Dormitory Boys – สะดุดรัก หอพักอลเวง
“รัก...ติดดิน"CHAPTER 43 – หลักฐานข้างเตียง“ทำอะไรน่ะ?”
คิมหรี่ตามองร่างเพื่อนรักซึ่งนั่งเพียงลำพังบนเตียงในชุดนอนลายทางหลวมโพรกที่ต่อให้คนสติไม่ดีอย่างไรเห็นแล้วยังรู้ว่าไม่ใช่ของเจ้าตัวแน่นอน ใบหน้าล้อมกรอบด้วยผมสีน้ำตาลยุ่งเหยิงแดงซ่านไปหมด แต่จะขอยกประโยชน์ให้จำเลยว่าอาจเป็นผลจากอาการป่วยก็ได้ ได้ยินเสียงหอบล่องลอยแผ่วเบาในความเงียบพร้อมกับแผ่นอกเจ้าของเสียงที่กระเพื่อมขึ้นลงอย่างกับเพิ่งไปวิ่งสี่คูณร้อยเมตรมาหมาด ๆ แล้วก็ยิ่งน่าสงสัย
เอาล่ะ...ในฐานะที่เขาเป็นคนใจดี(อย่างน้อยก็ใจดีกว่าพี่สาวของตัวเอง) จะตีความเข้าข้างปิ่นหยกให้อีกอย่างว่าคนป่วยก็หายใจแรงอย่างนี้ได้เป็นปกติ และยังแกล้งทำเป็นเมินผ้าปูที่นอนยับย่นไปจนถึงร่องรอยอะไรต่อมิอะไรอันคอยจะพุ่งเข้ามากระแทกตาโดยไม่ต้องใช้ความพยายามสอดส่องพวกนั้นเลยด้วยก็ได้
แต่ดูเข้าสิ...
เอื้อประโยชน์ขนาดนี้ก็ยังอุตส่าห์ได้กลิ่นความลับตลบอบอวลในทุกอณูอากาศ“ไอ้เวร!! เข้าห้องไม่เคาะประตูวะ!”เขานึกกว่าปิ่นหยกใบ้กินไปแล้วเสียอีก แต่ปากอย่างนี้แสดงว่าคงไม่ได้ป่วยหนักหนาสาหัสอะไรอย่างที่คิด เด็กหนุ่มยกมือขึ้นเท้าเอว ขากระดิกเตรียมเอาแข้งแนบก้านคอให้หายไข้สักทีหากได้ยินอะไรไม่เข้าหูอีกรอบ
“แล้วใครวะเคยบอกว่าถ้าห้องไม่ได้ล็อคให้ฉันเข้ามาได้เลยเพราะรำคาญเสียงเคาะประตูน่ะ!?”
“.......อ่า.....”
ได้เก็บแข้งไว้กับตัวก่อนเพราะอีกฝ่ายหน้าเจื่อนลงนิดหน่อยพร้อมกับเอ่ยรับอ้อมแอ้ม “..........ก็...ลืมว่ะ”
“ชิ!”
ปิ่นหยกถึงกับเหงื่อตก สิทธิพิเศษเฉพาะบุคคลนั้นจริงอย่างคิมว่าทุกประการ เขาเคยพูดอย่างนั้นกับอีกฝ่ายเพราะเห็นว่าสนิทกันมากพอจนไม่มีอะไรต้องปิดบัง(ซึ่งนั่นเป็นเรื่องก่อนเจออาทิตย์) นุ่งกางเกงลิงตัวเดียวอาบน้ำด้วยกันตอนไปเข้าค่ายก็ทำมาแล้ว ตอนนั้นถึงกับย้ำชัดว่าหากเขากำลังจัดการธุระส่วนตัวอะไรที่เป็นความลับเดี๋ยวจะล็อคห้องไว้เองซึ่งความลับอะไรนั่นกับคิมก็ไม่เคยมีอยู่ดี เมื่อก่อนตอนห้องนี้ยังเป็นของเขาคนเดียวโดยไม่มีคุณชายหน้ามึนรุกราน คิมก็มาเอ้อระเหยปล่อยชีวิตทิ้งขว้างอยู่ในนี้บ่อย ๆ จนแทบบังคับให้จ่ายเงินค่าเช่าเป็นรายเดือนแม้เขาจะไม่ต้องจ่ายเพราะเจ้าของหอรูปหล่อใจดีให้อยู่ฟรีแลกกับแรงงาน
แต่ตอนนี้สถานการณ์เหมือนเดิมที่ไหน เอาไว้คงต้องร่างสนธิสัญญาฉบับใหม่ให้ทันต่อเหตุการณ์ ก่อนเพื่อนตาตี่ซึ่งอาจเลี้ยงกุมารทองจริง ๆ จะเลือกเวลาเปิดประตูห้องเขามาได้เหมาะเจาะอีกโดยไม่รู้ว่าครั้งหน้าจะโผล่มาเห็นอะไรเข้า
ถึงจุดนี้เขาเริ่มผวาสิ่งที่อยู่ในหัวตัวเอง.... คิดอย่างกับจะมีครั้งหน้าอีกอย่างนั้นล่ะ!“เป็นอะไรไอ้เบื๊อกปิ่น หน้าแดงใหญ่แล้ว”
ปวดตับระดับพรีเมียม หนังหน้านี่โกหกไม่เป็นเลย!
“....เป็น....ไข้หวัด!” ว่าแล้วก็ไอค่อกแค่กให้ดูสามสี่ครั้งซึ่งคงพอทำเนียนกับเด็กอนุบาลได้แต่แย่หน่อยที่คิมไม่ใช่ เพราะเด็กอนุบาลผู้น่ารักควรโดนเขาหลอกด้วยมุกง่าย ๆ และไม่ผลักเขาหัวทิ่มหมดท่าอย่างไร้จริยธรรมเช่นนี้
“อย่ามาแหลสด!”
เพื่อนเฮงซวย! กรูปวดนะเนี่ย ยังไม่ได้คิดบัญชีเรื่องวัตถุอันตรายในรูปเจลใสไร้กลิ่นสีที่ไม่รู้ไปแอบให้กันมาตอนไหนเลย
”ไอ้เลวคิม ทำร้ายคนป่วย แกมันจิตใจอำมหิตเกินวิสัยกิมจิสามัญแล้ว!”
ปิ่นหยกโอดครวญ ถือโอกาสแสร้งทำเป็นโวยวายกลบเกลื่อนพิรุธแต่มิได้นำพาความสำนึกผิดขึ้นมาปรากฏบนใบหน้าเพื่อนรักให้สมกับความพยายามเค้นเสียงรวดร้าวแต่อย่างใด คิมเริ่มออกเดินด้วยท่วงท่าซึ่งเจ้าตัวชอบทำยามต้องการสำรวจอะไรบางอย่าง และจุดนี้คือสิ่งที่ทำให้คิมเหมือนแมลงสาบคือมันจะทวีความน่ากลัวขึ้นเมื่อมีการเคลื่อนที่
เด็กหนุ่มผมทองลากเท้าผ่านสภาพห้องคุ้นเคยซึ่งข้าวของดูเยอะขึ้นกว่าเมื่อก่อนคงเพราะมีผู้อยู่อาศัยเพิ่มมาอีกหนึ่ง เสื้อผ้าสองสามชิ้นกองระเกะระกะอยู่บนพื้นซึ่งเขาจำได้ว่ามันเป็นของปิ่นหยก ปกติไอ้ตัวงกเงินตรงหน้าแม้ห่างไกลจากคำว่าเรียบร้อยนักแต่หากพูดถึงความเป็นระเบียบแล้วก็ถือว่าสูงกว่ามาตรฐานชายไทยไปมากโข การถอดเสื้อผ้ากองขยุกขยุยทิ้งไว้บนพื้นของอีกฝ่ายจึงไม่ใช่เรื่องที่จะมองข้ามกันได้ง่าย ๆ เลย หางตาเหลือบไปเห็นชายผ้าห่มโผล่พ้นจากใต้เตียงดูผิดที่ผิดทางอย่างถึงที่สุด
แต่อะไรก็ไม่เรียกความสนใจได้ชะงัดเท่ากับหลอดพลาสติกคุ้นตาซึ่งนอนสงบนิ่งอยู่บนพื้นข้างเตียงคิมขมวดคิ้ว ย่อตัวลงไปเก็บมันขึ้นมา และพบกับความจริงอีกสองเรื่องซึ่งทำเอาเขาขนลุกซู่พร้อมกับอาการปั่นป่วนมวนท้องไม่ทราบสาเหตุ
ความจริงอย่างที่หนึ่ง...
มีร่างมนุษย์ห่อในผ้าห่มซุกอยู่ใต้เตียง“......”
เป็นครั้งแรกที่เขาเกิดคำถามขึ้นในหัวว่าตัวเองมาทำอะไรอยู่ตรงนี้ หรือบางทีควรเปลี่ยนเป็นมันมาทำอะไรอยู่ตรงนี้....ที่ใต้เตียง(วะ) ไม่ต้องเสียเวลาเดาเลยว่าใคร ไม่พ้นเป็นคุณชายร่างสูงผู้ล่าอาณานิคม(ในหลาย ๆ ความหมาย)ยึดห้องนี้แล้วสถาปนาตัวเองเป็นสามีไอ้เพื่อนเวรนี่แน่นอน ที่น่าลุ้นคือร่างนั้นยังมีชีวิตอยู่หรือกลายเป็นศพด้วยน้ำมือคนบนเตียงไปแล้วมากกว่า
แล้ววัตถุลึกลับเห็นเป็นเงาทะมึนใต้เตียงก็ขยับยุกยิกเบา ๆ คล้ายจะช่วยตอบคำถาม
โอเค... เขาถอนหายใจเฮือก
อย่างน้อยก็ยังไม่ตายคิมตัดสินใจแกล้งทำเป็นไม่เห็น(บอกแล้วว่าเขาใจดี)เพื่อมาสะพรึงต่อกับความจริงข้อที่สอง เด็กหนุ่มลุกขึ้นช้า ๆ ก้มลงพินิจพิจารณาหลอดพลาสติกสีฟ้าขาวในมือ สิ่งนี้เขาเป็นคนให้อาทิตย์ไว้เองเมื่อไม่กี่วันก่อน.....และตอนนี้มัน.........เกลี้ยงหลอด.....
โอ้แม่เจ้า!“....นี่พวกแก..”
“.......ค...คิม...”
เสียงสั่น ๆ ของร่างในชุดนอนตัวโคร่งบนเตียงเรียกให้เขาหันไปมอง คนเรียกน่าจะกำลังพยายามสร้างกระแสไฟฟ้าจากพลังงานความร้อนบนผิวหน้าซึ่งเชื่อว่าหากทำสำเร็จคงประหยัดค่าไฟไปได้หลายปีเพราะมันดูร้อน....ร้อนมาก...มากจนเขาชักรู้สึกหน้าร้อนตาม อารมณ์ตอนนี้ประหนึ่งตัวเองกำลังเล่นบทคุณแม่...เอ่อ...คุณพ่อซึ่งรอฟังคำสารภาพจากลูกสาวเรื่องความสัมพันธ์ลึกลับซ่อนเร้นกับแฟนหนุ่มที่แอบคบกันอยู่
“....คือ.....ฉันรู้ว่าแกแสนรู้...”
มันยังมีแก่ใจกวนอวัยวะเบื้องต่ำ“..แก....คง...ร...รู้แล้วแหละ แต่อย่าเพิ่งพูดหรือวิจารณ์อะไรเลยขอร้อง ...ม....ไม่งั้นกรูอาจตายได้”
น้อยครั้งนักที่คิมจะประสบกับสถานการณ์กระอักกระอ่วนแต่มันก็เกิดขึ้นแล้ว เขาไม่เคยเชื่อว่าความอายจะฆ่าใครได้จนกระทั่งเห็นปิ่นหยกนาทีนี้เอง ถ้าอยู่ ๆ อีกฝ่ายจะกลิ้งลงไปชักแหง็กบนพื้นแล้วขาดใจตายไปต่อหน้าต่อตาโดยแพทย์ลงความเห็นว่าเสียชีวิตจากการได้รับความอับอายเกินขนาดเขาจะไม่แปลกใจเลยแม้แต่น้อย
“...อ...เออ..”
คงต้องเพิ่มข้อสังเกตอีกอย่างว่าความเคอะเขินอาจติดต่อถึงกันได้(ยกเว้นอาทิตย์ซึ่งดูจะมีภูมิคุ้มกันดีมาตลอด) เพราะเสียงเขาดันตะกุกตะกักตามปิ่นหยกขึ้นมาเสียอย่างนั้น ได้แต่ยกมือเกาท้ายทอยเงอะงะอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเปลี่ยนเอามันไปวางไว้บนกลุ่มผมสีน้ำตาลนุ่มนิ่มของอีกฝ่ายแทนแล้วตบแปะ ๆ เหมือนลูบหัวไอ้ดุ๊กดิ๊กหมาที่บ้าน
“....ล..แล้วแก...เป็นไงวะ....คือหมายถึงเจ็บ......อืม....แบบสึกหรอตรงไหนหรือเปล่า”
“...ก็......เจ็บ...อยู่...”
ปิ่นหยกตอบด้วยเสียงกระซิบเหมือนกลัวคนใต้เตียงจะได้ยิน บัดซบ! เพิ่งบอกไปว่าไม่ให้พูด แล้วไหงเขากลับต่อบทสนทนาให้ยืดเยื้อเข้าไปอีก
“ฉันไปลากมันมาต่อยเอาไหม อยู่ไหนแล้ว” คิมแกล้งถามเสียงเครียด ทำเป็นไม่รู้ว่ามีวัตถุหน้ามึนร่างสูงซุกอยู่ใต้เตียง เน้นแต่ละคำพูดชัดถ้อยชัดคำกะเอาให้ได้ยินกันทั่วห้อง “หรือฆ่าทิ้งแม่งเลย”
“..บ้าเรอะ...”
โครงการสร้างกระแสไฟฟ้าจากพลังงานความร้อนบนผิวหน้าของปิ่นหยกคงใกล้สำเร็จเต็มทีแล้ว เด็กหนุ่มแทบมุดหน้าจมหายไปกับหมอนบนตักเมื่อรู้ตัวว่าพูดอะไรออกไป ทำได้เพียงพึมพำต่อเสียงอู้อี้ด้วยข้อแก้ตัวฟังไม่ขึ้น
“..ด...เดี๋ยวจัดการเอง”
คิมยักยิ้มมุมปาก ตอนแรกก็คิดไปว่าอาทิตย์คงมาหลงเพื่อนเขาอยู่ฝ่ายเดียว แต่ดูท่าแล้วทางนี้ก็ใช่จะน้อยเสียเมื่อไร
“ไอ้กร๊วกเอ๊ย! แต่ยังดี อย่างน้อยก็แน่ใจแล้วว่าไม่ได้โดนข่มขืน”
“ไอ้กิมจินรก!”
“ฮ่า ๆ ๆ แกต้องขอบคุณฉันต่างหาก”
“แช่งให้ได้แฟนเป็นผู้ชายมร่าง!”
“มีสามีแล้วพาลนะเมิง!”
“เลว! มามีเองดิ!”
“ยอมรับแล้วเรอะว่าตัวเองเป็นเมียอะ”
“เว้ยยย!!!! ไม่คุยแล้วแสรด!!”
คิมหัวเราะท้องคัดท้องแข็ง ยั่วโมโหปิ่นหยกเป็นความบันเทิงอย่างหนึ่งซึ่งเขาค้นพบหลังจากเริ่มสนิทกัน แต่คงต้องจบการรังแกคนป่วยไว้เพียงเท่านี้ก่อนเพราะเขามาที่นี่ด้วยจุดประสงค์อื่นซึ่งเกือบถูกลืมไปแล้วจากหลักฐานสารพัดอย่างอันชวนให้วอกแวกในห้อง
“เออ..ไม่คุยเรื่องนั้นแล้ว ที่มาเพราะมีอะไรจะบอกเฉย ๆ” คิมยักไหล่ “ความจริงไม่ได้จะบอกแกหรอก มาบอกอาทิตย์มากกว่า แต่คิดไปคิดมาอาจจะเกี่ยวกับแกอยู่บ้าง”
“เรื่องอะไร?”
“วันนี้อาเจ้อยากกินเค้ก”
อาเจ้ที่ว่าหมายถึงพี่สาวของคิมซึ่งมีอยู่สองคน คนหนึ่งทำงานแล้ว ส่วนอีกคนเรียนอยู่ระดับอุดมศึกษา
“มาคู่เลยเรอะ!?”
“เปล่า เจ้ใหญ่ไม่มา มาแต่เจ้สิ...ลากฉันมาด้วย” ถึงตรงนี้คิมเริ่มออกอาการเซ็งที่ต้องตกเป็นเบี้ยล่างพี่สาวตลอดมา “แถมคุณนายสิสิรพาเพื่อนสาวมาอีกคน”
“แล้วไงวะ” ปิ่นหยกขมวดคิ้ว ไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายต้องการสื่ออะไร
“เพื่อนเจ้ชื่ออันนา”
“อือ”
“เข้าใจยัง พี่อันนา”
“อา..อันนา...”
“.....”
“ห๊ะ!?” “ความรู้สึกช้าฉิบหาย!” คิมส่ายหน้า สายตาเหลือบมองไปยังพื้นที่ดำมืดใต้เตียงอย่างจงใจทำเอาปิ่นหยกเสียวสันหลังวาบ “อันนาผู้พี่บอกว่าคิดถึงอาทิตย์ผู้น้องใจจะขาด พอรู้ว่าทำงานกับซุกหัวนอนอยู่ที่นี่เลยบอกจะตามมาดู”
ปิ่นหยกใจเต้นโครมคราม พี่อันนา...พี่สาวของอาทิตย์ คนที่เคยรู้จักเพียงแต่ในบทสนทนาบางครั้งบางคราวจากปากของคุณชายหน้ามึน แถมยังเป็นเพื่อนกับพี่สิสิรซึ่งเป็นพี่สาวของคิมเสียด้วย “ม...ไม่เห็นเคยรู้มาก่อนว่าเขาเป็นเพื่อนกับพี่สิ”
“แล้วแกเคยรู้อะไรบ้างล่ะนอกจากราคาสินค้าติดป้ายลดกระหน่ำ”
“ฟาย! ฉันรู้ด้วยว่ามันลดวันไหนบ้าง”
คิมกลอกตา ยังมีหน้ามาเถียง...ภูมิใจฉิบหายแล้วนั่น!
ได้แต่ถอนหายใจเหนื่อยหน่ายก่อนจะพูดต่อ “แวบขึ้นมาดูความเรียบร้อยก่อน เพราะดูท่าทางแล้วเดี๋ยวพี่อันกับเจ้ต้องแห่กันขึ้นมาถึงห้องพักน้องชายสุดรักแน่นอนว่าเป็นอยู่อย่างไร” เด็กหนุ่มกวาดตามองไปรอบตัว อย่างน้อยก็ควรทำลายหลักฐานบ้างอะไรบ้าง โชคดีเท่าไรแล้วที่เขามาเจอก่อน
“เก็บห้องดี ๆ เดี๋ยวคุณพี่มีกรี๊ด”
ปิ่นหยกยกมือขึ้นกุมขมับ คิมเป็นเพื่อนดีที่โคตรเลว...หรือต้องเรียกว่าเพื่อนเลวที่โคตรดี? จะมีไอ้บ้าหน้าไหนมองการณ์ไกลขนาดเตรียมเจลซึ่งไม่ได้บรรจุเป็นยาสามัญประจำบ้านไว้ให้ล่วงหน้าอย่างกับเห็นอนาคต แล้วยังมีมาเตือนพร้อมกับช่วยตรวจตราความเรียบร้อยก่อนรับแขกบ้านแขกเมืองอีก เขาไม่รู้อยากก้มลงกราบหรืออยากกระทืบมันมากกว่ากัน
“มาแค่นี้แหละ ฉันลงไปที่ร้านก่อน จะจัดฉากหรือทำลายหลักฐานอะไรก็รีบทำเข้า ล็อคห้องด้วย”
ปิ่นหยกสะดุ้ง คันปากยุบยิบแต่ไม่คิดเถียงสักคำ
“.....ขอบใจว่ะคิม...”
เจ้าของชื่อพยักหน้าพร้อมกับยักคิ้วกวนประสาท เดินฉุยฉายน่าเตะผ่านหน้าเขาแล้วตรงไปทางประตู ทว่าก่อนเขาจะทันได้ถอนหายใจโล่งอก ถ้อยคำซึ่งพิสูจน์ว่าตาตี่ ๆ ของคิมไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อทัศนวิสัยแม้แต่น้อยและความพยายามจะซ่อนอะไรให้มิดชิดต่อหน้าท่านคิมคงเร็วไปสักสิบปีก็แว่วมาเข้าหู
“แล้วอย่าลืมเก็บศพใต้เตียงให้เรียบร้อยล่ะไอ้โง่!”“......”
เสียงลูกบิดลั่นกริ๊ก คิมคงกดล็อคไว้ให้แล้วก่อนที่บานประตูจะถูกงับปิดลงแผ่วเบา ทิ้งปิ่นหยกนั่งอ้าปากค้างแทบเปลี่ยนหน้าตัวเองเป็นสัญญาณไฟจราจรเดี๋ยวเขียวแดงเหลืองโดยมีร่างคุณชายที่ไม่รู้ว่าหลังจากนี้จะได้กลายเป็นศพจริง ๆ หรือไม่ซุกอยู่ใต้เตียง
แต่ ณ จุดนี้เขารู้แล้วว่าอยากกราบหรืออยากกระทืบคิมมากกว่ากันTo be continued…=====================================
หากนิยายเรื่องนี้จะมีใครตาย...คนคนนั้นอาจเป็นคิม //โดนฆ่าปิดปาก ฮาา
พี่อันมาแล้วววว เย้เฮ~~~~!
ส่วนพี่สาวคนรองของคิม(คิมมีพี่สาว 2 คน) ชื่อสิสิร อ่านว่า สิ-สิ-ระ แปลว่าฤดูหมอกหรือฤดูน้ำค้าง
ส่วนชื่อคิมหันต์แปลว่าฤดูร้อน บ้านนี้ตั้งชื่อลูกด้วยชื่อฤดู XD
พระเอกไม่ได้ออกเลยตอนนี้ หงึกกกก รอหน่อยนะคะ นอนตาย(?)อยู่ใต้เตียงปล่อยเพื่อนสาว(?)สองคนเขาคุยกันไปก่อน 555
ขอบคุณงาม ๆ ทุกคอมเม้นต์ค่าาาาาา *กอดดดด*
ปล.แอบได้เห็นว่ามีชื่อนิยายไปโผล่บ้างในเซ็งเป็ดอวอร์ดหมวดนิยายฮา เพิ่งรู้ว่าเรื่องนี้มันอยู่หมวดนี้(เข้าใจว่ามันรั่วแต่ไม่คิดว่ารั่วมาก...ฮา)ดีใจมากมายค่ะ กับปิ่นหยกที่โผล่อยู่จึ๋ง ๆ ตรงฝั่งนายเอก ขอบคุณมากนะคะ แค่อ่านแล้วยิ้มหรือหัวเราะออกมาได้คนเขียนก็มีความสุขมากแล้วค่ะ โผล่ไปนิดหน่อยก็ดีใจมากแล้ว TTvTT *กราบกราน* เราเองอายุบอร์ดไม่ถึงเลยโหวตไม่ได้ แต่ได้มีสิทธิโหวตนักอ่านนักโพส เดี๋ยวจะตามไปใช้สิทธิกับเขาด้วยล่ะค่ะ รอใกล้ ๆ หมดเขตก่อน แฮ่ ๆ ของแถมรีพลายถัดไป~ แล้วพบกันตอนหน้าค่ะ >3<
***สารบัญคลิกที่นี่ค่ะ***