Special Chapter 2: ทายาทอสูร
ปกติเวลาพี่อินทร์ชวนไปเที่ยวต่างจังหวัด ผมไม่เคยปฏิเสธเขาเลย แต่มีครั้งนี้แหละที่ผมไม่อยากไป เพราะการไปเที่ยวในรอบบนี้ เขาไปกับทริปของพวกแก๊งดาวเดือนมหาวิทยาลัยของเขา รวมไปถึงพวกเหล่าทูตกิจกรรมด้วย อารมณ์คล้ายๆ กับการรับเพื่อนใหม่ของมหาวิทยาลัยนั่นแหละ แต่แค่เจาะจงเฉพาะกับพวกคนที่ทำกิจกรรมเป็นหน้าเป็นตาให้มหาวิทยาลัยเท่านั้น
สาเหตุที่ผมไม่ไปก็ไม่มีอะไรมาก ผมแค่รู้สึกว่าตัวเองไม่ใช่คนพวกเดียวกับกับพวกนี้น่ะ ถึงชาตินี้จะเกิดมาหน้าตาดีแล้ว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าผมจะมั่นใจในตัวเองอะไรมากมายสักหน่อย ทว่าพอผมปฏิเสธ พี่อินทร์ก็งอแงไม่หยุด จนสุดท้ายผมก็ต้องเก็บเสื้อผ้า นั่งรถทัวร์มากับเขาถึงจังหวัดเพชรบุรี โดยมีจุดมุ่งหมายคือชะอำ
โอเค...สุดท้ายก็มากับเขาจนได้
แรกๆ ก็เกร็งอยู่เหมือนกัน แต่พอเริ่มปรับตัวได้ก็พบว่าความจริงแล้วก็สนุกดีเหมือนกัน เพราะพวกเพื่อนๆ ในกลุ่มนี้ของพี่อินทร์ก็รู้จักผม พอผมคุยด้วยเล่นด้วย พวกเขาก็ตีซี้เสมือนว่าสนิทกับผมมากเป็นการใหญ่ แน่ล่ะว่าทำให้พี่อินทร์หึงไปหลายรอบ จนตอนนี้ผมเลยเพลาๆ ที่จะคุยเล่นกับคนอื่นลงแล้ว เดี๋ยวเขาแสดงท่าทางเพี้ยนๆ ออกมา ผมจะเป็นฝ่ายที่อายเอา
และตอนนี้พวกเราก็ถึงที่หมาย พวกรุ่นพี่ปีอื่นๆ ให้รุ่นน้องดาวเดือนและทูตกิจกรรมหน้าใหม่ไปนั่งเรียงแถวกันที่ชายหาด พวกเด็กปีหนึ่งที่ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรแต่ติดรถมาเที่ยวด้วยอย่างพวกผมก็ไปนั่งเล่นรอพวกเขาทำกิจกรรมกันที่เก้าอี้ผ้าใบใกล้ๆ รู้สึกเหมือนว่าพวกเขากำลังจะจับสลากเลือกบัดดี้ให้คู่กับพวกปีสองกัน
บรรยากาศเป็นไปด้วยความครื้นเครง พี่อินทร์ถูกเรียกไปโน่นแล้วหลังจากที่งอแงเกาะแกะผมอยู่นาน เขาล้วงมือลงไปหยิบสลากในถ้วยก่อนชูขึ้นสูง
“และน้องบัดดี้ของเดือนมหา’ลัยสุดหล่อของเราได้แก่...!”
เพื่อนๆ พี่อินทร์รัวกลองเป็นการใหญ่ ขณะที่พี่อินทร์คลี่กระดาษสลากในมือออกแล้วประกาศ
“คชา!”
“เฮ้ๆ!”
ต่างคนต่างส่งเสียงดังเป็นการยินดี ผมมองหาเด็กปีหนึ่งที่ได้มาเป็นบัดดี้คู่กับพี่อินทร์ ก่อนที่ผู้ชายคนหนึ่งจะลุกขึ้น ผมมองไปปราดเดียวก็จำได้ว่าเขาเป็นทูตกิจกรรมของมหาวิทยาลัยที่มีรูปโปสเตอร์รณรงค์อะไรบางอย่างแปะอยู่ทั่วอาคารเรียนไปหมด เรียกได้ว่าคุ้นหน้าคุ้นตาดีเลยล่ะ แล้วเขาก็หล่อเอามากๆ ด้วย ทำเอาผมอดมองอยู่นานไม่ได้ รู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่พี่อินทร์ตวัดหางตามามอง แล้วชี้นิ้วมา
“ตาวิเศษเห็นนะ”
เขาร้องขู่ ทำปากยื่นๆ ผมเลยรีบเบนสายตาไปทางอื่น ไม่งั้นเดี๋ยวเขาได้หึงหวงต่อหน้าคนอื่นให้ผมได้อายแน่
คชาเดินออกมาจากกลุ่มเพื่อน คำนับซ้ายทีขวาทีประมาณว่าขอบคุณทุกเสียงร้องโห่ให้การต้อนรับ ก่อนเดินมาหาพี่อินทร์แล้วยกมือไหว้
“คชาครับพี่อินทร์”
พี่อินทร์ก็พยักหน้าตอบ “ยินดีที่ได้เป็นบัดดี้กันนะ เดี๋ยวพี่ดูแลเป็นอย่างดีแน่นอน ไม่ต้องห่วง”
ผมมองแล้วก็ไม่ค่อยวางใจสักเท่าไรนัก คือคชาดูเป็นคนปกติ๊ปกติน่ะ แต่พี่อินทร์เป็นยังไง เอาเป็นว่ารู้กัน ผมกลัวว่าเขาจะไปถ่ายทอดความบ้าให้น่ะ
เอางี้ ผมไม่พูดอะไรดีกว่า กลัวว่าถ้าพูดไปแล้วเดี๋ยวภาพลักษณ์พี่อินทร์จะเสีย พอจับบัดดี้ได้ พี่อินทร์ก็เดินนำพาคชาไปเอากระเป๋าที่รถเพื่อที่จะไปห้องพัก คชาหันไปร้องเรียกใครบางคนให้รีบเดินตามมา พอหันไปมองก็เห็นว่าเป็นผู้ชายอีกคนที่มีความสูงเท่าๆ กับผม
“นี่มาวิน แฟนผมเอง มาค่ายด้วย”
เคยเห็นเพจคิวท์บอยของมหาวิทยาลัยพูดถึงอยู่เหมือนกันว่าเขามีแฟนเป็นผู้ชาย แต่ไม่เคยเห็นรูปมาก่อนเลย ตัวจริงก็น่ารักเรียบร้อยดีเหมือนกันนะ
“อ๋อ โอเค เอาแฟนมาด้วยก็ดี นว้องจิตัวเย็กๆ ของพี่จะได้มีเพื่อน แล้วนี่ครบสี่คนพอดี ดีเลย จะได้ไม่ต้องหาใครเป็นเศษมานอนให้ครบ”
พี่อินทร์ว่า เห็นเขาบอกว่าบัดดี้จะต้องนอนด้วยกัน ปกติแล้วจะนอนห้องละสองคู่ แต่เพราะพี่อินทร์พาผม แล้วคชาก็พาแฟนมาด้วย พวกเราเลยได้นอนด้วยกันทั้งหมด
มาวินยกมือไหว้พี่อินทร์พลันหันมายิ้มให้ผม ผมเองก็ยิ้มให้เหมือนกัน
“อะ อย่ามัวยืนคุยกัน รีบไปเอากระเป๋า จะได้ไปดูห้องกัน”
จากนั้นพี่อินทร์กับคชาก็ไปคุ้ยหากระเป๋าของตัวเองและของแฟนเป็นการใหญ่ คนที่ยืนดูแฟนตัวเองไปค้นเอากระเป๋าให้อย่างพวกเราจึงคุยกันเล็กๆ น้อยๆ ฆ่าเวลา
“จิเรียนคณะอะไรเหรอ”
เป็นมาวินที่เปิดฉากชวนผมคุย ผมหันไปมองเขาแล้วตอบ
“เรียนศิลปศาสตร์น่ะ แล้วมาวินล่ะ”
“อ๋อ เราเรียน...เอ๊ะ คชา นายไม่ได้รูดซิปกระเป๋า”
ยังไม่ทันที่เขาจะได้ตอบ มาวินก็สังเกตเห็นกระเป๋าเป้ที่สะพายบนหลังของคชาเสียก่อน มันไม่ได้ปิดอย่างที่มาวินว่านั่นแหละ คชาเลยเหวี่ยงเป้มาหมายจะรูดซิป ทว่าในจังหวะนั้นเอง กระเป๋าดันร่วงตกลงพื้น ข้าวของข้างในหล่นออกมากระจัดกระจาย
“มา พี่ช่วยเก็บ”
พี่อินทร์ทำหน้าที่รุ่นพี่ที่ดี ทรุดตัวลงไปนั่งยองช่วยเก็บของก่อนเป็นคนแรก ผมก็กะจะช่วยนั่นแหละถ้าสายตาไม่บังเอิญเห็นกระเป๋าใส่ซีดีที่แผ่ออกมาให้เห็นเต็มสองตาเสียก่อน และจะไม่อะไรด้วยถ้ามันเป็นซีดีธรรมดา ไม่มีสกรีนลายเอ่อ...ผู้ชายนุ่งน้อยห่มน้อยบนแผ่นเต็มไปหมด
“นั่นมัน...”
มาวินครางออกมา ถึงกับใบหน้าซีดเผือด ส่วนผมก็ครางตบท้าย
“ซะ...ซีดีหนังโป๊เกย์เหรอ”
พี่อินทร์เงยหน้าขึ้นพรึ่บมอบคชาอย่างรวดเร็ว ขณะที่คชาทำท่าตกใจ และ...
“กรี๊ดดด!”
แล้วพี่อินทร์ก็ดัน...
“ว้ายยย! คนผีทะเล!”
พวกมึงเป็นอะไรกันเนี่ย! เงียบๆ สิเว้ย แตกตื่นกันทำไม เดี๋ยวชาวบ้านก็รู้หรอกว่ามีหนังโป๊เกย์อยู่ในดงพวกกูเนี่ย!
มาวินเป็นคนแรกเลยที่กระโดดผลุงไปตะครุบปากคชา ส่วนผมก็ทุบพี่อินทร์เข้าให้เมื่อเห็นว่าเขายังคงวี้ดว้ายไม่เลิก
“ตีพี่ทำไมเนี่ยจิ”
“แล้วพี่อินทร์จะตื่นเต้นทำไมล่ะครับ”
“เอ้า ก็พี่ไม่เคยดูหนังแนวนี้นี่ ตื่นเต้นก็เป็นเรื่องธรรมดา”
ผมงี้เบ้ปากให้เลย ขนาดไม่เคยดูยังช่ำชองขนาดนี้ ถ้าเคยดูจะเชี่ยวชาญขนาดไหน แต่พี่อินทร์ก็ไม่ได้ว่าอะไร นอกจากจะหัวเราะให้กับท่าทางของผมกับมาวินที่กระอักกระอ่วนขึ้นมา ก่อนส่งซีดีส่งคืนให้คชา
“เก็บเอาไว้ดีๆ อย่าให้ใครเห็นล่ะว่าเอามาด้วย เดี๋ยวแตกตื่นกันทั้งบาง”
เห็นมีแต่พวกมึงนี่แหละที่แตกตื่นกันน่ะ
คชาพยักหน้ารับ มาวินก็รีบคว้าเอาไปใส่กระเป๋า จัดการรูดซิปให้เสร็จสรรพท่ามกลางความขุ่นใจ
“เราบอกแล้วไงว่าอย่าเอามา เอาออกจากกระเป๋าไปแล้ว จะใส่เข้ามาทำไมอีก”
ผมได้ยินมาวินบ่นพึมพำ ขณะที่คชาลอยหน้าลอยตา
“กูก็กลัวว่าน้องๆ ของกูจะเหงานี่หว่า”
“น้องๆ ไหน”
“น้องๆ ในหนังพวกนี้เนี่ย”
มาวินเลยเอามือป้ายปากไปที โทษฐานพูดจาไร้สาระ ส่วนผมก็มองคชาใหม่เลย
คนหล่อๆ นี่มันเพี้ยนกันหมดเลยหรือไงวะ!
แต่โชคดีที่พี่อินทร์ไม่ถึงขั้นทั้งหล่อ ทั้งเพี้ยน ทั้งหื่นเหมือนคชา ทว่า...ดูเหมือนจะครบเครื่องใกล้ๆ นี้ล่ะเมื่อพี่อินทร์ว่าขึ้น
“แล้ว...น้องๆ ของเอ็งแจ่มปะวะ”
ผมถึงกับย่นคิ้วเลย ถามอะไรวะน่ะ
จากนั้นคชาก็ยิ้มเผล่ ซู้ดปาก
“หูยพี่ เด็ด”
“เด็ดเท่าคนจริงปะ”
ว่าพลางพยักพเยิดไปทางมาวินที่อยู่ไม่ไกล คชามองตาม พลันว่า
“แซ่บอย่าบอกใคร บทเรียนชั้นดีเลยพี่อินทร์”
เท่านั้นพี่อินทร์ก็ทำตาโต “จริงดิ งั้นเอามายืม...”
“พี่อินทร์! จิอยากไปที่ห้องแล้ว!”
ผมรู้ว่าเขาจะพูดอะไรก็เลยรีบโพล่งขึ้นมาก่อน พี่อินทร์หัวเราะร่วนก่อนจะเปลี่ยนเรื่อง
“เคๆ ไปที่ห้องกัน นว้องจิตัวเย็กๆ เหนื่อยแล้ว ส่วนซีดีนั่นน่ะ ว่างๆ ไว้เอามายืมบ้างนะ อยากเรียนวิชาเพศศึกษา”
มันน่าเอากระเป๋าฟาดหน้าสักทีไอ้หื่นเอ๊ย!
หลังจากนั้นพี่อินทร์กับคชาก็ไปทำกิจกรรมกัน มีแค่ผมกับมาวินที่ไม่ได้เป็นอะไรกับกลุ่มพวกนั้นเดินเตร็ดเตร่ไปมาสองคนตลอดทั้งวัน ซึ่งก็นับว่าเป็นเรื่องดีเหมือนกันเพราะผมจะได้ถือโอกาสทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่ไปด้วยเลย กระทั่งตอนเย็น กิจกรรมทั้งหมดถึงได้ยุติและปล่อยให้พักผ่อนตามอัธยาศัย คนอื่นๆ เลือกที่จะไปเดินเล่นแถวชายทะเล แต่พี่อินทร์กับคชากลับมาที่ห้องเพื่อพักก่อน เพราะตอนกลางคืนจะมีเลี้ยงรับเพื่อนใหม่อีกรอบ และสองคนนั้นก็เลย...
“อื้อ...อา...เยสแมน...โอ้ว...”
...ชวนกันดูหนังโป๊บนโน้ตบุ๊ก
มันใช่เวลามาทำเรื่องพวกนี้เหรอไอ้พวกบ้า!
ผมกับมาวินซึ่งเพิ่งกลับมาถึงห้องยืนมองสองคนนั้นกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนฟูกขนาดยาวสำหรับนอนสี่คนแล้วได้แต่ทำหน้าปูเลี่ยน ขณะที่ผมเป็นหน่วยกล้าตาย ออกปากถามเป็นคนแรก
“พี่อินทร์ทำอะไรอะครับ”
“เรียนวิชาเพศศึกษา”
“เรียนทำไมครับ”
“จะได้เอาท่าไปใช้กับนว้องจิตัวน่าเย็ก...เอ้ย ตัวเย็กๆ ไง”
มึงไม่ต้องมาแกล้งพูดผิดเลย! แล้วตอนพูดกับกูนี่มองหน้าด้วย มองแต่จอโน้ตบุ๊กมันหมายความว่าอะไร!
มาวินคงทนไม่ได้มั้ง เดินไปพับฝาโน้ตบุ๊กปิดท่ามกลางสายตาขุ่นๆ ของคชา
“ไรเนี่ยไอ้เอ๋อ ดูอยู่ มาปิดทำไม”
“เราไม่อยากให้ดู”
พอบอกไปอย่างนี้ คชาก็ยิ้มกริ่ม “ฮั่นแน่ หึงเหรอจ๊ะมาวิน”
หึงหรือไม่หึงไม่รู้ล่ะ รู้แต่ว่าตอนนี้มาวินอยากจะเอาโน้ตบุ๊กฟาดหน้าจะแย่อยู่แล้ว พอโน้ตบุ๊กถูกยึด พี่อินทร์กับคชาก็เหมือนปลาขาดน้ำ ดิ้นกระแด่วๆ งอแงกันใหญ่
“ป่าปี๊อยากดูง่า อยากฉึกฉาไว้ใช้กับนว้องจิง่ะ”
“เก๊าก็อยากจะฉึกฉาอ้ะ มาวินใจย้าย คนใจย้าย~”
มึงเป็นทายาทอสูรกันเหรอ! จะเลียนแบบกันทำไม!
แค่พี่อินทร์อ๊องคนเดียวก็ว่าน่าปวดหัวแล้วนะ เจอคชาไปด้วยอีกคน ผมถึงกับไมเกรนกิน ตอนนี้งงใจกับพระเจ้ามาก
ทำไมส่งคนหล่อมาเกิดแล้วถึงไม่ใส่สติมาให้สมกับหน้าตาด้วย ไหงเพี้ยนกันหมดงี้!
“ไม่ต้องมาเลียนแบบพี่อินทร์เลย รีบไปเตรียมตัวไป เดี๋ยวก็มีกินเลี้ยงกันแล้วไม่ใช่เหรอ”
มาวินตัดบท คชาก็ยังไม่หยุดกลิ้งเกลือก ทำให้ถูกมาวินลากไปอาบน้ำ ก่อนจะกลายเป็นว่าเขาเป็นฝ่ายถูกลากเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำด้วยเสียอย่างนั้น เหตุการณ์ในห้องน้ำจะเป็นยังไง ผมไม่ขอรับรู้หรอกนะ พอจะเดาได้อยู่ ก็แหม เพิ่งจะดูหนังโป๊มาสดๆ ร้อนๆ อย่างนั้น จะต้องเดาอะไรให้ยากอีกล่ะ
ตอนนี้เหลือแต่ผมกับพี่อินทร์สองคน พี่อินทร์เห็นทางสะดวกก็ยู่ปากใส่ผมเป็นการใหญ่ ช้อนสายตามองด้วยจนผมต้องขมวดคิ้ว
“มีอะไรครับพี่อินทร์”
“คุณจิระไม่อยากจะอื้อหือกับอินทราบ้างเหรอ ดูสิ พร้อมออกศึกเต็มที่แล้วเนี่ย อินทราเอาชุดนอนไม่ได้นอนมาด้วยนะ อยู่ในกระเป๋า”
แล้วก็หื่นใส่ผมทันทีด้วยการคว้ามือผมไปจับเป้ากางเกงเขาที่อยู่ใต้ผ้าห่ม ความแข็งขืนทำให้ผมต้องหน้าร้อนวูบขึ้นมาก่อนรีบชักมือกลับ
นอกจากคชาแล้ว ก็มีพี่อินทร์นี่แหละที่บ้าไม่แพ้กัน
พวกมึงจะเอาของแบบนี้มากันทำไมเนี่ย!?
“หยุดเลยพี่อินทร์ ไม่ได้มากันแบบส่วนตัวนะ จะมาทำกันได้ยังไง”
ผมโวยเข้าให้ แต่พี่อินทร์ก็ยังทำเป็นเล่น
“ไม่เห็นจะเป็นไรเลย ทีคชากับมาวินยัง...”
ทำเป็นไม่พูดต่อ แต่ส่งสายตากะลิ้มกะเหลี่ยมาให้ผม ผมไม่อยากจะสนใจหรอก ทว่าก็อดไม่ได้ที่จะอาย
ไอ้พวกบ้าเอ๊ย ทำไรกันเนี่ย แล้วมาวินก็คล้อยตามแฟนไปทำไม!
ตอนนี้รู้เลยว่าคชากับมาวินรักกันแค่ไหน แต่อะไรก็ไม่สำคัญเท่ากับการที่พี่อินทร์ลุกไปคุ้ยกระเป๋า และ...
“นี่ไง ชุดนอนไม่ได้นอนลายเสือดาว”
มึงจะเอาออกมาทำไม!
ผมรีบปรี่ไปแย่งมาแล้วยัดมันลงกระเป๋าเหมือนเดิมทันที ก่อนหันไปแหว
“อย่าเอาออกมาสิ จะบ้าหรือไงพี่อินทร์”
“เอ้า ก็พี่อยากเห็นจิใส่” จากนั้นก็กระทืบเท้าดิ้นแด่วๆ “นะๆ ใส่หน่อยนะ ปี้อินทร์อยากเห็น~”
“ถ้ายังไม่เลิกเล่น จิโกรธจริงๆ แล้วนะ จะนั่งรถตู้กลับกรุงเทพฯ คนเดียวด้วย แอบหนีไปไม่บอกเลยคอยดู”
พูดไปอย่างนี้ พี่อินทร์ก็หยุดเล่นทันทีเพราะรู้ว่าผมเอาจริงแน่ พลันเขาก็ตัดพ้อออกมา
“แค่นี้ก็ต้องขู่ด้วย ไม่ทำก็ไม่ทำสิ ไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย”
ปากยื่นปากยู่น่าดีดให้เจ่อเหลือเกิน แต่ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะหลังจากนั้นเขาก็ไม่ได้ตอแยอะไร จะมีก็แต่เสียงของคชากับมาวินที่ดังออกมาจากห้องน้ำ แน่นอนว่ามันไม่ใช่เสียงอะไรชวนสยิวแบบนั้น แต่เป็นเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดของคชาที่ถูกมาวินประทุษร้าย
“โอ๊ยๆ ไม่ทำก็ไม่ทำสิไอ้เอ๋อ อย่ามาบีบกันอย่างนี้ อู๊ย...ยอมแล้ว ยอมแล้วคร้าบ~”
รู้เลยว่าถูกทำอะไร แต่ก็ดีแล้วล่ะ ไม่งั้นก็หื่นกันไม่เลิกสักที
ไอ้พวกนี้นี่ เล่นกันไม่เลือกเวลาและสถานที่จริงๆ เลย
เพราะถูกปฏิเสธจากผมกับมาวิน พี่อินทร์กับคชาเลยดูเซ็งๆ ตลอดการเลี้ยงรับเพื่อนใหม่ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี แต่ทุกครั้งที่หันมามองผมกับมาวิน ทั้งสองคนก็จะค้อนประหลับประเหลือก ทำหน้างอนๆ บ้าง ปากยู่ๆ บ้าง ผมมองพี่อินทร์แล้วก็ขำอยู่เหมือนกันเพราะท่าทางแบบนั้นมันทำให้เขาดูน่ารักมาก แต่ขอโทษเถอะ ถึงจะน่ารักขนาดไหน ผมก็ไม่ยอมตามใจเขาหรอก ถ้ามากันเป็นการส่วนตัวก็ว่าไปอย่าง นี่มากับคนอื่นด้วย ยังไงก็ต้องเกรงใจชาวบ้านกันหน่อยล่ะ
พอเริ่มดึก งานเลี้ยงก็เริ่มมีเหล้าเบียร์เข้ามา ปกติแล้วพี่อินทร์ไม่ใช่คนชอบดื่มสักเท่าไร แต่พอมารวมกลุ่มกับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ แบบนี้ เหมือนเขาจะเลี่ยงไม่ได้ ใครมาชนแก้ว ใครมาชงเหล้าให้ เขาก็ต้องยอมดื่ม ผมก็ไม่ว่าอะไรเขาหรอก เข้าใจดีว่ามันเป็นหนึ่งในวิธีการเข้าสังคม หากแต่พอเริ่มดึกมากจนกระทั่งทุกคนพากันแยกย้ายไปนอนนี่แหละ มันเริ่มเดือดร้อนผมแล้วล่ะ
ทำไมกูต้องมาแบกผู้ชายร่างใหญ่กลับห้องด้วยวะ!
แบกขึ้นหลังเป็นกระสอบข้าวสารเลย ไม่ต่างจากมาวินที่ต้องแบกคชากลับห้องเหมือนกัน สองคนนั้นเมาแอ๋ทั้งคู่ พูดก็ไม่รู้เรื่อง เพ้อเจ้อไปเรื่อยตามประสาคนเมามาก
หลังจากถอดเสื้อพวกเขาออกเพราะมีกลิ่นเหล้าติดเรียบร้อยแล้ว ผมกับมาวินตกลงให้พี่อินทร์กับคชานอนข้างกัน มาวินนอนด้านนอกสุด ผมก็มานอนด้านในติดผนัง ความเหนื่อยอ่อนที่สั่งสมมาทั้งวันทำให้พวกเราผล็อยหลับไปแทบจะในทันที รู้สึกตัวอีกทีก็ตอนช่วงเช้ามืด ที่รู้สึกตัวตื่นนี่ไม่ใช่อะไรเลย
พี่อินทร์มาไซ้ซอกคอผมอ้ะ!
มือก็กอดก่ายเกาะแกะเป็นปลาหมึกด้วย ผมกระซิบบอกเขาเสียงแผ่ว
“พี่อินทร์...อย่า...”
แต่เขาไม่ฟัง ล้วงเข้าไปใต้เสื้อ ลูบหน้าอกผม พอผมดึงมือออก เขาก็เลื่อนไปลูบที่เป้ากางเกงแทน ผมเลยกระซิบบอกไปอีก
“บอกว่าอย่าไง คนอื่นอยู่ด้วย”
แน่ล่ะว่ามีคชากับมาวินนอนข้างๆ แต่พี่อินทร์ก็ส่งเสียงอ้อแอ้เหมือนกับว่ายังไม่สร่างเมาออกมา
“อื้อ นว้องจิของพี่...”
แกล้งเมาหรือเปล่าวะเนี่ย!
ผมลองนอนเฉยๆ พี่อินทร์ก็ไม่หยุดรุ่มร่าม ผมเลยผลักเขาออกแล้วลุกออกจากที่นอนเลย
ไม่นงไม่นอนมันแล้ว ไหนๆ ก็เช้าแล้ว ออกไปเดินเล่นรอเวลาแล้วกัน ไม่งั้นเขาละเมอทำรุ่มร่ามกับผมไม่เลิกแน่
แต่พอออกมาที่หน้าห้องพัก ผมก็ต้องแปลกใจเมื่อเห็นว่ามีใครบางคนนั่งเล่นอยู่
“มาวิน ตื่นแล้วเหรอ ออกมาตั้งแต่เมื่อไรเนี่ย”
เขาหันมามองผม ท่าทางยังดูงัวเงียอยู่เลย
“ก่อนจิออกมาประมาณครึ่งชั่วโมงน่ะ”
“เอ้า ทำไมอะ ไม่ง่วงเหรอ”
ผมนั่งลงข้างๆ เขา ขณะที่เขาส่ายหน้าพรืด บ่นพึมพำออกมา
“ง่วงจะตายอยู่แล้ว”
“ง่วงแล้วออกมาทำไม”
ผมไม่เข้าใจเลย แล้วก็พอจะเดาได้ด้วยว่าเขาคงออกมาตอนผมหลับสนิท ผมถึงไม่รู้ว่าเขาออกมานั่งที่นี่ มาวินหันมามองหน้าผมแล้วว่าด้วยน้ำเสียงเอือมๆ
“คชามันกวน”
“กวน? อย่าบอกนะว่า...”
มาวินพยักหน้าทั้งที่ผมยังพูดไม่จบ แค่นี้ก็รู้กันแล้วว่ากวนยังไง
ก็เหมือนกับที่พี่อินทร์ทำกับผมไงล่ะ บอกแล้วว่าไอ้พวกนี้มันเป็นทายาทอสูรกัน!
ผมหัวเราะแห้งๆ ตอบรับไป “เหมือนกันเลย ตื่นเพราะอย่างนี้แหละ”
มาวินมองหน้าผมแบบโคตรของโคตรเข้าใจอะ ผมก็นึกขำความเพี้ยนของทั้งสองคนนี้นะ แต่ก็พอเข้าใจว่าทำไมถึงได้งอแงเกาะแกะเราสองคนขนาดนี้ ก็ตอนพวกเขาอยากทำ พวกผมไม่ให้ทำนี่ จะงอแงงก็ไม่แปลก
“งั้นรอเช้ากว่านี้อีกหน่อย ค่อยเข้าไปปลุกสองคนนั้นไปหาอะไรกินกันเนอะ”
ผมว่า มาวินก็พยักหน้าแล้วเอียงตัวพิงกับเสาที่อยู่ใกล้ๆ ก่อนที่พวกเราสองคนจะสะดุ้งเฮือกในอีกไม่กี่นาทีให้หลังเมื่อได้ยินเสียงดังออกมาจากในห้อง
“กรี๊ดดด!”
“อะไรน่ะ”
“ไม่รู้สิ รีบไปดูกัน”
ไม่มีใครพูดอะไรอีกแล้ว รีบร้อนกลับเข้าห้องอย่างรวดเร็ว ก่อนมาวินจะเปิดไฟ
“เกิดอะไรขึ้น!”
ไม่ต้องมีใครบอกก็พอจะเข้าใจเมื่อผมเห็นภาพตรงหน้าที่พี่อินทร์กำลังนั่งชันเข่างอตัวอยู่ที่ผนังห้อง ขณะที่คชายกมือขึ้นปิดหน้าอกตัวเอง พร้อมกับการประสานเสียงร้อง
“กรี๊ดดด! พี่อินทร์! พี่อิ๊นทร์!”
“คชา! ไม่นะ! ม่ายยยย!”
ดีดดิ้นแด่วๆ ทำท่าสะดิ้งทั้งคู่ ผมมองแล้วก็ได้แต่ทำหน้าระอา ไม่ต่างจากมาวินที่กลอกตาเล็กน้อย
ตื่นขึ้นมาได้ก็เพี้ยนกันเลยนะ! พวกมึงคิดว่าได้เสียกันเองใช่ไหม!
เป็นแบบนั้นแหละ เพราะพอพี่อินทร์เห็นผม เขาก็รีบกระโดดผลุงลงจากฟูกนอน ปรี่เข้ามาหาผมอย่างรวดเร็ว
“มะ...ไม่ใช่อย่างที่จิคิดนะ”
“จิคิดอะไรเหรอครับ”
“พี่ไม่ได้ทำอะไรคชา คชามัน...มัน...ทำพี่ พี่ไม่ได้จับมันเลยสักนิด”
“แล้วพี่อินทร์ร้องทำไม”
“ก็มัน...ฮึก...มัน...”
แล้วก็บิดตัวไปมา แด๊ดแด๋จนน่าโดนตบ ขณะที่คชายังคงหวีดร้องไม่เลิก
“เสียตัวแล้ว! เสียตัวให้พี่อินทร์แล้ว!”
ไม่มีใครเสียตัวให้ใครทั้งนั้นแหละเว้ย!
ผมกับมาวินเข้าใจกันได้ทันทีว่าเสียงร้องเมื่อกี้เกิดขึ้นเพราะอะไร สงสัยจะคงเผลอทำรุ่มร่ามใส่กันเพราะคิดว่าอีกฝ่ายเป็นแฟนตัวเองแหง ซึ่งก็ใช่แบบนั้น เพราะพี่อินทร์ว่าออกมา
“จูบไปซะเต็มรักเลย คิดว่านว้องจิตัวเย็กๆ ฮือ... มิน่าล่ะว่าทำไมร้อนแรง ไอ้บ้าเอ๊ย จิ พาพี่ไปอาบน้ำมนตร์ที”
“ใครจะไปรู้ล่ะว่าเป็นพี่อินทร์น่ะ เห็นมันแข็งๆ ผมก็ตะปบเต็มที่เลย โอ๊ย! อยากตัดมือทิ้ง!”
นี่ไง ผิดจากที่คิดไปเสียที่ไหน ตอนนี้ผมกับมาวินหัวเราะกันท้องแข็งเลยเพราะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
ขนลุกเลยเป็นไงล่ะพวกหื่นเอ๊ย! สมน้ำหน้า!
พี่อินทร์ทำหน้าแหยสุดๆ ก่อนเขาจะตัดพ้อเมื่อเห็นว่าผมหัวเราะไม่เลิก
“ไม่ต้องมาขำพี่เลย คนใจร้าย”
“ก็ใครใช้ให้พี่อินทร์หื่นล่ะ”
“ใครจะไปรู้ล่ะว่าจิจะทิ้งให้พี่อยู่กับคชาสองคนน่ะ โดนมันจับอินทราตัวน้อยเต็มรักเลยเนี่ย ต้องเอาเป็ดโปรล้างฆ่าเชื้อแล้วมั้ง”
“โห่ พี่อินทร์ งั้นผมก็ต้องเอาเป็ดโปรล้างหัวนมเหมือนกันอะ แม่งจูบเข้ามาเต็มที่เลย หยะแหยง”
คชาทำท่าขยะแขยงจริงๆ ผมกับมาวินเลยหัวเราะออกมาอีกเมื่อรู้ว่าจูบที่พี่อินทร์ว่ามันคือการจูบตรงไหน
“อยากเปลี่ยนบัดดี้ ฮือ...”
พี่อินทร์ซบหน้าลงบนไหล่ผม พึมพำงึมงำคนเดียว ผมก็ได้แต่ลูบหลังลูบไหล่เขาเป็นการปลอบ
“โอ๋ๆ นะพี่อินทร์ ขวัญเอ๊ยขวัญมานะครับ”
“คนใจร้าย จิระใจร้าย กลับไปแล้วต้องปลอบพี่ทั้งคืนด้วย”
ได้ที เขาก็อ้อนเป็นการใหญ่เลย ไม่ต่างจากคชาที่อ้อนมาวินเป็นการใหญ่เพราะขวัญเสียเหมือนกัน ผมมองแล้วก็ได้แต่ขำ
ไอ้พวกนี้เป็นทายาทอสูรกันจริงๆ ขนาดแค่ได้ใช้ชีวิตข้ามคืนเพียงคืนเดียวเท่านั้นนะ ใครจะไปรู้ว่าคนหล่อๆ จะเพี้ยนกันแบบนี้
“นะๆ กลับไปแล้วปลอบพี่หน่อยนะ”
พี่อินทร์อ้อนมาอีก คราวนี้ผมก็เลยตอบตกลง
“ได้ครับ แต่ต้องกลับไปก่อนนะ อยู่ที่นี่ห้ามทำรุ่มร่ามด้วย”
“อื้อ จะเป็นอินทราคนดีที่หนึ่งแล้ว”
เขายังคงซบหน้ากับไหล่ผม อ้อนงอแงเหมือนเดิม ผมได้แต่ยิ้มให้เขา
ถึงเขาจะมีทายาทอสูร แต่พี่อินทร์ของผมคนนี้ก็น่ารักมากๆ อยู่ดี
น่ารักจังเลย...
แต่ถ้าจะให้ดี อย่าได้มีทายาทอสูรโผล่มาอีกคนเลยนะ จิระปวดหัว แค่พี่อินทร์อ๊องๆ คนเดียวก็พอแล้วล่ะ
พระเจ้าครับ...ไม่ต้องส่งใครมาอีกแล้วนะครับ กราบสามครั้งแบมือ
--------------------
ตอนนี้เป็นตอนพิเศษตอนสุดท้ายที่จะลงให้อ่านบนเว็บนะคะ
ตอนพิเศษอื่นๆ จะลงให้แค่ตัวอย่าง ที่เหลือติดตามในเล่มหรืออีบุ๊กเอาเน้อ
ขอบคุณที่ติดตามกันมาจนถึงตอนนี้ค่ะ เจอกันตอนออกเล่มงานหนังสือ ต.ค.2561 นี้นะคะ
ฝากด้วยน้า