We belong together 12
...ผมเดินไปคิดไปจนถึงห้องเพื่อนสาว...ไม่มีเหตุผลที่ต้องปิดบัง...ผมไม่รู้หรอกว่ามันกลับห้องหรือวังเพราะยังไม่ได้เปิดโทรศัพท์...กะว่า ถ้าพวกมันยังไม่กลับ ผมก็เดินขึ้นห้องตัวเอง...แต่พอเคาะประตู แก้วก็มาเปิดประตูให้ ยิ้มระรื่นเชียว คงมีความสุขที่ได้อยู่กับน้องไผ่ทั้งวัน...ไม่ต่างกับอีมิ้นท์ที่เฮฮาเหมือนเดิม...พวกมันกลับห้องมาก่อนผมไม่นาน...
“...แก...เรามีเรื่องจะปรึกษาอ่ะ...” ผมเดินหน้ามุ่ยเข้ามานั่งที่โซฟา
“...ไรยะ...ไปห้องเซลล์ กลับมาหน้าเครียดเชียว...คุณกรณ์มีเมียซุกไว้ห้องเซลล์เหรอ...” มิ้นท์แซว
“...บ้า...มีเรื่องสำคัญจะถาม...”
“...ถามว่าจะไปกินร้านไหนใช่ป่ะ...” แก้วคงเป็นคนเดียวที่รู้เรื่อง เพราะเพิ่งไปห้องช่างมาตอนบ่าย พี่ยอดน่าจะบอกอะไรบ้างแล้ว ก็เราคิดจะเซอร์ไพร้สมิ้นท์คนเดียวนี่
“...ไม่ใช่...แก...คือว่า วันนี้เรามีนัดกับพี่ยอดอ่ะ...”
“...โอ้โห...เพื่อน...นัดไปทำอะไรกันเหรอ...” อีมิ้นท์คิดไปโน่น
“...อีเวร...กรูได้ทิปมา แล้วกะว่าจะพาพวกแกไปหาอะไรกินกัน...แต่...” ผมอ้ำอึ้ง
“...พี่ยอดบอกแล้วแหละ...” แก้วพูดยิ้ม ๆ
“...อืม...แต่เมื่อกี้...คุณกรณ์เค้าชวนเราไปกินข้าวด้วย...เอ่อ...แบบสองต่อสองอ่ะ...” ผมพูดเขิน ๆ
“...อ้าว...แล้วแกจะทำยังไง...คนนั้นก็หล่อเนี้ยบ...อีกคนก็หล่อเถื่อนเร้าใจ...” อีมิ้นท์กรี๊ดกร๊าด
“...แก...เรานัดพี่ยอดก่อน...แต่คุณกรณ์ เราก็รับปากแล้วเหมือนกัน...แบบว่าพอเห็นหน้าคุณกรณ์แล้วจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ลืมทุกอย่างเลยอ่ะ...” ผมหัวเราะกลบความเขิน
“...แกก็ต้องเลือกแหละทีม...”
“...ถ้าเป็นพวกแกจะทำยังไงล่ะ...” ผมตีหน้าเครียดอีกครั้ง
“...ตอบยากว่ะ...” มิ้นท์ทำท่าคิด แต่ยังไม่ทันที่จะมีคำตอบ เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น ผมปล่อยให้มันสองคนช่วยกันคิด จึงเดินไปเปิดประตูให้
“...นึกแล้วว่าต้องอยู่ที่นี่...” พี่ยอดดูมอมแมม และอิดโรยกว่าตอนเช้า ยืนยิ้มเจื่อน ๆ อยู่หน้าห้อง
“...มีอะไรเหรอพี่...” ผมถาม แต่ไม่กล้ามองหน้าเค้าเต็ม ๆ
“...คือว่า...ที่เรานัดกันไว้เย็นนี้อ่ะ...พี่ไปไม่ได้แล้ว...พอดีมีงานด่วน...ต้องดูงานที่ห้องจัดเลี้ยง...ทีมเอาเงินไปเลี้ยงเพื่อนก่อนก็ได้นะ...” พี่ยอดยื่นเงินให้ผม ดูแล้วสี่พันกว่าบาท มันคือส่วนของพี่ยอดด้วย
“...ไม่เป็นไรหรอกพี่...เก็บไว้ก่อนเหอะ...เอาไว้ไปพร้อมกันวันหลังดีกว่า...” ผมอยากจะถอนหายใจด้วยความโล่งอกแรง ๆ
“...งั้นเป็นพรุ่งนี้ก็ได้...คงไม่มีงานด่วนแล้วแหละ...” พี่ยอดยิ้มออก เมื่อผมไม่โวยวายอะไร
“...อืม...พี่ไปทำงานต่อเหอะ...” ผมไล่ทางอ้อม ในใจคิดเลยไปถึงภาพตัวเองนั่งอยู่บนรถคุณกรณ์แล้ว
*
*
...ปิดประตู เข้าห้องได้ ผมแทบกรี๊ดออกมาดัง ๆ หน้าระรื่นผิดกับเมื่อห้านาทีก่อน...เพื่อนสาวทั้งสองก็เห็นดีด้วยที่ผมไปกับคุณกรณ์ โดยที่พวกมันจะแอบดูอยู่ห่าง ๆ ด้วยการขอยืมมอเตอร์ไซค์แม่บ้านขี่ตามไป...ผมก็ว่ามันบ้า...ผมโตแล้ว คุณกรณ์ก็คงไม่ทำอะไรแบบนั้นหรอก...อีกอย่างมันอันตรายด้วย...ผมยืนยันว่าจะกลับก่อน 3 ทุ่ม พวกมันจึงปล่อยให้ผมไปอาบน้ำแต่งตัวที่ห้องได้...
*
*
...ผมแต่งตัวแบบธรรมดาที่สุด เพื่อไม่ให้พี่ยอดสงสัย เมื่อตอนผมกลับห้องคืนนี้ และยังมีเหตุผลอื่น ที่ผมเคยเจอสมัยกรุงเทพฯ ประสบการณ์สอนให้รู้จักหลบหลีก...
“...แต่งตัวน่ารักจังเลย...” ผมก้มมองเสื้อผ้าตัวเอง เมื่อคุณกรณ์ชม
“...เอ่อ...ขอบคุณครับ...” แอบแปลกใจ นี่ชุดธรรมดาที่สุดของกรูนะ
“...ไปกันเถอะ จะได้กลับไม่ดึก...” คุณกรณ์เดินไปเปิดประตูด้านข้างคนขับให้ผมนั่ง แอบปลื้มอีกแล้ว
“...ขอบคุณครับ...”
“...ทีมอยากทานอะไรครับวันนี้...”
“...อะไรก็ได้...เอ่อ...ทีมหมายถึง ทีมเพิ่งมา ก็เลยไม่รู้ว่าแถวนี้มีอะไรน่าสนใจอ่ะครับ...” ผมรีบเปลี่ยนคำพูด เพราะกลัวคุณกรณ์อาจจะไม่ชอบคนที่ไม่มีไอเดียก็ได้ ถ้าตอบแบบในละคร “ไม่รู้...อะไรก็ได้...ตามใจคุณ” คุณกรณ์คงเบื่อคนแบบนี้
“...อืม...มีอยู่ร้านนึง...อาหารอร่อย...วิวสวยมาก...ไปร้านนี้เลยละกัน...” น่านแหละ คุณกรณ์ยิ้มเมื่อผมให้เค้าเสนอร้านที่เค้าชอบ
...ทันทีที่ไปถึง...ผมอยากจะกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที...แอบจิตตกกับเสื้อผ้าหน้าผมตัวเอง...ไม่คิดว่าต่างจังหวัดแบบนี้จะมีร้านหรูซ่อนอยู่...ไม่ซ่อนสิ...ป้ายใหญ่โตบอกทางตลอดหลายกิโลเมตร...มื้อค่ำแบบนี้ แทบไม่มีที่จอดรถ...แต่...พอ รปภ. เห็นรถคุณกรณ์ เขาก็แทบจะไม่สนใจลูกค้ารายอื่นเลย รีบเข้ามาโบกรถ หาที่จอดให้ทันที...และคุณกรณ์ก็ได้ที่จอดรถสำหรับวีไอพีไปในที่สุด...
“...ทีม อยากทานอะไรครับ สั่งได้เลยนะ...” คุณกรณ์ถามเมื่อเห็นผมพลิกเมนูจากหน้าแรกจนถึงหน้าสุดท้ายรอบที่สอง
“...คุณกรณ์สั่งดีกว่าครับ...ทีมทานได้ทุกอย่าง...” ผมไม่กล้าสั่ง เพราะราคาแต่ละเมนูแพงมาก และไม่รู้ว่าคุณกรณ์ชอบอาหารแบบไหน กลัวจะสั่งแบบไปคนละเรื่องกัน ผมชอบอาหารไทย แต่ถ้าคุณกรณ์สั่งอาหารฝรั่ง บนโต๊ะที่วิวดีที่สุดโต๊ะนี้ คงดูแปลก ๆ
“...งั้นเอา............................” คุณกรณ์สั่งอาหารอย่างแคล่วคล่อง ถ้าเป็นหวยคงถูกรางวัลใหญ่ เพราะคุณกรณ์สั่งอาหารฝรั่งทั้งหมด มีไวน์ให้จิบด้วย เกิดมาเคยกินไวน์แพงขนาดนี้มาก่อน แต่อย่าคิดจะมอม เพราะผมไม่เคยดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เกิน 2 แก้ว
...ระหว่างอาหารเย็น ผมกับคุณกรณ์คุยกันหลายเรื่อง...คุณกรณ์เป็นคนกรุงเทพฯ เหมือนผม เรียนโรงเรียนมัธยมชายล้วนชื่อดัง ต่อด้วยมหาวิทยาลัยเอกชนที่ค่าหน่วยกิตแพงที่สุด...ไม่แปลกใจเลยที่แกหรูเนี้ยบตั้งแต่หัวจรดเท้าแบบนี้...
...ผมไม่ใช่คนที่ติดหรู ถึงแม้ว่าพ่อแม่จะส่งเงินมาให้ใช้มากกว่าเพื่อนคนอื่นในกลุ่ม แต่ด้วยความที่ต้องอยู่คนเดียวในเมืองใหญ่ ทำให้ก่อนจะทำอะไรแต่ละครั้ง ต้องคิด และระวังให้ดี รวมไปถึงเรื่องการจับจ่ายใช้สอย...ผมเก็บเงินเก่งมาก เรียกว่า ตั้งแต่พ่อกับแม่ไปตั้งรกรากที่เมืองนอก...ผมก็เก็บเงินได้เยอะมาก...แต่ผมมาใช้เงินเก่งก็ตอนคบกับต้า เพราะทุกอย่างสำหรับผมและต้า ต้องดีที่สุด...ต้องย้ายมาอยู่คอนโดที่ราคาแพงขึ้น มีความเป็นส่วนตัวสูง และหรูหราขึ้น...ดีนะว่าเลิกกันก่อน ไม่งั้นผมคงต้องถอยรถป้ายแดงออกมาเพื่อรับส่งท่านดาราใหญ่...
…แต่ผมไม่โทษต้าหรอก เพราะเค้าไม่เคยขอผม...ทุกอย่างผมทำเพื่อเค้าเอง...ต้าไม่เคยได้เงินจากผม แต่ผมพยายามหา หรือทำทุกอย่างที่ดีที่สุดให้เค้า...แต่ตัวเองก็สบายไปด้วย คิดซะว่าซื้อความสุขสบายให้ตัวเองดีกว่า...โชคดีที่ผมเป็นแฟนมันได้ไม่นาน ไม่งั้นต้องติดหรู บ้าของแพงจากมันแน่ ๆ...
…ขนาดไม่ได้ติดหรู แต่บุคลิก และรูปร่างหน้าตา เพื่อน ๆ มักจะเรียกผมแบบจิก ๆ ว่า อีคุณนาย เพราะผมสามารถจะแอ๊บเชิดหยิ่งได้อย่างน่าหมั่นไส้...แต่มันก็เป็นแค่มุก เพราะนิสัยจริง ๆ แล้วผมเป็นคนที่ลุยมาก...ลุยกว่าผู้ชายแท้ ๆ บางคนซะอีก...
“...ทีมน่ารักจังเลยนะครับ...” คุณกรณ์คงจิบไวน์มากไปหน่อยมั้งครับ ถึงได้ชมผมซึ่ง ๆ หน้า เล่นเอาผมไปต่อไม่ถูกเลย
“...เอ่อ...ดึกแล้ว กลับกันเถอะครับ...” ผมมองดูนาฬิกา
“...นาฬิกาสวยดี...เรือนละหลายหมื่นนะเนี่ย...” คุณกรณ์จับมือผมไปดูนาฬิกาใกล้ ๆ
“...ของขวัญวันเกิดอ่ะครับ...” ผมค่อนข้างอึดอัด เมื่อคุณกรณ์ดูแปลก ๆ
“...ใครให้เหรอ...”
“...พ่อครับ...”
“...นึกว่าแฟน...” คุณกรณ์ยิ้มตาเยิ้ม
“...ทีมไม่มีแฟนหรอก...หน้าตาอย่างนี้ใครจะเอา...” ผมปล่อยมุก พลางดึงมือกลับเบา ๆ
“...ใครไม่เอาก็โง่แล้ว...อยู่กับยอดอ่ะ ระวังให้ดีล่ะ...” คุณกรณ์มีแววตาดุดันนิดนึง เมื่อพูดถึงพี่ยอด
“...ทำไมเหรอครับ...”
“...ไม่มีอะไร...เราไปเที่ยวผับกันต่อมั้ย...” คุณกรณ์เปลี่ยนเรื่อง
“...ไม่ดีกว่าครับ...ทีมไม่ได้เอาบัตรประชาชนมาด้วย...” ผมเลี่ยงด้วยมุกประจำ
“...ไม่เป็นไร...ผมรู้จักเจ้าของ...”
“...ถ้ามีปัญหา เจ้าของโดนหนักนะครับ...ทีมไม่อยากทำให้ใครเดือดร้อน...อีกอย่าง...วันนี้แต่งตัวแย่ด้วย...ไม่มั่นใจเลย...” ผมปล่อยมุกเด็ด ที่เคยใช้ได้ผลทุกครั้ง
“...ไม่มีปัญหา...แวะบ้านผมก่อนสิ...ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่...” เอาแล้วกรู เจอคนแบบนี้อีกแล้ว
“...ก็ได้ครับ...” ผมตอบ คุณกรณ์ยิ้มทันที “...ทีมนั่งรถไปส่งคุณกรณ์ที่บ้านก่อน แล้วทีมกลับโรงแรมเองก็ได้...” ปากดีไปงั้นแหละ นี่มันไม่ใช่กรุงเทพฯ นะ แต่ผมเก็กมาดมั่นใจไว้ก่อน คุณกรณ์อึ้งไปพักนึง
“...โอเค...งั้นเดี๋ยวผมไปส่งทีมที่โรงแรมดีกว่า...พรุ่งนี้ต้องเดินแนะนำตัวอีกวันนึงนี่...” โชคดีที่เค้าไม่เซ้าซี้ ไม่งั้นต้องงัดมุกมาเลี่ยงอีก
*
*
...ในที่สุด คุณกรณ์ก็พาผมมาส่งที่หน้าโรงแรม หลังจากลากัน ผมก็เดินเซ็ง ๆ ขึ้นห้อง...จะแวะเม้าท์กับเพื่อนสาว เคาะประตูไม่มีคนเปิดให้ ก็เลยโทรหา ปรากฏว่าพวกมันออกไปแรดกันที่ตลาดโต้รุ่ง...อยากไปด้วยจัง...ยิ่งรู้ว่าน้องไผ่เป็นไกด์สำหรับคืนนี้ ผมยิ่งอยากไป...นึกในใจว่า ไม่น่าไปกับคุณกรณ์เลย...
“...................” ผมกำลังจะอ้าปากทักพี่ยอดที่นั่งดูทีวีอยู่ในชุดเสื้อกล้าม กางเกงบอล แต่เปลี่ยนใจไม่ทัก เพราะเค้าหันมามองผมแว๊บนึง แล้วไปสนใจกับทีวีต่อ
...อาบน้ำ ใส่ชุดนอนเรียบร้อย ผมก็เซ็ง ๆ ไม่รู้จะทำอะไร เพิ่งจะสามทุ่มกว่า...นอนก็คงไม่หลับ...โทรหาเพื่อนที่กรุงเทพฯ แต่ละนางก็กำลังออกไปเริงราตรี...ผมเดินออกมาที่ห้องนั่งเล่น พี่ยอดมองผม แล้วหันไปดูทีวีต่อ ไม่สนใจ ไม่พูดไม่จา...ผมคิดว่ามีอะไรผิดปกติแล้วแหละ แต่ผมไม่ได้ทำอะไรผิด...ไม่ง้อหรอก...
...ออกไปรับลมทะเลยามค่ำคืนมั่งดีกว่า...ผมเดินเลี่ยงโซฟาที่พี่ยอดนั่ง...ออกไปที่ระเบียง...อากาศช่วงปลายฝนต้นหนาว ลมพัดเย็น...เสียงคลื่นซัดหาดฟังเพลิน...ผมสูดอากาศบริสุทธิ์เข้าปอด...มองไปยังทะเลข้างหน้า เห็นแสงไฟดวงเล็ก ๆ จากเรือประมงหลายลำกลางทะเล...
...หนาว...เหงา...คิดถึงเพื่อน...คิดถึงสีลม...คิดถึงอตก. คิดถึงหลังสวน...คิดถึงเยาวราช...คิดถึงพารากอน...คิดถึงจตุจักร...คิดถึงพ่อแม่...คิดถึงพี่สาวน้องชาย...คิดถึง...ต้า...
...แม้ว่าอากาศจะดี ผมควรจะมีความสุข...แต่ความมืดตรงหน้า มันทำให้ผมจินตนาการไปไกล คิดถึงอดีตที่ผ่านมา เรามีความสุขกับชีวิตแค่ไหน...เราควรจะต้องมีความสุขมาก ๆ เมื่อได้มาฝึกงานกับแฟน...ถ้าตอนนี้ต้าอยู่ด้วย เราคงออกมานั่งดูดาว ดูทะเล ฟังเสียงคลื่นกันสองคน...
...แต่ความจริงแล้ว...เราต้องอยู่คนเดียว...ต้องอยู่กับคนที่อารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ ของคนที่เมื่อเช้ายังดีอยู่เลย ตกเย็นทำไมเฉยชาขนาดนี้...ทำไมเราต้องไปเจอคนที่ดูดี...และดูเป็นคนน่าสนใจ...แต่พอได้รู้จักมากขึ้น เค้าก็ไม่ต่างอะไรกับเกย์ที่สามารถหาได้ง่ายดายในดีเจ...หาคนแต่งตัวเนี้ยบ ๆ แบบนี้ได้ทั่วไปที่สยาม...
...ความรู้สึกหลายอย่างเข้ามาจุกในอกอย่างเร็วจนผมรับไม่ทัน...ผิดหวังกับคุณกรณ์ที่ผมคิดว่าเค้าน่าจะเป็นคนที่ผมควรจะปลื้ม...อึดอัดกับท่าทีของพี่ยอด...คิดถึงอนาคตตัวเองที่ต้องเผชิญหน้าตามลำพัง...แม้คิดว่าตัวเองเข้มแข็ง แต่อยู่ดี ๆ น้ำตาก็ไหลแบบไม่รู้ตัว...
“..เป็นอะไรหรือเปล่าทีม...” เสียงอ่อนโยนอย่างที่ไม่เคยได้ยินมาก่อนถามจากด้านหลัง
“...เปล่า...ไม่ได้เป็นอะไร...” ผมปาดน้ำตาลวก ๆ แต่เสียงยังขึ้นจมูกอยู่
“...ร้องไห้ทำไม...” พี่ยอดจับไหล่ผมให้หันมาทางเค้า
“...ผงเข้าตามั้ง...” ผมฝืนหัวเราะ
“...คุณกรณ์ทำอะไรหรือเปล่า...” ผมเงยหน้ามองพี่ยอดทันที แสดงว่าเค้ารู้ว่าผมไปกับคุณกรณ์เมื่อเย็น
“...พี่ยอดหมายความว่าไงอ่ะ...” ผมกลั้นใจถาม
“...ก็เมื่อเย็นออกไปกับเค้า...แล้วกลับมาก็ร้องไห้แบบนี้...เค้าทำอะไรเราล่ะ...” พี่ยอดเอานิ้วปาดน้ำตาที่ยังเหลืออยู่ที่หางตาของผม
“...เปล่า...ไม่ได้ทำอะไร...ไปกินข้าวกันเฉย ๆ แล้วพี่ยอดรู้ได้ไงว่าทีมไปกับคุณกรณ์...” ผมถามเสียงแข็ง กลบเกลื่อนความเขิน
“...ก็เห็นอ่ะ...แหม...มีการเปิดประตูให้ขึ้นรถซะด้วย...โคตรสุภาพบุรุษเลย...” พี่ยอดแดกดัน
“...นี่ ๆ ๆ เค้าคงกลัวประตูรถเค้าพังมั้ง...รถรุ่นนี้ปิดแรงไม่ได้นี่...” ผมแก้ตัวให้
“...รู้ดีจริง ๆ นั่งบ่อยละสิ เบ็นซ์อ่ะ...” พี่ยอดกัดผม
“...คันอื่นนั่งบ่อย แต่คันนี้เพิ่งนั่งสองครั้ง โอเคป่ะ...” ผมกวนกลับ
“...หวังว่าคงไม่มีครั้งที่สามนะ...” พี่ยอดจ้องหน้าผมใกล้ ๆ จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นรดแก้มผม
“...ทำไมล่ะ...” ผมเบือนหน้าหนี
“...พี่เป็นห่วง...” พี่ยอดพูดจบ ผมต้องหันไปมองหน้าเค้าให้ชัด ๆ กรูหูฝาดไปป่าววะเนี่ย
*************************************************************
...พอก่อน....เดี๋ยวว่าง ๆ มาต่อใหม่...คืนนั้นจะจบยังไง ตอนหน้ามาลุ้นกัน...ขอบคุณสำหรับทุกความเห็น และทุกกำลังใจนะครับ...
...เป้...