วันนี้ผมมาแอบมองคนน่ารักที่เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยยิ้มเลย ถึงจะมาแอบมองได้ไม่บ่อยแต่ก็ทำให้อยู่ได้โดยไม่ทุรนทุรายไปทั้งอาทิตย์ ...ชงโคยังเหมือนเดิม ชอบรดน้ำต้นไม้ ทำสวนครัว แต่รอบตัวที่ไม่เหมือนเดิมคือสิ่งแปลกปลอมที่เพิ่มเข้ามา ผมไม่ได้หมายถึงเพื่อนที่มาเที่ยวที่บ้านบ่อยๆ ผมหมายถึงไอ้เดือนกิ๊กก๊อกนั่นต่างหาก
มันแย่นะที่ต้องแอบมองจากช่องกำแพงเล็กๆ อย่างนี้ ต้นชงโคช่วยบังไว้ได้เยอะก็จริง แต่ผมก็ต้องแลกกับการแต่งตัวโรคจิตด้วย กลับหอก็ต้องรีบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดอื่นเพราะละอองเกสรที่ติดกับเสื้อผ้าจะทำให้ผมเดี้ยงไปหลายวัน
มอออออ มอออออออออ มออออออออออออออออออ
เช็ดดด! ลืมปิดเสียง! มีแค่ตอนนี้เท่านั้นแหละที่ผมไม่อยากได้ยินเสียงเดซี่! ไอ้บ้าเอ้ย ใครโทรมาวะ! ผมรีบก้มหลบเมื่อเห็นชงโคหันมองไปมา น้องคงได้ยินเสียงของเดซี่แน่ๆ เลย
โธ่เอ้ย ไอ้ห่าดีน นี่มึงจะทำเสียเรื่องไปถึงไหนเนี่ย
“มีอะไร”
(กูมีเรื่องจะคุยด้วย)
“เออ กูก็มี แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้”
(จะเป็นตอนอื่นก็ได้ แต่กูขอเตือนว่ามึงต้องรีบมาหน่อยล่ะ เพราะไม่อย่างงั้นกูจะพานิลไปเปิดตัวกับที่บ้านมึง)
ผมล่ะอยากจะหัวเราะออกมาดังๆ ไอ้ดีนคงคิดอยู่ว่าผมยังเป็นไอ้โง่ที่ไม่รู้อะไรเลย แต่ก็ดี...ให้มันเข้าใจผิดต่อไป ผมก็อยากรู้นักว่ามันต้องการอะไรกันแน่
“โอเค เดี๋ยวกูไป ให้ไปเจอที่ไหน”
(บ้านนิล)
ไอ้ดีนพูดเสร็จก็วางสายไป ผมเลยจำใจต้องจบภารกิจแอบมองสุดที่รักไว้แต่เพียงเท่านี้ ไว้ดึกๆ เฮียมาหาใหม่นะจ้ะชงโค ^^
ผมรีบเดินออกมาหน้าปากซอยที่จอดรถเอาไว้ ก่อนจะขับตรงไปยังบ้านของเพื่อนสมัยเด็กที่เคยมาแค่ไม่กี่ครั้ง
ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงก็มาถึงบ้านสองชั้นสีขาวที่มีขนาดพื้นที่หน้าบ้านไว้พอวางกระถางดอกไม้ไม่กี่กระถางเท่านั้น ผมกดกริ่งตรงเสาประตูหน้าบ้าน ได้ยินเสียงวิ่งโครมครามออกมา
น้องดิว น้องสาวของไอ้ดีนพอเห็นว่าเป็นผมก็ยิ้มกว้างแล้วรีบมาเปิดประตูให้
‘สวัสดีค่ะเฮียทอง ดีใจจังเลยที่ได้เจอ เฮียทองสบายดีไหมคะ’
“สบายดีครับ แล้วดิวล่ะ เป็นยังไงบ้าง”
‘ก็ดีค่ะ ดิวช่วยคุณพ่อคุณแม่ทำงานด้วย ตอนนี้ที่บ้านของเราเปิดร้านอาหารค่ะ เฮียอย่าลืมไปอุดหนุนนะคะ’
“แน่นอนครับ ไว้ว่างๆ เฮียจะไปนะ”
ผมขยี้หัวน้องดิวอย่างเอ็นดู ก่อนจะเดินตามร่างเตี้ยๆ ป้อมๆ เข้ามาในบ้าน ได้ยินเสียงพูดคุยกันของนิลกับไอ้ดีนดังแว่วมา แต่จับใจความไม่ได้ว่าคุยเรื่องอะไร แต่พอผมเดินเข้าไปในห้องรับแขก ทั้งสองคนก็หยุดพูดกันไปด้วยปริยาย หน้าเครียดๆ ของไอ้ดีนกับตาแดงก่ำที่คงผ่านการร้องไห้มาอย่างหนักของนิลทำให้ผมต้องเลิกคิ้วมอง
“ทอง...ดีใจจังที่มาหาเรา”
“ก็ไม่ได้อยากมานักหรอก แต่ไอ้ดีนเรียกมา เห็นบอกว่ามีเรื่องจะคุย”
นิลหน้าสลดลงไป แต่ผมก็ไม่ได้ใส่ใจ ผมหันไปมองไอ้ดีนที่ยื่นซองใส่เอกสารมาให้
“ใบทะเบียนสมรสของมึง ในเมื่อมึงจะฟ้องหย่าแล้ว กูก็ไม่อยากเก็บไว้”
ผมหัวเราะออกมาเบาๆ ดึงใบทะเบียนสมรสเจ้าปัญหาออกจากซอง กวาดตามองผ่านก่อนจะฉีกทิ้งท่ามกลางสายตาตื่นตะลึงของนิลและไอ้ดีน
“ทอง! นั่นเอกสารสำคัญนะ!” นิลร้องเสียงหลง มองผมอย่างตัดพ้อ
“ผมไม่เห็นว่ามันจะสำคัญตรงไหน ยังไงก็จะหย่าอยู่แล้ว จะเก็บไว้ทำไมอีก แล้วนี่นิลจะยอมหย่าให้ผมใช่ไหม”
นิลทำท่าอึกอัก เป็นไอ้ดีนซะเองที่ให้คำตอบกับผม “นิลจะหย่าให้มึง แต่มีข้อแม้ว่าค่าเลี้ยงดูที่ตกลงกันไว้ก่อนแต่ง มึงต้องจ่ายเป็นสองเท่า”
“ต้องการเงิน?” ผมเลิกคิ้วมอง ในขณะที่ไอ้ดีนลุกขึ้นแล้วก้าวยาวๆ มากระชากคอเสื้อผมทันที
“มึงอย่ามาทำท่าดูถูกไอ้ทอง คนอย่างมึงไม่มีสิทธิ์!”
ผมดึงมือของไอ้ดีนออก ก่อนจะเป็นฝ่ายกระชากคอเสื้อของมัน “กูมี! มึงคิดว่ากูโง่มากรึไงที่ไม่รู้ว่าโดนหลอกให้ส่งค่าเลี้ยงดูให้กับเมียปลอมๆ มาตั้งสองสามปี!”
นิลทำหน้าตกใจ ในขณะที่ไอ้ดีนยังคงนิ่ง
“มึงพูดเรื่องอะไร”
“มึงรู้ดีอยู่แล้วไอ้ดีน นี่ถ้ากูไม่ให้ทนายทำเรื่องฟ้องหย่าก็คงยังไม่ตาสว่าง มึงทำแบบนี้ได้ยังไงวะ! เกลียดอะไรกูนักหนา!”
ไอ้ดีนคลี่ยิ้ม แต่ไม่ใช่ยิ้มที่หน้ามอง มันยิ้มเย็นๆ ก่อนจะยกมือตบแก้มผมเบาๆ หลายที “ทำไมกูถึงเกลียดมึงน่ะเหรอ หึ! เหตุผลมีเป็นร้อยๆ ข้อ เพราะมึงแย่งนิลไปจากกู เพราะมึงชีวิตกูถึงไม่เคยพบกับความสุข และเพราะมึง ทำให้เลือดเนื้อเชื้อไขของกูไม่ได้ออกมาลืมตาดูโลกยังไงล่ะ! เหตุผลแค่นี้พอไหมไอ้โง่!”
“เลือดเนื้อเชื้อไขของมึง...” ผมทวนสิ่งที่ไอ้ดีนพูดอย่างงงๆ “ลูกของนิล...ไอ้โนบอกว่ามัน...”
“พอแล้วดีน...เราขอร้อง พอแล้ว! อย่าพูดออกมานะ อย่าพูด ขอร้อง” นิลร้องไห้ราวกับจะขาดใจ น้องดิวที่แอบมองอยู่ที่ประตูรีบเข้ามาปลอบ นิลกอดน้องดิวแล้วร้องไห้ออกมาเสียงดัง
ไอ้ดีนดูเหมือนไม่สนใจ มันแค่แสยะยิ้มแล้วเดินไปนั่งที่โซฟา ยกขาขึ้นไขว่ห้างแล้วมองผมด้วยสายตาสมเพช
“มึงมันโง่ไอ้ทอง ทั้งมึงทั้งไอ้โน ไอ้ห่านั่นแค่นอนกับเมียกูคืนเดียวก็คิดว่ามันเป็นพ่อของลูกกู ส่วนมึงก็ไอ้หน้าโง่ที่หลับหูหลับตาเห็นแต่เรื่องของตัวเอง มึงถึงได้โง่ให้คนอื่นเขาหลอกใช้อย่างนี้ไง หึหึ นิลเป็นของกูตั้งนานแล้วไอ้ทอง เป็นมาตั้งแต่มึงปฏิเสธที่จะคบกับนิล จำใส่หัวไว้ซะด้วย”
“เราไม่ได้เต็มใจ เรารักทอง เรารักทองคนเดียว แต่ดีน...” นิลยกมือขึ้นปิดหน้า ในขณะที่ไอ้ดีนหัวเราะเสียงลั่นห้อง
“ก็คงไม่เต็มใจ เพราะตอนโดนกูเอา นิลก็ยังร้องเรียกหาแต่มึง แต่ก็ไม่เป็นไรหรอก เพราะสุดท้าย ยังไงคนอย่างมึงก็ไม่ได้ไป”
“ไอ้สารเลว”
ผมไม่เคยคิดว่าวันหนึ่งจะได้มามองคนที่ผมคิดว่าเป็นเพื่อนรักเพื่อนตายตั้งแต่เด็กด้วยความเกลียดชังอย่างนี้ มันทำลงไปได้ยังไง ทำผู้หญิงตัวคนเดียวอย่างนิลได้ยังไง เป็นมันนี่เองที่เอาความมืดดำมาสาดใส่ความสดใสของนิล
“กับฆาตกรอย่างมึง ใครสารเลวกว่ากัน?”
“อย่างน้อยกูก็ไม่ได้ตั้งใจทำ แต่มึงตั้งใจทำชั่วๆ กับคนที่มึงบอกว่ารัก กูไม่แปลกใจเลยว่าทำไมนิลถึงกระโดดมาขวางหน้ารถกูในวันนั้นทั้งๆ ที่น่าจะรู้ว่าตัวเองท้องลูกของมึงอยู่ สุดท้ายก็เป็นเพราะลูกไม่อยากอยู่กับพ่อชั่วๆ อย่างมึง”
“มึงหุบปากเดี๋ยวนี้ไอ้ทอง!” ไอ้ดีนหน้าแดงก่ำด้วยความโกรธจัด มันลุกขึ้น ก้าวยาวๆ มาหาผม แต่ผมไวกว่าถึงได้ชกหน้ามันจนล้มลงไปกองกับพื้น
“ถ้ามึงบอกว่ารักใครสักคน มึงต้องมองว่าเขาเป็นคน เป็นคนที่มีชีวิต มีจิตใจเหมือนมึง ไม่ใช่ปากก็บอกว่ารัก แต่มึงทำเหมือนเขาเป็นสัตว์อย่างนี้”
“เขาไม่เคยรักกู! มึงได้ยินไหมว่าเขาไม่เคยรัก นิลรักมึง! ทั้งๆ ที่มึงไม่เคยทำอะไรดีๆ ให้เลย มีแต่กูที่อยู่ข้างๆ มีแต่กูที่คอยช่วยเหลือ มีแต่กูเท่านั้น...”
ไอ้ดีนตวาดเสียงดัง มันมองผมด้วยแววตาที่ไม่มีคำว่าเพื่อนหลงเหลืออยู่
“เราไม่ใช่ไม่เคยรักดีน...แต่เพราะเรื่องในวันนั้น เราไม่เคยลืมเลยว่าดีนใจร้ายกับเรามากแค่ไหน ถึงดีนจะไถ่โทษยอมให้เราทำตามใจตัวเอง ยอมให้เราแต่งงานกับทอง แต่เราก็ไม่ได้รู้สึกดีกับดีนขึ้นมาเลย ดีนไม่ได้รักเราหรอก ดีนรักตัวเองมากกว่า” นิลพูดขึ้นด้วยเสียงสั่นๆ เรื่องที่ผมไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าที่ผ่านมาคนรอบตัวผมเขาเจอกับปัญหาอะไรมาบ้าง มันคงจะจริงอย่างที่ไอ้ดีนหรือไอ้โปรดบอกว่าผมอยู่แต่ในโลกของตัวเองจนไม่สนใจคนรอบข้างเลย
ผมไม่รู้...ไม่รู้เลยจริงๆ
“ดีนบังคับให้เราแต่งงานแลกกับการที่จะไม่บอกทองเรื่องที่เราตกเป็นของดีน เรากลัวทองจะรังเกียจเรา เราไม่ใช่ผู้หญิงบริสุทธิ์ เราแปดเปื้อน เราไม่คู่ควรกับทองเลย แต่เราก็รักทอง เรารักทองมาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว เราเลยไม่รู้จะตัดใจยังไง เราขอโทษที่ทำให้ทองทุกข์ใจมาตลอด แล้วเราก็ไม่เคยโกรธทองเลยนะที่ทำให้เราต้องเสียลูกไป” นิลยืนขึ้น แล้วยิ้มทั้งน้ำตาให้กับผม “เราไม่ได้พิการหรอก ทุกอย่างเป็นแค่เรื่องที่ทำให้ทองต้องยอมแต่งงานกับเราเท่านั้น เราขอโทษจริงๆ เรารู้ว่าสักวันทองก็ต้องรู้ความจริง แต่เราก็แค่อยากอยู่กับทองบ้าง...แม้ว่าที่ผ่านมา ทองจะไม่เคยมาหาเราเลยก็ตาม”
“พูดพอหรือยัง ต่อหน้าผัวตัวเองยังพูดได้ขนาดนี้ ไม่แปลกใจที่จะระริกระรี้อยากแต่งกับไอ้ทองนัก ทั้งๆ ที่ความจริงก็แค่ไอ้ทองมันรวย มันสามารถเลี้ยงนิลไปได้ตลอดชีวิต แต่ดีนตอนนี้แม้แต่จะซื้อกระเป๋าแพงๆ ให้ยังทำไม่ได้”
“มึงหยุดพูดได้แล้วไอ้ดีน! ให้เกียรติเมียมึงบ้าง!”
“กูไม่หยุด! มึงจะมารู้อะไรกับเรื่องของกู ชีวิตกูเคยสุขสบายกว่านี้ เคยมีทุกอย่าง แต่มาวันนี้กูไม่มีอะไรเลย ดิวก็ต้องลำบาก พ่อกับแม่จากที่ไม่เคยทำงานหนัก ก็ต้องรับจ้างไปทั่วเพื่อหาเงินมาส่งกูกับน้องเรียน ทุกอย่างพังหมดแล้ว คนที่กูรักเขาก็รักมึง แม้แต่ลูกของกู มึงก็ยังมาพรากไป จะให้กูยิ้มแล้วบอกว่าไม่เป็นไรเหรอวะ? กูกำลังจะเป็นพ่อคนนะ! แต่เพราะมึง... ลูกของกูถึงไม่ได้เกิดมา มันก็สมควรแล้วนี่ที่มึงต้องรับผิดชอบ” ไอ้ดีนพูดจบก็หัวเราะเสียงดัง “และเพราะความโง่ของมึง อะไรๆ ก็เลยง่ายขึ้น ความจริงกูก็ไม่คิดหรอกว่ามึงจะฟ้องหย่าเลยไม่ได้คิดแผนสำรองไว้ กะว่าจะให้ส่งเสียเลี้ยงดูนิลต่อไปจนกว่ากูจะเรียนจบแล้วหางานทำเองได้ แต่ให้แต่งงานกับมึงนี่ก็ลงทุนไว้ซะเยอะเลยนะ ทั้งจ้างคนทำเอกสาร จ้างนายทะเบียน ก็อาจจะคุ้มที่มึงยอมส่งเงินให้ทุกเดือนตลอดสองสามปีที่ผ่านมา เสียดายก็แต่ตอนหย่าที่ไม่สำเร็จไปตามที่คิด”
ไอ้ดีนเหยียดยิ้มมาให้ผมที่ยืนกำหมัดแน่นอย่างระงับอารมณ์ ปล่อยให้มันพูดจบก่อนเถอะ จะได้ซัดทีเดียวให้ปากแตก เอาให้พูดไม่ได้อีกเลย!
“ดีนก็บอกแล้วว่าให้ยอมหย่าให้มันก่อนที่ความจะแตก ได้เงินมาสักก้อนก็ยังดี แถมมันยังบอกจะส่งค่าเลี้ยงดูให้ไปตลอดอีก แต่นิลก็ยังดื้อ ต่อจากนี้จะทำยังไงล่ะ คงต้องทำงานเองแล้วล่ะนะ หึหึ”
ผลัวะ!
ผมต่อยหนักๆ เข้าที่กรามของไอ้ดีน ก่อนจะตามด้วยอีกหลายๆ หมัดโดยที่มันไม่ตอบโต้เลยสักนิด นิลร้องไห้แล้วเข้ามาห้ามผมไว้ ในขณะที่น้องดิวรีบเข้าไปช่วยพี่ชายของตัวเอง น้องร้องไห้แล้วใช้ภาษามือบอกผมอย่างร้อนรน
‘เฮียทอง อย่าทำพี่ดีนเลยนะคะ ดิวขอร้อง พี่ดีนเจ็บแล้ว อย่าทำอีกเลยนะ’
เสียงร้องไห้ของนิลและน้องดิวทำให้ผมต้องหยุด ส่วนไอ้ดีนยังคงยิ้มเยาะมาให้อย่างหน้าเอาตีนถีบหน้า
“ความโง่ของกูมาจากความเชื่อใจ กูเชื่อใจเพราะมึงเป็นเพื่อน กูไม่เคยคิดว่ามึงจะทำแบบนี้ แต่มึงน่ะโง่กว่ากูไอ้ดีน โง่ที่ไม่เชื่อใจ โง่ที่ไม่บอก โง่ที่ไม่ยอมขอความช่วยเหลือ”
ทั้งชีวิตผมมีเพื่อนอยู่แค่ไม่กี่คน และเพื่อนที่อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก ก็คือไอ้ดีน มันเป็นคนที่คอยช่วยเหลือผมเสมอ มันเหมือนพี่ใหญ่ของผมกับไอ้โน จะคอยห้ามเมื่อผมกับไอ้โนเล่นซนกันเกินไป พวกเราสนิทกันมาก เล่นด้วยกัน นอนด้วยกัน อาบน้ำด้วยกัน ไม่มีอะไรที่ผมชอบแล้วไอ้ดีนจะไม่รู้ และไม่มีอะไรที่ไอ้ดีนเกลียดแล้วผมจะไม่รู้เช่นกัน แล้วความทรงจำเหล่านั้น ความรู้สึกดีๆ เมื่อก่อนนั้น...ไม่ได้มีค่าพอให้มันคิดถึงบ้างเลยเหรอ...
เราเคยเป็นเพื่อนที่รักกันมาก...มันลืมไปแล้วหรือไง
“กูไม่ต้องการ ความช่วยเหลือจากฆาตกรอย่างมึง!”
แค่เพราะประโยคนี้...ผมก็รู้แล้วว่า ไอ้ดีนไม่ได้เห็นผมเป็นเพื่อนของมันอีกแล้วจริงๆ
Inside: End
............................................To continue...............................................
มาแล้วค่ะ ขอโทษที่ช้าค่ะ วันนี้ขนของย้ายออฟฟิศ ก็เลยมาช้าหน่อย ขอบคุณทุกๆ ความคิดเห็นเลยค่ะ ซึ้งใจมากที่มารอกัน
http://ask.fm/TCHONG_K<< ถามได้ค่ะ
ตอนนี้ชงโคไม่ค่อยได้มา แต่ตอนหน้าได้เจอน้องค่ะ อิอิ
ปล. เห็นหลายความคิดเห็นตื่นตกใจกับ TheTenth แค่เพื่อนน้องค่ะ ไม่มีไร ทำไมไม่กลัวน้องหลินบ้างงงง