี่มากขนาดนี้ โดยไม่ได้คิดดอกเบี้ยด้วยซ้ำ
ครั้งหนึ่งพี่เคยคิดว่า นัทดูหมิ่นและจะใช้พี่เป็นที่ระบายอารมณ์เพื่อขัดดอก แต่เอาเข้าจริงมันไม่ใช่ พี่สับสนไปหมดแล้วว่านัทกำลังทำอะไรอยู่กันแน่ พี่ไม่เข้าใจสิ่งที่นัทคิดเลยจริง ๆ
“นั่นเงินเก็บของนัท เงินเก็บที่เก็บมาตลอด นัทจะทำอะไรกับเงินจำนวนนั้นก็ได้ นัทไม่รู้ว่าพ่อพูดยังไงกับพี่ฟ้าหรอกนะ.......ผมขอตัวสักครู่แล้วกันคุณรัชชานนท์ ถ้าคุณไม่ว่าอะไรผมขอตัวสักครู่”
บ้าบอ
รู้สึกว่าตัวเองบ้าบอ ที่อยู่ดี ๆ พูดไปพูดมาน้ำตาก็เริ่มคลอ
ไม่รู้นะ นัทไม่รู้จริง ๆ ว่าพี่ฟ้าคิดอะไรอยู่ และนัทก็ไม่พร้อมจะอธิบายอะไรด้วย นัทคิดว่าช่วงระยะเวลาหนึ่งที่เราอยู่ด้วยกัน พี่ฟ้าน่าจะรู้นิสัยของนัทบ้าง แต่พี่ฟ้ากลับไม่รู้เลย
พี่ฟ้าถามว่านัทกำลังทำอะไรอยู่ พี่ฟ้าคิดว่านัทกำลังทำอะไรล่ะ นัทไม่อธิบายหรอก ว่ากำลังทำอะไร
นัทไม่มีเหตุผลจะพูด เพียงแค่อยู่ ๆ นัทก็รู้สึกเสียใจขึ้นมาแบบไม่มีเหตุผล เพราะฉะนั้น นัทขอเวลาทำใจหน่อย เดี๋ยวนัทกลับมา
ลุกขึ้นเดินหนี
หนีออกจากห้อง
แต่ก็ยังไม่วายหันมาหาคนที่นั่งนิ่งเงียบอยู่บนเก้าอี้
“คุณรัชชานนท์ ผมขอไปนั่งสงบจิตสงบใจแถว ๆ นี้หน่อยนะ ถ้าคุณจะนอนคุณก็นอนไปก่อนเลย”
แถว ๆนี้มันแถวไหนล่ะนัท แถว ๆ นี้ที่ว่า คือตรงไหน
“คุณนัทจะไปไหนครับ”
ไปไหนเหรอพี่ฟ้า
ไปไหน......
“ผมจะไปนั่งแถว ๆ บันไดทางขึ้นตึก คุณไม่ต้องกังวล ผมขอเวลาอยู่เงียบ ๆ หน่อย แล้วผมจะกลับไปนอนเอง คุณไม่ต้องห่วง”
บอกเรียบร้อย และนัทก็ก้าวขาเดินลิ่ว ๆ ออกจากห้องไป
นัทเดินหนีไปแล้ว ทิ้งให้ใครอีกคนนั่งเงียบอยู่บนเก้าอี้
ไม่เคยเห็นนัทใช้เงิน บางครั้งเห็นต้มบะหมี่กิน มีหลายอย่างที่แม้ไม่อยากเชื่อก็ต้องเชื่อ ว่าคนระดับผู้บริหารจะเป็นไปได้
ดูจากสภาพแล้ว นัทไม่น่าจะขัดสนเงินทองขนาดนั้น แต่เมื่อสังเกตจริง ๆ จะเห็นได้ชัด ว่าบางทีนัทไม่มีเงินติดตัวเลย
แล้วเพราะใครกันล่ะ เงินที่ว่า ถ้าเป็นเงินเก็บของนัททั้งหมดจริง ๆ แล้วการที่เอาเงินเก็บของตัวเองมาเทให้หมดแบบนั้น
นัทกล้าให้ได้ยังไงกัน
ครุ่นคิด วนไปวนมาอยู่แบบนั้น
ทำอะไรอยู่กันแน่ นัททำอะไรอยู่พี่ก็ไม่รู้
แต่สิ่งที่รู้คือ.......อาย..... อับอายที่ความช่วยเหลือทั้งหมด ไม่ใช่เพราะจากคนที่เป็นพ่อตา
แต่เป็นความช่วยเหลือจากนัท นัทที่เคยคิดว่าเป็นแค่เด็กน้อย เด็กน้อยที่ทำอะไรบางอย่างมากมายเพื่อครอบครัวของฟ้า
ทำให้มากมายด้วยการตัดสินใจให้ความช่วยเหลือในช่วงที่ครอบครัวกำลังถึงจุดวิกฤติที่สุด
และคนที่ช่วยพยุงให้โรงงานยังอยู่ก็คือนัท
นัทรู้มั้ย ไม่ว่าเงินจำนวนนั้นมาจากไหน แต่ความจริงที่ว่า พี่ฟ้าติดหนี้บุญคุณนัทมันก็เป็นความจริง
ติดหนี้บุญคุณ
พี่ติดหนี้บุญคุณนัท
พี่ฟ้าและครอบครัว.....เราติดหนี้บุญคุณนัทอยู่จริง ๆ
++++++++++++++++++++++++++++