## เรื่อง “เรื่องของเค้ากะแก” ๒๗ ##
ช่วงนี้ว่างๆ... เลยต่อให้อีก
*********************************************************************
ช่วงนั้นเราก็คอยสังเกตท่าทางของภีมกะฝนอยู่ตลอด
ส่วนใครๆที่ลุ้นเจมส์ก็คงอาจจะผิดหวังกันหน่อยนะ....................... ถ้าได้อ่านตอนนี้
หลังจากที่เราเลิกเรียนพิเศษในวันเสาร์กลุ่มเราก็นัดกันไปกิน MK ต่อแล้วก็ไปดูหนังกันต่อ ตลอดเวลาที่ไปดูหนังและกิน MK ทุกครั้งภีมจะมานั่งข้างๆเรา แต่วันนี้ภีมมักจะนั่งข้างฝนตลอดแม้แต่ตอนที่ดูหนัง เราก็ได้แต่อดทนเก็บความรู้สึกหึงเอาไว้ ถ้าเราแน่ใจเมื่อไหร่ค่อยว่ากัน
พอออกมาจากโรงหนังก็ประมาณทุ่มนึงแล้ว.... เราจึงแยกย้ายกันกลับ ซึ่งภีมก็ขับรถไปส่งฝนด้วยเพราะฝนไม่ได้เอารถมา เราก็ได้แต่มองตาละห้อย........
ตอนที่เรากะลังจะขับรถกลับบ้านเพื่อนเราก็โทรมาหาพอดี.... เอกไง... ไม่รู้ยังจำกันได้ป่าว.... พอดีเอกมันออกมาเที่ยวกะเพื่อนเหมือนกันมันก็เลยจะขอติดรถกลับด้วยเพราะมันไม่ได้เอารถมา เรากะเอกก็เลยนัดเจอกันที่ร้านนม
เราก็เลยไปนั่งรอเอกที่ร้านนมเพราะเอกยังไม่มา.... พอเราเข้าไปที่ร้านเราก็เห็นเจมส์มากกับน้องผู้หญิงคนนึง น่ารักเชียวหละ.... เป็นน้องมอสี่ที่มาแอบชอบเจมส์นั่นแหละ... น้องคนนั้นทั้งน่ารักเรียนเก่งนิสัยดี ก็นะ... เหมาะกับเจมส์ดีแหละ..... น้องคนนั้นเค้าแอบชอบเจมส์มานานแล้วแต่เพิ่งได้มาคุยกะเจมส์เมื่อประมาณเดือนที่แล้วเอง ก็คงจะดูๆกันอยู่นั่นแหละ เพื่อนๆในกลุ่มก็เชียร์อัพกันใหญ่เลย เจมส์ก็ได้แต่บอกเราว่าเป็นแค่พี่น้องกันธรรมดาแค่น้องเค้าปลื้มเจมส์ก็เท่านั้นเอง.... พอเจมส์เห็นเราเดินเข้ามาในร้านเจมส์ก็ดูมีท่าทางตกใจนิดหน่อย... เราเห็นเจมส์ยิ้มแหยๆก็เลยเข้าไปทัก....
“ว่าไง....... มาแอบสวีทกะน้องไม่ชวนเลยนะ” ก็จริงอ่ะ... ตอนแยกกันเมื่อกี๊ไม่เห็นบอกกันบ้างเลยว่านัดน้องเค้าไว้ มิน่าล่ะ... เจมส์ถึงดูรีบๆ ที่แท้ก็มีนักกะน้องนี่เอง
“ปล่าวซะหน่อย... แค่มากินนมด้วยกันเฉยๆ”เจมส์พูดพร้อมกับยิ้มแหยๆ คงจะอายด้วยแหละ....
“เออน่า... สบายนะ” แล้วเราก็หันหลังจะเดินกลับมานั่งที่โต๊ะ
“แล้วปอมากับใครเนี่ย.. ภีมเหรอ???” จะถามให้ช้ำใจทำไมเนี่ย.....
“ ไม่ใช่หรอก.... เรามีนัดกะเอกอ่ะ จะกลับบ้านพร้อมกัน”
“อ้อ... เหรอ..” สักพักเอกก็มา เราก็เลยนั่งกินนมกันคุยกันไปสักพักใหญ่เพื่อนเอกก็โทรมาหาเพื่อจะชวนไปเที่ยวผับกันต่อ เอกก็เลยชวนเราไปด้วยมันจะได้มีเพื่อนกลับ..... (อ้าว... กรรม) ตอนแรกเราก็ไม่อยากจะไปหรอก... แต่วันนี้ก็เซ็งเรื่องภีมมาทั้งวันเราก็เลยตกลงไปกะเอก.....
ผับที่เราไปกันวันนี้มีคนค่อนข้างเยอะเพราะเป็นวันเสาร์.... พอเข้าไปก็เห็นเพื่อนเอกโบกมือให้หยอยๆ เรากะเอกก็เลยเดินไปหา คือเพื่อนเอกกะเพื่อนเราก็รู้จักกันเป็นอย่างดีแม้ว่าเอกจะอ่อนกว่าเราปีนึง พอนั่งได้ก็เริ่มโซ้ยเหล้าเอาแอลกอฮอล์เข้าปากกันเลย.... (คืนนี้ต้องมีเมา..... เฮ้ย.... ไม่ได้ๆ เค้าบอกว่าเมาไม่ขับ)
นั่งกรอกน้ำสีอำพันเข้ากระเพาะไปได้พักใหญ่ก็เริ่มปวดฉี่ แต่ไม่กล้าไปคนเดียวอ่ะ... หันไปเห็นเอกกะลังดิ้นเย้วววๆๆ..... กระแด่วววๆๆๆๆ เป็นปลาดุกโดนทุบหัวอยู่ก็เลยไม่อยากจะกวนมัน เราก็เลยตัดสินใจไปคนเดียวก็ได้แฮะ
เราก็เดินเบียดเสียดผู้คนที่ดิ้นแด่วๆกันอยู่อย่างยากลำบาก ในขณะที่เรากะลังโดนอัดเป็นปลากระป๋องอยู่ ก็มีมือใครคนนึงมาจับที่มือเราซึ่งเป็นมือที่เรารู้สึกคุ้นเคย แล้วมือนั้นก็ดึงตัวเราเข้าไปหา เราก็เซไปตามแรงดึงจนไปกระแทกกับอกของเจ้าของมือที่คุ้นเคยนั้น พอเราเงยหน้ามามองก็เห็นว่าคนนั้นก็คือป๊อบ ป๊อบยิ้มให้เราตาเยิ้มเชียวสงสัยจะเร่มกึ่มๆแล้ว ป๊อบก็ถามเราว่า...
“ มากับใครเนี่ย...” ถามพรอ้มกับตาเยิ้มๆนั่นแหละ
“ มากับรุ่นน้อง... ป๊อบน่าจะรู้จักนะ เพราะเป็นน้องสายศิลป์” คือเอกมันเรียนสายศิลป์หนะ
“เหรอ... แล้วปอจะไปไหนเนี่ย..”
“ จะไปเข้าห้องน้ะอ่ะ ปวดฉี่”
“งั้นเราไปส่งดีกว่า... คนมันเยอะ”
ป๊อบก็เลยไปห้องน้ำเป็นเพื่อนเรา พอออกมาจากห้องน้ำป๊อบก็เดินไปส่งเราทีโต๊ะจะได้ไปทักน้องๆด้วย ตอนที่เดินไปป๊อบก็จะจับมือเราไว้ตลอดแล้วก็เดินนำหน้าเราให้เราเดินตามหลัง
พอไปที่โต๊ะป๊อบก็ทักทายน้องๆเพราะว่ารู้จักกันก่อนแล้ว น้องก็เลยชวนป๊อบนั่งด้วยกัน พอมีใครจะเข้ามาจิ๊จ๊ะเราป๊อบก็จะคอยกันท่าตลอด เรากะป๊อบก็นั่งคุยกันไปเรื่อยๆ คือเราไม่ชอบเต้นอ่ะในผับแบบนี้อ่ะ... ไม่รู้สิมันรู้สึกเขินๆอ่ะก็เลยนั่งอยู่ที่โต๊ะตลอดเลย ซึ่งป๊อบก็ไม่ไปไหนนั่งคุยกับเราอยู่ตลอด ยิ่งเวลาผ่านไปเราก็สนิทกะป๊อบมากยิ่งขึ้น
เวลาก็ล่วงเลยมาจนถึงตอนผับปิด เราก็เลยเตรียมแยกย้ายกันเพื่อจะกลับบ้าน
“ปอ... กลับยังไงเนี่ย” ป๊อบหันมาถามเราที่หน้าผับ
“เราเอารถมาอ่ะ... แล้วป๊อบล่ะ” เราถามป๊อบกลับไปบ้าง
“เดี๋ยวป๊อบกลับกับเพื่อน... แล้วปอขับรถกลับกะใครอ่ะ” ป๊อบยังคงถามเราต่อ
“กลับกะเอกอ่ะ...”
เรากะป๊อบก็ยืนคุยกันอยู่ที่หน้าผับรอเอกเพราะมันคุยกับเพื่อนอยู่ สักพักเอกก็เดินมาบอกเราว่าคืนนี้จะไม่กลับเพราะจะค้างที่บ้านแฟนมัน (อ้าว....กรรม.. แล้วลากตรูมาด้วยทำไมตั้งแต่เริ่มเนี่ย..) พอมันบอกเสร็จมันก็เดินไปเลย เราก็งงดิ... นี่มันง่ายไปมั้ยเมิง.........
“อ้าว...งี๊ปอก็ต้องกลับคนเดียวดิ กลับได้รึป่าว” ป๊อบถามเราด้วยความเป็นห่วง... แต่สายตาอ่ะ.. เยิ้มไปหน่อยมั้ง
“อืม... ก็คงงั้นแหละ..”
“ปอขับรถไหวใช่ม่ะ... ” ป๊อบยังคงถามเราด้วยความเป็นห่วงกับสายตาเยิ้มๆนั่น....
“ไหวดิ... เราไม่ได้เมาซะหน่อย..”
“งั้นก็ดีแล้ว... ป๊อบเป็นห่วงนะเนี่ย..” สายตาเยิ้มๆนั่นทำเราเขินเหมือนกันแฮะ....
“งั้นป๊อบกะเราก็ได้นะ... เดี๋ยวเราแวะไปส่ง..” คือบ้านป๊อบอยู่ทางผ่านที่เราจะกลับบ้านพอดีอ่ะ
“เอางั้นเหรอ.... เออก็ดีเหมือนกัน ป๊อบจะได้อยู่กะปอนานๆ” เอาแล้วไง... หาเรื่องมั้ยเนี่ย
จากนั้นเรากะป๊อบก็เดินไปที่รถ พอขับรถออกไปป๊อบก็บอกเราว่าหิว เรากะป๊อบก็เลยไปกินข้าวต้มกัน ป๊อบเป็นคนที่น่ารักทีเดียวคอยเทคแคร์เราทุกอย่างเลย (สงสัยจะเริ่มใจอ่อนแล้วแฮะ...) พอกินข้าวเสร็จเราก็ไปส่งป๊อบที่บ้าน.. ตอนนั้นเรารู้สึกมึนๆง่วงๆ จริงๆไอ้ความรู้สึกมึนๆเนี่ยมันเป็นตั้งแต่อยู่ในผับแล้วแหละ... แต่ตอนนั้นเริ่มมีความรู้สึกง่วงเข้ามาด้วย ขับรถไปหาวไปเราก็เลยขอเข้าไปในบ้านป๊อบเพื่อจะล้างหน้าล้างตาให้หายง่วงซะหน่อยเพราะต้องขับรถกลับบ้านอีก...
ป๊อบก็พาเราเข้าไปในบ้าน ป๊อบเดินนำเราเข้าไปในห้องป๊อบซึ่งอยู่ชั้นสองของบ้าน (เอ๊ะ..ยังไง) พอเข้าไปในห้องป๊อบเราก็รู้สึกเกร็งๆแฮะ... มันยังไงๆชอบกล ป๊อบคงรู้สึกได้กับท่าทางแปลกๆของเราจนต้องพูดว่า
“เป็นไรอ่ะ... กลัวเราเหรอ” นั่น... ตาเยิ้มอีกแล้ว... ที่เรามาขอล้างหน้าล้างตานี่มันเหมือนเป็นการให้ท่าอ๊ะป่าวเนี่ย..... ตอนนั้นยังใสอยู่... ยังไม่ค่อยรู้เรื่อง
“ป่าวๆ... แค่รู้สึกแปลกๆอ่ะ” ถึงเรากะป๊อบจะเริ่มรู้จักกันมากขึ้นเพราะป๊อบโทรมาคุยกะเราบ่อยๆ แต่เรากะป๊อบก็ไม่เคยอยู่ด้วยกันหรือไปไหนด้วยกันสองต่อสองเลย เพราะเวลาที่ป๊อบชวนไปไหนเช่น ดูหนัง กินข้าว เราก็ไม่เคยไปเลย
“ยังไงเหรอ....”
“ก็มาอยู่ด้วยกันสองคนแบบนี้ไง.... เราไม่ชินอ่ะ”
“งั้นเราทำให้ชินเอามั้ย..” ป๊อบพูดพร้อมกับเดินตรงมาหาเราด้วยสายตาเยิ้มๆนั่น..... เคลิ้มแล้วไง ไม่ได้ๆเรามีภีมอยู่แล้วนะ....
“ไม่เอาๆ ไปล้างหน้าดีกว่า” เรารีบเดินหนีป๊อบไปเข้าห้องน้ำ แล้วเราก็ได้ยินเสียงป๊อบหัวเราะดังตามหลังเรามา มันคงจะขำกับท่าทางแปลกๆของเราอะแหละ
พอเราล้างหน้าล้างตาเสร็จจะออกมาจากห้องน้ำเราก็เห็นป๊อบยืนรออยู่ที่หน้าประตูห้องน้ำในมือถือผ้าขนหนูไว้ด้วย เราก็เลยยื่นมือไปจะเอาผ้าขนหนูจากมือป๊อบแต่ป๊อบกลับปัดมือเราออกแล้วบอกว่า..
“เดี๋ยวเราเช็ดให้...” ป๊อบไม่รอให้เราตอบ... ทันทีที่ป๊อบพูดเสร็จป๊อบก็เอาผ้าขนหนูมาเช็ดที่หน้าเราเลย เราก็ยืนเฉยให้ป๊อบเช็ดหน้าให้อยู่อย่างนั้น ตอนนั้นเรารู้สึกเขินมากเลยอ่ะนะ... ตอนที่ป๊อบเช็ดหน้าให้เราอยู่ป๊อบก็พูดขึ้นว่า
“ปอมีคนที่ปอรักมากอยู่แล้วใช่ม่ะ?????” เราก็เลยพยักหน้าตอบไป ป๊อบก็เลยถามต่อว่า
“แล้วเค้าคนนั้นรักปอรึป่าว...” คำถามนี้เหมือนแทงใจดำเราเต็มๆเลย... ใช่สิ... ภีมรักเราบ้างรึป่าว???? คำถามนี้ทำให้สิ่งที่เราพยายามจะลืมพยายามไม่เอามาคิดผุดขึ้นมามากมาย... ตกลงภีมกะฝนเป็นอะไรกัน???? แค่เพื่อนหรือมากกว่านั้น???? ความรู้สึกเราตอนนั้นมันเหมือนกับเพลง..... อยากรู้แต่ไม่อยากถาม แต่ถ้ามากกว่านั้นล่ะ... เราจะทำยังไง เมื่อความคิดมากทั้งหลายทั้งมวลถาโถมเข้ามาหาเรามันทำให้เรารู้สึกอยากร้องไห้ มันเป็นความรู้สึกสงสัยในความสัมพันธ์ที่เราไม่สามารถถามหรือระบายให้ใครฟังได้ ตอนนั้นเราก็เลยรองไห้ออกมาคงด้วยเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ด้วยเพราะปกติเรามักจะไม่ร้องไห้ให้ใครเห็น....
ป๊อบก็ดูมีท่าทางตกใจมากที่เราร้องไห้... แต่แล้วป๊อบก็กอดเราไว้แน่นป๊อบเอามือมาลูบหัวเราเพื่อเป็นการปลอบโยนแต่มันกลับยิ่งทำให้เราร้องไห้โฮออกมาเลย... ยิ่งเราร้องไห้โฮออกมามากเท่าไหร่ป๊อบก็จะกอดเราให้แน่นมากขึ้น... พร้อมกับพูดว่า....
“ป๊อบขอโทษนะที่ถามปอแบบนี้.... ”
“ไม่เป็นไรหรอก... แต่ถ้าป๊อบต้องการคำตอบ เราก็คงตอบป๊อบไม่ได้หรอก... เพราะเราไม่รู้” เราพร้อมหยุดร้องไห้และพูดเสียงให้เป็นปกติไม่ให้สะอื้น
“งั้นป๊อบจะไม่ถามอีกแล้วนะ...”
พอเราหยุดร้องไห้สติสตางเริ่มกลับมาเป็นปกติ.... เราก็เริ่มรู้เขินขึ้นมาซะดื้อๆที่ยังกอดป๊อบอยู่ (ที่เมื่อกี้นะ... กอดเอาๆ ) เราก็เลยคลายอ้อมแขนออกจากป๊อบ ป๊อบก็คลายอ้อมแขนออกเหมือนกัน... เราก็เลยก้มหน้าก้มตามองต่ำ ไม่กล้าสบตาป๊อบ... ก็คนมันเขินหนิ.... แล้วเราก็บอกป๊อบว่า...
“ขอบคุณนะ..” เรารู้สึกดีนะเวลาที่เรารู้สึกว่าเราอ่อนแอแต่เรายังมีคนที่อยู่ข้างๆ แม้ว่าเค้าจะไม่ได้ช่วยอะไรเราแต่การที่เค้าคอยปลอบโยนและให้กำลังใจเรามันก็มีค่ามากที่สุดแล้ว
“อะไรกัน.... พูดกับป๊อบไม่เห็นมองหน้าป๊อบเลย...” ได้ทีแกล้งกันเลยนะ... เราก็เอ๋อแดกอยู่งั้นแหละ... ยังเขินอยู่
ป๊อบก็เลยเอามือมาจับคางเราให้เงยหน้าขึ้นสบตากะป๊อบ เราก็เลยต้องสบตากะป๊อบจังๆเราก็ยิ่งไปกันกันใหญ่ ยิ่งมองหน้าป๊อบใกล้ๆ...ชัดๆ...นานๆ... มันก็เคลิ้มๆแฮะ... แล้วหน้าป๊อบก็ค่อยใกล้ๆเข้ามาเรื่อยๆ จนในที่สุดริมฝีปากของเราสองคนก็สัมผัสกัน ป๊อบค่อยๆดันลิ้นอุ่นๆแทรกเข้ามาเพื่อจะสัมผัสกับลิ้นของเรา เราก็เลยค่อยๆเผยอริมฝีปากรับกับการสัมผัสอันทะนุถนอมนั่น เราปล่อยเลยตามเลยให้ป๊อบสัมผัสเราอย่างเต็มใจ จากนั้นไม่นานนักป๊อบก็ถอนริมฝีปากออกแต่หน้าของเราสองคนก็ยังอยู่ใกล้ชิดกันมาก เราก็เลยค่อยๆลืมตาขึ้นมาเห็นหน้าป๊อบใกล้ๆ เราก็เลยหลบสายตาป๊อบด้วยความเขินแต่ป๊อบก็พูดขึ้นว่า
“ปอมองป๊อบสิ... มองให้เต็มตา ปอจะได้รู้ว่า... ปอยังมีป๊อบนะ ปอไม่ได้อยู่คนเดียว...” เราจึงสบตากับป๊อบแล้วส่งสายตาขอบคุณกับกำลังใจและความหวังดีที่ป๊อบมอบให้ แล้วป๊อบก็พูดอีกว่า
“ถ้าปอมีไรไม่สบายใจก็คุยกับป๊อบได้นะ...” เราก็พยักหน้าตอบรับแล้วเราก็ขอตัวกลับ.... ป๊อบก็เดินมาส่งเราที่หน้าบ้านแล้วก็บอกกับเราว่าถึงบ้านแล้วให้โทรมาบอกด้วย... เราก็เกรงใจอ่ะนะเพราะมันดึกแล้ว บอกให้ป๊อบนอนไปก่อนไม่ต้องรอป๊อบก็ไม่ยอม พอเราขับรถถึงบ้านเราก็โทรไปหาป๊อบว่าถึงบ้านแล้ว.... ป๊อบจะได้ไม่เป็นห่วง....
##################################################################
จบแล้วอีกตอน... ตอนแรกกะว่าจะลงตอนพิเศษให้แต่เปลี่ยนใจมานั่งพิมใหม่ก่อนดีก่ะ... เดี๋ยวเรื่องมันจะช้าเกินไป
ส่วนตอนพิเศษคงจะเอาไว้ก่อนนะ... ว่างๆคงได้นั่งพิมให้อ่านกัน
ใครที่เชียร์เจมส์เดี๋ยวเราจะมาเล่ารายละเอียดเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเจมส์กับน้องคนนั้นให้ฟังกันอีกที
เรื่องนี้ยังมีอะไรเกิดขึ้นอีกมากมาย... คนที่มาเกี่ยวข้องในเรื่องอาจจะเยอะหน่อย เรากะว่าจะตัดบางคนออกไป แต่นี่ขนาดตัดแล้วนะยังเยอะเลย คนอ่านจะงงมั้ยนี่.....
เรื่องนี้มันรักหลายเศร้าเหลือเกิน....
“อะไรมันจะเป็นของเรา.... ยังไงซะมันก็ต้องเป็นของเรา... แต่ถ้ามันไม่ใช่ของเราต่อให้เราดิ้นรนยังไงมันก็ไม่มีทางเป็นของเราได้..... แม้แต่ความรัก”
เจอกันใหม่คราวหน้า....