Addicted to you
I don’t know just how it happened,I let down my guard…
Swore I’d never fall in love again but I fell hard
ผมไม่รู้ว่าผมรักเขาตอนไหน
ผมเคยจากไปและสัญญากับตัวเองไว้ว่าจะเปลี่ยนแปลง
แต่สุดท้าย...แค่เห็นหน้าเขา ความรักที่พยายามลืมก็กลืนกินผมอีกครั้ง
— กันย์
“เป็นอะไร”
“ขาแพลง” ผมบอกคนที่วิ่งมาหยุดข้างๆ
“ไปวิ่งต่อเถอะ เดี๋ยวนั่งรอ” ผมชี้ไปที่ม้าหินอ่อนในสวน กันต์มองหน้าผมสลับกับข้อเท้าผม ก่อนที่จะวิ่งออกไปข้างหน้า ผมค่อยๆเดินมานั่งที่ม้าหินอ่อน ไม่นานนักคนที่วิ่งออกไปก็กลับมาพร้อมกับถุงพลาสติกในมือ
“อะไร” ผมถามคนที่นั่งขัดสมาธิลงบนพื้นหญ้า
“ยาไง” เขาตอบก่อนจะค่อยๆถอดรองเท้าวิ่งกับถุงเท้าของผมออก วางเท้าผมลงบนตักบางของเขา
“ไม่ค่อยได้วิ่งก็แบบนี้แหละ”
“กันต์”
คนที่นั่งอยู่เงยขึ้นมามองหน้าผม
“ขอบคุณครับ” เขาส่ายหน้าเพื่อบอกว่าไม่เป็นไรก่อนจะก้มหน้าก้มตาทายากลิ่นฉุนลงบนข้อเท้าผม
...นี่เป็นอีกเหตุผลที่ผมจะไม่ปล่อยเขาไปไหน…
เมื่อหลายปีที่แล้ว ตอนที่เรานัดเจอกันครั้งแรกในโรงแรมม่านรูด วันนั้นผมค่อนข้างเมาเพราะไปเที่ยวผับกับเพื่อน เราไม่แม้แต่จะถามชื่อ ผมผลักเขาลงบนเตียงเพราะความเมาและความยากและแล้วเราก็มีอะไรกัน
พอถึงตอนเช้า ผมตื่นมาพบว่าเขาหายไปแล้วแต่มียาแก้แฮงค์วางไว้ที่หัวเตียง
ผมที่ติดใจร่างกายเขายิ่งชอบเขามากขึ้นเวลาที่เห็นเขากำลังตั้งใจอ่านหนังสือ ชอบเวลาที่เขาประชดประชัน หรือแม้แต่ตอนที่นั่งคุยกับแมวอย่างในตอนนี้
“มาจากไหนลูก” ลักยิ้มเล็กๆเขาโผล่ขึ้นมาเมื่อแมวจรจัดตัวสีส้มซุกหัวเข้าที่มือเขา
“มันฉุนยา อย่าเลียนะ”
กันต์พูดอยู่คนเดียว เขาใช้น้ำดื่มล้างมือให้สะอาดก่อนจะเอื้อมมือไปลูบหัวแมวตัวนั้นเบาๆ
“เดี๋ยวมันกัด” ผมบอกคนที่ยิ้มให้แมวแต่หันมาทำหน้าตึงใส่ผม
“ไม่กัดหรอก”
“เออ ดื้อให้ถึงท่ีสุด” ผมว่า กันต์ที่ตอนนี้ไม่สนใจผมแล้วก้มตัวไปเล่นกับแมวตัวนั้น
ผมมองบรรยากาศสบายตาในสวน อากาศวันนี้เย็นสบาย ผู้คนมากมาย บ้างวิ่ง บ้างปั่นจักรยานและอีกหลายๆคนมานัั่งพักผ่อน ผมมองสระน้ำข้างหน้าก่อนจะหันกลับมามองคนที่ยังนั่งอยู่บนพื้นทั้งๆที่แมวตัวนั้นเดินจากไปแล้ว
“อยากเลี้ยงเหรอ” ผมถามเพราะเห็นเขาชอบพวกมันมาก
“อืม ตอนเด็กๆเคยเลี้ยงแต่ตอนนี้ยังเลี้ยงตัวเองไม่รอด” กันต์ว่าโดยที่สายตายังมองตามแมวสีส้มตัวนั้น
ในเย็นวันหนึ่งหลังจากเลิกงานแล้ว ผมรีบขับรถพาเขากลับมาที่ห้องของเขาเอง กันต์ดูไม่ค่อยเข้าใจ แต่เขาก็ไม่ปริปากพูดอะไร
“อะไรเนี่ย” กันต์ถามถึงกรงกระดาษเล็กๆที่มีรูระบายอากาศโดยรอบ เขามองหน้าผมทีมองกล่องผูกโบว์ที่วางไว้ที่ห้องตัวเองที
“เปิดดู”
แม้จะกำลังขมวดคิ้วกันต์ของผมก็ปิดความตื้นเต้นไว้ไม่มิดเมื่อได้ยินเสียงร้องของพวกสี่ขาเบาๆ
“เหมียวเหรอ”
ผมมองผู้ชายอายุ 28 ปี นั่งยองๆพร้อมกับเปิดกล่องดู พอเขาเห็นลูกแมวขนฟูสองตัวเขาก็ยิ้มกว้าง ผมมองลักยิ้มสวยนั่นถึงได้รู้ว่ามันคุ้มเหลือเกินกับการตามหาสิ่งมีชีวิตเล็กๆแต่แสนแพงแบบนี้
“มาอยู่กับพ่อนะ พ่อจะเลี้ยงให้ดีพ่อสัญญา ต่อให้พ่อกินมาม่าหนูก็ต้องอิ่ม”
ผมขำคนที่นั่งลงบนพื้นพร้อมกับค่อยๆอุ้มสัตว์เลี้ยงตัวเล็กขึ้นมาแนบอก
“เมี้ยว”
“ไปเอามาจากไหน”
“ฟาร์มแมว”
“กันย์ ซื้อมาเหรอ” กันต์ถามผมติดจะดุ
“อืม”
“ที่เขาหาบ้านก็เยอะแยะ” เขาว่าก่อนจะดึงมือผมให้นั่งลงข้างกัน
“ก็เห็นบอกใช้กะบะทรายได้แล้ว ฉีดวัคซีนแล้ว ตรวจโรคแล้วถึงซื้อมา”
ผมอุ้มอีกตัวที่ยังตะกุยกล่องกระดาษขึ้นมาบ้าง แต่ก่อนผมไม่ค่อยถูกกับสัตว์เลี้ยงพวกนี้นักเพราะไม่เคยเลี้ยงมาก่อน แต่ตอนไปเลือกผมเห็นว่าสองตัวนี้ซนดีถึงได้เลือกมา
“พ่อกันต์ หายโกรธคุณธนากรนะครับ” ผมว่าเลียนแบบเสียงของเขาเวลาคุยกับแมว พอสบตากับเจ้าของห้องถึงได้รู้ว่า pet therapy ที่เคยได้ยินมานานมันดีแบบนี้นี่เอง ขอแค่ให้เขายิ้มมากขึ้นอีกหน่อยต่อให้ต้องยากกว่านี้ ผมก็จะทำ
“ไม่ได้โกรธอะไรนี่”
ผมยิ้มน้อยๆ ก่อนจะแกล้งวางมือของแมวตัวเล็กบนมือเขา
“งั้น....กลับมารักกันนะครับ”
I’m addicted to you
Hooked on your love
Like a powerful drug
I can’t get enough of
ผมเสพติดเขายิ่งกว่าตอนที่ติดบุหรี่หรือยา
ที่เสพยังไงก็ไม่มีวันพอ
— ภัทร
ผมเชื่อว่าคนบนโลกนี้ไม่มีใครเป็นคนดี 100% ผมเคยคิดว่าตัวเองเป็นคนดี ผมเป็นลูกที่ดี แม้ผมจะเคยนอกลู่นอกทางบ้างตามประสาวัยรุ่นแต่ผมก็ไม่เคยทำให้ใครเดือดร้อน แต่ไม่นานมานี้ ตอนที่ได้เห็นเขาอีกครั้ง ผมถึงรู้ว่าผมอาจจะเป็นลูกที่ดีของพ่อแม่ หลานที่ดีของตระกูล แต่ผมไม่ได้เป็นคนรักที่ดีเลย
“ภัทรคะ วันนี้จะกลับกี่โมง”
ผมก้มหน้าก้มตาสวมถุงเท้าเพื่อที่จะรีบออกไปทำงานให้เร็วที่สุด
“ไม่รู้เหมือนกัน อาจจะดึก คุณนอนก่อนได้เลย” ผมหันไปบอกภรรยา อย่าว่าแต่คนรักที่ดีเลย แม้กระทั่งตอนนี้ผมก็ยังเป็นสามีที่ดีไม่ได้
“คุณเอาแต่ทำงาน แล้วทิ้งแพรไว้แบบนี้”
“ถ้าผมไม่ทำแล้วใครจะทำ”
“ภัทร!”
ภรรยาผมเป็นคุณหนูจากอีกตระกูล หลังจากแต่งงานแล้วเธอก็มีหน้าที่ปรนนิบัติสามีอย่างที่แม่ผมอยากให้เป็น ผมไม่เห็นรู้มาก่อนว่ากุลสตรีที่แม่ผมชอบเสียงดังใส่ผมได้แบบนี้
ผมแต่งงานมาได้เกือบสองปีแล้ว โดยที่รู้จักเจ้าสาวเพียงสี่เดือนก่อนการแต่งงานผ่านทางเพื่อนของแม่อีกที เธอสวย เรียนสูง มาจากตระกูลดี เราเหมาะสมกัน เราฮันนีมูนกันที่ยุโรป ซื้อบ้านหลังสวยไว้กลางเมือง ชีวิตผมเหมือนจะเพอร์เฟ็ค...แต่ก็แค่เหมือนจะ
“โฮ่ง”
“อย่าเลียนะหลง” ผมหันไปลูบหัวหมาตัวใหญ่ที่หลงมาจากไหนไม่รู้ได้เป็นปีแล้ว หลงเป็นลาบาดอร์ใจดีและแก่แล้ว และเป็นเหตุผลที่ผมยังกลับมาบ้านทุกวัน
“เดี๋ยวซื้อไก่ต้มมาฝาก”
“โฮ่ง” ผมบอกก่อนจะลูบหัวหลงอีกทีแล้วเดินไปที่โรงจอดรถแทน
“เอาก๋วยเตี๋ยวต้มยำครับ”
ผมสั่งอาหารในร้านอาหารไทยขนาดใหญ่และตกแต่งสวยใกล้กับออฟฟิศ แต่ก่อนผมกินเผ็ดไม่ได้หรอก แต่เขาว่าอยู่กับใครมากๆก็จะติดนิสัยและได้อิทธิพลแบบนั้นมา ผมมองน้ำซุปสีส้มแดงแล้วนึกถึงบางคน
รักแรกมันฝังใจแบบที่หลายๆคนบอก ในตอนแรกผมคิดว่าคงตายแน่ถ้าไม่มีเขา แต่หลังจากทะเลาะกับแม่ ขังตัวเองในห้อง หันหลังให้กับโลกและเศร้าซึมอยู่หลายเดือนผมถึงได้รู้ว่า การไม่มีเขามันไม่ได้ตายลงง่ายขนาดนั้น
แต่การที่รักไม่ได้ก็ทรมานมากอยู่เหมือนกัน
ผมค่อยๆลืมความรู้สึกทรมานเมื่อเข้าสังคมและเจอคนใหม่ๆ เพื่อนผมต่างยินดีกับการกลับเข้าสังคมของผมหลังจากที่หายไปพักใหญ่เพราะผมมีเขา แปลกดีเหมือนกันที่คนเรามักจะโยนความผิดให้คนที่หายไปจากชีวิต แทนที่จะโทษตัวเอง
ผมบอกเพื่อนว่าแฟนเก่าผมไม่ชอบเข้าสังคม ทั้งๆที่ผมไม่เคยพาเขามาหาคนพวกนี้เอง ผมบอกหลายคนว่าเขาเหงาที่ต้องอยู่คนเดียวทำให้ผมต้องหายไปบ่อยๆ ทั้งๆผมเป็นคนยัดเยียดตัวเองลงไปในชีวิตเขา ในขณะที่กันย์แคร์ความรู้สึกตัวเองเหนือสังคมและครอบครัว ผมกลับตรงข้ามกัน ตอนที่ผมคบกับกันต์แม่ผมถามผมทุกวันว่าท่านจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน จะออกสังคมยังไง...นั่นแหละบ้านผม
ผมไม่ได้ทำงานดึกอย่างที่บอก ผมแค่มีความรู้สึกว่าผมไม่อยากกลับบ้าน ผมมีบ้านไว้นอนอย่างเดียวมาสักพักแล้ว ถ้าไม่มีหมาให้กลับไปเล่นด้วยผมก็คงไม่กลับไปด้วยซ้ำ ภรรยาผมไม่ผิดเลย ไม่มีผู้หญิงคนไหนที่ไม่อยากมีชีวิตที่สมบูรณ์แบบหลังแต่งงาน ผมผิดเองที่ให้ความหวังทั้งเธอ ทั้งแม่และให้ความหวังตัวเองว่าจะออกมาดี แต่สุดท้ายแล้วความพยายามของพวกเราก็ดูเหมือนจะไม่เป็นผล
แม่ผมพยายามกล่อมผมอีกรอบว่าถ้าผมมีลูก ทุกอย่างจะดีขึ้น แต่ผมสงสารภรรยาผม ถ้าเราจากกันตอนนี้เธอยังจะไม่มีภาระที่ต้องดูแล เธอจะยังสวยและใช้ชีวิตต่อไปโดยไม่ต้องพะวงว่าจะต้องเลี้ยงลูก ส่วนผมเอง...คงดูแลใครไม่ได้ เพราะขนาดหัวใจตัวเองยังดูแลไม่ได้เลย
“แพร หลงเป็นอะไร”
“แพร! หมาเป็นอะไร ทำไมไม่ดูมัน!” ผมถามคนที่ยังอยู่ในครัวเมื่อเห็นว่าหมาตัวสีขาวนอนซึมลงไป แถมยังอาเจียนเป็นเลือด ทั้งๆที่เมื่อเช้ายังวิ่งออกไปส่งผมที่หน้าบ้านอยู่เลย
“ทำไมต้องโทษแพร”
“แล้วมันเป็นแบบนี้ได้ยังไง เธอให้มันกินอะไร”
“แพรก็ให้มันกินกระดูกไก่ปกติ”
“แพร หมามันกินกระดูกไม่ได้!” ผมโมโหเธอมาก เราด่าทอกันแบบไม่ควรจะเป็น เรื่องนี้มันจบที่เธอนั่งร้องไห้อยู่ที่บ้าน ส่วนผมแบกหลงออกมาหาหมอ
Lost in your eyes,
Drowning in blue
Out of control,
What can I do?
ตอนที่ผมสบตากับเขา
ผมเห็นหน้าตาสับสนของตัวเองในนั้น
ผมเหมือนคนเสียการควบคุม
ผมเอาแต่ถามตัวเองว่าควรจะทำยังไง
ผมเคยคิดว่าเราอาจจะบังเอิญได้เจอกันที่ไหนสักแห่งบนโลกใบนี้ แต่ผมไม่คิดว่ามันคือที่นี่และจะเป็นวันนี้
“กันต์” ผมเรียกเขา กันต์ที่ในมือมีกรงแมวสองตัวจ้องที่ผมนิ่ง
“ว่าไง” แปลกที่เรายังพูดจากันได้ ทั้งๆที่ใจของผมมันเต้นเหมือนจะหลุดออกมา และบางทีเขาก็คงเหมือนกัน
“มาทำอะไร”
“ครบรอบพาแมวมาฉีดวัคซีน ภัทรล่ะ”
“พาหมามาผ่าตัดที่นี่” กันต์ดูท่าทางตกใจ เขาถามผมยกใหญ่ว่ามันเป็นยังไงบ้าง ทั้งๆที่เขายังไม่เคยเจอมันด้วยซ้ำ
“หายแล้ว วันนี้มารับ” ผมชี้ไปที่กรงที่มีลาบาดอร์ตัวใหญ่ หลงดูดีใจที่มีคนแปลกหน้ามาเยี่ยมเยียน
“เก่งนี่ แข็งแร็งๆ หายแล้วนะ” เขาว่าพร้อมกับจับที่ขาหน้าไอ้หลงเบาๆ ลักยิ้มของเขาบุ๋มลงไปเมื่อหมาตัวใหญ่เลียที่มือเขาเหมือนดีใจมากมายที่ได้เจอ
...ผมเองก็ดีใจที่ได้เจอกันต์ของผมอีกครั้ง…
TBC.
______________________________________
เขียนเองร้องไห้เองค่ะ คิดถึงภัทร บ้าบอมาก 555555
ทีมหมากด 1 U ´ᴥ` U ทีมแมวกด 2 /ᐠ。ꞈ。ᐟ\
Theme track : Avicii - Addicted to you
https://youtu.be/Qc9c12q3mrc