หมาป่ากับเด็กเลี้ยงแกะคู่นี้สมการลงตัว!
ย้ำอีกที เมะเรื่องนี้ไม่ได้อ่อยจริงจริ๊ง! แต่เคะแรดน่ะใช่เลย
เนื้อเรื่องต่อสิ....============================================
บริษัทได้เลือกร้านอาหารบรรยากาศชิลๆ แห่งหนึ่งเป็นสถานที่จัดเลี้ยงงานฉลองปีใหม่และรับประทานมื้อค่ำท่ามกลางบรรยากาศแดดร่มลมตก ชัยชัชติดต่อขอเหมาพื้นที่ฝั่งริมทะเลเพื่อให้ได้วิวที่สวยที่สุด ถือเป็นการคืนกำไรให้แก่ทั้งลูกค้าและพนักงานของบริษัท
โต๊ะอาหารถูกตกแต่งด้วยดอกไม้และเทียนไขสไตล์โรแมนติก ตามต้นไม้ต่างประดับประดาไปด้วยโบว์หลากสีสัน ข้อความคำอวยพรปีใหม่กระจายอยู่ทั่วไป นอกจากนั้นยังมีเวทีเล็กๆ โต๊ะวางกองกล่องของขวัญ และชุดเครื่องเสียงเพื่อใช้สำหรับกิจกรรมของบริษัท ชัยชัชพาต้นน้ำไปนั่งยังโต๊ะตัวหนึ่งใกล้ๆ กับโต๊ะของกลุ่มผู้แทน
กิจกรรมดำเนินไปอย่างสนุกสนาน ทีมสันทนาการได้ขนเอาเกมหลากหลายรูปแบบมาให้แขกผู้มีเกียรติได้ร่วมสนุก โดยเฉพาะกิจกรรมจับฉลากหาผู้โชคดีโดยมีของรางวัลที่บริษัทยาเตรียมมาเซอร์ไพรส์ ทำให้ภาพรวมของงานนั้นเป็นไปอย่างสนุกสนาน แม้ต้นน้ำจะไม่ค่อยได้ร่วมกิจกรรมมากนักเพราะส่วนมากเขาพอใจนั่งดูเฉยๆ เสียมากกว่า แต่เขาก็รู้สึกสนุกสนานตามบรรยากาศครื้นเครงของงาน เสียงหัวเราะอย่างชื่นมื่นดังขึ้นเป็นระยะๆ ต้นน้ำนั่งมองชัยชัชทำงานอย่างมีความสุข
'แค่ได้มองพี่เขาไปแบบนี้เรื่อยๆ เราก็มีความสุขมากพอแล้วล่ะ' ต้นน้ำบอกตัวเองในใจเงียบๆ ก่อนจะลุกขึ้นไปเดินเล่นริมหาด เนื่องจากเป็นช่วงที่งานเลี้ยงใกล้จะจบแล้ว ต้นน้ำจึงอยากออกไปเดินเล่นดูบรรยากาศริมหาดยามค่ำเสียหน่อยก่อนขึ้นรถกลับโรงแรม
ร้านนี้เป็นร้านที่มีพื้นที่หาดส่วนตัว ทะเลช่วงหัวค่ำแม้จะมืดแต่ก็ยังพอมีแสงไฟที่ส่องมาจากร้าน รวมทั้งคบไฟที่ปักไว้ตามจุดต่างๆ คู่รักหลายคู่ต่างพากันเดินเล่นอาบแสงจันทร์ ต้นน้ำเดินเล่นพลางคิดอะไรบางอย่างในใจไปเรื่อยๆ
ต้นน้ำยอมรับกับตัวเองว่าเขากลัว กลัวความใจดีของชัยชัช กลัวจิตใจของตัวเอง ไม่มั่นใจท่าทีของอีกฝ่าย ไม่แน่ใจว่าหัวใจของชัยชัชรู้สึกอย่างไรกันแน่ รวมทั้งไม่กล้ารับฟังเสียงจากหัวใจของตัวเอง เขาอยากหยุดทุกอย่างไว้ ไม่อยากให้ฝันดีแบบนี้ต้องจบลงเร็วเกินไป เขาไม่อยากตื่นจากความฝันนี้เลย ต้นน้ำเดินเล่นไปเรื่อยๆ โดยไม่ทันสังเกตว่ามีสายตามองตามตนเองอยู่
'ถ้าพี่ชัชเขารู้เรื่องนั้น เขาจะต้องเกลียดเราแน่ๆ เป็นแค่น้องชายได้อยู่ใกล้ๆ พี่เขาตลอดไปก็ดีอยู่แล้วแท้ๆ ไม่น่าเลย...' ต้นน้ำยืนเหม่อทำมิวสิควิดิโออยู่ตรงชายฝั่ง ปล่อยให้เกลียวคลื่นค่อยๆ ม่วนตัวเล่นอยู่รอบๆ ตัวเองนานสองนาน จึงไม่ทันรับรู้ว่าที่ด้านหลังของตนนั้นมีใครบางคนตามมา
“เหม่อเชียว อยากเล่นน้ำเหรอ?”
ชัยชัชนั่นเอง เขาเห็นต้นน้ำหายมานานจึงเป็นห่วงจนเดินมาตาม
“พี่ชัช ข้างบนนั้นเสร็จแล้วเหรอครับ?”
“เออ ก็ทยอยกลับกันแล้ว”
“ขอโทษครับ ผมเพลินไปหน่อย”
ต้นน้ำว่าพลางขยับตัวเดินมาหาชัยชัช ตั้งใจจะเดินกลับไปร่วมกลุ่มกับชาวคณะ
“ก็ไม่ได้รีบอะไร เราไม่ต้องกลับกับเขาเพราะเอารถมาเอง ถ้าต้นอยากเล่นน้ำจะอยู่ต่ออีกพักนึงก็ได้”
แต่ต้นน้ำกลับส่ายหน้าสั่นศีรษะ
“อึ๋ย! ไม่เอาหรอกครับ ทะเลตอนกลางคืนน่ากลัวจะตาย!”
“อ้าว พี่ก็เห็นเรายืนอยู่ตรงนี้ตั้งนาน นึกว่าอยากลงทะเลซะอีก”
“ก็... นิดหน่อยมั้งครับ มาหัวหินทั้งทียังไม่ได้ลงทะเลเลย”
ต้นน้ำรับคำอายๆ เขาไม่อยากให้ชัยชัชคิดมากว่าพาเขามาเที่ยวแล้วแต่ตัวเองมัวแต่ยุ่งทำแต่งานจนเขายังไม่ได้เล่นน้ำทะเลเลยแม้แต่น้อย
“งั้นก็ลงไปดิ...”
“ไม่เอาอ่ะ เดี๋ยวตัวเปียก”
“ไรว้า คิดจะเล่นน้ำแต่กลัวเปียก ใช้ได้ที่ไหนต้น ฮ่าๆ”
“ผมหมายถึงว่า ถ้าผมตัวเปียกน้ำทะเลแล้วพี่ชัชจะพาผมกลับยังไงต่างหาก เดี๋ยวรถพี่ชัชก็เหม็นกันพอดี เบาะผ้าด้วย...”
ต้นน้ำบ่นอย่างขัดใจหน้างอ ส่งผลให้ชัยชัชขำกลิ้ง
“อุ๊บ! ฮ่าๆ”
ชัยชัชปล่อยเสียงหัวเราะดังกระหึ่มออกมาจนน้ำตาเล็ด
“ไอ้เด็กแม่บ้านเอ้ย!”
คำเรียกล้อเลียนของชัยชัชทำให้ต้นน้ำรู้สึกฉุนหน่อยๆ การที่เขารักความสะอาด ชอบทำอะไรให้เป็นระเบียบเรียบร้อยมันผิดตรงไหน เพราะถ้าปล่อยเอาไว้จนหมักหมม ผลสุดท้ายคนที่ต้องลำบากมาเก็บกวาดทีหลังก็ไม่พ้นเขานั่นแหละ
'กันเอาไว้ได้ก็กันเอาไว้ก่อน ไม่เห็นจะเสียหายเลย' “ช่างรถพี่เหอะ ว่าแต่เราเถอะ อยากเล่นน้ำรึเปล่า?”
“ก็... อยากนิดหน่อยครับ”
“งั้นก็ดี ไปเล่นเป็นเพื่อนพี่กัน ไหนๆ คืนส่งท้ายปีทั้งที”
ชัยชัชว่าพลางจูงมือของต้นน้ำเดินออกไปทางลานจอดรถ
“ไหนบอกจะพาผมไปเล่นน้ำ...”
“ก็ใช่ แต่ไม่ใช่ที่นี่ นี่มันร้านอาหารไม่สนุกหรอก ต้นอยากว่ายน้ำไม่ใช่เหรอ? ว่าแต่... เราเอาชุดว่ายน้ำมารึเปล่า?”
“ก็... เอามาครับ”
“ดี งั้นตามพี่มา”
และแล้ว... ชัยชัชก็ขับรถพาต้นน้ำกลับมาถึงโรงแรม
“นี่มันโรงแรมไม่ใช่เหรอครับพี่ชัช?”
“เออ ก็ใช่ดิ”
“อ้าว ไหนบอกว่า...”
“ก็นี่มันวันสิ้นปีที่ไหนๆ ก็คนเยอะ โรงแรมนี่แหละแจ่มสุดแล้วคนไม่ค่อยเยอะ เปียกแล้วก็เดินกลับห้องอาบน้ำนอนได้เลยไง”
หมาป่าขี้โกงชัยชัชออกตัวดริฟจนสีข้างถลอกไม่พอ เขายังมีหน้าหันมายักคิ้วกวนๆ ส่งให้ต้นน้ำเด็กหนุ่มแสนซื่อที่ถูกหลอก!
'พี่ชัชนะพี่ชัช!' ต้นน้ำได้แต่นึกระอาคุณพี่ขี้แกล้งอยู่ในใจ ลูกเล่นแพรวพราวจนเขาตามไม่ทันจริงๆ สมแล้วที่เป็นยอดผู้แทน คารมระดับราชา ล่อลวงให้เขาตายใจได้สนิท!
'เอาเถอะ ยอมให้ก็ได้ เห็นว่าวันนี้เหนื่อยหรอกนะ' “ยิ้มไรอ่ะเรา”
“เปล่าครับ”
เพราะทั้งๆ ที่ปากตอบว่าเปล่า แต่ต้นน้ำกลับยิ่งอมยิ้มมีสีหน้าซุกซนมากกว่าเดิม ชัยชัชจึงเกิดความรู้สึกหมั่นเขี้ยวต้นน้ำขึ้นมา ชายหนุ่มเอื้อมมือไปขยี้ศีรษะอีกฝ่ายอย่างเมามันพร้อมทั้งกึ่งลากกึ่งจูงเด็กหนุ่มเดินตรงไปทางห้องพัก
“โอ๊ย! พี่ชัชอ่ะ เอาอีกแล้ว!”
“ก็เรามันกวนนักนี่”
เมื่อมาถึงห้องพัก ชัยชัชให้ต้นน้ำเข้าเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องน้ำ ส่วนตัวเขาจัดการถอดเสื้อผ้ามันกลางห้องแบบง่ายๆ กางเกงยีนส์กับเสื้อผ้าใช้แล้วถูกถอดวางพาดไว้ตามพนักเก้าอี้ ส่วนเจ้าตัวก็กำลังรื้อค้นหากางเกงว่ายน้ำของตนเองในกระเป๋า
“พี่ชัชครับ?”
“เออ มีไร”
“เอ่อ... พี่เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จรึยังครับ?”
เสียงหวั่นๆ ของต้นน้ำดังขึ้นจากในห้องน้ำ แต่ทว่าเด็กหนุ่มกลับยังไม่ยอมออกมาจากในนั้น ชัยชัชนึกขำ เขารีบใส่กางเกงว่ายน้ำที่หาเจอแล้วและนำผ้าเช็ดตัวมาพันไว้พลางตะโกนบอก
“ยังเลย พี่หากางเกงว่ายน้ำไม่เจอว่ะ ต้นช่วยพี่หาหน่อยสิ”
“เอ่อ จะดีเหรอครับ?”
“เออน่า มาช่วยหน่อย เดี๋ยวก็อดว่ายน้ำกันหรอก”
“แล้วพี่ชัช ...”
“ไม่เป็นไร พี่นุ่งผ้าเช็ดตัวไว้แล้ว”
ต้นน้ำจึงยอมเดินออกมาจากห้องน้ำ มาหยุดอยู่เคียงข้างชายหนุ่มและลงมือช่วยหากางเกงว่ายน้ำ ชัยชัชเหลือบมองต้นน้ำก่อนจะแกล้งทำเป็นยุ่งกับการหากางเกงว่ายน้ำต่อ
“เอ... อยู่ไหนว้า”
'อื้อหื้อ! ขาวชะมัดเลยว้อย ถึงจะเป็นผู้ชายแต่ก็เอวบางร่างน้อยเหมือนกันนี่หว่า ติดจะผอมไปหน่อยแฮะ อืม... แต่แขนขานี่แทบไม่มีขน เนียนดีจริงๆ ขนาดกางเกงว่าเอวต่ำแล้วยังไม่เห็นแพลมออกมาซักเส้น แถมยังก้นงอนชะมัด ยิ่งพอใส่กางเกงว่ายน้ำแบบนี้แล้วเซ็กซี่ชิบหาย จะว่าไปไอ้ต้นก็รูปร่างกลางๆ นี่หว่าไหล่ก็ไม่หนา เห็นไหปลาร้าเลย…' “พี่ชัชเก็บไว้ในกระเป๋านี้แน่เหรอครับ?”
“อืม”
“อยู่ใต้กองเสื้อผ้าใช้แล้วของพี่รึเปล่าครับ? ผมบอกแล้ว ให้ถอดเสื้อผ้าแล้วพับเก็บให้เป็นที่”
“ไม่รู้ดิ”
ชัยชัชว่าพลางยิ้มเผล่มองดูต้นน้ำรื้อกองเสื้อผ้าของเขาออกมาทีละชิ้นแล้วจัดการพับเก็บให้ ก่อนจะลงมือค้นหาต่อตามบรรดาช่องน้อยใหญ่ในกระเป๋าเดินทาง เด็กหนุ่มในชุดว่ายน้ำเคลื่อนไหวร่างกายไปมา ก้มๆ เงยๆ เอื้อมมือดันร่างตัวเองสลับกับยืดตัวขึ้นไม่หยุดอยู่กับที่ ภาพที่เห็นส่งผลกระทบทางอารมณ์กับชัยชัชคล้ายดังไฟที่ระอุด้วยท่อนฟืน แม้จะไม่ร้อนแรงแต่ก็ลุกลามอย่างเงียบเชียบและมอดไหม้ได้นานยิ่งกว่าเปลวเพลิงจากไม้ขีดไฟ ใช้เวลาสักพักต้นน้ำจึงรู้สึกผิดสังเกต
“พี่ชัช?”
“คร้าบ น้องต้น”
“มองอะไรครับ ไม่หากางเกงแล้วเหรอ?”
ต้นน้ำต่อว่าคนอู้แก้เก้อ เขารู้สึกได้ถึงบรรยากาศแปลกๆ เพราะสายตาโลมเลียของชัยชัชจนขนลุกซู่
“ก็...กางเกงว่ายน้ำน้องต้นน่ารักดี พี่ก็เลยมองเพลิน”
เพียงเท่านั้น ต้นน้ำก็เริ่มรู้สึกว่าตัวเองชักจะคิดผิดเสียแล้วที่ตอบตกลงไปว่ายน้ำเล่นกับชัยชัช!
แม้กางเกงว่ายน้ำที่เขาใส่จะเป็นกางเกงว่ายน้ำขาสั้นทั่วๆ ไปแบบที่ใครๆ ก็ใส่กัน แต่เมื่อถูกมองด้วยดวงตาซุกซนแบบนี้ ต้นน้ำเองก็ชักจะประหม่าทำอะไรไม่ถูกพอสมควร
“ก็ว่ายน้ำนี่ครับ ก็ต้องใส่แบบนี้”
“ครับ แต่แหม เสียดายนะ น่าจะใส่แบบบิกินี่ หึๆ”
“ถะ ถ้าพี่ชัชหากางเกงว่ายน้ำไม่เจอ งั้นผมขอตัวไปว่ายน้ำคนเดียวก็ได้ครับ ผมไปล่ะ!”
ว่าแล้วต้นน้ำก็เดินหนีไปยังหน้าต่างริมระเบียง แต่ยังไม่ทันที่เขาจะเอื้อมไปเปิดม่านให้ตัวเองออกไปยังระเบียงภายนอก อ้อมแขนของชัยชัชก็กระหวัดเข้ามาซะก่อน ต้นน้ำจึงโดนอีกฝ่ายรวบตัวไว้จากด้านหลัง
“เดี๋ยวดิครับน้องต้น ไม่รอพี่เลยอ่ะ”
แม้ชัยชัชจะใช้เสียงในโทนออดอ้อน แต่การชิดใกล้ในระยะเนื้อแนบเนื้อแบบนี้ก็ทำให้ต้นน้ำใจสั่น เด็กหนุ่มรู้สึกได้ถึงอาการขนลุกซ่านไปทั้งตัวแบบแปลกๆ สัมผัสแนบชิดยิ่งกว่าครั้งไหนๆ ชวนให้ต้นน้ำรู้สึกปั่นป่วนจนแทบทรงตัวไว้ไม่อยู่
“ก็... ก็ พี่ชัชหากางเกงว่ายน้ำไม่เจอ แล้วจะเล่นน้ำได้ยังไงละครับ”
“อืม... งั้นพี่แก้ผ้าเล่นดีมั้ย ไหนๆ ก็ไหนๆ สี่ทุ่มกว่าแล้ว ไม่มีใครมองหรอก”
เสียงทุ้มๆ ที่จงใจพูดอยู่ข้างหูผสานกับลมหายใจร้อนๆ เพราะความใกล้ชิดชวนให้ต้นน้ำสติแตก!
“ไม่ดีมั้งครับ”
แต่ทว่าชายหนุ่มกลับเฉไฉไปอีกเรื่อง
“น้องต้นนี่ตัวผอมจังนะครับ ดูสิพี่โอบรอบเอวน้องต้นได้เลย ตัวก็เล็กนะเนี่ย”
พูดไม่พูดเปล่าชัยชัชยังจงใจเอาคางมาเกยไว้ที่ไหล่ของเด็กหนุ่ม พอถูกหยามแบบนี้ต้นน้ำก็ฉักจะฉุนขึ้นมาบ้างแล้วเหมือนกัน อารมณ์เขินอายหายวับ!
“ผมไม่ได้ตัวเล็กครับผมสูงตั้งร้อยเจ็ดสิบแล้ว ละก็ยังไม่หมดวัยด้วยยังสูงได้อีก พี่ชัชนั่นแหละครับตัวใหญ่เกินไป แถมยังมีพุงอีก!”
ต้นน้ำกัดตอบไปแบบปากร้ายนิดๆ เขาสาบานเลยว่าเขาไม่ได้พูดเพราะเพียงแค่อยากจะเอาคืนชัยชัช เพราะต้นน้ำรู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่างที่แนบชิดหลังเขาอยู่จริงๆ ท้องอุ่นๆ ของชายหนุ่มนั้นนาบกับแผ่นหลังของเขาอยู่!
'โอเค ถึงพุงพี่ชัชจะไม่มีไขมัน แต่ก็ใช่ว่าจะมีกล้ามหรอก ว่าแต่ว่า... ไอ้แข็งๆ นั่น ขอให้เป็นแค่พุงเถอะ!' “เออๆ ไม่แกล้งแล้วก็ได้ เรานี่ก็...”
ดูเหมือนว่าต้นน้ำจะไปสะกิดโดนจุดต้องห้ามของชัยชัชพอดี เขาจึงออกอาการงอนนิดๆ เป็นทีให้ต้นน้ำหาเรื่องมาเกทับแกล้งกลับได้ สองสิ่งที่ผู้ชายเลยวัยสามสิบกลัวกันมากที่สุดก็คือเรื่องลงพุงกับหัวล้านนี่แหละ!
“เห็นมั้ยล่ะ เพราะพี่ชัชเอาแต่ดื่มเบียร์นั่นแหละครับเลยลงพุง”
“อ้าว ก็มันช่วยไม่ได้นี่หว่ามันเป็นงานนี่นา ว่าแต่เราเถอะมาว่าพี่ลงพุง”
ว่าแล้วชัยชัชก็จับมือของเด็กหนุ่มไปแปะอยู่บนหน้าท้องของตัวเอง
“ไหนบอกดิ๊ว่าพี่ลงพุงตรงไหน ตรงส่วนไหนที่เป็นไขมันที่เราว่า?”
หมาป่าแก้เกมกลับมาขย้ำลูกแกะทีเผลอ!
“พี่ชัช!”
ต้นน้ำไม่คิดว่าชัยชัชจะมาไม้นี้ แถมว่าแล้วชัยชัชก็ชักจะเลื่อนมือของต้นน้ำลงต่ำขึ้นเรื่อยๆ และ...
“พี่ชัชปล่อยนะครับ”
“ก็พี่ก็กำลังให้น้องต้นสำรวจไขมันพี่อยู่ไงครับ อย่าดิ้นสิ เดี๋ยวผ้าพี่หลุดนะ!”
พอได้ยินดังนั้นต้นน้ำก็มีสีหน้าเหวอสุดๆ ไม่กล้าขยับเขยื้อนมือตัวเองไปไหนอีก รวมไปถึงแทบจะแข็งไปทั้งตัวไม่กล้ากระดิกกระเดี้ย เล่นเอาชัยชัชหัวเราะอยู่ในลำคอจงใจแกล้งเผด็จศึกจบเกมอีกฝ่ายโดยเร็ว
“อุ๊ยผ้าหลุด!”
ฝ่ายหนึ่งแกล้งกระตุกผ้าเช็ดตัวของตัวเอง ส่วนอีกฝ่ายหนึ่งรีบยกมือขึ้นไปปิดตาตัวเอง แต่ดูเหมือนจะช้ากว่า เพราะมืออีกข้างที่ว่างจากการกระตุกผ้าของชัยชัชนั้นแกล้งปัดมือของต้นน้ำอย่างรวดเร็ว มือทั้งสองข้างที่เสร็จสิ้นภาระกิจเปลื้องผ้าตามมาช่วยง้างมือของต้นน้ำเอาไว้ ส่งผลให้เด็กหนุ่มหลับตาปี๋!
'ไม่เอานะ ไม่อยากเห็นมังกรยักษ์ตอนนี้!' “ต้น ลืมตาสิครับ”
“ไม่เอาอ่ะพี่ชัชอย่าแกล้งผม”
ต้นน้ำเองก็ไม่เข้าใจว่าตัวเองจะอายอะไร เขารู้แต่ว่าไม่อยากเห็น ไม่อยากมอง แค่นี้เขาก็แทบจะ... แทบจะคุมตัวเองไม่อยู่แล้ว
“เราจะอายอะไรเล่า ก็เห็นกันทั้งตัวมาแล้ว”
“ก็มันไม่เหมือนกันนี่ ตอนนั้นพี่ชัชเมาหลับนี่ครับ! ปล่อยผมนะ ไปนุ่งผ้าให้เรียบร้อยเลยด้วย!”
“อ้าว ตอนพี่หลับกับตอนที่พี่ตื่น มันไม่เหมือนกันเหรอครับ?”
ต้นน้ำเต้นเร่าๆ อย่างดีดดิ้นพลางละลักละล่ำบอกให้ชัยชัชไปใส่เสื้อผ้า ชัยชัชเห็นอีกฝ่ายออกอาการดังนั้นก็เลยสำนึกได้ว่าครั้งนี้คงจะเผลอแกล้งแรงไปจริงๆ
“ต้น ลืมตาได้แล้ว พี่ไม่แกล้งเราแล้วครับ”
เมื่อเห็นว่าต้นน้ำยังไม่ยอมลืมตาเสียทีชัยชัชจึงทำเสียงเข้มๆ ดุอีกฝ่ายไป
“ไอ้ต้น! ลืมตา!”
คงเพราะเสียงดุๆ นั่นเองที่ทำให้ต้นน้ำเผลอสะดุ้งจนลืมตาขึ้นมาตามคำสั่งของชัยชัชทันที และเมื่อต้นน้ำลืมตาขึ้นจึงได้เห็นว่าอีกฝ่ายใส่กางเกงเซิร์ฟเสร็จเรียบร้อยแล้ว
ชายหนุ่มขี้แกล้งเดินหัวเราะร่านำออกไปที่ระเบียงก่อนจะกระโจนลงน้ำและส่งเสียงท้าทายขึ้นมายั่วเด็กหนุ่ม ทิ้งให้อีกฝ่ายต้องออกอาการขัดใจอยู่เพียงผู้เดียว
“ไปต้นไปว่ายน้ำกัน แข่งกับพี่ป๊ะ? รอบใหญ่ไหวป้าว”
'แกล้งยั่วกันเสร็จแล้วยังมีหน้ามาหาเรื่องท้าผมอีกนะพี่ชัช คอยดูเถอะจะว่ายแซงให้ได้เลย!' ท้ายที่สุด คนไม่ค่อยออกกำลังกายแบบต้นน้ำก็เป็นฝ่ายแพ้ชัยชัช ชายหนุ่มทั้งแกล้งทั้งกวนจนต้นน้ำเสียสมาธิว่ายตามไม่ทัน และเมื่อถึงตอนนั้นชัยชัชก็จะชะลอตัวรอต้นน้ำพลางส่งเสียงเย้ยเบาๆ และเมื่อเด็กหนุ่มตามมาทันเขาก็จะออกตัวนำไปอีกครั้ง
กว่าจะรู้ตัวต้นน้ำก็ตัวเปื่อยหน้าซีดปากสั่นพอสมควร ชัยชัชจึงชวนกลับห้องพัก เขาไล่ให้ต้นน้ำไปอาบน้ำก่อนเพราะอาการน่าเป็นห่วงส่วนตัวเองรออาบทีหลังเพราะอึดกว่า และเมื่อชัยชัชอาบน้ำเสร็จแล้วก็เดินออกมาจากห้องน้ำโดยมีผ้าเช็ดตัวผืนเล็กคล้องไว้บนไหล่
“ต้น เช็ดหัวให้พี่หน่อย”
“ครับ?”
อีกเพียงสิบนาทีกว่าๆ ก็จะเที่ยงคืนแล้ว ต้นน้ำที่กำลังนั่งดูรายการถ่ายทอดสดบรรยากาศเคาท์ดาวน์ปีใหม่อยู่บนเตียงหันไปทางชัยชัชที่กำลังยื่นศีรษะเปียกชื้นมาให้เขาเช็ดให้ ผิดกับตัวเขาที่จัดการเสร็จเรียบร้อยแล้วก่อนออกจากห้องน้ำ
“ทำไมไม่ใช้ไดร์ในห้องน้ำละครับ”
ชัยชัชมองหน้าต้นน้ำก่อนจะตอบเรียบๆ ว่า
“เออน่า เช็ดให้พี่หน่อย พี่ชอบให้คนทำให้ สมัยอยู่กับฟ่างๆ ทำให้พี่ตลอดแหละ”
เจอแบบนี้เข้าไป ต้นน้ำก็รู้สึกตื้อๆ ในอกขึ้นมาทันที
'พี่ฟ่างอีกแล้ว....' ต้นน้ำขยับมือเช็ดผมให้ชัยชัชอย่างเบามือ แม้ร่างกายจะจดจ่อกับงานแต่ใจของเขากลับลอยไปไกลจมอยู่ในวังวนความอิจฉาเล็กๆ ที่ผุดขึ้นในใจ
“นี่ ไม่ถามพี่เหรอว่าทำไมถึงให้ต้นทำให้”
“ครับ?”
อาจจะเพราะใจลอย ต้นน้ำจึงยังฟังไม่ได้ศัพท์
“เอาอีกแล้วนะเรา ใจลอยอีกแล้ว พี่ถามเราว่าจะไม่ถามหน่อยเหรอว่าทำไมพี่ถึงให้เรามาเช็ดหัวให้พี่”
“แล้วเพราะอะไรล่ะครับ?”
“ตอนเด็กๆ พี่ชอบให้คนมาลูบหัวพี่ มันสบายดี พอพี่มีเมีย พี่เลยชอบให้เมียเช็ดผมให้ ตอนนี้คนที่พี่ยอมให้โดนหัวพี่ก็มีแต่แม่กับเมียเท่านั้นแหละต้น”
'ผมไม่เข้าใจ พี่ชัชหมายความว่ายังไง?' ต้นน้ำสับสนงุนงงจนพูดอะไรไม่ออก เขาไม่เข้าใจว่าการที่ชัยชัชชอบให้คนเช็ดผมมันเกี่ยวอะไรกับเมียของชายหนุ่ม
“อ้าว! ทำหน้างงอีก ก็เราน่ะเป็นเมียพี่ไม่ใช่เหรอ?”
ชัยชัชยิ้มขำๆ พลางนอนหนุนตักของ“เมีย”ตัวเอง
“พี่ชัช!”
เพราะคำพูดที่ชัยชัชใช้แซวตัวเองในครั้งนี้ตรงเกินไป ต้นน้ำจึงตกใจ ถ้อยคำเรียบง่ายนั้นมีความหมายมากมายจนเขาตั้งตัวไม่ติด!
“ทำไมครับ? พี่พูดอะไรผิดเหรอ ก็คืนนั้น...”
โดนแซวแค่นั้นเขาก็เขินอายจนพูดอะไรไม่ออก อารมณ์ใจลอยน้อยใจเมื่อครู่ของต้นน้ำหายไปจนเหลือแต่อาการเขินจัดไม่กล้าสบตา การที่ชัยชัชเรียกเขาเช่นนี้มันมากเกินกว่าที่เขาคาดหวังไว้จริงๆ
'พี่เขายอมรับเราแล้ว' ชัยชัชจับมือของต้นน้ำมาจุมพิตเบาๆ ก่อนจะกุมไว้ที่หัวใจของตน แล้วถามบางอย่างออกไปเพื่อยืนยันในสิ่งที่ตัวเองคิด
“ต้น สารภาพกับพี่มาตามตรงได้มั้ย คืนนั้นน่ะ ต้นยังไม่ได้เป็นของพี่ใช่มั้ยครับ?”
แม้จะตกใจที่ชัยชัชรู้เรื่องที่ถูกเขาหลอกแล้ว แต่ต้นน้ำก็ไม่แน่ใจว่าควรจะตอบไปอย่างไรจึงได้แต่อ้ำอึ้ง
“ดูดิ แค่พี่แซวต้นแค่นี้ก็หน้าแดง แกล้งหอมแก้มต้นไปทีต้นก็เขินจนแทบไม่กล้ามองหน้าพี่ แล้วจะให้พี่เชื่อเหรอครับว่าเด็กเรียบร้อยอย่างต้นจะแรดพอที่จะยั่วพี่ตอนเมาๆ ละถ้าพี่เมาหนักขนาดจำอะไรไม่ได้แบบนั้น พี่ว่าพี่คงไม่มีแรงไปทำไรต้นแล้วล่ะ ถึงพี่ไม่รู้ว่าต้นจะหลอกพี่ไปทำไม แต่พี่สัญญากับต้นไว้แล้วพี่ก็จะทำตาม พี่ถือว่าพี่ต้องรับผิดชอบ แล้วพี่ก็คิดไม่ผิด น้องชายพี่คนนี้เป็นเด็กดีไม่ทำให้พี่ผิดหวัง ถึงตอนแรกพี่จะสงสัยว่าต้นทำแบบนั้นไปทำไม แต่พี่ว่าพี่ได้คำตอบแล้วล่ะครับ ต้นแอบรักพี่ใช่มั้ย?”
ชัยชัชมองใบหน้าแดงก่ำที่ขึ้นสีถึงขีดสุดของต้นน้ำแล้วรู้สึกยินดีอย่างบอกไม่ถูก
'แม่ง น่ารักโคตรๆ ให้กูเป็นเกย์กูก็ยอมวะ ถ้าได้ไอ้ต้นทำเมีย' ต่อให้ต้องเป็นเกย์ก็ช่างชัยชัชไม่สนอะไรอีกแล้ว ร่างกายของเขาพร้อมจะมีเซ็กส์กับทุกคนที่เขาพึงตาต้องใจ แม้จะไม่เคยมีใจในรสสัมผัสของผู้ชายด้วยกันมาก่อน แต่กับต้นน้ำ เด็กคนนี้ทำให้เขาอยากสัมผัส ความร้อนที่แผดเผาอยู่นั้นไม่แพ้บรรดาเด็กสาวไซด์ไลน์ที่เขาเคยใช้บริการ แต่ต่างกันตรงที่เด็กคนนี้ชวนให้เกิดความรู้สึกอิ่มเอมใจอยากทะนุถนอมให้เป็นสมบัติของตัวเองแต่เพียงผู้เดียว เป็นการเติมเต็มที่เขาเฝ้ารอเหมือนเมื่อตอนแรกที่เขาได้พบรักกับฟ่าง
ตอนนี้เขาหลงรักเด็กผู้ชายคนหนึ่งหัวปักหัวปำ! เด็กคนนี้ทำให้เขารักได้อย่างง่ายดาย แม้ความรู้สึกมันจะแตกต่างกับตอนที่เขารักฟ่าง แต่ความดีและทุกๆ การกระทำของต้นน้ำที่แสดงออกว่ารักเขานั้นทำให้เกิดความเอ็นดู สายตาอมทุกข์และรอยยิ้มเศร้าๆ ทำเอาเขาใจหายอยากช่วยปัดเป่าเฆมหมอกในใจของเด็กหนุ่ม รอยยิ้มและเสียงหัวเราะนำพาให้เขามีความสุขเผลออมยิ้มตามไปด้วย สีหน้าเขินอายยามถูกแกล้งชวนเขาต้องการกลั่นแกล้งเด็กหนุ่มให้มากกว่าเดิม เขารู้ตัวดีว่าเขาไม่ได้มองต้นน้ำเป็นแค่น้องชายอีกต่อไป เพราะพี่ชายจะไม่มีวันอยากครอบครองน้องชายตัวเอง!
กับฟ่างเขาอยากเป็นสามีที่ดีของเธอ สร้างครอบครัวด้วยกัน มีเธอเป็นแม่ของลูก มีเจ้าหญิงตัวน้อยที่ถอดแบบหน้าตาจิ้มลิ้มมาจากผู้เป็นแม่ เขาอยากได้ลูกสาวน่ารักๆ ที่สุด มันคงจะดีไม่น้อยถ้าหากเป็นเช่นนั้น ฟ่างจึงเป็นแรงผลักดันที่ทำให้เขามุ่งมั่นแอคทีฟตัวเองเพื่ออนาคต เพื่อเป็นผู้ชายที่ดีที่สุดสำหรับเธอ แต่เขาก็ยังไม่ดีพอเธอจึงทิ้งเขาไป
แต่กับต้นน้ำความรู้สึกทุกอย่างเหมือนหยุดนิ่ง เขาไม่จำเป็นต้องพยายามอะไรมากมาย เพียงแค่เป็นตัวเองเท่าที่เป็นอยู่ เพียงแค่นั้น ต้นน้ำก็มอบความรักให้เขาอย่างไม่ต้องการสิ่งใดตอบแทน ราวกับพร้อมจะอยู่เคียงข้างเขาทุกๆ สถานการณ์ ต้นน้ำทำให้เขารู้สึกผ่อนคลาย มีช่วงเวลาสบายๆ ทุกครั้งที่ได้อยู่ด้วยกัน ไม่ต้องกังวลว่าตนจะดีพอสำหรับเด็กหนุ่มหรือเปล่า เขาเสพติดความรู้สึกนี้จนอยากจะให้ต้นน้ำอยู่ข้างกายเขาไปตลอด เพราะต้นน้ำนั้นดีเกินพอสำหรับผู้ชายอย่างเขาแล้ว
สายตาของชัยชัชจ้องลึกเข้าไปในดวงตาสีดำสนิทของต้นน้ำ สีหน้าจริงจังแบบที่ต้นน้ำไม่เคยเห็นมาก่อนกำลังบ่งบอกอะไรบางอย่างกับเขา
'ในที่สุด ดวงตาของพี่ชัชมีภาพของเราสะท้อนออกมาแล้ว เรามีตัวตนในสายตาของพี่ชัชแล้ว!' ความรู้สึกของชัยชัชส่งผ่านความกล้ามาทางสายตา ความอบอุ่นที่แผ่จากมือของชายหนุ่มก็เพิ่มความมั่นใจให้ต้นน้ำ เวลาที่เขารอคอยมาถึงแล้ว ต้นน้ำรู้ดีว่าตนจะไม่ถูกปฏิเสธแน่นอน!
“ผม... ผม”
“ครับน้องต้น?”
“ผม รักพี่ชัชครับ”
ได้ยินแล้วชัยชัชก็ยิ้ม เขาหัวเราะน้อยๆ อย่างถูกใจ เจ้าลูกแกะตัวน้อยยอมเป็นเหยื่อของเขาแล้ว!
“ครับพี่รู้ เราน่ะแอบรักพี่มาตั้งแต่แรกแล้วใช่มั้ยล่ะ? หึๆ”
อาจจะเพราะถูกจับได้ ต้นน้ำจึงออกอาการเขินอายอีกครั้ง
“เล่าให้พี่ฟังทีสิครับว่าต้นแอบชอบพี่มาตั้งแต่ตอนไหน? เรารู้จักพี่ได้ยังไง ทั้งๆ ที่พี่ไม่เคยเจอเราด้วยซ้ำ”
“ต้องเล่าด้วยเหรอครับ?”
“เล่าสิครับ ก็พี่อยากฟังนี่นา คิดดูสิ ต้นเป็นฝ่ายมาชอบพี่ก่อนแท้ๆ แต่พี่ต้องเป็นคนสารภาพรักอ่ะ ไม่ยุติธรรม เพราะงั้นต้นต้องบอกพี่มาเลยว่าต้นรักพี่ได้ยังไงตั้งแต่ตอนไหน”
แม้จะอ้ำอึ้งอยู่นาน แต่สุดท้าย ต้นน้ำก็ยอมเปิดปาก
“พี่ชัชอาจจะจำผมไม่ได้ แต่ว่า... ความจริงเราเจอกันครั้งแรกเมื่อราวๆ สามสี่ปีก่อนครับ”
“หือ! นานขนาดนั้นเลยเหรอ?”
ต้นน้ำพยักหน้าด้วยท่าทางเขินอายก่อนจะเล่าต่อไป
“วันนั้นผมไปกับแม่สองคน แม่ผมตัดสินใจว่าจะย้ายจากอพาร์ทเม้นท์เก่ามาซื้อคอนโดอยู่ที่นี่ แต่ระหว่างที่แม่ผมกำลังจัดการเรื่องเอกสารต่างๆ กับเซลล์อยู่ ผมปวดท้องเลยไปเข้าห้องน้ำ แล้วก็... เอ่อ... ผมเจอ... ผมเจอกับพี่ชัชวันนั้นแหละครับ”
ต้นน้ำอ้ำๆ อึ้งๆ เหมือนไม่อยากพูดอะไรต่อ เขาจึงตัดบทการเล่าแต่เพียงเท่านั้น ปล่อยให้อีกฝ่ายใช้ความคิด นึกต่อเอาเอง
'หือ? คุ้นๆ นะ' “อ๋อ! พี่จำได้แล้ว! เราคือไอ้เด็กตัวเล็กๆ คนนั้นที่โดนฝรั่งลวนลามจนร้องไห้ใช่ป่ะ?”
'โธ่! พี่ชัชอ่ะ ไม่เห็นต้องพูดออกมาก็ได้ ผมอายนะครับ' “ก็ตอนนั้นผมยังเด็กนี่ครับ ตัวก็ต้องเล็กเป็นธรรมดา”
ภาพของเด็กน้อยที่ร้องไห้ตะโกนแต่คำว่า “โนๆ” ลั่นปรากฏขึ้นในความทรงจำ
'สเปคเกย์เฒ่าหัวงูมากเลยต้น' “โหย... นั่นเราเหรอนั่น เรื่องนั้นมันนานมากเลยนะ พี่นึกไม่ถึงเลยว่าโลกมันจะกลมขนาดนี้”