TWINS บทที่ 29 ฝาแฝดและเค้าลางแห่งความน่ากลัว ในความเป็นจริงแล้วผมนั้นไม่ได้เป็นอะไรมาก แค่มึนๆ และอ่อนเพลียเท่านั้น แต่ธัชตอนนี้ยังหลับเป็นตายอยู่ ผ่านไปหนึ่งวันแล้ว แต่ก็ยังไม่ลุกขึ้นเลย
" พี่เชนครับ ยาที่เซนเซย์ฉีดให้ธัช คือยาอะไรเหรอ " ผมถามพี่เชนที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ใกล้ๆ เตียงผมเบาๆ และเซนเซย์นั้น นั่งอยู่ข้างๆ เตียงของธัช
" เป็นยาระงับผสมยานอนหลับอย่างแรงเลยล่ะ ผลที่ได้ก็เรียบร้อยเลยอย่างที่เห็น แต่ไม่ต้องห่วง ไม่อันตรายหรอก " พี่เชนพูดพลางยิ้มให้ผมอย่างใจดี
" แล้วทำไมเซนเซย์ถึงฉีดยาเป็นละครับ " ผมงงมาก เพราะว่าคนที่เป็นหมอคือพี่เชนต่างหาก
" นี่เรายังไม่รู้จริงๆ เหรอ คือเคียวน่ะเป็นหมอนะ ต้องบอกว่า เป็นทั้งแพทย์และจิตแพทย์ เรียนจบเอกตั้งแต่อายุยี่สิบต้นๆ เป็นอัจฉริยะวงการแพทย์เลยล่ะ " ผมตาโตมองพี่เชนอย่างไม่อยากจะเชื่อ
" แล้วมาสอนวิศวะเนี่ยนะ "
" พ่อเขาสั่งมา ขัดไม่ได้ ไม่รู้ว่าอคติอะไรกับพวกหมอ พี่ละเสียดายคนเก่งๆ แบบเคียว ร้อยปีจะมีสักคน " ผมยิ้มอย่างรู้สึกผิดพลางนึกถึงคืนที่ผมปัดยาจากมือของเซนเซย์ เป็นหมอก็ไม่บอก ไอ้บ้าเอ้ย แต่ก่อนจะรักษาจิตคนอื่น ผมว่าหมอนี่ก็ควรรักษาตัวเองบ้างนะ เพราะตอนอยู่กับผมหมอนั่นน่ากลัวกว่าคนไข้โรคจิตซะอีก หรือว่าเรียนมากจนจิตไปแล้ว ผมหรี่ตามองคนที่นั่งไขว่ห้างกระดิกเท้าอ่านหนังสืออย่างสบายอารมณ์
และผมเพิ่งนึกขึ้นได้ ว่าตอนที่ธัชอาละวาดนั้น มีคนที่ดูเหมือนจะบาดเจ็บหนักด้วย
" พี่เชนครับ แล้วคนที่โดนธัช เอ่อ แทงด้วยมีด "
" อ๋อ ยังไม่ตายหรอก แต่สาหัสเชียวล่ะ เลือดเกือบหมดตัวก่อนจะมาถึงนี่ " ผมถอนหายใจอย่างโล่งอก ผมไม่อยากให้ธัชมีตราบาปเป็นฆาตกร
" ก็เท่ากับว่าบาดเจ็บคนนึงใช่ไหมครับ " ถึงผมจะโกรธจนอยากฆ่าพวกมันก็เถอะ แต่เอาจริงๆ ก็ไม่อยากให้มีใครถึงตาย ผมยิ้มอ่อนๆ ให้พี่เชน ที่ทำหน้าเครียดๆ นิดหน่อย
" จริงๆ แล้วก็บาดเจ็บทุกคนเลยนะ " ผมขมวดคิ้วมองพี่เชนอย่างไม่เข้าใจ
" เคียวน่ะ เล่นซะยับทุกคนเลยล่ะ มีแต่โชน ที่พี่ขอไว้ เลยแค่น่วมนิดๆ อย่างที่เห็น " ผมเหลือบมองเซนเซย์ด้วยความหวาดระแวง คนเป็นหมอเขาทำกันยังงี้เหรอ น่ากลัวนะเนี่ย แต่ก็ขอบคุณนะ
" อัดให้หายแค้น แล้วรักษาให้ คติเคียวเขาล่ะ เชื้อสายตระกูลมาเฟียญี่ปุ่นนี่น่ากลัวนะ สงสัยหัวรุนแรงเข้าสายเลือด ฮ่าๆ " ผมมองพี่เชนที่หัวเราะร่าเริง หัวเราะกับเรื่องแบบนี้เนี่ยนะ สมแล้วที่เป็นเพื่อนกัน
มีอีกเรื่องที่ผมค้างคาใจสุดๆ จะว่าได้ผลไหมมันก็เหมือนจะได้ แต่มันแปลกๆ ไอ้เรื่องแบบนั้นมันเป็นการบำบัดจริงๆ งั้นเหรอ
" เอ่อ พี่เชนครับ " ผมกระซิบแบบเบาสุดๆ จนพี่เชนลุกขึ้นมาเงี่ยหูฟัง
" เซ็กส์บำบัดนี่ มันมีจริงหรือเปล่าครับ " ผมพูดออกไป พลางเกาหัวแก้เขิน แต่พี่เชนกลับมองผมพลางหัวเราะเสียงดังชอบใจใหญ่
" เคียว อย่าเอาความต้องการส่วนตัวมาใส่ในตำราแพทย์สิ ฮ่าๆๆๆ " ผมถลึงตามองเซนเซย์อย่างสุดแค้น หนอย ไอ้เราก็หลงเชื่อซะได้ แต่มันก็รู้สึกดีนะ เอ๊ะยังไงวะเนี่ย ผมมึนตัวเอง
" แต่ก็ชอบใช่ไหมล่ะ " เซนเซย์พูดเหมือนอ่านใจผมได้พลางเหลือบตามองผม ผมหันควับหนีสายตาหื่นกามของไอ้หมอโรคจิตนั่น เหอะ ก็งั้นๆ แหละ
" แหม สองคนนี่พัฒนานะ ฮ่ะๆ " พี่เชนพูดแหย่ผม
" ผมยังไม่ได้มีอะไรนะครับ อย่าเข้าใจผิด " ผมรีบเบรกพี่เชนที่ทำหน้าตาแช่มชื่นเหลือเกิน
แต่ก็นะ ที่ผมรอดมาได้ ก็เพราะพวกมันลังเลตอนเห็นรอยจูบบนตัวผม การเกี่ยวพันธ์กับคนที่มีอิทธิพลในแง่ความรุนแรงบางทีก็เป็นประโยชน์เหมือนกัน
แต่ผมไม่เข้าใจเลย เซนเซย์ไม่ได้เกลียดผมหรอกเหรอ และบางทีก็ดูเหมือนจะชอบธัชด้วย เพราะตอนนี้เซนเซย์ก็อยู่กับธัชไม่เคยห่าง ตกลงแล้วนายคิดยังไงกับพวกเรากันแน่ และผมนั้นก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตอนนี้ผมรู้สึกยังไงกับเซนเซย์ ผมรู้แต่เพียงว่า หลังจากเรื่องที่เกิดขึ้น มันทำให้ได้รู้ว่าเซนเซย์นั้นพูดถูกมาตลอด แต่การแสดงออกอาจจะเป็นไปในทางไม่ค่อยดีนัก
ตอนนี้ผมเห็นเซนเซย์ฟุบลงไปกับเตียงข้างๆ ธัช ผมมองดูบุคคลที่นอนหลับไหลอยู่ทั้งสอง เป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกปลอดภัย ผมที่ต้องต่อสู้มาโดยลำพัง ต้องคิด ต้องหาทางทำทุกอย่างเพื่ออยู่รอด เพื่อน้อง เพื่อชีวิตของเราสองคน ผมเหนื่อยล้าเหลือเกิน ไม่อาจปรึกษา ไม่อาจมีที่พึ่งพิง ไม่อาจไว้ใจใครได้เลย แต่ต่อไปนี้ ผมรู้สึกเหมือนกับว่า คนคนนั้นอาจจะสามารถช่วยพวกเรา และดูแลพวกเราได้ ผมอาจจะไม่ต้อง ต่อสู้เพียงลำพังอีกแล้ว
" พี่ครับ "
ผมลืมตาตื่นขึ้นในตอนมืดก็พบว่าธัชนั้นยืนอยู่ข้างๆ เตียงผมและกุมมือผมไว้
" ธัช เป็นยังไงบ้าง " ผมรีบลุกขึ้นประคองแก้มทั้งสองข้างของน้องไว้
" ผมไม่เป็นไรครับ " ธัชพูดและส่งยิ้มอ่อนโยนให้ผม
" พวกเรากลับกันเถอะ ผมไม่อยากอยู่ที่นี่เลย " ธัชพูดพลางทำหน้าเศร้า
" มีอะไรหรือเปล่า แล้วเซนเซย์ไปไหนแล้ว "
" ไม่รู้สิครับ ตื่นมาก็ไม่เจอใครเลย " ผมมองไปรอบๆ พวกเซนเซย์คงไปหาอะไรกินละมั้ง
" ธัชหิวหรือเปล่า " ธัชส่ายหน้าน้อยๆ
" ตื่นแล้วเหรอ หิวกันหรือเปล่า ฉันซื้อของมาให้ " เซนเซย์เดินเข้ามาพอดีและหิ้วของมาให้เต็มไปหมด
" พวกผมอยากกลับคอนโดครับ พาพวกเราไปส่งหน่อยสิ " เซนเซย์ไม่พูดอะไร แต่ยังคงทำท่าแกะอาหารให้เรา
ผมและน้องนั่งกินข้าวเงียบๆ ผมสังเกตว่าธัชดูซึมลงแปลกๆ ยังรู้สึกไม่สบายตัวหรือเปล่านะ ผมเป็นห่วงน้อง
" ผมเข้าห้องน้ำก่อนนะ " ธัชบอกผมและเดินไปเข้าห้องน้ำที่มุมห้อง เซนเซย์มองตามธัชที่เข้าห้องน้ำไปแล้ว และเดินเข้ามาหาผมทันที
" ช่วงนี้ไม่ควรอยู่กับธัชโดยไม่มีฉันนะ " ผมมองหน้าเซนเซย์พลางขมวดคิ้ว ผมไม่ชอบใจเลยที่ได้ยินแบบนั้น
" ธัชไม่มีวันทำร้ายผม " ผมพูดขึ้นด้วยความขุ่นเคือง
" ธัชจะไม่รู้ตัวว่าทำอะไร เธอไม่รู้หรอกว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเธอ ถ้าไม่ระวัง "
" ผมไม่กลัวหรอกครับ ต่อให้เป็นแบบนั้น "
" แต่ฉันกลัว " เซนเซย์ก้มมองหน้าผมและจับแขนทั้งสองข้างของผมเอาไว้
" เอ่อ ขอบคุณนะครับที่เป็นห่วง แต่พวกเราอยากกลับจริงๆ ให้พวกเรากลับเถอะครับ " ผมหลบตาเซนเซย์ ผมไม่ค่อยชินกับน้ำเสียงแบบนี้ของเซนเซย์เท่าไหร่ รู้สึกหน้าร้อนแปลกๆ
" เธอให้ยาน้องแบบไหน " เซนเซย์ถามผมด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
" เป็นยาที่ผมหาซื้อจากโรงพยาบาลเท่าที่หาได้ เมื่อก่อนผมให้น้องกินเอง แต่หลังๆ ผมผสมลงในอาหาร แต่มันทำให้ธัชปวดหัวเหมือนไม่สบาย ผมไม่ค่อยชอบเลย "
" เลิกใช้ยานั่นซะ คุณภาพห่วยมาก ฉันจะให้ยาเธอไว้ ทำถูกแล้วที่ไม่ให้ธัชกินยาตรงๆ เด็กนั่นไม่ชอบใจเวลาที่คิดว่าตัวเองไม่ปกติ จะทำให้คิดมากและคลั่งขึ้นมาง่ายๆ "
" ทำไมเซนเซย์ถึงรู้เรื่องนั้นละครับ " ผมขมวดคิ้วถามอย่างสงสัย เพราะมีแค่ผมคนเดียวเท่านั้นที่รู้ว่าธัชเป็นยังไง เวลาพูดถึงเรื่องความไม่ปกติของธัช
" ธัชเคย.. "
" คุยอะไรกันเหรอครับ " ผมที่ยังไม่ทันพูดจบ ธัชก็ออกมาจากห้องน้ำพลางยิ้มน้อยๆ
" พี่กำลังขอให้เซนเซย์ไปส่งเราน่ะ " ผมยิ้มให้น้องและเดินไปจับมือน้องดึงมานั่งที่เตียง
" ผมอยากนั่งรถสปอร์ตคันนั้นจังฮะ ผมชอบมากเลย " ธัชพูดพลางทำหน้าตื่นเต้น ทั้งๆ ที่เมื่อกี้ยังซึมๆ อยู่เลย
" ถ้าหายดีแล้วฉันจะให้เธอขับเล่นดีไหม "
" จริงเหรอครับ สัญญานะครับ " ธัชลุกขึ้นไปกอดแขนเซนเซย์พลางยิ้มกว้าง
หลังจากนั้น เซนเซย์ก็พาผมกับน้องมาส่งตามคำขอ ธัชดูตื่นเต้นชอบใจกับรถของเซนเซย์จริงๆ ผมยิ้มกับภาพที่เห็น ผมดีใจที่ธัชไม่ได้รู้สึกแย่ ไม่ได้คิดมาก และแทบไม่พูดถึงเหตุการณ์คืนนั้นเลย
" ถ้ามีอะไร รีบโทรหาฉัน ฉันบันทึกเบอร์ให้แล้ว กดแค่เลข 1 ก็พอ " เซนเซย์พูดบอกผมเบาๆ ตอนที่ธัชกำลังเดินไปดูไฟท้ายรถ
" แอบเล่นโทรศัพท์ผมงั้นเหรอ " ผมทำหน้ากวนใส่เซนเซย์ หนอย มายุ่งกับของส่วนตัวผมซะได้
" หรืออยากให้เล่นอย่างอื่น " เซนเซย์พูดด้วยแววตาเจ้าเล่ห์
ผมแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้และเดินไปดึงน้องที่กำลังเกาะหนึบออกมาจากท้ายรถ หนอย ไอ้หมอบ้ากาม
" ขอบคุณนะครับ แล้วก็ไปได้แล้ว " ผมแลบลิ้นแถมให้ และจูงน้องที่กำลังโบกมือให้เซนเซย์อย่างขยันขันแข็งให้เดินตามมา
หลังจากที่พวกเรากลับมาที่ห้อง พวกเราก็อาบน้ำ และเตรียมเข้านอนตามปกติ ผมสังเกตว่าธัชดูเงียบลงไปอีกแล้ว ปกติก็จะชอบมาชวนผมเล่นเกมส์ ไม่ก็ดูหนังก่อนนอนแท้ๆ แต่ผมที่คิดแบบนั้น ก็รู้สึกว่าตัวผมกำลังถูกกอดไว้จากด้านหลัง แบบนี้ค่อยโล่งใจหน่อย ธัชมาอ้อนผมเหมือนปกติแล้ว
" พี่ครับ ผมหิวอีกแล้ว " ธัชทำเสียงออดอ้อน
" กินอะไรดี ข้าวต้มมั้ย เดี๋ยวพี่ทำให้ " ผมพูดพลางลูบแขนน้อง และเดินเข้าครัวเพื่อเตรียมข้าวของ
" ครับ "
ธัชตอบรับผม และเดินกลับไปนั่งลงที่หน้าทีวีตามเดิม ผมมองด้านหลังของน้อง ในมุมนี้นั้นธัชจะไม่สามารถมองเห็นผมได้ ผมตั้งหม้อและหยิบยาที่เซนเซย์ให้มา นำออกมาจากกระเป๋ากางเกง ผมต้องรีบก่อนที่ธัชจะออกมา
ผมเจอยาที่เซนเซย์ให้ไว้ และค่อยๆ แกะแคปซูลนั้นออกและเทใส่หม้อเอาไว้ เวลาผสมก็จะได้เข้ากันดี เซนเซย์บอกว่าให้กิน 2 เม็ดสินะ และหยิบยาอีกเม็ดออกจากซอง บิดเบาๆ และเทออกมา
' หมับ! '
ผมตกใจสะดุ้งจนยาเม็ดอื่นๆ ร่วงกราวลงกับพื้น เพราะแขนข้างที่ผมถือยาอยู่นั้น กำลังถูกจับอยู่โดยธัช ที่กำลังจ้องมองผมด้วยแววตาน่ากลัว มือธัชที่กำรอบๆ แขนของผมนั้น บีบแน่นจนผมนิ่วหน้าด้วยความเจ็บปวด
ดูเหมือน ผมจะทำผิดพลาดครั้งใหญ่อีกแล้ว ผมควรจะทำยังไงต่อไปดีครับ เซนเซย์