-ฉุดดึง-ผมไม่แปลกใจอีกต่อไปแล้ว กับคำพูดปรุง เค้ารู้มาตลอด
แต่ไม่ทั้งหมด
ดังนั้น ผมจึงไม่กลัว
ผมยกขวดน้ำจรดริมฝีปากซ่อนรอยยิ้ม จิบช้าๆ คล้ายได้ยินเสียงน้ำที่ล่วงผ่านพ้นลำคอ ปรุงไม่ละสายตาไปจากผมเลย
“ฟานมีอะไรอยากเล่าหรือเปล่า”
“ปรุงจะช่วยเรางั้นหรือ” ถึงตอนนี้ซ่อนไว้ไม่ไหวแล้ว ผมยิ้มเยาะ
“เปล่านี่” ผมถึงกับยิ้มค้าง เปล่างั้นหรือ ทำไมล่ะ
ปรุงอ่านสีหน้าประหลาดใจของผมแล้วมองเฉย
“เวลาเห็นคนอยู่กลางบ่อโคลน...เค้าอาจจะแค่กำลังยืนอยู่ก็ได้” ปรุงเลิกมองผมแล้ว
“แล้วจะเดินผ่านไปเฉยๆอย่างนั้นหรือ” ผมกระซิบ ไม่ได้อยากรู้คำตอบ เหมือนพูดกับตัวเองมากกว่า
“ก็ทำอย่างตอนนี้ไง” ปรุงหันมายิ้ม “เฝ้ามอง ตราบใดที่ไม่ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือ คนนั้นก็แค่กำลังเล่นโคลน”
“เราไม่ใช่หนูทดลอง”
“ก็ไม่ได้บอกว่าใช่ ทำไมล่ะ อยากให้เราทำอะไร” ปรุงเกาคางทำหน้าครุ่นคิด “จะสอนวาดรูปก็ไม่เป็นซะด้วยสิ”
ขวดน้ำในมือถูกเหวี่ยงไปกระแทกขาปรุง
ปรุงก้มหน้ามอง หัวเราะ “ดุซะด้วย”
“ทำไมต้องยั่วโมโหเราทุกครั้งเรื่องซำ”
ปรุงหมุนขวดน้ำบนพื้นเล่น “การแสดงออกเป็นเรื่องจำเป็นนะ”
ปรุงหยิบขวดน้ำวางตั้งตรงหน้าผม “ระเบิดมาซะบ้างสิ”
ปรุงลุกยืน ก่อนเดินออกไปได้ยินเสียงผิวปากเป็นท่วงทำนองไม่คุ้นเคย ทิ้งผมนั่งจ้องขวดน้ำนั้น
ร่องรอยบิดเบี้ยว ค่อยๆคืนตัวเสียงดังเบาๆ แกรบ...แกรบ
ยังมีต่อนะคะ แต่ขอไปแต่งต่อที่ทำงานค่ะ (แอบโอ้เอ้อยู่บ้าน)
อ่านความคิดเห็นที่เดากันมา ได้แต่อุทานในใจว่า "อกอีแป้น"
ขอบคุณจริงๆค่ะที่วิเคราะห์กันมามากมาย
แม้จะเดามาถูกทางแล้ว แต่สัญญาได้ไหมว่าจะตามอ่านต่อไป