คำเตือน: ตอนนี้มีเนื้อหาที่อาจทำให้หัวใจวายได้ ผู้ปกครองควรให้คำแนะนำนะครับ ตอนที่ 16
“ยังไม่หลับเหรอครับ”
ผมขยับตัวเข้าหาพี่วินอีกทั้งที่ตอนนี้ก็แทบจะสิงร่างเขาอยู่ละ ช่วงน้ำต้มผักก็ว่าหวานอ่ะเนาะ
“ขอโทษ พี่ทำเหนือตื่นเหรอ”
พี่วินกระชับกอด มันเหมือนฉากบนเตียงในคืนดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ในซีรี่ย์เลยครับ
“แอร์หนาวจัง” ที่จริงก็ไม่หนาวเว่อร์อะไรหรอก หาเรื่องออเซาะไปงั้นแหละ “กี่โมงแล้วครับ”
พี่วินหยิบมือถือของผมมากดดูเวลาแล้วบอกว่า “ตีสี่ครับ” จากนั้นก็ส่งมันมาให้เพราะมีข้อความจากไลน์ค้างบนหน้าจอ
‘กูกับอีต้าร์ถึงห้องละ มึงหายไปไหนวะ ได้ผู้ชาย?’
“เบาแอร์นะ” พี่วินพูด
“ไม่ต้องครับพี่ จะได้กอดอุ่นๆ”
ผมส่งมือถือกลับไปให้พี่วินแล้วก็ทำหน้าที่ออเซาะแฟนต่อไป
“ตอบให้หน่อยสิครับ”
ผมไม่รู้หรอกครับว่าพี่วินตอบอะไรไป นาทีนี้คือผมเป็นของเขา เขาเป็นของผม แล้วผมก็อยากป่าวประกาศการเป็นเจ้าข้าวเจ้าของให้ทุกคนได้รับทราบโดยทั่วกันด้วย อิอิ
“ถามหน่อยสิพี่” ผมเงยหน้าขึ้นจากซบไหล่พี่วิน
“ครับ?”
“ก่อนนี้พี่โกรธเกลียดเหนือจริงๆ เหรอ” ผมรอฟังอย่างตั้งใจ จะได้เคลียร์ไม่ให้เหลือสงสัย “เอาตั้งแต่ตอนสมัยเรียน”
“แทบอยากจะเข้าไปซัดให้ร่วง” พี่วินตอบยิ้มๆ “เคยถึงขั้นสะกดรอยตามด้วยนะ”
“จริงป่ะเนี่ย” ผมดันตัวออกห่าง “น่ากลัว”
“แต่ตอนนั้นเหนือไม่รู้จักพี่ คงไม่รู้ตัวหรอก” พี่วินขยับตัวมาชิด
“ตอนไหน?”
“วันที่เหนือซื้อผลไม้แล้วเอาให้คนเร่ร่อนบนสะพานลอย”
ฟังพี่วินบอกแล้วผมเองก็ยังนึกไม่ออกนะ คือมันอาจจะไม่ใช่เหตุการณ์สำคัญอะไรนักอ่ะครับ แต่ถ้าความมีเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์ครั้งนั้นทำให้ผมรอดหมัดรอดตีนพี่วินมาได้ก็นับว่าผีคุ้มจริงๆ
“เพราะเห็นจิตใจที่ดีงามของเหนือ พี่ก็เลยล้มเลิกความคิดเหรอครับ” ผมพูดด้วยอินเนอร์แบบในละครพีเรียดน้ำดี๊ดี
“ขำนักนะ” พี่วินยกมือขึ้นมาเขกหัวผม นี่ขนาดผมล็อกแขนเอาไว้แล้วนะ “ถือว่าแทนตอนนั้นก็แล้วกัน”
“ทีพี่ทำเหนือตั้งหลายครั้งไม่เห็นเหนือจะเอาคืนเลย” บ่นเบาๆ แบบมีจริตจะก้านแต่ก็เผื่อให้พี่วินได้ยินด้วย
“ทะลึ่งนะเรา นี่นอนกอดเฉยๆ ยังไม่ได้ทำอะไรเลย”
“หมายถึงพี่แกล้งเหนือตั้งหลายครั้งไม่เห็นเหนือจะเอาคืนต่างหาก ใครกันแน่ที่ทะลึ่ง”
ผมโดนลากออกมาจากผับแล้วก็มาคุยกับพี่วินเฉยๆ ที่โฮมสเตย์สุดหรูนี่ ก่อนที่จะผล็อยหลับไปก็ยังไม่มีเรื่องอย่างว่าเกิดขึ้นเลยนะ
“เหนือก็กวนพี่ตั้งหลายหนนี่ครับ” พูดแล้วก็เอามือยีผมของผมเล่นจนยุ่งไปหมด “แสบกว่าใครเลย”
“ที่พี่เจอเหนืออีกครั้งตอนวันเกิดพี่เอ็มล่ะครับ ทำไมถึงพาผมกลับไปด้วย” ตอนนี้เหมือนมีคำถามผุดขึ้นมาเรื่อยๆ อ่ะครับ นึกอะไรออก อยากคุย อยากถามอะไรก็พูดออกมา ถ้าคุณๆ ยังจำความรู้สึกตอนพบกับแฟนใหม่ๆ (ถ้ามีหรือเคยมี) ก็คงเข้าใจความรื่นรมย์นี้ได้ดี คือคุยกันได้ทุกเรื่อง ตั้งแต่อิเล็กตรอน โมเลกุล วงจรชีวิตปลวก ภาษาปลาตีน กับข้าว ยันต้นหญ้าบนดาวเสาร์นู่นอ่ะ ไหนๆ ก็เผลอตื่นขึ้นมาละ คงคุยกันเรื่อยๆ ยันสว่างได้เลย 555
“พี่เคยมีแฟนมาแล้วกี่คนอ่ะ” ตอนแรกก็คุยเพลินจนถามออกไปงั้นเอง แต่แค่ไม่กี่วินาทีหลังจากนั้นความอยากรู้คำตอบก็มากขึ้นเรื่อยๆ
“คนเดียว” ดูเหมือนพี่วินจะอึกอักตอนตอบนะ
“จริงเหรอ ไม่เคยมีแฟนเก่าเป็นผู้ชายเลยเหรอ” ผมซักเสียงเข้ม ในใจก็นึกถึงหน้าน้องกรรณลอยขึ้นมาเลย นี่ถ้าเป็นการสอบสวนพี่วินคงถอยหลังชนฝาไปละ
“ไม่เคยครับ เหนือเป็นคนแรก”
พี่วินพูดก็ดูจริงใจดีนะ แต่ผมไม่ค่อยอยากจะเชื่อเลยครับ
“ไม่มีซุกใครเอาไว้อีกนะ” ผมขู่เล่นๆ แต่ก็แอบหวังผลจริงนะ
“พี่ไม่เหมือนเหนือนะครับ ใจง่ายกับใครไปทั่ว แถมก็มีแต่คนจ้องจะกิน”
อ้าว พี่หาว่าผมร่านแรดรึเปล่าวะเนี่ย
“ไม่มี๊” ผมส่ายหน้าแบบตอแล๊ตอแหล
“คืนวานก็เกือบจะได้ไปกับแฟนเก่าแล้วไม่ใช่เหรอ” น้ำเสียงเหมือนหงุดหงิดชวนทะเลาะแต่ก็อุตส่าห์ใส่อารมณ์ขำเข้ามากลบเกลื่อนอ่ะ
หึงเหรอ?
“ก็ไม่ได้ไปนี่ครับ สุดท้ายก็ได้กลับไปนอนกับพี่ไง” ผมยั่ว
“นอนเฝ้าคนอ้วกตั้งแต่ดึกยันเช้าไม่สนุกนะ”
พี่วินนี่ก็แสนงอนเกินคาดเหมือนกันแฮะ นึกว่าว่าจะมีแต่มุมขรึมๆ เข้มๆ ซะอีก
“คืนนี้ไม่เมาไม่อ้วก พี่ไม่ต้องอดหลับอดนอนเฝ้าแล้ว” พูดไปผมก็ดันศีรษะเอาเส้นผมคลอเคลียบริเวณกรามของพี่วิน ที่จริงก็เรียกว่า ‘ยั่วผัว’ เบาๆ อ่ะแหละ ใครบอกกันล่ะว่าคืนนี้ผมจะปล่อยให้พี่ได้หลับ อิอิ
“หมดเรื่องจะถามรึยัง”
นั่นไงครับ พี่วินเริ่มตัดบทละ งั้นผมก็อำนวยความสะดวกให้นะ
“ไม่มีแล้ว”
“อืม พี่หลับนะ”
หือ พูดแล้วก็เงียบไปเลย หลับจริงเหรอ?
“ไอ้พี่บ้า” ผมพลิกตัวหันหลังให้ “เชิญหลับไปเลย เหนือจะกลับห้องละ”
ผมก็แกล้งพูดไปงั้นแหละ ง่วงแล้วเหมือนกันครับ
“อย่างนั้นพี่จะนอนกอดใครล่ะ” พี่วินใช้ทั้งขาทั้งแขนล็อกตัวผมไว้ทั้งบนล่างจนหลังของผมแนบสนิทกับตัวด้านหน้าของเขา “ไม่ให้กลับ”
รู้สึกดีจังเลยแต่แกล้งอัพค่าตัวอีกหน่อยดีกว่า “อย่างพี่แค่เดินออกไปข้างนอกแปบเดียว ขี้คร้านจะมีคนวิ่งตามมาเป็นขบวนสิไม่ว่า”
“พี่จะบอกเขาว่ามีแฟนแล้ว ไม่รับเพิ่มแล้ว มีแค่คนเดียวก็ชวนปวดหัวจะแย่ละ” พูดไปก็เอาคางมาถูไถที่กกหูผมขึ้นลง
“ถ้าอยากจะมีเพิ่มก็ตามสบาย เหนือไม่ซีเรียสครับ” ผมพูดยวนก่อนจะตบท้ายว่า “เพราะเหนือก็จะมีบ้าง จะได้เสมอกันไงครับ”
“พี่สัญญาว่าจะรักเหนือคนเดียว มีเหนือคนเดียว” มือพี่วินเริ่มรุกล้ำเข้ามาลูบข้างในเสื้อของผมแล้วครับ
จากที่กุ๊กกิ๊กเปลี่ยนเป็นโรแมนติกแล้วก็กลายเป็นเริ่มจะดราม่าละ
“อย่าสัญญาเลยพี่ แฟนเก่าของผมก็สัญญาแบบนี้ทุกคน สุดท้ายก็...” จากความรักที่ผ่านมาของผมมันทำให้อดไม่ได้ที่จะคิดยาวไปถึงจุดจบในวันข้างหน้า
พี่วินหยุดมือที่อยู่ในเสื้อของผมแล้วชักออกมาเพื่อใช้ดันตัวเองขึ้น ตัวของพี่วินคร่อมตัวของผม มือทั้งสองยันกับเตียงเป็นกรงแขนชวนหวามไหว สายตาที่มองลงมานั้นมีความจริงจังอย่างที่สุด
“พี่ผ่านความสับสนมาแล้ว พี่ยืนยันในทุกคำที่บอก”
สีหน้า แววตา คำพูด น้ำเสียงพวกนั้นทำให้ผมน้ำตาคลอขณะเดียวกันก็ทำให้เขินขึ้นมาซะอย่างนั้น ก็เลยพูดอ้อมแอ้มว่า “ง่วงไม่ใช่เหรอ หลับเถอะ”
ใบหน้าหล่อเหลาท่ามกลางแสงสลัวในห้องเลื่อนลงมาแล้วกระซิบเสียงทุ้มนุ่มที่ข้างหู “ตื่นแล้วครับ”
เห็นจะจริงดังว่า ใกล้เช้าแล้วนี่ครับพี่วินก็คงจะ ‘ตื่นแล้ว’ เพราะส่วนที่ทับตรงขาอ่อนของผมมันบอกอย่างนั้นจริงๆ และพี่วินก็ดูเหมือนจะบอกยืนยันว่าตื่นแล้วโดยการกดเน้นลงมาอีก
“เชื่อแล้วครับ” ผมว่าพลางยกสองขาขึ้นกระหวัดรัดรอบเอวพี่วินทันทีเลยครับ ก็แหม นี่มันปี 2019 แล้วนะ ยุคแห่งความเท่าเทียม แล้วความเหนียมอายผมก็ไม่เคยมีอยู่ละ (ไม่งั้นอด) “ตื่นแล้วทำอะไรต่อครับ”
“ตอกย้ำคำสัญญาดีมั้ย” พี่วินจูบปากผมหลังจากพูดจบ
ม่ายอย่างผมก็เหมือนกระดังงาลนไฟอย่างที่คนโบร่ำโบราณเปรียบไว้นั่นแหละครับ พอพี่วินจู่โจมผมก็ไม่ยอมนอนนิ่งให้เขาสนุกฝ่ายเดียวหรอกนะ จูบมาจูบกลับสิครับ แถมลิ้นให้ด้วย แล้วเชื่อมั้ยครับว่าระหว่างที่เราจูบกันไม่กี่อึดใจนั่นเสื้อผ้าของเราทั้งสองคนหายไปจากร่างจนเกลี้ยง ซึ่งมันจะถูกเหวี่ยงไปกองอยู่ตรงไหนใครจะแคร์ล่ะครับ
พี่วินตรึงสองมือของผมไว้ด้วยฝ่ามือของเขา ปากของพี่วินเลื่อนจากริมฝีปากของผมไปจนทั่วบริเวณแก้มไล่ลงไปยังซอกคอและวนเวียนอยู่แถวหน้าอกซึ่งแอ่นขึ้นเสิร์ฟอย่างเต็มใจ ผมปล่อยให้พี่วินดื่มด่ำกับเรือนร่างของผมครู่ใหญ่ก่อนที่ผมจะพลิกตัวขึ้นมาอยู่ด้านบนบ้าง
อกล่ำๆ ของพี่วินซึ่งโผล่อยู่เหนือผ้าห่มคือน่าฟัดน่าขยำเสียจริงครับ พี่วินมองสบตาอย่างคนกระหาย สีหน้าที่ฉายออกมานั้นเหมือนกับขนมที่รอให้ผมลงมือแกะใส่ปาก ถ้าผมมีขนมสุดอร่อยสักอย่างผมก็เต็มใจแบ่งปันหรือแจกจ่ายให้คนอื่นได้ลองกินอยู่หรอกนะ แต่เสียใจด้วยครับ ขนมชิ้นนี้ผมจะอุบไว้กินคนเดียว อิอิ
ผมดึงผ้าห่มที่ปิดช่วงล่างออกอย่างไม่ไยดีจากนั้นพี่วินก็จับมือผมให้เลื่อนลงไปหา ‘ขนม’ ซึ่งคอยท่าอยู่แล้ว เมื่อมือของผมสัมผัสมั่นเหมาะ คนที่นอนอวดเรือนร่างเต็มตาก็พยักหน้าให้สัญญาณกึ่งเป็นการอนุญาต ผมยิ้มเล็กน้อยก่อนจะละสายตาจากใบหน้าหล่อเหลาแล้วเปลี่ยนมาสนใจกับขนมในมือ
เสียงหายใจแรงเป็นห้วงๆ ประกอบกับอาการเกร็งช่วงหน้าท้องของพี่วินทำให้ผมยิ่งรู้สึกเอมโอชและมีเรี่ยวแรงในการกินขนมอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย จนกระทั่งผมถูกห้ามไม่ให้กระทำต่อคงเพราะเกรงว่าไส้ขนมจะทะลักออกมาก่อนเวลาอันควร พี่วินใช้สองมือประคองคางผมขึ้นแล้วค่อยดึงเลื่อนขึ้นไปจูบอย่างดูดดื่มก่อนที่จะจับผมพลิกลงไปอยู่ด้านล่างอีกครั้ง คราวนี้คนที่เป็นฝ่ายยิ้มออกจะเจ้าเล่ห์แลดูตะกละตะกลามหากก็พราวไปด้วยเสน่ห์เหลือล้นก็เปลี่ยนเป็นผู้กระทำต่อร่างกายของผมซึ่งทุกๆ การเคลื่อนไหวได้รับการยินยอมเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะจับจะพลิกยังไงผมไม่มีต้านไม่มีฝืน จนกระทั่งพี่วินจัดท่วงท่าได้เหมาะสมและผมก็พร้อมรับกับอาการเจ็บที่จะเกิดขึ้นอย่างรู้งาน พี่วินจึงค่อยๆ เริ่มสอดประสานร่างกายเข้ามาทีละนิดจนกระทั่งเราทั้งสองคนเป็นของกันและกันโดยสมบูรณ์
“เจ็บมั้ย ไหวมั้ย” พี่วินโน้มตัวลงมาถามก่อนหอมแก้มเบาๆ
เจ็บดิถามได้ แต่ศรีทนได้
“ไหวครับพี่” ผมผ่อนลมหายใจพลางเอื้อมสองมือขึ้นโอบหลังพี่วิน เมื่อพร้อมรับกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปผมจึงกระซิบบอก “เอาเลยครับพี่”
พี่วินจูบผมก่อนจะเริ่มขยับร่างกายส่วนล่างที่มันทั้งคับและเจ็บจุกจนทำให้ผมหายใจแทบไม่ออก หากเพียงได้มองหน้าที่ลอยอยู่ด้านบน ความเจ็บปวดก็ค่อยคลายไปจนแปรเปลี่ยนเป็นความสุขและสนุก เราสองคนได้บรรลุถึงการรวมประสานทั้งร่างกายและความรู้สึกเพราะเมื่อผมไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวด พี่วินก็รับรู้ได้โดยไม่ต้องบอก จังหวะการขยับจึงลื่นไหลและทวีความเร็วมากขึ้น
“ที่รักครับ” พี่วินพูดกับผมซึ่งเป็นฝ่ายนอนรับความหฤหรรษ์อยู่ด้านล่าง ไม่ต้องรอให้เขาพูดอะไรให้มากมายครับ ผมดันตัวเองขึ้นแล้วเปลี่ยนตำแหน่งมาอยู่ด้านบน ส่วนพี่วินก็ทอดกายลงไปนอนบ้าง จากนั้นผมก็เป็นฝ่ายปรนนิบัติให้อย่างสุดพลัง
“เหนือ...” พี่วินเอ่ยชื่อผมทั้งใบหน้าเหย แต่ไม่มีการขานรับจากผมหรอกนะครับเพราะรู้ดีว่าอะไรเป็นอะไร ผมมองใบหน้าสุดหล่อของพี่วินซึ่งอยู่ในอารมณ์ที่คนอื่นไม่มีทางได้เห็นนั้นแล้วก็ยิ่งเพิ่มระดับความเร็วขึ้นไปอีกจนเหงื่อโทรมกายไปหมด
“พี่วินครับ” ผมให้สัญญาณว่าแรงใกล้จะหมดแล้ว 555 อย่างที่บอกอ่ะครับ นาทีนี้เราสองคนแค่มองตาหรือพูดออกมาคำเดียวก็รู้ความคิดของอีกฝ่ายได้เลย พี่วินจับเอวผมแล้วก็เป็นฝ่ายขยับสวนขึ้นมาด้วยความแรงเร็วและหนักหน่วงมากกว่าเดิม จนในที่สุดเมื่อทุกอย่างถึงแก่ความพร่างพราว ผมก็แทบสลบหมดแรงล้มลงนอนทับพี่วินซึ่งรองรับอยู่ด้านล่าง
“เหนื่อยมั้ยครับ” พี่วินพูดแซว
“บ้า” ผมซุกหน้าเข้ากับอกที่เปรอะเหงื่อของพี่วิน อันที่จริงนาทีนี้เราสองคนเหนอะหนะทั้งคู่แหละครับ “เขินนะ”
“เขินเป็นด้วย?” ยังไม่หยุดอีก “ไม่ใช่ครั้งแรกของเรานะครับ”
“ก็ตอนนั้นยังไม่ได้เป็นแฟนกันนี่”
“นี่” พี่วินหยิกหูผม “ง่าย”
“เจ็บนะ” ผมปั้นหน้าบึ้ง “มาว่าเหนือง่ายทำไม”
“ก็ที่มีอะไรกับพี่ตอนนั้นไง ยังไม่ได้เป็นแฟนกันเลย”
“แล้วไม่ชอบรึไง” ผมเอานิ้วชี้จิ้มปลายจมูกพี่วิน
“ต่อไปห้ามทำแบบนั้นนะ” พี่วินว่าแล้วก็งับนิ้วผมเบาๆ
“คร้าบ จะทำตัวง่ายกับพี่คนเดียวนะครับ” ผมมองหน้าพี่วินแล้วก็อมยิ้มทะเล้น
“ยิ้มอะไร?”
“เหนือชอบตอนที่พี่ทำหน้าแบบตะกี้จัง” ผมบอกตรงๆ
“ตอนไหน?”
“ตอนเสียว”
โป๊ก!
“อยากเห็นอีกรอบมั้ยล่ะ”