We belong together 16
...โอ้โห้...ไม่น่าเชื่อ...สังคมโรงแรม...ผมยังเดินไปไม่ถึงห้องอบรมของฝ่ายบุคคลเลย...แต่พวกเด็กฝึกงานที่นั่งรออยู่รู้เรื่องความแรงของผมซะแล้ว...พอเปิดประตูเข้ามา เสียงคุยกันจอแจก็เงียบกริบ ทุกสายตามองผมเป็นจุดเดียว...เพื่อนสาวสองคนก็พยักหน้าให้ ผมจึงโบกมือแยกย้ายกับเพื่อนใหม่ที่เกาะกลุ่มกันไปแนะนำตัว...
“...ทีม...มึงไปกัดกับ Wait มาเหรอ..” มิ้นท์ถามทันทีที่ผมหย่อนตัวลงนั่ง
“...ก็นิดหน่อยอ่ะ...” ผมตอบยิ้ม ๆ
“...คนไหนวะ...”
“...ไม่รู้จักชื่อหรอก...อ้วนคน ผอมคน...ถ้ามึงเห็นก็รู้เลย...เค้าจะแต่งหน้าตลก ๆ อ่ะ..วาดคิ้วเหมือนหางปลาดุก...แล้วก็กรีดหางตายาวเกือบทัดหูได้...” ผมกลั้นหัวเราะเมื่อนึกถึงหน้าสองคนนั้น
“...ตอนทำงานแต่งหน้าได้ด้วยเหรอวะ...”
“...มินท์จะแต่งหน้าไปสู้กับเค้าเหรอ...” แก้วถาม
“...อีนี่...” มินท์หันไปค้อน
“...เค้าเลิกงานแล้ว แต่ยังอยู่ในครัวรอดูหน้าเรา...ไม่รู้ทำไมนะ...” ผมสงสัยเหมือนกัน
“...ก็คงอยากเห็นความแรงของมึงอ่ะดิ...ฉะกับคุณแม่บ้านไปยกนึง...ยังไม่มีคนพูดถึงเท่าไหร่...แต่ในครัวเมื่อกี้มีคนพูดถึงเยอะเลยนะ...”
“...Oh my goodness...ข่าวเร็วยิ่งกว่า CNN อีกนะเนี่ย...” ผมพูดขำ ๆ ไม่สนใจเท่าไหร่
“ ...พวกเราจะมีชีวิตรอดไปถึงรับปริญญามั้ยเนี่ย...” มิ้นท์พูดเสียงเบา แต่ผมฉุกคิดขึ้นมาได้
“...เฮ้ย...เราทำให้พวกแกลำบากใจป่าววะ...”
“...ไม่หรอกทีม...เราไม่ได้ทำอะไรผิดนี่...” แก้วตอบ
“...เออใช่...เคสมึงกับ wait อ่ะ ไม่เท่าไหร่หรอก...ที่ได้ยินมานะ...ถ้าเป็นกรูคงกระโดดตบแล้ว...มึงใจเย็นกว่ากูเยอะ” มิ้นท์ปลอบ
“...ต่อไปกูจะพยายามสงบปากสงบคำละกัน...เพื่อน ๆ จะได้ไม่เดือดร้อน...”
“...อะไรยอมได้ก็ยอมเถอะ...เรามาฝึกงานแค่ไม่กี่เดือน...ถือซะว่าเป็นประสบการณ์ชีวิตละกัน...” แก้วพูดช้า ๆ ตามสไตล์
“...แต่ถ้าเราไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่ม..เราโดนกลั่นแกล้ง...ก็ยอมไม่ได้นะเฟ้ย...” มิ้นท์พูดด้วยสีหน้าจริงจัง
“...อืม...ต่อไปอะไรยอมได้ก็จะยอมละกันนะ...แต่ถ้าโดนรังแก...เราก็ไม่ยอมเหมือนกัน...แก้ว...ถ้าใครทำอะไรแกมาบอกเราสองคนเลยนะ...เดี๋ยวลุยเอง...” ผมหันไปพูดกับแก้ว
“...เราไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้นหรอก...แค่เราไม่ค่อยถือสาหาความอะไรกับใครเค้า...”
“...จ้า...อีนางเอก...” มิ้นท์กัด พวกเราหัวเราะออกมาพร้อมกัน
*
*
...ทันทีที่กลุ่มสุดท้ายเดินเข้าห้อง...ฝ่ายบุคคลก็ถูกตามให้เข้ามาพูดคุยเป็นครั้งสุดท้ายก่อนฝึกงาน และนำเครื่องแบบมาแจก...ตื่นเต้นจังเลย ผมมองชุดสูทในมือ ของแผนกอื่นก็เป็นชุดธรรมดา แต่ของผมใส่ถุงสูทอย่างดี เนคไท และป้าย Trainee อยู่ในถุงแยกออกมาต่างหาก...
...ระหว่างทางเดินกลับห้อง...พวกเรากระดี๊กระด๊า วางแผนจะไปหาอะไรกินเย็นนี้ มีงบอยู่สี่พัน สำหรับตลาดโต้รุ่งแบบนี้ กินได้จนพุงกางเลยทีเดียว...น้องไผ่ก็เดินตามมาด้วย และจะฝากชุดฟอร์มของแผนกช่างไว้ห้องแก้ว เพราะวันนี้คงกลับมืด ไม่อยากหอบของเยอะ...ตอนนี้น้องไผ่เริ่มจะผ่อนคลาย และพูดจากวน ๆ แซว แหย่พวกผมบ้างแล้ว...
“...อ้าว...ทำไมมาช้าจัง...” พี่ยอดทักทันทีที่ผมเปิดประตูเข้าห้อง
“...ฝ่ายบุคคลเค้าคุยอะไรด้วยนิดหน่อย แล้วก็ให้ฟอร์มมา...” ผมก้มหน้าก้มตาตอบ เพราะพี่ยอดใส่แค่ผ้าขนหนู หยดน้ำเกาะตามตัว ผมเปียกปรกหน้าเซ็กซี่ที่สุด
“...ไปอาบน้ำแต่งตัวเลย...จะได้กลับไม่ดึก...” พี่ยอดบอกพลางยกแขนทั้งสองข้างขึ้นเช็ดผม กล้ามเนื้อส่วนบนนอกผ้าเช็ดตัวเด่นชัด แต่ยิ่งยกแขนสูงขึ้น ผ้าเช็ดตัวที่พันเองไว้ก็ไหลลงต่ำ จนผมกลัวจะหลุดให้เห็นไปถึงยอดจูเนียร์
“...พี่ยอดไม่แต่งตัวในห้องตัวเองอ่ะ...รุ่มร่าม...” ผมแกล้งเดินหน้าบึ้งเข้าไปเตรียมของอาบน้ำ พี่ยอดไม่ตอบอะไร ได้ยินแต่เสียงหัวเราะหี ๆ
*
*
...ผมอาบน้ำ แต่งตัวเสร็จ ออกมาจกห้องอีกที ต้อแปลกใจเมื่อเห็นพี่ยอดอยู่ในชุดฟอร์มช่างเหมือนเดิมด้วยสีหน้ากังวล...
“...อ้าว...พี่ยอด จะใส่ชุดช่างไปกินข้าวเหรอ...รักองค์กรจริง ๆ...” ผมแซว
“...เอ่อ...ทีม...พี่ไปไม่ได้แล้ว...พี่ต้องไปซ่อมแอร์ที่ห้องเซลล์อ่ะ...เค้าเพิ่งแจ้งมาว่าแอร์ไม่เย็น...” พี่ยอดดูเหมือนไม่สบายใจที่จะพูด
“...อืม...ถ้าถามว่า ทำไมพี่ยอดต้องไปซ่อม...พี่คงบอกว่า คนอื่นทำไม่เป็นใช่ปะ...” ผมดักคอ
“...แอร์มันเรื่องใหญ่...เด็กใหม่ ๆ ทำกันไม่ได้หรอก...” พี่ยอดแก้ตัว
“...ถ้าไม่สอน และไม่ไว้ใจ มีลูกน้องกี่คน เค้าก็ทำไม่ได้น่ะสิ...” ผมย้อนนิ่ม ๆ
“.............................” พี่ยอดเงียบ
“...พี่ยอดไปทำงานของพี่เหอะ...เดี๋ยวทีมไปกับเพื่อน ๆ เองก็ได้...อ้อ...แล้วต้องให้ไผ่ไปช่วยมั้ย...คงไม่หรอกเนอะ...ทำเอง เก่งเองคนเดียวดีกว่า...” ผมพูดเองเออเอง แอบกัดนิด ๆ
“...ทีมเอาเงินไปกินกันก่อนนะ...” พี่ยอดยื่นแบงค์พันให้ผมสี่ใบ
“...ทีมเอาเฉพาะส่วนของทีมละกัน...ส่วนของพี่ยอดเก็บไว้กินกับเพื่อนพี่เองเหอะ...” ผมหยิบออกมาแค่สองใบ
“...แล้วทีมจะไปร้านไหนอ่ะ...เผื่อพี่เสร็จเร็วจะได้ตามไป...”
“...ไม่รู้...” ผมตอบพลางเดินไปที่ประตู
“...เดี๋ยวทีม...พี่ยังไม่มีเบอร์ทีมเลย...ขอเบอร์หน่อยพี่จะได้ตามไปถูก...” พี่ยอดพูดเสียงดัง ผมได้แต่มองและยิ้มให้เค้านิด ๆ ก่อนปิดประตูห้อง และผมได้ยินเสียงเปิดประตูอีกครั้งโดยพี่ยอด แต่ผมไม่สนใจ หรือแม้แต่จะหันไปมอง รีบเดินลงบันไดไปห้องเพื่อนสาวทันที
*
*
...ผมเล่าให้เพื่อนฟัง เรื่องที่พี่ยอดติดงานอีกแล้ว...แต่คราวนี้ทริปเราจะไม่ล่ม...เราจะไปเที่ยวหาของกินกันเอง...อารมณ์ตอนนั้นอยากไปเที่ยวตามผับมากกว่า...ผมมองหน้าไผ่เพื่อขอความเห็น ไผ่จึงอาสาเป็นไกด์อีกรอบ โดยเราจะไปหาอะไรกินกันในตัวเมือง ก่อนจะไปดริ้งค์เบา ๆ พร้อมฟังเพลงกันที่ผับแห่งหนึ่ง...และขณะที่พวกเรารอรถของโรงแรม เพื่อไปส่งที่ตลาด...รถเบ็นซ์คันคุ้นตาก็มาจอดเทียบ...พี่กรณ์เดินลงมาทัก...
“...ออกไปข้างนอกเหรอครับ...” พวกเราพยักหน้ารับ “...ไปด้วยกันสิ...ผมจะไปทางตลาดพอดี...”
“...เอ่อ...” พวกเราลังเล
“...ไปกันเหอะ...ขี้เกียจรอรถ...” ผมพยักหน้าตอบรับคุณกรณ์ แล้วเค้าก็เปิดประตูด้านหน้าให้ผมอีกแล้ว
“...เชิญครับ...”
"...ขอบคุณครับ..." ผมยิ้มให้คุณกรณ์ แต่หางตาก็ยังเห็นพี่ยอดยืนมองที่หน้าต่างของออฟฟิศเซลล์ จะว่ายั่วก็เอาเหอะ เพราะผมเห็นพี่ยอดมองลงมาตั้งแต่เรายืนรอรถอยู่แล้ว
“...ไปเที่ยวที่ไหนกันครับ...ให้ผมพาไปมั้ย...” คุณกรณ์มองกระจกหลังถามสามคนที่นั่งตัวลีบอยู่
“...ก็หาอะไรทานกันก่อน แล้วค่อยไป XXX น่ะครับ...” ไผ่เป็นคนตอบ เพราะทุกสายตามองมาที่เค้า
“...ร้านนี้ของเพื่อนผมเอง...เอางี้...วันนี้ให้ผมเป็นเจ้ามือนะ...” คุณกรณ์สรุปเอง
“...ไม่รบกวนดีกว่าครับคุณกรณ์...พอดีทีมได้ทิปมาสองพัน...” ผมปฏิเสธ
“...สองพันจะไปพออะไร...เอาน่า...คิดซะว่าผมเลี้ยงต้อนรับน้องใหม่ละกัน...” ผมหันไปขอความเห็นเพื่อน ๆ ข้างหลัง เห็นมันพยักหน้า
“...งั้นก็โอเคครับ...” ผมตอบรับ คุณกรณ์ยิ้ม แต่ผมว่ามันเป็นรอยยิ้มที่แปลก ๆ
*
.*
...คุณกรณ์สร้างความประทับใจได้สมกับที่เป็น Director of Sales ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาสรรหามาให้ มันช่างอลังการเหลือเกิน...อาหารมื้อนี้เป็นหนึ่งในมื้อที่แพงที่สุดในชีวิตของนักศึกษามหาวิทยาลัยอย่างพวกเรา...ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะคุณกรณ์อนุญาตให้พวกเราสั่งได้เต็มที่...แต่ก็ไม่เท่าครึ่งนึงของราคาอาหารที่คุณกรณ์สั่งมาให้ลองชิม...
“...เราจะไปไหนกันต่อดี...พี่ว่าคาราโอเกะก็ดีนะ...ทีมบอกว่าต้องกลับก่อนห้าทุ่มนี่...ไปผับหัวค่ำอย่างนี้ไม่สนุกหรอก...เอาไว้วันศุกร์ผมพาไปดีกว่านะ...” คุณกรณ์พูดเองเออเอง หลังจากที่พวกเราอิ่มจนแทบจะคลานกลับขึ้นรถ
“...ไปไหนก็ได้ครับ...ตามใจคุณกรณ์...” ผมพูดหลังจากที่มองหน้าเพื่อน ๆ ที่พยักหน้าเห็นดีด้วย
“...โอเค...เดี๋ยวผมพาไปร้านเพื่อนผม...” คุณกรณ์ยิ้มนิด ๆ ผมแอบคิดในใจว่าเค้ามีเพื่อนทุกตารางกิโลเมตรในจังหวัดนี้เลยหรือไง
*
*
...คุณกรณ์พาไปที่ใต้ถุนโรงแรมหรูติดชายหาดอีกด้านของโรงแรมที่พวกเราทำงานอยู่...ท่าทางเค้าจะมาบ่อย เพราะทุกคนในนั้นรู้จักเค้าหมด...เราได้ห้องวีไอพี พร้อมด้วยอาหารว่าง และเตกิล่า...แก้วกับมิ้นท์เรียนสายโรงแรมและอาหาร ส่วนผมเที่ยวจนรู้ว่าเตกิล่ามันแรงมาก คนที่เคยกินแต่เหล้าไทยอย่างไผ่โดนเข้าไปไม่กี่เป๊กก็น็อค...สลบนิ่ง...ปล่อยให้พวกพี่ ๆ ร้องเพลงอย่างเมามันส์ เพราะคุณกรณ์เข้า ๆ ออก ๆ ห้องตลอดสองชั่วโมงที่พวกเราเฮฮากันสุดริดในห้องวีไอพี และเอ็นจอยกับของว่างแซ่บ ๆ...แอบเห็นเค้าขมวดคิ้วเมื่อเบอร์โรงแรมโชว์บนหน้าจอ และออกไปคุยข้างนอก...
“...ให้ผมไปส่งไผ่ก็ได้นะ...” คุณกรณ์พูดขณะจอดรถส่งพวกผมหน้าโรงแรม แล้วลงมาช่วยพวกผมพยุงไผ่
“...ไม่เป็นไรครับ...เดี๋ยวทีมพาไปนอนที่ห้องเองดีกว่า...”
“...จะนอนได้ยังไง...มันไม่มีเตียงเสริมนี่...” เขาท้วง
“...นอนได้แน่นอนครับ...ทีมเคยนอนแล้ว...”
“...ผมว่า...”
“...พวกเราต้องขอบคุณคุณกรณ์มาก ๆ เลยนะครับสำหรับวันนี้...คุณกรณ์กลับบ้านเถอะครับ...ดึกแล้ว...ขับรถดี ๆ นะครับ...” ผมตัดบท ไล่ทางอ้อม และยกมือไหว้ลา พวกนั้นก็ไหว้ตาม
“...โอเคครับ...งั้น Goodnight นะครับ...” คุณกรณ์รับไหว้ แล้วเดินขึ้นรถ
...ถ้าไม่เคยรู้มาก่อนว่าคุณกรณ์เป็นเกย์ ผมคงกล้าฝากคุณกรณ์ไปส่งไผ่แล้ว...แต่...น้องมันหน้าเข้ม สูงชะลูด หล่อแบบน้อง ๆ พี่ยอด จะไว้ใจได้ยังไง...ยิ่งเมาไม่รู้เรื่องรู้ราวแบบนี้ด้วย...แต่จะว่าไป เพื่อนเราสองคนนี่ก็น่ากลัวใช่ย่อย...เอาไงดีหว่า...
***************************************************************************
...ขอบคุณทุกความเห็น และทุกกำลังใจนะครับ...ช่วงนี้อากาศดี คนเขียนแRดหนักไปหน่อย...นาน ๆ จะได้ออกไป Outdoor Shopping อย่างนี้...เดินได้นานเลยครับ ไม่ร้อน ไม่เหนียวตัว แต่เสียอย่างเดียว คนเยอะ แล้วก็ของไม่ค่อยลดราคาเท่าไหร่...จตุจักร หน้าราม สีลม และคลองถม เดินซะเพลิน...แวะกินของร้อน ๆ ที่เยาวราช มีความสุขที่สุด...
...กลับเข้าสู่วันทำงาน...เหนื่อยแล้ว ก็เลยไม่ไปไหน กลับมาเขียนเรื่องเล่าต่อสั้น ๆ...ตอนหน้าจะเป็นยังไง รออีกนิดนึงนะครับ...
...แล้วก็เพื่อนผมสองคนนั้นสบายดี...สบายซะจนผมอิจฉา อยากไปโกอินเตอร์กับเค้าบ้าง...แต่ยังต้องชดใช้กรรมในที่ทำงานเดิมอยู่...ขอบคุณที่ยังจำกันได้นะครับ...
...เป้...