แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*  (อ่าน 241638 ครั้ง)

abcd

  • บุคคลทั่วไป
Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
«ตอบ #330 เมื่อ17-05-2007 03:57:26 »

จะเปลี่ยนชื่อตัวละครตามนี้นะครับ

จากนิติ เป็น วันชนะ ชื่อเล่น วิน
จากต้นน้ำ เป็น นักขัต ชื่อเล่น ตั้ม

 



ง่า..ชื่อจำยากกว่าเดิมอีก  o2

แต่ก็เปงกำลังใจให้คนแต่งแล้วกันนะจ๊ะ ขอให้แก้ชื่อให้เสร็จได้ภายในวันเดียวเยย สาธุ๊  :call:  :call:  :call: 
:โป้ก1:  อ๊ะ...ครายเขวี้ยงรายมาหว่า?? อ่อ.. โอนริโอ้ จาบอกว่ามานเร็วไปช่ายป่าวครายจาแก้ได้ทัน   :laugh:  :laugh3:

คนโป๊ดก็สู้สู้น๊า..  :yeb:

athens

  • บุคคลทั่วไป
Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
«ตอบ #331 เมื่อ17-05-2007 10:23:25 »

รับทราบการเปลี่ยนชื่อครับ

ขอบคุณคนแต่ง คนโพสต์ครับ

 o15 o15

gobgab

  • บุคคลทั่วไป
Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
«ตอบ #332 เมื่อ17-05-2007 12:31:25 »


.........รับทราบแล้วคราบ.........

.........มาต่อเร็วๆนะคับ........สู้ๆ...... o13 o13

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
«ตอบ #333 เมื่อ17-05-2007 19:15:59 »

แก้ไขชื่อในไฟล์ word ลองใช้ตัวช่วยสิ
ในเมนูแก้ไข จะมีตัวเลือก "ค้นหา" ให้ค้นหาคำว่า นิติ แล้วแทนที่ด้วย วันชนะ
และค้นหาคำว่า ต้นน้ำ แล้ว แทนที่ด้วย นักขัต ส่วนชื่อเล่นก็แก้เหมือนกัน
น่าจะเร็วกว่านะ ตั้ง 100 กว่าหน้า ขืนแก้ด้วยมือจะปางตายเอานา  :try2:
เอ่อ จะเป็นการสอนจรเข้ให้ว่ายน้ำหรือเปล่านี่

MyLoveMyBabe

  • บุคคลทั่วไป
Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
«ตอบ #334 เมื่อ21-05-2007 15:32:39 »

^
^
^
^
แบบที่ข้างบนบอกอ่ะคับ  ไม่ทรายว่าทำไปยัง  กด Ctrl H แล้วแก้คำเดิมกำคำที่จะเปลี่ยนใหม่ แล้วเลือก replace all  มันแก้ให้เองอัตโนมัติเลย

ยังไงก็รอ วินกะตั้งนะคับ  อิอ เด่วค่อยๆปรับให้คุ้นกะชื่อใหม่

ว่าแต่วุฒินี่ชอบมาได้จังหวัดเข้าด้ายเข้าเข็มตลอดเลยนะ อิอิ  :o9:

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
«ตอบ #335 เมื่อ21-05-2007 17:04:42 »

^
^
^
^
แบบที่ข้างบนบอกอ่ะคับ  ไม่ทรายว่าทำไปยัง  กด Ctrl H แล้วแก้คำเดิมกำคำที่จะเปลี่ยนใหม่ แล้วเลือก replace all  มันแก้ให้เองอัตโนมัติเลย

ยังไงก็รอ วินกะตั้งนะคับ  อิอ เด่วค่อยๆปรับให้คุ้นกะชื่อใหม่

ว่าแต่วุฒินี่ชอบมาได้จังหวัดเข้าด้ายเข้าเข็มตลอดเลยนะ อิอิ  :o9:

ทำแล้วครับ แต่ปัญหามันอยู่ที่ว่า ถ้ามีคำที่ขึ้นต้นด้วยนิ  เช่น นิยาย มันก็จะเปลี่ยนเป็นวันชนะยาย

อยู่ในระยะพิสูจน์อักษรอยู่ครับ อดใจรออีกนิดหนึ่ง

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
«ตอบ #336 เมื่อ26-05-2007 17:58:30 »

เอาอย่างนี้สิพูห์
ตอนแรกนะ ให้ค้นหาคำว่า นิติ แล้วแทนที่ด้วย วันชนะ  แล้วแทนที่ทั้งหมด (คงไม่มีปัญหาเพราะ นิติเป็นชื่อคน)
แล้ว ให้ค้นหาคำว่า ต้นน้ำ แล้ว แทนที่ด้วย นักขัต 
2 ชื่อนี้คงไม่มีปัญหา เพราะเป็นคำ 2 พยางค์ คงไม่มีปัญหาแบบ นิยาย = วันชนะยาย แน่นอน

ที่จะมีปัญหาคือ คำว่า ต้น กับ นิ
ให้ค้นหาคำว่า ต้น แล้วแทนที่ด้วย ตั๊ม แต่อย่ากด แทนที่ทั้งหมด (replace all) แต่ให้กดช่อง แทนที่
มันจะวิ่งไปหาคำว่าต้น ตัวแรกที่เจอ ถ้าเป็นตัวที่เราต้องการแทนที่ ก็กดแทนที่ แต่ถ้าไม่ใช่
เช่น เป็นคำว่า ต้นไม้ ก็กด ค้นหาถัดไป มันจะข้ามคำนั้นไป ไม่แก้ไขให้
แล้วจะค้นหาคำว่า ต้น คำต่อไปให้ ถ้าคำไหนที่ต้องการแก้ ก็กด แทนที่ ถ้าไม่ต้องการแก้ ก็กด ค้นหาถัดไป
วิธีนี้อาจจะคลิกจนเมื่อยมือหน่อย แต่คิดว่าดีกว่า นั่งแก้ทีละตัวนะ
คำว่านิ แทนที่ด้วย วิน ก็ทำแบบเดียวกัน

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
«ตอบ #337 เมื่อ29-05-2007 10:56:31 »

ขอบคุณครับทิพย์ ลองมาทั้งหมดแล้วครับ แต่มันจะมีบางตัวที่หลุดรอดไปได้ครับ อดใจรอหน่อยแล้วกันนะครับ

ตอนนี้งานยุ่งมากเลยครับ แต่จะพยายามแก้ไขให้ไวที่สุดนะครับ

 :o11:

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
«ตอบ #338 เมื่อ29-05-2007 14:33:04 »

แก้ไขชื่อตัวละครเรียบร้อยแล้วนะครับ

พร้อมลงตอนใหม่แล้ว ติดตามกันได้เลยครับ

 :teach:



ลป.

ขออนุญาตไม่แก้ชื่อในเมนท์เพื่อนๆ นะครับ

แบบว่าเริ่มขี้เกียจ

กร้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาก

 :laugh:

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
«ตอบ #339 เมื่อ29-05-2007 14:34:18 »


“วิน” นักขัตพูด สายตาเหม่อมองไปยังปลายสนข้างหน้า ทั้งสองยืนรับลมอยู่ที่ระเบียง
“หืม...” วันชนะรับคำ สายตาเหม่อมองที่ปลายสนเหมือนกัน

“เหลือเวลาอีกเดือนหนึ่ง ถ้าถอนตัวตอนนี้ที่ชมรมฯ คงจะหาคนใหม่มาแทนได้ทัน” นักขัตพูดเสียงเอื่อยๆ แต่น้ำเสียงแฝงด้วยความห่วงใย
“ตั้มพูดอะไร” วันชนะขมวดคิ้ว

“ตั้มรู้นะ ว่าเรื่องที่วินเจอที่ชมรมฯน่ะ ...หลินเขาตั้งใจ...” ชายหนุ่มหันมามองคนยืนข้าง “ตั้มไม่รู้จะพูดยังไง ทั้งที่รู้อย่างนั้น แต่ตั้มช่วยอะไรวินไม่ได้เลย แต่ถ้าเราถอนตัว...ตอนนี้ยังทันนะ”

นักขัตฉายแววกังวลในเรื่องนี้อย่างเห็นได้ชัด
“ตั้ม” วันชนะจับมือของเขาเบาๆ ปลอบโยนให้คลายกังวล “วินไม่เป็นไรหรอก” วันชนะยิ้มอ่อนโยนก่อนจะเปลี่ยนเป็นยิ้มร่าปากกว้าง “เดี๋ยวพี่ใหญ่ได้โกรธเอาหรอก”

พอนึกถึงเจ๊ใหญ่นักขัตก็ยิ้มออก

...


เวทีที่จะใช้ในการแสดงที่จะมีขึ้นในวันมะรืนถูกตกแต่งจัดขึ้นอย่างเตรียมพร้อมและสวยงาม

“เอาล่ะๆ เด็กๆ” เจ๊ใหญ่ตบมือเป็นสัญญาณ “วันนี้ซ้อมใหญ่ครั้งสุดท้ายกันแล้ว เต็มที่กันเลยนะจ้ะ”
“วิน ตั้ม หลิน แซกส์” เจ๊ใหญ่เรียกสี่คนนี้ที่จะต้องซ้อมฉากสำคัญตอนที่เจ้าหญิงรู้ว่าจริงๆวันชนะเป็นเจ้าชาย และรู้ว่าคนที่ตนรักกลับเป็นองครักษ์ของเจ้าชาย

“ตอนนี้หลินจะยืนอยู่กลางเวทีนะ แซกส์ก็คอยติดตามรับใช้อยู่ข้างนะ” เจ๊ใหญ่ทำไม้ทำมือบรรยายไปด้วย “พอฉากเปิดตรงนี้สำคัญมากเรื่องอารมณ์สีหน้า” เจ๊ใหญ่เน้นที่หลิน “พอฉากเปิดเจ้าหญิงต้องตะลึง แปลกใจ แล้วก็รู้สึกเหมือนเป็นคนโง่โดนหลอกประมาณนั้นเลยนะจ้ะ”

“ส่วนเจ้าชายกับองครักษ์ก็จะยืนอยู่หลังม่านเตรียมเปิดตัวนะ” เจ๊ใหญ่ทวนซ้ำให้ฟังเป็นรอบที่สิบ “อย่าหาว่าเจ๊ย้ำคิดเลยนะ แต่เจ๊สังหรณ์แปลกๆ มันต้องมีอะไรสักอย่างคาดไม่ถึงแน่ๆ ฉะนั้นทุกคนต้องเป้ะนะ เข้าใจนะ”

ตั้งแต่โดนตบหน้าครั้งที่สองมาจนถึงวันนี้สถานการณ์ราบรื่นมาตลอดสำหรับวันชนะ หลินก็ดูจะเป็นมิตรมากขึ้น แต่ลึกๆแล้ววันชนะก็ยังสัมผัสได้ถึงความไม่ชอบใจเขาอยู่ดีนั่นแหล่ะ

การซ้อมครั้งสุดท้ายผ่านไปด้วยดี

นักขัตเตรียมตัวจะกลับพร้อมกับวันชนะอยู่ที่หลังเวที อุปกรณ์ประกอบฉากวางอยู่เต็มไปหมดเพราะฉากที่จัดเพิ่งจะเสร็จ ตู้ล็อกเกอร์ตั้งมั่นคงอยู่ติดผนังหลังเวที ลังไม้สองลังที่วางอยู่ด้านบนก็ดูปกติดี
“ตั้มๆ พี่ใหญ่เรียกแน่ะ” หลินเดินผ่านมาบอกข่าวแล้วก็เดินไป

“มีอะไรนะ” นักขัตสงสัย
“ไปเถอะ เดี๋ยววินรอแถวนี้ละกัน” วันชนะยิ้มส่ง
“งั้นเดี๋ยวตั้มมานะ”

วันชนะนั่งรอที่เก้าอี้เก่าๆแถวนั้น แซกส์เดินผ่านมา “ไม่รู้เค้ามองยังไงเนอะถึงได้เล่นบทเจ้าชาย ถ้าเป็นบทโสเภณีชายในสมัยก่อนน่าจะเข้ามากกว่า” แซกส์ทำเป็นพูดเล่นทะเล้นๆ แต่ก็หมายความจริงตามนั้น สายตามองวันชนะเหมือนมองขยะสักชิ้นที่ตกอยู่กับพื้น
วันชนะเบื่อจะต่อล้อต่อเถียงด้วยจึงเงียบเสีย

“ทำเป็นเชิด ชิ” แซกส์เบะปาก ใบหน้าเหยียดหยัน “คิดว่าตัวเองวิเศษนักรึไง”
วันชนะชักเหลืออดจึงควบคุมอารมร์พูดอย่างใจเย็นว่า “เขาคงคิดว่าเราพูดได้หลายประโยคกระมัง เลยไม่เหมาะกับบทที่จะพูดได้แค่ ‘องค์หญิงเพคะ’ ตลอดเรื่อง” วันชนะลอยหน้า

แซกส์ตัวสั่นริกๆ ใจร้อนเหมือนไฟสุม โดนย้อนมาทีหนึ่งมันตอกกลับได้เจ็บแสบ
สายตาคมเจ้าเล่ห์ฉาบขึ้น น้ำเสียงมั่นคงแต่ใจสั่นระริกด้วยความอาฆาต “นั่นสินะ เธออาจจะเหมาะกับบทนี้จริงๆก็ได้” แซกส์เปลี่ยนสีหน้า “ว่าแต่เจ้าชายตัวสูงกว่าคนใช้ จะกรุณาช่วยยกลังไม้ข้างบนนั่นหน่อยได้รึเปล่า” น้ำเสียงขอร้องนั้นฟังดูแข็งๆฝืนๆ
วันชนะงงกับท่าทีที่เปลี่ยนฉับพลันของแซกส์แต่ก็ยอมลุกไปช่วย วันชนะตัวสูงกว่ายื่นสองมือไปถึงลังไม้ลังล่างก็ออกแรงยก ลังหนักเอาการจนแขนวันชนะสั่น

“ท่าทางจะหนักนะ ม่ะ เดี๋ยวช่วย” แซกส์พูดพร้อมกับเอื้อมมือไปพยุงก้นลัง “ได้ละ พ่อเจ้าชายปล่อยมือได้”
วันชนะปล่อยมือตามที่แซกส์บอกเพราะคิดว่าส่งต่อได้แล้ว
แต่แซกส์กลับชักมือออกอย่างเร็วพร้อมๆกับที่วันชนะปล่อยลังไม้สองอันซ้อนกันนั้น
โครม!

เสียงลังไม้ดังกระทบพื้นดังอยู่หลังเวที แต่ก็ไม่ดังพอจะให้คนจำนวนมากมาสนใจ
วันชนะรู้สึกชาเจ็บที่เท้าทันที ลังไม้ตกลงใส่เท้าข้างหนึ่งที่ชักหลับไม่ทัน ในขณะที่แซกส์ปลอดภัย เขากระโดดหลบว่องไวเหมือนเตรียมการณ์ไว้

“อ้ะ ขอโทษ มันเป็นอุบัติเหตุนะ” ถ้อยคำขอโทษแต่น้ำเสียงไม่จริงใจ
“แซกส์ๆ กลับกันเถอะจ้ะ” หลินตะโกนเรียก
“อ้ะ ไปก่อนล่ะนะ เจ้าหญิงเรียกแล้ว” คนตัวเล็กยิ้มเยาะ “ที่ซ้อมๆไปน่ะ วันจริงก็แสดงให้ดีๆล่ะ” แล้วแซกส์ก็ผละไปอย่างสมอารมณ์


วันชนะพยายามยืนเป็นปกติกลับไปนั่งที่เก้าอี้ จะให้ใครรู้เรื่องนี้ไม่ได้เดี๋ยวทุกคนเป็นห่วง ที่สำคัญการแสดงจะมีขึ้นในวันมะรืนนี้หากเขาออกตัวเป็นอะไรไป ละครครั้งนี้ต้องแย่แน่ๆ คิดได้ดังนั้นวันชนะก็ปั้นหน้ายิ้มเป็นปกติเมื่อนักขัตเดินกลับมา
“พี่ใหญ่ก็ไม่เห็นจะได้เรียกตั้มเลยนะ” นักขัตบ่นระคนสงสัย
“ไม่มีอะไรก็ดีแล้ว กลับกันเถอะ” วันชนะพูดพร้อมกับยืนขึ้น ฝืนตัวเองไม่ให้แสดงอาการเจ็บออกมา
..
..
..

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
« ตอบ #339 เมื่อ: 29-05-2007 14:34:18 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






gobgab

  • บุคคลทั่วไป
Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
«ตอบ #340 เมื่อ29-05-2007 14:45:18 »


..........ลากมากระทืบทั้งคู่เลยดีมะเนี่ย......... :angry2: :angry2: :angry2:

..........สู้เขานะ..วิน........ o13 o13

athens

  • บุคคลทั่วไป
Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
«ตอบ #341 เมื่อ29-05-2007 16:58:37 »

แหม มันน่าจะเอาลังไม้ กระแทกใสหน้าตาแซกซ์ซะทีนะ

ไม่ชอบเลยคนชื่อแซกซ์เนี่ยะ

รอมาต่อนะครับ

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
«ตอบ #342 เมื่อ29-05-2007 19:50:18 »

ตาแซกส์นี่เกินเยียวยาจริง ๆ  :try2:

โอนริโอ้

  • บุคคลทั่วไป
Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
«ตอบ #343 เมื่อ30-05-2007 10:01:27 »

ขอบคุณ พูห์ มากๆครับที่ช่วยแก้ไข  o15

MyLoveMyBabe

  • บุคคลทั่วไป
Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
«ตอบ #344 เมื่อ30-05-2007 10:11:28 »

 :angry2:  ไมนังแซกซ์นี่มันร้ายยจิงๆๆ 

เล่นทำร้ายร่างกายกันเลยเหรอนี่  o12


ปล.. กลังทำความคุ้นเคยกะชื่อใหม่  o2  งงนิด มานไม่คุ้น เหอๆๆ

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
«ตอบ #345 เมื่อ30-05-2007 11:09:01 »

ขอบคุณ พูห์ มากๆครับที่ช่วยแก้ไข  o15

ขอบคุณโอนิคุงสำหรับเรื่องดีๆ และขอบคุณที่อนุญาตให้เอาเรื่องราวดีๆ มาลงนะครับ

 o14 o15


ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
«ตอบ #346 เมื่อ30-05-2007 16:11:17 »

 นักขัต : เหมือนดั่งพรหมชะตาขีดไว้
วันชนะ : กำหนดใจสองเราให้คู่กันมา
นักขัต : ใจสองใจผูกพันแน่นหนา
วันชนะ : อยู่ไกลลับฟ้า ยังมาพบกัน

นักขัต : แล้วสิ่งใดที่เคยขาดหาย
วันชนะ : ก็กลับกลายสมใจดังว่าเสกสรร
นักขัต : ลอยล่องในภวังค์แห่งฝัน
วันชนะ : ต่อเติมรักนั้นจนเต็มหัวใจ

(พร้อมกัน) ...เธอ เพราะเธอคือคนสำคัญ ที่ใจของฉันจะรักจะคอยห่วงใย
ตราบที่ฟ้าและดินสูญสิ้นมลายลงไป ตราบที่ลมหายใจของเราสิ้นสุด...

นักขัตหอมแก้มวันชนะไปฟอดหนึ่งเมื่อเพลงจบ
“ไม่เห็นบอก ว่าจะซ้อมฉากนี้ด้วย” วันชนะอาย
“ไม่ได้ซ้อมเสียหน่อย” นักขัตทำหน้าทะเล้น “ของวินน่ะ เป็นของจริง”
“ไม่เอาละ ไปอาบน้ำดีกว่า” วันชนะจิ้มแก้มนักขัตจนบุ๋มก่อนลุกไป

นักขัตซ้อมเสียงตัวเองกับวันชนะซึ่งเป็นเพลงคู่ที่ถูกคัดเลือกให้เป็นฉากจบอันโรแมนติกขององครักษ์หนุ่มกับเจ้าหญิงหลังจากที่ผ่านพ้นเหตุการณ์ร้ายๆไปได้ในที่สุด
ด้วยว่าอยู่ในห้องกันสองคน ท่อนของหลิน วันชนะจึงร้องรับให้นักขัตแทน

...

“ตั้ม!” ภาสกรอุทานเมื่อเป็นนักขัตที่เปิดประตูออกมาจากห้องวันชนะ
“อ้าว แซกส์ มาหาวินเหรอ” นักขัตถามงงๆ เมื่อเปิดประตูออกมาเจอเพื่อนร่วมคณะ ปกติภาสกรมาหาเขาเพื่อให้ช่วยติวให้ก็ไปที่ห้องของเขา จึงออกอาการงงเมื่อพบว่าคนที่เคาะประตูห้องวันชนะเป็นภาสกร

“อ่ะ เอ้อ...ชะ ใช่ๆ จะมาทบทวนบทน่ะ” ภาสกรอ้ำอึ้งเล็กน้อยก่อนจะหาเรื่องพูดไปได้
“ใครมาเหรอตั้ม” วันชนะเดินออกมาสมทบ เขาเพิ่งจะอาบน้ำเสร็จจึงอยู่ในผ้าขนหนูผืนเดียว
แซกส์ชะงักไปเมื่อเห็นวันชนะเดินมาในสภาพนั้น ก่อนจะปั้นหน้ายิ้มแย้มทักทายเหมือนคนสนิทกันมานานนม “วิน ทำอะไรอยู่หรือเปล่า” แซกส์ยิ้มระรื่น “ว่าจะมาซ้อมบทด้วยน่ะ”

นักขัตกับวันชนะทำหน้างง ก็ทั้งเรื่องแทบจะไม่มีบทที่ทั้งสองต้องคุยกับแซกส์โดยตรงเลย
“อ้อ เข้ามาสิๆ” วันชนะเลยตามน้ำ เขาเองก็ไม่อยากให้นักขัตรู้เรื่องบาดหมางระหว่างเขากับแซกส์เหมือนกัน แซกส์ถือว่าเป็นเพื่อนของนักขัตคนหนึ่ง ด้วยข้อนี้วันชนะจึงให้เกียรติแซกส์

ความจริงภาสกรแค่อยากจะมาระบายสิ่งที่จุกอกที่เห็นนักขัตสนิทสนมกับวันชนะมากกว่าปกติที่เห็นครั้งก่อน...สนิทเหมือนคนเป็นแฟนกัน ยิ่งได้มาเห็นกับตาแบบนี้ยิ่งเหมือนตอกสิ่งที่ยังลังเลอยู่ให้แน่ใจลงไปอีกว่าคนทั้งคู่ไม่ได้เป็นเพื่อนธรรมดาแน่นอน...เซ็นส์บางอย่างในตัวมันบอกอย่างนั้น

วันชนะเห็นว่านักขัตไม่ควรอยู่ในสถานการณ์ ภาสกรมาหาเขาถึงห้องคงมีอะไรที่เจาะจงถึงเขาเป็นแน่ ในใจก็หวั่นๆว่าจะโดนระรานอีก แต่ก็ทำใจดีสู้เสือ

“รอตั้มกลับไปห้องก่อนนะแซกส์ เดี๋ยวเราซ้อมไม่ออก” วันชนะพูดน้ำเสียงกึ่งหัวเราะ
นักขัตทำหน้างงอีก ไม่มีอะไรที่วันชนะต้องซ้อมตามลำพังหรืออายเขาขนาดนั้นเลยนี่ แต่ก็เหมือนมีความเข้าใจบางอย่างในตัววันชนะจึงได้เลี่ยงออกจากห้องไป

แซกส์ยิ้มส่งหน้าแป้น
หลังจากนักขัตคล้อยหลังไป ภาสกรมองหน้าวันชนะอย่างแสดงตัวตนที่แท้จริง วันชนะเองก็จ้องกลับเหมือนกับเตรียมตัวรับมือ
“ว่าไง” วันชนะเว้นวรรคก่อนจะพูดต่อ “คงไม่ได้มาซ้อมจริงๆหรอกนะ”

“ตั้มน่ะ...เสร็จเธอไปแล้วสินะ” แซกส์ถามกลับมา
วันชนะรู้สึกหน้าชาๆ แซกส์พูดเหมือนนักขัตเป็นสิ่งของ เหมือนเขาไปแย่งคนรักของใครมาอย่างนั้น
วันชนะเงียบไปครู่ก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ตั้มกับเราเป็นแฟนกัน”
แซกส์ก้มหน้าลง

วันชนะมองเห็นอาการตัวหอบขึ้นลงเร็วๆของแซกส์ วันชนะรู้สึกเหมือนอยู่ใกล้ลูกโป่งลูกใหญ่ที่ถูกสูบลมเข้าไปเรื่อยๆใกล้จะระเบิด
แซกส์เงยหน้าขึ้นมามองปะทะกับวันชนะ โกรธจนหน้าคล้ำ เงื้อมือขึ้นเต็มที่ แต่ก็เงื้อง่าค้างท่าอย่างนั้น เพราะกริ่งเกรงฝ่ายตรงข้าม
วันชนะยกมือกำหมัดตั้งเอาไว้ที่ข้างๆแก้มของตัวเอง

“บนเวทีนายมีโอกาสแกล้งได้...แต่ที่นี่ อย่าหวังเลย”
ทั้งคู่ตั้งท่าค้างอย่างนั้นจนเสียงเคาะที่ประตูดังขึ้น

“วินๆ ตั้มลืมของ”
จึงได้ลดมือลงแต่ก็มองหน้ากันอย่างระแวดระวังภัย จนเมื่อประตูเปิดนักขัตจึงเจอแต่สถานการณ์ที่สดใส
“กลับก่อนล่ะวิน” ภาสกรพูดขึ้น

“อ้าว! ไหนว่ามาซ้อม...?” นักขัตทำหน้างงอีก
“เสร็จละ” ภาสกรพูดจบก็ออกไปเลย
นักขัตยิ่งทำหน้างงหนัก หันมาทางวันชนะก็ได้เจอแต่ยิ้มแห้งๆ

...

ออฟไลน์ ~ScAreD:SAcreD~

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1811
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-2
Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
«ตอบ #347 เมื่อ30-05-2007 16:25:27 »

เรื่องนี้หนุกหนานมากมาย ลุ้นๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

พูห์ก็เปลี่ยนชื่อตามได้รวดเร็ว อิอิ สุดยอดดดดดดดดดดดด o13

gobgab

  • บุคคลทั่วไป
Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
«ตอบ #348 เมื่อ30-05-2007 17:04:00 »


..........น่าจะต่อยไปซักที.........ไม่น่าค้างไว้เลย........ :laugh: :laugh: :laugh:

meemewkewkaw

  • บุคคลทั่วไป
Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
«ตอบ #349 เมื่อ31-05-2007 04:46:23 »

พวกตัวร้ายนี่น่าเบื่อจัง . . .  o18

ขอบคุณครับ :yeb:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
« ตอบ #349 เมื่อ: 31-05-2007 04:46:23 »





ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
«ตอบ #350 เมื่อ31-05-2007 10:01:52 »

หุหุ ดีมากวิน อย่าไปยอมมาก เดี๋ยวนี้เป็นยุคนางเอก 2007 แล้ว  o8

athens

  • บุคคลทั่วไป
Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
«ตอบ #351 เมื่อ01-06-2007 09:43:20 »

ห้ำหั่นกันสุดฤทธิ์

สู้เขานะวิน

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
«ตอบ #352 เมื่อ01-06-2007 12:42:26 »

เวลาหกโมงเย็น บรรยากาศหน้าหอประชุมใหญ่ของมหาวิทยาลัยคลาคล่ำไปด้วยนิสิตของมหาวิทยาลัยและที่มาจากที่อื่นๆด้วย ต่างมารอชมละครเวทีประจำปีของชมรมศิลปะการแสดง

“อุ้ย เธอๆ มาดูผู้ชายกลุ่มนั้นสิ หล่อมากเลยล่ะ” นิสิตสาวท่าทางแอดทีฟคนหนึ่งในกลุ่มเพื่อนสี่ห้าคนเรียกพวกพ้องให้หันไปดูตามมือชี้ หลังจากที่สายตาสอดส่ายไปเจอชายหนุ่มรูปหล่อยกกลุ่มเข้า
“กรี๊ด! น่ารักมากเลยเธอ ดูคนที่ตี๋ๆนั้นสิเธอ จมูกโด่งมากเลยอ่ะ ชั้นจองนะ” หญิงสาวอีกคนรีบพูดก่อนเพื่อนคนอื่นจะจองเอาไปใว้ในใจเสียก่อน
“น้อยๆหน่อยย่ะ” อีกคนในกลุ่มแขวะ “ก็เห็นพร้อมๆกันนั่นแหล่ะ”


“อุ้ยๆ แกๆ” ก้อยเอานิ้วจิ้มอาร์ทที่ยืนชะเง้ออยู่ข้างๆ
“อะไรว่ะ ยัยก้อย” อาร์ทหันมาถาม
“แกดูผู้ชายกลุ่มนั้นสิแก พระเจ้า หล่อโคตรๆ หล่อกว่าแกล้านเท่าเลยว่ะ” ก้อยเพ้อ
“ไหน” อาร์ทมองไปตามนิ้วชี้ของก้อยที่ชี้ลับๆล่อๆ “เออๆ พวกมันหล่อ แล้วไงล่ะ แกกินมันได้หมายยย...” อาร์ทลากเสียงยาว
“อะไรวะ” อาร์ทเกาหัวแกรกทำหน้างงแบบกวนตีนๆ ที่นิสิตหญิงกลุ่มหนึ่งที่ยืนข้างๆ มองเขาตาขวางแล้วก็สะบัดหน้าใส่ หนำซ้ำยังได้ยินพวกหล่อนออกเสียงลอดไรฟัน “ชิ” แล้วมองมาทางตน


“อุ้ย เธอๆ” นิสิตหญิงตาไวคนเดิมกล่าว “ดูสิๆ” หล่อนชี้ไม้ชี้มือไปยังกลุ่มหนุ่มหล่อเซทเดิมที่บังเอิญนั่งเยื้องๆที่นั่งของกลุ่มตนไปด้านหน้าหนึ่งแถว
“อา...หล่อลากดินเลยว่ะ” เพื่อนคนหนึ่งเพ้อ


“อุ้ยๆแกๆ” ก้อยเอานิ้วจิ้มอาร์ท
“อะไรของแกอีก ยัยก้อย” อาร์ทเริ่มรำคาญ เพราะกำลังมองหาสาวๆสวยๆ
“ดูสิๆ” ก้อยซุบซิบชี้มือบุ้ยใบ้ไปยังหนุ่มหล่อกลุ่มเดิมที่นั่งอยู่แถวข้างหลังตัวเอง

อาร์ทหันไปมอง
“เออๆ รู้แล้ว กูมันไม่หล่อ”
“อ้ะ รู้ตัวเหมือนกันนี่” ก้อยแขวะ ก่อนจะหันหน้าไปสนใจที่หน้าเวที


...


เมื่อไฟในหอประชุมที่ถูกดัดแปลงเป็นโรงละครในส่วนของผู้ชมถูกหรี่ไฟลง ไฟที่เวทีก็เข้มขึ้นพร้อมๆกับม่านค่อยๆคลี่ออกเป็นการเริ่มของละคร

ฉากหลังที่ถูกวางไว้คือยอดปราสาทหลายยอด กล่องลังกระดาษถูกนำมาตัดต่อแต่งแต้มจนออกมาเป็นซุ้มๆเล็กๆติดด้วยผ้าขาวบางๆปล่อยชายพลิ้วตามลม อันเป็นสถานที่ประทับขององค์หญิงในยามราตรี ไฟสาม-สี่ดวงกระพริบสม่ำเสมอแทนดาวฤกษ์บนฟ้า
หลินอยู่ในชุดเจ้าหญิงแบบยุโรป เสื้อแขนสั้น กระโปรงยาวฟูสีครีมขลิบด้วยขอบสีทอง ผมถูกรวบไปข้างหลังสายคริสตัลถูกแต่งเข้าไปกับผมรับกับต่างหูระย้าวูบวาบ ทั้งการแต่งหน้า ทำผมและเสื้อผ้า ทั้งบุคลิก ทำให้หลินดูเหมือนกลายเป็นเจ้าหญิงไปจริงๆ เพราะหล่อนสวยมาก

“ข้าอิจฉาดาราบนฟ้าเหล่านั้นเสียจริง พวกมันเป็นอิสระ ไม่มีใครจะไปบังคับให้มันหยุดส่องแสงได้” หลินมองไปยังดวงดาว สีหน้าเศร้าหมอง “เจ้าดูสิ” องค์หญิงชี้มืออย่างสง่างาม

“เพคะองค์หญิง” นางรับใช้ที่นั่งข้างๆรับคำ

“ทำไมนะ” องค์หญิงชักมือกลับเอามากุมที่อก ใบหน้าบิดเบี้ยวราวจะทรงพระกรรแสง “ทำไมเสด็จพ่อต้องบังคับเราให้อภิเษกกับเจ้าชายจากแคว้นเหนือองค์นั้นด้วยนะ” หลินเดินออกมาเล่นอารมณ์กับคนดูที่ขอบเวที โดยมีนางรับใช้ที่ผู้ชมมองออกว่าเป็นผู้ชายที่แต่งตัวเป็นหญิงรีบคลานตามมาทำหน้าเศร้าตามไปด้วย

“องค์หญิงเพคะ” แซกส์ตีบทแตก ยกมือจะปลอบประโลมก็ก็ไม่สามารถแตะต้ององค์ได้ด้วยกฎเกณฑ์ถ้าไม่ได้รับอนุญาต
ขณะที่คนดูเงียบกริบเฝ้าดูการดำเนินไปของเรื่อง

...

“เจ้าเป็นใคร ช่างบังอาจนัก กวางตัวนั้นเป็นของข้า ป่าที่นี่ก็เป็นอาณาบริเวณของข้า” องค์หญิงมีอารมณ์สงสารบวกกับโกรธกริ้วที่กวางน้อยที่เชื่องกับองค์หญิงเมื่อครู่บัดนี้กลายสภาพเป็นนอนจมกองเลือดหายใจรวยริน

นักแสดงตัวประกอบคนหนึ่งที่สวมชุดสีน้ำตาลแสดงเป็นกวางตัวนั้นนอนอยู่กลางเวทีกั้นกลางระหว่างเจ้าหญิงกับเจ้าชายที่ปลอมตัวมา
“อาณาบริเวณนี้เป็นของเจ้าอย่างนั้นหรือ” เจ้าชายยิ้มเยาะ ก่อนจะทำตาแข็งใส่คู่สนทนา “เราก็เป็นแต่นายพราน ถ้าเจ้าว่าอาณาบริเวณนี้เป็นของเจ้า อย่างนั้นสัตว์ป่าเหล่านี้ก็เป็นของข้า”

“เจ้า!” องค์หญิงตวาด
“องค์หญิงเพคะ” นางรับใช้คนสนิทลุกขึ้นมากั้นนายพรานคนนั้นให้ออกห่างจากองค์หญิง

ตรงนี้เองที่เกิดเหตุผิดพลาด แซกส์เหยียบโดนเท้าของวันชนะอย่างจัง แต่ด้วยสปิริต เมื่ออยู่บนเวทีวันชนะต้องข่มความเจ็บเอาไว้ แต่สีหน้าที่หลุดออกมาชั่วแวบก็ไม่พ้นสายตาของเจ๊ใหญ่ที่คอยกำกับคิวกับนักขัตที่อยู่หลังเวทีเตรียมตัวออกฉาก

เจ้าชายยืดอกอย่างอวดดีด้วยทระนงในอำนาจของตนเอง แค่เจ้าหญิงแคว้นเล็กๆนี่...แค่อาณาจักรเล็กๆนี่...เขาจะเด็ดเอาเสียก็ได้
“กลับเถอะ ข้าไม่อยากเสวนากับคนเถื่อน” เจ้าหญิงสะบัดหน้ากลับไปยังทางที่มีทหารองค์รักษ์ของตัวเองอยู่สอง-สามคน ที่ถูกสั่งห้ามไม่ให้ติดตามไปใกล้มากเกินกว่าห้าสิบก้าว เพราะองค์หญิงทรงมิได้คิดระแวดระวังภัย ด้วยนึกว่าเป็นอาณาเขตของตนเอง

“องค์หญิงเพคะ” นางรับใช้ร้องตามหลังก่อนจะเชิดหน้าดูถูกแล้ววิ่งตามไปใกล้ชิดนายเหนือหัว
คนดูเริ่มหัวเราะกับตัวประกอบที่แสดงเป็นนางรับใช้เพราะพูดแต่คำว่า ‘องค์หญิงเพคะ’ และท่าทางที่ดูดัดจริตของนักแสดง
เมื่อเจ้าหญิงกับนางรับใช้ออกไปจากฉากแล้วองค์รักษ์ของเจ้าชายก็ออกมา

“องค์ชาย อย่าทรงออกมาคนเดียวสิพะย่ะคะ” องค์รักษ์มาดขรึมหล่อเหลารีบตามเจ้าชายที่ทรงนึกสนุกออกมาล่าสัตว์พระองค์เดียว “ทรงเป็นอะไรไป หม่อมฉันก็คงจะไม่มีชีวิตไปกราบทูลองค์ราชา” องครักษ์หนุ่มทอดสายตาเป็นห่วง...นักขัตส่งสายตาเป็นห่วงวันชนะ

“เราไม่ได้เป็นอะไรเสียหน่อย เจ้าน่ะคิดมาก ทำอย่างกับเราเป็นอิสตรี” วันชนะกล่าวตามบทแต่อิงเรื่องจริง นักขัตเห็นแน่ๆ ตอนที่แซกส์เหยียบเท้าเขา แต่นักขัตยังไม่รู้ว่าตอนนี้ที่เท้าของวันชนะน่ะเจ็บมากๆ ไม่อยากให้นักขัตต้องมากังวลเรื่องเจ็บของตัวเอง คิดเสียว่าอีกแค่ชั่วโมงเดียวเมื่อละครจบ ทุกอย่างจะดีขึ้น

แล้วฉากก็ปิดลงอีกครั้ง วันชนะกับนักขัตเดินเข้าหลังฉากเมื่อม่านปิดสนิท

...

“ขอตัวไปห้องน้ำก่อนนะ” วันชนะรีบผละจากนักขัต รีบวิ่งไปทำธุระก่อนที่อีกห้านาทีจะถึงคิวของตัวเองอีกครั้ง
พอถึงห้องน้ำวันชนะหันมองข้างหลังเห็นว่านักขัตไม่ตามมาก็อดไม่ไหวที่จะถอดรองเท้าออก วันชนะไม่ตกใจที่เห็นเท้าข้างที่โดนลังไม้ตกใส่วันก่อน...หนำซ้ำยังโดนเหยียบอีกเมื่อกี้บวมแดงอย่างที่ใครมาเห็นคงเสียวเท้าตัวเองแทน

วันชนะลูบเบาๆเหมือนจะไล่ความเจ็บออกไปก่อนจะพยายามใส่ถุงเท้าแล้วสอดเท้าเข้าไปในรองเท้า
หน้าห้องน้ำไฟค่อนข้างหม่นสลัวเพราะหลอดไฟเก่ามากแล้วไม่มีใครสนใจจะมาเปลี่ยน วันชนะข่มอาการเจ็บก่อนทำหน้าปกติรีบเดินออกไป โดยไม่ได้สังเกตว่านักขัตแอบหลบอยู่ข้างๆประตู


“วินๆ เตรียมตัวเข้าฉากต่อไปได้แล้วจ้ะ เมื่อกี้เป็นไงบ้างเจ้าแซกส์มันเหยียบโดน” เจ๊ใหญ่เคร่งครัดเรื่องคิวแต่ก็ถามอาการที่เจ๊ใหญ่คิดว่าไม่มีอะไรมาก

“ไม่เป็นไรครับเจ๊” วันชนะหยิ้มแหยๆ ก่อนจะนึกขึ้นได้ “อ้ะ เจ๊ วินลืมดาบไว้ที่ห้องน้ำ เดี๋ยวมานะครับ” วันชนะรีบวิ่งกลับไปที่ห้องน้ำ
“รีบๆเลย” เจ๊ใหญ่ทำเสียงดุ


“อยู่นี่เอง” วันชนะยิ้มออกที่กลับมาเจอของ แต่พอหันหลังกลับก็เจอคนรับบทนางรับใช้ยืนอยู่
วันชนะทำหน้าตึงป้องกันตัวเอง แม้ในใจจะไม่อยากมีเรื่อง ก่อนจะเดินผ่านอย่างไม่ใส่ใจ
แซกส์หงุดหงิดที่โดนวันชนะทำเป็นมองไม่เห็นตัวเอง แซกส์คว้ามือวันชนะได้ก็ดึงให้หันมารับการถากถาง

“ไงล่ะ เจ้าชาย” สายตาสาสมใจ “เจ็บไหม เท้าน่ะ”

วันชนะสะบัดมือออก “ไม่เป็นไร นึกเสียว่ามันเป็นอุบัติเหตุ”
“รู้อยู่แก่ใจ ว่ากูทำให้มึงเจ็บเท้า กูปล่อยลัง กูเหยียบเท้ามึง” แซกส์มองหน้าวันชนะ พยายามจะข่มให้ฝ่ายตรงข้ามก้มหัวให้กับความร้ายกาจของตัว “มึงน่าจะเจียมตัวไว้ ว่าอย่ามายุ่งกับตั้ม”

“มึงน่ะ มันตัวมาร เลิกทำตัวสนิทกับตั้มเสียที” แซกส์ตวาด
วันชนะทำตาแข็งมองกลับอย่างไม่ยอมอ่อนข้อให้ ทั้งงที่ใจสั่นเพราะไม่เคยเจอใครที่จะหยาบคายมากไปกว่านี้อีกแล้ว

“วินจะเลิกทำตัวสนิทกับเราได้ยังไงแซกส์” เสียงคุ้นเคยดังขึ้นข้างหลัง

วันชนะหันไปมอง น้ำตาเหมือนจะริ้นขึ้นมา อยากจะโผเข้าไปซบเพราะทนไม่ไหวที่จะหยืนอยู่ลำพัง ที่จะต่อกรกับแซกส์เพียงลำพัง แต่พอนักขัตก้าวเข้ามาก็เหมือนมีพรรคพวกมาต่อสู้ด้วยกัน

“ก็วินเขาเป็นแฟนตั้ม” นักขัตพูดอย่างไม่ลังเล ไม่กลัวว่ามันจะเป็นความลับ ว่าแล้วก็เข้าไปประคองวันชนะ
แซกส์อึ้งกับสิ่งที่เห็นกับสิ่งที่เพิ่งจะรู้

นักขัตพาวันชนะหันหลังออกจากห้องน้ำไปโดยไม่สนใจอาการตะลึงของแซกส์เลย

..
..
..

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
«ตอบ #353 เมื่อ01-06-2007 12:55:47 »

เหอ เหอ ซึ้งเข้าไปถึงใจมั๊ยตาแซกส์   o18

gobgab

  • บุคคลทั่วไป
Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
«ตอบ #354 เมื่อ01-06-2007 14:47:26 »


..........นักขัตน่ารักมากมาย........ o13 o13

..........สู้ต่อไป....วันชนะ+นักขัต... :teach: :teach:

athens

  • บุคคลทั่วไป
Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
«ตอบ #355 เมื่อ01-06-2007 16:19:46 »

อึ้งกิมกี่ไปเลยสิ ตาแซกซ์

สมน้ำหน้า เจอของจริงซะบ้าง

MyLoveMyBabe

  • บุคคลทั่วไป
Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
«ตอบ #356 เมื่อ01-06-2007 22:25:10 »

พระเอกโพล่มาช่วยนายเอกตัวจริงแล้ววว :impress2:


นังแซกซ์สมควรโดนตอกกลับไปซะแบบนั้น อิอิ  คงกลับไปกริ๊ดเจ็ดวันแปดวันไม่เลิก  :laugh:

โอนริโอ้

  • บุคคลทั่วไป
Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
«ตอบ #357 เมื่อ04-06-2007 00:40:30 »

ดัน  :laugh3:

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
«ตอบ #358 เมื่อ04-06-2007 02:24:43 »

โดนซะมั้ง สม  :angry2:

สงสารนายเอกจัง  :sad4:

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
«ตอบ #359 เมื่อ04-06-2007 09:59:15 »

กำเวง เจ้าของเรื่องมาแอบดัน

กร้ากกกกกกกกกกกกกกกกก

-------------------------------------------------------

ภาสกรยืนนิ่งเหมือนโดนแช่เอาไว้ ความจริงจากปากนักขัตทำให้เขาช็อก ที่มันบอกว่านักขัตเป็นแฟนมันเมื่อวันก่อนนึกว่ามันพูดเอาให้เจ็บใจเล่น

จากความเสียใจ เสียดายกลายเป็นคุมแค้น ...สายตาเริ่มเปลี่ยนไป...ความเจ้าคิดเจ้าแค้น เอาแต่ใจที่เป็นนิสัยฝังตัวมาตั้งแต่เด็กเริ่มสำแดงออกอย่างไม่มีหน้ากากมาบิดเบือนอีก
“รักกันอย่างนั้นเหรอ” แซกส์พึมพำในลำคออย่างคนอาฆาต “ดี...งั้นจะสงเคราะห์ให้”

“ตั้ม...” วันชนะเอ่ยแผ่วๆ “ขอโทษนะ ที่ไม่เคยบอกอะไรตั้มเลย”
นักขัตหันมามองคนที่เดินมาด้วยกัน “ขอโทษทำไมเราทำไมวิน ตั้มสิต้องขอโทษ วินเจอกับเรื่องอะไรไม่ดีตั้งมากมายก็เพราะตั้ม แต่ตั้มกลับทำอะไรไม่ได้เลย”
“แต่...ตั้มพูดออกไปอย่างนั้น” วันชนะมีสีหน้ากังวล
ไม่มีคำพูดใด แต่มีสัมผัสกระชับที่มือบอกว่า ...ไม่เป็นไร...

...

“เจ้าคนต่างถิ่น วันนี้เป็นโชคดีของเจ้า องค์หญิงทรงชื่นชมในฝีมือดาบของเจ้ามาก ทรงประทานรางวัลมาให้ รับไปสิ” ทหารนายหนึ่งพูดกับองค์รักษ์ของเจ้าชายที่แฝงตัวมาเป็นชนต่างถิ่นมาเดินชมเมือง แต่ที่จริงแล้วการมาครั้งนี้คือการสอดแนมดูลาดเลาต่างๆ ตามคำสั่งของเจ้าชาย

ระหว่างทางได้มีการประลองเพลงดาบอันเป็นกิจกรรมหนึ่งของเมืองนี้ที่องค์รักษ์หนุ่มได้พบ แต่ไม่ทราบมาก่อนว่าจะมีองค์หญิงของเมืองนี้ทรงทอดพระเนตรอยู่ ครั้นจะสอดสายตามองหาก็ไม่เจอผู้ใดที่พอจะบ่งบอกฐานันดรศักดิ์ได้ว่าเป็นองค์หญิงดังที่นายทหารผู้นั้นบอกมาเลย

ถุงเล็กๆข้างในเป็นทองสองสามก้อนถูกกำอยู่ในมือขององค์รักษ์หนุ่ม
“เพลงดาบของท่านพิสดารมาก” คำชมถูกเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนนุ่มของสตรี
องค์รักษ์หนุ่มเงยหน้าขึ้นมองก็ปรากฏสตรีนางหนึ่งยืนอยู่ตรงหน้า ผิวพรรณผุดผาด หน้าตาผ่องแผ้ว

เจ้าหญิงอยู่มิได้อยู่ในชุดที่บ่งบอกยศศักดิ์ว่าสูงกว่าคนธรรมดา หล่อนแต่งองค์อย่างลูกเศรษฐีทั่วไปในนคร
“ขอบใจเจ้ามาก แต่หามิได้หรอก ข้าไม่ได้เก่งกาจขนาดนั้น” องค์รักษ์หนุ่มถ่อมตน
“ข้าต้องไปแล้ว” องค์หญิงในอาภรไร้ยศศักดิ์กล่าวลาเมื่อเห็นนางรับใช้ใกล้เข้ามา หล่อนหันมายิ้มให้องค์รักษ์หนุ่มทีหนึ่ง
องค์รักษ์หนุ่มประทับตรึงในใจกับความงามของบุตรีเศรษฐีนางนั้นเสียแล้ว

...

“ไหวไหมวิน” นักขัตเป็นห่วง
“ไม่เป็นไรตั้ม” วันชนะยิ้มแย้มให้นักขัตเห็น เพื่อลดความกังวลใจของเขาลง “สู้ๆ สู้ๆตาย”
“อดทนหน่อยนะวิน เดี๋ยวละครก็จบแล้ว” นักขัตให้กำลังใจ

“วิน เป็นอะไรไปจ้ะ สีหน้าไม่ค่อยดีเลย” หลินปราดเข้ามาหาเมื่อพักเวที ที่จริงวันนี้หลินสนุกกับการแสดงจนลืมความคับข้องหมองใจไปแล้ว หล่อนก็คงจะมีสปิริตของนักแสดงอยู่บ้าง พอที่รู้ว่าของจริง วันจริงยังไงก็ต้องเอาเรื่องงานไว้ก่อน
...แต่ถ้าโอกาสเอื้อเมื่อไรหล่อนก็คงจะไม่ปล่อยให้ผ่านไปเปล่าๆหรอก

“เปล่าจ้ะ เหนื่อยนิดหน่อยน่ะ” วันชนะพยายามไม่ทำตัวตั้งแง่กับหลินต่อหน้านักขัต แต่ก็อดระแวดระวังตัวไม่ได้
ท่าทีของวันชนะทำให้หล่อนอดหมั่นไส้ขึ้นมาเสียเฉยๆไม่ได้ หล่อนรึ อุตส่าห์เป็นห่วง กลับได้รับสายตาไม่ไว้ใจเป็นการตอบแทน
“อะไร แค่นี้ก็เหนื่อยแล้วหรือ” หลินยิ้มหยัน “อย่าให้งานเสียละกัน” ประชดเสร็จหล่อนก็เชิดหน้าผ่านไปไม่สนใจแม้กระทั่งนักขัต

...

ละครดำเนินต่อไป ผ่านตอนที่องค์รักษ์หนุ่มได้มาเจอองค์หญิงที่เขาคิดว่าเป็นเพียงลูกสาวเศรษฐีเท่านั้นอีกครั้ง ผ่านฉากรักโรแมนติกที่คนทั้งคู่ต่างหลงรักกัน นักขัตกับหลินแสดงได้ดีมาก จนทำให้ผู้ชมเคลิ้มไปทั้งหอประชุม หนุ่มหล่อ สาวสวยต่างก็เป็นที่ชื่นชมของใครๆ
จนมาถึงฉากที่องค์ชายปรากฏตัวทุกคนถึงได้รู้ความจริงว่านายพรานเถื่อนที่องค์หญิงกล่าวหาเป็นใคร และคนต่างถิ่นที่องค์หญิงรักกลับกลายเป็นองค์รักษ์ของเจ้าชายที่ตนต้องเข้าพิธีอภิเษกด้วย

ฝ่ายองครักษ์หนุ่มก็เพิ่งจะประจักษ์ว่าที่แท้สาวคนที่ตนรักเป็นถึงองค์หญิงสูงด้วยศักดิ์ที่เขามิคู่ควร
กลางเวทีมีเพียงวันชนะกับหลินเท่านั้นที่ยืนอย่างสง่าในบทของเจ้าชายและเจ้าหญิง นอกนั้นทุกคนคุกเข่าหมด
องค์หญิงมององค์รักษ์อย่างทอดอาลัย...อย่างคิดไม่ถึง

ไม่มีใครเอะใจว่านางรับใช้คนสนิทขององค์หญิงหายไปไหน อาจด้วยเพราะฉากนี้เรียกว่านักแสดงแทบจะล้นเวที จึงไม่มีใครสังเกตการหายตัวไปของแซกส์

จนเมื่อฉากที่นกขององค์หญิงถูกคนร้ายที่ลักลอบเข้าวังมาหักคอจมกองเลือด และเจ้าชายก็มาผิดจังหวะ
ฉากนี้เองที่แซกส์ปรากฏตัวอีกครั้ง


“กรี๊ด...!” หลินร้องได้อารมณ์สมบทบาท
“องค์หญิงเพคะ” แซกส์พูดตามบทที่ไม่ต้องท่อง
“ต้องเป็นฝีมือของเจ้าชายเป็นแน่”

“หม่อมฉันก็คิดเช่นนั้นเพคะ” นางรับใช้พูด
คนดูหัวเราะครืนหนึ่งที่นางรับใช้ได้พูดประโยคอื่นแล้ว

ถึงฉากที่เจ้าหญิงต้องตบหน้าเจ้าชายด้วยอารมณ์วู่วาม หลินเงื้อมือ ครั้งนี้หล่อนคิดว่าจะเล่นตามบทคือตบหลอกคนดู แต่นางรับใช้ไม่คิดอย่างนั้น...แซกส์จะใช้แผนเดิม...ตามบทคือนางรับใช้ต้องห้ามเอาไว้แต่ก็พลาดไปโดนหน้าเจ้าชายจนได้

วันชนะรู้ทันเพราะคราวที่ซ้อมฉากนี้เขาก็โดนตบหน้ามาทีหนึ่งแล้ว มาครั้งนี้เลยยืดตัวนิดหน่อยให้หน้าหลบพ้นจากการโดนตบจริงแต่ขณะเดียวกันก็ยังหลอกคนดูได้ว่าโดนองค์หญิงตบ

แต่ที่คาดไม่ถึงคือแซกส์ไม่ได้ใช้แผนเดิม เขาฉวยโอกาสนั้นจ้องเล่นงานที่เท้าข้างที่เป็นปัญหาสำหรับวันชนะ โดยคนดูไม่ได้รู้สึกผิดสังเกตเพราะทุกคนโฟกัสอยู่ที่ใบหน้า การขยับปากและร่างกายช่วงบนของนักแสดงมากกว่าช่วงล่าง
หลินไม่รู้เรื่อง นักขัตที่คอยระวังเผื่อวันชนะอยู่แล้วทันเห็นเข้ารีบเข้ามากันและผลักแซกส์ออกไปจนหงายหลังไป

คนดูไม่ได้รู้บทมาก่อนจึงไม่รู้ว่าการดำเนินเรื่องมันเริ่มผิดไป
ทุกคนชะงักเงียบไป เพราะอยู่นอกบท

นักขัตมองแซกส์ราวกับเป็นตัวอะไรสักอย่างที่น่ารังเกียจ จนวันชนะต้องกระตุกแขนนักขัตเบาๆให้ได้สติ
หลินเป็นคนที่รู้ตัวก่อน

“ท่านมันใจดำนัก หลอกข้ายังไม่พอ นี่ยังมาทำร้ายคนของข้าอีก” หลินใช้ไหวพริบชี้หน้านักขัตพูดออกไปตามบทที่คิดขึ้นเอง แล้วจึงสะบัดหน้าเศร้าวิ่งหนีออกฉากไป
“องค์หญิงเพคะ” แซกส์ตะโกนตามหลังก่อนวิ่งตามออกจากฉากไป
ฝ่ายเวทีเมื่อเห็นท่าไม่ดีเลยชักรอกปิดม่านลง
..
..
..

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด