เบ๊บ-ก้อง ตอนที่ 3
ด้วยความมุ่งมั่นในการทำตามคำแนะนำของกลองพี่เบ๊บก็ไม่รอช้าจัดการเร่งด่วยทันทีเป็นเหตุให้เมื่อก้องหลับไปหนึ่งวันเต็มๆจึงตื่นมาเจอสภาพ ..
“เฮ้ยยยยยย พี่เบ๊บ เอ้ย มึง … อะไรของมึงเนี่ยยยยยยยยยยย” ก้องก้มลงมองดูสภาพตัวเองที่อยู่ในสภาพนอนอยู่กระท่อมมุงหลังคาด้วยใบจากแบบในละครไทย อารมณ์ประมาณชายทุ่งนา เสื้อผ้าตอนนี้ก็เข้ากับสถานที่มากมายแถมไอ้คนน่าสงสัยที่กำลังพยายามจะจุดเตาถ่านนั่นแหละ
“อ่าวตื่นแล้วหรอครับก้อง .. พูดไม่เพราะเลยเรียกพี่เบ๊บแบบเดิมสิ”
“ตั้งแต่มึงทำตัวแบบนั้นกูก็ไม่นับมึงเป็นพี่แล้วโว้ย !” เบ๊บหน้าเจื่อนลงเล็กน้อยเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่ทำให้ก้องหมดความศรัทธาในตัวเขาก่อนจะก้มลงหาทางจุดเตาถ่านต่อไป
“แล้วที่นี่มันที่ไหน ? มึงพากูมาที่ไหนเนี่ย กระท่อมขวัญเรียมรึไง”
“อ่า … พอดีเกิดแอ็กซิเด็นนิดหน่อยน่ะ เอาเป็นว่าเรามาทำนากันสักเดือนแล้วกันนะครับ” ก้องเบิกตากว้างมองคนตรงหน้า ไอ้ลูกชายเศรษฐีแม้แต่งานบ้านก็ทำไม่เป็นดันชวนมาทำนา ?
“มึงบ้าหรอ ! พากูกลับเดี๋ยวนี้เลย” ก้องลุกจากแคร่ไม้วิ่งไปที่ประตูบานเดียวแต่กลับล้มหน้าทิ่มพื้น หลังจากหันไปมองที่ต้นเหตุฟิวส์มันก็ขาดทันที
“ไอ้สัสเบ๊บมึงอ่านนิยายหรือมึงดูจำเลยรักมากไปใช่มั้ย มาล่ามโซ่เท้ากูกับแคร่เนี่ย ไอ้สัสมึงคิดว่ากูเป็นหมาร็อดไวเลอร์เที่ยวกัดชาวบ้านหรือไง หา !!! พากูมาขังไว้ที่นี่ทำติ่งกระเพาะแพะหรอไอ้สาสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสส” เสียงตะคอกของก้องทำร่างสูงสะดุ้งเฮือก แต่ก็หันมายิ้มน้อยๆให้กับคนจอมเหวี่ยง
“เอาน่า … เดี๋ยวเลิกดื้อแล้วพี่จะปล่อยนะครับ ตอนนี้ช่วยกันคิดก่อนดีกว่าว่าจะจุดเตายังไงดีเรายังต้องกินข้าวเย็นกันนะ” เตามันจุดยังไงล่ะเนี่ย อำฟแชคจุดก็ดูจะไม่ค่อยติดแถมร้อนมืออีก
“โอ้ยยย ทำไมกูต้องรู้จักมึงด้วยฮะ ไอ้เหิ้ยเอ้ยยย บริษัทตัวเองไม่ต้องดูแลหรือไงว่างมานั่งพากูมาขังเนี่ย”
“ขอบคุณที่เป็นห่วงบริษัทพี่ครับ แต่พี่เชคงานผ่านไอแพดได้ครับ สมัครโปรโมชั่นรายเดือนเรียบร้อยครับ รับรองพี่ยังทำงานเลี้ยงก้องได้นะ”
“อะ .. ไอ้เบ๊บหน้ามึนเอ้ยยย โอ้ยไอ้เหิ้ยยยกูมีเรียนนะ ไม่ได้ว่างแบบมึง”
“งั้นก็ทำตัวน่ารักๆเรียกพี่เบ๊บซักสองสามวันแล้วจะพากลับนะครับน้องก้อง”
“ฝันไปเหอะ ไอ้สัส !”
“งั้นก็อยู่กันสักเดือนแล้วกัน เอ.. จุดถ่านยังไงนะ”
“กูจะแจ้งความ !” งัดไม้ตายสุดท้ายออกมา อย่างน้อยมันต้องกลัวตำรวจมั่งแหละ
“มีโทรศัพท์ก็โทรเลยครับ ตามสบายพี่ไม่ขัดใจอยู่แล้ว” เออว่ะ โทรศัพท์ไปไหนวะ ไอ้เชี่ยเบ๊บบมึงตามใจกูตรงไหนเนี่ยยย
หลังจากทำสงครามเย็นไปเกือบหนึ่งชั่วโมงด้วยการไม่พูดกัน ก้องก็นั่งจ้องแผ่นกลังกว้างที่ก้มๆเงยๆจะจุดเตาถ่านแต่ก็ทำไม่สำเร็จจนหน้าดำเพราะถ่าน ไอ้เจ้าตัวก็ยังคงมุ่งมั่น มองๆไปก็แปลกตาดี ปกติเห็นแต่แต่งตัวเสื้อผ้าแบรนด์ดังพอมาเจอเสื้อม่อฮ่อมกางเกงเลย์แถมด้วยหน้าดำๆมันก็อดขำไม่ได้
“นี่ จุดแบบนั้นสามวันก็ไม่ติดหรอก ถอยไปเลยพี่เบ๊บ ก้องทำเอง เอ้ย .. กูทำเอง” ร่างบางแก้เก้อด้วยการดันๆร่างสูงออกก้มหน้าก้มตาจุดไฟ เขาออกค่ายอาสาบ่อยเรื่องแค่นี้ไม่ใช่เรื่องยาก
เรียกพี่เบ๊บแล้ว .. จริงๆก้องแค่แกล้งโกรธใช่มั้ย .. หายโกรธพี่เบ๊บแล้วใช่มั้ย ไม่งั้นจะเขินที่หลุดปากจนหน้าแดงขนาดนี้หรอ ..
“เอ้าได้แล้ว ทำต่อเองแล้วกัน เฮ้ย มึงทำกับข้าวไม่เป็นนี่หว่า ห่าแล้วทำเก่งถอยไปนั่งไกลๆเลย กูทำเอง โอ้ยเสียงโซ่น่ารำคาญเป็นบ้า” ปากจะบ่นคิ้วจะขมวดแต่ก้องก็นั่งเลือกเนื้อสดที่ไอ้คนอวดเก่งมันดันเหมามาเกือบยกตลาด … เพราะเลือกไม่เป็น
“ไอ้พี่เบ๊บทำไมไม่ซื้อผักมาด้วยวะ ! กะจะให้ไขมันอุดตันตายหรือไง !! วุ้ยน่าหงุดหงิดจริงๆ” นั่นเรียกพี่เบ๊บแล้วถึงว่าจะมีคำว่า ‘ไอ้’ ด้วยก็เถอะแต่แค่นี้คนฟังก็ดีใจแล้ว ..
“เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่จะไปซื้อให้นะครับก้อง จริงๆก็ตั้งใจจะซื้อมาแต่ผักมันเขียวๆเหมือนกันไป
หมด พี่ก็เลือกไม่ถูก ปกติรอกินฝีมือก้องอย่างเดียวนี่นา”
“เหอะถ้าก้องไม่อยู่แล้วใครจะทำให้พี่เบ๊บกิน อ้อลืมไปว่ามีแฟนแล้ว !” ปัญหานี่แหละที่พยายามจะอธิบายเท่าไหร่ไอ้คนขี้โวยวายตรงหน้าก็ไม่เคยจะรับฟังจนทำให้ความสัมพันธ์ดีๆมันแปรเปลี่ยนไป ..
“ก้อง .. พี่กับแพรไม่ได้ ..”
“พอเหอะ เรื่องมันผ่านไปแล้วเรามันก็แค่คนอยู่ร่วมบ้าน ไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย” ชิส์ พูดเองก็เจ็บเอง .. ก็รู้อยู่ว่าเขามีคนอื่นก็ยังไม่ตัดใจอยู่ได้
“ก้อง … ก้องก็รู้ว่าพี่คิดยังไง”
“ไม่รู้ ไม่ได้ตัวติดกัน แล้วนี่หุงข้าวยัง ?” เบ๊บส่ายหน้าเจื่อนๆ
“โอ้ยยยยยยย มึงพากูมาแถวไหนเนี่ยไฟฟ้ามันเข้าไม่ถึงเลยใช่มะ ? แม่งเอ้ยยย ไฟฟ้าไม่มาแล้วไอแพดมึงจะชาร์จยังไงครับ ? บริษัทมันขาดเจ้าของไม่ได้นะ”
“เป็นห่วงพี่หรอครับ หืม ?”
“เข้าข้างตัวเองไปปะ ใครจะห่วงมึง เพ้อละๆ กูพูดไปงั้นๆแหละ แล้วทำไมมันมีหม้อหุงข้าววะทั้งๆที่ไฟเข้าไม่ถึง ?”
“พี่ยังไม่ได้บอกเลยนะครับ ว่าไม่มีไฟฟ้า ก้องคิดเอง พูดเอง เออเองหมดเลย” ก้องแยกเขี้ยวใส่ไอ้พี่เบ๊บที่นั่งยิ้มน้อยๆ หนอย .. หมั่นไส้โว้ย !
“เออกูมันชอบคิดไปเอง พอใจยัง !” ก้องหันหน้าหนีจะไปหุงข้าวแต่มือแกร่งก็ดึงทีเดียวจนคนตัวเล็กกว่าตกลงไปในอ้อมแขน
“ถ้ารู้แล้วก็หัดฟังพี่บ้างสิครับ … พี่มีแค่ก้องคนเดียวนะ ..”
“เหอะ .. เห็นอยู่กับตากูแดกข้าวนะไม่ใช่หญ้า”
“มันเป็นอุบัติเหตุเฉยๆ .. แพรเขาก็มีแฟนแล้ว”
“พอเถอะ … กูไม่อยากฟัง ปล่อยได้แล้วจะหุงข้าว” ไม่ใช่ไม่เชื่อ .. แต่มันยังทำใจไม่ได้กับภาพผู้หญิงคนหนึ่งคร่อมตัวอยู่เหนือแฟนตัวเอง.. รอก้องอีกหน่อยนะพี่เบ๊บ เวลานี้ก้องยังไม่พร้อมจริงๆ ..
หลังจากมื้อค่ำอันแสนเงียบจบลงเบ๊บก็ปลดโซ่ที่พันธนาการข้อเท้าก้องออก แต่ก้องก็ไม่ได้มีทีท่าจะหนีแต่อย่างใดถืออุปกรณ์อาบน้ำและเสื้อผ้าเดินตามเบ๊บออกจากกระท่อมเลียบไปตามพุ่มไม้จนถึงท่าน้ำ
“อาบน้ำที่นี่แหละ” ร่างบางพยักหน้าก่อนจัดการนุ่งผ้าขาวม้าเรียบร้อยอย่างรวดเร็วแต่พอจะอาบน้ำก็เห็นอีกคนไม่เสร็จสักที แต่พอมองไปก็ต้องขำ คุณชายไฮโซกำลังพยายามนุ่งผ้าขาวม้าแต่ดูท่าจะมัดไม่เป็น มันหลุดๆหล่นๆอยู่ร่ำไป นี่ถ้าไม่ใช่เพราะความมืดป่านนี้คงจะเห็นอะไรต่อมิอะไรไปถึงไหนแล้วก็ไม่รู้ … คิดอะไรวะไอ้ก้องหน้าขายหน้าเป็นบ้า !
“ก้องครับ .. สอนพี่ผูกผ้าขาวม้าหน่อย”
“ทำเอง เสือกมีปัญญาพากูมา ก็มีปัญญาอยู่ได้ด้วยตัวเองแล้วกัน กูถูกจับมานะไม่ใช่มึง”
“โถ่ ก้องครับพี่ไม่เคยอยู่แบบนี้นี่ พี่เห็นในหนังเขาจัดฉากแบบนี้พี่ก็เลยทำตาม แต่ทำไมมันไม่ง่ายเหมือนในทีวีน๊า” อะ .. ไอ้เหิ้ยเอ้ยนี่แม่งทำตามในหนังจริงๆหรอวะเนี่ย โอ้ยยกูจะบ้าตายที่ตอนฉะพนักงานล่ะเก่งจริง พอมาเจอแบบนี้กลายร่างเปลี่ยนลุคเป็นเด็กน้อยไม่รู้เรื่อง ไอ้พี่เบ๊บแม่ง ! ซึนเดเระ !
- -------------
เรื่องมันอาจจะไม่ค่อยเชื่อม อาจจะดูแปลกๆ แต่ก็ให้อภัยกันหน่อยนะคะ 55 มันเป็นเรื่องสั้นที่ให้มีเนื้อเรื่องมาบ้าง -,.- ก่อนจะไปฉากที่เป็นตัวสำคัญของนิยายเซ็ตนี้ ก๊ากกกกก