ทางด้านอุ้มรักก็ช่วยบ้านพี่น้ำคิดหาทางขยับขยายกิจการร้านขนม เรื่องเวลาคือสิ่งสำคัญ เพราะแต่ละคนก็เรียนกันอยู่ ถ้าให้จ้างคนมันก็ไม่น่าจะพอจ่ายได้โดยเหลือกำไร อาศัยแรงของย่าไปนั่งขายก็เหนื่อยท่าน เพราะฉะนั้นคงต้องเคลียร์เรื่องเวลาให้ได้ก่อน แล้วให้ลองทำเว็บแนะนำเมนูใหม่ๆ ขยายบริเวณไปเรื่อยๆ
“จะไปเป็นสะใภ้บ้านนั้นเต็มตัวแล้วหรือไง?”
นีออนที่นั่งทานไอศกรีมแก้ร้อนอยู่ใกล้ๆกันเอ่ยแซวน้องชายฝาแฝดที่มุมานะหาทางช่วยพี่น้ำถึงขนาดเอามาปรึกษาคนในบ้านตัวเองด้วย ท่าจะรักจริงหวังแต่งนะนี่
วันนี้น้องแฝดอยู่ทำรายงานที่บ้าน ไม่ได้เข้าไปช่วยในสวนเพราะจะเร่งทำให้เสร็จ พอทำเสร็จแล้วเลยนั่งทานไอศกรีมแล้วคุยเล่นกันอยู่ข้างล่าง ลมพัดเย็นกำลังดี
“ออนก็ช่วยอุ้มคิดหน่อยสิ”
“บ้าดิ ออนไม่ใช่สะใภ้บ้านนั้นสักหน่อย โอ๊ย! เจ็บนะ!” นีออนร้องเสียงหลงเมื่อถูกน้องตีเข้าที่แขนข้อหาล้อเลียนไม่หยุด
“ล้ออุ้มอยู่ได้” เด็กตัวกลมว่าหน้างอ
“ถ้าให้ออนช่วยคิดนะ ให้ค่าปรึกษาเป็นทับทิมกรอบตลอดชีพเลยได้ป่ะ?” คนพี่ร้องหาข้อแลกเปลี่ยน
“งก”
“เอ้า ก็กว่าจะคิดได้นี่มันใช้พลังงานเยอะนา”
ยังมีข้ออ้างหาของฟรีกินอีก ก็ขนมบ้านพี่น้ำอร่อยนะ คุณย่าของพี่น้ำเขาทำตามสูตรที่มีอยู่ดั้งเดิม ไม่หวงของแบบใส่นั่นนิดนี่หน่อยเหมือนทุกวันนี้ อาจจะมีดัดแปลงให้หน้าตาดูเข้ากับยุคสมัยบ้าง แต่ความอร่อยหวานหอมก็ไม่ได้ลดลงเลย เป็นเสน่ห์ของขนมบ้านพี่น้ำเลยล่ะ
“งั้นเริ่มจากเมนูแปลกใหม่ก่อนเลยดีมะ อย่างทับทิมกรอบเนี่ย เวลาเราจะกินทีก็ต้องใส่น้ำเชื่อม ต้องราดหัวกะทิ แล้วไหนยังต้องใส่น้ำแข็งก้อนๆให้มันเย็นด้วยใช่ป่ะ?” นีออนนำเสนอเมนูโปรด ไม่ใช่อะไร เพราะอยากกินมากกว่าน่ะนะ
“งั้นเราลดความยุ่งยากพวกนั้นด้วยการใส่ไอติมกะทิแทนเป็นไง เย็นๆ หวานๆ ได้ไอเดียแปลกใหม่เรียกลูกค้าด้วย” ว่าแล้วก็ตักไอศกรีมเข้าปากอีกคำ ใส่ไอศกรีมวนิลาด้วยดีไหมนะ ก็ว่าไปนั่น
“เออ...แต่ว่าแล้วเราจะเอาไอติมมาจากไหนอ่ะ ต้นทุนมันไม่สูงเหรอ?” อุ้มรักเห็นด้วยกับความคิดนี้ แต่ก็ยังมีข้อสงสัยอยู่
“ตอนที่เรายังไม่มีต้นทุน เราก็ซื้อที่เขาทำสำเร็จมาแล้วก่อนสิ ดูตลาดก่อนว่ารับได้แค่ไหน จากนั้นนะพอมีเงินทุนมากพอเราก็ทำสูตรของเราเองเลย ลดค่าใช้จ่ายเพิ่มผลกำไร” เด็กน้อยทำท่าเพ้อ แล้วหัวเราะ
“แบบนี้เราน่าจะเปิดหน้าร้านเป็นจริงเป็นจังมากกว่านะ น่าจะดีกว่า”
อุ้มรักกอดอกทำท่าคิดจริงจัง นีออนชี้นิ้วทำท่าว่าที่น้องพูดน่ะถูกต้องแล้ว
“ก็วางแผนไว้ไง ในอนาคตอะไรก็ไม่แน่หรอก บางทีพี่น้ำอาจจะเปิดกิจการร้านขนมไทยไอเดียเก๋มาเรียกลูกค้าทั้งไทยเทศก็เป็นได้”
“คุยอะไรกันน่ะเด็กๆ”
คุณแม่ที่เพิ่งกลับมาจากในสวนพร้อมพี่อุ่นรักเอ่ยถาม อุ้มรักลุกไปเอาน้ำเย็นๆมาให้แม่กับพี่สาว นีออนเลยเป็นคนตอบคำถามแม่แทน
“คุยเรื่องขนมของคุณย่าพี่น้ำน่ะครับแม่ เรื่องเดิม”
นีออนพยักพเยิดเลยโดนน้องอุ้มที่เดินกลับออกมาจากในครัวตีเข้าให้อีกเพียะ ล้อกันจังเลยหนิ
“เออ ออนคิดออกอีกอย่างละ คราวนี้ขอค่าคิดเป็นหม้อแกงแสนอร่อยละกัน”
“ไม่พ้นเรื่องกินสักทีนีออนเนี่ย” อุ้มรักต่อว่าพี่ชายไม่จริงจังนัก นีออนก็ยังยิ้มแล้วตักไอศกรีมคำสุดท้ายเข้าปากเฉย
“วันก่อนพี่น้ำเอาข้าวเหนียวหนุนมาฝาก ออนว่ามันก็อร่อยดีนะ น่าจะตีตลาดทางนี้ดู แล้วให้ย่าพี่น้ำโคกับสวนผลไม้บ้านเรา ไม่ต้องไปซื้อที่ไหนไกล เงินทองไม่รั่วไหลด้วย” แฝดพี่เสนอแนะอีก ที่พูดมานี่มีแต่ของโปรดตัวเองทั้งนั้น
“หัวการค้ามากไปแล้ว อนาคตไม่เปิดร้านเป็นของตัวเองเลยล่ะนีออน” พี่อุ่นรักเอ่ยแซว
“ออนก็ว่าจะเปิดร้านไก่ทอดแข่งกับลุงไทยอยู่เหมือนกันนะ แต่กลัวไก่ทอดร้านลุงจะขายไม่ออก เพราะเขามาซื้อไก่ทอดสูตรเด็ดของออนหมด คึคึ”
นีออนหัวเราะเสียงเจ้าเล่ห์ทั้งสีหน้าท่าทางไปด้วยกันหมด ทำให้คนอื่นๆหัวเราะตาม การได้พูดคุยกับคนในครอบครัว ได้แบ่งปันความคิดเห็น ได้ใช้เวลาร่วมกันในแต่ละวัน มันสร้างความใกล้ชิด ทั้งใกล้ตัวและใกล้ใจ ทำให้สมาชิกทุกคนในบ้านมีความสุขมากขึ้นในทุกๆวัน
------------------
นักปั้นมือทองอย่างพี่เอ๋ที่มาเจอน้ำกับไทม์เมื่อคราวก่อน แม้เวลาจะผ่านนานมาแล้ว แต่พี่เอ๋ก็ยังติดต่อมาทางร้านลายไทยอยู่เรื่อยๆ เพราะอยากจะร่วมงานกับเด็กๆหน้าตาดีดูมีพรสวรรค์ พอเห็นงานที่น่าจะเหมาะกับน้ำพี่เอ๋ก็ได้ติดต่อกลับมาอีกทีเผื่อน้ำจะเปลี่ยนใจเข้าวงการ คงทำเงินเข้าทั้งกระเป๋าน้ำและกระเป๋าพี่เอ๋ได้หลายอยู่ แต่น้ำก็ยังยืนกรานว่าตนเองไม่อยากเข้าวงการบันเทิง
“ทำไมล่ะพี่น้ำ นี่เป็นโอกาสที่ดีเลยนะ ใครๆเขาก็อยากเป็นทั้งนั้นล่ะ ได้เงินดีด้วย”
น้องอุ้มน้อยที่รู้เรื่องเข้าก็ถามพี่น้ำอย่างไม่เข้าใจ เห็นมีแต่คนอยากเข้าวงการบันเทิงกันทั้งนั้น แต่ทำไมพี่น้ำที่มีโอกาสมารอตรงหน้าแบบนี้ถึงได้ยังยืนกรานปฏิเสธอยู่อีกนะ อุ้มไม่เข้าใจเลย
“แต่มันไม่มั่นคงนี่ครับ”
น้ำให้เหตุผลที่เป็นข้อเท็จจริงกับน้อง ทำงานในวงการบันเทิงมันไม่ได้เงินค่าจ้างเป็นรายเดือน แต่มันได้ตามงานที่มีผู้ว่าจ้างมา ถ้าหากวันหนึ่งงานหมด เงินก็หดหายเท่านั้นเอง
“มันก็จริง แต่ถ้าเราทำงานมีเงินเก็บเยอะๆมันก็ดีไม่ใช่เหรอ พี่น้ำจะได้เปิดร้านขนมให้ย่าได้ไงล่ะ ไม่ต้องเช่าพื้นที่เขาอีกไง”
อุ้มรักเห็นด้วยในตอนแรก แต่ก็ยังไม่วายเสนอแนะหนทาง ก็มันน่าจะดีไม่ใช่หรือ คนถึงได้แห่แหนอยากจะเป็นกันนักน่ะ เห็นโฆษณาตัวหนึ่งๆก็ได้ตั้งเจ็ดแปดหลักแหนะ
“ข้อดีอย่างที่อุ้มบอกมันก็ดีครับ แต่ใช่ว่าข้อเสียมันจะไม่มีนะ ถ้าพี่เข้าวงการจริง เรื่องต่างๆเกี่ยวกับตัวพี่ก็จะไม่มีความเป็นส่วนตัวอีก ทุกอย่างจะกลายเป็นสาธารณะ พี่ไม่อยากให้ใครมาขุดมาคุ้ยเรื่องของพี่ ไม่อยากทำให้คนรอบข้างต้องเดือดเนื้อร้อนใจตามไปด้วยหากมีข่าวเสียหาย โดยเฉพาะ... ครอบครัวของน้องอุ้ม”
สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับน้ำคือครอบครัว น้ำไม่อยากให้สิ่งที่ตนเองคิดและตัดสินใจลงไปแล้วมาทำให้ตนเองต้องเสียใจภายหลัง ยิ่งในเวลานี้ที่เขาเป็นที่ไว้วางใจของครอบครัวน้องอุ้ม เขาก็ไม่ควรทำในสิ่งที่รู้ผลลัพธ์อยู่แล้วว่ามันต้องเกิดปัญหาตามมาในอนาคต ความไว้ใจได้มาไม่ง่าย แต่เสียไปง่าย หากไม่คิดไตร่ตรองให้รอบคอบก่อนทำอะไรลงไป
“อุ้มเสียดายที่พี่ต้องทิ้งโอกาสนี้ไป” น้องแฝดบอกเสียงออดอ่อย รู้สึกเสียดายแทนพี่จริงจัง
“โอกาส... มันไม่ได้มีแค่นี้หรอกครับ ชีวิตเรายังมีอะไรให้ทำอีกเยอะนะ ถึงไม่ได้เป็นดาวบนฟ้า แต่เราก็ยังอยู่ได้ เราอยู่แบบคนธรรมดา มีชีวิตธรรมดา มีความสุขกับความธรรมดา... แบบนี้ดีกว่าเนอะ”
อุ้มรักพยักหน้า ยิ้มปลื้มให้กับความคิดของพี่ นั่นสินะ เป็นคนธรรมดา... ที่มีความสุขกับความธรรมดา ไม่ต้องขวนขวายในสิ่งที่เกินตัวให้ต้องวุ่นวาย
อุ้มรักรู้สึกว่าตนเองโชคดีที่ได้รู้จักกับพี่น้ำ ใครๆอาจจะมองแค่ว่าพี่น้ำเป็นพวกหลงตัวเอง เรื่อยๆเปื่อยๆไม่มีความมั่นคงอะไร แต่ในสายตาของอุ้มรักที่ได้ทำความรู้จักกับพี่น้ำมานานเนิ่น กลับรู้สึกได้ถึงความจริงจังและจริงใจ มีความรักที่มั่นคงให้กับอุ้มรัก มีความคิดอ่านที่ทำให้น้องอุ้มน้อยรู้สึกปลื้มใจอยู่บ่อยๆ และที่สำคัญ... พี่น้ำรักครอบครัว
ไม่ว่าใครจะมองอย่างไร พี่น้ำก็เป็นผู้ชายแสนเพอร์เฟคในใจของอุ้มรักคนนี้ไปแล้ว
---------------
สถานีขนส่งประจำจังหวัด
วันนี้นีออนน้อยมารอรับพี่ไทม์ที่กำลังจะกลับมาถึงหลังจากปิดภาคเรียนของมหาวิทยาลัยทางนั้นแล้ว นอกจากครอบครัวของพี่ไทม์ที่มารอรับแล้วยังมีคุณพ่อกับคุณแม่และอุ้มรักมาเป็นเพื่อนนีออนด้วย พอมีรถเลี้ยวเข้ามาจอดทีไรเด็กน้อยก็ชะเง้อคอยาวมองหาพี่ทุกทีไป แต่พี่ไทม์ก็ไม่มาสักที เด็กน้อยเริ่มกระวนกระวายใจ คุณพ่อเรียกให้มานั่งรอก็ไม่มา ยังเดินไปเดินมาอยู่นั่น ผู้ใหญ่มองหน้ากันแล้วยิ้มขำ
รออยู่นานมากในความรู้สึกของนีออนโทรศัพท์ถึงได้ดังขึ้น เสียงเรียกเข้าเฉพาะพี่ไทม์ นีออนรีบกดรับทันที
“ฮัลโหลพี่ไทม์ พี่กลับมาถึงหรือยังอ่ะ ทำไมออนไม่เห็นเลย” เด็กน้อยรีบเอ่ยถามพี่ทันทีที่กดรับ สายตาก็กวาดมองไปรอบด้าน แต่ก็ไม่เห็นมีวี่แววของพี่เลยสักนิด
“กลับมาแล้วครับ”
ไทม์ที่เพิ่งเดินลงมาจากรถที่เข้ามาจอดเมื่อครู่บอกกับน้อง พอพี่บอกว่ากลับมาแล้วนีออนก็ชะเง้อมองหาใหญ่
“อยู่ตรงไหนอ่ะ?”
ไทม์ก้าวเข้ามาหาเด็กน้อยที่หันหลังให้ตนเองอยู่ ก่อนก้มลงกระซิบข้างหูน้อง
“อยู่ตรงนี้ไงครับ”
นีออนชะงักนิ่งกับเสียงของพี่ที่ดังอยู่ใกล้ๆ ก่อนหันมามองพี่ช้าๆ ลดโทรศัพท์มือถือในมือลง พี่ไทม์ยืนยิ้มอยู่ข้างหน้านี่เอง เด็กน้อยโผเข้ากอดพี่ด้วยความคิดถึง ไม่สนใจว่าจะมีคนหันมามองกันเต็มไปหมด
“ช้าจังเลย ให้ออนรอตั้งนาน”
เด็กน้อยเอ่ยตัดพ้อพี่ปนสะอื้นเล็กๆ ไทม์ลูบหลังปลอบน้อง
“ขอโทษครับ... แต่กลับมาแล้วนะ”
“อื้อ ออนดีใจที่พี่กลับมา”
“ครับผม”
คุณพ่อพี่ไทม์ก้าวมาหาทั้งคู่ ขณะที่ทุกคนที่เหลือลุกจากที่นั่งรอกลับบ้านพร้อมกัน คุณพ่อตบไหล่ไทม์เบาๆแล้วบอกกลับบ้านกันก่อน นีออนผละออกมาแล้วสูดจมูก ไทม์โยกศีรษะน้องก่อนพากันเดินไปในตัวอาคาร เด็กหนุ่มไหว้แม่ของตนเองกับพ่อแม่น้อง นีออนจับมือพี่ไม่ปล่อยเมื่อพากันขึ้นรถกลับบ้าน
ทุกคนกำลังก้าวเดินไปสู่อนาคตที่ตนเองเลือก มีครอบครัวคอยโอบอุ้มดูแล ให้คำปรึกษาและเข้าใจ เป็นครอบครัวใหญ่ ครอบครัวที่น่ารักและแสนอบอุ่น...
TBCขอบคุณทุกท่านที่อยู่ด้วยกันมายาวนานค่ะ ใกล้จบแล้วหนอ
จัดบวกให้ทุกท่านเรียบร้อยค่ะ
:กอด1:เรียนรู้ร่วมกัน เป็นรักที่เริ่มตั้งแต่พรวนดิน เพาะกล้า จนบัดนี้ รักของเด้กๆกำลังเป็นต้นอ่อน
ฟังดูอบอุ่นจังค่ะ
ปล. ตอนนี้ใหม่ใช้กลายๆ ล ลิง ล่ะ ถ้าตามความหมายก็คงใกล้เคียงกับคำว่าคล้ายๆ มันก็ ล ลิง เหมือนกัน (อันนี้ก็คิดเองอีก)
ยังไม่รู้เลยว่าอันไหนถูก ก็เห็นเขาใช้กันทั้งสองแบบ... โทรถามครูลิลลี่เลยดีกว่า ฮา
คือว่า... เอาคำว่าบังคับกรายๆไปเสิร์ชในเน็ต มันขึ้นนิยายตัวเอง (รักใสปิ๊ง) มาด้วยอ่ะ กร๊าก
เพราะงั้นเอาตามพิมพ์นิยมแล้วกันนะคะ (ง่ายๆอย่างนี้เลย) ต้องขออภัย ภาษาไทยไม่แข็งแรง
ข้าวเหนียวขนุน หรือ ข้าวเหนียวหนุนที่นีออนเรียก
ปล. อีกที ได้จิ้มเจาะไข่เป็ดคุณMixsinDeeไปอีกหนึ่งใบ><
ที่พักใจแม้จะห่างไกล แต่เรารู้สึกได้ด้วยใจของเราเสมอ สู้ๆจ้า
ว่าแต่ จะต่อพร้อมกันทั้ง2เรื่องเลยป่าวจ้ะ (เล่ห์พรางรัก กับ รักใสปิ๊ง)
ขอบคุณมากค่ะ
ส่วนเล่ห์พรางรัก ลงพรุ่งนี้ค่ะ เพราะทำอะไรช้า แล้วเล่ห์พรางรักตอนหนึ่งก็ใช้เวลาจัดหน้าบวกตรวจคำผิดประมาณเกือบชั่วโมง
ได้ เอาไว้พบกันพรุ่งนี้นะคะ^^